ธุรกิจมันฝรั่งเกลียวทอด แบรนด์น้องใหม่ “อะโย่ชิพ” แปลกใหม่ เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร ขยายธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ กลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งขึ้นมาทันที

เรียกว่าโดนใจวัยรุ่นอย่างแรง สำหรับมันฝรั่งเกลียวทอด “อะโย่ ชิพ” แม้เพิ่งเปิดตัว ให้เป็นที่รู้จักได้ไม่นานนัก แต่ก็สามารถโกยเรทติ้งสร้างกระแสนิยมได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะด้วยความแปลกใหม่ เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร จึงทำให้ “อะโย่ ชิพ” กลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งขึ้นมาทันที
“จากเดิมคิดแค่ว่าจะทำเป็นธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่า ต้องขยายธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ เพื่อรองรับโอกาสที่มีเข้ามาอย่างไม่น่าเชื่อ”
นันทิยา วรประทีป สาวน้อยวัย 28 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ด ยัง วันส์ จำกัด เจ้าของธุรกิจ มันฝรั่งเกลียวทอด แบรนด์น้องใหม่ “อะโย่ชิพ” เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาและความน่าสนใจของธุรกิจนี้ว่า ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลี และได้เห็นธุรกิจมันฝรั่งเกลียวทอดของที่นั่น แต่ของเกาหลีจะมีขายเพียงแค่รสชาติเดียว คือ รสชีส จึงเกิดความสนใจ และมองว่าน่าจะนำมาพัฒนาและประยุกต์เป็นธุรกิจของตัวเองได้ จากนั้นจึงได้ติดต่อไปที่เจ้าของสิทธิบัตร ที่ผลิตตัวเครื่องหั่นมันฝรั่ง เป็นเกลียวเพื่อขอนุญาตนำไปใช้
สำหรับอะโย่ชิพทำจากมันฝรั่งสดๆ หั่นยืดเป็นเกลียวยาวกว่า 1 ฟุต เสียบไม้ทอดกรอบจนเป็นสีเหลือง ปรุงรสด้วยสูตรเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 7 รสชาติ ได้แก่ รสชีส โนริวาซาบิ ซาวครีมและหัวหอม บาร์บีคิว รสธรรมชาติ รสต้มยำกุ้ง และรสช็อกโกแลต
“ธุรกิจ นี้เพิ่งเริ่มเมื่อช่วงต้นปี 2551 ตอนแรกไม่ได้คิดจะทำเป็นแฟรนไชส์ แค่อยากทำธุรกิจของเราเอง จึงเอามาลองตลาดดูก่อน พอเปิดตัวมาคนก็สนใจกันเยอะ หลายๆ ห้างติดต่อให้เราไปขาย เราเริ่มรู้แล้วว่าทำเองไม่ไหว จึงมองไปที่ระบบแฟรนไชส์” นันทิยา เล่าถึงการตัดสินใจขยายธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์
ปัจจุบันร้านอะโย่ชิพที่เป็นสาขาของตัวเองนั้น มีอยู่ที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชั้น G กับชั้น 6 เมเจอร์รัชโยธิน, สยามพารากอน และล่าสุดห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ขณะที่สาขาของแฟรนไชส์ซีมีอยู่ด้วยกัน 2 สาขา คือ ห้างเซ็นทรัลพระราม 3 และห้างเซ็นทรัลเวิล์ด ชั้น 7
นันทิยา บอกว่า ถือเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วกับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน พร้อมอธิบายถึงการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ของอะโย่ชิพว่า งบประมาณที่แฟรนไชส์ซีต้องใช้สำหรับการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 300,000-400,000 บาท ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและขนาดพื้นที่ โดยเครื่องมือ อุปกรณ์ และวัตถุดิบต่างๆ บริษัทจะจัดเตรียมให้ทั้งหมด เรียกว่าเตียมให้พร้อมทุกอย่างสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้ทันที ซึ่งรวมถึง การอบรมพนักงาน ให้ด้วยเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
สำหรับทำเลที่เหมาะสำหรับธุรกิจอะโย่ชิพนั้น นันทิยา แนะนำว่า ด้วยตัวสินค้าที่เน้นจับกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก ดังนั้น ทำเลของร้านควรอยู่ในแหล่งที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดย ตรง เช่น ศูนย์การค้าชั้นนำทั่วไป โรงภาพยนตร์ หรือห้างโมเดิร์นเทรด เป็นต้น นอกจากนั้นจุดจำหน่ายอะโย่ชิพควรต้องเป็นทำเลที่มี Traffic ค่อนข้างสูง เพื่อให้จุดเด่นด้านผลิตภัณฑ์ เป็นปัจจัยในการสร้างความสนใจให้กับลูกค้า
“คุณสมบัติแฟรนไชส์ซีที่เรามองหลักๆ คือ ต้องมีเวลาและมีใจอยากทำจริงๆ เพราะเป็นธุรกิจอาหารจึงต้องใส่ใจอย่างมาก คนที่สนใจธุรกิจที่เข้ามาหาเรา มีทั้งแบบที่เข้ามาถามว่ามีพื้นที่ให้เขาลงไหม ซึ่งตรงนี้ เราเองก็มีพื้นที่ที่ได้รับการติดต่อจากห้างส่วนหนึ่งให้ด้วย หรืออีกแบบหนึ่ง คือ เขามีทำเลอยู่แล้ว มาถามว่าสามารถลงได้ไหม เราก็ขอไปดูก่อน ถ้าเวิร์คก็สามารถทำได้เลย แต่หลักๆ แล้วคงต้องนั่งคุยกันก่อน ดูทัศนคติ ดูความตั้งใจจริงในการทำธุรกิจ เพราะเราเองก็พยายามทำธุรกิจตรงนี้ให้เหมือนกับธุรกิจครอบครัว แม้จะเป็นแฟรนไชส์ซีก็ตามแต่ก็ให้ความดูแลกันแบบครอบครัว”
ในส่วนของเรื่อง การสนับสนุนจากบริษัท ในฐานะแฟรนไชส์ซอนั้น นอกเหนือจากการจัดส่งวัตถุดิบให้กับแฟรนไชส์ซีแล้ว นันทิยา บอกกว่า ในเดือนแรกของการทำธุรกิจ บริษัทจะให้ฟรี อะโย่ชิพจำนวน 2,000 ไม้ แก่แฟรนไชส์ซี เพื่อทำให้มีรายได้เข้ามาในเดือนแรกโดยที่ไม่ต้องลงทุน และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในเดือนถัดไป เพราะบริษัททราบดีว่าการทำธุรกิจเรื่องเงินทุนหมุนเวียน เป็นสิ่งสำคัญมากใน การเริ่มต้นธุรกิจ
อย่างไรก็ดี หลายคนอาจมองว่า อะโย่ ชิพ เป็นสินค้าแฟชั่น จำพวกมาเร็วไปเร็วตามกระแสนิยม ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนทำธุรกิจน้อยลง ในเรื่องนี้ นันทิยา มีคำอธิบายมาว่า ถึงหลายคนมองว่าเป็นสินค้าแฟชั่น แต่บริษัทไม่ได้มองเช่นนั้น มันฝรั่งเกลียว เป็นเพียงสินค้าเปิดตลาดสำหรับแบรนด์อะโย่ชิพเท่านั้น เมื่อเริ่มเป็นที่รู้จักของตลาดแล้ว อะโย่ชิพก็จะทยอยออกสินค้าใหม่ๆ ออกมา แต่ยังคงคอนเซ็ปต์สินค้าที่ต้องทำมาจากมันฝรั่งเท่านั้น
“ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น เราจะไม่ยอมปล่อยให้แบรนด์ตายไปกับแค่มันฝรั่งเกลียวตัวเดียว มันฝรั่งเกลียวเป็นเพียงสินค้าตัวหนึ่งของอะโย่ชิพเท่านั้น ในอนาคตจะมีสินค้าตัวใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอีกมาก ตราบที่ไอเดียเราไปได้ ตอนนี้ก็มีสินค้าจ่อคิวที่จะออกอีกหลายตัว ซึ่งเราเองก็กำหนดเวลาการออกสินค้าใหม่ทุกๆ 2 เดือน เพราะฉะนั้นลูกค้าจะได้เห็นของใหม่อยู่เรื่อยๆ”
ท้ายสุดนี้ นันทิยาย้ำถึงการลงทุนในระบบแฟรนไชส์ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ ว่าการลงทุนยังมีอยู่ เพียงแต่คนระมัดระวังที่จะใช้เงินมากขึ้น สำหรับธุรกิจอาหาร เชื่อว่ายังได้รับความสนใจอยู่สมอ ยิ่งเป็นของกินแฟชั่นใหม่ๆ คนส่วนใหญ่มักอยากจะลอง ดังนั้นโอกาสของการลงทุนและการเติบโตจึงยังมีอยู่แน่นอน
เรื่อง : เรไร จันทร์เอี่ยม
ภาพ : ณับพล ปาลกะวงศ์
ข้อมูลโดย http://www.smethailandclub.com/web/category/inside/parent_id/2/id/707
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001