สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี 05/2013 - 06/2013
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

น้ำพริกเต้าเจี้ยวผัด

ในบรรดาน้ำพริกหลากหลายชนิดของพม่า จะมีอยู่ไม่กี่อย่างที่พอจะเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยที่มีแม่บ้านเป็นสาว พม่า เช่น “น้ำพริกเต้าเจี้ยวผัด” ที่คนพม่าเรียกว่า “แปนะปี้จ่อ” หรือไม่ก็ “น้ำพริกปลาร้า” (นะปี้เหย่) เป็นต้น แม้ว่าน้ำพริก 2 ชนิดนี้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางเท่าน้ำพริกกุ้งแห้ง (นะปี้จ่อ) ก็ตาม แต่ด้วยเครื่องปรุงที่ไม่แตกต่างจากอาหารไทย และรสชาติก็ถูกปากคนไทยด้วย บรรดาเจ้านายคนไทยจึงมักขอแจมด้วยเสมอ

แต่ สำหรับคุณนายช่างประดิษฐ์อย่าง คุณหนุ่ย-อรวรรณ ลุลิตานนท์ เธอไม่ต้องขอแจมน้ำพริกจากสาวใช้พม่าให้เสียชื่อเลย เพราะเธอได้สูตรอาหารพม่าจากคุณแม่สามี ซึ่งมีเชื้อสายพม่าเพียวๆ เก็บไว้ปึ๊งใหญ่ทีเดียว รวมทั้ง “น้ำพริกเต้าเจี้ยวผัด” ที่นำมาถ่ายทอดให้กับคนที่ชอบทำอาหารในวันนี้ด้วยด้วยใจรักการทำอาหาร ทุกวันนี้คุณหนุ่ยจึงมีความสุขกับ

การเข้าครัวปรุงอาหารเป็นประจำ เธอเล่าว่า คุณแม่ของเธอจะเลี้ยงลูกแบบโบราณ ลูกสาวจะต้องมีความเป็นกุลสตรี ทำกับข้าวและงานบ้านงานเรือนเป็น โดยเธอและน้องๆ เฉพาะผู้หญิงรวม 4 สาว จะตามคุณแม่เข้าครัวมาตั้งแต่เด็กๆ เรา 4 สาวจึงทำอาหารเป็นกันทุกคน และคุณแม่จะมีเมนูแปลกๆ ที่พวกเรายังจำกันได้ขึ้นใจ แต่คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักกัน อย่างเช่น ไอ้คุ่ย (เนื้อผัดแกงเขียวหวานแห้ง), เต้าหู้ต้มปลาหมึกแห้ง, ตับหมูต้มใบโหระพา, กบย่างผัดเผ็ดเป็นต้น

Pic_346353




สำหรับ เครื่องปรุง “น้ำพริกเต้าเจี้ยวผัด” : เต้าเจี้ยวขาว 1 ถ้วยตวง หรือ 1/2 กก. /กุ้งแห้งโขลกให้แหลก 2 ชต./มะเขือเทศลูกเล็ก 8–10 ลูก/พริกชี้ฟ้าแห้งประมาณ 5 เม็ด/หอมแดง 10 หัว/กระเทียม 10 กลีบ/ผงขมิ้น 1 ชช./น้ำตาลปี๊บ 1 ชต./น้ำมะขามเปียก (คั้นน้ำข้นๆ) 2 ชต.


วิธี ทำ 1) หั่นพริกชี้ฟ้าแห้งเป็นท่อนๆแล้วแช่น้ำให้นิ่มและบีบน้ำออกให้หมด ก่อนนำไปโขลกจนละเอียด โดยใส่เกลือด้วยเล็กน้อย เพื่อไม่ให้พริกกระเด็น 2) ใส่หอมและกระเทียม ลงไปโขลกด้วย แต่ไม่ต้องให้ละเอียด 3) นำพริกที่โขลกพร้อมหอมกระเทียมไปผัดกับน้ำมันให้ได้กลิ่นหอม 4) ใส่เต้าเจี้ยวที่ล้างน้ำสัก 2-3 ครั้งเพื่อลดความเค็มและตำพอหยาบๆ
พร้อมด้วยกุ้งแห้ง ผงขมิ้น ผัดจนเข้ากันดี 5)
จึงใส่มะเขือเทศผ่าสี่ ลงผัดด้วยจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 6) ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก ให้ได้รสตามชอบ และหั่นพริกชี้ฟ้าแฉลบตามยาวใส่ลงไปผัดด้วย สุดท้าย ถ้าน้ำพริกแห้งมากไป ค่อยๆเติมน้ำเล็กน้อย แล้วผัดต่อจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

น้ำพริกเต้าเจี้ยวผัดนี้ก็ เหมือนน้ำพริกตำรับของไทย ที่ทานกับผักสดเป็นเครื่องแกล้ม และที่ขาดไม่ได้คือขมิ้นขาวซึ่งเข้ากันอย่างดี และถ้ามีไข่เจียวแกล้มด้วยอีกสักอย่างจะยิ่งสุโค่ยเลยค่ะ.

Credit by.. http://www.thairath.co.th/content/life/346353

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


การหลอกลวงผ่านทางโทรศัพท์

มิจฉาชีพจะใช้โทรศัพท์ หรือบริการเสียงผ่านอินเตอร์เน็ต (Voice over international protocol หรือ VolP) แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน หรือเจ้าพนักงานในหน่วยงานของรัฐ ฯลฯ เพื่อหลอกลวงเราให้เกิดความตกใจและกลัว แล้วจึงเสนอความช่วยเหลือโดยให้เราไปทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของกลุ่มมิจฉาชีพ เมื่อเราโอนเงินเสร็จ พวกเขาก็จะถอนเงินออกจากบัญชีนั้นทันที วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากในกลุ่มมิจฉาชีพจากต่างประเทศ มิจฉาชีพทำให้เราตกใจ และกลัวได้อย่างไร > อ้างว่า บัญชีของเราถูกนำไปใช้กับขบวนการค้ายาเสพติด และจะถูกอายัดโดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จึงขอให้เราไปทำรายการที่ตู้เอทีเอ็มเพื่อยืนยันตัวตนและปลดรายการอายัด หรืออาจให้เราโอนเงินไปยังหน่วยงานของรัฐ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ให้โอนเงินไปยังบุคคลที่มีการอ้างถึงว่าเป็นผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่น่าเชื่อถือ เช่น นายตำรวจ เจ้าหน้าที่ธนาคาร เป็นต้น > อ้างว่า โทรมาจากศูนย์กลางการอายัดบัตร หรือฝ่ายตรวจสอบจากแบงก์ชาติ โดยบอกเราว่าบัตรเครดิตหรือบัญชีของเราถูกอายัด และขอให้เรายืนยันเลขที่บัญชี เลขที่บัตรเครดิตและรหัสเพื่อปลดอายัดบัตร หรือบัญชีของเรา > อ้างว่า ข้อมูลของเราได้สูญหายไปกับน้ำท่วม จึงขอให้เราแจ้งรายละเอียดบัญชี ข้อมูลส่วนตัว แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้เบิกถอนเงิน> แจ้ง หรือ ข่มขู่เราว่า เรามีหนี้บัตรเครดิต ค่าโทรศัพท์ หรือบริการอื่นๆ ที่ต้องชำระทันที ไม่เช่นนั้น จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย > หลอกเอาผลตอบแทนสูงมาล่อ โดยการชักชวนเราไปลงทุนหรือเก็งกำไรในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในการลงทุน เราจึงอาจถูกหลอกได้



การหลอกลวงผ่านทางโทรศัพท์



ป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงทางโทรศัพท์กันเถอะ

หากมีคนโทรศัพท์มาแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานของรัฐ หรือสถาบันการเงิน ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นผู้ไม่หวังดีเพราะสถาบันการเงิน และหน่วยงานของรัฐ ไม่มีนโยบายสอบถามข้อมูลส่วนตัวและไม่มีนโยบายแจ้งให้ลูกค้าหรือประชาชนโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์ให้กับสถาบันการเงิน หรือหน่วยงานของรัฐ 
> เมื่อได้รับโทรศัพท์จากคนไม่รู้จัก หรือไม่คุ้นเคย ไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัว อย่าตกใจและหลงเชื่อไปทำรายการที่เครื่องเอทีเอ็ม

>  อย่าโทรกลับเบอร์ที่ได้รับการแจ้ง แต่ควรเช็คเบอร์หน่วยงานที่ถูกอ้างถึงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของหน่วยงานนั้นหรือ ติดต่อ 1133 เพื่อสอบถามเบอร์โทรของหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงอย่าหวังผลกำไรจากการลงทุน หรือเก็งกำไรในธุรกิจใด ๆ ที่สูงเกินจริง เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของธุรกิจค้าเงินเถื่อนได้

แก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงทางโทรศัพท์มีวิธีเลือกเหยื่ออย่างไร

> ใช้วิธีสุ่มโทรศัพท์เข้าเบอร์มือถือที่ขึ้นต้นด้วย 08....09.....โดยวิธีการโทร.สุ่มตัวอย่างไปเรื่อยๆ เช่น 0818200000, 0818200001...เนื่องจากเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้งานมานาน และไม่ใช่หมายเลขที่ใช้งานชั่วคราว 
มักจะหลอกลวงว่าได้มีการอายัดบัญชีเงินฝากหรือบัตรเครดิตของเหยื่อ ที่มีอยู่กับธนาคารขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกร ฯลฯ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ใช้บริการกับธนาคารขนาดใหญ่


...หากไม่แน่ใจ ควรติดต่อหรือโทรศัพท์สอบถามไปยังสถาบันการเงินหรือหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างจะดีกว่า...  


ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมิได้นิ่งนอนใจ มีการปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้จับกุมผู้ร่วมขบวนการมิจฉาชีพแก๊ง call center เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา
  

กลลวงผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Banking : e - banking) และบัตรกดเงินต่าง ๆ 

1. ใช้เครื่องบันทึกข้อมุลในแถบแม่เหล็ก (Skimmer)
มิจฉาชีพจะทำการติดตั้งเครื่องบันทึกข้อมูลในแถบแม่เหล็ก (Skimmer) ไว้ที่ช่องเสียบบัตรเพื่อคัดลอกข้อมูลในบัตรหรือนำแป้นกดตัวเลขปลอมครอบแป้น กดตัวเลขของตู้เอทีเอ็ม และทำการแอบดูรหัสผ่านจากการติดตั้งกล้องไว้ ณ ตู้เอทีเอ็ม หรือ แอบดู แล้วจึงนำข้อมูลดังกล่าวไปทำบัตรปลอมและถอนเงิน โอนเงิน หรือซื้อสินค้าและบริการในนามของเรา


                                                     
                                 ตู้ เอทีเอ็มที่ปลอดภัย                           ตู้เอทีเอ็มที่มีการตั้ง เครื่อง Skimmer และแป้นกดตัวเลขปลอม
                                                
                                       ตู้เอทีเอ็มที่มีการติดตั้งกล้องขนาดเล็ก เพื่อแอบดูการกดรหัสของเรา

2. ใช้อุปกรณ์คัดลอกข้อมุล (Scanner) 
มิจฉาชีพ จะทำการขโมยบัตรเดบิตหรือเครดิตของเรา แล้วนำไปรูดกับอุปกรณ์คัดลอกข้อมูลที่อยู่ในบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปผลิตบัตรปลอมสำหรับใช้ซื้อสินค้าและบริการ
                                          
เครื่องสแกนเนอร์ที่มิจฉาชีพใช้รูดเพื่อขโมยข้อมูลของเรา

3. ปลอมอีเมล์ และสร้างเว็บไซต์ธนาคารพาณิชย์ปลอม (Phishing) 
มิจฉาชีพจะส่งอีเมล์แอบอ้างว่าเป็นธนาคารพาณิชย์ คนรู้จัก หรือเพื่อนสนิท เพื่อขอข้อมูลทางการเงิน หรือให้ทำการโอนเงินให้ 
อีเมล์แอบอ้างมีลักษณะอย่างไร  

อีเมล์จากธนาคารพาณิชย์มิจฉาชีพ จะทำการส่งอีเมล์มาให้เรา
ในหัวข้อและข้อความที่น่าเชื่อถือ อาจจะเป็นการแจ้งให้เรายืนยันข้อมูลทางการเงินเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการ รักษาความปลอดภัย หรือ อาจแจ้งว่าบัญชีของเราถูกอายัดไว้ชั่วคราว จึงขอให้ยืนยันข้อมูลส่วนตัวโดยให้กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มที่แนบมา หรือในลิงก์แนบที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ปลอมที่มีหน้าตาเหมือนเว็บไซต์ของสถาบันการเงินนั้นๆ แล้วจึงนำข้อมูลที่ได้มานั้นไปใช้แอบอ้างทำการซื้อหรือชำระสินค้าและบริการผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
อีเมล์จากคนรู้จัก เพื่อน หรือ ญาติสนิทมิจฉาชีพ จะส่งอีเมล์มาหาเราโดยใช้อีเมล์ของคนรู้จักของเรา มีข้อความในลักษณะการขอความช่วยเหลือ โดยแอบอ้างว่าพวกเขาเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของเรา และกำลังเดือดร้อนด้วยเหตุต่างๆในต่างประเทศ จึงอยากขอให้เราโอนเงินให้พวกเขา
...เช็คข้อมุลกับสถาบันการเงิน หรือติดต่อไปหาคนรู้จักก่อนที่จะทำการโอนเงินหรือให้ข้อมูลใด ๆ...

ต้วอย่าง รูปแบบ อีเมล์และเว็บไซต์ที่แอบอ้างเป็นธนาคารพาณิชย์

ตัวอย่าง รูปแบบ เว็บไซต์ปลอม

4. การแท็บสายโทรศัพท์เพื่อดักขโมยข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัตรเครดิตที่ตู้พักสายโทรศัพท์

มิจฉาชีพ จะทำการดักขโมยข้อมูลของเราที่ถูกส่งจากร้านค้าไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ ประกอบการบัตรเครดิตขณะที่มีการใช้จ่าย โดยมิจฉาชีพจะทำการติดตั้งเครื่องดักข้อมูลที่ตู้พักสายโทรศัพท์ แล้วนำข้อมูลที่ได้ ไปทำบัตรเครดิตปลอมเพื่อใช้ซื้อสินค้าและบริการต่างๆในนามของเรา

แบบนี้การใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตใช้จ่ายก็ไม่ปลอดภัยนะสิ...
ยังคงปลอดภัยอยู่ เพราะสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ร่วมกันป้องกันการดักขโมยข้อมูลด้วยวิธีการใส่รหัสข้อมูล (Encryption) ใน การรับส่งข้อมูลตั้งแต่ต้นทางและปลายทางทำให้ผู้ไม่ได้รับอนุญาตไม่สามารถ อ่านข้อมูลได้ ดังนั้น หากมีการรูดบัตรในสถานที่ไม่มีความเสี่ยง จึงวางใจได้ว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรยังคงปลอดภัยอยู่

ทำอย่างไร...จึงจะปลอดภัยจากกลโกงผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
 
1. ไม่ใช้เอทีเอ็มที่ตั้งไว้ ณ จุดเสี่ยง เพราะคนร้ายสามารถติดอุปกรณ์บันทึกข้อมูลได้ง่าย และควรสังเกตตู้ก่อนใช้งานว่ามีลักษณะผิดปกติหรือไม่ เช่น แป้นพิมพ์มีลักษณะถูกครอบด้วยอุปกรณ์บางชนิด หรือมีกล่องแปะอยู่ข้างตู้ หรือมีอุปกรณ์แปลกปลอมติดอยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นการกดรหัสผ่านได้ 
2. หลีกเหลี่ยงการใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตกับร้านค้าที่มีความเสี่ยง หรือบริเวณที่มีข่าวการทุจริต 
3. ใช้มือปิดบังทุกครั้งระหว่างการกดรหัสเอทีเอ็ม 
4. หากใช้บัตรในการชำระสินค้าและบริการ ควรอยู่ในบริเวณที่มองเห็นการทำรายการ ทั้งนี้เพื่อป้องกันพนักงานนำบัตรไปรูดกับเครื่องคัดลอกข้อมูล (Scanner) 
5. ไม่บอกรหัสผ่านหรือข้อมูลสำคัญทางการเงินแก่ผู้อื่น และไม่เขียนรหัสผ่านไว้บนบัตร นอกจากนี้ควรทำลายเอกสารแจ้งรหัสผ่าน และเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำทุก 3 เดือน 
6. ไม่ควรใช้รหัสผ่านที่เหมือนกันสำหรับการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆของธนาคารพาณิชย์ 
7. เก็บใบบันทึกรายการไว้ทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบยอดใช้จ่าย และควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ หากมีเหตุสงสัยหรือผิดปกติ ให้รีบแจ้งธนาคารพาณิชย์เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาทันที 
8. อ่านข้อควรระวังเกี่ยวกับพฤติกรรมการหลอกลวงรูปแบบต่างๆของธนาคารพาณิชย์อย่างสม่ำเสมอ 
9. หากบัตรสูญหายหรือถูกขโมย ให้รีบแจ้งธนาคารพาณิชย์ผู้ออกบัตรดำเนินการอายัดบัตรทันที 
10. ไม่ควรตอบรับอีเมล์จากคนที่ไม่รู้จัก คนคุ้นเคย หรือผู้ที่ขอให้ผู้ใช้บริการส่งข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลสำคัญทางการเงินให้ เพราะธนาคารพาณิชย์ไม่มีนโยบายขอข้อมูลส่วนตัวลูกค้าผ่านทางอีเมล์ โทรศัพท์ หรือจดหมาย 
11. ไม่ควรเชื่อมโยงลิงก์ที่แนบมากับอีเมล์ เมื่อต้องการเข้าใช้บริการธนาคารพาณิชย์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ควรพิมพ์ชื่อเว็บไซต์และตรวจสอบการสะกดคำให้ถูกต้องทุกครั้ง

เป็นอย่างไรนะ...โกงผ่านบัตรเครดิต
มิจฉาชีพ จะทำการขโมย ข้อมูลบัตรเครดิต บัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเรา แล้วนำไปซื้อสินค้าและบริการต่างๆในนามของเรา โดยวิธีที่มิจฉาชีพนิยมใช้ มีดังนี้

1. ปลอมแปลงเอกสารสำคัญในการสมัครบัตรเครดิต เพื่อหลอกลวงให้สถาบันการเงินออกบัตรให้ในนามของเรา

2. ขโมยบัตรเครดิตหรือนำบัตรที่สูญหายไปใช้โดยที่เราไม่รู้ตัว

3. ใช้อุปกรณ์อ่านข้อมูลจากแถบแม่เหล็ก (เครื่อง Skimmer) คัดลอกข้อมูลของเราแล้วทำบัตรปลอม

4. หลอกลวงขอข้อมูลของบัตรและข้อมูลส่วนตัวของเรา แล้วนำไปใช้ซื้อสินค้าหรือบริการผ่านทางอินเตอร์เน็ต ข้อมูลดังกล่าว ได้แก่ ชื่อผู้ถือบัตร ประเภทของบัตร ธนาคารผู้ออกบัตร หมายเลขบัตร เดือน/ปี ที่ออกบัตร และเดือน/ปี ที่หมดอายุ รวมไปถึงรหัสปลอดภัยเลข 3 -4 หลัก ที่ปรากฏอยู่บนบัตร 
เตรียมพร้อม...ระวังภัยบัตรเครดิต 

1. เซ็นชื่อหลังบัตรทันทีเมื่อได้รับบัตรใหม่
2. เก็บรักษาบัตรเครดิต บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ และเอกสารสำคัญอื่นๆไว้ในที่ปลอดภัยและไม่มอบให้กับผู้ไม่น่าไว้ใจ

3. จดหมายเลขบัญชีบัตรเครดิต รหัสถอนเงินสด และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับแจ้งอายัดบัตรได้กรณีบัตรหายไว้ในที่ปลอดภัย (ไม่ควรเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ หรือเก็บรวมกับบัตรเครดิต)

4. อย่าเปิดเผยรหัสถอนเงินสดให้กับผู้อื่น

5. อย่าเปิดเผยรหัสความปลอดภัยโดยไม่จำเป็น  (สำหรับบัตร MasterCard และ Visa  คือเลข 3 หลัก ที่อยู่ด้านหลังบัตร บริเวณขวามือของแถบลายเซ็น สำหรับบัตร American Express คือ เลข 4 หลัก ที่อยู่ด้านหน้าบัตร บริเวณเหนือหมายเลขบัตรเครดิต )

6. พึงระวังการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เลขประจำตัวประชาชน  และ วัน/เดือน/ปี เกิด เป็นต้น รวมถึงข้อมูล
    ที่อยู่บนบัตรเครดิต ซึ่งสามารถนำไปทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้  คือ
     - ธนาคารผู้ออกบัตร และประเภทของบัตร
     - ชื่อผู้ถือบัตร
     - หมายเลขบัตรเครดิต
     - เดือน/ปี ที่ออกบัตร และ เดือน/ปี ที่บัตรหมดอายุ 

7. หลี่กเลี่ยงการใช้บัตรในร้านค้าหรือตู้เอทีเอ็มที่มีความเสี่ยงหรือมีข่าวการทุจริต หากจำเป็นต้องใช้ในสถานที่ดังกล่าวควรอยู่ ณ จุดที่พนักงานทำรายการ หรืออยู่บริเวณใกล้ๆในระยะที่สังเกตได้

8. การใช้บัตรที่ร้านค้าควรเช็คให้แน่ใจว่าได้บัตรเครดิตคืนมาทุกครั้ง และตรวจสอบชื่อ-นามสกุลบนบัตร

9. ตรวจสอบความถูกต้องก่อนเซ็นชื่อใน Sales Slip และเก็บไว้เพื่อตรวจสอบกับใบแจ้งหนี้ หากไม่ถูกต้อง แจ้งผู้ออกบัตรทันที

10. การใช้บัตรเครดิตเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าจากตู้ ATM ควรปฏิบัติ ดังนี้
      - ระวังไม่ให้ผู้อื่นเห็นรหัสเบิกถอนเงินสด
      - ระมัดระวัง ATM ที่น่าสงสัยว่าอาจมีการลักลอบติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ขโมยข้อมูลจากบัตรเครดิต เช่น เครื่องอ่านแถบแม่เหล็กที่ช่องเสียบบัตรเพื่อขโมยข้อมูล หรือเครื่องบันทึกข้อมูลที่แป้นกดรหัสเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว
11. การซื้อสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต  ควรเลือกใช้บริการเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือ
12. กรณีบัตรเครดิตหาย ต้องรีบแจ้งให้ผู้ออกบัตรทราบทันที (ทั้งนี้ คุณยังต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นก่อนการแจ้งบัตรหาย)
13. ทำลายบัตรเครดิตก่อนที่คุณจะทิ้งบัตรเครดิต หรือเอกสารใดๆ เกี่ยวกับบัตรเครดิตทุกครั้ง เพื่อมิให้ผู้อื่นนำข้อมูลไปใช้โดยมิชอบ
บัตรผ่อนสินค้า คืออะไร
บัตร ผ่อนสินค้า เป็นบัตรที่ใช้ซื้อสินค้า โดยส่วนมากมักใช้สำหรับการซื้อสินค้าเงินผ่อน ซึ่งผู้ซื้อยังไม่ต้องจ่ายค่าสินค้าเต็มจำนวน โดยบริษัทผู้ออกบัตรจะเป็นผู้ชำระค่าสินค้าเต็มจำนวนให้แทน หลังจากนั้นผู้ซื้อต้องชำระเงินค่าสินค้าและดอกเบี้ยคืนให้กับบริษัทผู้ออก บัตรจนครบสัญญา

มิจฉาชีพโกงผ่านบัตรผ่อนสินค้าหรือบัตรเครดิตได้ด้วยหรือ
ได้สิ โดยใช้บัตรผ่อนสินค้าและบัตรเครดิตในการซื้อสินค้า

มิจฉาชีพทำอย่างไรมิจฉาชีพ จะติดป้ายโฆษณาตามเสาไฟฟ้า ตู้โทรศัพท์ หรือที่สาธารณะ ด้วยข้อความเชิญชวน เช่น ให้วงเงินสูง อนุมัติและรับเงินสดทันทีภายใน 30 วัน ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับ เงินกู้นอกระบบ หากเราสนใจและติดต่อไปตามเบอร์โทรที่ให้ไว้ มิจฉาชีพจะแนะนำวิธีการและเงื่อนไขต่างๆที่เกี่ยวกับการขอรับสินเชื่อ โดยเราไม่จำเป็นต้องมีประวัติการเงินที่ดี หรือมีวงเงินเหลือในบัตรเครดิตมากนัก

                    
หาก เรายอมรับข้อตกลง มิจฉาชีพจะพาเราไปสมัครบัตรผ่อนสินค้าของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (หากเรามีบัตรผ่อนสินค้า หรือบัตรเครดิตอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องสมัครใหม่) เมื่อได้บัตรแล้วมิจฉาชีพจะพาเราไปซื้อสินค้าโดยจ่ายผ่านบัตรนั้นๆของเรา หลังจากนั้นมิจฉาชีพจะเป็นผู้รับซื้อสินค้านั้น โดยจะหักค่านายหน้าประมาณ 30%

ตัวอย่าง เช่น

เรา ตกลงกู้เงินนอกระบบกับกลุ่มมิจฉาชีพแล้ว เขาก็จะพาเราไปทำบัตรผ่อนสินค้า (ถ้ามีแล้วก็ไม่ต้องทำ) เมื่อได้บัตรก็พาเราไปซื้อสินค้า สมมติราคาเท่ากับ 10,000 บาท มิจฉาชีพก็จะหักค่านายหน้า 30 % คิดเป็นเงิน 3,000 บาท เราก็จะได้เงินแค่ 7,000 บาท แต่เป็นหนี้ทั้งหมด 10,000 บาท

เรายังต้องเสียเงินค่าอย่างอื่นอีกไหม

เสียสิ เรายังคงต้องเสียเงินผ่อนชำระสินค้าพร้อมดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อีก 28
% ให้กับผู้ออกบัตร โดยผู้ปล่อยกู้ไม่ต้องร่วมรับผิดชอบใด ๆ และยังนำสินค้าไปจำหน่ายต่ออีกด้วย
ถ้าไม่อยากถูกโกงทำอย่างไร 
1. ใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลกับสถาบันการเงินหรือบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ถูกกฎหมายเท่านั้น

2. พิจารณาเปรียบเทียบเรื่อง อัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ค่าธรรมเนียมการจัดการเงินกู้ ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี ก่อนใช้บริการ

3. ระมัดระวังโฆษณาอัตราดอกเบี้ยที่แจ้งว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยต่อเดือน หรือต่อปี   
เกร็ดความรู้เรื่องดอกเบี้ย
                                                  อัตราดอกเบี้ยต่อปี        = อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน  x 12
                                                  อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง  = อัตราดอกเบี้ยเงินต้นเท่ากันทุกงวด  x 1.8
                                                     
(Effective Rate)                         (Flat Rate) 




4. อย่าใช้บริการสินเชื่อเพียงเพราะต้องการของแถม ควรใช้เมื่อมีความจำเป็นที่ต้องกู้ยืม




หลอกลวงเงินผ่านแชร์ลูกโซ่
แชร์ลูกโซ่ คืออะไร 
 
เป็น กลโกงหลอกให้เราลงทุนในธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูงผิดปกติ โดยในช่วงต้นจะมีการจ่ายผลตอบแทนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แต่จริง ๆ แล้ว เป็นเงินที่เอามาจากนักลงทุนรายใหม่ ไม่ได้มาจากเงินลงทุนจริง ๆ ถ้าไม่มีนักลงทุนรายใหม่ ก็ไม่มีเงินจ่ายนักลงทุนรายเก่า แชร์ก็ปิดตัว ผู้ลงทุนก็เสียเงินไป
แชร์แบบไหนที่ควรระวัง
- ที่ตั้งสำนักงานไม่มั่นคงถาวร เช่น เช่าตึกที่ไม่มีอาคารเป็นของตัวเอง ทรัพย์สินมีค่าในสำนักงานมีน้อย
- ไม่มีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง แต่มีสินค้าซึ่งไม่ระบุแหล่งผลิตถาวร
- เก็บค่าสมัครสมาชิกเป็นจำนวนสูงมาก และมีการบังคับซื้อสินค้า
- ไม่เน้นการขายสินค้าแต่เน้นให้สร้างทีมให้หาสมาชิกและผู้ลงทุนรายใหม่ โดยหาสมาชิกได้มากจะได้ค่าตอบแทนมาก
- ลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูงและจ่ายค่าตอบแทนเร็วเกินเหตุ รับลงทุนแบบไม่จำกัดจำนวน
ทำไมถึงมีคนถูกหลอกผ่านแชร์ลูกโซ่

ผู้ที่ทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ใช้วีธีการ ดังนี้
 
- ใช้เครือข่ายจากความใกล้ชิดสนิทสนมใกล้ตัวที่เราไว้ใจได้
- อ้างถึงบุคคลที่น่าเชื่อถือว่าได้เข้าร่วมหุ้นกับบริษัทด้วย เช่น รัฐมนตรี อธิบดี หรือเจ้านายเรา ฯลฯ พร้อมภาพบุคคลเหล่านั้นร่วมกิจกรรม
- แสดงหลักฐานเรื่องผลประโยชน์ที่ตนเองได้รับมาแล้ว เช่น เงินที่เข้าบัญชี เพื่อให้เหยื่อเชื่อในประโยชน์ที่จะได้รับ
- ใช้สื่อโฆษณาสร้างความมั่นใจ เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ
- แสดงแผนการลงทุนและสัญญาร่วมทุนให้ดู ทำให้เห็นว่าการลงทุนจะได้รับผลตอบแทนมหาศาล
- จัดอมรมสัมมนาหรือแถลงข่าวเปิดตัวที่โรงแรมใหญ่ๆ และเชิญคนดังมาร่วมงานมากมาย
- มักจะหว่านล้อมและกดดันให้เหยื่อรีบตัดสินใจ โดยจะเชิญเหยื่อไปที่บริษัท แล้วพยายามให้ทีมงานแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนที่จะได้รับ หลังจากนั้นพยายามกดดันให้เหยื่อตัดสินใจ



เงินกู้นอกระบบ (Loan Sharks) เป็นอย่างไร
ลักษณะของเงินกู้นอกระบบเป็นอย่างไร 
- เป็นการให้กู้ยืมเงินจากกลุ่มบุคคลที่มักเป็นนายทุนมีอิทธิพลในท้องถิ่น
- เงินกู้ที่มีการติดป้ายประกาศตามป้ายรถประจำทาง ตู้สาธารณะ หรือบนรถบริการสาธารณะ โดยมีข้อความชักจูง เช่น
   “เงินกู้ 100
%”  “เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ” “เงินด่วนทันใจเพียงมีบัตรผ่อนสินค้าก็สามารถกู้ได้เต็มจำนวน” หรือ
   “อนุมัติเร็วภายใน  3 ชม.” เป็นต้น
- เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมากเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน แล้วแต่ข้อตกลง
- อาจมีสัญญากู้ยืม หรือไม่มีก็ได้
- อาจมีหรือไม่มีหลักประกันก็ได้ หากมีการเรียกหลักประกัน ผู้ให้กู้จะยึดหลักประกันไว้ พร้อมกับให้ผู้กู้เซ็นใบมอบฉันทะเพื่อ
  โอนกรรมสิทธิ์ไว้ หากมีการผิดชำระหนี้ หลักประกันก็จะถูกยึด
- มีการติดตามทวงหนี้ที่มีลักษณะไม่เหมาะสม เช่น ขู่กรรโชก ทำร้ายร่างกาย

ตัวอย่าง  สมมติว่า กู้เงินจำนวน 10,000 บาท ผ่อนวันละ 220 บาท จำนวน 60 วัน ฉะนั้น ดอกเบี้ยทั้งสิ้น 3,200 บาท หรือคิด
เป็นอัตราร้อยละ 350.2 ต่อปี (ตัวเลขสมมติเท่านั้น)

 ใครที่ใช้เงินกู้แบบนี้
  ส่วนมากจะเป็นคนที่ไม่สามารถกู้เงินจาก
  ธนาคารได้ เช่น

  - คนที่มีรายได้น้อย หรือรายได้ไม่แน่นอน
  - ประวัตการชำระหนี้ไม่ดี หรือไม่มีทรัพย์สินหรือ
    บุคคลค้ำประกัน
  - ต้องการใช้เงินเร่งด่วน
 
ถ้าเรากลายเป็นเหยื่อของเงินกู้นอกระบบ เราจะทำอย่างไรแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ เราไม่สามารถฟ้องเองได้เนื่องจากความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ย เกินอัตรา พ.ศ. 2475 เป็นความผิดตามอาญาแผ่นดิน ซึ่งผู้เสียหายคือ รัฐ



ทำอย่างไรเมื่อคุณโดนหลอก
 
1. ตั้งสติให้ดี จดบันทึกและเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องไว้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลต่อไป
2. กรณีที่โอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพแล้ว ให้รีบดำเนินการดังนี้
   
o   โทรศัพท์แจ้งไปยังฝ่ายบริการลูกค้า (Call center) ของสถาบันการเงินนั้น ๆ
   
o   โทรศัพท์แจ้งไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โทร. 1155 หรือ 1195
   
o   โทรศัพท์แจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุ
3. กรณีถูกหลอกในเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน ให้รีบติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า (Call center) ของสถาบันการเงินนั้นๆ
    เพื่อขอความช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก่อน
4. สามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับสถาบันการเงินนั้น ได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศ
    ไทย เพื่อขอข้อมูลหรือขอคำแนะนำในแนวทางการดำเนินการ

 

ติดต่อใครดี เมื่อถูกโกง...

1.    ด้านสินเชื่อ การโกงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
    
ท่านสามารถแจ้งเรื่อง หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
(ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย
      ในเวลาทำการ 08.30 – 16.30 น. ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
      
o   สายด่วน ศคง. โทร. 1213  หรือ โทรสารหมายเลข 0-2283-6151
      
o   Email address: fcc@bot.or.th
      
o   ส่งจดหมาย หรือติดต่อเข้าพบเพื่อขอคำปรึกษาด้วยตนเองที่

              ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (
ศคง.) อาคาร 3 ชั้น 5


             
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่               273 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา            เขตพระนคร กรุงเทพ 10200

              ส่วนคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
              ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ              68/3 ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก
              อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300

              ส่วนคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
              ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงหนือ       393 ถนนศรีจันทร์ ตำบลในเมือง
              อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000

              ส่วนคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
              ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้               472 ถนนเพชรเกษม อำเภอหาดหใญ่
              จังหวัดสงขลา 90110
              

2.    ด้านแชร์ลูกโซ่
     
ท่านสามารถติดต่อร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสได้ที่
      ส่วนป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงิน ภาคประชาชน
      สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง กระทรวงการคลัง
     
o   โทร 0-2273-9140, 0-2273-9021 ต่อ 2627 – 34
     
o   สายด่วนการเงินนอกระบบ 1359 และ 1689
     
o   Email address: 1359@mof.go.th หรือ fincrime@mof.go.th
     
o   ส่งจดหมายมาที่ ตู้ ปณ. 1359 ปณจ. บางรัก  

3.    ด้านเงินกู้นอกระบบ      ท่านสามารถติดต่อร้องเรียนได้ที่
     
o   สถานีตำรวจท้องที่ทุกแห่ง
     
o   ศูนย์ปราบปรามการปล่อยเงินกู้และการทวงหนี้นอกระบบ (บก.ปคบ.)
          
·         โทรศัพท์ 0-2513-0051 – 53
          
·         สายด่วน ปคบ. 1135
          
·         ส่งจดหมายมาที่ ตู้ ปณ. 459 ปณศ.สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
                   
Website: www.consumer.police.go.th

Credit by.. http://www.bot.or.th/Thai/FinancialLiteracy/money_trick/Pages/moneytrick.aspx

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ถั่วแปบแป้งสด สูตรพื้นบ้าน บางคล้า

“แปบ” เป็นขนมพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันดี มีถั่วเขียวเป็นส่วนประกอบสำคัญซึ่งมีโปรตีนสูง และเป็นธัญพืชที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายดี นอกจากนี้ยังมีแป้ง งา มะพร้าว น้ำตาล ที่ให้พลังงาน ถั่วแปบจึงเป็นอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีประโยชน์ ซึ่งนี่ก็เป็นจุดขายที่ดี และวันนี้ “ช่องทางทำกิน” ก็มีเรื่องราวของขนมพื้นบ้านโบราณชนิดนี้มานำเสนอ กับ “ถั่วแปบแป้งสด” ที่มีการประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย เกิดเป็นสูตรขนมไทยที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ...

ลักษณ์นรี ไทยเจริญ หรือ เจ๊เพ็ญ เจ้าของร้าน “ขนมถั่วแปบแป้งสดคุณนิ” ตลาดน้ำบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของการเปิดร้านขายขนมดังกล่าวนี้ว่า ทำอาชีพนี้มาหลายปีแล้ว แต่เดิมครอบครัวมีธุรกิจส่วนตัวคือการทำนากุ้ง แต่ประสบปัญหาจนต้องเลิกไปโดยปริยาย แต่เธอก็ยังสวมหมวกเกษตรกรอย่างเต็มตัวอยู่ ทำสวนมะม่วงและสวนมะพร้าวเป็นอาชีพหลัก ซึ่งแม้งานสวนจะรัดตัว แต่ด้วยความชอบขนมและชอบค้าขาย ก็เจียดเวลาทำขนมถั่วแปบแป้งสดขายที่ตลาดน้ำบางคล้า ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

“ขนมถั่วแปบแป้งสดก็เป็นขนมขึ้นชื่ออีกอย่างของชาวบางคล้านะ เพียงแต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวหรือผู้บริโภคมากนักเมื่อ เทียบกับขนมเปี๊ยะหรือมะม่วง มะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเป็นของดีบางคล้าที่มีชื่อเสียงมานาน ขนมถั่วแปบแป้งสดที่ทำเป็นสูตรเฉพาะตัวที่นำสูตรดั้งเดิมของบางคล้า และสูตรโดยทั่วไปที่ลูกสาวได้มา นำมาประยุกต์เข้าด้วยกัน และเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาก็ทดลองเปิดร้านขายที่ตลาดน้ำบางคล้า ปรากฏว่าขายดี ได้ความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาก”




เจ๊เพ็ญบอกอีกว่า ชื่อ “คุณนิ” เป็นชื่อลูกสาว ซึ่งเดิมขนมถั่วแปบแป้งสดของที่ร้านจะมี 6 สี ทุกสีมาจากสีธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีสีสังเคราะห์แต่อย่างใด สีชมพูมาจากบีทรูท สีม่วงจากดอกอัญชัน สีเขียวจากใบเตย สีเหลืองจากฟักทอง สีส้มจากแครอท และสีดำมาจากถั่วดำ แต่ปัจจุบันจะทำขายเพียง 4 สี ยกเว้นสีส้มและสีดำ

วัสดุอุปกรณ์ในการทำอาชีพนี้ หลัก ๆ ก็มี...เตาแก๊ส, หม้อสเตนเลสสำหรับทำขนมปากหม้อ, ผ้าขาวบางหรือผ้าเทโร, เชือก, กระชอน, ทัพพีกลม, กะละมังสเตนเลส, ถาดสเตนเลส, ไม้พาย, เล็บแมวขูดมะพร้าว และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาจากในครัวได้

ส่วนผสม-วัตถุดิบที่ใช้ ก็มี...แป้งข้าวเหนียว, ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก, มะพร้าวทึนทึกขูดและนึ่ง, งาขาว-งาดำคั่ว, น้ำตาลทราย, เกลือ และสีจากพืชธรรมชาติที่มีประโยชน์กับร่างกาย

ขั้นตอนการทำขนม “ถั่วแปบแป้งสด”เริ่มจากการทำในส่วนของ ไส้ขนม ก่อน โดยเอาถั่วเขียวเลาะเปลือกมาแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นก็นำไปนึ่งอบด้วยใบเตยประมาณ 1 ชั่วโมง (เพื่อขจัดกลิ่นเหม็นเขียว) เสร็จแล้วยกลงจากเตามาตั้งพักไว้ให้เย็น

มะพร้าวทึนทึกนำมาขูด แล้วนำไปนึ่งประมาณ 5 นาที เสร็จแล้วนำมะพร้าวที่นึ่งแล้วมาเหยาะเกลือป่นลงไปนิดหน่อย คลุกเคล้าเข้ากันให้ทั่วใส่ภาชนะเตรียมไว้

ส่วนผสมของน้ำตาล นำงาขาว-งาดำไปคั่วด้วยไฟอ่อน ๆ พอมีสีเหลืองและกลิ่นหอมก็ยกลงมาคลุกผสมกับน้ำตาลทรายที่เตรียมไว้

ต่อไปเป็นการทำ ตัวแป้ง ต้องทำน้ำผสมสีธรรมชาติที่คั้นจากพืชผักเตรียมเอาไว้ก่อน จะทำสีชมพู สีเขียว สีม่วง สีเหลือง ก็ทำน้ำบีทรูท น้ำใบเตย น้ำอัญชัน น้ำฟักทอง จากนั้นจึงนำแป้งข้าวเหนียวในปริมาณพอเหมาะเทใส่ภาชนะผสมกับน้ำสะอาดครึ่ง หนึ่ง แล้วนวดให้เข้ากันประมาณ 2-3 นาที จนแป้งเนียนนุ่ม ค่อย ๆ ใส่น้ำที่เหลือ คนจนแป้งละลายเข้ากันดี จึงใส่น้ำสีธรรมชาติสีที่ต้องการลงไปพอสมควร

ขั้นต่อไปเตรียมหม้อนึ่ง โดยใช้ผ้าโทเรหรือผ้าขาวบางผูกปากหม้อตรึงให้แน่น เจาะรูเล็กน้อยให้ไอน้ำออก ใส่น้ำ 3/4 ส่วนของหม้อ นำขึ้นตั้งไฟให้เดือดจัด เอาน้ำร้อนมาทาให้ทั่วผ้า คนแป้งให้ทั่วแล้วตักละเลงลงบนผ้าให้เป็นแผ่นกลม ปิดฝารอให้แป้งสุก (สังเกตเมื่อแป้งสุกแป้งจะพองขึ้น) ตักไส้ถั่วใส่ตรงกลางประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใช้พายแซะแป้งแล้วพับครึ่งหรือจะพับทั้งสองข้างมาปิดถั่วให้มิดก็ได้ตามถนัด แล้วใช้พายแซะขนมทั้งชิ้นขึ้นคลุกกับมะพร้าวที่เตรียมไว้ วางเรียงใส่ภาชนะ เตรียมขายคู่กับน้ำตาลผสมงาที่เตรียมไว้

เทคนิคการทำขนมถั่วแปบให้ง่ายและอร่อยนั้น เจ๊เพ็ญบอกว่า อยู่ที่การนวดแป้งด้วยน้ำอุ่น จะช่วยให้แป้งเหนียวนุ่มมากขึ้น และพายสำหรับปาดนั้นจะต้องแช่ในน้ำเสมอ เพราะถ้าใช้พายแห้ง เมื่อแซะแป้งอาจจะทำให้ขาดได้

ราคาถั่วแปบแป้งสดคุณนิ ขายกล่องละ 20 บาท มี 7 ตัว ต้นทุนประมาณ 60% ของราคา

“ถั่วแปบแป้งสด” เจ้านี้ขายทุกเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่ตลาดน้ำบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา และยังรับออกบูธออกร้านตามงานต่าง ๆ โดยติดต่อเจ๊เพ็ญได้ที่ โทร. 08-1913-8987 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งขนมพื้นบ้านที่สร้าง “ช่องทางทำกิน” ได้อย่างน่าสนใจ.
เชาวลี ชุมขำ : รายงาน / วรัญญู เหมือนเดช : ภาพ


Credit by.. http://www.dailynews.co.th/article/384/203763

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


แกงส้มปลาตะเพียน (สาน)

ถ้าถามบรรดาคอเพลงสากลรุ่นเก่าๆ คงไม่มีใครไม่รู้จัก สุดา ชื่นบาน นักร้องคุณภาพอีกคนหนึ่งของเมืองไทย ด้วยความสามารถเฉพาะตัวจึงยังอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงมาจนทุกวันนี้ และใช่ว่าคุณเม้า–สุดา จะมีความสามารถในการเป็นนักร้องนักแสดงอาชีพจนเป็นที่ปรากฏเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงของเธอได้ชื่อว่าเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่น่าเอาเป็นเยี่ยง อย่าง ทั้งประหยัด มีระเบียบ และช่างประดิดประดอย

คุณ เม้าบอกเลยว่า ถ้าคุณไม่ได้นามสกุลเดียวกับมหาเศรษฐีทั้งหลาย ก็กรุณาประหยัดกันหน่อย อย่ามีนิสัยกินทิ้งกินขว้างกันนักเลย จะได้ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” สำหรับตัวเธอที่ต้องทำมาหาเลี้ยงตัวเองมาตลอด จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียของ โดยเฉพาะเรื่องกับข้าวกับปลา อย่างเช่น ผัดผักต่างๆที่ทานเหลือจากมื้อหนึ่ง จะเก็บไว้มาทำเป็นไข่ยัดไส้สำหรับมื้อต่อไป รวมถึงมะละกอที่มาทำแกงส้มขึ้นสำรับวันนี้ คุณเม้าซื้อมาเพียงลูกเดียว แต่สามารถทำได้ถึง 3 เมนู คือแกงส้มมะละกอ ผัดไทยมะละกอ และส้มตำ

Pic_343560






กับ ข้าวกับปลาจากฝีมือคุณเม้า จะต้องประดิดประดอยจนเป็นที่เลื่องลือ โดยคุณเม้าบอกว่า เพราะเธอเป็นคนประเภท “ประดิดประดอยแดก” อาหารจึงต้องรูปสวยชวนกินไว้ก่อน อย่างเช่นแกงส้มมะละกอสานเป็นปลาตะเพียน (ยังดีที่ไม่ได้ยัดเนื้อปลาไว้ในตัวปลาที่สานอีกด้วย) และแกงจืดดอกอัญชันหรือดอกโสนยัดไส้หมูสับ เป็นต้น ซึ่งใครที่ได้มาเห็นจะหาว่าเธอเสียสติก็ตาม แต่คุณเม้าบอกว่า ทำแล้วได้อารมณ์ แถมยังได้สมาธิและมีสติที่ตั้งมั่นอีกด้วย คุณเม้ายังเป็นผู้หญิงที่มีระเบียบในชีวิตมาก จะจัดวางข้าวของอย่างเป็นระเบียบทั้งของกินของใช้ ซึ่งเธอสารภาพว่าได้รับมรดกมาจากแม่ ซึ่งเป็นคนที่จัดระเบียบชีวิตเป็นอย่างดี ทำให้ชีวิตในวัย 68 ปีของเธอขณะนี้ ที่ยังต้องทำเองหมดทุกอย่าง เวลาจะหาอะไรก็ง่าย ทำให้ชีวิตไม่วุ่นวาย และเธอจะมีการเตรียมการชีวิตไว้ล่วงหน้าตลอดด้วย อย่างเรื่องอาหารการกิน ทำไว้ครั้งเดียว แล้วใช้วิธีเก็บถนอมรักษาไว้ในตู้เย็น เมื่อจะทานในวันต่อๆไปก็นำมาอุ่นรับประทานได้เลยโดยไม่ยุ่งยาก ซึ่งคุณเม้าบอกว่า เป็นวิธีเอาตัวรอดของคน มาลองดูวิธีปรุงแกงส้มสูตรคุณเม้าบ้าง


เครื่อง ปรุงพริกแกง : พริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดขนาดกลางประมาณ 7เม็ด/กระเทียม 6–7 กลีบ/หอมแดงประมาณ 3–4 หัว/ กะปินิดหน่อย...วิธีทำ เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่มก่อน แล้วบีบน้ำออกให้หมด ก่อนนำไปโขลกกับเกลือเล็กน้อยจนพริกละเอียด จากนั้นค่อยใส่กระเทียม หอมแดง และกะปิ ลงไปโขลกด้วยจนละเอียดเข้ากัน พริกแกงส้มนี้สามารถโขลกเก็บไว้ได้ โดยแช่ตู้เย็นเขียนฉลากติดไว้ว่าเป็นน้ำพริกอะไร ทำไว้เมื่อไร


เครื่อง ปรุงแกงส้มปลาตะเพียน (สาน) : พริกแกง/มะละกอไสเป็นแผ่นบางๆแล้วมาสานเป็นรูปปลา พอสานเสร็จก็แช่น้ำไว้มันจะพองขึ้นมา/ กุ้งสด/น้ำมะขามเปียก/น้ำตาลปี๊บ/น้ำปลา...วิธีทำ 1) ตั้งน้ำให้เดือด ใส่พริกแกงลงไปละลายในน้ำ 2) ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ชิมให้ได้รสตามชอบ สำหรับน้ำแกงส้มนี้สามารถทำเก็บไว้ได้ โดยแช่แข็งไว้ เมื่อจะทานค่อยนำออกมาทีละแพ็ก แล้วมาใส่เครื่องปรุงอย่างกุ้งสดทีหลัง ซึ่งจะหั่นชิ้นเล็กๆไว้ ไม่ใส่เป็นตัวๆจะไปฆ่าปลาตะเพียนให้ไม่เด่น และแกงส้มสูตรนี้จะเป็นแบบน้ำใส จึงไม่ใส่กุ้งโขลกไปกับน้ำพริก ส่วนมะละกอสานเป็นปลาตะเพียน ก็ใส่ไปต้มกับน้ำแกง พอสุกก็ช้อนขึ้น เก็บเข้าตู้เย็นแช่แข็งไว้ได้ โดยราดน้ำแกงส้มลงไปให้มะละกอสานเป็นปลาชุ่มน้ำบ้าง จำไว้อย่างของสดถ้าแช่แข็งจะไม่ค่อยสวย จะต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยแช่แข็ง แต่อย่าต้มจนเปื่อย แค่พอสุกเท่านั้น

Credit by.. http://www.thairath.co.th/content/life/343560

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


'สปาเกตตี vs. น้ำพริกมะขาม' คู่ต่างอย่างลงตัว

น้ำพริกมะขามกับสปาเกตตี ความต่างของสัญชาติวัตถุดิบอาหารที่สามารถนำมาเข้าคู่กันได้อย่างลงตัว แถมยังเป็นเมนูห่วงใยสุขภาพ เหมาะสำหรับคนรับประทานทุกเพศทุกวัย

 ที่ จริงแล้วน้ำพริกมะขามนำมาพัฒนาเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น นำมาผัดกับข้าว  สเปรดสำหรับแซนด์วิช หรือซอสสำหรับราดบนปลาทอด แต่วันนี้ขอลองนำมาเป็นซอส เพสโต้ผัดกับสปาเกตตี้ ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นเล็กยาว ซอสจะเคลือบอยู่บนเส้นได้ทั่วถึง ทำให้เวลารับประทานได้รสชาติจัดจ้านในทุกคำ เติมความหรูหราทันสมัยให้จานนี้ด้วยสเต๊กกุ้งตัวโตราดด้วยซอสคาราเมล เพิ่มลูกเล่นอีกนิดด้วยไข่กุ้งรสเค็มนิดๆ ได้เนื้อสัมผัสกรุบกรุบเวลารับประทาน เพียงเท่านี้ก็อร่อยครบรสทั้งยังดีต่อสุขภาพด้วยสรรพคุณทางยาจากมะขามอ่อนใน น้ำพริก ซึ่งมะขามมีสรรพคุณทางยาช่วยระบาย แก้ท้องผูก ช่วยขับลม และแก้ไอ ขับเสมหะได้อีกด้วย


Pic_344506



สปาเกตตีน้ำพริกมะขามกับสเต๊กกุ้งคาราเมล

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)


เส้นสปาเกตตีลวกสุก        200    กรัม
กุ้งแม่น้ำหรือกุ้งทะเลตัวใหญ่        4    ตัว



ไข่กุ้ง                1    ช้อนโต๊ะ
ผักสลัดรวม            1    ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับย่างกุ้ง
ส่วนผสมน้ำพริกมะขาม
กุ้งขาวขนาดกลางปอกเปลือกสับหยาบ    6    ตัว
มะขามอ่อนล้างสะอาด ปอกเปลือกและซอยหยาบ    ½    ถ้วย
พริกจินดา            4    เม็ด
หอมเล็ก                3    หัว
น้ำตาลปี๊บ            2    ช้อนโต๊ะ
เกลือ                ½    ช้อนชา
กะปิ                1    ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                1    ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด        2    ช้อนโต๊ะ



ส่วนผสมซอสคาราเมล
น้ำตาลปี๊บ            ½    ถ้วย
เกลือป่น                ½    ช้อนชา
น้ำเปล่า                2    ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1.  ทำน้ำพริกมะขามโดยโขลกมะขามอ่อน  พริกจินดา หอมเล็ก และเกลือจนละเอียดปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมดผสมให้ เข้ากันชิมให้ได้รสเปรี้ยวนำ เค็มและหวานตาม  จากนั้นตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันพืช เติมกุ้งสับ ตามด้วยน้ำพริกที่โขลกไว้ ผัดจนน้ำพริกสุกหอม พักไว้



2.  ทำซอสคาราเมลโดยใส่ส่วนผสมทั้งหมดตั้งไฟ เคี่ยวจนซอสข้นขึ้น พักไว้ จากนั้นนำกุ้งมาผ่าครึ่ง ย่างบนกระทะด้วยน้ำมัน เล็กน้อยจนสุกได้ที่ 
3. ตั้งไฟกลาง ใส่น้ำพริกมะขามลงในกระทะพอมีกลิ่นหอม เติมเส้นสปาเกตตีลวกสุกผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ โรยไข่กุ้งลงไป เคล้าให้เข้ากัน
4. จัดเสิร์ฟเส้นสปาเกตตีที่ผัดไว้ วางกุ้งย่างราดด้วยซอสคาราเมล เคียงด้วยผักสลัดรวมพร้อมเสิร์ฟ

Tip


สามารถใช้เส้นพาสต้าชนิดอื่นแทนได้ เช่น เฟตตูชินี ลิงกวินี และฟูซิลี เป็นต้น



ภาพ/ข้อมูล : นิตยสาร Health & Cuisine


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ดูด เจาะ ไข่

ดูด เจาะ ไข่
Innovation Ice Cream


เมืองร้อนอย่างบ้านเรา อาหารที่ถูกปากคนไทยคงจะหนีไม่พ้นไอศครีม ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด อากาศที่แสนอบอ้าวเช่นนี้ ก็ไม่เคยเปลี่ยนให้เย็นขึ้น ผลิตภัณฑ์ไอศครีมจึงเป็นธุรกิจของหวานที่ตอบโจทย์คนไทยได้ดีที่สุด
คุณมรุต ชโลธร เจ้าของกิจการ บริษัท อินโนเวชั่น ฟู้ด แพคเกจจิ้ง จำกัด พูดถึงนวัตกรรมไอศครีมที่เกิดขึ้นใหม่ในเมืองไทยอย่างไอศกรีมแบรนด์ i-maru ที่เขาได้ทำหน้าที่ดูแลทุกกระบวนการผลิต รวมถึงวางแผนการทำมาร์เก็ตติ้ง จึงทำให้ลูกค้าจากที่เคยเป็นผู้บริโภคให้ความสนใจจนกลายเป็น ‘franchisee' ถึง 50 ราย ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
"ก่อนที่เราจะผลิตโปรดักส์ใหม่ๆ แต่ละตัวออกไป เราได้ทำการรีเสิร์ชเบสจากสาขาจตุจักร เพื่อเป็นจุดทดลองเพราะที่ตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นสถานที่ที่มีคนหลากหลายไล ฟ์สไตล์ ทำให้เราได้ข้อมูลอย่างทั่วถึง โดยตัวรสชาติผมค่อนข้างมั่นใจ ถ้าไม่อย่างนั้นยอดขายคงไม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องถ้าเราจะพึ่งแค่ความแปลกใหม่ เพียงอย่างเดียว"
i-maru สามารถดึงดูดความสนใจโดยใช้ ‘กับดักทางความคิด' ให้เกิดความสงสัยด้วยลูกเล่นจากวิธีการทานที่แปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากการทานไอศครีมแบบเดิม ที่จะมีเพียงแค่ โคน, ถ้วย, ไม้, ให้กลับกลายเป็นแฟชั่นและความสนุก ด้วยรูปลักษณ์ชวนสงสัยในแบบ ‘ไข่แช่แข็ง' ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว คนยุคเก่าจะรู้จัก ‘ไอศครีมลูกโป่ง' โดยเอาน้ำหวานบรรจุ แต่ด้วยตัวลูกโป่งไม่ได้ทำมาเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์อาหาร จึงทำให้ค่อยๆ จางหายไป ส่วนยุคต่อมาคือยุค ‘ไอศกรีมโลนลี่ป๊อป' ใช้วิธีการทานด้วยการหักแล้วดูด แต่เนื่องจากพลาสติกมีสารปนเปื้อนก็ทำให้หมดไป ในที่สุดนวัตกรรมการทานไอศครีมจึงเหลือเพียงไม่กี่รูปแบบเท่านั้น
"ความตั้งใจของผมมีพื้นฐานมาจาก 4 ปีที่แล้ว สินค้าเกษตรล้นตลาด จึงตั้งใจพัฒนาทุเรียนให้อยู่ในรูปแบบแช่แข็ง ผมต้องการทำไอศครีมผลไม้ 100% ที่เป็นรูปไข่ เราก็เลือกบรรจุภัณฑ์ว่ามันสามารถเป็นแบบไหนได้บ้าง หลังจากทดลองมากว่า 2 ปี สรุปแล้วยางคือคำตอบที่ดีที่สุด มีคุณสมบัติการยืดหยุ่น สามารถสร้างลูกเล่นได้หลากหลาย และเราใช้ยางชนิดเดียวกับจุกขวดนมเด็กทารก สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ อาจจะช้ากว่ากระดาษแต่ก็เร็วกว่าพลาสติก"
ไอศครีม i-maru มี 2 โปรดักส์ให้เลือก ชนิดแรกคือ mi-lu-ku จุด เด่นใช้วัตถุดิบนมฮอกไกโด จากประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความกลมกล่อมของนมวัว และวิธีการทานที่แตกต่างด้วยการดูด ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ว่า ‘นมพุ่งปรี๊ด' ในรูปแบบดูดจากเต้านมวัว ชนิดที่สองคือ tamago เป็นไอศกรีมผลไม้ 100% มีทั้งหมด 2 รสชาติ ทุเรียนหมอนทอง และ มะม่วงน้ำดอกไม้ วิธีการรับประทานคือการใช้ไม้เจาะ ผลิตภัณฑ์ที่ห่อหุ้มก็จะหลุดออกเหมือน ‘ไข่แตกโพละ'
"นอกจากโปรดักส์ที่มีอยู่ในตอนนี้แล้ว อนาคตผมยังอยากเพิ่มความแปลกใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งด้านรสชาติใหม่และรสชาติเก่า กลยุทธ์แรกเรามีการปรับหมุนเวียนรสชาติ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจ ส่วนกลยุทธ์ที่ทำซ้อนเข้าไปคือ ในแต่ละจังหวัดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในแต่ละที่ เราจะทำรสชาติเพื่อรองรับสถานที่แห่งนั้น เช่น หัวหิน เราจะทำรสชาติ ‘เบียร์สับปะรด' ซึ่งจะมีเฉพาะหัวหิน หรืออย่างที่ mansion seven เป็นที่แฮงเอาต์ของคนกรุงเทพฯในระดับหนึ่ง เราก็จะมีรสชาติ ‘วอสก้ามะนาว' เป็นกลยุทธ์เรื่องรสชาติที่สอดคล้องความเป็นยูนีคของแต่ละสถานที่ไว้ด้วย"
ด้วยสูตรที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเองจากวิธีการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าคุณมรุตจะจบวิศวะ แต่เขาถือว่าคือข้อดี จากที่ผู้ใหญ่เคยบอกเสมอควรทำในสิ่งที่ตนเองรู้ แต่ถ้าเราหัดคิดนอกกรอบและคิดอยู่เสมอว่าถ้าเราไม่รู้ เราก็จะรู้มากขึ้น แต่ถ้าเรารู้แล้วไม่ขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม สินค้าทั่วโลกก็จะไม่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน

"การที่ผมไม่ได้อยู่ในวงการ ไอศกรีม ผมจึงไม่ได้ถูกตีกรอบว่าส่วนผสมทั้งหมดต้องใช้กี่เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เราสามารถคิดได้อย่าง 360 องศา และคิดนอกกรอบได้เสมอ"




BE Smart
เรื่อง : รัตติกาล พูลสวัสดิ์ / ภาพ : สุตสาย สังหาร



credit by : http://women.sanook.com/936019/


Read More...


ลูกชิ้น อีกหนึ่งช่องทางสำหรับคนสู้ชีวิต

ลูกชิ้นหมู
ลูกชิ้น หมู ไก่ เนื้อ ปัจจุบันมีขายอยู่เป็นจำนวนมากในทุกๆพื้นที่ก็ว่าได้ แต่จะหาลูกชิ้นอร่อยๆโดยปราศจากการผสมแป้งในอัตราเยอะๆนั้นหายาก เพราะพ่อค้า แม่ขาย มักจะหวังผลกำไรอยู่ วันนี้มีสูตรทำลูกชิ้นหมูมาฝาก ใครจะดัดแปลงเป็นลูกชิ้นไก่ หรือลูกชิ้นเนื้อก็ได้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนผสม
1.เนื้อหมู1กก.
2. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือ 2 ช้อนชา
4. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
6. แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ
7. ผงฟู 1 ช้อนชา
8. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
9. พริกไทยบดหยาบๆ 1-2 ช้อนชา

วิธีทำ
นำเนื้อหมูสดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อที่จะสามารถนำใส่เครื่องบดได้ง่ายๆ จากนั้นก็นำมาบดให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น(ถ้าบดยากก็เติมน้ำปลาลงไป2ช้อน โต้ะ) ใส่แป้งข้าวโพด และผงฟู บดปั่นให้เข้ากันอีกรอบ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย พริกไทย น้ำมันพืช เกลือ บดปั่นให้เข้ากันหลายๆรอบเพื่อเครื่องปรุงจะได้เข้าไปในเนื้อลูกชิ้น เพื่อเวลาปั้นลูกชิ้นจะเด้ง หลังจากบดได้ที่แล้วก็นำใส่ในชามแล้วแช่ช่องฟรีชให้เนื้อที่บดได้รับความ เย็นจนทั่วประมาณ1ชั่วโมงครึ่ง
หลังจากนั้นก็นำหม้อมาต้มน้ำให้เดือด แล้วหรี่ไฟอ่อนๆ นำเนื้อที่แช่ไว้ในช่องฟรีชออกมา ใช้ช้อนตักเนื้อใส่มือแล้วบีบให้เนื้อบดออกมาระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งของ เรา ใส่ลงในหม้อต้มน้ำร้อนที่เตรียมไว้ จากนั้นเตรียมน้ำแข็งแช่น้ำให้เย็นใส่ภาชนะไว้1ถ้วย เมื่อลูกชิ้นลอยขึ้นมาจากหม้อต้มน้ำแสดงว่าลูกชิ้นนั้นสุกแล้ว เราตักไปแช่ในน้ำเย็นทันทีเพื่อให้ลูกชิ้นกรอบและเด้ง เป็นอันเสร็จเรานำลูกชิ้นใส่ถุงเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อนำไปใช้ได้ในการประกอบ อาหารได้เลย



ทำลูกชิ้นหมู ไม่ยากอย่างที่คิด ไว้รับประทานเอง หรือ เป็นช่องทางในการสร้างรายได้


Credit by..
แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


‘เปิดร้านกาแฟ’ ต้องอย่างไร?..ถึง‘ยั่งยืน’

 ช่องทางทำกิน” วันนี้ยังคงเก็บตกกิจกรรมครั้งที่ 6 ตามโครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” ฟรี!! ซึ่งคณะผู้บริหารเดลินิวส์จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนทางด้านอาชีพ โดยกิจกรรมครั้งที่ 6 นี้ทางเดลินิวส์จัดฝึกอบรมการทำ “ธุรกิจร้านกาแฟ” โดยร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด อีกครั้ง...
                             
การฝึกอบรมครั้งนี้ ดร.พิสิฐ เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์เดลินิวส์, คุณนนท์ รุจิรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดหนังสือพิมพ์เดลินิวส์, คุณบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ซีพี ออลล์, คุณนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี รีเทลลิงค์ และทีมงานของทุกฝ่าย คอยให้การต้อนรับดูแลผู้เข้าอบรม 50 คนอย่างใกล้ชิด โดยคุณนริศซึ่งสันทัดกรณีธุรกิจกาแฟให้เกียรติเป็นวิทยากรให้ความรู้ผู้เข้า อบรมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ

“ทำร้านกาแฟอย่างไรให้ยั่งยืน?” นี่เป็นประเด็นสำคัญ โดยคุณนริศระบุว่า ธุรกิจกาแฟขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน ด้วยตลาดที่ใหญ่ก็ทำให้คนหันมาสนใจธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยากเปิดร้านกาแฟเพราะมองว่ากำไรดี, คิดว่ามีอิสระ เปิด-ปิดเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจ, อยากเป็นเจ้าของกิจการ, มีสถานที่อยู่แล้ว หรือเปิดเพราะอยากมีที่รับรองเพื่อนก็ยังมี

“อยากให้ข้อมูลว่าจากการสำรวจพบว่าร้านกาแฟท้องถิ่นมีอัตรารอด 20% มักพบปัญหาการลาออกบ่อยของพนักงาน หลายคนเริ่มต้นโดยขาดความรู้ ไม่มีระบบ ทำให้ตกอยู่ในสภาพรอดก็ไม่ได้-ตายก็ลำบาก” นี่เป็นคำเตือนจากกูรูผู้เชี่ยวชาญธุรกิจร้านกาแฟ ทว่า...การจะสร้างตัวจากธุรกิจร้านกาแฟนั้นก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

การทำธุรกิจร้านกาแฟสดนั้น หลัก ๆ ที่จะต้องคำนึงถึง ประกอบด้วย... การตลาด ผู้เปิดร้านกาแฟต้องวิเคราะห์ว่า ตลาดอยู่ไหน ใครคือลูกค้า มีขนาดเท่าไร นอกจากนี้ต้องทราบ พฤติกรรมลูกค้า อุปนิสัย ความชื่นชอบ วิถีชีวิต เพื่อจะทราบว่าสินค้าและบริการแบบใดตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย และต้องพิจารณา ราคาที่คุ้มค่าและความเหมาะสม ด้วยว่าสำหรับลูกค้าแล้ว ควรอยู่ที่อัตราเท่าไร และรู้ว่า ทำอย่างไรลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่ ช่องทางที่สะดวกในการเข้าถึงสินค้าและบริการ ก็ต้องคิดว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องใช้กลยุทธ์และยุทธวิธีอะไรบ้าง??

“การเลือกทำเลก็สำคัญมาก ขณะที่กลยุทธ์เรื่องการโฆษณาและส่งเสริมการขาย ก็ควรใช้ให้พอดี เหมาะสม ไม่พร่ำเพรื่อ ทำเท่าที่จำเป็น และต้องมีเหตุผลสนับสนุนทุกครั้งที่จะทำ” เป็นสิ่งที่วิทยากรเน้นย้ำ

สำหรับเกณฑ์การพิจารณาเลือกทำเล มีดังนี้... ทำเลที่เลือกต้องสอดคล้องกับแนวคิดธุรกิจ, เลือกพื้นที่ค้าขายดี, เลือกจุดที่ต้องการ, รวบรวมข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และตัดสินใจเลือกทำเลร้านให้เหมาะกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน

อาจฟังดูยาก แต่ย่อยให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ... ต้องเป็นทำเลที่คนเห็นร้านได้ง่าย, ภาพลักษณ์ร้านดึงดูดน่าสนใจ, เป็นย่านที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหนาแน่นเพียงพอ, ที่ตั้งร้านอยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางกิจกรรมต่าง ๆ, ลักษณะกายภาพร้านและทำเลต้องส่งเสริมกันทางบวก เช่น มีที่จอดรถ สะดวกในการเข้าร้าน เป็นต้น





ในส่วนของตัวสินค้า คือ “กาแฟ” การสร้างสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มีข้อพิจารณาคือ... รสชาติและความสม่ำเสมอของรสชาติ มีการรับประกันคุณภาพ เช่น ความสดของเมล็ดกาแฟและวัตถุดิบอื่น ๆ โดยร้านที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีสินค้าขายดี และรวมถึงมีความหลากหลายด้วย
เรื่อง การบริการ ที่ก็สำคัญ มีข้อพิจารณาคือ... บริการที่ลูกค้าคาดหวัง เช่น วิธีรับออร์เดอร์, เวลาในการเตรียมสินค้า, เวลารอคอยสินค้า, ลักษณะการเสิร์ฟ, น้ำดื่มและน้ำแข็งสะอาด ตลอดจนองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น เวลาทำการ, เมนูแนะนำ, ป้ายแสดงราคา, ห้องน้ำ, บริการเสริมต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ไวไฟอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ขณะที่ การจัดร้าน บรรยากาศภายในและภายนอกร้าน ก็เป็นสิ่งที่ผู้ทำธุรกิจร้านกาแฟจะต้องให้ความสำคัญเช่นกัน

วัสดุอุปกรณ์ ประกอบการขายสำหรับร้านกาแฟ โดยทั่วไปก็จะประกอบด้วย เครื่องชงกาแฟ, เครื่องบด, อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ, ตู้แช่, เมล็ดกาแฟ, แก้ว, ช้อน, ถุง, น้ำตาล, ไซรัป, ผงช็อกโกแลต, นม, หัวเชื้อ ฯลฯ และลงลึกอีกนิดกับอุปกรณ์ร้านกาแฟ ที่จำเป็นก็เช่น แก้วชอท, แก้วตวง 8 ออนซ์, ช้อนตักฟองนม, ช้อนคนส่วนผสม, เทอร์โมมิเตอร์, นาฬิกาจับเวลา, แก้ว 16 ออนซ์, แก้วร้อนคาปูชิโน, กระบะเคาะกาก, เหยือกตีฟองนม, แปรงปัดผงกาแฟขนาดเล็กและขนาดใหญ่, ขวดโรยผงโกโก้, แทมเปอร์ส, ขวดบีบซอส, หลอดกาแฟ

ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจกาแฟใหม่ ๆ หากเป็นร้านขนาดที่คาดว่าจะมีอัตราการชงกาแฟต่อวัน 50-150 แก้ว อาจใช้เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบดขนาด 1 หัวชงก็ได้ แต่ถ้าหากเป็นร้านขนาดใหญ่ที่มีอัตราการชงกาแฟต่อวันประมาณ 250-500 แก้ว ควรจะเลือกใช้เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบดขนาด 2 หัวชง จึงจะมีความเหมาะสม ขณะที่ในส่วนของสูตรกาแฟ ณ ที่นี้ก็มีมาบอกกันบางส่วน แต่กับสูตรกาแฟ-การชงกาแฟนั้น ควรต้องหาแหล่งเรียนรู้ ต้องฝึกฝน จึงจะชงกาแฟได้รสชาติดี

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจร้านกาแฟนั้น ยังสามารถสร้างรายได้จากสินค้าเสริมต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น ชา นม น้ำผลไม้ เบเกอรี่ สแนค ของหวาน บัตรเติมเงินมือถือ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดในการเปิดร้านคือ ใบอนุญาต ข้อกำหนดข้อปฏิบัติของภาครัฐและชุมชนที่ตั้งร้าน เช่น การกำจัดขยะ และของเสียต่าง ๆ เป็นต้น

…ก็เป็นโดยสรุป โดยสังเขป เกี่ยวกับการทำ “ธุรกิจร้านกาแฟ” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” เก็บตกจากกิจกรรม “Coffee Rich รวยรินกลิ่นกาแฟ รับทรัพย์แน่ แค่อบรม” กิจกรรมครั้งที่ 6 ของโครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” มานำเสนอ

ผู้ที่สนใจธุรกิจนี้ก็ลองพิจารณากันดู.
ทีมช่องทางทำกิน : รายงาน
สันติ มฤธนนท์-ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

...........................................................................................
ส่วนผสมกาแฟ "6 สูตร"
กาแฟ “แมคเคียโต้เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์ กาแฟ “ลาเต้เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์, นมสดเย็นสำหรับราด 1 ออนซ์
กาแฟ “ลาเต้ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์, นมสดร้อน 4 ออนซ์ และฟองนมสด
กาแฟ “คาปูชิโน่เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์ และฟองนม กับผงโกโก้
กาแฟ “คาปูชิโน่ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์, นมสดร้อน 2 ออนซ์, ฟองนมสดร้อน 2 ออนซ์
กาแฟ “เอสเปรสโซ่ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์.



แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.