สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

บิด จิ้ม จุ่ม! ทำไอศกรีมนมสดโอรีโอ้ ง้ายง่ายแบบไม่ต้องง้อร้าน


เบื่อแล้วที่ต้องนั่งรอนาน และบางครั้งยังต้องเจอกับคนแน่นร้านไอศกรีม เรามาแก้ปัญหาให้กับคุณแล้ว กลับมาพบกับ Trend can do ไทยรัฐออนไลน์ทุกวันศุกร์แบบนี้เช่นเคย เราขอเอาใจคนชอบกินโอรีโอ้และไอศกรีม พาคุณทำไอศกรีมนมสดโอรีโอ้กินเองที่บ้านได้ เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน วิธีการสุดแสนจะง่ายดาย ลองมาหัดทำตามไปพร้อมๆ กันได้เลย...
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ไวท์ช็อกโกแลตพุดดิ้ง 1 กล่อง
2. คุกกี้โอรีโอ้ 16 ชิ้น
3. นม 2 ถ้วย
4. ไม้ไอศกรีม
5. แก้วกระดาษ


วัสดุ
ขั้นตอนการทำ
1. นำโอรีโอ้ 10 ชิ้นมาทำให้เป็นชิ้นเล็กๆ จะทุบ บิด หรือยังไงก็ตามแล้วแต่ความถนัดของคุณ
2. นำนมและไวท์ช็อกโกแลตพุดดิ้งที่เตรียมไว้มาผสมให้เข้ากัน


ผสมให้เข้ากัน
3. หลังจากขั้นตอนที่สองเสร็จแล้วนำโอรีโอ้ที่ทุบแล้วมาผสมกับนมและไวท์ช็อกโกแลตได้เลย
4. นำโอรีโอ้ 6 อัน ที่เหลือมาทำให้ละเอียดจนเป็นผงป่น จะใช้เครื่องทำให้ละเอียดหรือถ้าใครไม่มีเครื่องเราขอแนะนำว่าให้คุณทำวิธี ง่ายๆ โดยการนำโอรีโอ้ไปใส่ถุงพลาสติก และใช้ไม้หรือมือบี้ให้ละเอียด


ทำให้โอรีโอ้ละเอียดจนเป็นผง
5. นำส่วนผสมทั้งหมดที่ทำไว้ในแก้วกระดาษและโรยด้านบนด้วยโอรีโอ้ป่น
6. เสียบไม้ไอศกรีมลงไปบริเวณกลางแก้วแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซประมาณ 4 ชั่วโมง
7. เมื่อไอศกรีมแข็งได้ที่แล้วค่อยๆ ดึงออกมาจากแก้วกระดาษก็จะได้ฟินกับไอศกรีมโอรีโอ้ที่เราทำเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ


ไอศกรีมนมสดโอรีโอ้เสร็จแล้ว
น่ากินอ่ะ
ที่มา : dailyleisure.com

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/476463

Read More...


การทำพายไส้ผัก


เงินทุน 
ประมาณ  6,000 – 7,000  บาท

รายได้
5,000 – 7,500  บาท / เดือน

วัสดุอุปกรณ์
แป้งโฮลวีท  
น้ำผึ้ง
น้ำมันมะกอก หรือ น้ำมันข้าวโพด 
น้ำเย็น 
แป้งสาลี 
มันฝรั่ง
แครอท
ข้าวโพดต้ม  
ดอกกะหล่ำ  
น้ำตาลทรายแดง 
เกลือ   
พริกไทยป่น   
น้ำซุปผัก หรือ น้ำเปล่า  

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์
ห้างสรรพสินค้า  ตลาด 

ขั้นตอน / วิธีการทำ
วิธีทำไส้พาย
  1. ลวกมันฝรั่ง  แครอท  และดอกกะหล่ำ พักไว้
  2. คั่วแป้งสาลีจนเหลืองหอมเติมน้ำเปล่าคนให้เข้ากันจนข้นเหลวใส่ข้าวโพดต้มและผักลวก
  3. ปรุงรสด้วยเกลือ  พริกไทยป่น  และน้ำตาลทรายแดงคนให้เข้ากัน
วิธีทำแป้งพาย
  1. ผสมแป้งโฮลวีท  น้ำมันมะกอก  น้ำผึ้ง  และน้ำเย็นคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. แบ่งแป้งเป็นสองส่วน  ส่วนหนึ่งคลึงให้เป็นวงกลมขนาดเท่าถาด
  3. กดแป้งให้ติดก้นถาดใช้ส้อมจิ้มให้ถึงก้นถาดให้ทั่ว
  4. นำถาดเข้าเตาอบอุณหภูมิ  180  องศาเซลเซียสประมาณ  10  นาที
  5. นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่ถาดแป้งพายที่อบเตรียมไว้
  6. คลึงแป้งโฮลวีทส่วนที่เหลือให้เป็นแผ่นวงกลม
  7. นำมาปิดหน้าส่วนผสมทั้งหมด
  8. ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วแผ่นแป้ง
  9. นำไปอบด้วยไฟ  180  องศาเซลเซียส ประมาณ  25  นาที
ตลาด / แหล่งจำหน่าย
ตลาดแหล่งชุมชน  ห้างสรรพสินค้า  คอนโด  หอพัก ฯลฯ

สถานที่ให้คำปรึกษา
โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร

ข้อแนะนำ
  1. การแช่ผักลวกหรือผักที่ต้มแล้วในน้ำเย็นจะช่วยคงความเขียวและกรอบของผัก
  2. ใช้น้ำเย็นเป็นส่วนผสมการทำแป้งพายทำให้แป้งกรอบขึ้น
  3. ส้อมจิ้มให้ทั่วบริเวณแป้งเพื่อป้องกันไม่ให้แป้งพองเวลาเข้าเตาอบ
ที่มา : กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน

credit by : http://203.155.220.117:8080/BMAWWW/html_work/detail.php?id=6

Read More...


ขายเครปญี่ปุ่น


เงินลงทุน
ครั้งแรก ประมาณ 10,000 บาท
  • เตาเครป (ไฟฟ้า) ประมาณ       10,000    บาท
  • เตาเครป (แก๊ส)   ประมาณ         7,500    บาท
  • ไม้ปาดเครป                              100    บาท
  • เกรียง (เหล็ก)                              35    บาท
  • เกรียง (สแตนเลส)                        65    บาท

รายได้
ประมาณ  1,500 บาท/วัน

อุปกรณ์
เตาเครป  ไม้ปาดเครป  เกรียง  ที่ตีไข่  กะละมัง  ทัพพีกลม  ซองใส่เครป

แหล่งจำหน่าย อุปกรณ์
ร้านค้าหรือบริษัทขายเตาอบ  ห้างสรรพสินค้าทั่วไป

วิธีทำ
ส่วนผสมแป้ง
ไข่ไก่                      10   ฟอง             
น้ำตาลทราย           1 ½   ถ้วย  (300กรัม)
วานิลา                     15   มิลลิลิตร      
น้ำมันพืช                  60   มิลลิลิตร
เกลือ                         1   ช้อนชา        
นมสด                        1   กล่องลิตร
แป้งสาลีอเนกประสงค์   8   ถ้วยตวง 
เนยสด (ทาแผ่นแป้ง)

ส่วนผสมไส้
  • แยมรสผลไม้ต่าง ๆ
  • ลูกเกด
  • หมูหยอง แฮม ไส้กรอก จะราดด้วยซอสมะเขือเทศหรือมายองเนส
  • เผือกกวนเหลว
  • น้ำพริกเผากับหมูหยอง
  • น้ำผึ้งกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์
  • กล้วยกับช๊อคโกแลต
วิธีทำ
  1. ผสมไข่ไก่ น้ำตาลทราย วนิลา น้ำมันพืช เกลือ ใช้ที่ตีไข่ตีให้ละลายเข้ากัน
  2. ใส่นมสดและแป้ง ตีให้เข้ากัน (ถ้าเหลวเกินไป เติมแป้งได้อีกเล็กน้อย)
  3. วอร์มเตาโดยใช้ความร้อน ประมาณ 150-180 องศาเซลเซียส
  4. ใช้ทัพพีกลมตักแป้งใส่บนเตาเครปตรงกลาง ใช้ไม้ปาดเครปวางตรงกลางแป้งค่อย ๆ ปาดแป้งโดยหมุนเป็นวงกลม
  5. ทา เนยบนแผ่นแป้ง พอสุกใส่ไส้ต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ ใช้เกรียงแซะขอบแผ่นแป้งให้พับขึ้นมาเป็นรูปครึ่งวงกลม แล้วพับทบกันให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ตักใส่ถุงเครป
ตลาด/แหล่งจำหน่าย
แหล่งชุมชน  ตลาด  ศูนย์การค้า

ข้อแนะนำ  
ถ้าทำปริมาณมาก ต้องเพิ่มอัตราส่วนทุกชนิดให้มากขึ้น


Read More...


หมวดอาหาร-เครื่องดื่ม







รายได้
300 – 500  บาท / วัน

วัสดุอุปกรณ์
สาคูเม็ดเล็ก
น้ำตาลทราย
น้ำใบเตยคั้น
มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
มะพร้าวเผา
ข้าวบาร์เลย์
เกลือป่น
น้ำสะอาด
เตาแก๊ส
กระทะทองเหลือง
ไม้พายไม้ -ไม้พายยาง
ลังถึง
ที่ขูดมะพร้าวเล็บแมว
ถาดสเตนเลส
กระชอน
กะละมัง
ผ้าขาวบาง
เขียง

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์
ห้างสรรพสินค้า  ตลาด

ขั้นตอน / วิธีการทำ
1.ฝัดสาคูให้สะอาดเลือกกรวดเล็ก ๆ ออกให้หมด
2.นำสาคูไปแช่น้ำประมาณ  20 - 30  นาที 
3.สาคูนิ่มแล้วเทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ พักไว้สักครู่
4.นำเนื้อมะพร้าวเผามาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 
5.นำน้ำใบเตยที่คั้นเอาไว้ใส่กระทะทองเหลืองตั้งไฟปานกลางผสมน้ำมะพร้าวเผาลงไป
6.พอน้ำเริ่มร้อนเกือบเดือดนำสาคูใส่ลงไปกวน  ลดไฟให้อ่อนกวนไปเรื่อย ๆ กวนสม่ำเสมอจนสาคูสุก         
7.สาคูสุกค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป
8.กวนให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากับสาคูเป็นเนื้อเดียวกัน  สังเกตดูสาคูจะมีลักษณะใสสุก เป็นก้อนไม่เหลว
9.กวนได้ที่แล้วเทใส่ถาดหรือภาชนะใช้ไม้พายเกลี่ยให้ทั่วพักทิ้งไว้ให้เย็น
10.นำมะพร้าวทึนทึกขูดฝอยโรยเกลือป่นเล็กน้อยให้ทั่ว
11.นำขนมมาตักหรือตัดตามขนาดที่ต้องการนำลงคลุกในมะพร้าวขูดให้เข้ากัน
12.คลุกทีละชิ้นเพื่อไม่ให้ขนมติดกัน
ตลาด / แหล่งจำหน่าย
ตลาด  ห้างสรรพสินค้า  แหล่งชุมชน

สถานที่ให้คำปรึกษา
โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร

ข้อแนะนำ
1.การกวนสาคูควรกวนวนไปทางเดียว  เพื่อสาคูจะได้ไม่ติดกระทะ
2.ห้ามใส่น้ำตาลทรายก่อนสาคูสุก  เพราะสาคูจะเป็นไตข้างในและทำให้ใช้เวลากวนนาน เพราะความหวานจะไปรัดตัวสาคูทำให้สุกยาก

ที่มา : กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน

credit by :  http://203.155.220.117:8080/BMAWWW/html_work/detail.php?id=6

Read More...


การทำน้ำหวานเข้มข้น


       การทำน้ำหวานเข้มข้น 
     เงินลงทุน เงินลงทุนขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการ
 
     รายได้ ราคาปลีก/ส่งประมาณขวดละ 25-40 บาท
 
     วัสดุ/อุปกรณ์  
 
1.    ขวดที่ใช้บรรจุ
2.    เตาแก๊ส
3.    หม้อต้ม
4.    ที่กรอง
5.    ไม้พาย
            น้ำหวานเข้มข้นที่บรรจุขวดได้นานโดยไม่เสียในแต่ละกลิ่นแต่ละรสชาดนั้น มีวิธีการผลิตที่เหมือนกัน ก่อนอื่นต้องเตรียมน้ำหวานก่อน     
   
     ส่วนผสม
 
          1. น้ำสะอาด น้ำกรองอย่างอย่างสะอาด              2        ลิตร
         2. น้ำตาลทรายขาวสะอาด                             2.5       กก.
         3. เกลือป่นขาวสะอาด                                  2         ช้อนชา
         4. มะนาว                                                 1          ผล
 
     วิธีทำ
ต้ม น้ำด้วยไฟอ่อนพอน้ำเริ่มร้อนค่อยๆ เติมน้ำตาลทรายลงไป กวนช้าๆด้วยไม้พายเมื่อน้ำเดือดรีบใส่เกลือลงไปคนอย่างเร็วแล้วยกลงทันที ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วบีบมะนาวลงไป (กรอง น้ำมะนาวด้วยตะแกรงก่อน)กวนเล็กน้อย น้ำหวานจะค่อยๆใส เสร็จแล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง เก็บใส่ภาชนะที่ใช้สำหรับเก็บเช่น ขวดโหล โอ่ง ถังไม้โอ๊ค เพื่อให้ตะกอนเล็กๆ ที่แขวนลอยอยู่ตกตะกอนลงไปอยู่ที่ก้นภาชนะ ใช้เวลาเก็บประมาณ  2-3  วัน
 
          1.น้ำหวานกลิ่นครีมโซดา
        ส่วนผสม                                                                 
         น้ำหวานเข้มข้น
         กลิ่นครีมโซดาพอสมควร
         สีเขียว (สีผสมอาหาร) พอสมควร
 
          2.น้ำหวานกลิ่นสละ
         ส่วนผสม                                                       
น้ำหวานเข้มข้น
กลิ่นสละพอสมควรสีไม่ต้องใช้
 
          3.น้ำหวานกลิ่นมะลิ
ส่วนผสม
น้ำหวานเข้มข้น
กลิ่นมะลิพอสมควร
            สีไม่ต้องใช้ 
 
         4.น้ำหวานกลิ่นทุเรียน
            ส่วนผสม
         น้ำหวานเข้มข้น
         กลิ่นทุเรียนพอสมควร
         สีเหลือง ( สีผสมอาหาร ) 
 
          5.น้ำหวานสีแดง
            ส่วนผสม
         น้ำหวานเข้มข้น
         กลิ่นสตอเบอรี่พอสมควร
         สีแดง ( สีผสมอาหาร ) พอสมควร
 
          6.น้ำหวานกลิ่นส้ม
         ส่วนผสม
         น้ำหวานเข้มข้น
         กลิ่นส้มพอสมควร
         สีส้ม ( สีผสมอาหาร ) พอสมควร
         
      วิธีผสม
          น้ำหวานเข้มข้นที่เก็บไว้เมื่อนำมาใช้จะใสไม่มีตะกอน นำน้ำหวาน กลิ่น สีมาผสมกันในภาชนะที่สะอาด   เน้นว่าต้องสะอาดจริงๆ เมื่อผสมเสร็จแล้วนำไปบรรจุขวดปิดฝาให้สนิทก็ได้น้ำหวานสูตรเข้มข้นตามต้อง การสามารถเก็บได้นานวันโดยไม่เสียเพราะสภาพของน้ำหวานเข้มข้น มีน้ำตาลเป็นสารละลายเกือบอิ่มตัว เชื้อแบคทีเรียเข้าไปเจริญเติบโตได้ยาก จึงไม่เสีย แต่หากสามารถทำยอดขายได้มาก จำเป็นต้องผลิตทีละมากๆ และอาจต้องไปตกค้างอยู่ในตลาดนานอาจจำเป็นต้องใส่ สารกันบูด สารกันบูดที่นิยมใช้มีโซเดียมเบนโซเอท โดยผสมลงไป 0.05 % ของน้ำหนักทั้งหมด   ถ้า ใส่มากเกินไปจะเกิดอันตราย การใส่สารกันบูดนี้ควรอยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณะสุข สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคและสำนักงานมาตรฐานสินค้า
        
          ตลาด/แหล่งจำหน่าย
 
     ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปหรือตามร้านขายของชำต่างๆ 
     ที่มา : http://www.archeep.com/drink/drk_gen_1.htm

Read More...


การทำซูชิ (ข้าวปั้นญี่ปุ่น)

เงินทุน
5,000 – 6,000 บาท

รายได้
500 – 800 บาท / วัน

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์
ห้างสรรพสินค้า  ตลาด
ขั้นตอน / วิธีการทำ
 
ส่วนผสมน้ำส้มสำหรับใส่ข้าวซูชิ
น้ำส้มบิสึคัน
น้ำตาลทราย 
เกลือ
สาหร่ายแผ่นสำหรับต้มซุป  4/5  เซ็น  (ต้มให้เดือดแล้วปิดไฟ)

วิธีหุงข้าว
  1. ข้าวสารญี่ปุ่นล้างน้ำให้สะอาด  3  ครั้ง  แช่น้ำประมาณ  3 - 5  นาที
  2. เทข้าวสารใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำเติมน้ำ  500  ซีซี.  ข้าวสุกแล้วพักไว้  3 - 5  นาที
  3. นำข้าวผสมกับน้ำส้มที่เตรียมไว้ ใช้พัดลมเป่าให้ข้าวเย็น

ซูชิโรลผลไม้
ส่วนผสม
ข้าวซูชิ
กะทิ
มะม่วง
สาหร่ายโนริ
น้ำเปล่า 
สับปะรด
มะละกอ

ขั้นตอน / วิธีการทำ
  1. ซาวข้าวซูชิเติมน้ำและกะทินำข้าวขึ้นหุงปรับไฟไม่ให้ร้อนมากปล่อยไว้  15  นาทีให้ข้าวสุก
    หั่นผลไม้เป็นเส้นยาว
  2. ปูแผ่นสาหร่ายบนเสื่อทำซูชิแผ่  1/4  ของข้าวทั้งหมดบน  2/3  ของแผ่นสาหร่าย เรียงเส้นผลไม้ขวางกลางข้าวเป็นระเบียบ
  3. ม้วนเสื่อให้ไส้ผลไม้อัดเข้ากับข้าวให้แน่นดึงเสื่อออก 
  4. ทำตามขั้นตอนเดียวกันทั้งนี้กับแผ่นสาหร่ายที่เหลือ
  5. ตัดซูชิโรลให้พอดีคำ
ซูชิหน้าปูอัด 
ส่วนผสม
ปูอัด
วาซาบิ
ซีอิ๊วถั่วเหลืองญี่ปุ่น
ขิงดอง
ข้าวซูชิ
สาหร่ายทะเลญี่ปุ่น
ผักสลัด
ใบตองสำหรับแต่งจาน

ขั้นตอน / วิธีการทำ
  1. นำปูอัดใส่ชิ้นพอคำแล้วป้ายวาซาบิเล็กน้อย นำข้าวซูชิประมาณพอคำ ปั้นเป็นก้อน  ยาวรี  ปั้นรวมกับปูอัดตามความต้องการ
  2. นำ สาหร่ายทะเลตัดเป็นชิ้นเล็กพันข้าวปั้นปูอัดให้รอบแล้วจัดให้สวยงาม วาง ขิงดองแล้วแต่งด้วยผักสลัดและใบตองพร้อมซีอิ๊วถั่วเหลืองญี่ปุ่น

ตลาด / แหล่งจำหน่าย
ตลาดย่านชุมชน  ห้างสรรพสินค้า

สถานที่ให้คำปรึกษา
ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร

ข้อแนะนำ
การทำ ซูชิอารมณ์ต้องเย็น  ต้องประณีตเพื่อความสวยงามที่สำคัญของที่ใช้แต่งหน้าซูชิ  ต้องใส่หน้าเยอะทำให้ดูมากน่าทาน  และคิดค้นวิธีการทำแบบใหม่ๆ

ที่มา : กองส่งเสริมการมีงานทำ กรมการจัดหางาน

Read More...


บิด จิ้ม จุ่ม! ทำไอศกรีมนมสดโอรีโอ้ ง้ายง่ายแบบไม่ต้องง้อร้าน


เบื่อแล้วที่ต้องนั่งรอนาน และบางครั้งยังต้องเจอกับคนแน่นร้านไอศกรีม เรามาแก้ปัญหาให้กับคุณแล้ว กลับมาพบกับ Trend can do ไทยรัฐออนไลน์ทุกวันศุกร์แบบนี้เช่นเคย เราขอเอาใจคนชอบกินโอรีโอ้และไอศกรีม พาคุณทำไอศกรีมนมสดโอรีโอ้กินเองที่บ้านได้ เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน วิธีการสุดแสนจะง่ายดาย ลองมาหัดทำตามไปพร้อมๆ กันได้เลย...
สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ไวท์ช็อกโกแลตพุดดิ้ง 1 กล่อง
2. คุกกี้โอรีโอ้ 16 ชิ้น
3. นม 2 ถ้วย
4. ไม้ไอศกรีม
5. แก้วกระดาษ


วัสดุ
ขั้นตอนการทำ
1. นำโอรีโอ้ 10 ชิ้นมาทำให้เป็นชิ้นเล็กๆ จะทุบ บิด หรือยังไงก็ตามแล้วแต่ความถนัดของคุณ
2. นำนมและไวท์ช็อกโกแลตพุดดิ้งที่เตรียมไว้มาผสมให้เข้ากัน


ผสมให้เข้ากัน
3. หลังจากขั้นตอนที่สองเสร็จแล้วนำโอรีโอ้ที่ทุบแล้วมาผสมกับนมและไวท์ช็อกโกแลตได้เลย
4. นำโอรีโอ้ 6 อัน ที่เหลือมาทำให้ละเอียดจนเป็นผงป่น จะใช้เครื่องทำให้ละเอียดหรือถ้าใครไม่มีเครื่องเราขอแนะนำว่าให้คุณทำวิธี ง่ายๆ โดยการนำโอรีโอ้ไปใส่ถุงพลาสติก และใช้ไม้หรือมือบี้ให้ละเอียด


ทำให้โอรีโอ้ละเอียดจนเป็นผง
5. นำส่วนผสมทั้งหมดที่ทำไว้ในแก้วกระดาษและโรยด้านบนด้วยโอรีโอ้ป่น
6. เสียบไม้ไอศกรีมลงไปบริเวณกลางแก้วแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซประมาณ 4 ชั่วโมง
7. เมื่อไอศกรีมแข็งได้ที่แล้วค่อยๆ ดึงออกมาจากแก้วกระดาษก็จะได้ฟินกับไอศกรีมโอรีโอ้ที่เราทำเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ


ไอศกรีมนมสดโอรีโอ้เสร็จแล้ว
น่ากินอ่ะ
ที่มา : dailyleisure.com

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/476463

Read More...


เมนูเด็ด‘ไก่พะโล้ไข่นกกระทา’ ‘แกงมัสมั่นไก่กับโรตี’ รสกลมกล่อม


เมนูเด็ด‘ไก่พะโล้ไข่นกกระทา’
‘แกงมัสมั่นไก่กับโรตี’
รสกลมกล่อม

เมนูเด็ด‘ไก่พะโล้ไข่นกกระทา’ ‘แกงมัสมั่นไก่กับโรตี’ รสกลมกล่อม
วันเสาร์ 24 มกราคม 2558 เวลา 03:53 น.

วันนี้ผมขอให้สูตร ไก่พะโล้ไข่นกกระทา เป็นสูตรที่ผมไปทำให้สายการบินสำหรับเสิร์ฟบนเครื่อง ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา เป็นอาหารที่สามารถกินได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะเด็ก ๆ น่าจะชอบกินกัน ซึ่งมีหลายคนเขียนมาขอสูตรผ่านในเฟซบุ๊กของผมมาหลายต่อหลายคนด้วยกัน ผมจึงให้สูตรไว้ข้างล่างเรียบร้อยแล้วครับ จะได้ลองไปทำกินกันดู

มาที่ขั้นตอนการทำ สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ การเอารากผักชี กระเทียม พริกไทยมาโขลกในครกให้ละเอียด แล้วใส่ผงพะโล้ลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ ระหว่างที่จะผัดเครื่องแกงให้เปิดเตาอบอุ่นไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส

จากนั้นนำหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป นำเครื่องรากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกละเอียดแล้วลงไปผัดให้หอม ใส่น้ำตาลปี๊บ เคี่ยวให้หอมและให้เริ่มมีความเหนียว เมื่อได้ที่แล้วให้นำตะโพกไก่ที่เลาะกระดูกออกเรียบร้อยและไข่นกกระทาที่ต้มและปอกเปลือกไว้แล้วใส่ลงไป ผัดต่อให้สีพะโล้เคลือบทั้ง 2 อย่าง จะได้ดูน่ากิน

หลังจากนั้นให้เติมน้ำเปล่าลงไปในหม้อที่จะใช้ผัด ต่อมาใส่อบเชย กานพลู โป๊ยกั๊ก ใส่ซีอิ๊วดำ ต้มให้เดือด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำตาลปี๊บ อีกครั้ง ชิมรสชาติให้ออกหวานนำ และตามด้วยเค็มนิด ๆ

ขั้นตอนต่อมา เทส่วนผสมทั้งหมดลงในถาดอบปิดด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ แล้วนำเข้าเตาอบที่เปิดรอไว้ ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 35 นาที หรือจนกระทั้งเนื้อสุกนุ่ม แล้วจึงยกออกจากเตาอบ

หลังจากนั้นแยกเนื้อไก่กับไข่นกกระทาออก แล้วนำน้ำพะโล้ที่ได้เทใส่หม้อตั้งไฟเคี่ยวไฟอ่อน ๆ จนกระทั้งเริ่มน้ำเหนียวและน้ำเริ่มข้นขึ้นซึ่งจะใช้เป็นน้ำซอสสำหรับราดพะโล้เพื่อเตรียมเสิร์ฟ

สำหรับการเสิร์ฟเราจะเสิร์ฟพร้อมข้าว 2 สี และผักลวก จะได้ช่วยเพิ่มสีสันให้น่ากินมากขึ้นครับ

หมึกแดง

www.mcdangguide.com

.......................................................................................................

ร้านอาหารชวนชิม

ร้านที่ผมจะพาไปชิมวันนี้ คือ ร้าน ฮอต ชอป ที่อาคารมิราเคิล มอลล์ หน้าปากซอยสุขุมวิท 41 อาหารที่นี่อร่อยและมีเมนูที่น่าสนใจหลายอย่าง เป็นร้านที่เปิดมานานหลายสิบปีแล้วครับ มีอาหารให้เลือกชิมทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง วันนั้นผมสั่งมากินหลายอย่างเลยครับทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง

บรรยากาศร้านน่านั่ง สะอาดสะอ้าน ตกแต่งอย่างสวยงาม เมื่อได้ที่นั่งแล้ว ผมสั่งอาหารจานแรกมาลองชิมเป็น สเต๊กเนื้อซอสพริกไทยสด ซึ่งจะเป็นเนื้อวัวหรือเนื้อหมูก็มี เราสามารถเลือกกินได้ครับ โดยผมเลือกกินเนื้อ เพราะเป็นคนที่ชอบกินเนื้ออยู่แล้ว เมื่อพนักงานนำมาเสิร์ฟ หน้าตาน่ากินมาก รสชาติก็อร่อย น้ำซอสเข้มข้น แม้จะเป็นเมนูพริกไทยสดแต่มีความเป็นพริกไม่มาก โดยจะหั่นเนื้อมาเป็นชิ้น ๆ พอคำ ซึ่งชิ้นใหญ่พอสมควร

ถัดมาเป็น ข้าวอบหน่ำเลี้ยบ ผมเป็นคนที่ชอบกินหน่ำเลี้ยบมากเลยขอลองดูว่าที่ร้านนี้จะทำได้รสชาติเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อได้ชิมแล้วก็ไม่ผิดหวัง ทำมาได้เป็นอย่างดี ข้าวไม่เละ เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียง มีน้ำซุปมาให้ด้วย ซดแล้วชุ่มคอดีครับ เข้ากันได้เป็นอย่างดี

อีกเมนูหนึ่งที่เป็นของโปรดของผม นั่นก็คือ ข้าวผัดแกงเขียวหวานปลาสลิด เขาผัดได้แห้งไม่เละ ข้าวยังเป็นเม็ดอยู่ เมื่อนำมาเสิร์ฟได้กลิ่นหอมน่ากิน โดยจะต้องกินแกล้มกับไข่เค็มถึงจะเข้ากันดี จานนี้ก็อร่อยไม่แพ้ข้าวหน่ำเลี้ยบเลย เป็นอาหารที่คนทำจะต้องรู้วิธีการทำที่ถูกต้องเป็นอย่างดีถึงจะออกมาอร่อย

นอกจากนี้ ยังมี นาโช่ ซึ่งเป็นแป้งของเม็กซิกัน อบกับชีสกินเป็นของกินเล่น จานนี้ต้องกินเล่นเท่านั้นนะครับ กรอบ อร่อย

อาหารที่อยากกินอีกอย่างหนึ่ง คือ ยำขมิ้นขาว เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังเป็นเมนูล้างปากได้ดีอีกด้วยครับ มีกุ้งสดตัวใหญ่พอสมควรใส่มาด้วย รสชาติเข้มข้น ครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ส่วนความเผ็ดก็พอประมาณ ไม่เผ็ดมากเท่าไรนัก อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว

ยังมี แกงมัสมั่นไก่กับโรตี ซึ่งเป็น 2 อย่างที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีครับ มัสมั่นรสกลมกล่อมดีเหลือเกิน เข้มข้น ส่วนโรตีแป้งมีกลิ่นหอม ไม่หนามากนักกินแทนข้าว หั่นมาเป็นชื้น ๆ 3 เหลี่ยม

มาที่ หอยทอด เมนูนี้ของเขาไม่เหมือนที่ร้านอื่น ตัวหอยของเขาใหญ่ โดยเขาจะเอาหอยแต่ละตัวไปชุบแป้งน้ำแล้วนำไปทอดก่อน แล้วค่อยเอาแป้งน้ำใส่ตามลงไปอีกทีซึ่งเป็นวิธีการทำที่ไม่เหมือนที่อื่นที่เอาหอยใส่แป้งแล้วเทลงกระทะทั้งหมดเลย ส่วนตัวผมชอบกินกับพริกน้ำส้ม ไม่ชอบกินกับซอสพริก ผมกินแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว

จานต่อมา ยำวุ้นเส้น ใส่ไข่ต้มมาด้วย แม้จะดู้ป็นอาหารที่ธรรมดาแต่ถ้าใครทำไม่ดีก็จะออกไม่อร่อยซึ่งที่ร้านเขายำได้ดีมาก ไม่แฉะ เครื่องเคียงครบครัน รสชาติดีด้วย เมนูนี้เมื่อทำเสร็จแล้วต้องรีบยกมาเสิร์ฟเลย ส่วนคนกินเมื่อเสิร์ฟที่โต๊ะแล้วก็ต้องกินตอนนั้นเลยถึงจะอร่อย เพราะถ้าไม่กินเลยเมื่อเวลาผ่านไปสักพักหนึ่งแล้ววุ้นเส้นจะอืดไม่อร่อย

จากนั้นเป็น ปีกไก่ทอด ร้านนี้เขาเลือกใช้แต่ช่วงกลางของปีกมาทอด ก่อนทอดคลุกเกลือทิ้งไว้ 5 นาที การทอดต้องใช้ไฟปานกลางซึ่งเขาทอดได้สุกกำลังพอดี ข้างนอกกรอบข้างในนุ่ม รสชาติกลมกล่อม จะกินเล่นหรือจะกินกับข้าวก็ได้ จานนี้ถูกปากทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ส่วนของหวานของที่ร้านนี้มีหลายอย่างให้เลือกกิน มีทั้ง เค้กมะตูม ที่ทำออกมาได้ดี ไม่หวานมากนัก มี คาราเมลคัสตาร์ด ถ้วยนี้หอม นุ่ม อร่อยเหลือเกิน ส่วน เค้กช็อกโกแลต ก็อร่อยเช่นกัน ช็อกโกแลตเยิ้มเต็มหน้าขนมปังเลย ส่วน พาย เขาก็มีขายด้วยนะครับ จะกินกับ ชา หรือกาแฟ ก็ยิ่งอร่อยดี

ผมอยากให้ลองไปชิมดู บรรยากาศในร้านสบาย ๆ ผมมักจะแวะไปฝากท้องที่ร้านนี้บ่อย ๆ เพราะอยู่ใกล้คอนโดมีเนียมที่ผมพักอยู่ และที่สำคัญอาหารเขาอร่อยครับ.

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/295939/เมนูเด็ด‘ไก่พะโล้ไข่นกกระทา’+‘แกงมัสมั่นไก่กับโรตี’+รสกลมกล่อม

Read More...


‘สปาเกตตีพิ้งค์ซอส’ ที่ เฮ้าส์ ออฟ ลักษมี มันตรา


สนใจทำสบู่ขายเพราะตัวเองแพ้สารเคมี ใช้สินค้าตามท้องตลาดไม่ได้แม้กระทั่งสินค้าสำหรับเด็ก ส่วนตัวสนใจสมุนไพรเป็นทุนเดิม จึงลองศึกษาข้อมูลและทำใช้เอง
วันเสาร์ 24 มกราคม 2558 เวลา 03:28 น.

ทำงานหนักย่อมมีกิจกรรมปลด เปลื้องความล้ากันบ้าง หลังกรำงานตลอดทั้งสัปดาห์ ลิซ-ภรวรรณ มหารักขกะ หัวหน้าสายงานลูกค้าสัมพันธ์แอกซ่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มักขลุกตัวอยู่ที่ร้าน “เฮ้าส์ ออฟ ลักษมี มันตรา” คาเฟ่เล็กๆ น่านั่งในซอยสุขุมวิท 12 สม่ำเสมอ แม้มีฐานะเป็นคาเฟ่ แต่ “คุณลิซ” ผู้ปลุกปั้นมากับมือ อยากเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “บ้าน” มากกว่า เพราะนอกจากเป็นแหล่งชุมนุมเพื่อนฝูง นั่งทอดหุ่ยดมดอมความหอมจากสบู่และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติ ที่คุณลิซลงมือทำด้วยตัวเองเพื่อจำหน่ายภายใต้ชื่อ “ลักษมี มันตรา” แล้ว ภายในคาเฟ่ยังมีอาหารคาวหวานและเครื่องดื่มรสชาติดีไว้รองท้องเพียบพร้อม

“สนใจทำสบู่ขายเพราะตัวเองแพ้สารเคมี ใช้สินค้าตามท้องตลาดไม่ได้แม้กระทั่งสินค้าสำหรับเด็ก ส่วนตัวสนใจสมุนไพรเป็นทุนเดิม จึงลองศึกษาข้อมูลและทำใช้เองประมาณหลังจากนั้นเริ่มทำแจกเป็นของขวัญเทศกาลต่างๆ จนเพื่อนๆ ติดใจสั่งซื้อ พอทำมาสักประมาณ 3 ปี บังเอิญมาเจอบ้านหลังนี้ เห็นแล้วปิ๊งเลยทำสัญญาเช่าทันที” เจ้าของคาเฟ่ ซึ่งคุมกิจการร้านอาหารอีก 2 แห่งอย่าง “ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์” ในซอยทองหล่อ และร้าน “อีท ออท ไทย” ในโซนกรูฟ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เผยที่มา และเล่าด้วยความขำขันว่า “มีร้านแล้วดีกับลูกค้านะคะ แต่ก่อนต้องใช้จินตนาการสูงในการสั่งสินค้า เพราะดมไม่ได้ดูไม่ได้ ใช้ความเชื่อใจกันล้วน ๆ แปลกใจมากที่ลูกค้าของเราเก่ง ไม่ต้องดมก็สั่งได้”

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้เป็นแฮนด์เมดทำจากธรรมชาติ ลูกค้าสามารถบอกความต้องการได้ ทางแบรนด์ทำให้หมดแม้สั่งเพียง 1 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นสบู่หรือโลชั่น เพียงบอกความต้องการเราปรุงสดถือกลับบ้านได้เลย สำหรับคนที่สนใจจริงๆ สามารถมาเรียนรู้วิชาทำสบู่กับคอร์สสั้นๆ โดยลิซทำหน้าที่ผู้สอนเอง “คาเฟ่เปิดตัวขึ้นพร้อมๆ กับร้านห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ ราวปี 2555 ลิซมีเพื่อนกลุ่มที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เราชอบกินอาหารและทำอาหารด้วยกัน แต่ที่นี้เหมือนเป็นงานอดิเรก ไม่เน้นขายจริงจัง จึงตกแต่งภายในให้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ที่บ้าน ส่วนอาหารเป็นแนวธรรมชาติผสมซีฟู้ด ใช้วัตถุดิบชั้นดีมาประกอบอาหาร เช่น เกลือหิมาลัย น้ำมันมะกอก ปรุงสดไม่ใช้ไมโครเวฟ ถ้าลูกค้าสั่งออกตัวก่อนว่าอาจรอนาน แต่รับประกันความสด”

จานการันตีความอร่อยในวันนี้ คุณลิซจึงนำเสนอ “สปาเกตตีพิ้งค์ซอส” เมนูเล่นเส้นสีหวานนี้คุณลิซเล่าว่า “ส่วนตัวชอบกินพาสต้า ซีฟู้ด คาเฟ่นี้รวบรวมสูตรที่เราชอบขึ้นโต๊ะจากงานปาร์ตี้มาบรรจุไว้เป็นหนึ่งในเมนูประจำร้าน เคยทำให้เพื่อนชิมแล้วติดใจกัน เป็นอีกจานหนึ่งที่เพื่อนๆ ร้องเป็นเสียงเดียวกันว่า หากินที่อื่นไม่ได้ เด็ด!!! จึงเลือกจานนี้มา”

เมนูวันนี้ สปาเกตตีพิ้งค์ซอส เป็นกุ้งขาวตัวใหญ่ เสียดายเมื่อเช้าไปแล้วกุ้งแม่น้ำหมด สูตรนี้มาจากชอบกิน เป็นคนชอบกินพาสต้า ซีฟู้ด ร้านนี้จะเอาสูตรที่เราชอบจากปาร์ตี้ชวนเพื่อนมาทำ เป็นสูตรที่ทำแล้วเพื่อนชอบกิน จานนี้เป็นสูตรที่เพื่อนหลายคน บอกว่า หากินที่อื่นไม่ได้ เด็ด!!! จึงเลือกตัวนี้มา

วัตถุดิบและส่วนผสม ประกอบด้วย เส้นสปาเกตตี 100 กรัม, กุ้งขาวใหญ่ 3 ตัว, หอมแดง 1 ช้อนชา, กระเทียม 1 ช้อนชา, ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ, วิปครีม 1 ถ้วย, พริกแห้งตามชอบ ส่วนเครื่องปรุงอย่างอะโรมาต พริกไทยดำ และเกลือหิมาลัย ใช้แค่หยิบมือ สำหรับตกแต่งหน้า มีไข่กุ้ง ไข่ปลาคาเวียร์ และพาเมนซานชีส

วิธีทำ ตามปกติคุณลิซนิยมใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตแต่วันนี้ปรากฏว่าไปจ่ายตลาดแล้วไม่มีขาย จึงใช้กุ้งขาวใหญ่แท้ หลังจากล้างกุ้งสะอาดแล้ว โรยเกลือ พริกไทย และแป้งอเนกประสงค์เล็กน้อยคลุกให้เข้ากัน แล้วนำลงไปทอดจนเหลืองกรอบ แต่ถ้าใช้กุ้งขนาดใหญ่กว่านี้แนะนำให้ย่างเพื่อความหอม จากนั้นตั้งกระทะพอร้อนเติมน้ำสต๊อกเล็กน้อย นำซอสมะเขือเทศและวิปครีมลงผัด ปรุงรสด้วยอะโรมาต พริกไทยดำ เกลือหิมาลัย ตามด้วยเส้นสปาเกตตีและวิปครีมผัดให้เข้ากัน ค่อยนำกุ้งที่ทอดเสร็จลงไปคลุกเคล้า ใช้เวลาไม่นานก็จัดเสิร์ฟใส่จานได้ แต่งหน้าด้วยไข่กุ้ง ไข่ปลาคาเวียร์ พาเมซานชีส และพริกแห้ง เคล็ดลับของสมุนไพรที่ช่วยดับความเลี่ยนได้ชะงัก ได้ความอร่อย “รสชาติตรงไปตรงมา”

กินอิ่มแล้วอย่าลืมรับบริการแช่เท้าด้วยเกลือหิมาลัยที่ทางคาเฟ่มีไว้บริการฟรีด้วย!!!.

‘ช้องมาศ’

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/296024/‘สปาเกตตีพิ้งค์ซอส’+ที่+เฮ้าส์+ออฟ+ลักษมี+มันตรา

Read More...


‘ยำผลไม้รวม’ สวนหลังบ้าน สร้างรายได้



ในขณะที่ วัตถุดิบ และส่วนผสมเครื่องปรุงรส ที่ใช้มี ฝรั่งสด, มะม่วง, ส้มโอ, องุ่น, สับปะรด, มะเฟือง, น้ำยำ, น้ำมะนาว, น้ำปลา, พริกป่น, ผงชูรส, ปลากรอบ, มะพร้าวคั่ว, ปลาป่น, กุ้งแห้ง, ถั่วลิสงทอด และหอมหัวแดงหั่น พี่ตุ้ม บอกว่า “น้ำยำ” เป็นส่วนผสมสำคัญอีกอย่างของยำผลไม้ ซึ่งมีวิธีทำดังนี้ ตั้งหม้อสเตนเลสขนาดกลางใส่น้ำประมาณครึ่งหม้อ ใช้ไฟร้อนปานกลาง พอน้ำเริ่มเดือด ใส่น้ำตาลปี๊บจำนวน 3 กิโลกรัม และ กะปิหวานอีก 100 กรัม ลงในหม้อ ใช้ทัพพีคนเคี่ยวเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายกับกะปิเป็นเนื้อเดียวกัน เสร็จแล้วฉีกใบเตยใส่พอประมาณลงไป เคี่ยวให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน และมีความเหนียวคล้ายยางมะตูมก็ใช้ได้

วิธีทำ “ยำผลไม้รวม” เริ่มที่หั่นฝรั่งสดเป็นชิ้น ๆ, สับมะม่วงเป็นเส้น ๆ, แกะเนื้อส้มโอออกเป็นชิ้น ๆ, หั่นเนื้อสับปะรดเป็นชิ้น ๆ, หั่นเนื้อมะเฟืองเป็นชิ้น และแกะเมล็ดองุ่นออกมาเป็นผล ๆ เตรียมไว้

วิธียำ นำผลไม้ทั้งหมดใส่ลงในกะละมังสเตนเลส ใส่หัวหอมแดงหั่นลงไปพอประมาณ ตามด้วยปลาป่น, ผงชูรส, พริกป่น, ถั่วลิสงทอด, มะพร้าวคั่ว, กุ้งแห้ง, น้ำมะนาว ,น้ำปลา และน้ำยำ ใช้ทัพพีคนคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วชิมรสให้ได้ 3 รส คือ เปรี้ยว,หวาน และเค็ม แต่จะเน้นให้มีรสเปรี้ยวนำมากกว่า เสร็จแล้วโรยหน้าด้วยปลากรอบ เท่านี้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ขายในราคาชุดละ 40 บาท

“ยำส้มโอ” เป็นยำที่ขายดีอีกอย่าง ซึ่ง วัตถุดิบ และส่วนผสมเครื่องปรุงรส มี เนื้อส้มโอแกะเป็นชิ้น ๆ (ใช้พันธุ์ขาวแตงกวาจะยำได้อร่อย), น้ำยำ, น้ำมะนาว, น้ำปลา, ผงชูรส, ปลากรอบ, มะพร้าวคั่ว, ปลาป่น, กุ้งแห้ง, พริกป่น, ถั่วลิสงทอด และหัวหอมแดงหั่น

วิธียำ เริ่มที่นำเนื้อส้มโอใส่ลงในภาชนะยำพอประมาณ ตามด้วยหัวหอมแดงหั่น, ปลาป่น, ผงชูรส, พริกป่น, ถั่วลิสงทอด มะพร้าวคั่ว, กุ้งแห้ง, น้ำมะนาว, น้ำปลา และน้ำยำ ใช้ทัพพีคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน ชิมรสให้ได้ 3 รส คือ เปรี้ยว,หวาน และเค็ม แต่จะเน้นให้มีรสเปรี้ยวนำ แล้วโรยหน้าด้วยปลากรอบ เท่านี้ก็ใช้ได้ ขายในราคาชุดละ 40 บาท

ส่วน “ยำฝรั่ง” และ “ยำมะม่วง” จะยำเหมือนกับยำผลไม้ และยำส้มโอรวมทุกประการ เพียงแค่เปลี่ยนผลไม้ และวิธีหั่นเท่านั้น โดย ยำฝรั่ง จะใช้ฝรั่งพันธุ์แป้นสีทอง และกลมสาลี่ โดยจะสับฝรั่งเป็นเส้น ๆ แทนการหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อง่ายต่อการรับประทาน ส่วน “ยำมะม่วง” นั้น จะใช้มะม่วงพันธุ์มันเดือนเก้า และโชคอนันต์ สับเป็นเส้น ๆ เช่นกัน

ส่วนราคาขายของยำ 2 ชนิดนี้ คือ ชุดละ 30 บาท

ใครสนใจ “ยำผลไม้รวม” ของนันทวรรณ เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” ติดต่อได้ที่ โทร. 08-6212-1495 หรือที่ ถนนคนเดิน จ.นครสวรรค์ ทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. และร้านยำมะม่วงโอทอป ย่านห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จ.นครสวรรค์ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล/สุรางค์รัตน์ เจนการ : รายงาน

ภาณุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

คู่มือลงทุน…ยำผลไม้รวม

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 6% ของราคาขาย

รายได้ ราคา 40 บาท/1 ชุด

แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด ชุมชน/งานออกร้าน/ย่านท่องเที่ยว

จุดที่น่าสนใจ เป็นการแปรรูปผลไม้แบบใหม่ ๆ

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/296207/‘ยำผลไม้รวม’+สวนหลังบ้าน+สร้างรายได้

Read More...


กินแล้วร้อนเร่า เมนูชนะ 'ฤดูหนาว' สไตล์คุณหรีด

อากาศหนาวๆ แบบนี้คุณนึกถึงอะไรคลายหนาว วันนี้ไทยรัฐออนไลน์นำ 5 เมนูง่ายๆ อร้อย อร่อย ชนะ ช่วงวันเวลา 'เหมันต์' หรือ ฤดูหนาว สไตล์ คุณหรีด รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์ เจ้าแม่วงการอาหารชื่อดัง มาดูว่าน่ากินแค่ไหน




หนาวนี้ - สปาเกตตีคาโบนาร่า  
เมนูแรก ปกติเครื่องเส้นอย่างสปาเกตตี้มีส่วนประกอบเป็นแป้ง กินแล้วมันจะไปเคลือบท้อง เหมือนกับเวลาคนที่จะไปดื่มแอลกอฮอล์เขาจะแนะนำให้กินเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว เพื่อไปเคลือบท้องก่อน ซึ่งคุณสมบัติของตัวแป้งจะสามารถเคลือบทำให้ร่างกายไม่หนาวจนเกินไป ยิ่งเป็นสปาเกตตีคาโบนาร่ามีชีสเป็นส่วนประกอบ นอกจากจะเคลือบท้องแล้ว คาโบนาร่ายังมีกลิ่นหอมของควัน ยิ่งได้เบคอน มีความมัน กันความหนาวเลย
ทำกินเองได้ง่ายๆ.




หนาวนี้ - ข้าวผัดหนำเลี้ยบปลาหิมะ 
เมนูที่ 2 ปกติข้าวผัดเราจะรู้จักถ้าเป็นหนำเลี้ยบก็จะเป็นหนำเลี้ยบหมูสับหรือกุ้งสับ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งธรรมดาเกินไป เลยลองเป็นปลา ซึ่งปลาอื่นๆ ดูจะไม่ค่อยเหมาะกับหนำเลี้ยบเท่าไหร่ สู้ปลาหิมะไม่ได้ เพราะปลาชนิดนี้มีความมันของมันอยู่ สังเกตถ้าเอาปลาหิมะมานึ่งมากินเฉยๆ จะเลี่ยนเลย วิธีทำ นำปลาหิมะมาหั่นเป็นลูกเต๋า เคลือบด้วยแป้งนำไปทอด ไม่เช่นนั้นมันจะเละนำมาคลุกกับหนำเลี้ยบไม่ได้ ที่สำคัญเคลือบแล้วมันจะกรอบนอกนุ่มใน




ส่วนเครื่องหนำเลี้ยบไม่ต้องไปปรุงรส เพราะอร่อยอยู่แล้ว ขอเพียงแต่ว่าต้องได้หนำเลี้ยบมาแล้วคลี่ให้แตกให้หมด เอามาผัดกับกระเทียมให้คลายความเค็มลง ไม่เช่นนั้นเค็มจัดกินไม่ได้ (อย่าลืมมีกระเทียมเจียวไว้ส่วนหนึ่ง) ที่ขาดไม่ได้ก็คือการเหยาะซอสแม็กกี้ลงไป เพราะขาดซอสชนิดนี้ไม่ใช่หนำเลี้ยบ หลังจากนั้นจึงใส่พริกไทย น้ำตาลทรายขาวนิดหน่อย เสร็จแล้วก็นำปลาหิมะที่เราทอดกรอบแล้วมาลง
อ้อ เคล็ดลับที่สำคัญคือ อย่าลืมเหยาะเหล้าจีนลงไป ทำให้รสชาติมันร้อนเร่าเล็กน้อย เพียงเท่านี้มาราดบนข้าวสวยร้อนๆ ก็คลายหนาวแล้ว




หนาวนี้ - ต้มจืดเต้าหู้ผักกาดขาวสาหร่าย
เมนูที่ 3 ถามว่าทำไมต้องเป็นสาหร่าย เพราะบางคนไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ แต่คุณขาดโปรตีนไม่ได้ อย่าลืมเพราะถ้าขาดคุณจะมีอาการหนาวสั่น ดังนั้น แกงจืดเต้าหู้สาหร่ายผักกาดขาว เมนูนี้ ถ้าเป็นผักกาดขาวยอดอ่อน เด็กๆ ที่เกลียดผักกินได้เลย เวลาต้มลงไปสีมันจะน่ากิน แทบไม่ต้องปรุงอะไรเลย สาหร่ายใส่หลังสุด สาหร่ายจะเป็นตัวคลุม เก็บความร้อนในร่างกายเพื่อให้สู้กับอากาศหนาว สังเกตเวลาสาหร่ายไปคลุมทะเล อากาศจะอบอุ่น เป็นเมนูที่ทำกินเองง่ายอร่อยด้วย




หนาวนี้ - กะเพราไก่กระทะร้อน
เมนูที่ 4 เป็นเมนูที่ตอนนี้ไปดังที่ญี่ปุ่นมากๆ ซึ่งเราน่าจะรีบจดลิขสิทธิ์เขานำกะเพราไก่มาปรับเป็นกระทะร้อน กินคู่กับราเม็ง กะเพราไก่ของเขาทำแปลก เอากระทะร้อนมาตั้งตอกไข่ลงไป แล้วเอากะเพราผัดต่างหาก แล้วจึงนำมาคลุกหรือราดข้าว และดัดแปลงให้เหมาะกับความต้องการของคน คือชอบอะไรก็สามารถปรุงเองได้ ชอบเผ็ดมาก หรือน้อย ชอบกระเทียมหรือไม่ชอบ ปรุงได้เอง




นอกจากเมนูดังกล่าว สิ่งที่เราสามารถเสริมไปได้ ก็คืออยากให้ใส่หอมแดงลงไป เพราะเป็นตัวทำให้รสชาติไม่แรงเกินไป อ้อ น้ำมันที่ใช้แนะนำให้ใช้เบคอนแทน เพราะมันจะหอมกว่าปกติ ทำให้กะเพราไก่ที่เราทำเองอร่อยเลิศ




หนาวนี้ - สลัดผักผลไม้ครีมซอส
เมนูสุดท้าย ตัวสลัดเราจะใช้สลัดอะไรก็ได้ เห็ดอะไรก็ได้ แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ นำผลไม้ทุกอย่างมารวมอยู่ตรงนี้ด้วย สาเหตุที่เอาผลไม้มารวมในสลัดคลายหนาวก็เพราะเราจะราดด้วยครีมซอส ตัวครีมนี่แหละที่จะทำให้เราสู้กับอากาศหนาวได้
ปัจจุบันครีมซอสทำเองง่ายๆ ใช้นมข้นหวาน หรือว่าไปซื้อครีมซอสก็ได้ตามห้างสรรพสินค้า แต่ทั้งหมดทั้งมวลสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ คอร์นเฟล็ก เพราะว่าใส่คอร์นเฟล็กลงไป ทำให้เราตื่น ความกรอบของผัก และคอร์นเฟล็กมันได้รสชาติ นอกจากคลายหนาวแล้วยังอร่อยเพลินอีกด้วย.

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/469830

Read More...


‘ซุปอุดมทรัพย์’ มั่งคั่งรับตรุษจีน



ผันผ่านเลยวันเทศกาลปีใหม่ของคนไทยแล้ว นับถอยหลังอีกไม่กี่วันจะถึงเทศกาล “ตรุษจีน” หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนจีนและคนไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นอีกวันหนึ่งที่สมาชิกในครอบครัวได้กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ดังนั้นวันนี้ “เชฟชาน ก๊กคิน” หัวหน้าเชฟใหญ่เชื้อสายจีนจากคนอร์ จึงได้คิดค้นเมนูซุปมาแนะนำเป็นหนึ่งในเมนูสำหรับตั้งโต๊ะช่วงมื้อเย็น นอกจากมีรสชาติความอร่อยกลมกล่อมแล้ว ซุปถ้วยนี้ยังมีความหมายดีเสริมมงคลให้ชีวิตรุ่งเรือง เฮง เฮง เฮง รับตรุษจีนปีแพะทองด้วย

เชฟชานเป็นคนมาเลเซีย ด้วยความที่เกิดและเติบโตในประเทศอาเซียน อาหารถือเป็นส่วนสำคัญในชีวิต คุณพ่อคุณแม่ของเชฟชานมีความรักในอาหาร รวมไปถึงพวกเครื่องดื่มมาก เชฟชานเลยซึมซับสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่ยังเด็ก และได้ไปเรียนที่โรงเรียนสอนการโรงแรมในประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์อยู่ 2 ปี โดยได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ศิลปะและทักษะต่าง ๆ เกี่ยวกับการโรงแรม พอเรียนจบจึงกลับไปที่มาเลเซีย ทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กในโรงแรม หลังจากนั้นก็ย้ายไปโรงแรมต่าง ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากยิ่งขึ้น ก่อนลาออกไปเรียนเพิ่มเติม จนมาทำร้านอาหารของตัวเอง ในที่สุดได้เข้ามาร่วมงานกับยูนิลีเวอร์ โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าเชฟฝ่ายศูนย์วิจัยและพัฒนาประจำภูมิภาคอาเซียน”

ด้วยความที่เชื้อสายเป็นคนจีน เชฟชานจึงมีความเข้าใจวัฒนธรรมการกินของชาวจีนเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงตั้งใจรังสรรค์เมนูซุปมงคล “เป็นครั้งแรกของการผสานศิลปะในการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันจากคนอร์ และคัดสรรส่วนผสมที่เป็นมงคลมีความหมายดีตามความเชื่อของคนจีน ทุกบ้านสามารถเสริมเฮงรับ
ตรุษจีน ด้วยการปรุงซุปมงคลได้เองที่บ้านโดยมีคนอร์ซุปก้อนเป็นตัวช่วยให้การปรุงเมนูซุปเป็นเรื่องง่าย และยังอร่อยกลมกล่อมด้วยน้ำต้มกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวยาวนานถึง 8 ชั่วโมง” เชฟผู้มากประสบ การณ์กล่าว

ในวันนี้เพื่อให้ทุกบ้านได้เริ่มต้นปีด้วยความมงคล ร่ำรวย ทำงานกิจการค้าขายดี เชฟชานได้เลือก “ซุปอุดมทรัพย์” หรือ “ซุปกระดูกหมูราก
บัวใส่ฟองเต้าหู้” ซึ่งมีส่วนผสมมงคลอย่างหมู ฟองเต้าหู้ และรากบัว หากรับประทานไปแล้วจะอุดมสมบูรณ์ กินอิ่มนอนหลับ สบายใจ มีความมั่งคั่ง ร่ำรวย มาสาธิตวิธีการทำอาหาร “สำหรับฟองเต้าหู้ นอกจากเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีแล้ว คนจีนยังมีความเชื่อว่ากินแล้วจะร่ำรวย ส่วนรากบัว เสริมมงคลด้านความสมบูรณ์และมีประโยชน์ช่วยแก้ร้อนใน บำรุงม้าม กระเพาะอาหาร และหัวใจ” เชฟชานเผย

เริ่มจากส่วนผสมมีดังนี้ กระดูกหมูหั่นท่อนยาว 3 นิ้ว 500 กรัม, รากบัวปอกเปลือกหั่นชิ้นบาง ๆ 100 กรัม, ถั่วลิสงดิบ 100 กรัม, ฟองเต้าหู้แผ่นมัดเป็นท่อนพอดีคำ 2 ชิ้น,คนอร์ซุปก้อนรสหมู 2 ก้อน, กระเทียมบุบ 35 กรัม, น้ำเปล่า 3 ลิตร, ต้นหอมซอยและผักชีซอย ตามชอบ

วิธีทำ นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่กระดูกหมูลงไปลวกสักครู่เพื่อให้เลือดและฝุ่นออกจากหมู แล้วตักขึ้นมาล้างน้ำเปล่า แล้วพักไว้ จากนั้นนำหมูใส่ลงในหม้อ เติมน้ำ 3 ลิตร ใส่รากบัว ถั่วลิสง กระเทียม และคนอร์ซุปก้อน แล้วต้มต่อจนเดือด ลดไฟลงจนเหลือไฟอ่อน เคี่ยวต่อประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนหมูสุกนุ่ม แช่ฟองเต้าหู้ในน้ำอุ่นสักครู่จนนิ่ม พักไว้แล้วใส่ฟองเต้าหู้ในหม้อ ต้มต่ออีก 1 นาที ยกลงจากเตา ตักใส่ชามโรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี พร้อมเสิร์ฟ.

ช้องมาศ

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/292803/ดื่มชาชมสวน+สดชื่นสไตล์+‘ไทนี่+ทรี’

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.