“ขนมงา” หรือที่คนใต้เรียกว่า “ขนมจี้โจ้” เป็นขนมแป้งที่ตัวแป้งมีลักษณะเหนียว
เป็นสูตรขนมชาวจีนฮกเกี้ยนที่มาแพร่หลายในไทย
ซึ่งนักศึกษาคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี
ปิ๊งไอเดียพลิกแพลงทำเป็น “ขนมงาดอกไม้” ซึ่งทีม “ช่องทางทำกิน” มีสูตรมาเล่าสู่...
พลอย-น.ส.ดวงกมล ฉิมปรุ และ บี-น.ส.อิสรีย์ สุขอ่ำ
นักศึกษาชั้นปี 4 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ-ธุรกิจอาหาร คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี เป็นเจ้าของไอเดีย “ขนมงาดอกไม้” ปรุงรสขนมสูตรใหม่ที่อุดมด้วยคุณค่าสารอาหาร เอาใจคนรักสุขภาพ โดยนำเอาดอกไม้มาเป็นส่วนผสมในขนมงาอย่างลงตัว กลายเป็นขนมงาดอกไม้รสอร่อย
แถมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยมี ผศ.อภิญญา พุกสุขสกุล และ ผศ. อุจิตชญา จิตรวิมล เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
“พวกเราได้เอาขนมงาแบบดั้งเดิมที่ตัวแป้งเหนียวๆ มาปรับปรุงสูตรใหม่
โดยการเพิ่มแป้งเข้าไปเป็นส่วนผสมและเปลี่ยนจากใช้เผือกมาเป็น ใช้มันไข่
เพราะในมันไข่ ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตที่เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย
มีวิตามินเอ (เบต้าแคโรทีน) ช่วยเสริมสร้างกระดูก
ส่วนตัวไส้เปลี่ยนจากถั่วเหลืองหรือถั่วดำมาเป็น ใช้ถั่วเขียว เพราะถั่วเขียวมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ ลักษณะสีน่าทาน นอกจากนี้ยังได้เสริมดอกไม้ 3 ชนิด คือ ดอกคำฝอย ดอกอัญชัน และดอกพวงชมพู เข้าไปด้วย”
สองสาวเล่าพร้อมบอกอีกว่า ที่นำดอกไม้มาเป็นส่วนผสมซึ่งดูน่ารับประทานมากขึ้นนั้น
ด้านประโยชน์ในดอกอัญชันมีสารแอนโทไซยานิน ที่ช่วยล้างสารที่ก่อมะเร็ง
และยังออกฤทธิ์ในการขยายเส้นเลือด เพิ่มการไหลเวียนในหลอดเลือดเล็ก
ดอกคำฝอย ช่วยลดความดันในโลหิตสูง ช่วยขับเหงื่อ เป็นยาระบายอ่อน ๆ บำรุงประสาท
ส่วนดอกพวงชมพู ช่วยเรื่องการหลับ ทำให้หลับง่าย และมีวิตามินเอสูง บำรุงสายตา
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ “ขนมงาดอกไม้” หลัก ๆ ก็มี...เตาแก๊ส, กระทะ, กระชอน,
ถาด, กะละมัง, ทัพพี, หม้อสเตนเลส, ครก, ผ้าขาวบาง และอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ
“ขนมงาดอกไม้” นั้น ส่วนผสมของตัวแป้ง ตามสูตรประกอบด้วย
มันไข่นึ่งสุกบด 4½ ถ้วยตวง,
แป้งข้าวเหนียว 2½ ถ้วยตวง,
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง,
กะทิข้น 1½ ถ้วยตวง,
งาขาวสำหรับคลุก (ปริมาณตามความต้องการ)
และน้ำมันสำหรับทอด จากสูตรนี้จะทำขนมงาดอกไม้ได้ประมาณ 10 ลูก
นอกจากนี้ก็ต้องมีส่วนผสมของไส้
ถ้าเป็น “ไส้ดอกคำฝอย”
ใช้ถั่วซีกนึ่งบด 2 ถ้วยตวง,
ดอกคำฝอยสับ 2 ช้อนโต๊ะ,
น้ำตาล ¼ ถ้วยตวง,
เกลือ ¼ ถ้วยตวง,
น้ำมันผัด 2 ช้อนโต๊ะ
ถ้าเป็น “ไส้ดอกอัญชัน”
ใช้ถั่วซีกนึ่งบด 2 ถ้วยตวง,
ดอกอัญชัน 2 ช้อนโต๊ะ,
น้ำตาล ¼ ถ้วยตวง,
เกลือ ¼ ถ้วยตวง
และน้ำมันผัด
ถ้าเป็น “ไส้ดอกพวงชมพู”
ใช้ถั่วซีกนึ่งบด 2 ถ้วยตวง,
ดอกพวงชมพู 3 ช้อนโต๊ะ,
น้ำตาล ¼ ถ้วยตวง,
เกลือ ¼ ถ้วยตวง,
น้ำมันผัด 2 ช้อนโต๊ะ
และสีชมพูผสมน้ำ 1 ช้อนชา
สองสาวเล่าพร้อมบอกอีกว่า ที่นำดอกไม้มาเป็นส่วนผสมซึ่งดูน่ารับประทานมากขึ้นนั้น
ด้านประโยชน์ในดอกอัญชันมีสารแอนโทไซยานิน ที่ช่วยล้างสารที่ก่อมะเร็ง
และยังออกฤทธิ์ในการขยายเส้นเลือด เพิ่มการไหลเวียนในหลอดเลือดเล็ก
ดอกคำฝอย ช่วยลดความดันในโลหิตสูง ช่วยขับเหงื่อ เป็นยาระบายอ่อน ๆ บำรุงประสาท
ส่วนดอกพวงชมพู ช่วยเรื่องการหลับ ทำให้หลับง่าย และมีวิตามินเอสูง บำรุงสายตา
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ “ขนมงาดอกไม้” หลัก ๆ ก็มี...เตาแก๊ส, กระทะ, กระชอน,
ถาด, กะละมัง, ทัพพี, หม้อสเตนเลส, ครก, ผ้าขาวบาง และอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ
“ขนมงาดอกไม้” นั้น ส่วนผสมของตัวแป้ง ตามสูตรประกอบด้วย
มันไข่นึ่งสุกบด 4½ ถ้วยตวง,
แป้งข้าวเหนียว 2½ ถ้วยตวง,
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง,
กะทิข้น 1½ ถ้วยตวง,
งาขาวสำหรับคลุก (ปริมาณตามความต้องการ)
และน้ำมันสำหรับทอด จากสูตรนี้จะทำขนมงาดอกไม้ได้ประมาณ 10 ลูก
นอกจากนี้ก็ต้องมีส่วนผสมของไส้
ถ้าเป็น “ไส้ดอกคำฝอย”
ใช้ถั่วซีกนึ่งบด 2 ถ้วยตวง,
ดอกคำฝอยสับ 2 ช้อนโต๊ะ,
น้ำตาล ¼ ถ้วยตวง,
เกลือ ¼ ถ้วยตวง,
น้ำมันผัด 2 ช้อนโต๊ะ
ถ้าเป็น “ไส้ดอกอัญชัน”
ใช้ถั่วซีกนึ่งบด 2 ถ้วยตวง,
ดอกอัญชัน 2 ช้อนโต๊ะ,
น้ำตาล ¼ ถ้วยตวง,
เกลือ ¼ ถ้วยตวง
และน้ำมันผัด
ถ้าเป็น “ไส้ดอกพวงชมพู”
ใช้ถั่วซีกนึ่งบด 2 ถ้วยตวง,
ดอกพวงชมพู 3 ช้อนโต๊ะ,
น้ำตาล ¼ ถ้วยตวง,
เกลือ ¼ ถ้วยตวง,
น้ำมันผัด 2 ช้อนโต๊ะ
และสีชมพูผสมน้ำ 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ “ขนมงาดอกไม้”
เริ่มต้นจากการทำตัวไส้ก่อน โดยการเอาน้ำมันใส่ลงในกระทะ นำถั่วซีกนึ่งบดลงไปผัด
ใส่ส่วนผสมของดอกไม้ลงไป (ส่วนผสมทั้ง 3 ไส้ แยกผัดต่างกระทะกัน) ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล
ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน กวนไปเรื่อย ๆ
สังเกตว่าไส้ขนมจับตัวเป็นก้อน มีความแวววาว ไม่ติดกระทะ ก็เป็นอันใช้ได้ ตักขึ้นใส่ภาชนะ
ทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนจะนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ น้ำหนักราว 10 กรัมต่อลูก พักไว้
ต่อไปเป็นการทำตัวแป้ง
ใช้มันไข่ที่นึ่งสุกและบดแล้ว แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า กะทิ ตามสูตร
นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ในกะละมัง แล้วทำการนวดคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน
ระหว่างนวดต้องคอยเติมน้ำสะอาดลงไป เพื่อช่วยให้แป้งเนียนจับเป็นเนื้อเดียวกัน
สังเกตว่าแป้งนิ่ม ไม่ติดมือ ก็เป็นอันใช้ได้ นำเอาผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาด ๆ มาคลุมปิดไว้สักครู่
จากนั้นก็นำแป้งมาปั้นห่อไส้ที่เตรียมไว้ โดยชั่งแป้งก้อนละ 15 กรัม ใช้มือแผ่แป้งออกนิดหน่อย
วางไส้ที่เตรียมไว้ลงกลางแป้ง ทำการจับแป้งหุ้มไส้ คลึงให้กลม
นำไปคลุกงาขาว ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมันให้มีสีเหลืองทอง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
เพียงเท่านี้ก็จะได้ “ขนมงาดอกไม้” ขายได้ในราคาลูกละ 3 บาท, 7 ลูก 20 บาท
“ขนมงาดอกไม้” สูตรนี้ ยังไม่มีการทำขายแพร่หลายตามท้องตลาด
ใครสนใจใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ก็ลองไปฝึกฝนและพลิกแพลงสร้างเป็นสูตรเฉพาะของตนเอง
หรือหากมีข้อสงสัยก็ลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ผศ.อุจิตชญา ได้ที่ โทร. 08-9519-2332.
โดย เชาวลี ชุมขำ : รายงาน
ที่มา : http://www.dailynews.co.th
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001