สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

“หมูสับนึ่งกับปลาเค็ม” หอมเลิศรส อร่อยเด็ดถูกใจเนื้อผัดพริกไทยดำ

.
.
.



ร้านอาหารที่ชื่อว่า ไก่ทอง เป็นร้านอาหารที่เปิดมานานแล้วครับ เมื่อสมัยก่อน ผมได้เขียนให้ร้านนี้ ซึ่งอาหารที่อร่อยมากที่ผมเคยกินมา ก็คือ ราดหน้าทะเล หมู เนื้อ และราดหน้าฮ่องกง โดยเจ้าของร้านและลูกชายของเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำกับข้าวและในการ บริหารคนมากครับ
ทุกครั้งที่ผมคิดอยากจะกินอาหารไทยผสมจีนที่อร่อยจะต้องไปที่ไหนนั้น  ผมมีคำตอบให้กับตัวเองว่า ต้องไปที่ร้านไก่ทอง ส่วนลูกชายเขาไปเปิดร้านชื่อว่าลูกไก่ทอง อยู่ที่ทองหล่อซอย 13  ซึ่งผมได้ไปลองชิมอาหารมาแล้วครับ เขามีอะไรแปลกๆ หลายอย่างที่ร้านของคุณแม่เขาไม่มี ผมก็เลยอยากเอามาเล่าให้เพื่อนทุกคนฟังด้วยว่ามีอาหารอะไรที่อร่อยมากบ้าง ครับ
ที่ร้านไก่ทองนี้ มี ราดหน้าฮ่องกง ที่รสชาติอร่อยมาก โดยปกติผมจะชอบกินเส้นหมี่ ไม่ชอบกินเส้นใหญ่อยู่แล้ว  ครับ แต่ถ้าใครชอบเส้นใหญ่ก็สั่งเส้นใหญ่นะครับ ครั้งนี้ผมได้ชิมราดหน้าหมูทะเล ครับ อร่อยดี ส่วน เนื้อผัดพริกไทยดำ อาหารจานนี้อร่อยสุดๆ เลยครับ ราคาอาจจะแพงไปสักเล็กน้อย เพราะเขาใช้วัตถุดิบที่มาจากต่างประเทศทั้งนั้นเลยครับ กัดฟันสั่งเถอะครับ ถ้าอยากกินของดี อย่าบ่นว่าแพงเลย เพราะว่าเขาใช้ของดีและอร่อยจริงๆ ครับ
ต่อมาเป็น ผักฉ่อยไจ๋รวมมิตร เขาเอาผักฉ่อยมาจากต่างประเทศเหมือนกันครับโดยนำเข้ามาจากฮ่องกง การทำเขาเอามาผัดง่ายๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่รสชาติอร่อยเหลือเกิน กรอบ รสชาติดี ที่นี่เขาใช้ซีอิ๊วที่มีคุณภาพดีมากเลยนะครับ ทำให้รสชาติอาหารออกมาอร่อย 
ตามมาด้วยปลากะพงทอดน้ำปลาซึ่งเขาหั่นเป็นลูกเต๋าทั้งตัวแล้วเอามาโรย หลังจากนั้น ทำน้ำลาบแล้วราดไปบนปลากะพงทอดน้ำปลา เรียกเมนูนี้ว่า ปลากะพงลาบเศรษฐี อร่อยจริงๆ เลยครับสำหรับอาหารจานนี้ วันนั้นผมอิ่มมากเลยครับ แต่พี่เจ้าของร้านเขาหันมาถามผมว่าเคยกินสุกี้ผัดแห้งของที่นี่หรือยัง ผมตอบไปว่า ยังไม่เคยครับ เขาจึงทำมาให้ผมก็เลยต้องลองครับ ตอนมาเสิร์ฟกลิ่นหอมชวนกินมาก เมื่อได้ลองชิมแล้วอร่อยครับ  เพราะว่าเขาผัดได้แห้งจริงๆ และเส้นยังเหนียวนุ่มอยู่อร่อยมาก รสชาติดี น้ำจิ้มของเขาก็ทำได้ดีมากครับ
มาที่ร้านลูกไก่ทองกันบ้างนะครับ ที่ร้านนี้จะมีราดหน้าฮ่องกงเหมือนกัน แต่ว่าเขาจะแยกน้ำแยกเส้นกับผักเสิร์ฟครับ สำหรับน้ำราดของเขาจะทำเป็นทะเลหรือกุ้งมาให้เวลากินก็ค่อยเอามาราดบนเส้น อีกทีหนึ่ง ผมกินทีไรไม่เคยต้องปรุงรสเลยครับ เพราะเขาทำมารสชาติอร่อยอยู่แล้ว
อีกเมนูจะเป็น หมูสับนึ่งกับปลาเค็ม เสิร์ฟกับข้าว อร่อยมากเช่นกันครับ  ผักฉ่อยที่ร้านนี้ก็มีนะครับ  แล้วก็มีหมั่นโถวปิ้งกินกับเคาหยก คือ แทนที่จะเอาหมั่นโถวมานึ่งเฉยๆ เขาเอาไปปิ้งให้กินกับเคาหยก ซึ่งเป็นอาหารจีนที่ทำจากหมูสามชั้นและผักกาดจีนที่มีกรวด มีทราย เยอะไปหมดกว่าจะทำได้ต้องใช้เวลาเหมือนกันครับ สำหรับผมไม่เอาด้วยเด็ดขาดเพราะต้องล้างผักกาดจีน 3 – 4 ครั้ง เพื่อจะเอากรวดออกให้หมด กว่าจะเอามาต้มและตุ๋นกับตัวหมูสามชั้นกว่าจะได้เป็นอาหารออกมาครับ
ต่อมาเป็น แกงป่าคุณแม่ ของเขาก็อร่อยมากครับ เพราะว่าคุณแม่และพี่เจ้าของร้านชอบกินอาหารจานนี้มาก จึงตั้งชื่อเมนูนี้ว่าแกงป่าคุณแม่ เสียเลย อร่อยเหลือเกินครับ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดีให้เพื่อนๆได้ทราบถึงความอร่อย
มีเครื่องดื่มที่เป็นน้ำผึ้งเดือนห้าผสมกับน้ำมะนาว ใส่ไข่มุกคอลลาเจน เป็นเครื่องดื่มสำหรับกินเล่น ที่อร่อยมากครับ  อาหารปิดท้ายเป็นของหวาน อร่อยใช้ได้เช่นกัน เขาทำได้ดี ร้านนี้มีอะไรแปลกๆ อยู่เรื่อยๆครับ
เพราะฉะนั้น ผมคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะหลายคนก็คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว ร้านนี้ก็เป็นอีกร้านหนึ่งที่ถูกน้ำท่วมเหมือนกันนะครับ ก็เลยอยากจะบอกเพื่อน ๆ ว่าตอนนี้ร้านกลับมาเปิดตามปกติแล้ว และยังอร่อยเหมือนเดิม สามารถไปกินอาหารได้แล้วครับ   
.........................................
เข้าครัวกับหมึกแดง - ทอดมันหัวปลี
เครื่องปรุง
- หัวปลีหัวใหญ่ 1 หัว
- น้ำปูนใส 5 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. แกะกาบหัวปลีด้านนอกออกจนหมด เหลือแต่กาบหัวปลีสีเหลืองนวล หั่นเป็นเสี้ยวบาง ๆ ตามยาว
2. ในชามผสมใส่น้ำปูนใสลงไป แล้วนำหัวปลีที่หั่นไว้ลงไปแช่ทันที แช่ไว้ประมาณ 30 นาที
เครื่องปรุงทอดมันหัวปลี
- แป้งข้าวเจ้า  1/2 ถ้วยตวง
- แป้งสาลี  2 ช้อนโต๊ะ
- หัวกะทิ  1 ถ้วยตวง
- ไข่แดงของไข่เป็ด 1 ฟอง
- เครื่องแกงเผ็ด  2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น  1/2 ช้อนชา
- น้ำมันปาล์มสำหรับทอด 4 ถ้วยตวง
- หัวปลีที่แช่น้ำปูนใสสะเด็ดน้ำแล้ว 300 กรัม
- อาจาดสำหรับเสิร์ฟ
วิธีทำ
1. ในชามผสม ใส่แป้งข้าวเจ้า กับแป้งสาลีลงไป เทกะทิลงไป ผสมให้เข้ากัน คนให้เข้ากัน อย่าให้เป็นเม็ด
2. ในชามผสมใบเดิมใส่ไข่แดง เครื่องแกงเผ็ด ใบมะกรูด และเกลือป่น ลงไป ใช้ไม้ตีไข่ คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน จะได้แป้งน้ำสำหรับชุบหัวปลีทอด
3. นำกระทะตั้งเตา ใส่น้ำมันลงไป พอร้อนนำหัวปลีที่สะเด็ดน้ำแล้วลงไป ชุบในแป้งที่ผสมไว้แล้ว นำลงไปทอด ให้สุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
4. นำหัวปลีที่ทอดแล้วใส่จาน เสิร์ฟคู่กับอาจาด
เครื่องปรุงอาจาด
- น้ำตาลทราย  1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู  1/2 ถ้วยตวง
- เกลือป่น  1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก  1/2 ถ้วยตวง
- แตงกวา, พริกชี้ฟ้า, หอมแดงซอยเป็นเส้นตามต้องการ
วิธีทำ
1. ผสมน้ำอาจาดให้เข้ากัน ใส่ผักอาจาดลงไป คนให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟกับทอดมันหัวปลี
ความรู้คู่ครัว
- ทำไมของทอดของไทยมักกินกับอาจาด ?
เพราะ ของทอดมีความมัน จึงต้องมีเครื่องจิ้มที่มีรสชาติเปรี้ยว เข้ามาตัดความเลี่ยน
........................................
ชิมให้เป็น
ขอคุยเรื่อง ราดหน้าฮ่องกง ครับ  ปกติราดหน้ามีหลายแบบนะครับ มีทั้งราดหน้าแบบไทย ราดหน้าแบบแต้จิ๋ว และราดหน้าแบบฮ่องกง

สำหรับราดหน้าฮ่องกงนั้น เส้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าเป็นเส้นหมี่จะต้องกรอบ กรุบๆ ถึงจะอร่อยนะครับ ตัวเส้นเวลาผัดจะต้องไหม้นิดๆ แต่ไม่ต้องใส่ซีอิ๊วลงไปนะครับ ผัดเฉยๆ ให้เส้นไหม้ติดกับกระทะซึ่งจะได้ความหอม

ส่วนน้ำราด ก็มีความสำคัญเช่นกัน  เพราะว่า น้ำราดจะทำจาก น้ำซุป น้ำมันหอย และที่สำคัญถ้าไม่มีกลิ่นน้ำมันงาในนั้นจะไม่ใช่ราดหน้าของฮ่องกงอย่างแน่ นอนครับ

เพราะฉะนั้นต้องชิมให้เป็นนะครับ ใครที่เคยกินราดหน้าแบบไทย เคยกินราดหน้าที่นั่นที่นี่ ต้องเปลี่ยนความเข้าใจเสียใหม่ครับ และต้องเข้าใจว่าอาหารเมนูนี้เป็นของฮ่องกง โดยจะต้องรู้ว่าหน้าตาที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร ฉะนั้นอย่าลืมนะครับจะได้ชิมให้เป็นอย่างไรครับ
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Read More...


หอมชวนชิม ''ปลาเต๋าเต้ยแกงส้มพริกนก'' กรอบอร่อยครบรสปลาช่อนทอดน้ำปลาฯ

.
.
.

 
อาทิตย์นี้ผมขอพูดถึงร้านอาหารที่มหาชัยครับชื่อว่า ร้านเกียง้วน มหาชัยซีฟู้ด ตอนนี้เขามาเปิดร้านใหม่ที่ชั้น 7 ของเซ็นทรัล แกรนด์ พลาซ่า พระราม 9 ผมเลยแวะไปชิม ร้านนี้เขาพยายามให้ลูกชายของเขามีความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำอาหารแปลก ๆ ใหม่ ๆ แต่ว่ายังคงความเป็นไทยอยู่ให้เราได้กินครับ ซึ่งผมต้องไปลองชิมแน่ ๆ เพราะผมชอบอะไรแปลก ๆ ซึ่งเขาจะทำให้ผมลองชิม แต่ในส่วนของเมนูเดิมก็ยังคงมีอยู่นะครับ 

อาหารที่ทำนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ในแต่ละฤดูกาลครับ เช่น ช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่เดือนมกราคม ซึ่งจะมีปลาทูที่อร่อยมาก เพราะจะมีความมันเป็นพิเศษ ฉะนั้นใครไปกินอาหารในช่วงนั้นก็จะได้กินปลาทูสดต้มมะดัน ที่เอามาใส่หม้อไฟเสิร์ฟร้อน ๆ คุณพ่อผมชอบรับประทานอาหารชนิดนี้มาก กินทีเดียวคนละ 4–5 ตัวเลยครับ ผมต้องนั่งแกะก้างปลาให้คุณพ่อรับประทานเพราะคุณพ่ออายุมากแล้วมองไม่ค่อย เห็นก้างปลา ซึ่งคุณพ่อผมชอบอาหารแบบนี้มากเลยครับ

ยังมี ปลาช่อนทอดน้ำปลาเสิร์ฟกับยำมะม่วง ดูแล้วเป็นของธรรมดา ๆ นะครับ แต่ต้องทอดปลาให้เป็นถึงจะอร่อยนะครับ โดยข้างนอกจะต้องกรอบแล้วมีกลิ่นของน้ำปลา ซึ่งจะใส่น้ำตาลปี๊บเข้าไปเล็กน้อยด้วยนะครับ แล้วกินกับยำมะม่วง อร่อยมากครับ

ส่วน ปลาเต๋าเต้ยแกงส้มพริกนก ซึ่งปลาเต๋าเต้ยของเขาแทนที่จะเอาไปทำปลาเต๋าเต้ยจักรพรรดิที่อีกร้านของเขา ทำ แต่ที่สาขานี้กลับเอาปลาเต๋าเต้ยมาทำเป็นแกงส้มพริกนก เมื่อชิมดูแล้วให้รสชาติ เผ็ด ร้อน เปรี้ยว จัดจ้านเป็นอย่างมากครับ แต่ก็อร่อยดี  อาหารถ้วยนี้จะต้องรีบกินหน่อยนะครับ โดยจะต้องไม่ทำให้ปลาเต๋าเต้ยสุกเกินไปเพราะเดี๋ยวเนื้อปลาจะแข็งครับ ฉะนั้น เมื่อนำมาเสิร์ฟก็จะต้องรีบกินจะได้กินเนื้อปลาที่สุกกำลังดี ได้รสชาติความหวานของเนื้อปลาที่อร่อยถูกใจ

ต่อมาเป็น ปลาหมึกสอดไส้กุ้งราดซอสพะแนง อาหารจานนี้อร่อยมาก ตอนแรกผมกลัวเหมือนกันว่า ไส้ กุ้งที่ใส่เข้าไปในปลาหมึกนั้นจะเหนียวเกินไป เพราะผมไม่ทราบว่าเขาจะนำไปลวกหรือนึ่ง แต่เขาทำได้ดีทีเดียวครับ ปลาหมึกยังกรอบอยู่ ส่วนกุ้งก็สุกกำลังพอดีครับ ผมชอบอาหารจานนี้มากเลยครับ

อาหารอีกจานหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำเพื่อน ๆ ซึ่งตัวผมเองเห็นแล้วยังตกใจเลย แต่ที่ตกใจนั้นน่ะเพราะชอบนะครับ ต้องขอถามเพื่อน ๆ ก่อนว่าเคยไปกินร้านอาหารเกาหลีหรือไม่  ที่เขามีหม้อที่เป็นหินน่ะครับ แล้วเขาก็เอาข้าวมาใส่ในนั้น ข้าวที่อยู่ในหม้อหินจะกรอบ ๆ กรุบ ๆ นิด ๆ แล้วเขาก็เอาไข่แดงไปใส่เป็นข้าวยำ

แต่ที่นี่ทำเป็น ข้าวยำปูม้า ซึ่งเสิร์ฟโดยใส่หม้อมาครับ การทำ คือ ทำให้ข้าวสุกแบบยังกรอบ ๆ อยู่แล้วก็ยำให้รสชาติอร่อย เสร็จแล้วเอาไข่วางไว้ตรงกลาง เวลาเสิร์ฟก็เสิร์ฟกับน้ำปลาพริก  สำหรับผมเมื่อได้มาแล้ว ก็จัดแจงคลุกให้ไข่แดงสุกเพราะข้าวยำยังมีความร้อนอยู่ รวมทั้งจะได้ทำให้ข้าวมีความมันด้วย เสร็จแล้วเหยาะน้ำปลาพริกเล็กน้อย แล้วก็กินเข้าไป อยากบอกเหลือเกินว่า อร่อยจริง ๆ ครับ อาหารจานนี้ชามเดียวราคาไม่ถึง 400 บาท แต่เนื้อปูเยอะพอสมควรนะครับ สามารถกินกันได้ 3–4 คน ต้องลองไปกินกันดูครับ สำหรับอาหารจานนี้ ผมเอาไปทำในรายการโทรทัศน์ของผมแล้วด้วยนะครับ

นอกจากนี้ ยังมี หอยลายอบเนย วิธีทำคล้าย ๆ ของฝรั่งเศสทำครับ เสิร์ฟกับขนมปัง เวลากินก็เอาขนมปังจิ้มลงไปที่หอยลายอบเนยกินแบบนี้จะอร่อยมากเลยทีเดียว

มาถึงเมนู ห่อหมกทะเล แทน ที่เขาจะใส่กระทงแบบที่เห็นโดยทั่วไปเขากลับใส่ถ้วยฟลอยล์มา ซึ่งรสชาติพอใช้ได้ครับ ถึงเครื่องห่อหมกดีจัง ส่วนอีกเมนู เป็นของกินเล่น แต่ก็แปลกดี ก็คือ ปาท่องโก๋หน้าปู ผมบอกเขาว่าอร่อยมากเลย และผมได้แนะนำว่า อยากให้เขาทำหลาย ๆ หน้าในหนึ่งจาน เช่น หมู กุ้ง เพิ่มเข้าไปด้วย  จะได้มีอะไรให้เลือกหลากหลายมากขึ้น

อีกจานหนึ่งที่คล้ายอาหารฝรั่ง ก็คือ แครปเค้ก เอาเนื้อปูมาปั้นหรือเอามาผสมกับมายองเนส ผสมกับอะไรต่าง ๆ แล้วเอามาทอดด้วยน้ำมันน้อย ๆ หรือเอาไปอบก็ได้นะครับ แล้วกิน ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับยำชนิดหนึ่ง แต่ว่ายำนี้เป็นยำแบบฝรั่งเท่านั้นเองครับ มีลักษณะออกมาเป็นชิ้นกลม ๆ

ตามมาด้วย ปลาทูซาเตี๊ยะ ผมชอบมาก ซึ่งผมสามารถกินคนเดียวได้ทั้งจานเลยนะครับ  คงไม่ต้องบอกนะครับว่าอาหารจานนี้อร่อยมากแค่ไหน ขณะเดียวกันช่วงนี้เป็นช่วงที่มีหอยตะเภามาก เขาเลยเอามาทำเป็นเมนู หอยตะเภาย่าง เสิร์ฟกับน้ำจิ้มให้กินอร่อยมากเลยครับ

ที่ร้านนี้เขามีทั้งเมนูดั้งเดิมของที่ร้านและมีเมนูใหม่ ๆ ที่ลูกชายคิดค้นขึ้น แต่ราคาไม่ได้แตกต่างกับร้านเก่าเลยครับ ถึงแม้จะขายบนชั้น 9 ของห้างเซ็นทรัล แกรนด์ พลาซ่า พระราม 9 ก็ตาม  โดยที่ร้านตกแต่งแบบฝรั่ง คนอาจจะเข้าใจว่าราคาต้องแพงแน่ ๆ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยครับ ที่นี่ไม่ได้แพงกว่าร้านเก่าเลย  เพราะฉะนั้น แวะไปชิมอะไรใหม่ ๆ รวมทั้งเมนูเดิม ๆ ดูนะครับ รับรองอร่อยถูกใจไม่ผิดหวังครับ.
ข้าวยำปูม้า - ชิมให้เป็น
การที่จะรู้ว่า อาหารจานนี้อร่อยหรือไม่อร่อยต้องเข้าใจวิธีการทำที่ถูกต้องด้วยนะครับ ผมขอพูดถึง ข้าวยำปูม้า ที่ใส่ในภาชนะที่ทำด้วยหินแล้วเอาไปอบ เพื่อน ๆ คิดว่าอร่อยหรือไม่  ผมว่าอยู่ที่ความคิด ความเข้าใจ โดยสังเกตดูว่าอาหารที่เราจะทำนั้นคล้ายคลึงกับอาหารอะไร ซึ่งอาหารข้าวยำปูม้าที่ร้านนี้จะคล้ายคลึงกับอาหารไทยที่เป็นข้าวยำแบบ โบราณซึ่งผมเคยไปที่ครัวแจ๋ว อ.ปราณบุรี มานั้น จะเป็นข้าวยำปู โดยมีมะม่วงซอยและทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในนั้นหมดเลยครับ ส่วนรสชาติอร่อย มีแค่น้ำปลาพริกอย่างเดียวที่ใส่เพิ่มเข้าไป

แต่ที่ร้านนี้ก็เช่นกัน เขาก็แค่เปลี่ยนไปใส่ในภาชนะที่เป็นหินทำให้มีความร้อน ซึ่งเป็นการขอยืมความคิดมาจากอาหารของเกาหลี แล้วเอามาทำเป็นข้าวยำ ซึ่งจะได้ทั้งร้อน ทั้งอร่อย ทั้งความมัน เพราะว่ามีไข่แดงเป็นส่วนประกอบเพิ่มเข้าไปด้วย รสชาติเข้มข้น แปลกดีด้วยครับ

  แล้วนี่ก็คือ ความอร่อย คือ ความสมดุลระหว่างกลิ่นปู ความมันของไข่แดง ความเค็มของน้ำปลา ความเผ็ดของพริก ความเปรี้ยวของมะนาว และมะม่วงที่ซอยใส่เข้าไปในนั้นอย่างไรครับ อย่าลืมนะครับว่าจะกินอาหารแต่ละอย่างเราจะต้องชิมให้เป็นด้วยครับ
ข้าวขยำปู - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุง
-ข้าวสวยร้อน ๆ 5 ถ้วยตวง
-เนื้อปูนึ่งสุก 150 กรัม
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
-หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
-พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-มะม่วงเปรี้ยวซอยเป็นเส้น  สำหรับโรยหน้า
-แครอทหั่นเต๋าเล็ก สำหรับโรยหน้า
-เนื้อปูก้อน สำหรับโรยหน้า
-ไข่แดงของไข่ไก่ 1 ฟอง
-ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า
-ผักชีเด็ดใบ สำหรับโรยหน้า
-น้ำปลาพริก สำหรับเสิร์ฟ
วิธีทำ
1.เปิดเตาอบให้ร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นำถ้วยหินอ่อนเข้าเตาอบไว้ให้ร้อน
2.ในชามผสม นำข้าวสวยร้อน ๆ ใส่เนื้อปู น้ำปลา เกลือป่น ขยำให้เข้ากัน
3.ใส่หอมแดงครึ่งหนึ่ง พริกขี้หนูซอย  น้ำมะนาว คลุกให้เข้ากัน
4.นำถ้วยหินอ่อนที่ร้อนแล้ว ตักข้าวขยำปูใส่ลงไปในถ้วย โรยหน้าด้วยมะม่วง แครอท หอมแดง เนื้อปูก้อน ไข่แดง และต้นหอมซอย กับ ใบผักชี ยกเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมน้ำปลาพริก

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง www.mcdangguide.com

Read More...


''ขนมหม้อแกง'' โบราณ ที่ยังทำเงินดี!!

.
.
.

 


ขนมหม้อแกง ขนมพื้นเมืองโบราณของเหล่าแม่ ๆทั้งหลาย อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ซึ่งด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หน้าตาขนมหม้อแกงก็ถูกพัฒนาเปลี่ยนไปเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า คนรุ่นใหม่ บวกกับอุณหภูมิการแข่งขัน จึงทำให้คนทำขายต้องสร้างความแตกต่าง ต้องสร้างจุดขายของตัวเอง จนกลายเป็นสินค้าที่มีรสชาติและหน้าตาใหม่ ๆ ที่ดึงดูดใจลูกค้าได้อย่างดี วันนี้มาดูข้อมูลอาชีพเกี่ยวกับ “ขนมหม้อแกง” ซึ่งยังคงเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ...
 
นงลักษณ์ กิมสุวรรณ วัย 46 ปี เจ้าของร้านนงลักษณ์ขนมไทย สูตรโบราณ จ.ฉะเชิงเทรา เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของการทำร้านขนมไทยโบราณว่า เธอและครอบครัวประกอบอาชีพทำขนมไทยสูตรโบราณขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยเดิมทีนั้นเคยประกอบอาชีพขายผลไม้ตามฤดูกาล แต่เมื่อเวลาผ่านไป เศรษฐกิจเริ่มไม่ดี ทำให้ธุรกิจประสบภาวะขาดทุน เงินสำรองที่เก็บไว้ รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนในการค้าขายก็หมดลง ทำให้เธอต้องไปกู้เงินมาเพื่อลงทุนใหม่

“เมื่อธุรกิจขายผลไม้ตามฤดูกาลไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้เป็นหนี้เป็นสินมากมาย จึงคิดกันกับแฟนว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่ไหวแน่ รู้สึกเบื่อ เพราะทำไปก็เหนื่อยเปล่า ก็เริ่มมองหาอาชีพใหม่ พอดีช่วงนั้นอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่าที่ห้างหนึ่งมีการเปิดอบรมการอนุรักษ์ ขนมไทยโบราณฟรี เสียแค่ค่าอุปกรณ์นิดหน่อย ก็รีบไปสมัครทันทีเพราะสนใจการทำขนมไทยอยู่แล้ว อบรมเสร็จก็ฝึกทำที่บ้าน ใช้เวลาหลายเดือนจนได้รสชาติอร่อยคงที่ และเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ รวมถึงเด็ก ๆ ให้หันมาสนใจขนมไทยโบราณ ก็ประยุกต์ขนมให้มีขนาดเล็กจิ๋ว หน้าตาน่ารับประทาน เช่น ทองหยิบทองหยอดจิ๋ว เม็ดขนุนจิ๋ว ฝอยทอง ขนมชั้น และหม้อแกง-โรยหอมเจียว หม้อแกง-โรยฝอยทอง ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก”

เคล็ดลับความอร่อยของขนมไทยโบราณ นงลักษณ์บอกว่า หัวใจสำคัญคือการใช้วัตถุดิบคุณภาพดี ฝีมือและความประณีต นอกจากนี้ต้องอาศัยความใจเย็นของคนทำด้วย รสชาติ หน้าตาของขนม จึงจะออกมาดี น่ารับประทาน

นงลักษณ์บอกอีกว่า อาชีพขายขนมกระแสตอบรับยังดีมาก เส้นทางขนมยังไปได้อีกไกล เพราะคนไทยยังนิยมกินขนมหวาน และพิธีการต่าง ๆ ก็นิยมใช้ขนมหวาน รวมถึงรีสอร์ทต่าง ๆ ก็หันมาใช้ขนมไทยโบราณเป็นอาหารว่างให้กลุ่มลูกค้าสัมมนาด้วย

การทำขนมหม้อแกง อุปกรณ์และวัสดุหลัก ๆ ก็มี...เตาอบ, กะละมัง, ถาด, เครื่องตีไข่, กล่องฟอยล์, ทัพพี และเครื่องไม้เครื่องมือเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่หยิบยืมเอาจากในครัวได้

ส่วนผสมที่ใช้ในการทำ...ไข่ขาว 8 ขีด, ไข่แดง 2 ขีด, น้ำตาลโตนด 1 กก., หัวกะทิ 1 กก., แป้งสาลี 2 ขีด, น้ำมันพืช, หอมแดงซอย, ฝอยทอง และใบเตยหอม

ขั้นตอนการทำ “ขนมหม้อแกง” เริ่มจากการทำหอมเจียวสำหรับโรยหน้าก่อน โดยนำหอมแดงซอยมาเจียวด้วยไฟอ่อนให้เหลืองหอม ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เตรียมไว้ และนำใบเตยหอม 6-7 ใบ มาล้างให้สะอาด วางไว้ให้สะเด็ดน้ำ

นำส่วนผสมของไข่ขาว ไข่แดง และแป้งสาลี ใส่อ่างผสม ทำการตีให้ไข่ขึ้นฟู แล้วใส่น้ำตาลโตนด และใส่ใบเตยหอมที่เตรียมไว้ตามลงไป ทำการขยำให้ส่วนผสมเข้ากัน จนน้ำตาลละลาย

จากนั้นใส่หัวกะทิตามลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ครั้ง เสร็จแล้วจึงตักใส่พิมพ์ หรือถ้วยฟอยล์ ขนาด 7X10 ซม. ที่วางไว้บนถาด นำเข้าเตาอบเปิดไฟที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 30 นาที พอเห็นว่าหน้าขนมเริ่มมีสีเหลืองอ่อนให้ปรับลดไฟมาที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส อบต่ออีกประมาณ 20 นาที เมื่อหน้าขนมมีสีเหลืองทอง ก็เป็นอันใช้ได้ ยกถาดขนมออกมา แล้วโรยหน้าด้วยหอมเจียว และฝอยทอง เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยมากยิ่งขึ้น มาถึงตรงนี้ก็จะได้ขนมหม้อแกงอีกสูตรที่ได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อย รสชาติหวานมันหอม และยังคงเสน่ห์ความเป็นไทยแบบโบราณดั้งเดิมไว้ ซึ่งเป็นที่นิยมรับประทานและซื้อเป็นของฝาก ทั้งในและนอกชุมชน

“ขนมหม้อแกง” นี่ก็เป็นสินค้า “ของดี ของฝาก เมืองแปดริ้ว” อีกชนิดหนึ่งด้วย โดยราคาขายอยู่ที่กล่องละ 35 บาท มีต้นทุนเฉพาะในส่วนของวัตถุดิบประมาณ 60% ของราคาขาย
  
ขนมของร้านนงลักษณ์ ขนมไทยสูตรโบราณ ได้รับการรับรองให้เป็นสินค้าโอทอป 4 ดาว โดยทำขนมหม้อแกง และขนมไทยชนิดอื่น ๆ ขายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ตลาดน้ำบางคล้า และตลาดร้อยปีบ้านใหม่ จ.ฉะเชิงเทรา และยังออกร้านงานโอทอป งานต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งหากใครสนใจจะสั่งซื้อไปใช้ในเทศกาลงานต่าง ๆ ต้องการติดต่อคุณนงลักษณ์ ก็ติดต่อทางโทรศัพท์ได้ที่ โทร. 08-1576-6227 และ 08-1344-1832.

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : เชาวลี ชุมขำ

Read More...


มะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง'แม่ฉุย'

.
.
.



มะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง 'แม่ฉุย' รวยด้วยมือ ชาวบ้านดอนตูม : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ

          ผลกระทบจากผลผลิตล้นตลาด ส่งผลให้ประสบปัญหาราคาตกต่ำ ให้สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตำบลดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม ซึ่งยึดอาชีพปลูกมะเขือเทศราชินีเพื่อจำหน่ายผลสด ต้องหันมาทำการแปรรูปเพิ่มมูลค่าแทน ด้วยความมุ่งมั่นของหมู่มวลสมาชิกกลุ่มภายใต้การนำของ "ประยงค์ วงษสกุล" ประธานกลุ่ม ทำให้วันนี้มะเขือเทศราชินีแปรรูปในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เชื่อมอบแห้ง มีรสชาติที่โดดเด่นเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

          ประยงค์ วงษสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตำบลดอนตูม ย้อนอดีตให้ฟังว่าแต่เดิมชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตรปลูก ผักปลอดสารพิษและมีการรวมกลุ่มปลูกกระเจี๊ยบเขียว แต่มักประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว จากนั้นจึงหันมาปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ หรือบางคนเรียกมะเขือเทศราชินี โดยได้รับการส่งเสริมด้านเมล็ดพันธุ์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
          "การปลูกมะเขือเทศราชินีในระยะเริ่มแรกให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี มีราคาสูง แต่เนื่องจากมะเขือเทศพันธุ์นี้ให้ผลดกมาก เมื่อเกษตรกร ปลูกมากขึ้น จึงทำให้ผลผลิตล้นตลาด ประกอบกันการปลูกมะเขือเทศติดต่อกันในพื้นที่เดิมจะให้ผลที่มีขนาดเล็กลง ไม่สามารถจำหน่ายเป็นผลสดได้และบางครั้งในช่วงฤดูฝน ฝนตกชุกมาก ทำให้ผลมะเขือเทศแตกเกิดความเสียหาย จึงเป็นที่มาของแนวคิดที่จะผลผลิตมาแปรรูป"
          ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตำบลดอนตูม เล่าต่อว่าจากนั้นในปี 2548 กลุ่มจึงได้แก้ไขปัญหา โดยได้นำมะเขือเทศที่ล้นตลาดและผลผลิตที่ไม่ได้ขนาดหรือมีตำหนิมาแปรรูปเป็น มะเขือเทศราชินีอบแห้งและมะเขือเทศราชินีเชื่อมอบแห้งสามรส โดยการสนับสนุนจากสหกรณ์จังหวัดนครปฐมและเมื่อรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 กลุ่มจึงยื่นขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนและได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ในปีเดียวกัน ส่งผลให้ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนในการพัฒนาทั้งด้านการผลิตและการตลาด มะเขือเทศผลสดและมะเขือเทศแปรรูปทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด นครปฐมให้เป็นแหล่งเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนของจังหวัดอีกด้วย
          ประยงค์ยังได้อธิบายขั้นตอนการปลูกมะเขือเทศราชินีว่าเริ่มจากการปรับดินให้ เหมาะสมสำหรับการปลูก กล่าวคือต้องให้ดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีอุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส และควรปลูกในช่วงปลายฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว เพราะจะได้ผลผลิตดี ส่วนวิธีการปลูกให้นำเมล็ดมาเพาะกล้า จนเมื่ออายุได้ประมาณ 22-25 วัน จึงย้ายที่ปลูกโดยทำแปลงเป็นร่อง ร่องละ 2 แถว มีระยะห่างแถวละ 1 เมตร ระยะะหว่างหลุม 40-50 เซนติเมตร รองพื้นด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนแกงต่อหลุมแล้วย้ายกล้ามาปลูกหลุมละ 1-2 ต้น กลบดินรดน้ำให้ชุ่มพอสมควร หลังจากนั้นควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ 1-2 ครั้ง มีการให้ปุ๋ย 3 ระยะ คือหลังปลูก 7-15 วัน ใช้ปุ๋ย 15-15-15 หรือ 46-0-0 เพื่อเร่งการเจริญเติบโต หลังจากใส่ปุ๋ยครั้งแรก 15 วันให้สูตร 13-13-21 และหลังใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ประมาณ 15 วันใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60
          "เมื่อปลูกได้ประมาณ 30-45 วัน มะเขือเทศเริ่มออกดอกและจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 70-90 วัน จากนั้นก็เก็บผลผลิตได้นานถึง 2-3 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา ส่วนการให้ผลผลิตนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,000-4,000 กิโลกรัมต่อไร่"
          ส่วนในเรื่องการตลาดนั้น ประยงค์บอกว่าขณะนี้ไม่มีปัญหา มีคำสั่งซื้อเข้ามาเกือบทุกวัน โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์มะเขือเทศราชินีเชื่อมอบแห้งฝีมือสมาชิกกลุ่มนั้นมีให้ เลือก 4 รส ได้แก่ รสดั้งเดิม สามรส รสบ๊วยและรสน้ำผึ้งผสมมะนาว ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "แม่ฉุย" มีจำหน่ายแบบบรรจุถุงใส ขนาด 200 กรัม สนนในราคาถุงละ 50 บาทและแบบบบรจุซอง สนนราคาซองละ 12 บาทและ 15 บาท มีวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทุกสาขา ส่วนมะเขือเทศราชินีผลสด มีจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทุกสาขา ตลาดไทและปากคลองตลาด สำหรับใน จ.นครปฐม มีจำหน่ายประจำที่ตลาดปฐมมงคล ตลาดน้ำดอนหวายและตลาดน้ำลำพญา ผู้สนใจผลิตภัณฑ์มะเขือเทศราชินีเชื่อมอบแห้งติดต่อได้ที่กลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนตำบลดอนตูม เลขที่ 65 หมู่ 5 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม โทร.0-34275-665, 08-6160-1393 ได้ทุกวัน

----------
แปรรูปมะเชือเทศเชื่อมอบแห้ง

          หลังจากมะเขือเทศผลสดจากไร่ของสมาชิกถูกส่งมายังจุดรวบรวมผลผลิตของกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนตำบลดอนตูม จากนั้นก็คักแยกเป็นผลผลิตคุณภาพดีสำหรับการจำหน่ายผลสด ส่วนผลผลิตที่ไม่ได้ขนาดหรือมีตำหนิก็จะนำมาแปรรูปในอาคารที่สะอาดได้รับการ รับรองมาตรฐาน GMP ตามกระบวนการผลิต
          โดยเริ่มจากนำผลมะเขือเทศมาล้างด้วยน้ำให้สะอาด จากนั้นก็มาตัดแต่งและกรีดผลแล้วนำไปแช่ในน้ำปูนใสที่ตกตะกอนแล้วนาน 3-5 ชั่วโมง ก่อนนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ทำน้ำเชื่อม (ต้นน้ำกับน้ำตาลอัตรา 1:1) ที่ความร้อนมากกว่า 100 องศาเซลเซียสแล้วนำมะเขือเทศที่เตรียมไว้มาแช่ในน้ำเชื่อมอัตรามะเขือเทศ 3 ส่วน น้ำเชื่อม 1 ส่วน นาน 5-7 วัน โดยให้แยกมะเขือเทศออกแล้วนำน้ำเชื่อมไปอุ่นที่ร้อนมากกว่า 100 องศาเซลเซียสทุกวัน
          จากนั้นนำมะเขือเทศล้างน้ำเชื่อมออกในน้ำสะอาดต้มและผึ้งแดดให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาอบในอุณหภูมิที่ 60 องศาเซลเซียส นาน 2-3 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความชื้นของมะเขือเทศด้วยเสร็จแล้วก็นำมาปรุงรสตามที่ต้องการและ บรรจุถุงเพื่อจำหน่ายต่อไป
          ชมขั้นตอนการแปรรูปมะเขือเทศราชินีเชื่อมอบแห้งได้ในรายการ "เกษตรทำกิน" กับ "คมชัด ลึก" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง "ระวังภัย" ในวันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม เวลา 16.00-17.00 น.หรือดูย้อนหลังได้ที่ www.ระวังภัย.com)

----------
(หมายเหตุ : มะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง 'แม่ฉุย' รวยด้วยมือ ชาวบ้านดอนตูม : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ)
----------

Read More...


ถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด 5 สี สูตร (ไม่) ลับสำหรับคนตกงาน

.
.
.
.
 

 


จากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้แรงงานในสถานประกอบการต่างๆ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมถูกเลิกจ้าง จนกลายเป็นคนตกงานจำนวนนับแสนๆ ราย รวมทั้งบัณฑิตจบใหม่ด้วย

  ซึ่งคนเหล่านี้ส่วนหนึ่งเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อ ประกอบอาชีพใหม่ บางส่วนกลับสู่อาชีพภาคเกษตรที่บ้านเกิด ขณะที่บางรายที่พอมีเงินทุนเหลืออยู่บ้างหันจับธุรกิจด้วยการซื้อแฟรนไชส์ จากปัญหาเหล่านี้ ทำให้ ดรุณี อุ่นศิวิไลย์ อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ  วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น จึงคิดค้นสูตร "การทำถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด" มี 3 ไส้ 5 สีที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่กำลังหางานเลี้ยงครอบครัว

ดรุณี บอกว่า กว่าจะได้สูตรถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด ที่ให้รสชาติอร่อยนั้น ใช้เวลาในการคิดค้นนานถึง 2 ปี เบื้องต้นคิดว่าจะสอนให้แก่บัณฑิตจบใหม่ และประชาชนที่สนใจการทำถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด กระทั่งในงานนัดพบแรงงาน "สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สู้ภัยเศรษฐกิจ" ซึ่งจัดขึ้นที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น เมื่อไม่นานมานี้ จึงนำมาเปิดตัวให้สาธารณชนได้ทราบกัน โดยถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด ที่ ดรุณี คิดสูตรขึ้นมานั้น จะมีความแตกต่างไปจากถั่วแปบที่มีขายตามท้องตลาดโดยทั่วไป

 "ถั่วแปบ เบญจรงค์ ถือเป็นอาหารประเภทขนมชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปที่เราพบตามท้องตลาดนั้น เวลาทำจะนวดแป้งเป็นก้อนๆ จากนั้นใช้มือกดให้แป้งแผ่กว้างเป็นแบนๆ ใส่ไส้ แล้วนำไปต้มให้สุก ก่อนจะคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูดเป็นเส้น แต่สูตรของเราจะแตกต่างจากสูตรเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง คือไม่ต้องนำแป้งไปนึ่ง แต่จะนำเครื่องทำข้าวเกรียบปากหม้อมาเป็นอุปกรณ์ในการทำขนมถั่วแปบแทน ของเรามี 3 ไส้คือ ไส้ถั่วเหลือง ไส้เผือก และไส้ถั่วแดง ส่วนมะพร้าวที่จะใช้คลุกขนมถั่วแปบนั้น เมื่อขูดเสร็จจะนำไปคั่วกับเกลือ แล้วนำมาอบเทียนอบ ซึ่งจะทำให้ขนมมีกลิ่นหอมมาก เนื้อขนมจะนุ่ม แป้งไม่แข็งตัว และน่ารับประทาน มีทั้งหมด 5 สี คือ สีเขียวใช้ใบเตย สีเหลืองใช้ลูกพุด สีม่วงครามใช้ดอกอัญชัน สีชมพูใช้ดอกเฟื่องฟ้า และสีชมพูอ่อนจะใช้ว่านกาบหอย จากที่เราใช้สีธรรมชาติทำให้บางชนิดยังให้สรรพคุณทางยาด้วย" ดรุณี กล่าว

 อาจารย์ ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ  วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น บอกอีกว่า หลังจากที่ใช้เวลาคิดค้นสูตรการทำขนมถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสดจนได้รสชาติคงที่ แล้ว และล่าสุดองค์การอาหารและยา (อย.) รับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สูตรถือเป็นของวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ซึ่งประชาชนทั่วไปจะไม่สามารถนำไปผลิตขนมถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด เพื่อจำหน่ายได้ เนื่องจากเป็นสูตรของวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น  ถือเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ความรู้และเผยแพร่ให้แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไปอยู่แล้ว

 ที่ผ่านมา ดรุณี บอกด้วยว่า ทางวิทยาลัยเราได้นำเอาหลักสูตรการทำขนมถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสดไปทำการฝึก อาชีพอยู่บ่อยครั้ง อาทิในงาน 108 อาชีพ จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาอาชีวะ (สอศ.) ที่กรุงเทพมหานคร ทั้งที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี และที่กระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งยังได้จำหน่ายให้แก่ผู้เข้าชมงานอีกด้วย นอกจากนี้ได้ไปออกฝึกอาชีพให้แก่ชาวบ้านตามชุมชนและ อบต.ต่างๆ ทุกๆ เดือนในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อให้ชาวบ้านได้นำไปต่อยอดอาชีพต่อไป
 สำหรับ การทำถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ  วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น บอกว่า ใช้เงินลงทุนครั้งเดียวไม่ถึง 2,000 บาท คือซื้อเครื่องทำข้าวเกรียบปากหม้อในราคาเพียงใบละ 990 บาท ถาดวางขนม และอุปกรณ์อื่นๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากทำขายจะได้กำไร 2-3 เท่าตัว อย่างล่าสุดหลังจากไปฝึกอาชีพที่เมืองทองธานี ลงทุนแค่ซื้อแป้งข้าวเหนียว กับถั่วและเผือกสำหรับทำไส้ เพียง 700-800 บาท แต่ขายได้ถึงวันละ 2,000-3,000 บาท ตรงนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การทำขนมถั่วแปบเบญจรงค์ สามารถยึดเป็นอาชีพได้ ที่สำคัญกำไรดีอีกด้วย

 หากใครสนใจฝึกอาชีพทำขนมถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด สามารถติดต่อไปได้ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น โทร.0-4323-6538 ต่อ 125
       
เคล็ด (ไม่) ลับที่ไม่เหมือนใคร
 สำหรับ สูตรการทำ "ขนมถั่วแปบเบญจรงค์แป้งสด" ตามแบบฉบับของวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นนั้น จะไม่นวดแป้งเหมือนกับขนมถั่วแปบทั่วไป 

แต่จะนำแป้งข้าวเหนียวปริมาณ 200 กรัม มาละลายน้ำลอยดอกมะลิขนาด 1 ถ้วยกับอีก 2 ช้อนโต๊ะ
หากต้องการ ให้มีสีสันสวยงาม น้ำที่ผสมแป้งใช้สีธรรมชาติ ที่ใช้อยู่มี 5 สีคือ คือ สีเขียวใช้ใบเตย สีเหลืองใช้ลูกพุด สีม่วงครามใช้ดอกอัญชัน สีชมพูใช้ดอกเฟื่องฟ้า และสีชมพูอ่อนจะใช้ว่านกาบหอย จากนั้นคนแป้งให้เข้ากัน แต่ทั้งนี้ปริมาณน้ำที่ใส่นั้นขึ้นอยู่กับยี่ห้อของแป้งด้วย เพราะแป้งบางตัวความแห้งและความชื้นแตกต่างกัน  แต่ให้สังเกตว่าเมื่อคนแล้ว เนื้อแป้งมีลักษณะเหมือนนมข้นหวานก็สามารถใช้ได้เลย

 ขั้นตอนต่อไป 

คือนำเครื่องทำข้าวเกรียบปากหม้อมาตั้งไฟให้ร้อน นำแป้งไปแผ่บนผ้าขาว ขนาดของแผ่นพอประมาณ ใส่ไส้ที่ทำมาอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมีอยู่ 3 ไส้ คือไส้ถั่วเหลือง ไส้เผือก และไส้ถั่วแดง ให้พับแป้งเข้าหากันลักษณะเป็นครึ่งวงกลม ก่อนจะนำไปคลุกมะพร้าวขูดที่ผ่านการคั่วกับเกลือและอบมาแล้ว ก่อนที่จะคลุกน้ำตาลและงาคั่วต่อไป

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : "มยุรี อัครบาล"

Read More...


“ถั่วแปบเบญจรงค์” ขนมไทยไอเดีย ไส้เผือก

ทุกวันนี้การค้าการขายการจะให้อยู่รอด ต้องรู้จักนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ให้ตรงความต้องการของผู้บริโภค กับขนมก็ต้องกล้าที่จะพลิกแพลงดัดแปลงสูตรเพื่อเสริมสร้างจุดขายและสร้างจุด เด่นให้สินค้ามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งการนำขนมไทยโบราณธรรมดา ๆ ที่มีคนทำขายอยู่ทั่วไปมาทำให้กลายเป็นสินค้าที่มีรสชาติและหน้าตาใหม่ สีสันสวยงาม ดึงดูดใจลูกค้าได้ดี อย่างเช่น “ถั่วแปบเบญจรงค์ไส้เผือก” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้ นี่ก็น่าพิจารณา...
                           
อานนท์ ยะมานนท์  หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี เจ้าของร้านขนมบัวลอยแฟนซี  อพยพครอบครัวมาจากจังหวัดยะลาเข้าทำกินในเมืองกรุงด้วยการค้าขายและทำธุรกิจ ส่วนตัว ทำมาหลายอย่าง จนมาจับทางถูกโดยทำขนมขายเป็นอาชีพหลัก เพราะครอบครัวคลุกคลีกับการทำขนมขายมาตั้งแต่รุ่นยายมาจนถึงยุคลูกหลาน ฝีมือของอานนท์ในการทำขนมบัวลอยแฟนซีนั้น ทั้งหอมทั้งหวานและมันกลมกล่อมกำลังดี ซึ่งเขาบอกว่า เพราะการทำขนมขายเป็นอาชีพหลักที่ใช้เลี้ยงครอบครัว ดังนั้นจึงต้องรักษาคุณภาพขนมให้มีรสชาติดี มีความสด ใหม่ ได้มาตรฐานคงเดิมไม่เปลี่ยนไปมา




“ที่สำคัญคือผมคำนึงถึงสุขภาพของลูกค้าเป็นอันดับแรก ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ชอบคิดจับโน่นมาใส่นี่ จับนี่ไปใส่โน่น เป็นคนชอบลอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาสูตรเด็ด ซึ่งกว่าจะได้ขนมแต่ละอย่างออกมาต้องลองผิดลองถูกนานพอสมควร แต่เพราะทำด้วยใจรักจึงสำเร็จ ได้สูตรขนมตัวใหม่ที่มีรูปลักษณ์น่าสนใจ  เมื่อเอามาให้ลูกค้าลองชิมดูต่างก็บอกว่าอร่อย ถามกันว่าเรียกว่าขนมอะไร ขายยังไง แล้วซื้อทันที เพียงเท่านี้ผมก็ดีใจแล้ว”

“ถั่วแปบเบญจรงค์” ก็เป็นขนมที่เกิดจากไอเดียของอานนท์ ซึ่งเขาบอกว่า นอกจากความอร่อยแล้ว ถั่วแปบเบญจรงค์ที่มี “ไส้เผือก” ด้วยนั้น ยังมีจุดเด่นตรงที่มีสีสันสวยงามจากพืชพรรณธรรมชาติที่มีประโยชน์กับสุขภาพ เช่น สีส้มจากแครอท, สีชมพูแดงจากบีทรูท, สีเหลืองจากฟักทอง, สีเขียวจากใบเตย, สีม่วงจากดอกอัญชัน

วัสดุอุปกรณ์ในการทำถั่วแปบ หลัก ๆ ก็มี เตาแก๊ส, หม้อสเตนเลสหรือหม้อหุงข้าวไฟฟ้า, กระชอน, ทัพพีกลม, กะละมังสเตนเลสหลายขนาด, กระทะทองเหลือง, เครื่องกวน, ถาดสเตนเลส, ลังถึงสำหรับนึ่ง, เล็บแมวขูดมะพร้าว, ถุงพลาสติก และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาจากในครัว

สำหรับส่วนผสมที่ใช้ในการทำขนมถั่วแปบเบญจรงค์ไส้เผือก  มี 3 ส่วนคือ... ตัวไส้ขนม ก็มี เผือก, หัวกะทิ, น้ำตาลทราย และเกลือ  ตัวแป้งห่อไส้ จะใช้ แป้งข้าวเหนียวอย่างดี, ถั่วเขียวเลาะเปลือก (ถั่วทอง), สีธรรมชาติที่คั้นจากพืช เช่น สีส้มจากแครอท สีเขียวจากใบเตย สีม่วงจากอัญชัน สีชมพูแดงจากบีทรูท สีเหลืองจากฟักทอง, มะพร้าวทึนทึก, ใบเตยแก่ ๆ  และอีกส่วนคือ ส่วนผสมน้ำตาลที่ใช้กินกับถั่วแปบ ใช้น้ำตาลทรายเกล็ดละเอียด และงาขาวคั่วใหม่ ๆ

ขั้นตอนการทำ “ถั่วแปบเบญจรงค์ไส้เผือก” เริ่มจากทำตัวไส้ นำเผือกมาปอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอเหมาะ แล้วนึ่งให้สุก จากนั้นบดหรือยีให้ละเอียด แล้วนำใส่ลงในกระทะทองเหลือง ตามด้วยน้ำตาลทราย หัวกะทิ เกลือนิดหน่อย ทำการกวนส่วนผสมด้วยไฟอ่อนถึงปานกลาง กวนไปเรื่อย ๆ จนข้นและเหนียวดี จึงยกลงเทใส่ภาชนะตั้งไว้ให้เย็น ก่อนจะปั้นเป็นก้อนกลม ๆ หรือใส่ถาดแล้วกดให้แน่น ใช้มีดตัดเป็นก้อนเล็ก ๆ ก็จะได้ไส้เผือกตามที่ต้องการ พักไว้    ต่อไปนำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาล้างจนสะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง เสร็จแล้วนำถั่วที่แช่แล้วไปนึ่งในลังถึงให้สุก ตั้งพักไว้ให้เย็น นำมะพร้าวทึนทึกมาขูดเป็นเส้น นำไปนึ่งสักครู่ เสร็จแล้วผสมถั่วกับมะพร้าว เหยาะเกลือป่นลงไปนิดหน่อย คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันทั่ว จัดเตรียมไว้ในถาด ในส่วนของส่วนผสมน้ำตาล นำงาขาวไปคั่วด้วยไฟอ่อน ๆ พอมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอม ยกลงมาคลุกผสมกับน้ำตาลทราย เตรียมไว้   ตัวแป้งห่อไส้ การทำต้องทำน้ำผสมสีธรรมชาติที่คั้นจากพืชผักเตรียมเอาไว้ก่อน คือน้ำบีทรูท, น้ำใบเตย, น้ำอัญชัน, น้ำฟักทอง และน้ำแครอท จากนั้นจึงนำแป้งข้าวเหนียวในปริมาณพอเหมาะเทใส่กะละมัง ใส่น้ำร้อนลงไปเล็กน้อยคนเคล้าพอทั่ว แล้วค่อย ๆ ใส่น้ำสีผสมธรรมชาติที่ต้องการลงไปพอสมควร ทำการนวดแป้งผสมสีให้เข้ากัน นวดไปเรื่อย ๆ  สังเกตดูลักษณะตัวแป้งว่าจับกันเป็นก้อน มีน้ำหนัก  ทั้งนุ่มและเนียนดี ก็เป็นอันใช้ได้  ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดพอหมาด ๆ คลุมปิดไว้ไม่ให้ตัวแป้งแห้ง

จัดการตั้งหม้อต้มน้ำ ขยำใบเตยพอช้ำแล้วมัดผูกกัน ใส่ลงไปในหม้อน้ำเพื่อให้มีกลิ่นหอม ระหว่างรอน้ำเดือดจัดก็หันมาปั้นแป้งแล้วแผ่เพื่อห่อไส้เผือกกวนที่เตรียม ไว้ทีละลูก วางพักไว้ในภาชนะ พอได้ปริมาณพอสมควร ค่อย ๆ หย่อนใส่ลงหม้อต้มน้ำ เมื่อตัวแป้งสุกจะลอยขึ้นมา ใช้กระชอนตักขึ้นมาทำให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำลงคลุกในถาดถั่วกับมะพร้าวที่เตรียมไว้ให้ทั่วทันที เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมรับประทานโดยโรยด้วยส่วนผสมน้ำตาลทรายคลุกงาคั่ว

การขาย ก็ตักน้ำตาลทรายคลุกงาคั่วใส่ถุงเตรียมไว้ให้พอกับตัวขนมถั่วแปบ  โดย “ถั่วแปบเบญจรงค์ไส้เผือก”  นี้ขายในราคา 7 ลูก 30 บาท  ซึ่งด้วยการเน้นคุณภาพ ความสะอาด และความเป็นธรรมชาติ ราคานี้ลูกค้าก็ไม่เกี่ยงงอน

“ถั่วแปบเบญจรงค์ไส้เผือก” ขายอยู่ที่เสรีเซ็นเตอร์ ชั้น G โซนอาหาร และที่ห้างเมก้า บางนา รวมถึงรับจัดออกบูธออกร้านตามงานต่าง ๆ ด้วย ใครต้องการติดต่ออานนท์ ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-7590-9883
          
 เชาวลี ชุมขำ รายงาน / วรัญญู เหมือนเดช ภาพ 
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : www.dailynews.co.th

Read More...


ของหวานเด่นรสกะทิที่ กะทิสด

.
.
.
.










อิ่มเอมกับสำรับอาหารคาวมาหลายสัปดาห์แล้ว แม่พลอยว่า  อาทิตย์นี้เปลี่ยนไปสัมผัสรสชาติของหวานแบบไทย ที่มีกะทิเป็นวัตถุดิบหลักในการชูรสชาติ ที่ร้าน กะทิสด ซอยแจ้งวัฒนะ 14 (ซอยบิ๊กซี )  ดูบ้างถ้าจะดีไม่น้อย

ร้านกะทิสด เป็นร้านตึกแถวอยู่ติดกับร้าน ก. เกี้ยวกุ้งในซอยแจ้งวัฒนะ 14 หาง่ายไม่ยากเย็น  ที่นี่มีขนมหวานแบบไทยถูกใจนักชิมทุกวัย ที่ชอบทานกะทิเป็นหลัก  รับรองได้ว่าไม่มีผิดหวัง เพราะใช้กะทิสด คั้นสดใหม่ทุกวันเพื่อทำเป็นของหวานแบบไทย ๆ
ทุกรูปแบบ

เริ่มต้นแนะนำ ทับทิมกรอบแฟนซี กะทิสีขาวตัดกับสีสดของทับทิมกรอบออกแดง เผือก มัน ผลแห้วหรือสมหวัง และ มะพร้าวกะทิ เย็นฉ่ำด้วยน้ำแข็งเกล็ด เสิร์ฟแล้วรีบทาน เดี๋ยวน้ำแข็งละลายแล้วส่งผลให้สัดส่วนของน้ำกะทิที่เข้มข้น หอม มัน ถูกเจือจางไปหมด  แม่พลอยชอบตัวทับทิมกรอบ แป้งนุ่ม ซ่อนความกรอบของแห้วไว้ด้านใน  มะพร้าวกะทิชิ้นหนา ฟู  นุ่มหนึบ หวาน มัน  เคี้ยวเพลิน ถ้าชอบ  ซาหริ่ม  ไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะตัวแป้งสีเขียว ชมพู และ ขาว นิ่มเนียนลิ้น เข้ากับความหอมมันของน้ำกะทิสด

ไอศกรีมกะทิสดในลูกมะพร้าว เสิร์ฟไอศกรีมกะทิหนึ่งลูกมาในลูกมะพร้าว โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว แรกทีเดียวนึกว่า เป็นเพียงการตกแต่งให้ดูเก๋เท่านั้น  ที่ไหนได้  ของหวานเมนูนี้ทานได้หมดทุกอย่าง ตั้งแต่เนื้อไอศกรีมที่เย็นหอม มัน เข้มข้นกะทิ  ไม่หวานโดด ทานไปพร้อมกับมะพร้าวอ่อนที่อยู่ข้างใต้ โดยไม่ต้องออกแรงขูดเอง  แถมด้วยถั่วลิสงให้เคี้ยวกรุบกรอบโรยมาเป็นท็อปปิ้งแบบไทย

ถ้ายังติดใจในรสชาติเนื้อมะพร้าวอ่อนแสนนุ่ม กับทับทิมกรอบและคิดจะทานทั้งสองอย่างด้วยกัน แนะนำ ทับทิมกรอบในลูกมะพร้าว มีทั้ง  ทับทิมกรอบ มะพร้าวกะทิ เนื้อมะพร้าวอ่อน และ ผลแห้ว กับน้ำกะทิสด เย็นสดชื่น ถ้าชอบมะพร้าวกะทิ เนื้อหนานุ่มกับน้ำกะทิสด เย็น ๆ มีบริการความอร่อยด้วยเมนูของหวาน มะพร้าวกะทิ รับรองจะได้หนำใจกับการได้เคี้ยวมะพร้าวกะทิเนื้อนุ่มหนึบ เต็มอารมณ์แน่นอน สาคูแคนตาลูปมีทั้งแบบธรรมดา และ สาคูแคนตาลูปในลูกมะพร้าว  ชอบทานแบบไหน เลือกได้ตามใจ

ร้านกะทิสด ยังมีเมนูของหวานที่ไม่เกี่ยวกับกะทิ แต่เกี่ยวกับน้ำตาลหวานที่นำมาเป็นส่วนผสมปรุงรสชาติของหวานประเภทเชื่อม ที่อยู่ในแพ็กเกจพลาสติกใส ดูทันสมัย สอดส่ายสายตามองหาของหาทานยาก เจอ จาวตาลเชื่อม อยากแนะนำ รสชาติไม่หวานมาก ความเด่นอยู่เนื้อจาวตาล  นุ่มหนึบ ซึมแทรกน้ำเชื่อมไปทุกอณู นอกจากนี้ยังมี พุทราจีนเชื่อม และ สาเกเชื่อม เด่นรสตรงความมันของสาเกและรสชาติของน้ำเชื่อมที่ไม่หวานจนต้องวางช้อน
   
ถ้าชอบแบบสุขภาพหน่อยแนะนำ มะตูมเชื่อม  รากบัวเชื่อม  มีความกรอบของรากบัวเจือกับน้ำเชื่อมได้ความหวานในแบบพอดี
   
ร้านกะทิสด เป็นพื้นที่ขายของหวาน อีกหลายเมนู  มี ขนมหม้อแกง  ลูกชุป  ทองเอก  เสน่ห์จันทร์  หม้อแกงถั่ว หม้อแกงไข่ และหม้อแกงเผือก ของหวานทุกประเภท ไม่มีเน้นหวานมาก  สนใจอยากลิ้มรสของหวานแบบไทย ๆ ในรสมือ ร้านกะทิสด  ซอยแจ้งวัฒนะ 14 (ซอยบิ๊กซี)  สอบถามรายละเอียดได้ที่  0-2573-6071-2 และ 08-6620-4953.
เรื่อง แม่พลอย / ภาพ สุพัตรา เมตะศิริ

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : http://www.dailynews.co.th/

Read More...


'ครัวลุงญา' เด่นรส ซีฟู้ด สดรสเฉพาะ

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 



สัปดาห์นี้ แม่พลอยพาออกนอกเมืองกรุง ใช้เส้นทางพระราม 2 มุ่งหน้าไปสัมผัสอาหารซีฟู้ดรสดี ที่ร้าน ครัวลุงญา ตรงกันข้ามศาลพันท้ายนรสิงห์  จังหวัดสมุทรสาคร

ร้านนี้ทำเลดีจริง ดูโล่งโปร่ง สบายตา ด้วยบรรยากาศของวังกุ้งและธรรมชาติของป่าโกงกาง ที่สำคัญสุด  ก่อนไปนั่งทานอาหาร แบ่งปันเวลาแวะสักการะศาลพันท้ายนรสิงห์ ตั้งตรงกันข้ามร้านจะช่วยให้พลังใจและความสุขใจ บังเกิดขึ้นและรู้สึกเป็นสิริมงคลยิ่ง

สำหรับเมนูอาหารน่าสนใจ แม่พลอยแนะนำ เมี่ยงปลากะพงต้นตำรับ เมนูดั้งเดิมเมื่อครั้งเริ่มต้นเปิดร้าน ปลากะพงสดทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดน้ำที่ปรุงจากมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ไม่ใส่กะปิ ไม่ใส่มะพร้าวคั่ว ปรุงตามสูตรเฉพาะครัวลุงญา รสชาติออกหวาน เปรี้ยว เค็ม ซึมแทรกเนื้อปลากะพงแน่นสด ทานคู่กับใบชะพลู เคี้ยวเพลินรสไปเลย

ยำชะคราม ผักพื้นถิ่น ที่ต้องผ่านกรรมวิธีอย่างดี ในการขจัดความเค็มความฝาดเฝื่อนให้เจือจางลง นำมายำใส่กุ้งทะเลสด หมูสับ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด พริกทอด หอมทอด เคียงด้วยไข่ต้มผ่าซีก ราดด้วยน้ำยำที่มีส่วนผสมของ กะทิมะนาว  รสชาติเค็ม เปรี้ยว หวาน เผ็ดนิด ๆ ถ้าชอบลองผักพื้นบ้านที่หาทานยากในเมนูยำแบบนี้ ต้องลอง

ถ้าชอบเมนูปรุงแบบแซบ จัดจ้าน เข้มข้น แนะนำ ปูเนื้อผัดพริกขี้หนู เนื้อปูสด แน่น ปรุงรสชาติออกเผ็ดเข้มข้น ปลาเก๋าราดพริกขี้หนู รสชาติออกเข้มข้นคล้ายกัน  และถูกใจตรงที่ปลาเก๋าสดเนื้อแน่นนุ่มเนียนลิ้น ส่วนใครชอบทาน กุ้งแม่น้ำ แนะนำ กุ้งแม่น้ำย่าง เนื้อแน่น ๆ เข้ารสชาติกับน้ำจิ้มซีฟู้ด
    
เมนูหลนและน้ำพริก ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ แม่พลอยแนะนำ น้ำพริกปูไข่ เคียงด้วยผักสด ชะครามลวกราดหน้าด้วยกะทิ ขิงอ่อน แตงกวา  ความอร่อยแท้ ๆ คือ เนื้อปู และไข่ปูที่นุ่ม เคี้ยวหนึบหนับ ออกมัน ๆเคล้ารสชาติเผ็ดลงตัว ส่วน หลนสามทะเล ที่ใช้กุ้งทะเล ปูและปลากะพง มาทำเป็นหลนรสชาติกลมกล่อม ลดอาหารรสชาติเข้มข้นจัดจ้านลงมาเป็นอาหารรสชาติกลาง ๆ ไม่เผ็ดเป็น ผัดหมี่ลุงญา เส้นหมี่เหนียวนุ่มเพิ่มความอร่อยด้วย กุ้งทะเล และเนื้อปูสีขาว หลายคนถูกใจจานนี้

เมนูอาหารทะเลสด รสชาติดีของครัวลุงญามีหลากหลายเมนูละลานตาไปหมด แต่ละอย่างมีรสชาติแตกต่างกันไป สนใจลองไปสัมผัสมิติความอร่อยด้วยตัวเอง ร้านเปิดบริการเวลา 10.00–22.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่  08-9912-4267 และ 08-1309-6992
   
หากยังไม่มีโอกาสเดินทางไป  แม่พลอยขอแจ้งให้ทราบว่า เมนูเด็ดเด่นของครัวลุงญา จะนำมาปรุงให้นักชิมเมืองกรุงลิ้มรสกันในงาน เดอะ มอลล์ ซีฟู้ด บาร์ บี กริลล์ ระหว่าง 22 มี.ค.–4 เม.ย. 2555 ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค ใครมีเวลาแวะไปได้.
เรื่อง / แม่พลอย ภาพ / สุพัตรา เมตตะศิริ

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : http://www.dailynews.co.th/

Read More...


ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เด่นรสน้ำซุปและเนื้อ

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 
 
 
 


ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ไม่มีชื่อ แต่มีป้ายชื่อระบุว่า เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ชัดเจน  ในซอยวัดบางขวาง หลังโรงเรียนรัตนาธิเบศร์  ย่านตลาดท่าน้ำนนท์  เป็นร้านเล็ก ๆ ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นมานาน มีนักชิมชื่นชมและแวะเวียนมาอุดหนุนสม่ำ เสมอ

ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ร้านนี้มี  พี่เดือน หรือเจ๊เดือน เป็นมือลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวและปรุงอยู่หน้าร้านเป็นหลัก และมีญาติมิตรเป็นทีมช่วยเสิร์ฟ ช่วยรับออร์เดอร์เพียงไม่กี่คน บรรยากาศร้านเป็นตึกแถวเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน

เจ๊เดือน บอกว่า  เพิ่งมาเริ่มต้นตั้งหลักเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ได้ไม่กี่เดือน หลังหยุดไปประมาณ 20  ปี ถึงจะหยุดบริการไปนาน  แต่ด้วยประสบการณ์และความชำนาญในการปรุงก๋วยเตี๋ยวเนื้อเป็นทุนเดิม เจ๊เดือนจึงนำสูตรอันเป็นเคล็ดลับการปรุงรสก๋วยเตี๋ยวเนื้อของพ่อสามีมาปรุง แบบไม่ขาดตกบกพร่อง

แม่พลอยชอบบรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวแบบธรรมดาแบบนี้ มีเมนูติดตรงผนังร้านมองเห็นชัดเจน บอกรายละเอียดเมนูชัดเจน มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นทั้งธรรมดา และ พิเศษ เกาเหลาเนื้อตุ๋น ลวกจิ้ม ข้าวเปล่าและ หมูย่างตะไคร้ ที่แบ่งขายเป็นเนื้อหมูเฉพาะและ ข้าวหมูย่างตะไคร้  เป็นหนึ่งทางเลือกให้คนไม่ทานเนื้อเลือกทานได้

เข้ามานั่งทานร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อแบบเต็มตัว แม่พลอยไม่อยากพลาดเมนูเนื้อเด็ด ๆ ราคาสบายกระเป๋า ขอลองสั่งแบบจัดเต็ม เริ่มที่เมนู เกาเหลา มีทั้ง ม้าม ลูกชิ้นเนื้อ ตับ เนื้อสดนุ่ม  ไส้ ขอบด้ง เนื้อเปื่อย เอ็นและ  เนื้อน่องลาย ทานไปพร้อมข้าวเปล่า  รสเด่นอยู่ที่น้ำซุปกลมกล่อมพอดี ไม่ต้องปรุงเพิ่มยังได้  น้ำซุปรสดีปรุงมาจากกระดูก เครื่องเทศ ป๋วยกั๊ก อบเชย กระเทียม พริกไทย รากผักชี เคี่ยวเป็นน้ำซุปนานถึงสามชั่วโมง

ลวกจิ้ม มีม้าม ลูกชิ้น เนื้อน่องลาย ไส้ ขอบกระด้ง ลวกสุกทานได้หมด  ทุกอย่างผ่านกรรมวิธีล้างจนสะอาด ไร้กลิ่นสาบ แถมน้ำจิ้มแบบแจ่ว รสกำลังดี ถ้านึกอยากทานลวกจิ้มแบบพิเศษที่เจ๊เดือนยืนยันว่า ใครมาก็ต้องสั่ง เพราะติดใจในรสชาติความหนึบหนับความนุ่มของเนื้อส่วนนี้ เรียกว่า สามชั้น มีความหนึบนุ่ม ออกมัน ไม่มีเลี่ยน รสชาติดีอย่างที่เขาว่าจริง

เมนู ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น มีเส้นให้เลือกทั้ง เส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นบะหมี่ แม่พลอยลองเส้นหมี่ทุกอย่าง และ เส้นบะหมี่เนื้อน่องลาย ติดใจเนื้อน่องลายที่ออกนุ่มเนียนลิ้นเข้ากับน้ำซุปสุดกลมกล่อม

หมูย่างตะไคร้ สั่งเฉพาะเนื้อหมูย่างตะไคร้มาลิ้มรส ติดใจที่เนื้อหมูตรงสันคอที่ผ่านการหมักเครื่องปรุงนมสด กระเทียม พริกไทย รากผักชี  จนมีความนุ่มหอมออกรสชาติหวาน ทานกับน้ำจิ้มที่ปรุงรสมาจากมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ตะไคร้ กระเทียมและ พริกแห้งคั่วรวมกันแล้วบด ทำเป็นน้ำจิ้ม รสชาติออกเปรี้ยวหวานหอม  ถ้าอยากทานพร้อมกับข้าวมี ข้าวหมูย่างตะไคร้ ขายเป็นชุด

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มโอเลี้ยง ชาดำเย็น น้ำเก๊กฮวย น้ำลำไย กระเจี๊ยบ เย็น ๆ ชื่นใจอย่างมาก ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา  08.00–
16.00 น. สนใจสอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. 08-1917-6098.
เรื่อง  /  แม่พลอย :  ภาพ/วรพรรณ เลอสิทธิ์ศักดิ์
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : http://www.dailynews.co.th/

Read More...


“ฝ้ายซอคำ” เด่นรสอาหารเหนือ

.
.
.
.
 
 
 
 
 

หลบอุณหภูมิร้อนแรงของแสงพระอาทิตย์มาพึ่งความเย็นของเครื่องทำความเย็น ในห้างสรรพสินค้ากลางใจเมืองอีกหนแล้ว อย่าเพิ่งต่อว่าต่อขานว่า ทำไมแม่พลอยชอบหลบลี้เข้าเมืองนัก บอกตามตรงว่า ปีนี้อากาศร้อนมาก แม่พลอยเลยต้องหาทางออกด้วยการหาร้านอาหารสวย ๆ มีแอร์เย็นฉ่ำ ลดอาการเหงื่อตก เพราะฤทธิ์รัศมีความร้อนของพระอาทิตย์ดูบ้าง และสัปดาห์นี้มาแวะที่ร้าน  “ฝ้ายซอคำ” ( FAI SOR KAM) โซนสยามพารากอน ฟู้ด พาสสาจ ออนโฟร์ท ชั้น 4 สยามพารากอน

ร้านฝ้ายซอคำมีเมนูอาหารเหนือแบบต้นตำรับ  และฟิวชั่นอาหารภาคกลาง อาหารอีสาน อาหารไทยและยุโรปแบบประยุกต์ ให้เลือกสรร ภายใต้บรรยากาศร้านตกแต่งแบบล้านนาได้สวยสะดุดตา ผู้คนที่เดินผ่านไป ผ่านมา ด้วยตุงและรูปปั้นนรสิงห์ขนาดใหญ่เด่นเตะตาหน้าร้านสองตัว

แม่พลอยเริ่มต้นแนะนำอาหารเรียกน้ำย่อยเป็น เปาะเปี๊ยะขลุ่ยไส้อั่ว เสิร์ฟในแก้วใสใบเล็ก ที่มีน้ำจิ้มบ๊วยใส่ไว้เพื่อความเก๋และทานได้สะดวก  แป้งเปาะเปี๊ยะออกกรอบ กัดทะลุโดนเนื้อไส้อั่วได้รสชาติลงตัว  ขันโตกฝ้ายซอคำ ขันโตกขนาดกลาง พร้อมสรรพด้วยน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง  ไส้อั่ว แคบหมู หมูยอ ผักสด และฟักทองต้มสั่งมาที่เดียว แบ่งปันกันทานได้ระหว่างเพื่อนร่วมโต๊ะ แคบหมูติดมันทานกับน้ำพริกหนุ่มรสชาติเผ็ดพอดี หรือทานน้ำพริกอ่องกับผักสด หรือทานไส้อั่วเปล่า ๆ มีหลายคนบอกว่า คุ้มค่า ส่วน ลาบเหนือ เป็นลาบหมูคั่ว หอมกรุ่นเครื่องเทศ ถ้าชอบแนะนำสั่งข้าวเหนียวมาทานพร้อมกัน

แกงฮังเล  ถ้าใครชอบทานร้านนี้แกงฮังเลมีรสชาติเข้มข้นถึงเครื่องปรุงเครื่องแกง มีหมูสามชั้นนุ่มหอมและหมูสันในตุ๋นซ่อนเป็นรสเด่นชวนทาน หากยังต้องมนต์อาหารเหนือมิรู้ลืม แม่พลอยแนะนำ ขนมจีนน้ำเงี้ยว รสชาติกลมกล่อมปรุงตามต้นตำรับ โดยเฉพาะการใช้ดอกงิ้วมาเป็นหนึ่งในเครื่องปรุง แถมมีเครื่องเคียงเป็นถั่วงอกและผักกาดดอง  ส่วนน้ำแกงเข้มข้นมีทุกรส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ผสมรวมกัน   ถ้าชอบ ข้าวซอยไก่ หอมมันหวานกลมกล่อม ทานไปพร้อมหอมดอง หรือผักกาดดอง รับรองจะติดใจ

อาหารฉบับภาคกลางแนะนำ ก้ามปูฝ้ายซอคำ  เมนูนี้ใช้เนื้อปูบดมาปั้นติดกับก้ามปูทำคล้ายทอดมัน ทานกับน้ำจิ้มบ๊วยที่ทำมาจากบ๊วยสด รสชาติดี  ส่วน แกงเขียวหวานไก่ม้วน มียอดมะพร้าว และไก่เนื้อนุ่ม รวมถึงน้ำแกงที่ใช้กะทิสดปรุงรส เป็นตัวชูรสให้เด่นโดนลิ้น
  
รายการอาหารในร้านฝ้ายซอคำยังมีให้เลือกอีกมากมาย ทั้ง ต้มโคล้ง ส้มตำ สปาเกตตี แม้กระทั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ มีแนะนำ โคโค่นัท บานาน่า สมูทตี้ ฝ้าย
ซอคำเฮิร์บเซนซั่ม เย็นสดชื่น อวลกรุ่นกลิ่นและรสชาติสมุนไพร ที่รอสัมผัสความเย็นสดชื่นด้วยตัวเอง

ร้านฝ้ายซอคำเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00–22.00 น. สนใจลองแวะเวียนไปลิ้มรสและรื่นรมย์กับบรรยากาศกันได้ หรือสนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2610-9717.
เรื่อง แม่พลอย / ภาพ วรพรรณ เลอสิทธิ์ศักดิ์

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : http://www.dailynews.co.th/

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.