เดิมเป็นวัดที่สร้างในสมัยอยุธยา มีโบสถ์ขนาดเล็ก
ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างพื้นบ้าน
เข้าใจว่าเขียนในสมัยหลังการสร้างวัด เป็นเรื่องพุทธประวัติ
บางภาพต่อเติมจนผิดส่วน สมบัติอีกชิ้นหนึ่งของวัดคือ
ธรรมาสน์ที่หลวงพ่อใหญ่สร้าง
ที่วิหารมีพระปูนปั้นฝีมือพองามและมีลายไม้จำหลักขอบหน้าบันเหลืออยู่ 2 - 3
แห่ง ด้านตรงข้ามกับวัดเป็นปูชนียสถานแห่งใหม่ มีบริเวณกว้างขวางมาก
พระราชมหาวีระ ถาวาโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
พระเถระที่มีชื่อเสียงได้สร้างอาคารต่าง ๆ มากมาย เช่น พระอุโบสถใหม่
ภายในประดับและตกแต่งอย่างวิจิตร
บานหน้าต่างและประตูด้านในเขียนภาพเทวดาโดยจิตรกรฝีมือดี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาตัดลูกนิมิตพระอุโบสถแห่งนี้
บริเวณโดยรอบสร้างกำแพงแก้วและมีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3
เท่า อยู่มุมกำแพงด้านหน้า มณฑป และ พระวิหารแก้ว
ที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง และศพของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ไม่เน่าเปื่อย
อาคารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกันคือสร้างด้วยโมเสกสี
ขาวใสดูเหมือนแก้ว และยังมีปราสาททองคำ ศาลาฝึกสมาธิ
อาคารแต่ละหลังจะมีเวลาเปิด-ปิดไม่ตรงกันและปิดช่วงกลางวัน
วิหารแก้วจะเปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 9.00-11.45 น.และ 14.00-16.00 น.
การเดินทาง
วัดท่าซุง ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลน้ำซึม สามารถเดินทางไปได้หลายวิธี
1) ไปตามทางสาย 3265 มุ่งตรงไปทางแพข้ามฟากอำเภอมโนรมย์ ประมาณ 12 กิโลเมตร
2) รถโดยสารสายอุทัยฯ-ท่าซุง (สองแถวสีฟ้า) ค่าโดยสาร 8 บาท จากวัดท่าซุงต่อไปอีก 5 บาท
การเดินทาง
วัดท่าซุง ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลน้ำซึม สามารถเดินทางไปได้หลายวิธี
1) ไปตามทางสาย 3265 มุ่งตรงไปทางแพข้ามฟากอำเภอมโนรมย์ ประมาณ 12 กิโลเมตร
2) รถโดยสารสายอุทัยฯ-ท่าซุง (สองแถวสีฟ้า) ค่าโดยสาร 8 บาท จากวัดท่าซุงต่อไปอีก 5 บาท
จะ ถึงท่าเรือข้ามไปอำเภอมโนรมย์
เดินทางถึงวัดจันทารามหรือวัดท่าซุง หาก
มาวัดท่าซุงหลายๆ คนคงจะนึกถึงการเข้าเยี่ยมชมวิหาร 100 เมตร
และนมัสการสมเด็จองค์ปฐม สังขารหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเป็นอันดับแรก
ก็ต้องเข้าประตูให้ถูก ซึ่งวิหาร 100 เมตร จะมีป้ายบอกทางเข้าเห็นชัดเจน
หากมาจากทางตัวเมืองอุทัยธานี
ประตูจะอยู่ขวามือเมื่อลี้ยวเข้ามาจะเห็นความน่าอัศจรรย์ใจคือแนวกำแพงที่
ได้สร้างเป็นห้องๆ แต่ละห้องจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 1 องค์
เป็นปางเดียวกันตลอดแนวกำแพง โดยกำแพงนี้จะสร้างเป็น 2 ชั้น
ชั้นล่างจะกว้างพอที่จะจอดรถได้

พระราชานุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ไทย ก่อนถึงประตูเข้าวิหาร 100 เมตร จะมีพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และ รัชกาลที่ 7
ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร
และยังมีป้ายจารึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีลักษณะเป็นซุ้ม ๒ เสา เฉพาะเสาสูง ๔ เมตร มีป้ายและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (เหมือนกันทั้ง ๒ ด้าน) มีปิดกระจกทั้ง ๒ ด้าน ขนาดของป้ายยาว ๗.๙ เมตร กว้าง ๔ เมตร
ถัดเข้าไปตามลานจอดรถจะมีพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช และพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (เมื่อครั้งทรงผนวช)
ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร
และยังมีป้ายจารึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีลักษณะเป็นซุ้ม ๒ เสา เฉพาะเสาสูง ๔ เมตร มีป้ายและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (เหมือนกันทั้ง ๒ ด้าน) มีปิดกระจกทั้ง ๒ ด้าน ขนาดของป้ายยาว ๗.๙ เมตร กว้าง ๔ เมตร
ถัดเข้าไปตามลานจอดรถจะมีพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช และพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (เมื่อครั้งทรงผนวช)

มณฑปพระปัจเจกพระพุทธเจ้า เดิน
เข้าประตูสู่วิหาร 100 เมตร จะมีมณฑปพระปัจเจกพระพุทธเจ้าอยู่ทางซ้ายมือ
วิหาร 100 เมตร มีเวลาปิดเปิดนะครับ
คือนักท่องเที่ยวส่วนมากจะเดินทางมาถึงกันตอนใกล้ๆ เที่ยง
ซึ่งยังอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่อนุญาตให้เข้าชมเพราะมีนักปฏิบัติธรรมอยู่ด้าน
ใน เวลาที่เหมาะสมคือหลัง บ่าย 2 ซึ่งจะเปิดให้ชมได้ถึง 4 โมงเย็นเท่านั้น
หรือช่วงเช้าก็เปิดช่วง 10.00-12.00น.

ซุ้มประตูวิหาร 100 เมตร

วิหารแก้ว 100 เมตร เป็น
วิหารสำคัญที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำสร้างไว้ก่อนมรณะภาพรวมทั้งยังเป็นที่รักษา
สังขารร่างของหลวงพ่อที่ไม่เน่าเปื่อยในโลงแก้ว ไว้ด้านหนึ่ง
อีกด้านหนึ่งประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม
ภายในสร้างจากวัสดุที่เป็นกระจกสะท้อนแสงแวววาวสวยงาม

มณฑปหลวงปู่ปาน หลวง
ปู่ปานเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำผู้สร้างวิหารแก้ว 100 เมตร
มณฑปหลวงปู่ปานจะอยู่ด้านขวามือ มณฑปและวิหารต่างๆ
ในวัดท่าซุงจะเปิดให้เข้าชมได้จนถึง เวลา 16.00 น. นะครับ

สังขารหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ อยู่ในโลงแก้วศิษยานุศิษย์เข้ามานมัสการกันไม่ขาดสาย

ภายในวิหารแก้ว 100 เมตร เสาและเพดานติดกระจก เมื่อเปิดไฟภายในจะมีภาพสะท้อนไปมาอย่างสวยงาม

สมเด็จองค์ปฐม ประดิษฐาน
ในวิหารแก้ว 100 เมตร อยู่อีกด้านหนึ่งของสังขารหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ประชาชนมักจะมานมัสการกราบไหว้เป็นสิริมงคลรวมทั้งถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกัน
ไม่ขาดสาย การจะถ่ายรูปที่หน้าพระพุทธรูปทำได้โดยยาก
เพราะมีคนเดินไปเดินมาตลอดเวลา

สมเด็จองค์ปฐม ขอบคุณภาพจากสมาชิก pattranit ครับ เป็นมุมมองใหม่ๆ ของการถ่ายภาพพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมในวิหารแก้ว

พระพุทธรูปในวิหารแก้ว บริเวณนี้เป็นที่จัดไว้สำหรับพุทธศาสนิกชนได้ถวายสังฆทาน

ด้านหน้าวิหารแก้ว 100 เมตร บริเวณด้านหน้าภายนอกวิหารแก้ว มีโต๊ะหมู่บูชาจำนวนมากจัดเรียงรายไว้

ยอดมณฑปและวิหาร ภายในวัดท่าซุงมีมณฑปและวิหารอยู่หลายแห่งแต่ละแห่งมักจะติดวัสดุกระจกและล้อมรอบด้วยแก้วใส ส่วนยอดจะสร้างในลักษณะเดียวกัน

พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ภายในมณฑปพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

พระศรีอาริยเมตไตรย ออก
จากวิหารแก้ว 100 เมตร
จะใช้บริการรถสามล้อโดยสารนำเที่ยวหรือว่าหากขับรถมาเองจะขับเข้าไปชมบริเวณ
วัดก็ได้ มณฑปพระศรีอาริย์
อยู่ห่างจากวิหารแก้วไม่มากนักอยู่เยื้องกันกับวิหารสมเด็จองค์ปฐม เปิด
9.00-16.00น. (เหมือนกันทุกมณฑป)

เครื่องถวายองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ทางวัดจัดเตรียมชุดถวายสำหรับประชาชนไว้เป็นที่เรียบร้อย

วิหารสมเด็จองค์ปฐม สร้างเมื่อปี 2534 แล้วเสร็จปี 2534 ภายในประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม ที่มีความงดงามมาก

ภายในวิหารสมเด็จองค์ปฐม นมัสการพระพุทธรูปและสมเด็จองค์ปฐมในวิหาร

สมเด็จองค์ปฐม ภายในพระวิหารสมเด็จองค์ปฐม

หอพระไตรปิฏก - หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พระ
พุทธรูปปางอุ้มบาตรยืนสูง ๓๐ ศอก (ประมาณตึก 4 ชั้น)
หลวงพ่อสร้างเป็นพระพุทธรูปประทับยืนอุ้มบาตร เดิมเรียกว่า "หลวงพ่อโต"
(สร้างคล้ายกับที่ วัดอินทรวรวิหาร กรุงเทพฯ)
อยู่บริเวณใกล้กับวิหารสมเด็จองค์พระปฐม ภายในบริเวณนี้มีเจดีย์พุดตาน
และเจดีย์บรรจุอัฐิบิดาของคุณอภิชาต สุขุม
หอพระไตรปิฎกสูงขนาดตึก ๖ ชั้น เป็นสถานที่ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างไว้ให้สักการะบูชาและขอพร และยังเป็นสถานที่เก็บรักษาพระไตรปิฏก ชั้นล่างจะเปิดโอกาสให้ผู้เดินทางมากราบไหว้จุดธูปเทียนและปิดทองได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ทางวัดได้สร้างองค์จำลองที่มีขนาดเล็กกว่า ประดิษฐานที่ชั้นล่าง ทางเข้าประตูซ้ายของหอพระไตรปิฏก และมีรูปปั้นหลวงปู่ปานและหลวงพ่ออยู่ข้างๆ มีพระเจ้าหน้าที่คอยดูแลสถานที่ คือพระสำเภา สุธมฺปวโร ข้อมูลวัดท่าซุง
หอพระไตรปิฎกสูงขนาดตึก ๖ ชั้น เป็นสถานที่ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างไว้ให้สักการะบูชาและขอพร และยังเป็นสถานที่เก็บรักษาพระไตรปิฏก ชั้นล่างจะเปิดโอกาสให้ผู้เดินทางมากราบไหว้จุดธูปเทียนและปิดทองได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ทางวัดได้สร้างองค์จำลองที่มีขนาดเล็กกว่า ประดิษฐานที่ชั้นล่าง ทางเข้าประตูซ้ายของหอพระไตรปิฏก และมีรูปปั้นหลวงปู่ปานและหลวงพ่ออยู่ข้างๆ มีพระเจ้าหน้าที่คอยดูแลสถานที่ คือพระสำเภา สุธมฺปวโร ข้อมูลวัดท่าซุง

เจดีย์พุดตาน ประวัติการสร้างพระเจดีย์พุดตาน
การบรรจุสิ่งของในพระเจดีย์ก็มีพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธ
เจ้า มีพระพุทธรูปทองคำ เทวรูป อีกมากมาย ตลอดจนแก้วแหวนเงินทอง
เพื่อบูชาพระรัตนตรัย
ยังมีสมบัติของพระเจ้าศรีธรรมปิฎกหรือพระเจ้าพรหมมหาราชในอดีต
ซึ่งสร้างวัดและพระเจดีย์ระหว่างเขตพิษณุโลกกับเพชรบูรณ์ คณะคุณสันต์ ภู่กร
แห่งจังหวัดพิษณุโลกขุดได้นำมาถวาย เพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์พุดตาน

เจดีย์บรรจุอัฐิบิดาของคุณอภิชาต สุขุม

สวนสมเด็จองค์ปฐม สร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ

ซุ้มประตูข้างปราสาททองคำ เป็น
ซุ้มประตูเข้าออกระหว่างบริเวณลานกว้างหน้าปราสาททองคำกับอีกด้านหนึ่งก็
เป็นลานกว้างที่พื้นมีการตีเส้นเหมือนสนามบาสไว้
และยังมีบันไดสำหรับเดินขึ้นไปตามแนวกำแพง 2 ชั้นไปศาลา 2 ไร่ และศาลา 4
ไร่ได้

ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) ที่
มาของคำว่า ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) เนื่องจาก ปีพ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นปีที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ครบ ๕๐ ปี
ท่านเจ้าอาวาสจึงนำการสร้าง "ปราสาททองคำ"
ขึ้นถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในวาระที่ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ ๕๐
และทางสำนักพระราชวังได้ให้ชื่อปราสาททองคำใหม่ว่า "ปราสาททองกาญจนาภิเษก"
ปราสาททองคำ ก่อสร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ประดับลวดลายไทยปิดทองคำเปลวติดกระจก ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ญาติโยมถวาย รอบนอกปราสาทใช้ทองคำเปลวปิดรอบปราสาท ภายในปราสาทเป็นที่ประดิษฐานสิ่งของสำคัญ คือ
๑. ชั้นแรก เป็นพิพิธภัณฑ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยจะนำสิ่งของต่างๆที่ท่านเคยใช้ก็ดี หรือของส่วนตัวท่านก็ดีมาประดิษฐานไว้ หรือสร้างจำลองสถานที่พักที่ท่านเคยอยู่อาศัย เป็นต้น (ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปเป็นที่สร้างใหม่ "อาคารสมบัติพ่อให้" ใกล้ลานธรรม
๒. ชั้นที่สองและชั้นที่สาม จะเป็นสถานที่เก็บพระพุทธรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวาย ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ปรารภกับพระครูสังฆรักษ์ สุรจิตว่า สถานที่เก็บพระพุทธรูปของพระพุทธองค์ที่ญาติโยมได้ถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไว้มากมาย จึงควรเก็บรักษาไว้เป็นจุดเดียวกัน และสถานที่เก็บก็จำเป็นจะต้องสร้างให้เหมาะสม และสมเกียรติต่อองค์พระทศพล เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์อย่างสูงสุด เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มรณภาพต่อมาท่านเจ้าอาวาสได้ปรึกษากับคณะ กรรมการสงฆ์เพื่อสร้างปราสาททองคำ สนองดำริของพระเดชพระคุณหลวงพ่อโดยได้ทำการก่อสร้างที่โรงทำอิฐเดิมของวัด อันเป็นสถานที่เดิมที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กำหนดไว้ ข้อมูลเพิ่มเติม
ปราสาททองคำ ก่อสร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ประดับลวดลายไทยปิดทองคำเปลวติดกระจก ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ญาติโยมถวาย รอบนอกปราสาทใช้ทองคำเปลวปิดรอบปราสาท ภายในปราสาทเป็นที่ประดิษฐานสิ่งของสำคัญ คือ
๑. ชั้นแรก เป็นพิพิธภัณฑ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยจะนำสิ่งของต่างๆที่ท่านเคยใช้ก็ดี หรือของส่วนตัวท่านก็ดีมาประดิษฐานไว้ หรือสร้างจำลองสถานที่พักที่ท่านเคยอยู่อาศัย เป็นต้น (ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปเป็นที่สร้างใหม่ "อาคารสมบัติพ่อให้" ใกล้ลานธรรม
๒. ชั้นที่สองและชั้นที่สาม จะเป็นสถานที่เก็บพระพุทธรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวาย ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ปรารภกับพระครูสังฆรักษ์ สุรจิตว่า สถานที่เก็บพระพุทธรูปของพระพุทธองค์ที่ญาติโยมได้ถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไว้มากมาย จึงควรเก็บรักษาไว้เป็นจุดเดียวกัน และสถานที่เก็บก็จำเป็นจะต้องสร้างให้เหมาะสม และสมเกียรติต่อองค์พระทศพล เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์อย่างสูงสุด เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มรณภาพต่อมาท่านเจ้าอาวาสได้ปรึกษากับคณะ กรรมการสงฆ์เพื่อสร้างปราสาททองคำ สนองดำริของพระเดชพระคุณหลวงพ่อโดยได้ทำการก่อสร้างที่โรงทำอิฐเดิมของวัด อันเป็นสถานที่เดิมที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กำหนดไว้ ข้อมูลเพิ่มเติม

ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) เริ่ม
สร้าง ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๓๖ มีซุ้มพระยืน ๘ ศอก
ประดิษฐานบนยอดปราสาทขณะนี้ปิดทองเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งองค์พระและซุ้มพระ
ในการก่อสร้างปราสาททองคำ
ท่านเจ้าอาวาสได้ให้พระสามารถซึ่งมีความชำนาญในด้านศิลปลายไทย
ดังเช่นบุษบกที่ประดิษฐานสรีระสังขารพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
โดยพระสามารถมีหน้าที่ออกแบบ (พระสามารถ ฐานิสฺสโร
เป็นผู้ออกแบบและสร้างซุ้มพระทั้งหมด ปัจจุบันลาสิกขาบทไปแล้ว)
และควบคุมการก่อสร้างตลอดจนการตกแต่งต่างๆ
ซึ่งท่านก็ได้ออกแบบปราสาททองคำมี ๓ ชั้น มียอดทั้งหมด ๓๗ ยอดเป็นยอดเท่าๆ
กัน ๓๖ ยอด ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ และยอดตรงกลางเป็นยอดใหญ่ ๑
ยอดส่วนบนสุดของปราสาทสร้างพระพุทธรูปปางลีลาขนาด ๘ ศอก ๑ องค์
หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ มีบันไดขึ้นทั้ง ๔ ทิศ
ขณะนี้เทพื้นเสร็จทุกชั้นแล้ว กำลังก่อผนังด้วยอิฐแดงทั้ง ๔ ด้าน ที่เห็นเสาตั้งอยู่หลายเสาจะทำมณฑปต่อไป ในเดือนมิถุนายน ๒๕๔๑ เริ่มทำลายปิดทองผนังชั้นที่ ๒ มาถึงเดือนกันยายนในปีเดียวกัน ปิดผนังชั้น ๒ ด้านทิศเหนือเสร็จไป ๑ ด้านแล้ว ด้านทิศตะวันตกจวนจะเสร็จแล้ว และจะทำลายปิดทองด้านทิศใต้และทิศตะวันออกต่อไป เดือนมกราคม ๒๕๔๒ กำลังลวดลายชั้นที่ ๒ ได้ปิดทองผนังด้านทิศเหนือและทิศตะวันตกเสร็จไป ๓ ด้าน กำลังทำลวดลายปิดทองผนังด้านทิศใต้ เมื่อต้นเดือนตุลาคม ๒๕๔๑ ช่างสามารถเริ่มทำหน้าบันไดชั้นที่ ๑ ขณะนี้ได้ทำลวดลายและปิดทองได้ ๓ หน้าบันได เพื่อให้ทันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ จะเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทองคำที่หน้าปราสาททองคำแห่งนี้ เริ่มวันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม (วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒)
ข้อมูลเพิ่มเติม
ขณะนี้เทพื้นเสร็จทุกชั้นแล้ว กำลังก่อผนังด้วยอิฐแดงทั้ง ๔ ด้าน ที่เห็นเสาตั้งอยู่หลายเสาจะทำมณฑปต่อไป ในเดือนมิถุนายน ๒๕๔๑ เริ่มทำลายปิดทองผนังชั้นที่ ๒ มาถึงเดือนกันยายนในปีเดียวกัน ปิดผนังชั้น ๒ ด้านทิศเหนือเสร็จไป ๑ ด้านแล้ว ด้านทิศตะวันตกจวนจะเสร็จแล้ว และจะทำลายปิดทองด้านทิศใต้และทิศตะวันออกต่อไป เดือนมกราคม ๒๕๔๒ กำลังลวดลายชั้นที่ ๒ ได้ปิดทองผนังด้านทิศเหนือและทิศตะวันตกเสร็จไป ๓ ด้าน กำลังทำลวดลายปิดทองผนังด้านทิศใต้ เมื่อต้นเดือนตุลาคม ๒๕๔๑ ช่างสามารถเริ่มทำหน้าบันไดชั้นที่ ๑ ขณะนี้ได้ทำลวดลายและปิดทองได้ ๓ หน้าบันได เพื่อให้ทันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ จะเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทองคำที่หน้าปราสาททองคำแห่งนี้ เริ่มวันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม (วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒)
ข้อมูลเพิ่มเติม

ประตูเข้าปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

เทวรูปที่ประตูปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ภายในปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

เสาแต่ละต้นของปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) ลวด
ลายเทพเทวดา ที่ประดับดารอบเสาทุกต้น
สิ่งสวยงามต่างๆเหล่านี้จะอยู่ทนนานถึงลูกหลานได้ต้องช่วยกันรักษา
กรุณาอย่าจับต้องสิ่งเหล่านี้นะครับ
ปัจจุบันชำรุดไปมากแล้วทั้งที่ชั้นบนยังไม่แล้วเสร็จและเปิดให้เข้าชมเลย

ประตูปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ประตูปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ภายในปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ทางขึ้นชั้นบนในปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) ที่เห็นนี้เป็นบันไดขึ้นสู่ชั้นบนสูงๆ ขึ้นไปแต่ปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จและยังไม่อนุญาตให้ขึ้นไปครับ

เก็บภาพ ภายในและภายนอกปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) มีความสวยงามมาก ช่างภาพหลายคนเลือกเป็นสถานที่ในการเก็บภาพสวยๆ

รถบริการนำเที่ยวในวัดท่าซุง ตกลง
ราคากันได้ แต่ปกติจะเป็นราคามาตรฐานเท่ากันทุกคัน
อยู่ที่ว่าจำนวนคนที่มาจะมากจะน้อยถ่ามาน้อยคนก็หารกันแพงหน่อย
แต่รับรองว่าไม่ได้แพงจนนั่งไม่ไหว
ส่วนพวกเราเลือกวิธีการขับรถเข้าไปเองเพราะต้องใช้เวลาในการเก็บภาพมาก
เกรงใจรถครับ

ศาลา ๔ ไร่ - ศาลา ๑๒ ไร่ - ศาลา ๒๕ ไร่ - ตึกขาว ศาลา
ที่สำคัญต่างๆ ในวัดท่าซุงโดยมีวัตถุประสงในการสร้างดังนี้ ศาลา ๑๒ ไร่
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯสร้างไว้ หลังจากที่ได้สร้างศาลา ๒ ไร่ ศาลา ๓ ไร่
และศาลา ๔ ไร่แล้ว ศาลาเหล่านี้สร้างไว้เพื่อใช้ในการจัดงานบุญของวัด
และใช้เป็นที่พักของญาติโยม เพื่อมาปฏิบัติพระกรรมฐาน หรือพักอาศัย
ในเวลาทางวัดมีงานต่างๆ การสร้างศาลา ๑๒ ไร่
เพราะว่าศาลาต่างๆที่สร้างมาแล้วในครั้งที่จัดงานเป่ายันต์เกราะเพชร
ปรากฎว่าผู้คนมามากมายจนล้นศาลา ๒ ไร่ และศาลา ๔ ไร่
เพิ่มรอบในการเป่ายันต์เกราะเพชรแล้ว ผู้คนก็ยังล้นมากมาย
ดังนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ จึงได้สร้างศาลา ๑๒ ไร่ โดยสร้างพระประธาน ๘
ศอก สร้างห้องพักเพื่อให้ญาติโยมได้พักประมาณ ๑๒๐ ห้อง ห้องน้ำประมาณ ๑๔๘
ห้อง (เคยมีโรงทานที่หลวงพ่อให้แม่ครัวของวัดทำอาหารเลี้ยงฟรี
แต่ปัจจุบันนี้ได้ย้ายโรงทานไปไว้ที่ศาลา ๔ ไร่แทน) นอกจากนี้
บริเวณทางเดินชั้น ๒ ก็ได้สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ตลอดแนว
พระชำระหนี้สงฆ์นี้เป็นเงินที่ญาติโยมถวายวัดโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้าง
พระชำระหนี้สงฆ์และได้ประดิษฐานไว้รอบศาลา ๑๒ ไร่ ปัจจุบันศาลา ๑๒ ไร่
ยังคงใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาและงานบุญต่างๆ เช่น
งานทำบุญประจำปีซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนมีนาคม
งานทำบุญในวันสงกรานต์ งานสะเดาะเคราะห์ งานเข้าพรรษา งานออกพรรษา
งานรับกฐิน งานธุดงค์ และการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง
ซึ่งจัดในช่วงกลางเดือนธันวาคมของทุกปี

ร้านสวัสดิการวัดท่าซุง เป็นร้านสะดวกซื้อภายในมีสินค้ามากมายที่สำคัญคือของใช้จำเป็นสำหรับนักปฏิบัติธรรม

หอไตรกลางน้ำ ฝั่งโบสถ์เก่า ข้าม
ฝั่งจากด้านวิหารแก้วออกมาจากประตูใหญ่ข้ามถนนมาอีกฝั่งหนึ่งจะมีสถานที่
สำคัญๆ หลายแห่ง รวมทั้งท่าน้ำหน้าวัดที่เป็นที่มาของชื่อวัดท่าซุง
หอไตรกลางน้ำ ฝั่งโบสถ์เก่าอยู่ด้านหน้าศาลาเก่าใกล้กับ "หอฉัน"
(ทางไปท่าน้ำ) เป็นอาคารไม้ทรงไทย ลวดลายประดับกระจกปิดทองคำเปลว
เดิมใช้เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกเพื่อมิให้มดปลวกมาทำลาย
โดยสร้างไว้ในสระน้ำเล็กๆ แบบโบราณ
แต่ปัจจุบันเก็บพระไตรปิฎกไว้ที่หอพระไตรปิฎก สูง ๗ ชั้น ด้านหลังพระยืน ๓๐
ศอก ข้อมูลเพิ่มเติม

ท่าน้ำวัดท่าซุง เป็น
จุดที่มีปลาอาศัยอยู่อย่างชุกชุมมาก
ประชาชนสามารถซื้ออาหารปลามาเลี้ยงปลาได้เป็นสถานที่พักผ่อนหลังจากการเดิน
ชมบริเวณวัด หรือจะเป็นสถานที่พักรอเวลาวิหารเปิดก็ได้

เดินทางถึงวัดจันทารามหรือวัดท่าซุง หาก
มาวัดท่าซุงหลายๆ คนคงจะนึกถึงการเข้าเยี่ยมชมวิหาร 100 เมตร
และนมัสการสมเด็จองค์ปฐม สังขารหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเป็นอันดับแรก
ก็ต้องเข้าประตูให้ถูก ซึ่งวิหาร 100 เมตร จะมีป้ายบอกทางเข้าเห็นชัดเจน
หากมาจากทางตัวเมืองอุทัยธานี
ประตูจะอยู่ขวามือเมื่อลี้ยวเข้ามาจะเห็นความน่าอัศจรรย์ใจคือแนวกำแพงที่
ได้สร้างเป็นห้องๆ แต่ละห้องจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 1 องค์
เป็นปางเดียวกันตลอดแนวกำแพง โดยกำแพงนี้จะสร้างเป็น 2 ชั้น
ชั้นล่างจะกว้างพอที่จะจอดรถได้

พระราชานุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ไทย ก่อนถึงประตูเข้าวิหาร 100 เมตร จะมีพระบรมรูปรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 และ รัชกาลที่ 7
ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร
และยังมีป้ายจารึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีลักษณะเป็นซุ้ม ๒ เสา เฉพาะเสาสูง ๔ เมตร มีป้ายและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (เหมือนกันทั้ง ๒ ด้าน) มีปิดกระจกทั้ง ๒ ด้าน ขนาดของป้ายยาว ๗.๙ เมตร กว้าง ๔ เมตร
ถัดเข้าไปตามลานจอดรถจะมีพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช และพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (เมื่อครั้งทรงผนวช)
ปั้นด้วยปูน ปิดทองคำเปลวทั้งองค์ ตั้งอยู่บนฐานสูง ๓.๒ เมตร กว้าง ๓.๘ เมตร ยาว ๓.๕ เมตร องค์พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับนั่งบัลลังก์ ขนาดสูง ๒.๖๕ เมตร กว้าง ๒.๒๕ เมตร ยาว ๑.๙๖ เมตร ทรงประทัยนั่งวัดจากพระเศียรถึงพระบาท ๒.๙ เมตร
และยังมีป้ายจารึกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มีลักษณะเป็นซุ้ม ๒ เสา เฉพาะเสาสูง ๔ เมตร มีป้ายและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (เหมือนกันทั้ง ๒ ด้าน) มีปิดกระจกทั้ง ๒ ด้าน ขนาดของป้ายยาว ๗.๙ เมตร กว้าง ๔ เมตร
ถัดเข้าไปตามลานจอดรถจะมีพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้า ตากสินมหาราช และพระราชานุเสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (เมื่อครั้งทรงผนวช)

มณฑปพระปัจเจกพระพุทธเจ้า เดิน
เข้าประตูสู่วิหาร 100 เมตร จะมีมณฑปพระปัจเจกพระพุทธเจ้าอยู่ทางซ้ายมือ
วิหาร 100 เมตร มีเวลาปิดเปิดนะครับ
คือนักท่องเที่ยวส่วนมากจะเดินทางมาถึงกันตอนใกล้ๆ เที่ยง
ซึ่งยังอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่อนุญาตให้เข้าชมเพราะมีนักปฏิบัติธรรมอยู่ด้าน
ใน เวลาที่เหมาะสมคือหลัง บ่าย 2 ซึ่งจะเปิดให้ชมได้ถึง 4 โมงเย็นเท่านั้น
หรือช่วงเช้าก็เปิดช่วง 10.00-12.00น.

ซุ้มประตูวิหาร 100 เมตร

วิหารแก้ว 100 เมตร เป็น
วิหารสำคัญที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำสร้างไว้ก่อนมรณะภาพรวมทั้งยังเป็นที่รักษา
สังขารร่างของหลวงพ่อที่ไม่เน่าเปื่อยในโลงแก้ว ไว้ด้านหนึ่ง
อีกด้านหนึ่งประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม
ภายในสร้างจากวัสดุที่เป็นกระจกสะท้อนแสงแวววาวสวยงาม

มณฑปหลวงปู่ปาน หลวง
ปู่ปานเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำผู้สร้างวิหารแก้ว 100 เมตร
มณฑปหลวงปู่ปานจะอยู่ด้านขวามือ มณฑปและวิหารต่างๆ
ในวัดท่าซุงจะเปิดให้เข้าชมได้จนถึง เวลา 16.00 น. นะครับ

สังขารหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ อยู่ในโลงแก้วศิษยานุศิษย์เข้ามานมัสการกันไม่ขาดสาย

ภายในวิหารแก้ว 100 เมตร เสาและเพดานติดกระจก เมื่อเปิดไฟภายในจะมีภาพสะท้อนไปมาอย่างสวยงาม

สมเด็จองค์ปฐม ประดิษฐาน
ในวิหารแก้ว 100 เมตร อยู่อีกด้านหนึ่งของสังขารหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ประชาชนมักจะมานมัสการกราบไหว้เป็นสิริมงคลรวมทั้งถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกัน
ไม่ขาดสาย การจะถ่ายรูปที่หน้าพระพุทธรูปทำได้โดยยาก
เพราะมีคนเดินไปเดินมาตลอดเวลา

สมเด็จองค์ปฐม ขอบคุณภาพจากสมาชิก pattranit ครับ เป็นมุมมองใหม่ๆ ของการถ่ายภาพพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมในวิหารแก้ว

พระพุทธรูปในวิหารแก้ว บริเวณนี้เป็นที่จัดไว้สำหรับพุทธศาสนิกชนได้ถวายสังฆทาน

ด้านหน้าวิหารแก้ว 100 เมตร บริเวณด้านหน้าภายนอกวิหารแก้ว มีโต๊ะหมู่บูชาจำนวนมากจัดเรียงรายไว้

ยอดมณฑปและวิหาร ภายในวัดท่าซุงมีมณฑปและวิหารอยู่หลายแห่งแต่ละแห่งมักจะติดวัสดุกระจกและล้อมรอบด้วยแก้วใส ส่วนยอดจะสร้างในลักษณะเดียวกัน

พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ภายในมณฑปพระปัจเจกพระพุทธเจ้า

พระศรีอาริยเมตไตรย ออก
จากวิหารแก้ว 100 เมตร
จะใช้บริการรถสามล้อโดยสารนำเที่ยวหรือว่าหากขับรถมาเองจะขับเข้าไปชมบริเวณ
วัดก็ได้ มณฑปพระศรีอาริย์
อยู่ห่างจากวิหารแก้วไม่มากนักอยู่เยื้องกันกับวิหารสมเด็จองค์ปฐม เปิด
9.00-16.00น. (เหมือนกันทุกมณฑป)

เครื่องถวายองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ทางวัดจัดเตรียมชุดถวายสำหรับประชาชนไว้เป็นที่เรียบร้อย

วิหารสมเด็จองค์ปฐม สร้างเมื่อปี 2534 แล้วเสร็จปี 2534 ภายในประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม ที่มีความงดงามมาก

ภายในวิหารสมเด็จองค์ปฐม นมัสการพระพุทธรูปและสมเด็จองค์ปฐมในวิหาร

สมเด็จองค์ปฐม ภายในพระวิหารสมเด็จองค์ปฐม

หอพระไตรปิฏก - หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา พระ
พุทธรูปปางอุ้มบาตรยืนสูง ๓๐ ศอก (ประมาณตึก 4 ชั้น)
หลวงพ่อสร้างเป็นพระพุทธรูปประทับยืนอุ้มบาตร เดิมเรียกว่า "หลวงพ่อโต"
(สร้างคล้ายกับที่ วัดอินทรวรวิหาร กรุงเทพฯ)
อยู่บริเวณใกล้กับวิหารสมเด็จองค์พระปฐม ภายในบริเวณนี้มีเจดีย์พุดตาน
และเจดีย์บรรจุอัฐิบิดาของคุณอภิชาต สุขุม
หอพระไตรปิฎกสูงขนาดตึก ๖ ชั้น เป็นสถานที่ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างไว้ให้สักการะบูชาและขอพร และยังเป็นสถานที่เก็บรักษาพระไตรปิฏก ชั้นล่างจะเปิดโอกาสให้ผู้เดินทางมากราบไหว้จุดธูปเทียนและปิดทองได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ทางวัดได้สร้างองค์จำลองที่มีขนาดเล็กกว่า ประดิษฐานที่ชั้นล่าง ทางเข้าประตูซ้ายของหอพระไตรปิฏก และมีรูปปั้นหลวงปู่ปานและหลวงพ่ออยู่ข้างๆ มีพระเจ้าหน้าที่คอยดูแลสถานที่ คือพระสำเภา สุธมฺปวโร ข้อมูลวัดท่าซุง
หอพระไตรปิฎกสูงขนาดตึก ๖ ชั้น เป็นสถานที่ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้สร้างไว้ให้สักการะบูชาและขอพร และยังเป็นสถานที่เก็บรักษาพระไตรปิฏก ชั้นล่างจะเปิดโอกาสให้ผู้เดินทางมากราบไหว้จุดธูปเทียนและปิดทองได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ทางวัดได้สร้างองค์จำลองที่มีขนาดเล็กกว่า ประดิษฐานที่ชั้นล่าง ทางเข้าประตูซ้ายของหอพระไตรปิฏก และมีรูปปั้นหลวงปู่ปานและหลวงพ่ออยู่ข้างๆ มีพระเจ้าหน้าที่คอยดูแลสถานที่ คือพระสำเภา สุธมฺปวโร ข้อมูลวัดท่าซุง

เจดีย์พุดตาน ประวัติการสร้างพระเจดีย์พุดตาน
การบรรจุสิ่งของในพระเจดีย์ก็มีพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธ
เจ้า มีพระพุทธรูปทองคำ เทวรูป อีกมากมาย ตลอดจนแก้วแหวนเงินทอง
เพื่อบูชาพระรัตนตรัย
ยังมีสมบัติของพระเจ้าศรีธรรมปิฎกหรือพระเจ้าพรหมมหาราชในอดีต
ซึ่งสร้างวัดและพระเจดีย์ระหว่างเขตพิษณุโลกกับเพชรบูรณ์ คณะคุณสันต์ ภู่กร
แห่งจังหวัดพิษณุโลกขุดได้นำมาถวาย เพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์พุดตาน

เจดีย์บรรจุอัฐิบิดาของคุณอภิชาต สุขุม

สวนสมเด็จองค์ปฐม สร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ

ซุ้มประตูข้างปราสาททองคำ เป็น
ซุ้มประตูเข้าออกระหว่างบริเวณลานกว้างหน้าปราสาททองคำกับอีกด้านหนึ่งก็
เป็นลานกว้างที่พื้นมีการตีเส้นเหมือนสนามบาสไว้
และยังมีบันไดสำหรับเดินขึ้นไปตามแนวกำแพง 2 ชั้นไปศาลา 2 ไร่ และศาลา 4
ไร่ได้

ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) ที่
มาของคำว่า ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) เนื่องจาก ปีพ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นปีที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ครบ ๕๐ ปี
ท่านเจ้าอาวาสจึงนำการสร้าง "ปราสาททองคำ"
ขึ้นถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในวาระที่ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ ๕๐
และทางสำนักพระราชวังได้ให้ชื่อปราสาททองคำใหม่ว่า "ปราสาททองกาญจนาภิเษก"
ปราสาททองคำ ก่อสร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ประดับลวดลายไทยปิดทองคำเปลวติดกระจก ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ญาติโยมถวาย รอบนอกปราสาทใช้ทองคำเปลวปิดรอบปราสาท ภายในปราสาทเป็นที่ประดิษฐานสิ่งของสำคัญ คือ
๑. ชั้นแรก เป็นพิพิธภัณฑ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยจะนำสิ่งของต่างๆที่ท่านเคยใช้ก็ดี หรือของส่วนตัวท่านก็ดีมาประดิษฐานไว้ หรือสร้างจำลองสถานที่พักที่ท่านเคยอยู่อาศัย เป็นต้น (ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปเป็นที่สร้างใหม่ "อาคารสมบัติพ่อให้" ใกล้ลานธรรม
๒. ชั้นที่สองและชั้นที่สาม จะเป็นสถานที่เก็บพระพุทธรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวาย ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ปรารภกับพระครูสังฆรักษ์ สุรจิตว่า สถานที่เก็บพระพุทธรูปของพระพุทธองค์ที่ญาติโยมได้ถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไว้มากมาย จึงควรเก็บรักษาไว้เป็นจุดเดียวกัน และสถานที่เก็บก็จำเป็นจะต้องสร้างให้เหมาะสม และสมเกียรติต่อองค์พระทศพล เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์อย่างสูงสุด เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มรณภาพต่อมาท่านเจ้าอาวาสได้ปรึกษากับคณะ กรรมการสงฆ์เพื่อสร้างปราสาททองคำ สนองดำริของพระเดชพระคุณหลวงพ่อโดยได้ทำการก่อสร้างที่โรงทำอิฐเดิมของวัด อันเป็นสถานที่เดิมที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กำหนดไว้ ข้อมูลเพิ่มเติม
ปราสาททองคำ ก่อสร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ประดับลวดลายไทยปิดทองคำเปลวติดกระจก ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ญาติโยมถวาย รอบนอกปราสาทใช้ทองคำเปลวปิดรอบปราสาท ภายในปราสาทเป็นที่ประดิษฐานสิ่งของสำคัญ คือ
๑. ชั้นแรก เป็นพิพิธภัณฑ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยจะนำสิ่งของต่างๆที่ท่านเคยใช้ก็ดี หรือของส่วนตัวท่านก็ดีมาประดิษฐานไว้ หรือสร้างจำลองสถานที่พักที่ท่านเคยอยู่อาศัย เป็นต้น (ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปเป็นที่สร้างใหม่ "อาคารสมบัติพ่อให้" ใกล้ลานธรรม
๒. ชั้นที่สองและชั้นที่สาม จะเป็นสถานที่เก็บพระพุทธรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ที่ญาติโยมนำมาถวาย ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ปรารภกับพระครูสังฆรักษ์ สุรจิตว่า สถานที่เก็บพระพุทธรูปของพระพุทธองค์ที่ญาติโยมได้ถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ไว้มากมาย จึงควรเก็บรักษาไว้เป็นจุดเดียวกัน และสถานที่เก็บก็จำเป็นจะต้องสร้างให้เหมาะสม และสมเกียรติต่อองค์พระทศพล เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์อย่างสูงสุด เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้มรณภาพต่อมาท่านเจ้าอาวาสได้ปรึกษากับคณะ กรรมการสงฆ์เพื่อสร้างปราสาททองคำ สนองดำริของพระเดชพระคุณหลวงพ่อโดยได้ทำการก่อสร้างที่โรงทำอิฐเดิมของวัด อันเป็นสถานที่เดิมที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กำหนดไว้ ข้อมูลเพิ่มเติม

ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) เริ่ม
สร้าง ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๓๖ มีซุ้มพระยืน ๘ ศอก
ประดิษฐานบนยอดปราสาทขณะนี้ปิดทองเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งองค์พระและซุ้มพระ
ในการก่อสร้างปราสาททองคำ
ท่านเจ้าอาวาสได้ให้พระสามารถซึ่งมีความชำนาญในด้านศิลปลายไทย
ดังเช่นบุษบกที่ประดิษฐานสรีระสังขารพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
โดยพระสามารถมีหน้าที่ออกแบบ (พระสามารถ ฐานิสฺสโร
เป็นผู้ออกแบบและสร้างซุ้มพระทั้งหมด ปัจจุบันลาสิกขาบทไปแล้ว)
และควบคุมการก่อสร้างตลอดจนการตกแต่งต่างๆ
ซึ่งท่านก็ได้ออกแบบปราสาททองคำมี ๓ ชั้น มียอดทั้งหมด ๓๗ ยอดเป็นยอดเท่าๆ
กัน ๓๖ ยอด ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ และยอดตรงกลางเป็นยอดใหญ่ ๑
ยอดส่วนบนสุดของปราสาทสร้างพระพุทธรูปปางลีลาขนาด ๘ ศอก ๑ องค์
หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ มีบันไดขึ้นทั้ง ๔ ทิศ
ขณะนี้เทพื้นเสร็จทุกชั้นแล้ว กำลังก่อผนังด้วยอิฐแดงทั้ง ๔ ด้าน ที่เห็นเสาตั้งอยู่หลายเสาจะทำมณฑปต่อไป ในเดือนมิถุนายน ๒๕๔๑ เริ่มทำลายปิดทองผนังชั้นที่ ๒ มาถึงเดือนกันยายนในปีเดียวกัน ปิดผนังชั้น ๒ ด้านทิศเหนือเสร็จไป ๑ ด้านแล้ว ด้านทิศตะวันตกจวนจะเสร็จแล้ว และจะทำลายปิดทองด้านทิศใต้และทิศตะวันออกต่อไป เดือนมกราคม ๒๕๔๒ กำลังลวดลายชั้นที่ ๒ ได้ปิดทองผนังด้านทิศเหนือและทิศตะวันตกเสร็จไป ๓ ด้าน กำลังทำลวดลายปิดทองผนังด้านทิศใต้ เมื่อต้นเดือนตุลาคม ๒๕๔๑ ช่างสามารถเริ่มทำหน้าบันไดชั้นที่ ๑ ขณะนี้ได้ทำลวดลายและปิดทองได้ ๓ หน้าบันได เพื่อให้ทันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ จะเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทองคำที่หน้าปราสาททองคำแห่งนี้ เริ่มวันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม (วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒)
ข้อมูลเพิ่มเติม
ขณะนี้เทพื้นเสร็จทุกชั้นแล้ว กำลังก่อผนังด้วยอิฐแดงทั้ง ๔ ด้าน ที่เห็นเสาตั้งอยู่หลายเสาจะทำมณฑปต่อไป ในเดือนมิถุนายน ๒๕๔๑ เริ่มทำลายปิดทองผนังชั้นที่ ๒ มาถึงเดือนกันยายนในปีเดียวกัน ปิดผนังชั้น ๒ ด้านทิศเหนือเสร็จไป ๑ ด้านแล้ว ด้านทิศตะวันตกจวนจะเสร็จแล้ว และจะทำลายปิดทองด้านทิศใต้และทิศตะวันออกต่อไป เดือนมกราคม ๒๕๔๒ กำลังลวดลายชั้นที่ ๒ ได้ปิดทองผนังด้านทิศเหนือและทิศตะวันตกเสร็จไป ๓ ด้าน กำลังทำลวดลายปิดทองผนังด้านทิศใต้ เมื่อต้นเดือนตุลาคม ๒๕๔๑ ช่างสามารถเริ่มทำหน้าบันไดชั้นที่ ๑ ขณะนี้ได้ทำลวดลายและปิดทองได้ ๓ หน้าบันได เพื่อให้ทันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม ในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ จะเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมทองคำที่หน้าปราสาททองคำแห่งนี้ เริ่มวันงานเททองหล่อพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม (วันเสาร์ที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒)
ข้อมูลเพิ่มเติม

ประตูเข้าปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

เทวรูปที่ประตูปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ภายในปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

เสาแต่ละต้นของปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) ลวด
ลายเทพเทวดา ที่ประดับดารอบเสาทุกต้น
สิ่งสวยงามต่างๆเหล่านี้จะอยู่ทนนานถึงลูกหลานได้ต้องช่วยกันรักษา
กรุณาอย่าจับต้องสิ่งเหล่านี้นะครับ
ปัจจุบันชำรุดไปมากแล้วทั้งที่ชั้นบนยังไม่แล้วเสร็จและเปิดให้เข้าชมเลย

ประตูปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ประตูปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ภายในปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)

ทางขึ้นชั้นบนในปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) ที่เห็นนี้เป็นบันไดขึ้นสู่ชั้นบนสูงๆ ขึ้นไปแต่ปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จและยังไม่อนุญาตให้ขึ้นไปครับ

เก็บภาพ ภายในและภายนอกปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) มีความสวยงามมาก ช่างภาพหลายคนเลือกเป็นสถานที่ในการเก็บภาพสวยๆ

รถบริการนำเที่ยวในวัดท่าซุง ตกลง
ราคากันได้ แต่ปกติจะเป็นราคามาตรฐานเท่ากันทุกคัน
อยู่ที่ว่าจำนวนคนที่มาจะมากจะน้อยถ่ามาน้อยคนก็หารกันแพงหน่อย
แต่รับรองว่าไม่ได้แพงจนนั่งไม่ไหว
ส่วนพวกเราเลือกวิธีการขับรถเข้าไปเองเพราะต้องใช้เวลาในการเก็บภาพมาก
เกรงใจรถครับ

ศาลา ๔ ไร่ - ศาลา ๑๒ ไร่ - ศาลา ๒๕ ไร่ - ตึกขาว ศาลา
ที่สำคัญต่างๆ ในวัดท่าซุงโดยมีวัตถุประสงในการสร้างดังนี้ ศาลา ๑๒ ไร่
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯสร้างไว้ หลังจากที่ได้สร้างศาลา ๒ ไร่ ศาลา ๓ ไร่
และศาลา ๔ ไร่แล้ว ศาลาเหล่านี้สร้างไว้เพื่อใช้ในการจัดงานบุญของวัด
และใช้เป็นที่พักของญาติโยม เพื่อมาปฏิบัติพระกรรมฐาน หรือพักอาศัย
ในเวลาทางวัดมีงานต่างๆ การสร้างศาลา ๑๒ ไร่
เพราะว่าศาลาต่างๆที่สร้างมาแล้วในครั้งที่จัดงานเป่ายันต์เกราะเพชร
ปรากฎว่าผู้คนมามากมายจนล้นศาลา ๒ ไร่ และศาลา ๔ ไร่
เพิ่มรอบในการเป่ายันต์เกราะเพชรแล้ว ผู้คนก็ยังล้นมากมาย
ดังนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ จึงได้สร้างศาลา ๑๒ ไร่ โดยสร้างพระประธาน ๘
ศอก สร้างห้องพักเพื่อให้ญาติโยมได้พักประมาณ ๑๒๐ ห้อง ห้องน้ำประมาณ ๑๔๘
ห้อง (เคยมีโรงทานที่หลวงพ่อให้แม่ครัวของวัดทำอาหารเลี้ยงฟรี
แต่ปัจจุบันนี้ได้ย้ายโรงทานไปไว้ที่ศาลา ๔ ไร่แทน) นอกจากนี้
บริเวณทางเดินชั้น ๒ ก็ได้สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ตลอดแนว
พระชำระหนี้สงฆ์นี้เป็นเงินที่ญาติโยมถวายวัดโดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้าง
พระชำระหนี้สงฆ์และได้ประดิษฐานไว้รอบศาลา ๑๒ ไร่ ปัจจุบันศาลา ๑๒ ไร่
ยังคงใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาและงานบุญต่างๆ เช่น
งานทำบุญประจำปีซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนมีนาคม
งานทำบุญในวันสงกรานต์ งานสะเดาะเคราะห์ งานเข้าพรรษา งานออกพรรษา
งานรับกฐิน งานธุดงค์ และการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง
ซึ่งจัดในช่วงกลางเดือนธันวาคมของทุกปี

ร้านสวัสดิการวัดท่าซุง เป็นร้านสะดวกซื้อภายในมีสินค้ามากมายที่สำคัญคือของใช้จำเป็นสำหรับนักปฏิบัติธรรม

หอไตรกลางน้ำ ฝั่งโบสถ์เก่า ข้าม
ฝั่งจากด้านวิหารแก้วออกมาจากประตูใหญ่ข้ามถนนมาอีกฝั่งหนึ่งจะมีสถานที่
สำคัญๆ หลายแห่ง รวมทั้งท่าน้ำหน้าวัดที่เป็นที่มาของชื่อวัดท่าซุง
หอไตรกลางน้ำ ฝั่งโบสถ์เก่าอยู่ด้านหน้าศาลาเก่าใกล้กับ "หอฉัน"
(ทางไปท่าน้ำ) เป็นอาคารไม้ทรงไทย ลวดลายประดับกระจกปิดทองคำเปลว
เดิมใช้เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกเพื่อมิให้มดปลวกมาทำลาย
โดยสร้างไว้ในสระน้ำเล็กๆ แบบโบราณ
แต่ปัจจุบันเก็บพระไตรปิฎกไว้ที่หอพระไตรปิฎก สูง ๗ ชั้น ด้านหลังพระยืน ๓๐
ศอก ข้อมูลเพิ่มเติม

ท่าน้ำวัดท่าซุง เป็น
จุดที่มีปลาอาศัยอยู่อย่างชุกชุมมาก
ประชาชนสามารถซื้ออาหารปลามาเลี้ยงปลาได้เป็นสถานที่พักผ่อนหลังจากการเดิน
ชมบริเวณวัด หรือจะเป็นสถานที่พักรอเวลาวิหารเปิดก็ได้
credit : http://touronthai.com/
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001