สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

SME ไม่ต้องมาตี มดดำไม่ต้องมาเหวี่ยง ขายดีอยู่แล้ว ปากริม ไข่เต่า ”เจียะไช้”

SME ไม่ต้องมาตี มดดำไม่ต้องมาเหวี่ยง ขายดีอยู่แล้ว ปากริม ไข่เต่า ”เจียะไช้”

กลับ มาแล้วครับท่านผู้อ่านที่จะเขียนถึงร้านในเมืองไทยบ้านเราหลังจากได้ตะลุย ญี่ปุ่นไปเสีย 3 ตอน เอาเป็นว่าไม่เป็นไรมาหาของกินในบ้านเราเนอะ จะได้ตามไปกินไปเชียร์คนทำมาหากินเสียหน่อย ข่าวคาว เฮ้ย! ข่าวคราว ช่วงอาทิตย์นี้มีแต่ฟิลม์ ฟิลม์ และฟิลม์ พ่อคูณครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมารอดปากเหยี่ยวปากกาได้อย่างไร ตอนเสี่ยฮูด ก็ที่กว่าจะกลับมาได้เอาเฮียเหนื่อยแทบเป็นลม ครั้งนี้เฮียออกปกป้องเสียจนเฮียเองคงต้องรับเป็นพ่อเด็กแทนแล้วกระมัง... โอละหน่อ

มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าครับ ช่วงนี้เพื่อนรักมากมาหากันทุกวันเลยจะต้องคอยจัดเมนูว่าจะไปหาอะไรกินกันดี เพื่อนๆเซนต์คาเบรียล เรียนกันมาตั้งแต่ป.1 คบกัน จนวันนี้เหลือมากเหลือน้อยไม่เป็นไรเป็นว่าเรายังเหลือเพื่อนอีกเป็นใช้ได้ คนร่วมก๊วนที่ไปกินขอแนะนำก่อน สจ๊วตการบินไทย ดุษฎี (พี่ดุ๊กของน้องๆแอร์ ผมเป็นอีกคนที่อยากเรียกพี่ดุ๊ก...ฮุฮุ) มาพร้อมเจ้าของออร์การ์ไนเซอร์ “นิลมังกร” คุณนิพรุจ (ชื่อนี้จำยากเมื่อก่อนชื่อ กิติพันธ์ หมอดูทักจะมีเมียน้อยเลยเปลี่ยน กลัวชีวิตจะหาไม่)พร้อมภรรยา คุณฝน ออกลุยเยาวราชกัน กินหลายอย่างแต่ที่อยากจะแนะให้คุณๆท่านๆ ได้ลองครั้งนี้คือ ปากริมไข่เต่า ขนมไทยโบราณที่ยากจะหากินได้ (ไอ้ที่อร่อยน่ะ) ผมมาเจอคุณเจียะไช้ เข็นรถขายขนมนี้มาตั้ง 30 ปี ถ้าไม่ดีคงขายไม่ได้ อยู่คู่เยาวราชมานานมาก

ขอออกตัวก่อนเป็นคนที่ บอกเรื่องขนมว่าอร่อยไม่อร่อยได้ยาก ไม่ได้เป็นเซียนด้านนี้ แต่ถ้าเป็นขนมสองตัวนี้ของชอบของผม ไม่เป็นรองใคร ปากริมไข่เต่า และ ขนมถ้วย อันนี้หลอกกันยากครับผม กว่าจะเจอพี่ท่านขับขายไปเรื่อย กว่าจะมาปาเข้าไปสามทุ่มกว่าที่ที่ผมเคยกิน พี่เจียะไช้ มาถึงกะว่าจะคุยไม่ได้คุยอีกลูกค้าบานเลย เลยจะต้องตักขายก่อน เอาไหนๆ ก็ตักมากินเลยดีกว่า ตัวเนื้อปากริมจะเหนียวนุ่มมากครับ ทั้งตัวแดงและตัวขาว กระทิที่เลือกใช้หอมเอามากๆ ไม่มั่วเอาของเก่ามาขายโดยเด็ดขาด เห็นหม้อ แม่เจ้ามันจะขายหมดหรือ ได้คำตอบว่า “ช่วนนี้ขายสองหม้อแต่ช่วนกินเจ วันละ 4 หม้อเลยน่ะ” สำหรับคุณที่ต้องการชิมปากริมก็กินได้ช่วงนี้จนถึงเดือนธันวาคม พอเดือนมกราคมถึงพฤษภา จะเปลี่ยนไปขายลอดช่องสิงค์โปร์ เขาบอกว่าของเขาเด็ด กินไปกินมาสิ่งที่ผมชอบนอกจากตัวปากริมแล้ว ความหวานที่ไม่มากเกินไปไม่ใช่หวานจนเสียสติ กินแล้วขนลุก ร้านนี้ครับรับรองไม่ผิดหวัง ... แต่กว่าพี่ท่านจะมาหรือหาเขาพบอันนี้คุณๆท่านๆคงต้องเสี่ยงเอาหน่อย ไม่มีที่ประจำครับ

ร้านเป็นรถเข็นเมื่อมีล้อก็ไปเรี่อยๆ ไม่จอดเป็นที่ ตรงไหนหยุดขายได้ก็ขาย เอาเป็นว่าอยู่บนถนนเยาวราช อยากจะกินก็โทรไปถามว่าตอนนี้อยู่ไหน แล้วจะไปไหนจะได้ไปดักกันถูก คุณเจียะไช้ 087 936 0671 โทรไปแล้วกันผมยังต้องโทรเลย จะกินกันที่ ส่วนเพื่อนผมทั้งสามคนมีความสุขมากที่ได้มากิน... เอาเป็นว่าพวกเรา “อยู่เพื่อกิน”


Read More...


สนุกชัก รัก(ความ)มันส์ ชาชักพี่มะ เพชรบุรีซอย 7 มิตรภาพบนความแซบ



ชาชักรสดี...โรตีหลากหลาย

ตอน นี้ประเทศไทยมีทั้งฟ้าร้อง ฟ้า แลบ แอนด์สายฝนโหมกระหน่ำเกือบทุกวัน หลายคนถึงกับเซ็งจิตทั้งรถติด น้ำท่วม สารพัด แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับขาหม่ำที่ยังออกแสวงหาของอร่อย โดยเฉพาะแฟนประจำนักดื่ม (ชา) ของ "พี่มะ" สำนักชาริมทางเท้าปากซอยเพชรบุรี 7 ด้วยความเด็ดของ "โรตี มะตะบะ และชาชัก" ที่เกิดขึ้นจากความรักสนุกของเจ้าของร้าน ทำให้ทางเท้าที่เคยเงียบเหงากลายเป็นจุดนัดพบของนักดื่มและนักโซ้ยที่มารวม ตัวกันโดยมิได้นัดหมาย แปรเปลี่ยนค่ำคืนที่เงียบเหงาให้เป็นความสำราญใจ และสราญกระเพาะ!

"เมื่อก่อนที่ตรงนี้ไม่มีคนขายอะไร ปากซอยจะเปลี่ยวมาก คนโดนตีหัวบ่อย กระชากกระเป๋าบ่อย เพราะมันมืด ผมก็มาขอเขตว่าผมอยากมาขายตรงนี้ เพราะอยากช่วยชุมชนด้วย แล้วก็ทำให้ตรงนี้มีคนเยอะขึ้น สว่างขึ้น ที่ผมเลือกเปิดร้านขายชาชัก ผมบอกเลยว่าใจจริงผมตั้งใจทำเพื่อสนองตัณหาตัวเองมากกว่า เพราะผมชอบดื่มน้ำชา แต่ไปนั่งที่ร้านอื่นลำบาก นั่งนานก็ไม่ได้ ขออะไรมากๆก็ไม่ได้ ผมก็เลยทำร้านนี้ขึ้นมาเอง ตั้งใจให้ได้ อารมณ์แบบลูกทุ่งๆ บางทีลูกค้าก็เสิร์ฟเอง บริการตัวเอง เก็บตังค์เอง คิดเอง แล้วก็เอาเงินมาหย่อนใส่กล่องให้" คุณพี่มะสละเวลาหน้าเตา มาจับเข่าคุยแบบกันเอ๊ง...กันเอง

เวลากว่า 6 ปีที่คุณพี่มะลงหลักปักเตาเปิดขาย "ชาชัก" และ "สารพัดโรตี" จากที่ทำแค่เล็กๆมีอยู่ไม่กี่โต๊ะ อาณาเขตความแซบก็ค่อยๆขยับขยายออกไปตามระดับเสียงตอบรับ ที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นแบบปากต่อปาก ทำให้บริเวณปากซอยเพชรบุรี 7 คึกคักขึ้นอย่างแรง!!

ด้วยความรักในการดื่ม "ชาชัก" เป็นชีวิตจิตใจ ทำให้พี่มะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ชาในแบบฉบับของตัวเอง "ชานี่ ผมเป็นคนผสมเองนะ ใช้ชาหลายตัว กว่าจะผสมเป็นชาที่ใช้ทำชาชักของที่ร้าน ผมจะเลือก ผสม และชิมเองหมด" พี่มะสั่งชามาจากประเทศมาเลเซีย นำมาผสมด้นสูตรของตัวเอง ทำให้ชาร้านนี้มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ มีความหอมโดดเด่น โดยเฉพาะ "ชาร้อน" จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ นักดื่ม (ชา) ทั้งรุ่นเล็กหน้าใส ยันรุ่นใหญ่ลายคราม หลายคนตั้งใจมาเพื่อดื่มชาร้อนๆ ก่อนกลับบ้าน



ชาร้อนพี่มะมีกลิ่นหอมกรุ่น หวานกำลังดี มันกำลังเหมาะ หม่ำกับโรตี หรือขนมปังปิ้งอร่อยเนียนๆ ทำให้ลืมความจ้ำม้ำไปชั่วขณะ (หุหุ)

พล พรรค นักดื่มชานมที่นิยมความหอม หวาน มัน เจ๊แนะนำให้ซื้อชาร้อนใส่ถุงไปแช่ไว้ในตู้เย็น อยาก ดื่มเมื่อไหร่หยิบมาเทใส่แก้วเติมน้ำแข็งตามความพอใจ จะได้ ชาเย็นรสชาติเข้มข้นเพิ่มความสดชื่นได้ เป็นอย่างดี ชาชักของพี่มะรสชาติค่อนข้างเข้ม นักดื่มคออ่อนดื่มแล้วอาจจะเกิดอาการตาค้าง เจ๊แนะนำให้ซื้อไปดื่มตอนกลางวันเพื่อความปลอดภัย

นอกจาก ชาชักทั้งร้อนและเย็นจะเป็นที่นิยมของแฟนคลับขาประจำนักหม่ำยามราตรีแล้ว "โรตี" ของพี่มะก็อร่อยไม่น้อยหน้า

แป้ง โรตีของที่นี่จะมีเนื้อค่อนข้างเบา ไม่เหนียวมาก เคี้ยวพอสนุกปาก ส่วนผสมเหมือนโรตีทั่วไปมีแป้ง ไข่ นม และเนย แต่พี่มะจะให้ความสำคัญการผสมแป้งอย่างมาก อัตราส่วนทุกอย่างต้องเป๊ะ! ผิดสูตรไม่ได้เป็นอันขาด นอกจากส่วนผสมที่ถูกต้องแล้ว การนวดที่ถูกวิธียังมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน พี่มะต้องนวดส่วนผสมทุกอย่างให้เข้าเนื้อ นวดและปั้นเป็นก้อนเล็กๆ วางพักไว้ รอขายในตอนค่ำ แป้งทุกก้อนทำสดๆ ใหม่ๆ แบบวันต่อวัน ไม่ทำค้างข้ามวันข้ามคืน เจ๊แซบแนะนำให้หม่ำตอนร้อนๆ แป้งจะกรอบนอกนุ่มใน อร่อยได้ทั้งคาวหวาน

สำหรับเมนูโรตี พี่มะมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น "โรตีมะตะบะ" มีให้เลือก 2 ไส้ คือ ไก่ และเนื้อ ส่วน "โรตีแกง" จะเป็นแผ่นแป้งโรตีทอด เสิร์ฟพร้อมกับแกงถ้วยน้อยๆน่ารักน่าชัง มีแกงไก่และแกงเนื้อให้เลือกหม่ำ  โรตีแกงและไส้มะตะบะรสชาติจะเข้มข้น ถึงเครื่อง โซ้ยแล้วได้อรรถรสครบถ้วน  ทุกเมนูพี่มะเลือกใช้เครื่องเทศพิเศษหลายตัวที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอเก็บไว้เป็นความลับให้ คนอยากรู้เล่นๆ (ฮา)


อิ่ม เอมกับเมนูโรตีแกงแล้ว เจ๊แซบขอปิดท้ายด้วยเมนูโรตีหวาน ที่มีให้เลือกมากมาย ทั้ง "โรตีกล้วย, โรตีนม, โรตีน้ำตาลแบบธรรมดา และโรตีน้ำตาลใส่ไข่" เลือกได้ ตามพื้นที่ว่างในกระเพาะที่เหลืออยู่ หรือถ้ายังมีพื้นที่เหลืออีกเพียบพี่มะยังมีขนมปังปิ้งสารพัดหน้าไว้ให้ เลือกโซ้ย ไม่ว่าจะเป็น "ขนมปังเนย น้ำตาล, ขนมปังชุบไข่ หรือขนมปังสเปเชียล" เป็นขนมปังปิ้งหนึ่งคู่มีไข่ดาวอยู่ตรงกลาง คล้ายแฮมเบอร์เกอร์ ดูแปลกตา ถ้าอยากรู้ว่ารสชาติจะสเปเชียลยังไง เจ๊แนะนำให้ไปลองด้วยตัวเอง!!

ร้าน "ชาชักเพชรบุรีซอย  7" เป็นที่รู้จักมักคุ้นกันดีในหมู่พี่น้องชาวใต้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวๆ ถนนเพชรบุรี เพราะพี่มะใช้ ร้านเป็นที่พบปะสังสรรค์ของเพื่อนฝูงผู้นิยมชมชอบในรสชาติชา นักดื่มคอเดียวกันร่วมวงสนทนาในยามค่ำคืน


นัก โซ้ยนอนดึกที่มักจะคึกหลังพระอาทิตย์ ตกท่านใด อยากสัมผัสมิตรภาพอันเรียบง่ายของนักดื่มชา ให้มุ่งหน้ามาที่ถนนเพชรบุรี ร้านพี่มะอยู่ปากซอย 7 ร้านเริ่มขายตั้งแต่ 1 ทุ่มครึ่งจนถึงเกือบเที่ยงคืน ถ้าศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อาจจะหมดเร็ว ร้านเปิดทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ หน้าร้านจอดรถค่อนข้างลำบาก แนะนำให้มารถแท็กซี่ หรือรถไฟฟ้าลงสถานีราชเทวีแล้วเดินมาที่ถนนเพชรบุรี ร้านอยู่ริมฟุตปาทหาง่ายมั่กๆ หรือถ้าอยากเช็กเพื่อความชัวร์ โทร. มาถามได้ที่เบอร์ 08-9523-3738 เบอร์เดียว เท่านั้น!

ทุกวันนี้มีคน มาขอสูตร ขอให้พี่มะทำแฟรนไชส์มากมาย แต่พี่มะไม่สนใจ "ผมตั้งใจทำเป็นร้านสบายๆ ธรรมดาๆ แบบนี้แหละ ไม่ได้หวังร่ำรวย ผมทำที่นี่เป็นที่ที่ให้เด็กๆจากภาคใต้ได้มาทำงาน หาเงินไปเรียน เด็กที่มาทำงานกับผม  หาเงินเรียนจบไปหลายรุ่นแล้ว แล้วผมก็ทำร้านให้เพื่อนๆมานั่งคุยกัน เราไม่ดื่มเหล้า แต่เราดื่มน้ำชา กินโรตีกัน แค่นี้ก็พอแล้ว" พี่มะบอกเล่าอย่างสบายๆ ถึงแนวคิดที่แสนเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยมิตรภาพที่งดงามอย่างแท้จริง!!
เจ๊แซบ หัวเขียว

Read More...


ขนมเปี๊ยะอบเทียนจันทร์เอ๋ย หอม นุ่ม หวานพอดี

นุ่มมากมาย (แทบ) ละลายในปาก จันทร์เอ๋ย ขนมเปี๊ยะอบเทียน เซียนยกนิ้ว


เซียนขนมเปี๊ยะข้างกายเจ๊แซบ ผู้คร่ำ หวอดอยู่ในวงการขนมเปี๊ยะมายาวนาน ตระเวนกินมาแล้วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านเปี๊ยะ (หุหุ) ถึงกับโซ้ยไม่หยุด เมื่อเจ๊แนะนำให้รู้จักกับขนมเปี๊ยะอบเทียนร้าน "จันทร์เอ๋ย" ของ "คุณพี่ใหญ่" ถึงแม้ชื่อจะยังใหม่ในวงการ ไม่ได้มีประวัติยาวนานเท่าร้านอื่น แต่ด้วยความรักในขนมเปี๊ยะอย่างเหนียวแน่นจัดว่าเป็นแฟนตัวจริง ทำให้คุณพี่ใหญ่คิดค้นด้นสูตรจนได้ ขนมเปี๊ยะแสนนุ่ม ละมุนละไม ใครที่ลิ้มลองเป็นต้องติดใจ!!

"โดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบกินขนมเปี๊ยะ อยู่แล้ว เจ้าไหนที่ว่าอร่อย ผมก็ไปชิมมาหมด วันหนึ่งเราก็คิดว่าน่าจะเปิดขายเอง แต่ต้องหาสูตรของตัวเองก่อน เริ่มจากศึกษากรรมวิธีการทำ ถามผู้รู้ คนที่เขาทำมาก่อน แล้วก็เอาที่เราเคยกินมาดู ว่าเราชอบตรงไหน แล้วก็ปรับให้ได้สูตรอร่อยในแบบของเรา กว่าสูตรจะลงตัว ผมใช้เวลาเป็นปีๆครับ ศึกษาเอง ลงมือทำเอง เมื่อก่อนไม่มีหน้าร้าน เราใช้วิธีมีคนสั่ง แล้วเอาไปส่งตามออฟฟิศ ตามงาน จนกระทั่งมีลูกค้าถามเรามากๆเข้า ว่าอยากจะซื้อกินเอง จะซื้อได้ที่ไหน จะซื้อยังไง ทำให้ผมเริ่มทำหน้าร้านขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อนนี้เองครับ" คุณพี่ใหญ่ทุ่มเททั้งหัวใจและประสบการณ์ลงไปในทุกขั้นตอนของขนมเปี๊ยะ เข้ากับแนว ความคิดที่ว่า "อยากกินอย่างไร...ทำขายอย่างนั้น" !!!

คุณใหญ่
คุณใหญ่

ขนมเปี๊ยะ "จันทร์ เอ๋ย" มีความโดดเด่นอยู่ที่ความนุ่ม สัมผัสได้ตั้งแต่ยังไม่เข้าปาก แค่ ใช้มือจับ หรือใช้ช้อนตัด สามารถรับรู้ได้ ทันที แผ่นแป้งบ๊าง...บาง แต่ก็ยังมีความเหนียวแทรกอยู่ในทุกอณูของความนุ่ม โซ้ยคู่กับน้ำชาร้อนๆ หรือกาแฟอุ่นๆ ก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เหมาะที่จะมีติดบ้านไว้เอาใจญาติผู้ใหญ่ หรือเอาใจตัวเองยามว่างจากงานบ้านในช่วงบ่าย อิ่มสบายๆได้ประโยชน์

เจ๊ แซบแอบสะกิดถามเคล็ดลับความนุ่มของแป้ง คุณพี่ใหญ่ใจดีเปิดเผยทุกกลวิธีแบบไม่มีหมกเม็ด แป้งที่ใช้ทำขนมเปี๊ยะของร้านนี้จะแบ่งออกเป็น สองส่วน คือ แป้งชั้นนอก และแป้งชั้นใน ซึ่งจะมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน

แป้งชั้นใน คุณพี่ ใหญ่ใช้แป้งสาลี นวดผสมกับเนยขาวให้เนียนจนกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้ววางทิ้งไว้ หันมาทำ แป้งชั้นนอก โดยละลายน้ำตาล กับน้ำเปล่าและผสมน้ำมันพืชให้เข้ากัน นำไปผสมกับแป้งสาลีและนวดจนแป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วพักไว้

 

จากนั้นนำแป้งทั้งสองส่วนมาปั้นแบ่งเป็นก้อนๆ แล้วค่อยนำก้อนแป้งชั้นนอกมาแบออก ใส่แป้งชั้นในไว้ตรงกลาง คลึงจนแป้งสองส่วนรวมกันและแผ่ออกเป็นแผ่นยาว ม้วนเป็นแท่ง ตัดแบ่งออกเป็นชิ้น แล้วจึงนำแป้งแต่ละชิ้นมาคลึงเป็นแผ่นกลมๆอีกครั้ง ใส่ไส้ไว้ตรงกลาง หุ้มแป้งปิดไส้ให้มิด ปั้นเป็นก้อนๆสวยงาม แค่เจ๊แซบฟังขั้นตอนการทำก็เหนื่อยแทน ใครที่อยากหม่ำแต่ไม่อยากลงมือทำเจ๊แนะนำให้ไปซื้อคุณพี่ใหญ่ ทั้งสะดวก สบายและอร่อยชัวร์ (หุหุ)

นอกจากตัวแป้งที่ต้องลงแรงหลายซับหลายซ้อน แล้ว "ไส้ถั่ว" ที่อัดแน่นอยู่ภายใน ยังต้องใช้ ความใส่ใจไม่น้อยไปกว่ากัน คุณพี่ใหญ่ใช้ถั่วเขียวกะเทาะเปลือกอย่างดี นำไปแช่น้ำประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วนำไปต้มจนเปื่อย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ น้ำมันพืช กวนจนทุกอย่างรวมกันเป็นเนื้อเนียน แห้งได้ที่ เป็นอันเสร็จสิ้น พร้อมนำไปปั้นต่อไป


ไส้ถั่วของร้านนี้รสชาติกำลังดี ไม่เค็ม ไม่หวานจนเกินไป รสชาติกลางๆ เน้นที่ความมันของถั่ว สำหรับไส้ไข่เค็ม คุณพี่ใหญ่จะนำไข่เค็มไปต้มจนสุกกำลังพอเหมาะ แล้วเลือกเฉพาะไข่แดงนำมาบดให้ละเอียด เตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไป

หลัง จากได้แป้งเนื้อนุ่ม ไส้ถั่วสุดหอม ไข่แดงเค็มแสนมันแล้ว นำทั้งสามส่วนมาปั้นเป็นก้อนกลมๆพอดีสองคำ แล้วทาด้วยไข่แดงก่อนจะนำเข้าเตาอบประมาณ 25 นาที นำออกมาทาไข่แดงเพิ่มอีกครั้ง แล้วอบต่ออีก 5 นาที พักให้เย็น แล้วนำไปอบเทียนเพิ่มความหอมให้ ลึกซึ้งดื่มด่ำถึงขีดสุด

การอบเทียน ของร้านนี้จะขึ้นอยู่กับความ ต้องการของลูกค้า ถ้าต้องการความหอมระดับมาตรฐาน คุณพี่ใหญ่จะอบประมาณ 1-3 ชั่วโมง แต่ถ้าต้องการความหอมระดับเกินมาตรฐานต้องโทร.มาสั่งล่วงหน้าพอประมาณ ทางร้านจะอบให้นานประมาณ 1-2 คืน ใครต้องการความหอมแบบพิเศษกรุณาโทร.เช็กกับทางร้านเพื่อความเบิกบานกระเพาะ

ขนมเปี๊ยะอบเทียนจันทร์เอ๋ย หอม นุ่ม หวานพอดี

ขนมเปี๊ยะอบเทียนจันทร์เอ๋ย หอม นุ่ม หวานพอดี
ร้านขนมเปี๊ยะ "จันทร์เอ๋ย" ไม่ใส่สารกันบูด สามารถเก็บแบบไม่แช่เย็นได้ไม่เกิน 3 วัน ถ้าใส่ตู้เย็นอยู่ได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์

พิกัด ความอร่อยตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 3 ซอย 23 เลี้ยวเข้าซอยมาประมาณ 200 เมตรจะเจอสามแยก เลี้ยวซ้าย ขับโค้งมาตามถนน ข้ามสะพานปูนเล็กๆ ลงสะพานจะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ ถ้าไม่ถนัดเส้นทางโทร.ถามได้ที่เบอร์ 08-7697-7678 และ 08-5353-3863 ร้านขายทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม ช่วงเทศกาลทานเจ ทางร้านมีขนมเปี๊ยะแบบเจให้เลือกหม่ำ ทั้งอร่อย ทั้งได้บุญ

เจ๊แซบสนับสนุนเต็มที่ค่า!!
เจ๊แซบ หัวเขียว

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ
ไทยรัฐ
วันที่โพส : 2010-10-10 09:59:55

Read More...


เสน่ห์ของความกรึบ "เจ๊เซี๊ยม" ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดง


เจ๊ แซบฝ่าสายฝน สวนกระแสน้ำท่วมมุ่งไปโซ้ยของแซบแถบหัวหิน นับเป็นโชคของเจ๊พอมาถึงปุ๊บ น้ำที่เคยเจิ่งนองก็แห้ง เหือด แถมฟ้ายังใส๊..ใส ไม่มีฝนสักกะเม็ด เจ๊แซบไม่รอช้ารีบลัดเลาะเสาะหาของอร่อยๆ หม่ำให้หนำใจ ร้านแรกที่ลงหลักปักหมุด เป็นร้าน "ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดง" ของ "เจ๊เซี๊ยม" หญิงแกร่งแห่งหัวหิน ขวัญใจเด็กเส้นที่ไม่ชอบความเรียบง่าย โซ้ยเส้นไป เคี้ยวซี่โครงอ่อนไป เร้าใจสุดๆ (หุหุ)

เจ๊เซี๊ยมตัวจริง
เจ๊เซี๊ยมตัวจริง

"ก่อน หน้ามาขายก๋วยเตี๋ยว ป้าเป็นคนดูแลบ้านให้เจ้านายค่ะ เราก็ดูแลบ้านท่านไป ก็หาที่ทางทำมาหากินไปด้วย ก็ไปได้สูตรก๋วยเตี๋ยวมาจากน้องชาย แล้วเรา ก็เอามาปรับปรุงสูตรอีกที เราก็คิดใส่ซี่โครงหมูตุ๋น แล้วก็ปรับสูตรน้ำซุป ปรับเอง คิดค้นเอง ใช้เวลาไม่นานก็ลงตัว แล้วป้าก็ลองใส่ซี่โครงแก้ว แล้วก็ถามลูกค้า ลูกค้าบอกว่า...เธอทำได้ดี...เราก็ยิ่งมีความมุ่งมั่น ตั้งใจอยากทำให้มันดีขึ้น ผลตอบรับของ ลูกค้าตอนแรกก็มาเรื่อยๆนะคะ ก็ไปได้ดี คนค่อยๆมาทานกัน เมื่อก่อนขายหน้าบ้าน เจ้านาย แล้วเราก็ย้ายออกมาอยู่ตรงข้าม แล้วเจ้าของเค้าเอาที่คืน ป้าก็ต้องย้ายมาอีกรอบ แต่อยู่ไม่ห่างกัน ต้องลงทุนใหม่ ลูกค้าเก่าก็ยังไม่ค่อยรู้ ร้านใหม่นี่เพิ่งย้าย มาได้ 3 เดือนเองค่ะ" ฟังเจ๊เซี๊ยมเล่าที่มาที่ไปของร้านแล้ว เจ๊แซบแอบคิด...เส้นทางข้างหม้อของเจ๊เซี๊ยมแซบไม่แพ้น้ำซุปในหม้อเลย จริงๆ!!
จากเพิงเล็กๆใต้ต้นมะขามบนที่ดินของเจ้านาย เจ๊เซี๊ยมฝ่าฟันจนขยับขยายสร้างเป็นร้านของตัวเอง นับจากวันแรกจนถึงวันนี้เจ๊เซี๊ยมนับนิ้วรวมอายุได้กว่า 15 ปี มีลูกค้าเข้ามารับบริการความแซบอย่างต่อเนื่อง
เสน่ห์แรกของร้านนี้ ที่ประทับ ลิ้นแอนด์ประทับใจเจ๊แซบคือ ความกรึบกรุบของ "ซี่โครงแก้วตุ๋น" เจ๊เซี๊ยม สั่งซี่โครงแก้วจากร้านเจ้าประจำ ปกติซี่โครงหมูแก้วจะมีไม่มาก หายากเป็น พิเศษ ในแต่ละวันทำได้ไม่เยอะ และจะหมดเร็วเป็นพิเศษ


เจ๊ เซี๊ยมจะสับซี่โครงแก้วเป็นชิ้นแค่พอดีคำ ล้างด้วยน้ำเกลือ เพิ่มความแดง ใส สะอาด ให้ซี่โครง จากนั้นนำไปตุ๋นกับเครื่องพะโล้ เจือจางไม่ต้องใส่มาก จนกลบรสชาติของ ซี่โครง แล้วค่อยเพิ่มมิติของรสชาติด้วยข่า กระเทียม พริกไทยดำ ตุ๋นไฟแรงประ-มาณ หนึ่งชั่วโมงกว่า แล้วค่อยๆผ่อนไฟ ตุ๋นต่อไปเรื่อยๆ ขายไปตุ๋นไปจนกว่าจะหมด "ลูกค้าจะชอบซี่โครงแก้วของป้า เพราะจะกรอบๆถูกใจ จะเป็นอะไรที่หมดก่อนเลย" ขาโซ้ยที่ชอบแทะโลม เอ๊ย! แทะเล็มกระดูกอ่อนๆ เจ๊แซบแนะนำให้โทร. ถามล่วงหน้า จะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์!
อีกหนึ่งรายการฮิตที่ติดใจแฟนคลับนักหม่ำ ของตุ๋นคือ"น่องไก่ตุ๋น" เจ๊เซี๊ยมคัดน่องไก่ อย่างดี นำมาตุ๋นกับเครื่องเทศตัวเดียวกับซี่โครงแก้ว ตุ๋นจนเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยเครื่องเทศรสกลมกล่อม น่องไก่ตุ๋นเป็นอีกหนึ่งเมนูที่หมดเร็ว ควรไปเฝ้าหน้าเตาเช้าหน่อย ถ้าอยากอร่อยครบสูตร
นอกจากซี่โครง อ่อนและน่องไก่ที่ตุ๋นได้กำลังดี มีแฟนประจำมากมาย "เนื้อหมู ลวก" ก็นุ่มละมุน ละไมไม่น้อยหน้า เจ๊เซี๊ยมใช้หมูเนื้อสันสไลด์เป็นชิ้นๆ หมักกับซีอิ๊ว   ซอสหอยนางรม และเครื่องปรุงอีกหลากหลายชนิด หมักทิ้งไว้ ข้ามคืน หมักจนเนื้อหมูนุ้ม...นุ่ม จะใส่มาในก๋วยเตี๋ยวแห้งหรือก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก็หม่ำเพลิ้น..เพลิน!

ขาโซ้ยที่ชอบ "ตับ"  เจ๊ แนะนำให้สั่งลวกเพิ่มมาเป็นพิเศษ ตับร้านนี้เลือกและลวกได้ดีจริงๆ ไม่มีกลิ่น นุ่ม เหนียว เคี้ยวกำลังสนุก
ลูกค้าประจำหลายคนจะสั่ง "ซี่โครงแก้ว เนื้อหมูลวก และตับลวก" มาจิ้มกับ "ซอสสูตรพิเศษ"

กระดูกหมูอ่อนกรุบกรึบ
กระดูกหมูอ่อนกรุบกรึบ

ของ ทางร้าน ซอสตัวนี้ถือเป็นนางเอกประจำร้าน เจ๊เซี๊ยมคิดค้นด้นสูตรด้วยตัวเอง เป็นซอสพริกสองตัวผสมกัน ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ และเสริมความหอม เผ็ด ร้อน ด้วยพริกดองที่ทำจากพริกกะเหรี่ยง ในแต่ละวันเจ๊
เซี๊ยมจะกวน ซอสตั้งแต่ เช้า ทำวันต่อวัน ใส่โหลใหญ่ๆ แล้วค่อยตักแบ่ง ใส่ ขวดวางไว้ตามโต๊ะ วิธีหม่ำทำได้หลายอย่าง ตั้งแต่ใส่ ในก๋วยเตี๋ยวเหมือนเครื่อง ปรุงทั่วไป หรือใส่ถ้วยน้อยๆสำหรับใช้จิ้ม หรือซื้อกลับบ้านไปทานแทนน้ำจิ้มสุกี้ มีขาประจำหลายคนมุ่งหน้ามาเพื่อซื้อซอสโดยเฉพาะใครอยากรู้ว่าซอสเจ๊เซี๊ยมมี ดียังไง ต้องไปลอง!!

ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้นอกจากจะมีเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร เพราะคิดอยากจะใส่อะไร ทำอะไร ก็ลองใส่ ลองทำ เพื่อสร้างทางเลือกให้ขาหม่ำขี้เบื่อ แต่สิ่งหนึ่งที่เจ๊เซี๊ยมไม่ละเลยคือ ความอร่อย กลมกล่อมของ "น้ำซุป" ที่ทำจากกระดูกหมูต้มกับเครื่องเทศที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัว เจ๊เซี๊ยมจะใส่เครื่องเทศไว้ในผ้าขาวบาง แล้วมัดเป็นก้อนๆ นำไปต้มกับกระดูกหมู ต้มทั้งวันตั้งแต่เช้ายันร้านเลิก ทำให้น้ำซุปหวาน หอม กลมกล่อม ยิ่งบ่ายยิ่งอร่อย เครื่องเทศสุดอัศจรรย์นี้ประกอบด้วยพริกไทยดำ กระเทียม รากผักชีเล็ก รากผักชีใหญ่ อ้อย ใบเตย ลำไยแห้ง และเครื่องยาจีนอีกมากมาย บอกยังไงก็ไม่หมด เพราะเจ๊ไม่อยากบอก (หุหุ)

เกาเหลากลมกล่อม
เกาเหลากลมกล่อม

ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋นเจ๊เซี๊ยม" เปิดบริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ร้านเปิดตั้งแต่ 8 โมงครึ่งจนถึง 4 โมงครึ่ง พิกัดความอร่อยอยู่ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถ้ามาจากกรุงเทพฯมาตามถนนสายหลัก เลี้ยวเข้าซอย 41 หรือซอย 45 ขับตรงเข้ามาเจอถนน สายใน เลี้ยวขวาตรงมาจะเห็นร้านเจ๊เซี๊ยมอยู่ทางซ้ายมือ นึกไม่ออก มาไม่ถูก โทร. ถามได้ที่เบอร์ 0-3251-3427
ก่อนจบก่อนจาก เจ๊เซี๊ยมฝากบอกว่าที่ตั้งร้าน ใหม่อยู่ไม่ไกลจากร้านเดิม ลูกค้าประจำเจ๊เซี๊ยมที่มาแล้วหาไม่เจอ ให้สังเกตหน้าเจ๊เซี๊ยมเป็นหลัก ถ้าตัวจริงไม่อยู่ในร้าน ก็มีรูปติดอยู่ที่ป้ายหน้าร้าน "ถ้าเห็นป้าอยู่ หรือเห็นรูปป้าแสดงว่าใช่แน่นอน แต่ถ้าไม่เห็น แสดงว่าไม่ใช่ ร้านป้านะ เดี๋ยวจะหลงไปกินผิดร้าน"!!!


เจ๊แซบ หัวเขียว

Read More...


Pasta Puttanesca

 
 
เรื่องของพาสต้า มีให้เลือกอร่อยได้หลายแบบหลายสไตล์ด้วยกัน ทั้งแบบเข้มข้นด้วยนมเนย หรือจะจัดจ้านด้วยเครื่องปรุงแบบไทยๆ ก็สามารถดัดแปลงได้ตามความชอบ แต่สำหรับ Pasta Puttanesca นี้ คุณหม่อน—ชนกนาถ ภากรศิริวงศ์ หลานรักของราชาที่ดิน "อาจ อรรถกระวีสุนทร" บอกว่า อาจจะเรียกว่าเป็นแบบ store cupboard คือใช้เครื่องปรุงเป็นของแห้งหมดเลย ตั้งแต่มะเขือเทศแห้ง ลูกมะกอกดำ แอง โชวี่ (หรือที่เขาเรียกว่าปลาร้าฝรั่ง) เป็นต้น


จากอาทิตย์ที่แล้ว คุณหม่อน-ชนกนาถ ได้แนะนำวิธีทำ Banoffee ไปแล้ว อาทิตย์นี้ก็มาถึงของคาวบ้าง ในฐานะที่เป็นศิษย์กอร์ ดอง- เบลอ (ลอนดอน) ก็ต้องโชว์ฝีมือทั้งอาหารคาวและหวาน โดยเธอขอเลือกเมนูป๊อปปูล่าร์  ที่ทุกครั้งที่มีปาร์ตี้ในหมู่เพื่อนฝูง จะต้องทำขึ้นโต๊ะเสมอ อย่าง Pasta Puttanesca นี้


เครื่องปรุง : เส้นพาสต้าชนิด Linguini/ กระเทียมสับ/แองโชวี่ 2—3 ตัว แล้วแต่ขนาด/ มะกอกดำดองหั่นเป็นแผ่นบางๆ/ลูกเคเปอร์ สับหยาบ/มะเขือเทศแห้ง แช่น้ำมันมะกอก/ปลาทูน่า ในน้ำแร่ รสชาติจะได้ไม่เค็ม/มะเขือเทศสดลูกเล็ก/ใบโหระพา/เกลือ/พริกไทย/น้ำมันมะกอก


วิธีทำ 1). ต้มเส้น Linguini อย่าให้สุกเกินไป 2). นำแองโชวี่ลงผัดกับน้ำมันมะกอก แต่ก่อนจะนำลงผัด ควรนำออกจากตู้เย็นมาพักไว้ในอุณหภูมิห้องก่อน เพื่อว่าเวลานำลงผัด น้ำมันจะได้ไม่กระเด็น และควรใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อว่าแองโชวี่จะได้ไม่ไหม้ โดยผัดให้แองโชวี่ละลายเป็นเศษไปเลย 3). ใส่กระเทียมสับและมะเขือเทศแห้งลงผัดด้วย 4). เมื่อกระเทียมเริ่มเหลือง จึงใส่ส่วนผสมที่เหลือ ยกเว้นใบโหระพา ลงไปผัดให้เข้ากัน พร้อมปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามต้องการ 5). ใส่เส้น Linguini ลงไปผัดกับเครื่องปรุงอื่นๆ จนเข้ากัน จึงเด็ดใบโหระพาใส่ลงไปคลุกเคล้า เข้ากันดีแล้วจึงยกขึ้นจากเตา ......สำหรับใบโหระพาควรจะใช้วิธี การเด็ดด้วยมือ จะให้กลิ่นหอมกว่าใช้มีดหั่นหรือตัด




ที่มา:

Read More...


เมนูอีสต์ มีท เวสต์

เมนูอีสต์ มีท เวสต์ 
 

ประเดิมศักราชใหม่ปีกระต่ายด้วยอาหารง่ายๆ จากฝีมือลิตเติ้ลเชฟ น้องคริส-ธีริทธิ์ วัย 12 ปี กับ น้องแพมนภิษา วัย 10 ขวบ ลูกๆของคุณธีรพงศ์-คุณพรนภา จันศิริ ทั้งคู่ต่างชอบเข้าครัวทำอาหารรับประทานกันเอง โดยมี พี่คริสเป็นแรงจูงใจที่สำคัญ เพราะชอบปรุงอาหารให้น้องๆอีก 2 คนทานเป็นประจำ ด้วย ความที่ชอบเข้าครัวทำอาหารรสจัดๆทานอยู่ตลอด พอถูกส่งไปเข้าเรียนที่โรงเรียนซัมเมอร์ ฟิลด์ส เมืองออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ อยู่ 2 ปี ทำให้หมดโอกาสที่จะได้ลงมือทำอาหารอร่อยๆด้วยฝีมือตัวเอง จึงเป็นเหตุให้ "น้องคริส" รบเร้าขอกลับมาเรียนที่เมืองไทยดีกว่า เลยทำให้ห้องครัวที่บ้านจันศิริไม่เหงาอีกต่อไป แถมยังได้โชว์ฝีมือปรุงอาหารเลี้ยงแขกของคุณพ่อคุณแม่ โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องเข้ามายุ่งในครัวเลยด้วย ปล่อยเป็นหน้าที่ของลูกทั้งสามจัดการเรื่องอาหารแต่ลำพัง


เมนูจากสองพี่น้อง ที่นำมาเสนอวันนี้ เป็น การปะทะกันระหว่างตะวันออก (อีสต์) กับตะวันตก (เวสต์) โดย "น้องแพม" ขอโชว์น้ำยาปลาทูน่า ที่ตนเองชอบ ส่วน "พี่คริส" โชว์สลัดปลาซัมมะ อาหารเพื่อสุขภาพเหมาะกับผู้ที่อยากลดความอ้วนด้วยค่ะ

เครื่องปรุง : ปลาทูน่ากระป๋อง 2 กระป๋อง/หัวกะทิ 1 ถ้วย/หางกะทิ 2 ถ้วย/เกลือ 2 ชช./น้ำตาลปี๊บ 1 ชต./เครื่องแกง (พริกชี้ฟ้าแดงแห้ง 5 เม็ด แกะเม็ดออกและแช่น้ำ+พริกเหลืองสด 2 เม็ด+กระชาย 2 ชต.+ข่า 1 ชต.+ตะไคร้ 1 ชต.+กะปิ 1/2 ชช.+เกลือ 1/2 ชช.**นำส่วนผสมทั้งหมดมาโขลกให้ ละเอียด)/ขนมจีน...วิธีทำ นำเครื่องแกงละลายในหัวกะทิที่ตั้งไฟอ่อนๆ พอมีกลิ่นหอมค่อยเติมหางกะทิลงผสม รอจนเดือดจึงใส่เนื้อปลา ทูน่าที่ยีให้ละเอียด ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาลปี๊บ ให้ได้รสชาติตามชอบ ทานกับ ขนมจีน โดยมีผักเครื่องเคียง อาทิ มะระหั่นบางๆลวก ถั่วฝักยาว ผักกาด ดอง ใบแมงลัก และไข่ต้ม


สำหรับ เมนูสลัดปลาซัมมะ (Pan-Fried Samma with mix salad) ซึ่งถือเป็นเมนูตะวันตก เครื่องปรุง : ปลาซัมมะ 4 ชิ้น/เกลือ/ พริกไทย/ผักสลัดต่างๆ....ส่วนผสม น้ำสลัด : Balsamic Vinegar 1 ชต./White Balsamic 1 ชต./น้ำมันมะกอก 2 ชต./ซีอิ๊วญี่ปุ่น 1/2 ชต./Almond oil 1/2 ชต.


วิธีทำ 1) ก่อนนำปลาซัมมะลงนาบกับกระทะ ให้โรยเกลือและพริกไทยทั่วตัวปลาด้านที่เป็นเนื้อ ส่วนด้านที่ติดหนังให้โรยเกลืออย่างเดียว 2) ใส่น้ำมันพืชในกระทะเล็กน้อย ใช้ไฟปานกลาง วางปลาด้านที่ติดหนังนาบกับกระทะ พอเนื้อปลาเริ่มสุก จึงนำขึ้นโดยพลิกด้านหนังขึ้น แล้ววางบนกระดาษซับน้ำมัน 3) จัดผักสลัดในจานให้สวยงาม แล้ววางปลาลงไป ราดด้วยน้ำสลัดที่ปรุงไว้ สลัดจานนี้พิเศษตรงมีเห็ดทัฟเฟิลขูดเป็นแผ่นบางๆโรยทั่วจานด้วย.

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ
ไทยรัฐ
วันที่โพส : 2011-01-06 09:58:38


Read More...


Black Forest Cheese pie

Pic_140876

หลายคนคงคุ้นกับบลูเบอร์รี่ชีส พาย กันดี วันนี้ลองเปลี่ยนมาลองแบล็ก ฟอเรสต์ หรือเชอร์รี่ ชีส พาย ดูบ้าง อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ เพียงแต่ คุณแท๊ป-จิตราพรรณ จรณะจิตต์ คนมีฝีมือด้านการครัว เธอไม่ ชอบบลูเบอร์รี่ ก็เลยเปลี่ยนมาใช้เชอร์รี่แทนเท่านั้นเอง
คุณแท๊ป ลูกสาวคนเล็กสุดของคุณนิจพร จรณะจิตต์ เจ้าของ รร.แมนดาริน โอเรียนเต็ล ซึ่งมีฝีมือในการทำขนมนมเนยมาแต่เด็กๆ โดยอาศัยเปิดตำราทำไปแบบเดาๆ เพราะตอนนั้นภาษาอังกฤษยังไม่แตกฉาน แต่ถึงจะมีฝีมือ ก็ไม่เคยคิดจะยึดการทำอาหารเป็นอาชีพหลัก พอเรียนจบจาก Wellesley College ที่แมสซาชูเสตต์ สหรัฐอเมริกา เมเจอร์ภาษาจีน แล้วยังไปเรียนภาษาจีนต่ออีก 1 ปี ที่ Beijing Language Cultural University ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ก่อนมาสมัครเข้าทำงานที่สยามซีเมนต์ เทรดดิ้ง (SCT) เธอถึงค้นพบตัวเองว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอชอบเลย จึงเริ่มกลับลำใหม่ หันไปเรียนในสิ่งที่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ คือการทำอาหาร ที่สถาบันยอดฮิต เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิตธานี ถึง 3 Level แถมยังไปเรียนที่โรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโรงแรมโอเรียนเต็ล (OHAP) เสริมภูมิความรู้ให้แน่นเข้าอีก เพราะมีสอนทั้งครัวไทย และการบริหารจัดการด้านการครัว เพื่อเปิดร้านอาหารอีกด้วย จบแล้วก็ยังเข้าฝึกงานต่ออีกทั้งที่ รร.แมนดาริน โอเรียนเต็ล และรร.แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ด้านเบเกอรี่ จากการได้เรียนรู้พื้นฐานการทำอาหาร คุณแท๊ปก็เริ่มมีความมั่นใจในฝีมือตัวเองมากขึ้น จึงหันมาเปิดร้านอาหารสไตล์โฮมเมด เน้นเบเกอรี่เป็นหลัก ชื่อว่า Butter Cup ใต้ตึกอมารี เรสซิเดนซ์ ซอยศูนย์วิจัย 5 ใกล้ๆกับ รพ.กรุงเทพ และวันนี้คุณแท๊ป ก็ให้สูตร Black Forest Cheese pie มาลองทำกันด้วยค่ะ

 
ส่วนผสม : คุกกี้โอรีโอ 300 กรัม/เนยละลาย 120 กรัม/ครีมชีส 250 กรัม/ไอซิ่ง 165 กรัม/น้ำมะนาว 1 ช้อนชา/เจลาตินผง 2 ช้อนชา/วิปปิ้งครีม 300 กรัม/เชอร์รี่กระป๋อง 1 กระป๋อง/เชอร์รี่สดสำหรับแต่งหน้า/แป้งข้าวโพด 20 กรัม/เหล้ารัมเล็กน้อย

 
วิธีทำ 1) ขูดเอาไส้ครีมคุกกี้โอรีโอออก จากนั้นนำไปบดด้วยเครื่อง  หรือใส่ถุงพลาสติกแล้วบดให้ ละเอียด แล้วผสมกับเนยละลายจนทั่วกัน นำมากรุถาดพายเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว จากนั้นนำไปอบในเตาอบที่ความร้อน 180 ํ C ประมาณ 10 นาที นำออกมาพักให้หายร้อน 2) นำครีมชีสที่พักไว้ในอุณหภูมิห้อง ตีด้วยเครื่องด้วยหัวใบไม้ จนกระทั่งเนียน ใส่ไอซิ่งลงไปตีต่ออีกสักครู่ ใส่น้ำมะนาวลงไป ตีด้วย 3) นำวิปปิ้งครีมตีด้วยตะกร้อมือหรือด้วยเครื่อง แค่ พอตั้งยอดอ่อน 4) แบ่งวิปปิ้งครีมเล็ก น้อยมาผสม ให้เข้ากันกับส่วนผสม ครีมชีส  จากนั้นค่อยนำวิปปิ้งครีมที่เหลือผสมลงไป 5) นำเจลาตินผงผสมกับน้ำเล็กน้อยแล้วนำไปตุ๋น โดยใส่ ทั้งภาชนะลงไปในหม้อตุ๋น จนกระทั่งเจลาตินละลายดี แบ่งส่วนผสมครีมมาผสมกับเจลาติน ก่อนจะเทกลับลงไปผสมกับส่วนผสมครีมที่เหลือ เพื่อป้องกันเจลาตินจับตัวแข็งเป็นก้อน 6) นำเชอร์รี่กระป๋องสะเด็ดน้ำ เก็บน้ำเชื่อมไว้ทำหน้า โดยการต้มกับแป้งข้าวโพด ให้พอเดือดและเหนียวขึ้น ใส่เหล้ารัมลงไปเล็กน้อยถ้าต้องการ 7) เริ่มประกอบด้วยการนำพายโอรีโอที่เย็นแล้ว ใส่ส่วน ผสมครีมลงไปครึ่งนึง  จากนั้นวางเชอร์รี่ที่สะเด็ดน้ำแล้ว ลงไปให้ทั่ว ปิดด้วยส่วนครีมที่เหลือ นำไปแช่เย็น ก่อนนำมาเทส่วนหน้าที่กวนไว้ ใส่เชอร์รี่ที่เหลือลงไปด้วย หรือจะแต่งด้วยเชอร์รี่สดก็ได้เหมือนกันค่ะ.

 
 


ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ทีมข่าวหน้าสตรี
  • 13 มกราคม 2554, 05:15 น.

Read More...


แอปเปิ้ล ครัมเบิ้ล (Apple Srumble)



เมนูของหวานน่ารับประทานของสาววัยใสหน้าตาจิ้มลิ้ม ฟิล์ม-อัญจิฎา กรรณสูต สำหรับทานเป็นของว่างยามบ่าย...

ห่าง เหินการทำขนมนมเนยมาเสียนาน วันนี้ได้สาววัยใสหน้าตาจิ้มลิ้ม ฟิล์ม-อัญจิฎา กรรณสูต มาชวนทำ แอปเปิ้ล ครัมเบิ้ล (Apple Srumble) ไว้ทานเป็นของว่างยามบ่าย




น้อง ฟิล์ม-อัญจิฎา ลูกสาวผู้แข็งขันและเอาการเอางานของอุปพร-สุดถนอม กรรณสูต ซึ่งกำลังเรียนด้านการบริหารโรงแรม (Hotel Management) ที่ Cesar Ritz Colleges ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Brig ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยความที่เห็นคุณยาย (สุพัฒนา อาทรไผท) ทำงานโรงแรมตั้งแต่เด็ก ก็เลยเกิดความสนใจ จึงเลือกเรียนด้านนี้ แต่เจ้าตัว บอกว่า หลักสูตรที่เรียนก็ไม่ได้เน้นบริหารงานโรงแรมอย่างเดียวนะคะ สามารถใช้ได้กับงานบริการทุกสาขา และก่อนจะขึ้นปี 2 ทุกคนต้องผ่านการฝึกงาน 1 พันชั่วโมง โดยน้องฟิล์มเลือกที่จะกลับมาฝึกงานในไทยก่อน และได้ฝึกที่รร.แมนดาริน โอเรียนเต็ล อยู่ในขณะนี้ แต่ครั้งหน้าจะต้องฝึกในประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีก 1 พันชั่วโมง






น้อง ฟิล์มเล่าว่า การเรียนทุกวันของเธอ จะต้องเข้าครัวเป็นผู้ช่วยเชฟและเสิร์ฟด้วย นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังจัดเวรให้ไปทำอาหารที่แคนทีน บางครั้งถ้ามีแขกมาเยี่ยมโรงเรียน นักเรียนก็จะต้องทำหน้าที่บริกรด้วย ทั้งสไลด์พาร์มาแฮมบ้าง แล่ปลาบ้าง หรือไม่ก็ทำขนมประเภทแฟลมเบ้ (ใส่เหล้าเผาไฟ) โชว์ต่อหน้าแขก เรียกว่าถูกฝึกมาจนคล่องงานแล้ว เมื่อต้องมาฝึกงานที่โอเรียนเต็ล น้องฟิล์มเลยบ่ยั่น ทั้งอึดและสู้งานเต็มที่ จานอาหารแต่ละใบทั้งใหญ่และหนัก แต่น้องฟิล์มสามารถเก็บจานได้ครั้งละ 3 ใบ โดยวางเรียงไปบนแขนเล็กๆของเธอ จนได้รับคำชมในความสามารถพิเศษจากหัวหน้างาน และด้วยความที่น้องฟิล์มชอบทานขนม วันนี้เลยมีสูตรขนมอร่อยประจำบ้านของเธอ แอปเปิ้ล ครัมเบิ้ล มาฝาก ซึ่งมีทั้งส่วนผสมและการทำ แป้งพื้น/แป้งโรยหน้า/ไส้



ส่วน ผสม แป้งพื้น ประกอบด้วย แป้งอเนก ประสงค์ 3/4 ถ้วย/เกลือ/เนยเค็ม 1/3 ถ้วย ....วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกัน และนวดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาคลึงให้เป็นแผ่น อย่าให้บางจนเกินไป หรือหนาเกินไป เดี๋ยวแป้งจะไม่สุก นำไปปูพื้นในถาดฟอยล์ แล้วใช้ส้อมจิ้มเป็นรูๆให้ทั่วแผ่นแป้ง เพื่อว่าเวลาใส่ไส้แอปเปิ้ลลงไป น้ำจากแอปเปิ้ลจะได้ไม่ขังอยู่ในแป้ง







ส่วน ผสมของ ไส้ : แอปเปิ้ลเขียว หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 3 ถ้วย/น้ำตาล 1/3 ถ้วย/แป้ง 2 ชต./เกลือ....วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดผสมรวมกัน แล้วเทใส่ลงในถาดฟอยล์ที่ปูพื้นด้วยแป้งไว้ จากนั้นเตรียม แป้งสำหรับโรยหน้า ซึ่งมีส่วนผสมดังนี้ : แป้งอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วย/ เกลือ/น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย/เนยเค็ม 1/3 ถ้วย....วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดผสมรวมกัน และใช้ที่ตัดแป้งบี้ให้เข้ากัน และจับตัวเป็นเม็ดร่วนๆเล็กๆ สำหรับโรยหน้าไปบนแอปเปิ้ลจนมิด จากนั้นนำเข้าเตาอบที่ไฟ 170 ํC เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง แอปเปิ้ล ครัมเบิ้ล จะรับ ประทานกับซอสคัสตาด ซึ่งทำจากแป้งคัสตาด 1 ชต. ผสมกับนมพร่องไขมัน 1 ถ้วย และน้ำตาล 1 ชต. ตั้งไฟ และหมั่นคนไปเรื่อยๆจนกระทั่งข้น.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวหน้าสตรี
1 ตุลาคม 2552

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.