สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี 02/2013 - 03/2013
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ปั้นสิบไส้ปลาสลิด มีจุดขายดี-มีกำไรงาม


“ปลาสลิด” ซึ่งเป็นปลาขึ้นชื่อของ จ.สมุทรปราการ สามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารว่างอย่าง “ปั้นสิบ” ได้อย่างลงตัว เป็นของว่างที่ขายดี และสามารถขายไปยังต่างประเทศได้อีกด้วย ซึ่งทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูล “ปั้นสิบไส้ปลาสลิด” จากการที่ไปดูงานมหกรรม 7 ปีสายใยรักแห่งครอบครัวฯ 2555 เมื่อปลายปีที่แล้ว และวันนี้ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง...




ภาวิณี ทองมาก หรือคุณเล็ก เจ้าของผลิตภัณฑ์ปั้นสิบไส้ปลาสลิด “เพลินตา” ทำอาหารแปรรูปจากปลาสลิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2539 อาหารแปรรูปที่ทำก็เช่น ปลาสลิดทอดกรอบ, น้ำพริกปลาสลิด, ปลาสลิดหยอง ฯลฯ เมื่อทำขายไปได้สักระยะหนึ่ง จนตลาดไม่โตกว่าเดิมแล้ว จึงคิดหาสินค้าตัวอื่นมาเพิ่ม  และคิดว่าน่าจะลองทำ “ปั้นสิบไส้ปลาสลิด” ดู ซึ่งก็พอจะมีความรู้ในการทำขนมอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และเมื่อทำออกมาก็ประสบความสำเร็จมาก เพราะว่ามีตลาดกว้างมาก มีคนนิยมกินทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับ แถมยังสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้อีกด้วย

อุปกรณ์ในการทำ “ปั้นสิบไส้ปลาสลิด” หลัก ๆ ก็มี  กระทะ-เตาแก๊ส, เครื่องนวดแป้ง, มีด-เขียง และภาชนะเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำครัว

การทำ “ปั้นสิบไส้ปลาสลิด” จะมี 2 ส่วนคือ ส่วนของแป้ง และส่วนของไส้  โดยส่วนของแป้งนั้น วัตถุดิบตามสูตรก็มี แป้งสาลี 800 กรัม, แป้งข้าวเจ้า150 กรัม, น้ำมันพืช 300 กรัม, ไข่ไก่ 2 ฟอง, น้ำปูนใส 250 กรัม และเกลือ 2 ช้อนชา วิธีทำคือ เอาส่วนผสมทั้งหมดมานวดให้เข้ากันจนเป็นแป้งเนียน หากต้องนวดแป้งในจำนวนมากต้องใช้เครื่องนวดแป้งจึงจะประหยัดแรง เมื่อนวดจนแป้งเนียนแล้ว ให้พักแป้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงค่อยเอาแป้งมานวดอีกครั้งเพื่อให้แป้งคลายตัว เมื่อแป้งคลายตัวแล้ว ก็ให้แบ่งแป้งเป็นเส้นยาว ๆ แล้วหั่นแป้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายลูกเต๋า ความยาวประมาณ 2 ซม.  (คล้าย ๆ กับการหั่นแป้งทำปาท่องโก๋) เสร็จแล้วพักแป้งไว้

สำหรับ ส่วนของไส้ จะใช้  “เนื้อปลาสลิดแห้ง” เป็นส่วนประกอบหลัก โดยวิธีทำคือ เอาปลาสลิดมานึ่งให้สุกทั้งตัว เสร็จแล้วก็เลาะเอาก้างออก เหลือไว้แต่เนื้อ แล้วเอาเนื้อปลาสลิดไปทอดให้เหลือง จากนั้นนำไปอบอีกครั้งเพื่อให้แห้ง และเพื่อไล่ความชื้นออก   ขั้นตอนนี้ เนื้อปลาสลิด 1 กก. เมื่ออบแห้งเสร็จแล้วจะเหลือเนื้อปลาประมาณ 200 กรัม
         
ในขณะที่ส่วนผสมอื่น ๆ ของไส้ หากใช้เนื้อปลาสลิดอบแห้งแล้ว 500 กรัม วัตถุดิบอื่น ๆ ตามสูตรก็จะใช้ หอมแดงบดละเอียด, กระเทียมบด และข่าบด รวมกัน 200 กรัม, น้ำตาลทราย 1,000 กรัม, น้ำมันพืช 300 กรัม, เกลือ 5-6 ช้อน ถั่วลิสงคั่วบดละเอียด 100 กรัม
       
วิธีทำไส้ ก็ใช้น้ำมันพืชผัดหอมแดง-กระเทียม-ข่าบด ผัดให้หอม และตามด้วยการใส่น้ำตาลทราย เกลือ ถั่วลิสงคั่วบด และใส่เนื้อปลาสลิดอบแห้ง 500 กรัม ผัดไปเรื่อย ๆ จนแห้ง  ชิมรสให้มีรสหวานนำเค็มเล็กน้อย เสร็จแล้วพักให้เย็น แล้วจึงปั้นไส้เป็นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ เตรียมไว้ต่อไปเป็น วิธีปั้นแป้ง เริ่มจากแผ่แป้งที่หั่นเตรียมไว้ให้เป็นแผ่นบาง ๆ แล้วนำไส้ขนมที่ปั้นไว้มาใส่ตรงกลาง จากนั้นประกบแป้งปิดไส้ให้เป็นครึ่งวงกลม แล้วก็ม้วนเก็บริมแป้งให้เป็นเกลียว เท่านี้ก็เรียบร้อย พร้อมจะนำไปทอด
การทอดก็ให้ทอดในน้ำมันโดยใช้ไฟร้อนปานกลาง ซึ่งวิธีทอดนั้นคุณเล็กบอกว่า จะทอดให้สุกประมาณ 60% เตรียมไว้ก่อน  เมื่อนำออกขายก็จะทอดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้สุกทันใจลูกค้าสั่ง เพราะหากทอดรอบเดียวเลยโดยทอดไปขายไป จะทอดไม่ทันขาย

ส่วนราคาขายนั้น จะขาย กก.ละ 300 บาท โดยมีทุนวัตถุดิบประมาณ 60% จากราคาขาย 

“ปั้นสิบไส้ปลาสลิดนั้นเป็นอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย มีโอเมกาสาม แป้งบางกรอบนุ่มเก็บได้นาน 2  สัปดาห์ หากใส่ตู้เย็นไว้จะเก็บได้นานเกิน 1 เดือนขึ้นไป โดยเนื้อแป้งไม่แข็ง รับประทานกับน้ำชา กาแฟ ก็เข้ากัน” คุณเล็กบอก
                                   
ใครสนใจ “ปั้นสิบไส้ปลาสลิด” ต้องการติดต่อ คุณเล็ก–ภาวิณี ทองมาก ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-9699-7668 และอีเมล pleonta_salid@hotmail.com และกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ยังขายอยู่ที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-16.00 น.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล
แสงจันทร์ สนั่นเอื้อ รายงาน


Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/186494

Read More...


เต้าหู้นมสดรสผลไม้ แนวใหม่...โกยเงินไม่ธรรมดา


อาหารสร้างรายได้ ทำเองขายเอง แนวคิดนี้มีผู้สนใจมองหากันมากมาย ซึ่ง “น้ำเต้าหู้นมสดรสผลไม้” ที่เป็นอีกทางเลือกของอาหารแนวใหม่จากกระแสนิยมอาหารประเภทนม โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่ชอบทานอาหารเสริมเพื่อเพิ่มแคลเซียม นี่ก็เป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมาเสนอให้ลองพิจารณากัน...

Read More...


ข้าวเม่าน้ำนม สูตรโบราณ ''โกอินเตอร์''

.
 ข้าวเม่า เป็นขนมทานเล่นที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน บ้างเอามาคลุกมะพร้าว บ้างเอามาห่อกล้วยแล้วทอด ซึ่งปัจจุบันข้าวเม่านั้นสามารถทำขายเป็นอาชีพสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี อย่าง “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวเม่าน้ำนม 100%” ศูนย์ผลิตข้าวเม่าอ่อนบ้านเนินสะอาด ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นี่ก็รวมกลุ่มกันทำ ’ข้าวเม่าน้ำนม“ ขาย เป็นอีก ’ช่องทางทำกิน“ ซึ่งทั้งขายในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี...
 
 
สมคิด ตันเฮง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวเม่าน้ำนม 100% เล่าว่า คนที่ชุมชนนี้ส่วนใหญ่จะมีอาชีพทำนาปลูกข้าวกันแทบทั้งนั้น ได้ข้าวแล้วก็เอาไปขายให้กับเถ้าแก่ที่รับซื้อ ซึ่งที่ผ่านมาราคาขายก็ต้องอยู่ที่คนรับซื้อว่าจะให้ถังละเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะได้ราคาไม่ค่อยดี จนคนในชุมชนต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงให้ขายข้าวได้ในราคาสูง และก็มาคิดว่าน่าจะนำเอาข้าวมาแปรรูปให้เกิดมูลค่าเพิ่ม ทุกคนก็ช่วยกันคิด จนเกิดการทำ “ข้าวเม่าน้ำนม” ขาย ซึ่งเป็นการนำภูมิปัญญาของรุ่นปู่รุ่นย่าที่พวกท่านทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ นำมาใช้สร้างรายได้

พอทำข้าวเม่าขาย ก็ทำให้คนในชุมชนมีรายได้ดีกว่าขายข้าวหลายเท่า

“แรก ๆ ก็ผลิตขายในหมู่บ้าน จนภายหลังมาถึงจุดพลิกผันของผลิตภัณฑ์ข้าวเม่าน้ำนมของเรา คือสามารถโกอินเตอร์ได้ เพราะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในชุมชน แล้วซื้อกลับไปกินที่อเมริกา ประมาณ 10 กิโลกรัม เกิดติดใจ จึงสั่งเพิ่มอีกเกือบร้อยกิโลกรัม และก็เพิ่มมาเรื่อย ๆ” สมคิดกล่าว

เมื่อมีออร์เดอร์เข้ามามากขึ้น ทางกลุ่มก็ได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในเรื่องเงินทุน หมุนเวียนในการรับซื้อวัตถุดิบจากสมาชิก

ข้าวเม่าน้ำนม 100% ของกลุ่มนี้ เป็นที่นิยมเพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีทั้งธาตุเหล็ก บำรุงเลือด มีแคลเซียม วิตามินเอ และอื่น ๆ อีกมากมาย…

สำหรับอุปกรณ์ในการทำ หลัก ๆ ก็มี อุปกรณ์สำหรับคั่ว เป็นเครื่องสำหรับคั่วที่ทำขึ้นโดยใช้การควบคุมด้วยมอเตอร์ หรือจะใช้วิธีคั่วด้วยมือก็ได้, เตาแก๊ส, กระทะ, ไม้พาย, เครื่องตำข้าว, เครื่องซีลสุญญากาศ เป็นต้น

วัตถุดิบหลักก็คือ ข้าวหอมน้ำผึ้ง ซึ่งเดิมทางกลุ่มลองใช้ข้าวพันธุ์ กข.6 เพราะเห็นว่านิ่ม แต่พอคั่วแล้วตำ ข้าวเม่าที่ได้จะแข็ง จึงเปลี่ยนมาใช้ข้าวหอมน้ำผึ้ง และได้ข้าวเม่าที่นิ่มขึ้น โดยข้าวที่นำมาใช้ทำนั้นจะใช้ข้าวที่ใช้เวลาปลูก 90 วัน พอสังเกตเห็นรวงก้ม นับไปอีก 10 วัน ก็ต้องเกี่ยวให้หมด มิฉะนั้นข้าวจะแก่ไป (ข้าวที่เหมาะใช้ทำข้าวเม่านั้นให้ลองนำเมล็ดข้าวมาบีบให้เมล็ดแตกจะมีน้ำ ขาวขุ่นหรือที่เรียกว่าน้ำนมข้าวไหลออกมาจากเมล็ดข้าว)

ขั้นตอนการทำ...เริ่มจากนำรวงข้าวที่ผ่านการตีเอาเมล็ดข้าวที่แก่ที่อยู่ ส่วนปลายยอดออกแล้วมาทำการขูดเอาเมล็ดที่ยังติดอยู่ที่ส่วนกลางของรวงข้าว เมื่อขูดข้าวได้แล้วก็นำไปร่อนแยกเมล็ดข้าวออกจากเศษฟาง

หลังจากร่อนแยกเมล็ดข้าวกับฟางออกจากกันแล้ว ก็นำข้าวไปล้างทำความสะอาดและคัดเอาเมล็ดที่ลีบออก โดยนำข้าวไปแช่ในน้ำ เมล็ดที่ลอยน้ำก็ให้คัดออกไป นำข้าวที่ล้างทำความสะอาดและคัดเมล็ดที่ลีบออกแล้วไปใส่ลงเครื่องคั่ว ใช้ไฟประมาณ 55 องศาเซลเซียส ให้ใช้ไฟสม่ำเสมอ คั่วกระทะละประมาณ 3 กิโลกรัม คั่วไปเรื่อย ๆ ประมาณ 10-15 นาที แล้วสังเกตว่าข้าวสุกหรือยัง โดยการบี้ข้าวดู ถ้าเมล็ดข้าวนิ่มและเหนียว ก็ใช้ได้

นำข้าวขึ้นจากกระทะใส่ไว้ในกระด้ง ทิ้งไว้ให้ข้าวพออุ่น ๆ จึงนำเข้าครกกระเดื่องเพื่อทำการตำกะเทาะเปลือก เวลาตำนั้นควรใช้ไม้พายเขี่ยเมล็ดข้าวในครกให้กระจายไม่ติดกันเป็นปั้น ใช้เวลาตำประมาณ 4-5 นาที จากนั้นนำข้าวขึ้นมาทำการแยกแกลบออกจากเมล็ดข้าว โดยนำเข้าเครื่องดูดแกลบ หรือจะใช้วิธีใส่กระด้งแล้วฝัดข้าวแบบสมัยโบราณก็ได้ แต่ต้องแยกแกลบออกจากเมล็ดข้าวให้หมด และก็ทำขั้นตอนเดิมอีกประมาณ 4 รอบ ก็จะได้เมล็ดข้าวที่แยกแกลบออกหมด 100%

ขั้นตอนสุดท้าย ก็เป็นการนำข้าวเม่าที่ทำการแยกแกลบออกจากเมล็ดหมดแล้วมาบรรจุใส่ถุงพลาสติก ถุงละ 1 กิโลกรัม ทำการซีลปิดปากถุงด้วยระบบสุญญากาศ จากนั้นจัดเก็บไว้ในตู้แช่แข็งที่อุณหภูมิประมาณ 5 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้รอจำหน่ายได้นานประมาณ 4 เดือน

การทำ ’ข้าวเม่าน้ำนม“ นั้น ข้าว 1 ถัง 10 กิโลกรัม ทำข้าวเม่าได้ประมาณ 4 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งข้าวเม่านี้ก็สามารถกินเล่นได้เลย หรืออาจจะมีการนำไปคลุกกับมะพร้าวด้วย หรือห่อกล้วยทอด ก็สุดแท้แต่ผู้ที่ซื้อไป

สำหรับผู้ที่สนใจกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ รายนี้ ต้องการติดต่อกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวเม่าน้ำนม 100% กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มนี้ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เบอร์โทรศัพท์คือ 08-9518-6807.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ รายงาน

credit by : http://www.dailynews.co.th/article/384/186276
 

Read More...


“ห้าสหายนึ่งน้ำแดง” ทลายกฎทุกข้อของเมนูปราบเซียน

Pic_305726


ว่ากันว่าเมนูที่มีน้ำแดงมาเกี่ยวข้อง การทำให้อร่อยต้องใช้เคล็ดลับและความอดทนอย่างสูงในการเคี่ยวให้กลมกล่อม แต่วันนี้ถึงเวลาทำลายกฎเกณฑ์เหล่านั้นเสียที!!

อาหารเหลาขึ้นชื่อ อย่าง “น้ำแดง” นั้นจะอร่อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับน้ำซุปที่ใช้ปรุง แต่กว่าจะได้น้ำซุปที่มีกลิ่นหอมรสชาติดีสักหม้อนั้น ต้องใช้เวลาเคี่ยวเป็นเวลานาน  นิตยสาร Health & Cuisine ขอทลายข้อจำกัดดังกล่าวด้วยการใช้ซุปไก่สกัดเข้มข้นมาปรุงเป็น 2 เมนูน้ำแดงจานด่วน รับรองว่าหอมอร่อยกลมกล่อมไม่แพ้กัน


ห้าสหายนึ่งน้ำแดง
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 5 นาที ปรุง 5 นาที
ผักกาดขาว        4    ก้าน
เห็ดหอมสด        6    ดอก
คะน้าฮ่องกง        5    ต้น
ข้าวโพดอ่อน        5    ฝัก
แครอทหั่นเป็นท่อน        ½    หัว
สาหร่ายเส้นผมแห้ง    5    กรัม
น้ำเปล่า            1    ถ้วย
ซุปไก่สกัดสูตรต้นตำรับขนาด 42 มิลลิลิตร    1    ขวด
น้ำมันหอย        2    ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว            2    ช้อนชา
น้ำตาลทราย        ½     ช้อนชา
น้ำมันงา            1/8    ช้อนชา
เหล้าจีน            1    ช้อนชา
แป้งมันฮ่องกง        1    ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่าสำหรับละลายแป้งมัน
ถ้วย
พริกไทยขาวป่นเล็กน้อย
น้ำเปล่าสำหรับลวกผัก
น้ำเย็นจัดสำหรับแช่ผัก
พริกดองน้ำส้มหรือจิ๊กโฉ่ว
วิธีทำ
1. ใส่สาหร่ายลงในกระชอนตาถี่ เปิดน้ำไหลผ่านประมาณ 30 วินาที พักให้สะเด็ดน้ำ
2. ลวกผักกาดขาว เห็ดหอม คะน้า ข้าวโพดอ่อน และแครอทในน้ำเดือดจนสุกตักใส่อ่างที่มีน้ำเย็นแช่ไว้สักครู่ แล้วตักขึ้นพักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำและซุปไก่สกัดลงไป รอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาวน้ำตาลทราย น้ำมันงา และเหล้าจีน คนให้เข้ากัน


4. ผสมแป้งมันฮ่องกงกับน้ำ คนให้ละลายแล้วค่อยๆ เทลงกระทะ ระหว่างนั้นใช้ตะหลิวคนไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้แป้งจับตัวกันเป็นก้อนจากนั้นใส่สาหร่ายเส้นผม คนให้เข้ากันปิดไฟ
5. เรียงผักที่ลวกไว้ใส่จานให้สวยงาม ราดด้วยน้ำแดง โรยหน้าด้วยพริกไทย ยกเสิร์ฟ

Tips
•    แป้งมันฮ่องกงช่วยให้น้ำแดงมีความข้นใส ไม่คืนตัวภายหลัง หากไม่มีให้ใช้แป้งมันหรือแป้งข้าวโพดในปริมาณที่เท่ากันแทนได้ แต่ควรรับประทานทันที
•    สาหร่ายเส้นผมมีขนาดเล็ก เวลาทำความสะอาดให้ใส่ในกระชอนตาถี่แล้วเปิดน้ำไหลผ่านเพื่อล้างเศษดินที่ติดอยู่
•    หาซื้อสาหร่ายเส้นผมได้ที่ตลาดเยาวราชหรือกูร์เม่ต์มาร์เก็ต ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน

เมนู จานนี้ให้พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 52.85 กิโลแคลอรี่ โดยแบ่งเป็น โปรตีน 1.71 กรัม ไขมัน 0.13 กรัม คาร์โบไฮเดรต 11.35 กรัม ไฟเบอร์ 1.55 กรัม

รู้จักห้าสหายให้มากขึ้น

จาน นี้เป็นหนึ่งในอาหารมงคลของชาวจีนที่นิยมทำกันในเทศกาลสำคัญ ทว่าสูตรนี้ปรุงจากผักห้าชนิด ทั้งผักกาดขาว เห็ดหอม คะน้า ข้าวโพดอ่อน และแครอท นำมาลวกแบบนุ่มนอกกรอบในก่อนราดน้ำแดงรสกลมกล่อมผสมสาหร่ายเส้นผมสีดำขลับ ซึ่งว่ากันว่า หากใครได้กินอาหารที่เป็นเส้นยาวจะทำให้มีอายุยืน สุขภาพแข็งแรง จึงทำให้ห้าสหายนึ่งน้ำแดงนี้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
Credit by..http://www.thairath.co.th/content/life/305726

Read More...


ของเหลือไหว้เจ้า แปลงกายเป็นจานอร่อย

Pic_327406


ในวันตรุษจีนมักมีอาหารเหลือจากไหว้เจ้ากินจนเบื่อก็ไม่หมด สักที Quick & Delicious ฉบับนี้จึงนำอาหารยอดฮิตที่มักเหลือจากเทศกาลมงคลอย่าง “จับฉ่าย” และ “ขนมเข่ง” มาแปลงกายเป็นอาหารจานใหม่ให้กินได้ไม่เบื่อ เพื่อไว้เป็นไอเดียประหยัดให้ลองทำตามกัน

Read More...


อิ่มอร่อย "เส้นหมี่ผัดน้ำพริกอ่อง"หอมหวาน"ข้าวหลามสูตรโบราณ"



วันนี้พอผมได้เปิดตู้เย็นที่บ้านเห็นน้ำพริกอ่องสำเร็จรูป เลยนึกถึงเมนูที่อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำกันดู คือ เส้นหมี่ผัดน้ำพริกอ่อง ครับ การทำจะคล้าย ๆ กับผัดสปาเกตตีของอิตาเลียนนะครับ แต่เราจะใส่น้ำพริกอ่องที่เป็นอาหารไทยของภาคเหนือเขา ซึ่งผมจะให้เครื่องปรุงไว้ตามตารางด้านล่าง

ก่อนอื่นมาเริ่มที่ วิธีการทำน้ำพริกอ่อง เอาเครื่องปรุงสำหรับเครื่องตำทั้งหมด คือ พริกแห้งบางช้างที่แช่น้ำแล้ว หัวหอม กระเทียมไทย ข่า รากผักชี และถั่วหรือกะปิที่ย่างไฟแล้ว มาตำให้ละเอียดจนเป็นเครื่องแกง

ต่อมาเอาเนื้อหมูสับใส่ลงไปในครก ตำให้เครื่องแกงกับเนื้อหมูเข้ากันเป็นเนื้อเดียวแล้วใส่มะเขือเทศลงไป จะใช้มะเขือเทศสีดาหั่นครึ่งหรือมะเขือเทศลูกใหญ่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก็ได้ แล้วตำให้เข้ากัน  ไม่ต้องละเอียดนักเพราะจะเอาไปผัด

จากนั้นเอากระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพืช รอให้ร้อน ใส่กระเทียมสับ ผัดจนเหลือง ระวังอย่าให้ไหม้ เอาหมูสับที่ตำกับมะเขือเทศไว้ลงไปรวนและผัดในกระทะจนเกือบสุก แล้วเทน้ำซุปลงไป ถ้าไม่มีน้ำซุปจะใช้เป็นน้ำธรรมดาก็ได้เพราะเวลาที่เนื้อหมูสุกจะคลายความ หวานออกมากลายเป็นน้ำซุปเอง

ผัดจนเกือบสุก มะเขือเทศเริ่มนิ่ม เนื้อแตกไม่เป็นชิ้น คล้ายกับซอส ชิมรสชาติดู ต้องเติมน้ำปลาเพื่อเพิ่มความเค็ม และถ้ายังไม่เปรี้ยวพอ ให้ใส่มะเขือเทศสับเพื่อให้รสชาติออกเปรี้ยวหวาน เคี่ยวต่อจนน้ำระเหยเกือบหมด และให้รสชาติกลมกล่อม เสร็จแล้วพักไว้

ต่อมาถึงขั้นตอน การผัดเส้นหมี่ เอากระทะตั้งไฟใส่น้ำมันมากพอสมควร เอากระเทียมลงผัดน้ำมัน แต่อย่าให้เหลือง จากนั้นเอาเส้นหมี่ที่แช่น้ำไว้แล้วลงไปผัด (อย่าแช่นานจนเกินไป เพราะเวลาผัดเส้นจะเละ) พอเส้นมีสีเหลือง เริ่มปรุงรสใส่น้ำปลาเล็กน้อยก่อนใส่น้ำพริกอ่อง ผัดให้เข้ากันโดยใช้ไฟแรง ๆ น้ำพริกอ่องจะได้ระเหยและเส้นจะได้ไม่แฉะ

ถ้าเส้นแฉะเกินไปแสดงว่าเราใส่น้ำหรือน้ำพริกมากเกินไป จะต้องเพิ่มเส้นแล้วเติมน้ำมันอีกหน่อยครับ ผัดจนหอม แต่ไม่เละ แล้วใส่ผักหวาน ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสชาติออกเค็ม และเปรี้ยวนิด ๆ ถ้าไม่เปรี้ยวให้ใส่มะเขือเทศหั่นเสี้ยว พอสุกแล้ว โรยผักชีและต้นหอมสับ ผัดต่ออีกนิด ปิดไฟ ตักเส้นที่ได้ใส่จาน เอาน้ำพริกหนุ่มราดไปบนเส้นอีกครั้ง จะได้มีรสชาติที่เข้มข้น

หลังจากนั้นนำเครื่องเคียงที่เตรียมไว้ ได้แก่ กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ฟักทอง แครอท แตงกวา ผักหวาน และไข่เค็มวางไว้รอบจานแล้วโรยด้วยผักชีและต้นหอมซอย ถ้ามีแคบหมูสามารถเอามาทำเป็นเครื่องเคียงด้วยยิ่งอร่อย เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ แต่ถ้าใครชอบเผ็ด สามารถเติมพริกป่นเข้าไปเวลาผัดจะช่วยเพิ่มรสเผ็ดได้ครับ เป็นไงครับ ไม่ยากเลย น่าลองทำกินกันดูนะครับ.

..................................

เครื่องปรุงน้ำพริกอ่อง
- พริกแห้งบางช้างหั่นเป็นท่อนเอาเม็ดออกแช่น้ำ    3    เม็ด
- หอมแดง    2    หัว
- กระเทียมกลีบเล็ก    4    กลีบ
- ข่าสับ    1    ช้อนโต๊ะ
- รากผักชีสับ    2    ราก
- กะปิย่างไฟ หรือถั่วเน่าย่างไฟ    1ช้อนโต๊ะ
- หมูสับ    250    กรัม
- มะเขือเทศลูกใหญ่    3–4    ลูก
- น้ำมันพืช    2    ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ    1    ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป    1    ถ้วยตวง
- น้ำปลา    3    ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงเส้นหมี่ผัดน้ำพริกอ่อง
- น้ำมันพืช    2    ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ    1    ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกอ่อง    1/2    ถ้วยตวง
- มะเขือเทศลูกใหญ่หั่นเสี้ยว    3-4     ลูก
- ผักหวาน    50    กรัม
- เส้นหมี่แช่น้ำนุ่มแล้ว    250    กรัม
- น้ำซุปหมู    1/2    ถ้วยตวง
- น้ำปลา    3    ช้อนโต๊ะ
- ผักชีซอย    1/4    ถ้วยตวง      
- ต้นหอมซอย    1/4    ถ้วยตวง  

เครื่องเคียง
- กะหล่ำปลีลวกหั่นชิ้น    ตามต้องการ
- ถั่วฝักยาวลวก    ตามต้องการ
- ฟักทองลวก        ตามต้องการ
- แครอทหั่นเต๋าลวก    ตามต้องการ
- แตงกวาหั่นเต๋า    ตามต้องการ
- ผักหวานลวก        ตามต้องการ
- ไข่เค็มหั่นเสี้ยว    ตามต้องการ
- แคบหมู        ตามต้องการ

..................................

ร้านอาหารชวนชิม

ผมพยายามจะเขียนเกี่ยวกับแหล่งที่จะไปหาของอร่อยที่มีแต่หน้าร้าน และไม่ใช่ร้านอาหาร โดยเป็นอาหารที่เรารู้จักกันดี ผมอยากให้ความรู้และเคล็ดลับว่าทำไมอาหารนั้นถึงอร่อยและมีวิธีการทำกัน อย่างไร ซึ่งวันนี้ผมจะพาไปดู ร้านน้องหนุ่มข้าวหลาม ที่จังหวัดเพชรบุรี ข้าวหลามเขาอร่อย มัน มีกลิ่นหอม และรสชาติกลมกล่อม ไม่หวานและไม่เค็มเกินไป

ตั้งแต่โบราณ คำว่า “หลาม” หมายถึงการที่เอาอาหารใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่และนำไปทำให้สุกโดยการเผา และคนโบราณมีวิธีการทำข้าวหลามโดยเอาข้าวเหนียวขาวหรือข้าวเหนียวดำไปแช่น้ำ ค้างคืน หลังจากนั้นเอาถั่วดำต้มสุกมาผสมกับข้าวเหนียวที่เราแช่น้ำไว้ แล้วพักไว้ก่อน จากนั้นตัดไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ให้เป็นท่อน ๆ หลังจากได้กระบอกไม้ไผ่แล้ว กรอกข้าวเหนียวที่ผสมถั่วดำเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ โดยให้อยู่ลึกจากปากกระบอกลงมา 2-3 นิ้ว เพราะว่าเวลาข้าวเหนียวสุกจะพองตัวขึ้นมา (ไม้ไผ่เป็นไม้ล้มลุกและมีเยื่อไผ่ ซึ่งทำให้แกะข้าวเหนียวที่สุกออกมาได้ง่าย ไม่ทำให้ข้าวเหนียวติดไม้ไผ้) ต่อมากรอกน้ำกะทิที่ผสมเกลือและน้ำตาลปี๊บ โดยกะทิที่ใช้เกือบจะเป็นหัวกะทิทำให้ข้าวหลามอร่อยขึ้น มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม และมีความมัน

เคล็ดลับอยู่ที่การเผา บางร้านจะเอาข้าวเหนียวไปนึ่งก่อนกรอกใส่กระบอกข้าวหลาม เพื่อประหยัดเวลาในการเผา แต่วิธีนี้ข้าวหลามจะไม่อร่อย ไม่หอม และกะทิไม่เข้าเนื้อ ซึ่งต่างจากใช้วิธีเผาอย่างเดียวที่ใช้เวลานานถึง 2.5 ชั่วโมง ทำให้เปลืองถ่าน แต่ข้าวหลามที่ได้จะมีกลิ่นหอมของไม้ไผ่ และกะทิเข้าเนื้อข้าวเหนียว ซึ่งจะทำให้ข้าวเหนียวนุ่ม และอร่อยกว่ามาก วิธีดูว่าข้าวหลามใกล้จะสุกหรือยัง ให้สังเกตหน้ากะทิ จะดูใส ๆ เป็นเหลือบ ๆ จากนั้นให้เติมหัวกะทิลงไปเพื่อทำให้ข้างบนชุ่มชื่น จากนั้นเผาต่ออีกประมาณ 10 นาทีร้านน้องหนุ่มข้าวหลามทำข้าวหลามแบบโบราณและที่ข้าวหลามของเขาอร่อย เพราะเขาใช้การเผาทั้งหมดครับ.

หมึกแดง

www.mcdangguide.com
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/224/178818

Read More...


มองเทรนด์ อาชีพใหม่ งานแบบไหนใน-นอกประเทศต้องการสูง!?



 ขึ้นปีใหม่หลายคนอยากเปลี่ยนงานใหม่ แต่ยังนึกไม่ออกว่าอาชีพไหนน่าจะรุ่งในปีหน้า บางทีอาชีพที่ว่าอาจได้ค่าตอบแทนคุ้มค่าอย่างคาดไม่ถึง โดย นพวรรณ จุลกนิษฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินสถานการณ์อาชีพใหม่ในประเทศ จริงแล้วในอาเซียนเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ เป็นอาชีพเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงเป็นอาชีพลงลึกมากขึ้น คือเป็นอาชีพเดิมที่เคยเห็นอยู่ เพียงมีสาขาเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น งานด้านการตลาดเพราะเดี๋ยวนี้มีสมาร์ทโฟนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทำให้มี อาชีพเฉพาะทางเกิดขึ้น


Read More...


ชวนชิม "แกงส้มมะรุมรสเด็ด" อร่อยเมนูพิเศษ "ไข่ตุ๋นเต้าหู้ทรงเครื่อง"




วันนี้ผมจะแนะนำเมนู ไข่ตุ๋นเต้าหู้ทรงเครื่องที่เวลากินแล้วเด้ง ๆ ละ ลายในปาก แถมรูปร่างหน้าตายังดูดีมาก ๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นสูตรพิเศษประจำสัปดาห์นี้ครับ


Read More...


ชวนชิม 'ซี่โครงแกะย่าง' อร่อยนุ่มลิ้น หวานหอมชื่นใจ 'สตรอเบอรี่ ฟลอร์เบลย์'



เป็นเวลานานแล้วที่ผมไม่ได้ไปกินอาหารที่ร้านอาหารฝรั่งเศส แต่ครั้งนี้มีโอกาสก็เลยแวะไปกิน โดยร้านนี้มีชื่อว่า เลอ บัวลิเออ ตั้งอยู่ในตึกแอทธินี ทาวเวอร์  ชั้นล่างสุด ทางด้านซ้ายของตึก
ลักษณะของร้านเป็นครัวเปิด บรรยากาศดีและมีที่นั่งมากพอสมควรครับ ตกแต่งทั้งข้างบนและข้างล่างได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีที่นั่งข้างนอกซึ่งเป็นไวน์บาร์อีกด้วย ร้านนี้ไม่ใช่ร้านที่หรูหราโอ่อ่ามากนัก ส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องพูดถึงครับ อร่อยทุกจานเลย

Read More...


หวานหอมเหนียวนุ่ม"ขนมเปียกปูนใบเตย" อร่อยเด็ด"ก๋วยเตี๋ยวเป็นพะโล้"หลากเมนู



นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เขียนถึงสูตรอาหารที่เป็นของหวาน ล่าสุดผมเพิ่งกลับมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งโรงแรมวังใต้ที่ผมไปพักเขาทำขนมเปียกปูนให้กินเลยได้แรงบันดาลใจให้ลูก น้องโทรฯ ไปขอสูตรกับโรงแรมมาให้เพื่อน ๆ ได้ทำกันดู หวานหอมอร่อยที่สุดเลยครับ โดยผมใช้ชื่อเมนูว่า เปียกปูนใบเตยซอสคาราเมลกะทิ


Read More...


เติมเสน่ห์สเต๊กเนื้อนุ่ม ด้วยซอสกะเพรา

Pic_323139

ผสมผสานความอร่อยแบบไทยควงคู่กับตะวันตกด้วยเมนู สเต๊กเนื้อวัวนุ่มๆ ราดด้วยซอสครีมรสเผ็ดกลิ่นกะเพรา อาหารฟิวชั่นที่ใครก็อยากลิ้มลอง เริ่มต้นด้วยการนำสมุนไพรไทยอย่างกะเพรามาเติมเสน่ห์ให้ซอสสำหรับสเต๊กจาน นี้ ที่เชื่อว่ากลิ่นรสจะต้องถูกปากคนไทยอย่างเราๆ แน่นอน สเต๊กจานนี้ยังเคียงคู่มากับเห็ดและถั่วแขกรสหวาน แถมเพิ่มสัมผัสเวลาเคี้ยวอีกนิดด้วยใบกะเพราทอดกรอบ แค่นี้ก็กลบความเลี่ยนสำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานอาหารจากชาติตะวันตกได้ดี เยี่ยม

Read More...


Mushrooms Risotto

Pic_323532

หน้าตาอาหารจานนี้ก็คล้ายกับข้าวต้ม แต่ Risotto เป็นข้าวต้มอิตาเลียนที่หุงกับเนยและครีม จัดเป็นอาหารอิตาเลียนจานเด็ดอีกจานหนึ่ง ซึ่งได้สูตรมาจากหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน ที่พ่อเป็นเชฟใหญ่ของโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่เก่าแก่สุดของเมืองไทย แต่กว่าเขาจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นเชฟ ตามรอยพ่อได้นั้น เขาต้องค้นหาตัวเองและพิสูจน์ฝีมือให้เป็นที่ยอมรับอยู่นานหลายปี และวันนี้เขาก็กลับมาเปิดร้านอาหารในชื่อของเขาเอง (Johann Bistro) ที่ซอยทองหล่อ 5 เพื่อให้นักชิมในเมืองไทยทั้งหลายได้พิสูจน์รสมือของเขาบ้าง

Read More...


เมนูคาวหวานเคล้าสตรอเบอร์รี่ อาหารสวยๆฉลองวาเลนไทน์

Pic_326008

อีกแค่ไม่กี่วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์กันแล้ว หากสาวๆ ที่ต้องการทำอาหารเซอร์ไพรส์ชายคนรัก นิตยสาร Health & Cuisine มีมาให้เลือกไม่อั้น ซึ่งแต่ละเมนูมีดีทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ ใครไม่คลิกเข้ามาอ่าน เสียดายแทนจริงๆ เพราะมีตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย จนถึงขนมหวานเลยทีเดียว

Read More...


น้ำยา(ตีน)ไก่

Pic_326438

อุ๊ยยย!! ฉลองวันแห่งความรักด้วยเมนูสุดแซบ ขนมจีนน้ำยา (ตีน) ไก่ ขณะที่ใครๆเขามอบหัวใจให้กัน แต่ คุณปุ๊ก-ภูริต มาศวงศ์ศา นักบริหารธุรกิจโรงแรม บอกว่า เชยไปแล้วมั้ง สำหรับคนวัยปูนนี้อย่างเขา แค่ขนมจีนก็พอจะบอกความหมายให้รักกันยืนยาวชั่วนิรันดร์แล้วครับ ส่วนใบเหยียบย่ำ หรือตีนไก่ ก็พอจะแปลความหมายได้เหมือนกันนะว่า ให้ความรักก้าวย่างไปด้วยความมั่นคง....

Read More...


''พิซซ่าไทยสไตล์'' ไทยทำ-ไทยขาย-ไทยอร่อย



 ’พิซซ่า” อาหารฝรั่งที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไทยจำนวนไม่น้อยชอบรับประทาน ในบ้านเรานอกจากจะมีร้านขายที่เป็นแบรนด์ใหญ่ ๆ แล้ว กับการทำขายทั่ว ๆ ไปก็ใช่ว่าไม่น่าสนใจ อย่างร้าน “ไทย สไตล์ พิซซ่า คาเฟ่” ที่ใช้สูตรพลิกแพลง ทำหน้าพิซซ่าใหม่ ๆ โดยนำอาหารไทยมาผสมผสาน ปรุงแต่งรสชาติจนอร่อยถูกปากคนไทยมากขึ้น นี่ก็ขายดีทั้งที่ร้าน รวมถึงกับการออกไปทำสด ๆ ขายตามตลาดนัด ซึ่งวันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“ มีข้อมูลมาให้ลองพิจารณากัน...

Read More...


วิธีทำบะหมี่และแผ่นเกี๊ยว

วิธีทำบะหมี่ไข่และแผ่นเกี๊ยวไข่

Read More...


ขนมเทียน ยุคนี้ตรุษอะไรก็ขายลื่น



เทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะมาถึง ก็จะมีการจับจ่ายซื้อของไหว้ อาหารคาวหวานที่เน้นความหมายเป็นมงคลกับชีวิต ซึ่งของไหว้มาตรฐาน นอกจากหมูเห็ดเป็ดไก่แล้ว ที่ขาดไม่ได้คือขนมเข่ง ขนมเทียน ซึ่งอย่างหลังนี่วันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอ เป็น “ขนมเทียนตำรับชาววัง”  รูปลักษณ์สวย ขนาดกำลังดี  รสชาติอร่อย ไม่ติดมือ-ติดมัน...

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.