สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี 07/2013 - 08/2013
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ข้าวอบกวางตุ้ง

อาหารยอดนิยมอีกอย่างที่ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก็เห็นจะเป็นข้าวผัด ข้าวอบนี่แหละค่ะ โดยเฉพาะข้าวอบที่รู้จักกันดีก็มีหลายอย่างด้วยกัน ทั้งข้าวอบสับปะรด ข้าวอบเผือก ข้าวอบกุนเชียง ฯลฯ แต่วันนี้มีเมนู “ข้าวอบกวางตุ้ง” สูตรต้นตำรับของคนกวางตุ้ง ที่ คุณแดง–ชาตรี อารีพิทักษ์ เจ้าของบริษัทก่อสร้าง “สินการช่าง” แชร์สูตรให้ได้นำไปทดลองทำกัน

Pic_357747


คุณ แดง-ชาตรี หรือที่เพื่อนๆสมัยเรียนเรียกขานกันว่า “ชีต้า” โดยผวนจากชื่อจริงของเขา เป็นพ่อบ้านที่ชอบเข้าครัวอีกคนหนึ่ง เรียกว่าถ้าถูกปล่อยเกาะให้อยู่บ้านคนเดียว เขาก็พร้อมจะเข้าครัวปรุงอาหารทานเองได้สบายๆ โดยไม่กลัวอดอยาก เหมือนสมัยที่เรียนอยู่เมืองนอก คุณแดงก็ต้องลงมือปรุงอาหารทานเอง เพียงแต่ทุกวันนี้ งานที่บริษัทดำเนินการอยู่ ซึ่งรับก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง และวางสายระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงให้กับ กฟผ. รวมทั้งสถานีท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ระหว่างนี้ เพื่อเป็นสถานีกลางในการนำกระแสไฟฟ้าจากภาคเหนือส่งต่อให้กับภาคกลางทั้งหมด รวมทั้งกทม. และยังได้เป็นผู้ก่อสร้างโรงแยกก๊าซ 5 กับ 6 ที่มาบตาพุดอีกด้วย จึงทำให้คุณแดงไม่มีเวลาได้ลงครัวเหมือนเดิม


เมนู “ข้าวอบกวางตุ้ง” นี้ คุณแดงบอกว่า คนกวางตุ้งเรียกกันว่า“เหยาเหม่ยฝ่าน” เป็นสูตรโบราณที่ทำทานกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย และส่งต่อกันมาเรื่อยๆจากรุ่นสู่รุ่น จนเป็นอาหารประจำบ้านของเขา


เครื่อง ปรุง : เนื้อหมู (สันคอหรือสันใน) หั่นเต๋า 2–3 ขีด / ปลาหมึกแห้งตัวขนาดเท่าฝ่ามือ 2 ตัว แช่น้ำให้นิ่มก่อนแล้วหั่นเป็นเส้นเล็กๆ-กุ้งแห้ง/เห็ดหอมดอกใหญ่ 3 ดอก แช่น้ำให้นิ่มแล้วหั่นเต๋า เก็บน้ำแช่ไว้ใช้ปรุงต่อด้วย/ข้าวสาร 5 ถ้วย/ เครื่องปรุงรส–เกลือ, น้ำตาล, ซีอิ๊วขาว, ซีอิ๊วดำหวาน/ ไข่ทอดแบบไข่เจียวบางๆซอยเป็นเส้น/ พริกขี้หนู/ แตงกวา /ผักกาดหอม/ผักชีต้นหอมซอย


วิธีทำ 1) ผัดเครื่องปรุง เนื้อหมู ปลาหมึก กุ้งแห้ง และเห็ดหอม กับน้ำมัน ให้เข้ากัน พร้อมกับปรุงรส และอย่าลืมเติมน้ำแช่เห็ดหอมด้วย เพื่อให้มีกลิ่นหอม 2) หุงข้าวให้สุกประมาณ 75% 3) นำเครื่องปรุงที่ผัดไว้ลงไปคลุกกับข้าวในหม้อที่กำลังหุง และคนให้เข้าจนทั่วกัน แล้วปิดฝาหม้อหุงต่อ จนปุ่มกดที่หม้อข้าวกระเด้งขึ้น ให้กดหุงต่อไปอีก จนปุ่มเด้งขึ้นอีกครั้งที่ 2 จึงใช้ได้ ทั้งนี้ เพื่อให้เมล็ดข้าวระอุ และเครื่องปรุงซึมเข้าไปในเมล็ดข้าว ถึงตอนนี้ให้ใช้ตะเกียบตะกุยข้าวแทนการใช้ทัพพี เพื่อไม่ให้เมล็ดข้าวหักแหลกละเอียด เวลาเสิร์ฟโรยหน้าด้วยต้นหอมผักชีซอย และถ้าชอบเผ็ดก็เสิร์ฟซีอิ๊วขาวพริกขี้หนูซอยแจมไปด้วย

และถ้าจะให้เหมือนต้นตำรับเป๊ะ ก็ต้องมีผักกาดหอมด้วย เพื่อใช้ห่อข้าวเวลารับประทาน.

Credit by..http://www.thairath.co.th/content/life/357747

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


เจ๊แป๊ว... สุดยอดมะม่วงน้ำปลาหวาน ชาวกรุง

โย่โย่ You'll never walk alone เมื่อเสียงเพลงนี้ขึ้นมาเปรียบเสมือนว่า เหล่าชาวหงส์แดงก็ตื่นขึ้นพร้อมกับกำลังใจและพละกำลัง ครับอาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้ต้อนรับหงส์แดงเป็นครั้งที่ 5 แล้ว การมาครั้งนี้สร้างความแตกต่างกับการมาของชาวผีแดง ราวกับว่า การลงเล่นครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการมาโชว์ตัว เต็มที่ทุกแมตช์ สมการรอคอย ไร้ข้อต่อว่าต่อขาน สมแล้วครับเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ในใจคนไทย ไม่ดูถูกหัวใจของแฟนตัวเอง ที่จะต้องขอชมทีมชาติไทยที่มีหัวใจสู้ ไม่ถอย ไม่ยอม แบบนี้ครับถูกแล้ว แต่ผมรักหงส์อย่างไร เมื่อทีมไทยลงเล่น ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ สู้สู้...


Pic_359927


วันนี้ ขอเบา เบา หน่อย หลังจากโดนทีมรักถล่มทีมชาติไป ดูสนุกครับไม่คิดมากแค่เสียใจแทนแฟนผีเท่านั้นเอง หลังจากนั่งดูหน้าจอไปแล้วก็หาอะไรกินเสียหน่อย ที่ที่จะขาดไม่ได้ในยามดึกต้องเยาวราชแน่นอนของกินเพียบ วันนี้เลยอยากจัดให้ทั้งคาวและหวาน คิดไปคิดมาเอาแค่ของหวานดีกว่า วันนี้เลยมากินพี่แป๊ว มะม่วงน้ำปลาหวานเจ้าอร่อย ร้านนี้อยู่หน้าปากซอยแปลงนาม ตามมาเลยครับ...




น้ำ ปลาหวานที่ไหนก็มี แต่ที่นี่นับว่าแปลกตา ใส่กุ้งเป็นตัวๆ เยอะมากเวลาตักให้ ที่แปลกกว่านั้นใส่ผักชีนี่คงเป็นที่ไม่เหมือนใคร ส่วนพริกกับหอมแดงมีแน่นอนครับ ที่ร้านมีมะม่วงเปลี่ยนไปตามฤดูกาล หน้านี้เป็นมะม่วงจากที่นู๊น หน้าหนาวจากที่นี่ หลายพันธุ์ให้เลือกกิน และที่เลือกได้จะเป็นทั้งแบบเปรี้ยวและแบบมันให้เลือกอีก เต็มที่ครับ ที่ร้านนอกจากมะม่วงแล้วยังมีกระท้อน และมะม่วงสุกให้กินกันอีกด้วย ร้านนี้เต็มที่จัดไปเลยครับ



ร้านอยู่ที่ปากซอยแปลงนาม เยาวราช กรุงเทพฯ

เรื่องและภาพโดย
ดร.ธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)
Credit by..http://www.thairath.co.th/content/life/359927


แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


ตามรอย ‘แมลงกินได้’ แหล่งอาหารอนาคตมนุษย์โลก!

ด้วยความหลากหลายและจำนวนที่มีอยู่มากมายของแมลงทั่วโลก นอกเหนือจากมีประโยชน์ต่อการศึกษาทั้งทางด้านพันธุกรรมและทางการแพทย์ รวมทั้งมีความโดดเด่นในด้านการช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืชและวัชพืชด้วยการเป็น แมลงหํ้าและแมลงเบียน ฯลฯ

อีกด้านหนึ่งของแมลงยังมีความสำคัญในการเป็นแหล่งอาหาร แหล่งโปรตีนเสริมชั้นดีซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ องค์ การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ได้กล่าวถึงการบริโภคแมลงที่จะกลายเป็นทางออกของมวลมนุษยชาติ ให้รอดพ้นจากภาวะอดอยากขาดแคลนอาหารในอนาคต!

จากการบริโภคแมลงที่มีมายาว นานในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย รศ.โกศล เจริญสม ข้าราชการบำนาญ ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยา ลัยเกษตรศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญแมลงให้ความรู้ว่า แมลงเป็นสัตว์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในโลก แพร่พันธุ์ได้รวดเร็ว โดยเฉพาะประเทศไทยคาดว่ามีอยู่นับแสนชนิดแต่ที่รู้จักกันในวันนี้น่าจะอยู่ ในหลักหมื่น



“วงศ์แมลงกินได้ที่พบในประเทศ ไทยมีประมาณ 50 วงศ์ หากมองภาพรวมอนาคตข้างหน้าของการเพิ่มขึ้นของประชากร พืชอาหารรวมถึงแหล่งโปรตีนที่อาจมีไม่เพียงพอ ด้วยความที่แมลงเป็นสัตว์ที่มีอยู่ทั่วไปและมีจำนวนมาก อีกทั้งมีความหลากหลายของพันธุ์แมลงและยังมีคุณค่าทางโภชนาการ ให้โปรตีนสูง อาหารจากธรรมชาติดังกล่าวจึงมีความโดดเด่นเป็นแหล่งอาหารสำรองของมวลมนุษย์ ได้ในอนาคต”
การจัดแบ่งแมลงอาจแบ่งได้หลายหมวดหมู่ทั้ง แมลงกินได้ และกินไม่ได้ โดยแบ่งตามพฤติกรรมอย่างเช่น แมลงกลางวัน แมลงกลางคืน ตามระบบความสำคัญแบ่งเป็น แมลงมีคุณ หรือแมลงที่มีประโยชน์ และแมลงมีโทษ นอกจากนี้ยังแยกแมลงออกเป็นทางด้านการแพทย์ สัตวแพทย์หรือแมลงที่เกี่ยวข้องกับคนและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะทางด้านการเกษตรเป็นแมลงศัตรูพืชสร้างปัญหาทางการเกษตร แต่ขณะเดียวกันแมลงดังกล่าวสามารถนำมาเป็นอาหารได้ ฯลฯ

ปลวก หนึ่งในแมลงกินได้ที่มีมาแต่โบราณ ในวิถีชาวบ้านจะขุดจอมปลวกนำนางพญาซึ่งมีขนาดใหญ่มากินโดยเชื่อว่าเป็นยา บำรุงกำลังหรือยาอายุวัฒนะ อีกทั้งปลวกมีปีกที่ขึ้นมาจากรังหรือที่เรียกกันว่า แมลงเม่า ก็นำมากินได้เช่นกัน โดยการจับแมลงชนิดนี้จะใช้กะละมังใส่นํ้าหรือถาดใส่นํ้ารองไว้ เวลาที่แมลงเม่าเล่นไฟจะตกลงมาจากนั้นนำมาคั่วเกลือ หรือไม่ก็ไปคั่วนํ้าเป็นเมนูอาหารแมลงที่นิยม

รังผึ้ง นํ้าผึ้ง ตลอดจนตัวอ่อนของผึ้ง พบว่ามีการนำมารับประทานกันเป็นอีกเมนูอาหารแมลงชั้นดีซึ่งมีโปรตีนสูงอีก ทั้งยังมีความสะอาด เช่นเดียวกับ หนอนไหม หลังจากต้มรังไหมเพื่อสาวเส้นไหมนำมาทอผ้า ตัวดักแด้ไหม สามารถนำมาทานได้และด้วยอาชีพการทอผ้าไหมที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องก็จะทำ ให้มีแหล่งอาหารเหล่านี้อยู่มากและนอกจาก ไหมบ้าน ที่เลี้ยงกันทั่วไปยังมีไหมผีเสื้อยักษ์หรือที่เรียกว่า ไหมป่า ซึ่งมีความพิเศษให้เส้นใยที่ใหญ่ แข็งแรงยังเป็นอีกแหล่งอาหารที่เป็นผลพลอยได้จากการเลี้ยงไหม

จากแมลงที่พบบ่อยหากเจาะลึกลงไปในความเฉพาะของแมลง ด้วงหนวดยาว นอกจากมีลักษณะเด่นเป็นแมลงปีกแข็งที่มีหนวดยาวกว่าลำตัวแล้วยังสามารถกิน ได้นับแต่ตัวอ่อน ดักแด้และตัวเต็มวัยซึ่งทางภาคเหนือนิยมรับประทานและรู้จักด้วงหนวดยาวซึ่ง เป็นแมลงศัตรูพืชในชื่อ แม่ฝน ออกมาจากกอไผ่พบในช่วงฤดูฝน และ แม่แดด พบอยู่ในไร่อ้อย

ด้วงงวงมะพร้าว อีกหนึ่งชนิดแมลงกินได้ที่มีความโดดเด่น พบบริเวณยอดมะพร้าวโดยด้วงจะชอบกัดเจาะยอดมะพร้าวและด้วยความนิยมที่ผ่านมา ได้มีการนำมาเพาะเลี้ยงขายซึ่งราคาต่อกิโล กรัมมีราคาอยู่ที่หลักร้อยบาทต่อกิโลกรัม เช่นเดียวกับ

หนอนผีเสื้อเยื่อไผ่ (รถด่วน) ซึ่งเป็นผีเสื้อกลางคืนสีนํ้าตาลเข้มมีขนาดตัวยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร โดยผีเสื้อตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย ไข่เป็นกลุ่มสีขาวและเมื่อใกล้ฟักจะเปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลอ่อน มีระยะฟักไข่ 12 วัน ระยะหนอน 8-9 เดือน ระยะดักแด้ 40-60 วัน และมีระยะตัวเต็มวัย 1 เดือน ส่วนช่วงเวลาที่หนอนมีขนาดพอเหมาะแก่การบริโภคจะอยู่ในช่วงเดือน ตุลาคม-มีนาคม
     
“หนอนผีเสื้อในลำไม้ไผ่หรือหนอนรถด่วนเป็นแมลงกินได้อีกชนิดที่มีชื่อได้รับ ความนิยมโดยเป็นแหล่งอาหารชั้นดีมีคุณค่าอาหารทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรตไขมันและแคลเซียม ฯลฯ ซึ่งในรถด่วนทอด 100 กรัม ให้พลังงาน 6743.7 กิโลแคลอรี ปัจจุบันยังสร้างอาชีพเพาะเลี้ยงขายกันอย่างกว้างขวาง”

อีกหนึ่งกลุ่มแมลงที่พบเห็นมีขายทั่วไปในเมนูแมลงทอดได้แก่ ตั๊กแตนปาทังก้า แมลงที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับแมลงและตั๊กแตนอื่น ๆ พบตามไร่ข้าวโพดซึ่งในอดีตเคยระบาดสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตการเกษตร แมลงตับเต่า และแมลงเหนี่ยง เป็นแมลงปีกแข็งที่อาศัยอยู่ในนํ้าชอบขึ้นมาเล่นแสงไฟ

แมงดานา หรือที่เรียกกันว่าแมงดา เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในเมนูนํ้าพริกแมงดาและแมงดาทอด เช่นเดียวกับ แมงแกง พบมากในธรรมชาติเช่นกันโดยแมงแกง มีความโดดเด่นที่กลิ่นเหมือนแกงส้มหน่อไม้เป็นหนึ่งในแมลงศัตรูพืชที่มีการ นำมาทานกัน โดยกลิ่นจะใกล้เคียงกับแมงดานา

แมงป่องนํ้า สามารถทดแทนแมงดานาได้โดยมีลักษณะผอมบางกว่าแมงดานา นอกจากนี้ยังมีในกลุ่ม แมลงปอโดยตัวอ่อนแมลงปอเป็นอีกอาหารจานแมลงที่มีอยู่มากในแหล่งนํ้าโดยเมื่อ ช้อนกุ้ง ช้อนปลาในแม่นํ้าลำคลองจะได้ตัวอ่อนแมลงปอนำมาปรุงเป็นอาหารหลากหลายเมนู

จั๊กจั่น แมลงที่มีเอกลักษณ์ส่งเสียงร้องในหน้าแล้ง จากที่อยู่ใต้ดินดูด กินนํ้าเลี้ยงจากรากพืช บางชนิดอยู่ใต้ดินยาวนานนับปี ในช่วงตัวอ่อนซึ่งไม่มีปีกเป็นแมลงจะถูกขุดนำมากินและมีการนำมาขายกันอย่าง แพร่หลาย มด แมลงอีกชนิดที่พบบ่อยและมักนำมาทานกันมาก บางแห่งเรียก แมงมัน ซึ่งก็เป็นอีกแหล่งอาหารที่กินได้ทั้งไข่และตัวมด นอกจากนี้ในพื้นที่เฉพาะถิ่นอย่างบริเวณป่าชายเลนยังพบแมลงกินได้ อย่างดักแด้หนอนจากต้นยางตูม ในการปรุงแมลงตามแบบวิถีชาวบ้านทำได้หลายวิธีทั้งการคั่ว ปิ้ง ย่างและแมลงทอด ฯลฯ

จิ้งหรีด แมลงกินได้อีกชนิดที่นอกจากมีชื่อในด้านการบริโภคนำมาชุบแป้งทอดและคลุก เกลือคั่ว ปัจจุบันยังเป็นแมลงเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ และอาชีพให้กับชาวบ้านโดยมีการส่งเสริมการเพาะเลี้ยงอย่างกว้างขวาง อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบทั้งแมลงทอด อบแห้ง ฯลฯ วงจรชีวิตของจิ้งหรีดหากเป็นจิ้งหรีดพื้นบ้านมีวงจรชีวิต 3 เดือน ส่วนจิ้งหรีดขนาดใหญ่จะมีวงจรชีวิตประมาณ 1 ปี

ขณะที่แมลงหลายชนิดกินได้ อีกด้านหนึ่งมีแมลงที่ต้องหลีกไกลไม่ควรนำมารับประทาน รศ.โกศลกล่าวเพิ่มอีกว่า ด้วงนํ้ามัน แมลงปีกแข็งหนึ่งในแมลงที่ต้องระมัดระวัง ทั้งนี้หากจับหรือรบกวนแมลง แมลงจะปล่อยสารพิษออกมาหากถูกผิวหนังทำให้เป็นแผลพุพองได้ ซึ่งลักษณะเด่นของแมลงสังเกตได้จากปีกคู่หน้ามีแถบสีเหลืองสลับดำ ข้อต่อ ลำตัวมีความมัน

ด้วงก้นกระดก หรือ แมลงก้นกระดก เป็นแมลงปีกแข็งขนาดเล็กชอบเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือนพบช่วงเริ่มเข้า ฤดูฝน แมลงชนิดนี้ที่ส่วนท้องจะมีสีส้มเมื่อสัมผัสโดนตัวแมลงจะปล่อยสารพิษทำให้มี อาการปวดแสบปวดร้อนเกิดผื่นคันระคายเคืองและเป็นแผลพุพองได้เช่นกันจึงไม่ ควรจับมาเล่น หรือ ตีเมื่อบินมาเกาะตามตัว และด้วยประชากรแมลงที่มีอยู่มากมายไม่เพียงเฉพาะประโยชน์เป็นแหล่งอาหาร สำรองทางเลือก ในด้านองค์ความรู้ทั้งโทษและประโยชน์ที่มีอยู่มากมายหลายด้านของแมลงยัง พร้อมให้เรียนรู้ค้นคว้าความมหัศจรรย์โลกแมลงอีกด้วย.
“วงศ์แมลงกินได้ที่พบในประเทศ ไทยมีประมาณ 50 วงศ์ หากมองภาพรวมอนาคตข้างหน้าของการเพิ่มขึ้นของประชากร พืชอาหารรวมถึงแหล่งโปรตีนที่อาจมีไม่เพียงพอ ด้วยความที่แมลงเป็นสัตว์ที่มีอยู่ทั่วไปและมีจำนวนมาก อีกทั้งมีความหลากหลายของพันธุ์แมลงและยังมีคุณค่าทางโภชนาการให้โปรตีนสูง อาหารจากธรรมชาติดังกล่าวจึงมีความโดดเด่นเป็นแหล่งอาหารสำรองของมวลมนุษย์ ได้ในอนาคต”
แนะวิธีเลือกบริโภคแมลงอย่างปลอดภัย
ขณะที่แมลงมีด้านที่เป็นประโยชน์  อีกด้านหนึ่งมีโทษที่ต้องระมัดระวัง  การบริโภคที่ปลอดภัยต่อสุขภาพจึงควรคำนึงถึงการเลือกกินแมลงตามหลัก สุขลักษณะของอาหาร ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค  กระทรวงสาธารณสุขให้ความรู้ดังนี้คือ

1. เป็นแมลงที่รู้จักและเป็นแมลงที่มีคนนำมากินได้  ควรเลือกชนิดของแมลงที่อาศัยอยู่กับต้นไม้อยู่กับป่าละเมาะสวนป่าธรรมชาติ หรือในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่ไม่มีการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรู พืช
   
2. เป็นแมลงที่จับมาขณะยังมีชีวิตอยู่และนำมาปรุงเป็นอาหารทันที
   
3. ควรจะหลีกเลี่ยงแมลงที่เป็นศัตรูภายในบ้านที่เป็นพาหะของโรคต่าง ๆ
   
4. ควรหลีกเลี่ยงแมลงที่มีสีสันสดใสซึ่งจะมีพิษมากกว่าชนิดที่ไม่มีสี หรือสีซีด

5. ควรปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทานเสมออาจทำโดยการคั่ว ทอด ปิ้ง ย่าง ต้ม ผัด หรือนึ่ง ฯลฯ
   
6. ปีก ขน ขา หรือ หนามแข็งของแมลง ควรเด็ดทิ้งก่อนเพราะอาจทำให้เกิดอาการคันได้ อีกทั้งมีแมลงหลายชนิดทำให้เกิดอาการแพ้เมื่อสัมผัสถูกผิวหนัง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความไวของแต่ละบุคคล  ดังนั้นคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ง่ายน่าจะหลีกเลี่ยงการกินแมลงและแม้จะยังไม่มี เอกสารอ้างอิงแน่นอนถึงการกินแมลงจะทำให้เกิดอาการแพ้ แต่อย่างไรก็ตามควรเพิ่มความระมัดระวัง.
ทีมวาไรตี้

Credit by.. http://www.dailynews.co.th/article/224/221180


แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


สะดวกอร่อย ‘หอยเชลล์สะโหร่งฯ’ เพิ่มรสชาติด้วยอาหารไทยโบราณ

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้หอยเชลล์มาจากอเมริกาตัวใหญ่มาก เลยคิดถึงเมนูนี้ขึ้นมา เพราะเราไม่ต้องยุ่งยากอะไรกับการเตรียมหอยเลย และไม่ต้องปรุงรสด้วย เมนูที่ผมจะทำคือ หอยเชลล์สะโหร่งเบคอนทอด เป็นเมนูง่าย ๆ และสะดวกดีครับ

เริ่มต้นการทำอย่างแรกคือ การทอดหอยเชลล์ เริ่มจากเราม้วนเบคอนไปรอบหอยเชลล์ แล้วเอาเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลวกแล้วมาพันรอบเบคอนอีกรอบหนึ่ง จะกลายเป็นหอยเชลล์ห่อสะโหร่งเบคอน เสร็จแล้วพักไว้ (คุณผู้อ่านอาจจะใช้เส้นชนิดอื่นแทนก็ได้ แต่ผมจะเอาผงปรุงรสหมูสับต้มยำที่เขาให้มาใช้สำหรับทำน้ำซอส)





จากนั้นเตรียมกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปรอให้ร้อนแล้วนำหอยเชลล์ที่เตรียมไว้ลงไปทอด โดยต้องใช้ไฟแรง ๆ เพื่อที่จะทำให้เส้นบะหมี่กรอบและเบคอนสุกเร็วที่สุด โดยไม่ทำให้หอยเชลล์สุกมากจนเกินไป ตรงกลางของเนื้อหอยเชลล์ยังคงมีสีชมพูอยู่ พอเส้นบะหมี่สุกเหลืองให้ตักขึ้นพักไว้

มาถึง การทำซอสครีมเห็ดต้มยำ เอากระทะอีกใบมาตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย แล้วเอาหอมแดงสับลงไปผัดให้หอม จากนั้นเอาเห็ดแชมปิญองที่เราสไลซ์เป็นชิ้นบาง ๆ ใส่ตามลงไปผัด อาจจะใช้เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดอะไรก็ได้นะครับ จากนั้นโรยผงปรุงรสหมูสับต้มยำและแป้งสาลีลงไป ผัดให้เข้ากันจนแป้งสุก แล้วเทน้ำซุปลงไป เอาไม้ตีไข่คนให้ซอสข้นขึ้นมา

ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว จากนั้นหากอยากให้น้ำซอสข้นให้ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนกระทั่งเหนียวและข้น ชิมรสชาติให้มีรสเปรี้ยวและเค็ม เสร็จแล้วตักไว้บนจานเสิร์ฟ และนำหอยเชลล์ห่อสะโหร่งเบคอนที่ทอดแล้วมาวาง  แต่งหน้าด้วยข่าหั่นฝอยทอดกรอบและมะนาวเหลือง เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ เป็นเมนูง่าย ๆ สำหรับทำกินกันในครอบครัว ลองสิครับ อร่อยจริง ๆ.

เครื่องปรุง สำหรับ 4 ท่าน
-หอยเชลล์ตัวใหญ่ 12 ตัว
-เบคอนลวกแล้ว 100 กรัม
-เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลวกแล้ว 1 ซอง
-น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
-ซอสครีมเห็ดต้มยำ  สำหรับเสิร์ฟ
-มะนาวเหลือง 1 ลูก
-ข่าหั่นฝอยทอดกรอบ  สำหรับแต่งหน้า

เครื่องปรุงซอสครีมเห็ดต้มยำ
-เนย 1 ช้อนโต๊ะ
-ผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซองรสหมูสับต้มยำ
-หอมแดงสับ 1 ช้อนชา
-เห็ดแชมปิญองหั่นแว่น 5 ดอก
-แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำซุป 1 ถ้วยตวง
-วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

ร้านอาหารชวนชิม
วันนี้ผมจะพาไปชิมที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดมานานตั้งแต่ก่อนที่ผมจะไปเรียนเมืองนอกเสียอีก จนมาถึงทุกวันนี้ ร้านนี้ยังคงอยู่ที่เดิม อาหารและทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือพนักงานเริ่มชราแล้ว ร้านที่ผมพูดถึงคือร้าน สงวนศรี อยู่ปากทางออกโรงแรมพลาซ่าแอทธินี กรุงเทพบนถนนวิทยุ วันนั้นผมไปทำงานเลยได้มีโอกาสพาทีมงานไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน นี้ อาหารของเขาเป็นอาหารไทยแบบโบราณ เมนูยังคงเป็นลายมือที่เขียนขึ้นมาทั้งแผ่น ซึ่งผมชอบมาก เป็นอะไรที่ดิบ ๆ ดีครับ

จานแรกผมสั่ง ลูกชิ้นปลากรายผัดเขียวหวานแห้ง พอเขาเสิร์ฟออกมา ผมขอข้าวเลยครับ ทุกคนแย่งกันกินเพราะรสชาติเข้มข้น แต่ไม่เผ็ดมาก อร่อยครับ
ผมเคยมากิน หมูผัดพริก เลยสั่งมาทานอีก ซึ่งของที่นี่เขาไม่ใส่น้ำมันหอยนะครับ พอกินเข้าไปรสชาติดี ไม่ต้องเติมอะไรเลย อร่อยมาก

จานต่อมาเป็น ทอดมันปลากราย เหนียวหนึบ หอมกลิ่นเครื่องแกง กินกับข้าวร้อน ๆ ยังคงอร่อยเหมือนเดิม

มี ลาบวุ้นเส้นหมู ทำได้ดีมาก วุ้นเส้นสุกพอดี ไม่เละ แถมรสเด็ด แกล้มกับผักสด แสนอร่อย
สำหรับเมนู เปาะเปี๊ยะทอด ที่ร้านนี้เขาทำเป็นชิ้นเล็ก สั้น ๆ พอคำ ไม่ยาวเหมือนที่อื่น ๆ กรอบอร่อย จิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยธรรมดา แต่อร่อยที่ตัวเปาะเปี๊ยะนะครับ

ผมชอบกินเนื้อเลยสั่ง สเต๊กเนื้อ ร้านนี้ใช้เนื้อสันใน ราดด้วยซอสที่ทำจากมะเขือเทศ อีกเมนูเป็น แกงเหลือง ใส่ผักหลายอย่าง ซึ่งยังคงความอร่อยตามต้นตำรับดั้งเดิม
จานต่อมาเป็น ผัดพริกขิง เขาใช้ปลาช่อนซึ่งที่อื่นมักจะใช้ปลาดุกกัน แต่ผมว่ารสชาติไม่อร่อยเท่าที่ผมเคยกินนะครับ แต่อย่างอื่นที่กินมายังอร่อยเหมือนเดิม

ส่วนขนมหวานต้องกิน กล้วยไข่เชื่อม ไม่หวานมาก เชื่อมกล้วยได้พอดี ไม่เละและไม่แข็ง ราดหัวกะทิเยอะ ๆ ของหวานอีกอย่างคือ ทับทิมกรอบ  แป้งไม่หนาแต่กรอบ น้ำกะทิก็หอมอร่อย
หากใครจะแวะไปกิน ผมอยากให้ไปถึงสักประมาณ 11.00 น. กำลังดีนะครับ เพราะหลังจากนี้ที่นั่งจะเต็มต้องรอ ที่สำคัญราคาไม่แพง ผมต้องกลับไปกินที่นั่นอีกแน่นอนครับ.

หมึกแดงไกด์
สำหรับร้าน
สงวนศรี

ความอร่อย    
ความสะอาด   
คุณภาพของวัตถุดิบ  
การบริการ  
ราคา   
ความเผ็ด 

ที่อยู่ : 59/1 ถนนวิทยุ แขวง ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ  10330
โทร : 0-2251-9378,  0-2252-7637
เวลาเปิด : 10.00-15.00 น. หยุดวันอาทิตย์

หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/224/221471



แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


‘ปั้นขลิบไส้ปลาทู’ ‘ของดีเมืองลุง’อร่อยทำเงิน

ขนมหรือของว่างทานเล่น ในท้องตลาดทุกวันนี้มีสินค้ามากมายในรูปแบบใกล้เคียงกัน ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นตัวชี้ขาดเพื่อเอาชนะใจลูกค้าให้ยอมตัดสินใจควัก กระเป๋าซื้อ นอกจากต้องเป็นของดีและอร่อยแล้วก็ยังต้องมีความแตกต่าง อย่างสินค้าขนม “ปั้นขลิบ” หรือ “ปั้นสิบ” แบรนด์ “หนึ่ง สอง สาม (1 2 3) มาร์เก็ตติ้ง” ของดีเมืองลุงหรือเมืองพัทลุง ที่ขายมานาน 30 ปี เจ้านี้ก็สร้างความต่างได้น่าสนใจ ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอให้ได้พิจารณากัน...

ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลคือ กัญญารัตน์ ตู้เซ่ง หรือ ป้าเล็ก ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายขนมปั้นขลิบ แบรนด์ “หนึ่ง สอง สาม (1 2 3 ) มาร์เก็ตติ้ง” ของดีเมืองพัทลุง กรอบนอก นุ่มใน รสชาติกลมกล่อม โดยป้าเล็กเล่าให้ฟังว่า จากความชอบส่วนตัวที่สนใจเรื่องขนมมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับเคยทราบว่าบรรพบุรุษของครอบครัวมีฝีมือในการทำขนมขายได้อร่อยจน เป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าหลายรุ่น จึงมักหาเวลาว่างฝึกทำขนมต่าง ๆ มาตลอด ให้คนในครอบครัว ญาติ ๆ ชิมและติชม
 




“พอเรียนจบก็ทำงานรับราชการครูอยู่ที่โรงเรียนควรขนุน จ.พัทลุง เพราะเป็นคนไม่ชอบอยู่เฉยและพอจะมีฝีมืออยู่บ้างจึงทำขนมแห้งส่งขายสหกรณ์ใน โรงเรียน ที่นี้ก็พูดกันปากต่อปากจนของไม่พอขาย จะทำเพิ่มก็ไม่มีเวลาเพราะต้องสอนหนังสือเด็ก ต่อมามีปัญหากล่องเสียงอักเสบ ไม่มีเสียงจะสอนเด็ก จึงเออร์ลี่รีไทร์ออกมา แล้วก็ศึกษาหาสูตรทำขนม ทดลองทำขนมปั้นขลิบอย่างจริงจัง เริ่มจากผลิตไส้ปลาทูก่อน เพราะเป็นวัตถุดิบที่หาง่ายในพื้นที่ แถมยังสดใหม่เพราะอยู่ใกล้ทะเล ทำออกขายก็มีเสียงตอบรับดีมาก ลูกค้ายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย ทำให้เป็นกำลังใจสำคัญในการหันมาผลิตเป็นธุรกิจครอบครัว ใช้แรงงานในชุมชนเพื่อเขาจะได้มีงานมีรายได้ จนสินค้าได้เป็นสินค้าโอทอป จ.พัทลุง”

ขนมปั้นขลิบที่ผลิตอยู่ ปัจจุบันมี 4 ไส้คือ ไส้ปลาทู ไส้ไก่ ไส้กุ้ง และไส้ธัญพืชข้าวสังข์หยด ซึ่งขายดีทุกไส้

อุปกรณ์การทำ ก็มี กระทะ, เตาแก๊ส, เครื่องนวดแป้ง, มีด, เขียง และภาชนะเบ็ดเตล็ด ส่วนวัตถุดิบหลักตามสูตรก็มี แป้งสาลี 800 กรัม, แป้งข้าวเจ้า 150 กรัม, น้ำมันพืช 300 กรัม, ไข่ไก่ 2 ฟอง, น้ำปูนใส 250 กรัม และเกลือ 2 ช้อนชา

การทำปั้นขลิบ จะมี 2 ส่วนคือ ส่วนของแป้ง และไส้ โดยจะเริ่มทำในส่วนไส้ขนมก่อน กรณีเป็น “ปั้นขลิบไส้ปลาทู” ส่วนผสมหลักที่ใช้คือ ปลาทูสด, หอมแดงบดละเอียด, กระเทียมบด, รากผักชีโขลกละเอียด, พริกไทยป่น, น้ำตาลทราย, น้ำมันพืช, เกลือ วิธีทำ... นำปลาทูสดมาควักไส้และล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วนึ่งให้สุก เลาะเอาแต่เนื้อมาบดให้ละเอียดพักไว้ จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอกระทะร้อนใส่รากผักชีโขลก หอมแดงบด กระเทียมบด ลงไปผัดให้หอม แล้วจึงใส่เนื้อปลาทูบด พริกไทยป่น ผัดให้สุกสักครู่ ถัดมาก็ใส่น้ำตาลทราย และเกลือ ตามลงไป ผัดต่อไปเรื่อย ๆ จนแห้ง ชิมรสปรุงรสให้มีรสหวานนำ เค็มเล็กน้อย เสร็จแล้วยกลงพักให้เย็น แล้วจึงปั้นไส้เป็นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ เตรียมไว้ในภาชนะ

สำหรับส่วนของแป้ง ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ตามสูตรส่วนผสมก็มี แป้งสาลี 800 กรัม, แป้งข้าวเจ้า150 กรัม, น้ำมันพืช 300 กรัม, ไข่ไก่ 2 ฟอง, น้ำปูนใส 250 กรัม, เกลือ 2 ช้อนชา การทำก็นำส่วนผสมทั้งหมดมานวดให้เข้ากันจนแป้งเนียน หากต้องนวดแป้งในจำนวนมากก็ต้องใช้เครื่องนวดจึงจะประหยัดแรง เมื่อนวดจนแป้งเนียนแล้วให้พักแป้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อยเอาแป้งมานวดอีกครั้งเพื่อให้แป้งคลายตัว จากนั้นแบ่งแป้งเป็นเส้นยาว ๆ หั่นแป้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายลูกเต๋า ขนาดตามที่ต้องการ (คล้ายการหั่นแป้งทำปาท่องโก๋) เสร็จแล้วก็พักแป้งไว้

ต่อไปเป็นวิธีปั้น เริ่มจากแผ่แป้งที่หั่นเตรียมไว้ให้เป็นแผ่นบาง ๆ นำไส้ขนมที่ปั้นเตรียมไว้ใส่ตรงกลาง ประกบแป้งปิดไส้ให้เป็นครึ่งวงกลม แล้วก็ม้วนเก็บริมแป้งให้เป็นเกลียวให้สวยงาม แล้วจึงนำไปทอดแบบน้ำมันท่วม ใช้ไฟอ่อน สังเกตว่าขนมมีสีทองอ่อน ๆ ดูสวย และกรอบแล้ว ก็ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ราคา “ปั้นขลิบไส้ปลาทู” คือ 160 บาท/กก. ถ้าเป็นแพ็กเกจสวย ๆ ขายแพ็กละ 35 บาท โดยสินค้า “หนึ่ง สอง สาม (1 2 3) มาร์เก็ตติ้ง” ส่วนใหญ่จะขายในเซเว่น-อีเลฟเว่น ครอบคลุมทั่วภาคใต้ รวมถึงตามร้านค้า-ร้านขายของฝาก
ใครแวะเวียนไปเที่ยวที่พัทลุง ที่ภาคใต้ ก็เชิญชวนลิ้มลองขนม “ปั้นขลิบ” ของดีพัทลุงเจ้านี้ จะซื้อเป็นของฝากเพื่อนฝูงญาติพี่น้องก็ได้ หรือใช้เป็นของว่างรับประทานกับน้ำชากาแฟในงานสัมมนาต่าง ๆ ก็ดี โดยแหล่งผลิตสินค้าของ ป้าเล็ก ตั้งอยู่ที่เลขที่ 205 หมู่ 12 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งใครสนใจจะรับไปจำหน่ายต่อเป็น “ช่องทางทำกิน” ในอีกแบบ ก็ติดต่อป้าเล็ก หรือ น้องหนึ่ง ได้ที่ โทร. 08-5673-1774, 08-1092-2520 หรือ 0-7468-9049.
.........................................................................................
คู่มือลงทุน...ปั้นขลิบไส้ปลาทู
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคาขาย
รายได้ แพ็กละ 35 / กก.ละ 160 บาท
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ร้านของฝาก, ร้านค้าทั่วไป
จุดน่าสนใจ ทำขายได้ตลอดทุกเทศกาล
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


กุ้งอบวุ้นเส้น ...แค่มีไมโครเวฟก็ทำได้!!

วันนี้กุ๊กกุ๊บกิ๊บ มาสอนทำกุ้งอบวุ้นเส้น ที่มีรสชาติแสนอร่อย และทำง่ายกว่าที่คิดเยอะเลย มาลองทำกันเลย
 ส่วนผสม 
♥ กุ้ง (ขนาดตามต้องการ)
♥ ขิงแก่, วุ้นเส้น, คื่นฉ่าย
♥ พริกไทย , กระเทียม, ซุปก้อน (คนอร์)
♥ ซอสหอยนางรม, น้ำปลา, โชยุญี่ปุ่น, ซีอิ๊วขาว, ซอสปรุงรส



ขั้นตอนการโชว์ฝีมือ
♥ เตรียมน้ำซุปดีด้วยซุปก้อน (คนอร์) 1 ก้อน น้ำ 1/4 ถ้วย เปิดไฟแรงสุด 2-3 นาที 
♥ ต่อมาก็นำซอสหอยนางรม, น้ำปลา, โชยุญี่ปุ่น, ซีอิ๊วขาว, ซอสปรุงรส เททุกอย่างอย่างละ 2 ช้อนชา รวมกันใส่ถ้วย
♥ เอาวุ้นเส้นที่แช่ไว้ มาหั่น แล้วนำซอสที่ปรุงมาคลุกกับวุ้นเส้น หรือจะเอากุ้งมาคลุกด้วยเลยจะได้มีรสชาติมากขึ้น และเอาพริกไทยใส่ได้เลย
♥ จากนั้นก็นำขิงแก่ และกระเทียม คื่นฉ่ายลงใส่ถ้วย และเอาวุ้นเส้นที่คลุกเสดแล้ววางลงไป แล้วเทน้ำซุปที่เตรียมไว้ ใสลงไปได้เลย
♥ เสร็จก็ปิดฝาถ้วย เอาเข้าไมโครเวฟ ไฟแรงสุด ตั้ง 4 นาที

♥♥♥ ทุกอย่างเสร็จเป็นอันว่ารับประทานได้เลย พร้อมเสิร์ฟ อู๊ย!! มาชิมกันเลยดีกว่าค่ะ ♥♥♥


Credit by..http://www.tnews.co.th/html/news/กุ๊กกุ๊บกิ๊บ/202-806-page1.html

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


ขนมจีบหมู!! ทำอย่างง่าย

วันนี้กุ๊กกุ๊บกิ๊บ จะสอนทำขนมจีบหมู มาให้ลองทำแล้วชิมฝีมือตัวเองกันดีกว่านะค่ะ ทำง่ายๆไม่เชื่อ! ลองไปทำกันเลย

ส่วนผสมขนมจีบ 
1. เนื้อหมูสันคอบดละเอียด 2 กิโลกรัม (แช่ให้เย็นจัด)
2. มันแข็งบดรวมกันกับสันคอ 1 กิโลกรัม (แช่ให้เย็นจัด)
3. มันแกว ขูดละเอียดหรือแห้ว แล้วคั้นน้ำออก 1 กิโลกรัม
4. น้ำตาลทรายขาว 350 กรัม
5. เกลือ ป่น 1 ช้อนชา
6. ไข่ไก่ 4 ฟอง
7. กระเทียมเจียวใหม่ๆ กลีบเล็ก 200 กรัม
8. พริกไทยขาวคั่วเมล็ดแล้วป่น 4 ช้อนชา
9. ซีอิ้วขาวเห็ดหอม 1 ถ้วยตวง
10. แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
11. แป้งมันสำปะหลัง 200 กรัม
12. แผ่นเกี๊ยวสีเหลือง ขนาด 1 กิโลกรัม 2-3 ถุง ขั้นตอนการโชว์ฝีมือ ( ขนมจีบ )


1. ใส่พริกไทยลงกะละมังพลาสติก หรือกาละมังเคลือบ เติมซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย คนให้เข้ากันก่อน
2. แล้วจึงเติมหมูบด แล้วนวดให้เข้ากันจนเหนียวดี ตีไข่ไก่ ใส่ทั้งหมด
3. ใส่กระเทียมเจียว ใส่แป้งทั้ง 2 อย่างลงไป แล้วนวดให้เข้ากัน ใส่มันแกว แล้วนวดต่อจนเข้ากันดี
4. แล้วนำเข้าแช่เย็นในช่องฟรีซ (ช่องแช่แข็ง)  จนเย็นจัด แล้วค่อยนำมาห่อ
5. ตัดแผ่นเกี๊ยวให้เป็นวงกลม แล้วห่อจนหมดวางบนหม้อซึ้ง แล้วนึ่งทิ้งไว้ใช้เวลาประมาณ 12-15 นาทีด้วยไฟปานกลาง (หรือจะนำไปต้มก็ได้ในน้ำเดือด พอขนมจีบสุกจะลอยขึ้นมาแล้วให้ตักขึ้นวางในกระด้งให้เย็น แล้วทาด้วยน้ำมันพืชเพื่อไม่ให้ติดกัน)

ส่วนผสมน้ำจิ้ม
1. ซีอิ้วดำ  1 ช้อนโต๊ะ
2. ซีอิ้วขาว   1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำส้มสายชู   2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย   2 ช้อนโต๊ะ
5. แป้งมันสำปะหลัง  1/2 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือเล็กน้อย

ขั้นตอนการโชว์ฝีมือ ( น้ำจิ้ม )
1. ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ( ไม่ต้องใส่น้ำเปล่านะค่ะ )
2. ตั้งไฟเคี้ยวเล็กน้อย พอเดือดแล้วผสมแป้งมันกับน้ำพอเหนียว
3. แล้วเทผสมกัน คนให้เข้ากัน ชิมรสตามต้องการ
4. ใส่กระเทียมเจียว ผสมลงไปเล็กน้อย

 ( จัดใส่จาน เรียงให้สวยงาม แค่นี้ก็เป็นอันว่าเสร็จภารกิจแล้ว!! )
( เรามาลองชิมฝีมือตัวเองกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าจะอร่อยแค่ไหน? )

Credit by..http://www.tnews.co.th/html/news/53447/ขนมจีบหมู!!-ทำอย่างง่าย.html

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


ชีสเค้กสติ๊ก (Cheese Cake Stick)


ชีสเค้กสติ๊ก (Cheese Cake Stick)


การทำอาหารและขนมถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่คนทำสามารถปรุงแต่งสร้างสรรค์ไปตามจินตนาการได้มากมาย สุดแต่ว่าจะอยากให้ออกมาในรูปแบบใด อย่างเค้กที่สร้างสรรค์กันออกมายุคนี้ นอกจากจะมีหลายรสชาติแล้ว ยังทำออกมาหลายรูปแบบ ทั้งเป็นก้อนกลม เป็นคัพ และพัฒนาเป็นสติ๊กหรือแท่งแบบไอศกรีมอีกด้วย อย่างชีสเค้กสติ๊กของ คุณพุด-เบญจรงค์  เตชะมวลไววิทย์ ในวันนี้ เหมือนกินเค้กในอารมณ์ของแม็กนั่ม!!

ชีสเค้กสติ๊ก (Cheese Cake Stick)

คุณ พุด ไม่ได้มีอาชีพทำเค้กขายอย่างเดียว แต่มีงานประจำที่ธนาคารกสิกรไทยด้วย ความที่เธอชอบทำขนมมาตั้งแต่เด็ก สมัยที่รายการแม่บ้าน สอนทำอาหารเป็นรายการฮิตทางทีวี คุณพุดก็นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอยุคนั้นมาตลอด ซึ่งเธอบอกว่า ดูแล้วมีความสุขค่ะ และยังตื๊อคุณแม่ให้พาไปทุกแห่งที่มีสาธิตและสอนทำอาหาร แค่นั้นยังไม่สะใจ คุณพุดยังค่อยๆเรียนรู้เทคนิคจากตำราทั้งของ มาร์ธา สจ๊วต, เบคกิ้ง วิธ จูเลีย, เค้ก ไบเบิล ฯลฯ เรียกว่าวันว่างแทนที่จะไปเล่นกีฬา ดูหนัง หรือช็อปปิ้งเหมือนคนอื่น แต่เธอจะอยู่กับตำราทำขนมเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งถ้าได้ไปต่างประเทศก็จะไปเขาคอร์สเรียนอีกด้วย โดยเฉพาะชีสเค้กที่เธอโปรดปราน ซึ่งไปติดใจมาจากนิวยอร์ก ที่มีชื่อเรื่องชีสเค้กมาก ทั้งเนื้อแน่นและรสชาติก็เข้มข้นด้วย แต่คุณพุดก็นำมาปรับให้หลากหลายออกไปอีกถึง 25 ชนิดด้วยกัน

ชีสเค้กสติ๊ก (Cheese Cake Stick)

หลัง จากทำแจกจนทุกคนติดใจ ก็ได้แรงยุให้ทำขายบ้าง จึงเป็นที่มาของร้าน Cheese Cake Palette เริ่มจากทำขายทางออนไลน์ โดยคลิกเข้าไปดูหน้าตาเค้กได้ที่ www.cheesecakepalette.com หรือจะสั่งซื้อทางเมล์ info@ cheesecakepalette.com พร้อมจัดส่งถึงที่แบบมืออาชีพ แต่ปัจจุบันมีร้านเล็กๆ เพื่อให้คนมาซื้อสามารถนั่งทานพร้อมชา-กาแฟด้วย ในซอยสุขุมวิท 36 สอบถามที่ 08-5600-8801

ชีสเค้กสติ๊ก (Cheese Cake Stick)

สำหรับ ส่วนผสม Cheese Cake Stick เริ่มจากฐานล่างสุดที่เป็นชอร์ตเบรด : แป้งอเนกประสงค์ 1 1/3 ถ้วย/เกลือ 1/2 ชช./เนยจืด 3/4 ถ้วย/น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย/ไข่ไก่ เอาเฉพาะไข่แดง 1 ฟอง/วานิลลา 1 ชช. .....วิธีทำ 1) แบ่งเนยจืดมาทาภาชนะสำหรับอบ ซึ่งห่อด้วยแผ่นฟลอยด์ 2) ตีเนยกับน้ำตาลจนขึ้นขาว แล้วเติมไข่แดงกับวานิลลาผสมให้เข้ากัน แล้วค่อยเติมแป้งกับเกลือที่ผสมรวมกัน 3) นำส่วนผสมเข้าตู้เย็น 30 นาที แล้วจึงนำมากรุลงพิมพ์ให้เป็นฐานล่างสุด และมีขอบข้างสูงขึ้นมาโดยรอบ จากนั้นใช้ส้อมจิ้มเป็นรู เพื่อระบายอากาศ ก่อนนำเข้าอบที่ 350ํF ประมาณ 10 นาที

ชีสเค้กสติ๊ก (Cheese Cake Stick)

ส่วน ผสมเนื้อชีสเค้ก : ครีมชีสฟิลาเดลเฟีย 1 กก./ น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย /ไข่ไก่ 5 ฟอง/ ไข่แดง 2 ฟอง/วิปปิ้งครีม 5 ชต./แป้งอเนกประสงค์ 7 ชต.......วิธีทำ 1) ตีครีมชีสกับน้ำตาลให้เข้ากัน 2) เติมไข่แดง ไข่ทั้งฟอง และวิปครีม แล้วค่อยๆเติมแป้ง คนจนเข้ากัน 3) เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่มีฐานล่างเป็นชอร์ตเบรดอบสุกแล้ว 4) นำเข้าอบไฟ 300ํ F นาน 1.5 ชม. เมื่อนำออกจากเตาอบพักให้เย็นประมาณ 2 ชม. จึงนำไปแช่ในตู้เย็น เพื่อให้เนื้อเค้กแน่น

ชีสเค้กสติ๊ก (Cheese Cake Stick)

วิธี ทำชีสเค้กสติ๊ก 1) เอาเค้กออกจากพิมพ์แล้วหั่นเป็นชิ้น 3 เหลี่ยม (โดยมีเทคนิคการตัดไม่ให้เนื้อเค้กติดมีด ควรเอามีดไปชุบน้ำร้อนก่อน) เสียบไม้ไอติมแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซอย่างน้อย 3 ชม.  2) ละลายช็อกโกแลตแบบเคลือบในหม้อตุ๋นหรือไมโครเวฟ แค่พอเยิ้มๆ แล้วนำมาคนต่อให้ละลายจนหมด 3) นำชีสเค้กที่เสียบไม้มาชุบช็อกโกแลตให้ทั่วทั้งชิ้น แล้วตกแต่งตามชอบ นำไปแช่ในตู้เย็นก่อนรับประทาน.

Credit by..http://www.thairath.co.th/content/life/356355


แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.