.
.
.
.
.
.
.








หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยบอกเอาไว้ว่า จะเขียนถึงร้านอาหารที่ถูกน้ำท่วมเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้ไปอุดหนุนเขา เพื่อเขาจะได้มีกำลังใจทำอาหาร
อร่อย ๆ ให้เราทาน วันนี้จึงอดไม่ได้ที่จะพูดถึงร้าน เจ้น้อยกระโทก ซึ่งเขามีสาขาแรกอยู่ที่โคราช ผมไปกินบ่อยครั้งเหลือเกิน และผมก็เพิ่งจะทราบว่าที่จังหวัดปทุมธานี ย่านเมืองเอกก็มีร้านเจ้น้อยกระโทกเหมือนกัน เป็นอีกสาขาหนึ่งครับ ผมไปกินก่อนที่น้ำจะท่วม ซึ่งก็หลายเดือนมาแล้ว แต่ผมเพิ่งจะเขียนให้ในช่วงนี้ ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ครับ
ร้านนี้อร่อยเหมือนที่โคราชเลยครับ แต่ว่าเขาไม่ได้มีอาหารหลากหลายเหมือนที่โคราชนะครับ แต่ในละแวกนั้นคนก็รู้จักร้านของเขากันพอสมควร วันที่ไปผมได้กิน ซี่โครงหมูทอดใบมะกรูด ซึ่งเขาเอาไปหมักกับซอสอะไรไม่รู้เหมือนกันและเอาไปทอด แต่ทอดไฟไม่แรงนักนะครับ แต่เขาคงหมักนานเหมือนกัน เพราะเมื่อผมชิมดูแล้ว เนื้อนุ่มและอร่อยมาก ใช้ได้เลยครับ ผมเป็นคนที่ชอบแทะกระดูกด้วย เคี้ยวมันดีครับ
นอกจากนั้นยังมีอาหารพิเศษให้ผมทานอีก เป็น ปลาทูฟูผัดพริกขิง ต้องเรียนตามตรงนะครับว่า สำหรับใครที่อยากจะทำแบบนี้ คือ ปลาทูสมัยนี้ราคาไม่ได้ถูกเลยที่จะเอามาทำเป็นปลาทูฟู อาหารจานนี้จึงมีราคาค่อนข้างแพงสักเล็กน้อย แต่ต้องบอกว่ารสชาติอร่อยและหอมมากเลยครับ
จานต่อมาเป็น ปลากะพงทอดน้ำปลา ซึ่งปลากะพงนั้นเขาทอดได้ดีจริง ๆ ครับ เพราะว่าเขาไม่ทอดจนกระทั่งแห้งเกินไป เวลากินต้องเอาน้ำปลาผสมกับน้ำมันร้อน ๆ ครับ เอาไปราดบนปลา ที่นี่เขาเสิร์ฟกับยำมะม่วงด้วยนะครับ แต่ผมไม่กินกับยำมะม่วง ผมกินกับพริกน้ำ ปลาของโปรดของผม เมื่อกินเข้าไปแล้วผมมีความสุขมากเลยครับ
ส่วน แกงขี้เหล็ก มีอยู่ 2 ที่เท่านั้นครับที่ผมชอบกิน ถ้าในกรุงเทพฯ คือ ร้านนี้ครับ กับอีกร้านหนึ่ง คือ ร้านนัดพบ ตรงถนนพิบูลสงครามใกล้ ๆ กับสะพานพระราม 5 ซึ่งที่ร้านเจ้น้อยกระโทกนี่ แกงขี้เหล็กอร่อยมาก แต่ไม่แน่ใจวันนั้นที่ผมกินเป็นแกงขี้เหล็กหมูย่างหรือเปล่า อร่อยมากเลยครับ
ยังมี ยำหมูย่างกระเทียมโทน เขาใช้หอมแดงและหอมแขกมาทำครับ จึงมีชิ้นใหญ่ดูสวยงาม น่ากินมาก กลิ่นก็หอมน่ารับประทาน เมื่อกินเข้าไปแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว
ถ้าไปร้านนี้ เมนูที่ขาดไม่ได้ ต้องสั่งมากิน ก็คือ น้ำพริกปลาร้าผัดแห้ง ครับ โดยน้ำพริกปลาร้าที่เขาเอามาให้ผมกินนั้น ผมต้องกินคลุกกับข้าวร้อน ๆ ไม่กินกับข้าวเหนียวเพราะกลัวอ้วนครับ แต่ว่าขอลองเล็กน้อย เพราะมีน้ำพริกปลาร้าที่อร่อย ต้องปั้นข้าวเหนียวกินกับมือนะครับถึงจะอร่อย
มี วุ้นเส้นผัดดอกขจร อาหารจานนี้ผมไม่เคยกินเลย แต่เขาผัดได้อร่อยมาก วุ้นเส้นไม่เละ ยังเป็นเส้น ๆ อยู่เลยครับ สิ่งที่ประหลาดใจที่สุดที่ผมได้กินในวันนั้น เขาบอกเป็น ต้มจืดเกี้ยมไฉ่กระดูกหมูรสแซบ ผมจึงถามกลับไปว่าแล้วอย่างนี้จะเป็นต้มจืดได้อย่างไร
วิธีทำก็คือ เขาจะเอาเกี้ยมไฉ่มาทำให้เค็มก่อน เพราะเกี้ยมไฉ่โดยปกติจะมีรสเปรี้ยว จากนั้น เขาจะเอามาใส่แล้วทำเป็นต้มยำ โดยใส่ซี่โครงหมูเข้าไปในนั้น ต้มไปจนกว่าจะเข้ากันแล้วใส่ทั้งพริกสดและพริกแห้งทุบครับ เมื่อผมลองชิม อยากบอกว่าอร่อยเหลือเกินครับ
ร้านนี้ทำอาหารได้อร่อยจริง ๆ ครับ ไม่รู้ว่าจะติเขาตรงไหนดี ทำให้ผมเขียนชิมให้เป็นยากขึ้นครับ เพราะไม่รู้จะพูดถึงอาหารอะไรดี อย่างไรก็ตาม น้ำที่ท่วมก็แห้งแล้ว เพื่อน ๆ ที่อยู่แถวเมืองเอกหรือแถวอื่นถ้ามีโอกาสไปแถว ๆ นั้น ลองแวะไปชิมได้นะครับ เขามีบริการส่งถึงบ้านด้วย ใครที่อยู่ในหมู่บ้านนั้นเขาทำอาหารตามสั่งส่งไปให้ได้เลยครับ ซึ่งที่นั้นทุกคนก็รู้จักร้านนี้กันดี
ร้านนี้มี 2 ชั้น และเป็นครัวเปิด ถ้าไปตอนอากาศเย็น ๆ แล้วนั่งชั้นบน สั่งเบียร์เย็น ๆ มาดื่ม หรือจะจิบไวน์ไปด้วย ผมว่าบรรยากาศดีมาก ๆ ครับ อย่าลืมแวะไปนะครับ และหวังว่าเมื่อน้ำแห้งทุกสิ่งทุกอย่างคงเรียบร้อย กลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันนะครับ.
ปลาดุกฟู - ปลาทูฟู - ชิมให้เป็น
การที่เราจะรู้ถึงลักษณะของปลาดุกฟูว่า ปลาดุกฟูนี้ทำมาจากอะไร ความจริงแล้ว เขาจะเอาเนื้อปลาดุกที่เอาไปย่างหรือเผาแล้วใช้ส้อมขูดเนื้อปลาให้ออกมาเป็น ชิ้นเล็ก ๆ แล้วเอาไปทอดกับน้ำมันให้ฟูขึ้นมาและมีความกรอบ
แต่ถ้าเป็นปลาทูฟูก็ต้องเอาปลาทู ซึ่งอาจจะเป็นปลาทูนึ่งหรือปลาทูสดก็ได้นะครับ ถ้าเป็นปลาทูนึ่งจะเค็มเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นปลาทูสดต้องเอาไปย่าง แล้วเอาไปทำให้ฟูโดยการทอดเสียก่อน ที่ร้านนี้เขาใช้ปลาทูเพราะว่าเขาอยากให้คนกินได้กลิ่นหอม ๆ ครับ
หลังจากนั้น เขาจะทำน้ำแกง เรียกว่า น้ำพริกขิง ซึ่งใช้เครื่องแกงแดง น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ถั่วฝักยาว เอาไปผัดจนกระทั่งเหนียว จากนั้น เอาปลาทูฟูที่ทอดเสร็จเรียบร้อยแล้วลงไปรวน เป็นการทำที่จะยังคงไว้ซึ่งความกรอบ เพราะว่าน้ำตาลจะเคลือบทำให้ปลาทูยังกรอบอยู่
นี่คือความเข้าใจในวิธีการทำว่ารสชาติของอาหารที่ทำควรจะเป็นอย่างไร แล้วทำไมถึงได้อร่อยนัก นั่นเป็นเพราะความหอม และความเค็มของปลาทู รวมทั้งรสชาติของเครื่องแกงที่ใส่เข้าไป ฉะนั้น ต้องรู้วิธีการทำที่ถูกต้อง ถึงจะชิมให้เป็นอย่างไรครับ.
เข้าครัวกับหมึกแดง - ขนมจีนน้ำยาเห็ด
เครื่องปรุง เครื่องแกง
- พริกแห้งแช่น้ำให้นุ่มแล้ว 9 เม็ด
- กระเทียม 1 หัว
- หอมแดง 5 หัว
- กระชายซอย 1/4 ถ้วยตวง
- ข่าซอย 3 แว่น
- ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อปลาช่อนต้มสุกแล้ว 1/2 ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. โขลกพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง กระชาย ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด เนื้อปลาช่อนต้มสุกแล้วและเกลือ เข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักออกพักไว้
เครื่องปรุงน้ำยาเห็ด
- เครื่องแกงที่โขลกไว้ 4 ช้อนโต๊ะ
- หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
- หางกะทิ 2 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
- เห็ดหอมญี่ปุ่น 80 กรัม
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ขนมจีน 200 กรัม
- ผักกาดดองซอย 80 กรัม
- ถั่วงอก 80 กรัม
- ถั่วฝักยาวซอย 80 กรัม
- ใบแมงลัก 50 กรัม
วิธีทำ
1. นำเครื่องแกงที่โขลกไว้ ลงผัดกับหัวกะทิในหม้อ (ใช้ไฟอ่อน) ผัดจนกะทิแตกมัน แล้วใส่หางกะทิที่เหลือลงไปต้มจนเดือด ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป
2. พอน้ำแกงเดือด ใส่เห็ดหอมญี่ปุ่นลงไป ปรุงรส ด้วยน้ำปลา น้ำตาล เกลือ ออกรสเค็มนำหวานตาม นิด ๆ และรอจนน้ำแกงเดือดอีกรอบปิดไฟ พักไว้
3. จัดขนมจีนลงจานเสิร์ฟและผักที่เตรียมไว้ ผักกาดดองซอย ถั่วงอก ถั่วฝักยาวซอย ใบแมงลัก แล้วนำขนมจีนน้ำยาที่ทำไว้ราด เสิร์ฟร้อน ๆ
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง
www.mcdangguide.com
อร่อย ๆ ให้เราทาน วันนี้จึงอดไม่ได้ที่จะพูดถึงร้าน เจ้น้อยกระโทก ซึ่งเขามีสาขาแรกอยู่ที่โคราช ผมไปกินบ่อยครั้งเหลือเกิน และผมก็เพิ่งจะทราบว่าที่จังหวัดปทุมธานี ย่านเมืองเอกก็มีร้านเจ้น้อยกระโทกเหมือนกัน เป็นอีกสาขาหนึ่งครับ ผมไปกินก่อนที่น้ำจะท่วม ซึ่งก็หลายเดือนมาแล้ว แต่ผมเพิ่งจะเขียนให้ในช่วงนี้ ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ครับ
ร้านนี้อร่อยเหมือนที่โคราชเลยครับ แต่ว่าเขาไม่ได้มีอาหารหลากหลายเหมือนที่โคราชนะครับ แต่ในละแวกนั้นคนก็รู้จักร้านของเขากันพอสมควร วันที่ไปผมได้กิน ซี่โครงหมูทอดใบมะกรูด ซึ่งเขาเอาไปหมักกับซอสอะไรไม่รู้เหมือนกันและเอาไปทอด แต่ทอดไฟไม่แรงนักนะครับ แต่เขาคงหมักนานเหมือนกัน เพราะเมื่อผมชิมดูแล้ว เนื้อนุ่มและอร่อยมาก ใช้ได้เลยครับ ผมเป็นคนที่ชอบแทะกระดูกด้วย เคี้ยวมันดีครับ
นอกจากนั้นยังมีอาหารพิเศษให้ผมทานอีก เป็น ปลาทูฟูผัดพริกขิง ต้องเรียนตามตรงนะครับว่า สำหรับใครที่อยากจะทำแบบนี้ คือ ปลาทูสมัยนี้ราคาไม่ได้ถูกเลยที่จะเอามาทำเป็นปลาทูฟู อาหารจานนี้จึงมีราคาค่อนข้างแพงสักเล็กน้อย แต่ต้องบอกว่ารสชาติอร่อยและหอมมากเลยครับ
จานต่อมาเป็น ปลากะพงทอดน้ำปลา ซึ่งปลากะพงนั้นเขาทอดได้ดีจริง ๆ ครับ เพราะว่าเขาไม่ทอดจนกระทั่งแห้งเกินไป เวลากินต้องเอาน้ำปลาผสมกับน้ำมันร้อน ๆ ครับ เอาไปราดบนปลา ที่นี่เขาเสิร์ฟกับยำมะม่วงด้วยนะครับ แต่ผมไม่กินกับยำมะม่วง ผมกินกับพริกน้ำ ปลาของโปรดของผม เมื่อกินเข้าไปแล้วผมมีความสุขมากเลยครับ
ส่วน แกงขี้เหล็ก มีอยู่ 2 ที่เท่านั้นครับที่ผมชอบกิน ถ้าในกรุงเทพฯ คือ ร้านนี้ครับ กับอีกร้านหนึ่ง คือ ร้านนัดพบ ตรงถนนพิบูลสงครามใกล้ ๆ กับสะพานพระราม 5 ซึ่งที่ร้านเจ้น้อยกระโทกนี่ แกงขี้เหล็กอร่อยมาก แต่ไม่แน่ใจวันนั้นที่ผมกินเป็นแกงขี้เหล็กหมูย่างหรือเปล่า อร่อยมากเลยครับ
ยังมี ยำหมูย่างกระเทียมโทน เขาใช้หอมแดงและหอมแขกมาทำครับ จึงมีชิ้นใหญ่ดูสวยงาม น่ากินมาก กลิ่นก็หอมน่ารับประทาน เมื่อกินเข้าไปแล้วก็ไม่ผิดหวังครับ อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว
ถ้าไปร้านนี้ เมนูที่ขาดไม่ได้ ต้องสั่งมากิน ก็คือ น้ำพริกปลาร้าผัดแห้ง ครับ โดยน้ำพริกปลาร้าที่เขาเอามาให้ผมกินนั้น ผมต้องกินคลุกกับข้าวร้อน ๆ ไม่กินกับข้าวเหนียวเพราะกลัวอ้วนครับ แต่ว่าขอลองเล็กน้อย เพราะมีน้ำพริกปลาร้าที่อร่อย ต้องปั้นข้าวเหนียวกินกับมือนะครับถึงจะอร่อย
มี วุ้นเส้นผัดดอกขจร อาหารจานนี้ผมไม่เคยกินเลย แต่เขาผัดได้อร่อยมาก วุ้นเส้นไม่เละ ยังเป็นเส้น ๆ อยู่เลยครับ สิ่งที่ประหลาดใจที่สุดที่ผมได้กินในวันนั้น เขาบอกเป็น ต้มจืดเกี้ยมไฉ่กระดูกหมูรสแซบ ผมจึงถามกลับไปว่าแล้วอย่างนี้จะเป็นต้มจืดได้อย่างไร
วิธีทำก็คือ เขาจะเอาเกี้ยมไฉ่มาทำให้เค็มก่อน เพราะเกี้ยมไฉ่โดยปกติจะมีรสเปรี้ยว จากนั้น เขาจะเอามาใส่แล้วทำเป็นต้มยำ โดยใส่ซี่โครงหมูเข้าไปในนั้น ต้มไปจนกว่าจะเข้ากันแล้วใส่ทั้งพริกสดและพริกแห้งทุบครับ เมื่อผมลองชิม อยากบอกว่าอร่อยเหลือเกินครับ
ร้านนี้ทำอาหารได้อร่อยจริง ๆ ครับ ไม่รู้ว่าจะติเขาตรงไหนดี ทำให้ผมเขียนชิมให้เป็นยากขึ้นครับ เพราะไม่รู้จะพูดถึงอาหารอะไรดี อย่างไรก็ตาม น้ำที่ท่วมก็แห้งแล้ว เพื่อน ๆ ที่อยู่แถวเมืองเอกหรือแถวอื่นถ้ามีโอกาสไปแถว ๆ นั้น ลองแวะไปชิมได้นะครับ เขามีบริการส่งถึงบ้านด้วย ใครที่อยู่ในหมู่บ้านนั้นเขาทำอาหารตามสั่งส่งไปให้ได้เลยครับ ซึ่งที่นั้นทุกคนก็รู้จักร้านนี้กันดี
ร้านนี้มี 2 ชั้น และเป็นครัวเปิด ถ้าไปตอนอากาศเย็น ๆ แล้วนั่งชั้นบน สั่งเบียร์เย็น ๆ มาดื่ม หรือจะจิบไวน์ไปด้วย ผมว่าบรรยากาศดีมาก ๆ ครับ อย่าลืมแวะไปนะครับ และหวังว่าเมื่อน้ำแห้งทุกสิ่งทุกอย่างคงเรียบร้อย กลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันนะครับ.
ปลาดุกฟู - ปลาทูฟู - ชิมให้เป็น
การที่เราจะรู้ถึงลักษณะของปลาดุกฟูว่า ปลาดุกฟูนี้ทำมาจากอะไร ความจริงแล้ว เขาจะเอาเนื้อปลาดุกที่เอาไปย่างหรือเผาแล้วใช้ส้อมขูดเนื้อปลาให้ออกมาเป็น ชิ้นเล็ก ๆ แล้วเอาไปทอดกับน้ำมันให้ฟูขึ้นมาและมีความกรอบ
แต่ถ้าเป็นปลาทูฟูก็ต้องเอาปลาทู ซึ่งอาจจะเป็นปลาทูนึ่งหรือปลาทูสดก็ได้นะครับ ถ้าเป็นปลาทูนึ่งจะเค็มเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นปลาทูสดต้องเอาไปย่าง แล้วเอาไปทำให้ฟูโดยการทอดเสียก่อน ที่ร้านนี้เขาใช้ปลาทูเพราะว่าเขาอยากให้คนกินได้กลิ่นหอม ๆ ครับ
หลังจากนั้น เขาจะทำน้ำแกง เรียกว่า น้ำพริกขิง ซึ่งใช้เครื่องแกงแดง น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ถั่วฝักยาว เอาไปผัดจนกระทั่งเหนียว จากนั้น เอาปลาทูฟูที่ทอดเสร็จเรียบร้อยแล้วลงไปรวน เป็นการทำที่จะยังคงไว้ซึ่งความกรอบ เพราะว่าน้ำตาลจะเคลือบทำให้ปลาทูยังกรอบอยู่
นี่คือความเข้าใจในวิธีการทำว่ารสชาติของอาหารที่ทำควรจะเป็นอย่างไร แล้วทำไมถึงได้อร่อยนัก นั่นเป็นเพราะความหอม และความเค็มของปลาทู รวมทั้งรสชาติของเครื่องแกงที่ใส่เข้าไป ฉะนั้น ต้องรู้วิธีการทำที่ถูกต้อง ถึงจะชิมให้เป็นอย่างไรครับ.
เข้าครัวกับหมึกแดง - ขนมจีนน้ำยาเห็ด
เครื่องปรุง เครื่องแกง
- พริกแห้งแช่น้ำให้นุ่มแล้ว 9 เม็ด
- กระเทียม 1 หัว
- หอมแดง 5 หัว
- กระชายซอย 1/4 ถ้วยตวง
- ข่าซอย 3 แว่น
- ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อปลาช่อนต้มสุกแล้ว 1/2 ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. โขลกพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง กระชาย ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด เนื้อปลาช่อนต้มสุกแล้วและเกลือ เข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักออกพักไว้
เครื่องปรุงน้ำยาเห็ด
- เครื่องแกงที่โขลกไว้ 4 ช้อนโต๊ะ
- หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
- หางกะทิ 2 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
- เห็ดหอมญี่ปุ่น 80 กรัม
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ขนมจีน 200 กรัม
- ผักกาดดองซอย 80 กรัม
- ถั่วงอก 80 กรัม
- ถั่วฝักยาวซอย 80 กรัม
- ใบแมงลัก 50 กรัม
วิธีทำ
1. นำเครื่องแกงที่โขลกไว้ ลงผัดกับหัวกะทิในหม้อ (ใช้ไฟอ่อน) ผัดจนกะทิแตกมัน แล้วใส่หางกะทิที่เหลือลงไปต้มจนเดือด ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป
2. พอน้ำแกงเดือด ใส่เห็ดหอมญี่ปุ่นลงไป ปรุงรส ด้วยน้ำปลา น้ำตาล เกลือ ออกรสเค็มนำหวานตาม นิด ๆ และรอจนน้ำแกงเดือดอีกรอบปิดไฟ พักไว้
3. จัดขนมจีนลงจานเสิร์ฟและผักที่เตรียมไว้ ผักกาดดองซอย ถั่วงอก ถั่วฝักยาวซอย ใบแมงลัก แล้วนำขนมจีนน้ำยาที่ทำไว้ราด เสิร์ฟร้อน ๆ
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง
www.mcdangguide.com
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001