ภาพจำลองการใช้งานชุดอุปกรณ์ URGENT FIRE-PAK
ภาพผู้คนล้มตายจากเหตุเพลิงไหม้ซานติ ก้าผับเมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา สร้างความเศร้าสะเทือนใจ พร้อมเป็นบทเรียนราคาแพงให้ทุกฝ่ายต้องหันกลับมาล้อมคอกรับมือเหตุร้ายที่ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
ภาพผู้คนล้มตายจากเหตุเพลิงไหม้ซานติ ก้าผับเมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา สร้างความเศร้าสะเทือนใจ พร้อมเป็นบทเรียนราคาแพงให้ทุกฝ่ายต้องหันกลับมาล้อมคอกรับมือเหตุร้ายที่ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
นพมาศศิริ ดำรัสธรรม (ซ๊าย) และลำเพาพรรณ ลีรพันธุ์
แต่สำหรับ “ลำเพาพรรณ ลีรพันธุ์” และ “นพมาศศิริ ดำรัสธรรม” ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวมายาวนาน จึงคิดค้น URGENT FIRE-PAK ชุดอุปกรณ์ช่วยชีวิตส่วนบุคคลยามตกอยู่ในเหตุเพลิงไหม้ มากว่า 5 ปีแล้ว ถือเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยแรงบันดาลใจเกิดจากจิตสำนึกที่บอกตัวเองตลอดมาว่า ชีวิตมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด หากสูญเสียไป ไม่มีอะไรทดแทนได้
“จุด เริ่มต้นมาจากเหตุการณ์ 911 มีข่าวคนติดอยู่ในซากตึก แล้วพยายามโทรศัพท์ออกมาหาแม่ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันได้พูด ก็หมดสติไปก่อนเพราะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากสำลักควัน หากเขามีเวลาอีกแค่ 2-3 นาที ก็จะรอดชีวิตแล้ว ประกอบกับเวลานั้น พบอุปกรณ์ต้นแบบช่วยชีวิตจากไฟไหม้ของวิศวกรไทยท่านหนึ่ง จึงเกิดความสนใจนำมาต่อยอด เชื่อว่า ถ้าทำสำเร็จจะช่วยชีวิตคนได้อีกมหาศาล” นพมาศศิริ เผย

ชุดแบบต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ชุดต้นแบบดังกล่าว คุณสมบัติยังไม่เหมาะกับการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบ และมาตรฐานวัสดุอุปกรณ์ ดังนั้น ได้วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง ศึกษาจากตำราวิชาการในและต่างประเทศ อีกทั้ง ได้รับการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) นอกจากนั้น จำลองเหตุการณ์เพื่อทดสอบการทำงานจริง กว่าจะได้ชุดที่สมบูรณ์แบบใช้เวลามากกว่า 3 ปี กับงบประมาณกว่าล้านบาท โดยจดเป็นสิทธิบัตรไว้แล้ว
กระป๋องบรรจุอากาศบริสุทธิ์
ลำเพาพรรณ เล่าว่า อุปกรณ์แก้ปัญหาอัคคีภัยที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แทบทั้งหมดใช้เพื่อดับไฟที่กำลังไหม้อาคารหรือสถานที่ ไม่ได้ช่วยให้คนหนีรอดออกมาได้ ขณะที่มากกว่า 95% ของผู้เสียชีวิตจากอัคคีภัยมาจากการสำลักควันก่อนความช่วยเหลือจะมาถึง จาก การวิจัยระบุชัดว่า ช่วงเวลาวิกฤตที่สุดของเหตุเพลิงไหม้จะอยู่ระหว่าง 5-10 นาที ถ้าไม่สามารถพาตัวเองออกจากช่วงเวลานี้ไปได้ 70% จะเสียชีวิต ดังนั้น ชุดอุปกรณ์ URGENT FIRE-PAK เน้นให้ผู้ประสบเหตุสามารถพาตัวเองออกมาให้รอดจากจุดที่วิกฤตที่สุดให้ได้ด้วยตัวเอง
ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบเป็นชุดสำเร็จรูป ประกอบด้วยหมวกครอบศีรษะที่ทำจากพลาสติกชนิดพอลิโพรไพลีน(polypropylene) ปราศจากสารพิษ ทนความร้อนได้กว่า 160 องศาเซลเซียส สามารถปกป้องอวัยวะตา หู จมูก ปากจากควันไฟได้ ส่วนด้านหน้าหมวกเชื่อมต่อกับวาล์วและท่อนำอากาศ ซึ่งสายจะเชื่อมจากกระป๋องบรรจุอากาศบริสุทธิ์ สามารถปล่อยให้อากาศไหลออกมาอย่างอัตโนมัติในอัตราที่พอเพียงจะใช้หายใจได้ ในเวลา 3-15 นาที (แล้วแต่จำนวนกระป๋องที่บรรจุ) อีกทั้ง อุปกรณ์ต่างๆ ยังเรืองแสง ช่วยมองเห็นในที่มืด โดยชุดอุปกรณ์ต่างๆ เก็บไว้ใช้งานนานได้กว่า5 ปี ส่วนกระเป๋าบรรจุอากาศ เก็บไว้ได้นาน 2 ปี

ทดสอบการทำงานจากการจำลองเหตุการณ์
สำหรับขั้นตอนใช้งานเพียงสวมชุดอุปกรณ์เข้ากับตัว สวมถุงครอบศีรษะ ดึงสายรัดทั้งสองด้านให้พอดีรอบคอ อมจุกยางไว้หายใจออกทางปาก กดปุ่มล็อกค้างอากาศจะออกมาตามสายเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ ถ้าผ่านการฝึกฝนจะปฏิบัติได้ภายในเวลาไม่เกิน 10 วินาที ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่กำหนดว่า อุปกรณ์ช่วยชีวิตยามเกิดไฟไหม้ควรปฏิบัติการได้ภายในเวลา 30 วินาที
นพมาศศิริ อธิบายเสริมว่า ในต่างประเทศมีอุปกรณ์ลักษณะใกล้เคียงกัน ทว่า มีน้ำหนักมากถึง 3-5 กิโลกรัม ส่วน URGENT FIRE-PAK ทั้งชุดหนักเพียงประมาณครึ่งกิโลกรัม ไม่ เป็นอุปสรรคต่อการวิ่ง ทำให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงสามารถใช้งานได้สะดวก นอกจากนั้น สินค้าของต่างประเทศ ราคาสูงกว่า 2-3 หมื่นบาท ขณะที่สินค้าไทยชิ้นนี้ ราคาเริ่มต้นที่พันกว่าบาท สำหรับแบบพกพากระป๋องเดี่ยว ส่วนราคาสูงสุดแบบชุดติดผนังประมาณ 6 พันกว่าบาท
แบบตู้ติดผนัง
ด้านการทำตลาดนั้น ลำเพาพรรณ เผยว่า จะเข้าไปเสนอสินค้าด้วยตัวเองตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน หากเป็นองค์กรที่มีผู้บริหารชาวต่างชาติ จะให้การตอบรับสินค้านี้อย่างดียิ่ง ตรงกันข้ามกับหน่วยงานของไทย โดยเฉพาะภาครัฐ แม้จะชื่นชมและเห็นความสำคัญ แต่ปฏิเสธการสั่งซื้อ ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีงบประมาณพอสำหรับซื้ออุปกรณ์ดูแลความปลอดภัย
“ส่วน ตัวดิฉันมั่นใจว่า สินค้านี้มีตลาดที่ใหญ่มาก แต่เรายังไม่สามารถไปถึงจุดที่เปิดตลาดได้สำเร็จ เนื่องจากปัญหาสำคัญ คือ ภาครัฐ และคนไทย ยังไม่ได้ให้ความใส่ใจกับความปลอดภัยอย่างจริงจัง แต่หลังเหตุซานติก้า หวังว่า คงมีความตื่นตัวในด้านการหนีไฟและเตรียมการต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในระดับนโยบายจากผู้บริหารองค์กรต่างๆ เราต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกสาธารณะในด้านความปลอดภัยให้เป็นวัฒนธรรม เพื่อตระหนักถึงภัยต่างๆ และให้คนไทยมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดเมื่อเผชิญเหตุการณ์อันตราย อีกทั้งขอให้ช่วยกันสนับสนุนสินค้าไทยเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการเสียดุลการค้าต่างประเทศ” ลำเพาพรรณ ระบุ

คู่หูธุรกิจ ทิ้งท้ายว่า ถึงจะผลิตอุปกรณ์ช่วยชีวิตจากอัคคีภัย แต่ภาวนาว่า อย่าให้มีใครต้องประสบเหตุเพลิงไหม้จนต้องใช้สินค้าตัวนี้จริงๆ เลย ขอเพียงซื้อสินค้าชิ้นนี้เหมือนการทำประกันชีวิต เพื่อความสบายใจโดยหวังว่าเหตุร้ายจะไม่เกิดขึ้น
********************
โทร.0-2255-2808 , 0-2254-5434 และwww.urgentfirepak.net
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001