สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี 04/2014 - 05/2014
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ครีมสโคน (Cream Scones)

สโคนสูตรนี้ สามารถเปลี่ยนเป็นสโคนแบบของคาวก็ได้นะคะ ลองใส่เชดด้าชีสขูดลงไปในส่วนผสมแห้ง หรือจะใส่ chive หรือมะเขือเทศอบแห้งก็ได้ค่ะ ก็จะได้สโคนแบบหม่ำเป็นของทานเล่นแบบคาวๆ อร่อยไปอีกแบบ
   
      สวัสดีค่ะทุกท่านที่ (หลงมา) อ่าน (อีกแล้ว...ฮี่ ฮี่)
     วันนี้ขอนำเสนอ สูตรขนมอบแบบ
     ง้ายยยยยยยย ง่ายยยยยยยยย (แต่ทำไมเค้าขายกันแพงจัง) ทำเสร็จภายในเวลาไม่น่าจะเกินชั่วโมง (รวมเวลาเก็บล้างถ้วยชามด้วยนะคะ... ต้องทำเอง ล้างเอง เก็บเองถึงจะเหมาะค่ะ) ทานร้อนๆ คู่กับแยมรสที่ชอบ จิบกาแฟร้อน หรือชาร้อนไปด้วย อืมมมมมมม...สุขี สุขี
     นั่นก็คือ...ครีมสโคนค่า!!!!!
     มาเริ่มดูกันที่ส่วนผสมกันก่อนนะคะ สูตรนี้ทำออกมาแล้วจะได้สโคนที่ค่อนข้างนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งติดคอค่ะ

 
     
     วิธีทำ
     1. อุ่นเตาอบที่ 1900c ไฟบนล่างเลยนะคะ อุ่นตอนนี้ พอทำสโคนเสร็จ เตาร้อนพอดี
     2. เอาส่วนผสมแห้งทั้งหมดคนให้เข้ากันในอ่างผสม (มี แป้ง/ผงฟู/เกลือ/น้ำตาลทรายแดง)

     
     3. ตอกไข่ผสมลงไปในวิปปิ้งครีม (และวานิลลา ถ้าจะใช้นะคะ) คนให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นก็ได้นะคะ ถ้าวันที่ทำอากาศร้อนหน่อย

 
     
     4. ใส่เนยจืดตัดชิ้นเล็กลงในอ่างผสมของแห้ง ใช้ pastry cutter ตัดๆๆๆๆ ให้เนยเป็นชิ้นเล็กๆ รวมกับแป้งค่ะ (ถ้าไม่มี pastry cutter ใช้มีด 2 เล่ม ตัดกากบาทไขว้กันก็ได้ค่ะ) แป้งกับเนยที่ผสมกันดี จะมีลักษณะเป็นคล้ายๆ แป้งขนมปังกรอบชิ้นจิ๋วๆๆๆๆๆ นะคะ พยายามรีบทำรีบตัด ก่อนที่เนยจะละลายค่ะ

     
     5. เทส่วนผสมของครีมกับไข่ไก่ลงในส่วนผสมแป้งกับเนยที่ทำไว้เมื่อกี้ คนให้เข้ากันพอจับตัวเป็นก้อนพอนะคะ ไม่ต้องให้เนียนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แบบทำเค้ก

     
     6. เทส่วนผสมลงที่ถาดที่จะใช้อบ (ถ้าไม่มีแผ่นซิลิโคน ก็ใช้กระดาษไขรองถาดได้เหมือนกันค่ะ) ใช้มือกอบส่วนผสมทั้งหมดให้รวมกัน กดเบาๆ ให้ได้รูปอย่างที่ต้องการ ความหนาประมาณ Ω นิ้วกำลังสวยค่ะ (หนากว่านั้น อ้าปากงับไม่ไหวนิÖเพราะเดี๋ยวเข้าอบมันจะพองขึ้นมาอีกนิดนึงค่ะ)
     หนนี้ทำเป็นรูปวงกลมธรรมดานะคะ เพราะเสียดายเศษเวลาใช้พิมพ์กลมตัดน่ะค่ะ (ความงกเป็นเหตุ ฮ่าๆ)
     7. ใช้มีด หรืออะไรก็ได้ที่หาได้แถวๆ นั้น ตัดเป็นชิ้นๆ สามเหลี่ยม จะกี่ชิ้นก็แล้วแต่ค่ะ แต่อ้วนๆ อวบๆ หน่อยก็เต็มปากเต็มคำดี
     8. ทานมสดด้านบน (หรือจะไม่ทาก็ได้นะคะ แต่ถ้าทา ผิวด้านบนจะออกน้ำตาลหน่อยๆ ค่ะ)
     9. รีบหันตัวส่งขนมบนถาดเข้าเตาอบทันที อบที่ไฟ 1900c บนล่าง ประมาณ 18 นาทีค่ะ (แต่ถ้าจะให้ดี อย่าไปไหนค่ะ เฝ้าหน้าเตา เพราะเตาอบแต่ละตัวของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน เฝ้าดูไว้จะดีกว่าค่ะ)
     อบจนขนมเหลืองสุก (เหลืองมากเหลืองน้อยแล้วแต่ชอบนะคะ แต่ถ้าเหลืองมากออกไปทางสีน้ำตาล ขนมอาจจะแห้งเกินไปค่ะ)


     10. เอาออกจากเตา ผึ่งให้อุ่นจัดๆ ทานได้เลยค่า ไม่ต้องรอให้เย็น เสร็จแล้วค่า วู้ฮู้ (เห็นมะคะ ง่ายออก)

 
     เห็นมั้ยคะว่าไม่ยากเลย ทำเองง่ายๆ ทานที่บ้าน ไม่ต้องเสียตังค์ชิ้นละแพงๆ ไปซื้อเค้า (แต่จะซื้อก็ได้นะคะ ไม่ว่ากัน ฮี่ ฮี่ ) ถ้าท่านผู้อ่านลองทำแล้วเป็นยังไง ลองส่งรูปมาให้ดูมั่งก็ได้นะคะ ส่งมาที่กองบ.ก. แล้วบอกว่า ìผลงานจากสูตรครัว Indyî หรือมีคำถามอะไร ในเรื่องของสโคน มีปัญหาตรงไหน ถามมาได้ค่ะ จะพยายามตอบให้ได้ (อย่างสุดความสามารถค่า)
     ตอนนี้ขออนุญาตไปหม่ำสโคนในรูปก่อน
     นะคะ...ห้อมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม หอมมมมมมมมมมม

Read More...


ซุปเห็ดข้นร้อนๆ

ลุกขึ้นไปค้นหาวิธีทำซุปเห็ด แบบเห็ดๆๆๆๆๆๆๆๆ มีแต่เห็ดมาลองทำดูค่ะ ออกมาหอมมมมม...กลิ่นเห็ด มีเนื้อเห็ดเต็มปากเต็มคำ หอมๆ เค็มๆ มันๆ ทานกับขนมปังปิ้ง สุดยอดเลยค่ะ

          
          สวัสดีอีกทีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน พักนี้อากาศแปรปรวนนะคะ ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ จะว่าไปช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีเห็ดกระดุมขาวออกขายค่อนข้างเยอะ หาซื้อได้ง่ายกว่าช่วงอื่นๆ ของปี งั้นเรามาทำซุปเห็ดข้นร้อนๆ ทานกันดีมั้ยคะ?
          เมื่อก่อนโน้นนนนนนนน ไปร้านอาหารที่มีอาหารพร้อมสลัดบาร์ทีไร ต้องไปวิดซุปเห็ดข้นของเขามาทานทุกครั้งไป ด้วยความที่เป็นคนชอบทานเห็ดทุกประเภท ไม่ว่าจะเห็ดของบ้านเรา หรือเห็ดของบ้านใครเขา (ฮี่ ฮี่) จะดำ หรือขาว หรือเทา ส่งมาได้เลยค่ะ ชอบทานทุกชนิด ระหว่างทานไปนั่งเขี่ยหาเห็ดในถ้วย (- - -) ไป ม่ายเห็นมีเลย ฮืออออออ...มันต้องเป็นซุป (กลิ่น) เห็ดแน่ๆ เลย เลยลุกขึ้นไปค้นหาวิธีทำซุปเห็ด แบบเห็ดๆๆๆๆๆๆๆๆ มีแต่เห็ดมาลองทำดูค่ะ ออกมาหอมมมมม...กลิ่นเห็ด มีเนื้อเห็ดเต็มปากเต็มคำ หอมๆ เค็มๆ มันๆ ทานกับขนมปังปิ้ง สุดยอดเลยค่ะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาร้านอาหารที่ว่า ไม่ได้ตังค์เราแล้ววววววววววววววววววว เย้! : D
          มาดูส่วนผสมและวิธีทำง้ายง่ายกันดีกว่า

 
          
          วิธีทำ
          1. หั่นเห็ดให้เป็นชิ้นไม่ต้องเล็กมากก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวเราจะปั่นอยู่ดี
          2. สับหอมหัวใหญ่ และเอาลงผัดกับเนยในหม้อให้หอมหัวใหญ่สุก ใส (อย่าให้มีสีเข้มนะคะ พอให้ใสๆ พอ)

 
          
          3. ใส่เห็ดที่หั่นไว้แล้ว เติมเกลือเล็กน้อย ผัดให้สุกนิ่ม (เห็ดจะคายน้ำออกมาค่อนข้างเยอะนะคะ เพราะเกลือจะเป็นตัวเร่งให้เห็ดคายน้ำ แต่น้ำที่ว่าแหละค่ะ ที่หอมมมมมม มากๆ) ปล่อยให้เดือดประมาณ 4-5 นาที โรยแป้งอเนกประสงค์ลงผัดให้สุก คนให้ทั่วเพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน เติมน้ำลงไป ตั้งให้เดือดอีกครั้ง

         
          4. ยกลงจากเตา เติมนมสดและวิปปิ้งครีมทันทีตอนที่ยังร้อน

          
          5. เทส่วนผสมที่ผัดแล้วเพื่อปั่น (ที่บ้านมีที่ปั่นแบบมือถือค่ะ แบบที่จุ่มลงไปในหม้อแล้วปั่นได้เลย) เนื้อซุปจะข้นจากทั้งตัวเห็ดเอง และแป้งที่เราผัดไว้ค่ะ
          6. ปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดละเอียดเข้ากันดี ชิมรส เติมเกลือและพริกไทยเพื่อให้ได้รสที่ชอบ (ถ้าใช้น้ำซุปให้ระวังเรื่องเกลือนิดนะคะ เพราะในน้ำซุปเองก็มีรสชาติของตัวเองอยู่แล้วค่ะ)

         
          7. ตักใส่ชามเสิร์ฟ โรยด้วยวิปปิ้งครีมได้อีกเล็กน้อยค่ะหากชอบ
          เรียบร้อยค่ะ ซุปเห็ดข้นทำเอง ง่ายใช่มั้ยคะ อร่อยด้วยค่ะ หอมมมมมมม...เห็ด เนื้อซุปเนียนๆ ทานกับขนมปังปิ้งร้อนๆ 1 แผ่น และพอทานซุปเกือบหมด ก็ฉีกขนมปังที่เหลือเช็ดถ้วยได้เลยค่ะ อิ่มมมมมมมมม อุ่นนนนนน อร่อยยยย ค่า : D เจอกันใหม่ฉบับหน้านะคะ ขอบพระคุณค่า


Read More...


‘เชอร์เบทลูกหว้า’ ทำกินง่าย...ทำขายก็ดี!


 ท่ามกลางอุณหภูมิที่กำลังเพิ่มองศาขึ้นทุกขณะ หลายคนอาจมีรูปแบบคลายร้อนต่างกัน บ้างก็นึกถึงทะเล หรือไม่ก็เครื่องปรับอากาศเย็น ๆ เพื่อนอนแช่ให้ชุ่มฉ่ำปอด และหนึ่งในวิธีฮิตติดท็อปที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การหาของกินเย็น ๆ ใส่ท้องเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย วันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลวิธีคลายร้อนมานำเสนอ กับเมนูแปรรูปผลไม้หน้าร้อนอย่างเช่น “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” อีกสูตรพิเศษของ คณะคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการมาให้พิจารณากัน...

ผู้ถ่ายทอดสูตร “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” เป็นนักศึกษาสาวจากสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี รุ่ง กัทรา ชาวแพรกน้อย, วิไลลักษณ์ ศิริรุ่ง เรืองกุล และ อาภาวรรณ จันทาบ ควบคุมดูแลโดย ผศ.มาริน สาลี อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรมศาสตร์ฯ อธิบายถึงที่มาของสูตรดังกล่าวว่า “เชอร์เบท” เป็นไอศกรีมอีกแบบหนึ่ง ที่มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ นํ้าตาล นํ้าผลไม้ และเนื้อผลไม้ สาว ๆ ยุคใหม่จะชอบกินไอศกรีมชนิดนี้ เพราะมีส่วนผสมของนมเพียงเล็กน้อย หรืออาจไม่มีเลย ทำให้ไม่อ้วน จึงคิดใส่ไอเดียความ    เป็นไทยลงไปในไอศกรีมเชอร์เบท ด้วยการนำเอาผลไม้ไทยอย่าง “ลูกหว้า” มาแปรรูป เพื่อทดแทนการนำเข้าผลไม้จาก  ต่างประเทศ...

“ปกติลูกหว้าจะนำไปทานกันสด ๆ หรือไม่ก็นำไปแปรรูปเป็นไวน์ จึงคิดเอาลูกหว้าไปแปรรูปทำเป็นไอศกรีมเชอร์เบท เนื่องจากลูกหว้าเป็นผลไม้ไทยที่หาได้ง่าย ราคาถูก และยังมีคุณประโยชน์กับสรรพคุณทางยา ช่วยแก้โรคเบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วง รวมถึงลดการจับตัวของลิ่มเลือด ที่สำคัญคือ ยังไม่มีการแปรรูปเป็นไอศกรีม จึงคิดที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ชนิดนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ชื่นชอบไอศกรีมรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานฝาดนิด ๆ ตามธรรมชาติด้วย”

อุปกรณ์ มีเครื่องปั่นผลไม้, เครื่องทำไอศกรีม, กะละมัง และเครื่องไม้เครื่องมืออื่น ๆ จากในครัว
ส่วนผสม มีเนื้อลูกหว้า 375 กรัม, เจลาตินแผ่น 2 แผ่น, นํ้าตาลทรายขาว 250 กรัม, นมผง 15 กรัม, นํ้าสะอาด125 กรัม, นํ้ามะนาว 44 กรัม หรือ 4 ช้อนโต๊ะ และนํ้าแข็ง 100 กรัม
ขั้นตอนการทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า”

เริ่มจากนำเนื้อลูกหว้าสดที่เตรียมไว้ใส่หม้อสเตนเลส เติมนํ้าตาลทราย นมผง และนํ้าสะอาดลงในหม้อ จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อน ๆ ทำการคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตีประมาณ 5 นาที ไม่ต้องรอให้เดือด เพราะจะทำให้สีของลูกหว้าเปลี่ยน พอนมผงและนํ้าตาลทรายละลายดีแล้วยกลงจากเตา นำเจลาตินแผ่นที่เตรียมไว้ใส่ลงไปคนให้ละลาย ปล่อยทิ้งให้ส่วนผสมเย็น

เมื่อส่วนผสมเย็นดีแล้ว ใส่นํ้ามะนาวที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อเพิ่มวิตามินซี และทำให้เกิดความเปรี้ยว จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นให้เนื้อเนียน โดยใช้ความเร็วปานกลาง ประมาณ 10 วินาที แล้วเทใส่ภาชนะพักไว้สักครู่

นำนํ้าแข็งที่เตรียมไว้มาปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วนำส่วนผสมลูกหว้าที่ปั่นไว้เมื่อครู่เทลงในเครื่องปั่น ปั่นรวมกันอีกรอบเพื่อให้นํ้าแข็งกับส่วนผสมเข้ากันดี ปั่นให้เนื้อละเอียดเนียนเหมือนนํ้าแข็งปั่น ลักษณะสีสม่ำเสมอนวลสวย (ทั้งนี้ หากนำส่วนผสมที่ทำไว้ไปแช่แข็ง ประมาณ 1-2 คืนจะทำให้เนื้อลูกหว้ามีความเป็นไอศกรีมเพิ่มมากขึ้น)

จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องทำไอศกรีม      ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที หรือนำมาบรรจุใส่ถ้วยกระดาษ เพื่อแช่แข็งยืดอายุในการเก็บรักษาให้ยาวนาน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไอศกรีมรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ รสชาติไทยแท้ ๆ อร่อยไม่เลี่ยนแบบใส่นมใส่ครีมด้วย

เคล็ดลับการเก็บรักษา ให้เนื้อไอศกรีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสีและด้านเนื้อสัมผัส ด้วยถ้วยกระดาษ ขนาด 4 ออนซ์ หรือถ้วยกระดาษที่มีนํ้าหนักเบา ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า มีราคาอยู่ที่ถ้วยละ 25 บาท ต้นทุน 10 บาท

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทานได้ทุกเพศทุกวัย กินคลายร้อนก็ได้ นำไปประกอบอาชีพทำขายก็ดูดี หากสนใจอยากจะลองฝึกทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.มาริน สาลี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ภาควิชาอาหารและโภชนาการ โทร.0-2549-3160-61 หรือ 08-4094-8222 ซึ่งทางอาจารย์ก็ยังมีสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจอีกหลายชนิด.

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
คู่มือลงทุน...เชอร์เบทลูกหว้า
ทุนเบื้องต้น 3,000 บาท
หมุนเวียน 40% ของราคา
รายได้ ราคา 25 บาท/ชุด
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ร้านเครื่องดื่ม-ไอศกรีม, ตลาด
จุดน่าสนใจ ดีต่อสุขภาพเป็นจุดขาย

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/233062/‘เชอร์เบทลูกหว้า’+ทำกินง่าย...ทำขายก็ดี!

Read More...


‘เมนูอบวุ้นเส้น’ สูตรเด็ดระดับ ‘เหลา’


 “อบวุ้นเส้น” เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย มีการทำขายตามร้านอาหารทั่วไป ไม่ว่าจะร้านอาหารไทย อาหารจีน อาหารซีฟู้ด หรือแม้แต่ทำขายเป็นเมนูเดี่ยวตามตลาดนัดก็ขายได้ขายดี ซึ่งวันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“ ก็มีข้อมูล ’เมนูอบวุ้นเส้น“ สูตรของอีกหนึ่ง “เหลา” คือ “ภัตตาคาร โกลด์ เซี่ยงไฮ้” ซอยสุขุมวิท 39 กรุงเทพฯ มานำเสนอ...
   
“ภัตตาคาร โกลด์ เซี่ยงไฮ้” เป็นเหลาหรือร้านอาหารจีนแนวเซี่ยงไฮ้และซีฟู้ด มีผู้บริหาร กุ๊ก พนักงาน ที่มีประสบการณ์ในการบริหารร้านอาหาร ทำอาหาร ให้บริการลูกค้า ในร้านอาหารดังย่านสุขุมวิทมาถึง 30 ปี ก่อนที่จะมาเปิดภัตตาคารแห่งนี้ โดย สมใจ เกิดแก้ว เจ้าของ-ผู้บริหารภัตตาคาร เปิดเผยว่า ทางภัตตาคารมีเมนู เป็ดปักกิ่ง เป็นเมนูชูโรง ขณะที่เมนูอื่น ๆ ที่ลูกค้าติดใจก็มีมากมาย อาทิ ขาหมูหมั่นโถว, เนื้อเส้นผัดพริก รับประทานคู่กับโรตี ฯลฯ

ส่วน ’เมนูอบวุ้นเส้น“ ที่นี่ก็ขึ้นชื่อ ทั้ง ’กุ้ง-ปู“ ลูกค้าให้การตอบรับสูง 
“เรามีประสบการณ์ด้านร้านอาหารมากพอสมควร และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็อยากมีร้านเป็นของตัวเองบ้าง เมื่อมีโอกาสจึงตัดสินใจเปิดร้าน ซึ่งลูกค้าก็ให้การตอบรับดี เพราะเรามีประสบ การณ์ในการทำร้านอาหารและทำอาหารจีนมานาน กุ๊ก พ่อครัว ลูกทีม ที่มาร่วมกันทำ ก็ล้วนแล้วแต่เคยทำงานด้วยกัน และมีประสบการณ์มากพอ ๆ กัน” สมใจ บอก

พร้อมทั้งมอบหมายให้ทางกุ๊กเป็นผู้ให้ข้อมูล “เมนูอบวุ้นเส้น” โดยยกตัวอย่าง “กุ้งอบวุ้นเส้น”
ทั้งนี้ อุปกรณ์ที่ใช้ทำเมนูอบวุ้นเส้นนั้น หลัก ๆ ก็เป็นอุปกรณ์ครัวทั่ว ๆ ไป อาทิ...เตาแก๊ส, มีด, เขียง ฯลฯ

แต่ที่ขาดไม่ได้คือ หม้ออบ
สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูอบวุ้นเส้น กรณีเป็น “กุ้งอบวุ้นเส้น” ตามสูตรของกุ๊ก “โกลด์ เซี่ยงไฮ้” นั้น หลัก ๆ มีดังนี้คือ...กุ้งลายเสือ 5 ตัว, วุ้นเส้น ประมาณ 1 กำมือเล็ก ๆ, รากผักชี 2 ราก, ต้นหอม 3 ต้น, มันหมู 3 ชิ้น กระเทียมใหญ่ 3 กลีบ ส่วนเครื่องปรุง หลัก ๆ ก็มี...ซีอิ๊วดำ (สูตร 1) 3 ช้อนโต๊ะ, ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ, นํ้ามันหอย 3 ช้อนโต๊ะ, เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ, พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา, นํ้าซุป 1 ถ้วย นอกจากนั้นก็มีเครื่องเทศ อย่างพวกโป๊ยกั๊ก และอบเชย

กุ้งพันธุ์ต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ทำว่าจะเลือกใช้กุ้งอะไร แต่สำหรับภัตตาคารอาหารจีนแนวเซี่ยงไฮ้และซีฟู้ดแห่งนี้ เลือกใช้ “กุ้งลายเสือ” กุ้งที่เนื้อมี “คุณภาพดี” มีรสชาติหวานอร่อย

เหมาะที่จะใช้ทำเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นมาก
ขั้นตอนการทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” เริ่มจาก... นำวุ้นเส้นมาแช่นํ้าสะอาดทิ้งไว้สักพัก พอวุ้นเส้นนิ่มก็นำขึ้นสะเด็ดนํ้า พักเตรียมไว้ จากนั้นก็นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด ตัดหนวดตัดส่วนแหลมที่อยู่บนหัวกุ้งออก แต่ไม่ต้องปอกเปลือก ใช้วิธีผ่าหลังดึงเส้นดำออก หลังจากล้างกุ้งเสร็จแล้วก็พักไว้ เตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ อย่างพวกกระเทียม รากผักชี ต้นหอม โดยปอกเปลือกกระเทียม ทุบให้พอแตก รากผักชีก็นำมาทุบพอแตก หั่นต้นหอมพอหยาบ ๆ พักเตรียมไว้

เตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการนำวัตถุดิบใส่ลงหม้ออบ โดยใส่มันหมูลงไปวางเรียงไว้ที่ก้นหม้อก่อน ตามด้วยใส่กระเทียม รากผักชี ต้นหอม โป๊ยกั๊ก อบเชย พริกไทยเม็ด จากนั้นใส่วุ้นเส้น แล้ววางกุ้งทับอยู่ด้านบนสุด ถัดมาก็ใส่เครื่องปรุง ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว นํ้ามันหอย เหล้าจีน ลงไปในหม้ออบ นำนํ้าซุปเทใส่ ปิดฝาหม้ออบ ตั้งไฟ

การตั้งไฟอบนั้น จะใช้ไฟแรงกลาง ๆ ในการทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” ใช้เวลาอบประมาณ 5 นาทีก็จะสุกหอมหวนชวนรับประทาน ทางกุ๊กจะไม่ใช้ไฟแรงมาก เพราะจะไหม้ และไม่ใช้ไฟอ่อนซึ่งต้องอบนาน เพราะจะทำให้กุ้งหดเล็ก เนื้อแข็ง

นี่คือส่วนหนึ่งของเคล็ดลับความอร่อย
กุ้งอบวุ้นเส้นนี้ ต้นทุนจะเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาทำ โดยเฉพาะกุ้ง
อย่างไรก็ดี สำหรับ “เมนูอบวุ้นเส้น” นอกจากจะใช้กุ้งทำแล้ว ยังสามารถใช้วัตถุดิบอื่น ๆ ทำได้อีก โดยเฉพาะ “ปู” ทำเป็น “ปูอบวุ้นเส้น” ซึ่งที่ “โกลด์ เซี่ยงไฮ้” ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาก เพราะใช้ปูสด ถ้าไม่สดไม่ทำขายลูกค้า

สำหรับการทำ “ปูอบวุ้นเส้น” ก็ใช้วิธีและขั้นตอนการทำที่เหมือนกับกุ้ง แต่ที่สำคัญนั้นปูที่นำมาอบจะต้องแกะตัดแบ่งให้เป็นชิ้น วางเรียงแล้วใช้กระดองปูวางคลุมให้ดูสวยงาม ซึ่งที่ต้องแกะปูเป็นชิ้น ๆ ก็เพื่อที่จะให้รสชาติของเครื่องปรุงนั้นแทรกซึมเข้าไปในเนื้อปู

’เมนูอบวุ้นเส้น“ นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าพิจารณา ซึ่งจากสูตรและแง่มุมระดับ “เหลา” ดังที่ว่ามา ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจเมนูนี้อยู่ ส่วน “ภัตตาคาร โกลด์ เซี่ยงไฮ้” นั้น ตั้งอยู่ที่เลขที่ 36/5-7 ซอยสุขุมวิท 39 กรุงเทพฯ เปิดบริการช่วงเช้า เวลา 11.00-14.00 น. และช่วงเย็น เวลา 18.00-22.30 น. เบอร์โทรศัพท์คือ 0-2662-7498, 08-1296-6578, 09-3341-5885 ซึ่งก็มีเมนูอาหารจีนแนวเซี่ยงไฮ้และซีฟู้ดเด็ด ๆ มากมาย.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ :รายงาน

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/231150/‘‘เมนูอบวุ้นเส้น’+สูตรเด็ดระดับ+‘เหลา’

Read More...


‘พิซซ่าสไตล์ไทย’ จุดขายเล็ก ๆ ราคาเบา



ยุคนี้ “พิซซ่า” กลายเป็นอีกหนึ่งอาหารต่างชาติที่คนไทยก็ให้ความนิยม ซึ่งในบ้านเรานอกจากร้านขายพิซซ่าที่เป็นแบรนด์ใหญ่ ๆ แล้ว กับการทำขายทั่ว ๆ ไปก็มี และก็ใช่ว่าไม่น่าสนใจ อย่าง “พิซซ่าสไตล์ไทย” พิซซ่าไทยขนาดเล็ก ราคาเบา ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้ นี่ก็เป็นกรณีศึกษาการค้าขายอาหารต่างชาติในไทยที่น่าพิจารณา...

บรรทม บุญคง และ นพรัตน์ สุขรัตน์วีระ สองพี่น้อง เป็นเจ้าของธุรกิจพิซซ่า แบรนด์ “มิสเตอร์พิซซ่า เฟรซ” โดยใช้ความรู้ที่มีจากการที่เคยทำงานในโรงงานทำพิซซ่า ผสมกับความชอบ ในการปรับและพัฒนารสชาติพิซซ่าให้ใกล้เคียงกับต้นตำรับสไตล์อิตาเลียน แต่อร่อยถูกปากคนไทย มีความสดใหม่ ราคาไม่สูง จึงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทุกระดับเป็นอย่างดี ซึ่ง นพรัตน์ อายุ 36 ปี เล่าให้ฟังว่า เธอกับพี่ชายได้ร่วมกันทำธุรกิจพิซซ่าขนาดเล็กนี้มานาน 8 ปีแล้ว

เริ่มต้นนั้นก็ต้องเตรียมตัว หาแหล่งวัตถุดิบ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ และได้มองการขายที่ตลาดล่างที่ได้เงินสดทุกวัน โดยคำนึงถึงหลักความเป็นจริงที่ว่า ในตลาดล่าง ผู้บริโภคจะซื้อหาของกินอย่างระมัดระวัง บางคนอยู่คนเดียวหรือสองคน ซื้อพิซซ่าถาดใหญ่คงกินไม่หมด จึงชูจุดขายพิซซ่าขนาดเล็ก ราคาเบา หน้าแน่นไปด้วยคุณภาพและความอร่อย

แป้งพิซซ่าเป็นสูตรพิเศษ เมื่ออบแล้วจะกรอบนอกนุ่มใน มีหน้าให้เลือกหลากหลายหน้า ทั้งซีฟู้ด ฮาวายเอี้ยน แฮมชีส ไส้กรอกไก่ ปูอัด รวมมิตร ที่เป็นวัตถุดิบคุณภาพดีของไทย ซึ่งเมื่อทุกอย่างลงตัวก็ทำออกขายที่ตลาดนัดเป็นสาขาแรก ผลตอบรับดีมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชอบกันมาก เตรียมของไปเป็นร้อยชิ้น ขายหมดในเวลาไม่นาน จากนั้นก็ขยายขึ้นเป็น 3 สาขา มีลูกค้าขาประจำและขาจรมาซื้อกันมากมาย คนละ 2-3 ถาด และมีหลายคนสนใจขอซื้อแฟรนไชส์ด้วย

นพรัตน์ บอกอีกว่า พิซซ่าที่ขาย ที่น่าสนใจไม่เหมือนเจ้าอื่น คือ “พิซซ่าหน้าเจ” เป็นสูตรที่คิดค้นโดยใส่สารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อทำขายในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีทุกครั้งที่ไปออกงานแฟร์หรืองานแสดงสินค้าต่าง ๆ

อุปกรณ์ในการทำพิซซ่า หลัก ๆ ก็มี หม้ออบความร้อน ไม้พาย แปรงทาเนย มีด เขียง ที่ตักพิซซ่า ที่ขูดชีส ถาดพิซซ่า หรือภาชนะใส่อาหารสำหรับใช้อบ

ส่วนการเตรียมวัตถุดิบในการทำ หลัก ๆ ก็มี แป้งพิซซ่าสำเร็จรูปที่ทำจากแป้งสาลี, ผงออริกาโน่, ซอสมะเขือเทศ, มายองเนส, หอยแมลงภู่ลวก (แกะเอาแต่เนื้อ), ปลาหมึกหลอดหั่น, กุ้งขาว (แกะเปลือก-ลวก), ปูอัดหั่น, ไส้กรอกไก่หั่น, แฮมหั่น, สับปะรดหั่น, หอมใหญ่, มะเขือเทศสด, พริกหวานเขียวและแดง, ชีส หรือเนยแข็งมอสซาเรลล่า

การทำ “พิซซ่าสไตล์ไทย” เริ่มที่เตรียมวัตถุดิบหน้าพิซซ่าก่อน หอยแมลงภู่ นำมาลวก แกะเอาแต่เนื้อ ปลาหมึกหลอดหั่นพอดีคำ กุ้งขาว แกะเปลือกแล้วลวก ปูอัด ไส้กรอกไก่ แฮม หั่นตามขนาดที่ต้องการ สับปะรดปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หอมใหญ่ปอกเปลือกหั่นเป็นแว่นบาง ๆ มะเขือเทศล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า พริกหวานหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

เตรียมวัตถุดิบหน้าพิซซ่าแล้ว เมื่อจะทำพิซซ่า ขั้นตอนแรกก็นำแป้งพิซซ่าสำเร็จรูปมาวางบนถาด ใช้แปรงป้ายเนยมาการีนมาทาบริเวณขอบแป้งให้ เหลือง เพื่อเพิ่มรสชาติ และไม่ให้แห้ง เสร็จแล้วใช้ช้อนตักซอสมะเขือเทศละเลงทาลงบนตัวแป้งให้ทั่วแผ่น เพื่อให้ได้รสชาติของซอสที่กลมกล่อมทั่วแผ่นแป้ง

จากนั้นจัดเรียงหน้าพิซซ่า เริ่มจากหน้าซีฟู้ด ใส่ปลาหมึกหลอดหั่น ตามด้วยหอยแมลงภู่ ปูอัด กุ้งขาว ที่เตรียมไว้ จัดวางตามต้องการ เสร็จแล้วใส่สับปะรดหั่น หอมใหญ่หั่น มะเขือเทศหั่น และพริกหวานหั่น ลงบนตัวแป้ง แล้วราดด้วยมายองเนสทั่วหน้าพิซซ่า เพื่อไม่ให้เกิดความเลี่ยน จากนั้นนำชีสมาขูดให้ทั่วหน้าพิซซ่าเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเพิ่มความอร่อยและนุ่มเหนียวยิ่งขึ้น ก่อนจะนำไปอบในหม้ออบความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศาฯ ประมาณ 3-5 นาที ให้แป้งเหลืองกรอบพอประมาณ จากนั้นนำพิซซ่าออกจากหม้ออบ โรยผงออริกาโน่ให้หอม เป็นอันเสร็จสิ้นการทำพิซซ่าหน้าซีฟู้ด

สำหรับการทำหน้าอื่น ๆ ขั้นตอนแรกที่เอาเนยมาการีนทาแป้ง และซอสมะเขือเทศ ก็เหมือนกัน แต่การแต่งหน้าพิซซ่าจะต่างกันนิดหน่อย เช่น หน้าฮาวายเอี้ยน ใส่แฮมหั่น สับปะรดหั่น ราดมายองเนส ขูดชีสโรยให้ทั่วหน้าพิซซ่าแล้วนำเข้าหม้ออบ แล้วตบท้ายด้วยการโรยออริกาโน่ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับพิซซ่าหน้าไส้กรอกไก่ แฮมชีส ปูอัด ขั้นตอนแรกทำเหมือนกับหน้าฮาวายเอี้ยน แต่ไม่ใส่สับปะรด ใครชอบผักก็ใส่ตามชอบ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่

หน้ารวมมิตร จะพิเศษกว่าหน้าอื่น ใช้วัตถุดิบหลักมาใส่รวมกัน ทั้งแฮม ไส้กรอกไก่ ปูอัด ปลาหมึกหลอด กุ้งขาว และผักรวม ราดมายองเนส ขูดชีสโรยให้ทั่วแผ่นแป้ง นำเข้าอบ เสร็จแล้วโรยออริกาโน่ เพื่อเพิ่มความหอมและอร่อยยิ่งขึ้น

พิซซ่าเจ้านี้ ถาดเล็ก ขนาด 5 นิ้ว ขายราคา 49 บาท ถาดกลาง 7 นิ้ว ราคา 59 บาท ทำสดใหม่ อบร้อน ๆ หอม ๆ ซึ่งด้วยสูตรแต่งหน้าพิซซ่าที่เป็นเอกลักษณ์ และใช้แป้งพิซซ่าที่กรอบนอกนุ่มใน ทำให้น่ารับประทาน อร่อยติดใจ
 
“พิซซ่าสไตล์ไทย” อย่างแบรนด์ “มิสเตอร์พิซซ่า เฟรซ” นี้ เป็นอีกกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ ซึ่งทางเจ้าของแบรนด์ยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เป็นเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยทุนเริ่มต้น 25,000-30,000 บาท ใครสนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดจาก บรรทม บุญคง และ นพรัตน์ สุขรัตน์วีระ ได้ที่ โทร. 08-1906-4703, 08-7667-4714 ทั้งนี้ อาหารต่างชาตินั้นหลายอย่างสามารถทำได้ง่าย

ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก และอาจจะสร้างอาชีพสำหรับคนไทยได้.
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
คู่มือลงทุน…พิซซ่าสไตล์ไทย
ทุนเบื้องต้น ประมาณ 25,000-30,000 บาท
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคาขาย
รายได้ ราคาขายถาดละ 49-59 บาท
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ตลาดนัด ชุมชน งานออกร้าน
จุดน่าสนใจ รสชาติไทย ราคาเบา คือจุดขาย

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/226459/‘พิซซ่าสไตล์ไทย’+จุดขายเล็ก+ๆ+ราคาเบา 

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.