สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

เปิด2หลักสูตรใหม่รับปีกระต่าย


Read More...


เปิดบ้านขาย"กาแฟ-ชาใบเตย" เสริมอาชีพหลัก-ลูกค้าหนุนแน่น

คมชัดลึก :ช่วง เวลากว่า 30 ปีที่ยึดค้าขาย "ป้าพุก" กองทอง นพคุณ ผ่านมาหลายอาชีพ ทั้งขายกล้วยทอด ข้าวแกง อาหารตามสั่ง บริการซักรีด ขณะที่อาชีพหลักของครอบครัวคือรับเหมาก่อสร้าง แต่ด้วยพื้นที่หน้าบ้านยังพอมีเหลือ เธอจึงเปิดเป็นร้านชำเล็กๆ ขายจิปาถะ พร้อม "กาแฟโบราณ" ควบคู่สร้างรายได้เสริมเรื่อยมา ล่าสุดนำความรู้ที่ได้จาก "คม ชัด ลึก" ฝึกอาชีพ ปรับใช้กับเมนูเดิม และต่อยอดเป็นเครื่องดื่มใหม่ "ชาใบเตย" ส่งให้กิจการในหมู่บ้านเทพประทานพร ถ.แม้นรำลึก อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอยู่แล้วมีลูกค้าเพิ่มขึ้น จากที่ยึดอาชีพแม่ค้ามา ตลอด ป้าพุก บอกว่า จึงทำให้รู้วิธีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันได้ใช้ประสบการณ์ด้านค้าขายนี้ช่วยสามีรับเหมางานก่อสร้างควบคู่ ด้วย โดยทำหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายเหมือนฝ่ายการเงินของบริษัท ทำให้เข้าใจคนหาเช้ากินค่ำและคนมีรายได้น้อย



 "สิ่งสำคัญคือต้องเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ตั้งราคาสินค้าสูงเกินจริง ไม่เอาเปรียบลูกค้า แรกเริ่มที่ขายของใหม่ๆ จะมีลูกค้ามาชื้อและขอลงบัญชีเอาไว้จ่ายสิ้นเดือน เราในฐานะแม่ค้าต้องเห็นใจคนที่ไม่มี อย่างน้อยก็ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และความที่เราเข้าใจเขานั้นส่งผลให้ลูกค้ามีความเกรงใจไม่กล้าเบี้ยว" ป้าพุกอธิบายถึงหลักการเปิดร้านขายของชำเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ก่อนเจียดหน้าร้านขายกาแฟโบราณช่วงถัดมา

  เหตุผลที่ขายกาแฟเสริม นั้น ป้าพุกบอกว่า เพราะมีลูกค้าสูงอายุมาอ่านหนังสือพิมพ์ที่ร้านในช่วงเช้าเยอะ และมีหลายคนแนะให้ขายกาแฟ จึงทดลองทำโดยอาศัยเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทั้งอ่านจากตำรา สอบถามจากผู้มีประสบการณ์ จากนั้นจึงทำขาย ปรากฏว่าขายดีมาก มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมๆ แล้วก็ยังมีลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วยในปัจจุบัน อย่างยิ่งหลังเข้าร่วมฝึกอาชีพกับ "คม ชัด ลึก" เมนู "เทคนิคการชงกาแฟโบราณ" โดยคุณวิธาน ศิริเบญจวรรณ เจ้าของร้านวาสนาน้ำโบราณย่านตลิ่งชัน กทม.เมื่อเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา

 "เรานำสิ่งที่ได้รับจากการอบรมหนนั้นมาปรับใช้กับที่ร้านด้วย ซึ่งนอกจากรสชาติกาแฟจะอร่อยถูกใจประเภทสั่งได้แล้ว การให้บริการที่ดีเราก็ทำควบคู่ด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดขาย บวกกับขายไม่แพงด้วยเพียงแก้วละ 6 บาท ซึ่งเราขยับราคาขึ้นอีก 1 บาท หลังขายแก้วละ 5 บาทมานานหลายปีไม่เปลี่ยน เพราะราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคา ยังขายดีมากอยู่เหมือนเดิม" ป้าพุก บอกและว่าปัจจุบันได้นำความรู้จากการอบรมหนนั้นมาทำชาใบเตยขายอีกชนิด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีพอๆ กับกาแฟโบราณ

 ป้าพุกบอกอีกว่า จะได้รับคำชมจากลูกค้าตลอดว่าเป็นชาที่หอมอร่อย สามารถรับประทานกับปาท่องโก๋ได้อย่างลงตัวเช่นเดียวกับกาแฟ ซึ่งเฉพาะปาท่องโก๋นั้นจะขายไม่ต่ำกว่าวันละ 100 ตัว

 "ไม่ว่าจะทำอะไรหากเราทำด้วยใจรัก ทำแล้วมีความสุข แม้ว่าเงินหรือค่าตอบแทนจะไม่มาก แต่เราก็อยู่ได้อย่างมีความสุข" นั่นเป็นคติประจำใจของป้าพุก ซึ่งเธอยอมรับว่า ด้วยเพราะยึดอาชีพค้าขายนี้ทำให้เธอมีรายได้ส่งเสียให้ลูกๆ ได้ร่ำเรียนจนจบปริญญากันทุกคน อย่างยิ่งการเปิดหน้าร้านขายกาแฟโบราณ-ชาใบเตย ที่มีลูกค้าอุดหนุนอย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้นในทุกวันนี้

 สำหรับผู้กำลังมองหางาน หรือต้องการมีอาชีพเสริม ทางโครงการ "คม ชัด ลึก ฝึกอาชีพ" มีแผนจะเปิดอบรมหลักสูตร "เทคนิคการชงกาแฟโบราณ" นี้อีกครั้งเมื่อไหร่นั้น สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2338-3356 และ 0-2338-3357
       
"ธานี กุลแพทย์"

Read More...


หมูผัดเคยเค็ม

Pic_142546

ไปภูเก็ตทั้งที ไม่หาเวลาไปลองลิ้มชิมรสชาติอาหารปุ้นเต๋ ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่นภูเก็ตเลย คงเสียเที่ยวแย่ และถ้าจะให้ดีควรหาคนพื้นถิ่นพาไป จะได้ชิมอาหารปุ้นเต๋ รสชาติดั้งเดิมแบบภูเก็ตแท้ๆ จะยิ่งมีความสุขมากแถมไม่เสียพื้นที่ในกระเพาะและความรู้สึกที่อยากจะชิม อาหารอร่อยของภูเก็ตอีกด้วย เหมือนที่ได้ไปในคณะของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ลูกน้องเก่า (ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต) พาไปชิมที่ร้านครัวนิยม ของ คุณนิยม และ คุณคมขำ ธนาวุฒิกุล ร้านนี้จะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนพื้นถิ่นภูเก็ต ขณะที่ชาวไฮโซเมืองกรุงมักจะเฮละโลกันไปที่ร้านระย้า


คุณแอ๋ว-คมขำ พูดอย่างถ่อมตัวว่า เธอเป็นลูกจ้างของสามี รับหน้าที่ทั้งจ่ายตลาด แม่ครัวอยู่หน้าเตา บางครั้งก็ต้องเป็นเด็กเสิร์ฟ และล้างจานด้วย เพราะที่ร้านทำกันอยู่ 3 คนพ่อแม่ลูก โดยลูกชายเพิ่งจะลาออกจากแบงก์มาช่วย ด้วยความที่คุณแอ๋วมีฝีมือในการทำอาหาร โดยเป็นลูกมือให้อาม่า (ยาย) มาตั้งแต่เด็กๆ และได้รับการติวเข้มการทำอาหารจากอาม่า ถ้าทำออกมาไม่ดี ก็จะต้องทำใหม่ จึงทำให้ฝีมือคุณแอ๋วเข้าขั้นเทพแล้ว เห็นได้จากคุณแอ๋วได้รับการติดต่อให้ทำอาหารปุ้นเต๋ไปจัดแสดงในงานต่างๆเสมอ


ร้านอาหารครัวนิยมของคุณแอ๋ว เปิดมานาน 20 ปีได้แล้ว ตั้งแต่ถนนรัษฎานุสรณ์ยังเป็นป่าอยู่เลย และจะมีโต๊ะนั่งแค่ 3-4 โต๊ะ แถมเปิดขายเพียงวันละ 2.5-3 ชั่วโมง แค่นี้คุณแอ๋วก็บอกว่าพอกินแล้วค่ะ ใครมีโอกาสแวะไปภูเก็ตลองโทร.หาคุณแอ๋วที่โทร.  0-7622-3485


สำหรับอาหารปุ้นเต๋ที่อยากแนะนำวันนี้ คือ หมูผัดเคยเค็ม ซึ่งใช้เนื้อหมูตรงส่วนที่เรียกว่า เอี่ยมต้อ อยู่ใต้อกตรงราวนม เนื้อส่วนนี้จะนุ่มและติดมันนิดๆ หมูตัวหนึ่งจะมี "เอี่ยมต้อ" แค่ชิ้นเล็กๆเท่านั้น คุณแอ๋วนำมาผัดกับ "เคย" ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลตัวเล็กจิ๋วคล้ายกุ้ง มีมากแถบชายทะเลภาคใต้ นิยมนำมาหมักทำเป็นกะปิ มีกลิ่นหอมไม่คาว แต่ "เคย" ที่คุณแอ๋วนำมาใช้ จะหมักสดๆไม่ตากแห้งจนเป็นกะปิ

เครื่องปรุง : หมูเอี่ยมต้อ/เคย/ หอมแดงซอย/พริกขี้หนู ...วิธีทำ หั่นเนื้อหมู (เอี่ยมต้อ) เป็นชิ้นบางๆ ลงไปผัดในกระทะใส่น้ำมันนิดหน่อย คั่วไปมาจนเนื้อหมูสุก จึงใส่เคย พริกขี้หนูตำหยาบๆ และหอมแดงซอย ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย ทานกับข้าวสวยร้อนๆก็อร่อยแล้ว.

Read More...


กุ้งเผา 'มัน' เยอะมาก!! ประเสริฐโภชนา กุ้งดี ปลาดี มีฝีมือ

Pic_143326

ก้ามกุ้งผัดถั่วลันเตาหวาน

พลพรรคนักหมํ่า กุ้งเตรียมตังค์ ในกระเป๋าให้พร้อมทำท้องให้ว่าง   วันนี้เจ๊แซบจะพาไปหมํ่ากุ้งแม่น้ำที่ร้าน "ประเสริฐโภชนา" ณ ปทุมธานี ร้านเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ  "คุณพี่นอมและเฮียอำนาจ"  สองสามีภรรยา  ทำหน้าที่ดูแลตั้งแต่หน้าร้านยันหลังครัว  ซื้อของเอง  คัดของเอง  ทำอาหารเองทุกจาน  ไม่ปล่อยให้หลุดรอดสายตา  มากี่ครั้ง หม่ำกี่ที  รสชาติดี  ไม่มีเปลี่ยน!

"ตอนแรกเตี่ยกับแม่ขายอยู่ก่อน ขายที่คลองบางโพใต้ แล้วก็ย้ายมาอยู่คลองบางหลวง ตอนย้ายมาร้านที่ 2 พี่ก็เริ่มรับช่วงทำต่อแล้ว เตี่ยกับแม่ก็เริ่มวางมือ พี่มาปรับทำตามแบบของพี่ แต่ก็ยังยึดสูตรของเตี่ยกับแม่ไว้เหมือนเดิม   จะมีบางเมนูที่เริ่มคิดขึ้นมาใหม่  พี่ขายอยู่ร้านที่สองสักระยะนึง  ก็คิดว่าน่าจะทำร้านในที่ทางของเรามากกว่า เพราะทั้งสองร้านที่ผ่านมาเราเช่าเค้า  ทำในที่ของเรามันจะได้เป็นของเราจริงๆซักที เราก็เลยย้ายมาอีกทีนึง  เป็นครั้งที่  3  มาอยู่

ที่ร้านปัจจุบันนี้แหละ  แล้วก็ตกแต่งร้านให้มันดีๆหน่อย นั่งสบายๆ แต่ใช้ชื่อประเสริฐโภชนาเหมือนเดิม เพราะเราใช้มาตั้งแต่สมัยเตี่ย เราก็ใช้ต่อไป 30 กว่าปีไม่เคยเปลี่ยน" ทุกวันนี้คุณพี่นอมรับหน้าที่เป็นแม่ครัวตัวหลัก ผลิตอาหารจานผัด ทอด และต้ม ด้วยตัวเอง บรรเลงอยู่หน้าเตา ตั้งแต่เช้ายันค่ำ และยังมุ่งมั่นที่ทำต่อไปไม่เคยคิดจะวางมือ


กุ้งแม่นํ้าสด..สดนํ้าจิ้มรสแซบ
กุ้งแม่นํ้าสด..สดนํ้าจิ้มรสแซบ

ร้านประเสริฐโภชนาจัดเป็นร้านขึ้นชื่อลือชาในเขตปทุมธานี   มีแฟนคลับจากทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะนักหม่ำกุ้งตัวยงที่แวะเวียนมาโซ้ยไม่ขาดสาย ขนาดย้ายร้านเข้ามาในซอกในซอย ลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ยังดั้นด้นตามมาโซ้ยอย่างต่อเนื่อง

เมนูภาค บังคับเมนูแรกที่เจ๊แซบภูมิใจนำเสนออย่างแรง  คือ  "กุ้งแม่น้ำเผา"   ตัวใหญ่   มันฉ่ำ   สะใจ   กุ้งเผาร้านนี้เน้นความสดและใหญ่   ถ้าน้ำหนักไม่ผ่านอย่าหวังว่าจะโดนเผา

สำหรับขาโซ้ยที่นิยมของใหญ่ ยิ่งใหญ่ ยิ่งมัน (หุหุ) เฮียมีกุ้งตัวละ 5 ขีดกว่าไว้ให้บริการ รองลงมาเฉลี่ยตัวละ 3-4 ขีด เจ๊แซบแนะนำให้สอบถามราคาก่อนสั่ง   จะได้ไม่ต้องลุ้นตอนจ่ายตังค์


เฮียอำนาจกับพี่นอม
เฮียอำนาจกับพี่นอม

กุ้งทุกตัวก่อนโดนเผาต้องนำมาเลาะขา และทำความสะอาดให้เรียบร้อย  จากนั้นก็ผ่าครึ่ง  ดึงของเสียที่อยู่ในหัวกุ้งออก  เลาะเส้นกลางตัวทิ้ง  แล้วจึงนำไปเผาบนเตาถ่าน  ไฟที่ใช้ย่างกุ้งต้องร้อนระอุเต็มที่   และร้อนเสมอกันทั้งเตา เฮียอำนาจจะบรรจงวางกุ้งที่สะอาดเอี่ยมไว้ตะแกรง  แล้วใช้ฝาชีครอบให้ความร้อนอบอวลอยู่ด้านใน หมั่นเปิดดูทุกๆ 4-5 นาที   จนตัวกุ้งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว   มันกุ้งเริ่มแห้งเป็นอันหม่ำได้   เนื้อจะไม่แห้งแข็งเกินไป   กำลังเหนียวๆ นุ่มๆ เคี้ยวหนุบหนับ หอมกลิ่นถ่านจางๆเป็นการเพิ่มอรรถรสในการโซ้ย

นอกจากกุ้งจะแจ๋วแล้ว  "น้ำจิ้ม"  ที่นี่ยังจี๊ดจ๊าดเด็ดขาด คุณพี่นอมยอมทุ่มทุน  ทุ่มเท  โดยเฉพาะมะนาวจะเลือกเฉพาะมะนาวสีเขียว   ทรงแป้น   แพงเท่าไหร่ก็ยอมเพื่อความหอมสะใจ  หม่ำกับเนื้อกุ้งหวานๆ  อร่อยเลิศประเสริฐสมชื่อร้าน  (ฮา)



สาวกน้องกุ้งถ้าหม่ำกุ้งเผาแล้วยังไม่สะใจ เจ๊แซบแนะนำ 2 เมนูสำรอง "ก้ามกุ้งผัดถั่วลันเตาหวาน" คุณพี่นอมใช้เนื้อก้ามกุ้งที่แกะออกเป็นก้อนสวยงาม   ผัดกับถั่วลันเตาหวานที่ผ่านการลวกร้อนน็อกเย็นจนเนื้อกรุบกรอบ ผัดน้ำขลุกขลิก   รสชาติกลมกล่อม  นอกจากถั่วลันเตาหวานทางร้านยังมี "ก้ามกุ้งผัดตำลึง"  ไว้เป็นทางเลือก  จะหม่ำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหม่ำทั้งสองก็ได้ไม่ว่ากัน

แถมอีกนิด กับ "แสร้งว่ากุ้ง" ชื่อเก๋ไก๋รสชาติจัดจ้าน  เป็นเนื้อกุ้งลวกร้อนอย่างเร็วแล้วรีบน็อกด้วยน้ำเย็น   เพื่อรักษาความหวานไว้ให้มากที่สุด นำมายำและโรยด้วยหอมเจียว  ทั้งหอมทั้งกรอบถึงใจไม่อมน้ำมัน  เพราะคุณพี่นอมทอดแล้วอบไล่น้ำมันอีกครั้ง  เพื่อเพิ่มความกรอบให้ถึงขีดสุด หม่ำได้ หม่ำดีไม่มีเลี่ยน



แนะนำเมนูน้องกุ้งกันไปแล้ว  เจ๊แซบขอปันใจมาให้เมนูน้องปลาหาทานยาก  แต่อร่อยมากจนยากจะลืม   "ปลาม้าราดเต้าเจี้ยว"  เมนูคู่ครอบครัวที่เตี่ยทำ
ให้หม่ำตั้งแต่เด็ก  เป็นเนื้อปลาแล่อย่างดี  บั้งเป็นชิ้นๆ  ทอดในน้ำมันใหม่  ร้อนแรง  จนกรอบนอกนุ่มใน  ราดด้วยน้ำเต้าเจี้ยวผัดกับพริก  กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อย  เค็มนิดๆ  เผ็ดน้อยๆ  หวานหน่อยๆ อร่อยกลมกล่อม   คลุกน้ำราดกับข้าวสวยร้อนๆ  หม่ำกับเนื้อปลากรอบๆ  โซ้ยเพลิ้น..เพลิน!!

ต่อที่เมนูปลาขวัญใจคุณน้องคุณหนู  "ปลาสายยูทอดนํ้าปลา" เป็นเนื้อปลาสายยู  แล่เอาแต่เนื้อ  เลาะก้างออกจนหมด  หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ  หมักกับน้ำปลาดี  ทอดในน้ำมันร้อนจัด  เค็มๆ  มันๆ หม่ำได้ทั้งครอบครัว  อีกหนึ่งเมนูขวัญใจมหาชนที่คุณพี่นอมภูมิใจนำเสนอคือ  "หมูสะเต๊ะคุณยาย" หมูสะเต๊ะเนื้อนุ่ม  รสชาติหนักแน่น  น้ำจิ้มรส เข้มข้น   ตามสูตรดั้งเดิมที่ทำมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่  แฟนประจำหลายคนนิยมสั่งกลับไปทาขนมปังหม่ำที่บ้าน  อยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนต้องสั่งมาลอง  ปิดท้ายด้วยเมนูซดรสจัดจ้าน  "ปลาทูต้มโคล้งโบราณ"  รสซี้ดซ้าด  ยิ่งหน้าปลาทูรสชาติจะเวรี่...เวรี่กู๊ด!!


ข้าวเหนียวมะม่วง
ข้าวเหนียวมะม่วง

จบคาวแล้วต่อหวานทันทีอย่ารีรอ "ข้าวเหนียวมะม่วง" ที่ร้านนี้มีให้หม่ำทุกฤดู มะม่วงสั่งตรงมาจากสวน   รับประกันความสด

"ประเสริฐ โภชนา" ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดปทุมธานี มาจากทางด่วนลงที่ทางลงศรีสมาน ขึ้นสะพานนนท์ วิ่งตรงไปเจอแยกใหญ่เลี้ยวขวาเข้าปทุมธานี จากแยกตรงมาประมาณ 3 กิโลจะเจอโชว์รูมรถยนต์เชฟโรเลตทางซ้ายมือให้ชิดขวากลับรถ แล้วชิดซ้ายเลี้ยวเข้าซอยแรก ขับตรงเข้ามาประมาณ 100 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ จอดรถได้ข้างร้านและหน้าร้าน สะดวกสบาย ร้านเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด เริ่มเผากุ้งตั้งแต่ 11 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม ครัวปิดประมาณ  2  ทุ่มกว่าๆ

ถ้ามาแล้วไม่อยากหงุดหงิดเพราะต้องรอ โต๊ะนานเนื่องจากร้านเล็ก  เจ๊แซบแนะนำให้หลีกเลี่ยงช่วงเที่ยง   หรือโทร.มาจองโต๊ะ   จองกุ้งไว้ล่วงหน้า เบอร์ 0-2581-8037 และ 08-9812-3933 สองเบอร์รับประกัน เจอมัน (กุ้ง) แน่!!



เจ๊แซบ หัวเขียว

Read More...


ใช่ว่าของอร่อย...ไม่ดีต่อสุขภาพ

Pic_143588


หลายครั้งที่ของอร่อยทำร้ายเรา อย่างข้าวขาหมูก็ไม่ดีกับคนที่เป็นโรคอ้วน ข้าวมันไก่ก็ไม่ดีกับคนที่เป็นโรคเกาต์ ผมได้มีโอกาสรับเชิญจากคุณหมออ้อมและสามี ให้ไปลองชิมอาหารที่ดีต่อสุขภาพ พอได้ยินครั้งแรก แย่แล้วตู คงมีแต่ผักและผลไม้ หรือไม่ก็จืดสนิทไร้รสไร้ชาติเป็นแน่ แต่ที่สำคัญคนที่บอกให้ผมไป เขามารับผมไปด้วย ไม่ไปไม่ได้เดี๋ยวตาย... ไงก็ต้องไป


ร้านนี้เป็นความคิดของสองสามีภรรยาที่เป็นหมอทั้งคู่ คนหนึ่งก็ได้รับอภิพลจากคุณพ่อที่เป็นหมอเหมือนกันที่ใช้โภชนาการบำบัด เลยคิดว่าอาหารเป็นเรื่องแรกที่ส่งผลต่อร่ายกาย ถ้าอาหารดีจะทำให้ร่างกายดีไปด้วย  ส่วนคุณหมออ้อมก็ศึกษาหมอแผนปัจจุบันอย่างจริงจัง เมื่อได้ความรู้อีกแขนงหนึ่งมาช่วยประกอบให้สามารถรักษาได้แบบนี้แล้วคงช่วย คนได้เยอะ   ส่วนเรื่องรสของอาหารได้น้องที่ไปรำเรียนจาก “กอดองเบลอ” มาช่วยทำอาหารด้วยเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับผู้ที่รักษ์สุขภาพและผู้ป่วยลืม บอกไปว่าร้านนี้ชื่อ “Healthy Flavor”


คำแรกที่ได้กิน แม่เจ้า! อาหารไม่ใช่รสอย่างที่คิด “แว้บแรก มันต้องจืดสนิท” ผิดไปอย่างจัง มันมีรสปรกติอร่อยด้วย มากันเลยว่าสั่งอะไรกันไปบ้าน เริ่มจากกระทงทอง อันนี้ไม่รู้ว่าทำจากอะไร แต่เต็มไปด้วยถั่วงา ข้าวโพดและน้ำสลัดที่คลุกเคล้ามากับเครื่องพวกนั้น เอามาใส่ในกระทงกินได้ทั้งอันเข้าท่าแล้วซิ...

จานที่สองปลากระพง ทอดขมิ้นผัดพริกเหลือง  แม้ตอนแรกที่เห็นนึกว่าเป็นปลาสามรส แต่ที่ไหนได้รสและกลิ่นของขมิ้นทำให้ปลาตัวนี้ช่างหอมเหลือเกิน พริกเหลืองที่ราดมารสคล้ายกับปลาสามรสแต่ก็แตกต่างไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ดี  

เส้นบุกอบทะเลอร่อยครับจานนี้บุกกรันตีว่าไม่อ้วนสำหรับสาวๆ ที่ต้องการทั้งอิ่มและไม่อ้วน  รสเหมือนเรากินหมี่ผัดทะเล แต่ที่นี้พ่อครัวปรับปรุงแต่รสเสียจำไม่ได้ว่าเรากินหมี่หรือบุกกันแน่เด็ด ครับ

สเต็กปลาซอสเต้าหู้  จานนี้ทำผมหน้าแตกที่มีซอสน่ะครับตอนแรกที่กินเข้าไปนึกว่าเป็นไข่ไก่ที่ มาตีเป็นเศษ แต่ที่ไหนได้เป็นเต้าหู้ รสก็ไม่เหมือนเต้าหู้ ผมว่าหลายคนคงรักจานนี้เป็นแน่แท้

กินกันให้ครบต้องมีของหวานเสีย หน่อย พุดดิ้งลูกเดือย นุ่มนวลคล้ายกินมูส์ช็อก ดีเลยพ่อคุณ กินกันมาตั้งนานได้ดื่มน้ำสางรส เหมือนน้ำยาอุทัย แต่ดีกับสุขภาพน่ะครับ บำรุงเลือด  วันนี้เท่านี้ก่อนน่ะครับ



 
ไปไม่ยาก มุ่งหน้าบางนาตราด ลงทางด้วยแล้วร้านอยู่ตรงข้ามเซ็นทรัลบางนา หาที่กลับรถ  ดูโรงพยาบาลบางนาไว้ เลยไปนิด หน้าปากซอยมีร้านขายยาชื่อ Balance เข้าซอยบางนา-ตราด36 ถึงเลยครับร้านอยู่หลังร้านขายยานี้ ไปไม่ถูกโทร 02-182-0174 www.doctoraom.com 1298 ซอยบางนาตราด 36 ถ.บางนาตราด แขวงบางนา เขตบางนา กทม. 10260 เปิด 10.00-21.00 น.

Rating : ชาตินี้ต้องกิน (4 ดาว)
เรื่องและภาพโดย
ธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)

Read More...


หมกไก่ ฉึก ฉึก!! หมกเนื้อ หงึก หงึก!!

Pic_145336


อาทิตย์นี้ของบุกเมืองแขกกันเสียหน่อย แขกในประเทศไทยมีสองพวกใหญ่ๆ คือแขกที่มาจากอินเดียกับแขกที่นับถือศาสนาอิสลาม แต่ที่เราๆท่านๆรู้จักอาหารของพวกเขากันดีก็แขกอิสลามนั้นเอง ทั้งข้ามหมกไก่ ซุปหางวัว มะตะบะ เป็นต้น จะหาของกินพวกนี้ให้อร่อยสมใจอยากคงต้องมาในถิ่นดังเดิมของพวกเขา “บางลำพู” แถวนี้เมื่อก่อนคือใจกลางกรุงเทพซึ่งใกล้กับพระราชวังหลวงจึงเจริญมากๆ ทั้งมีท่าน้ำอย่างท่าพระอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งสันจรและค้าขายแต่ดังเดิม จึงทำให้มีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาทำมาหากินจนเป็นเจ้าสัวเจ้านายกันมากมาย ในถิ่นนี้


“ร้านอาอีสะห์ รสดี” ร้านนี้เปิดมานานมาก ผมพึ่งรู้จักร้านนี้ไม่นานนี้เอง ได้รับคำแนะนำจากคุณปลา ไอบีเอ็ม เจ้าเดิม เรามาสั่งกันเลยดีกว่า ที่สะดุดตาตั้งแต่เข้ามาที่ร้านก็คงเป็นไปตามที่หลายคนแนะนำคงต้องเป็นข้าว หมกไก่ อันนี้หากินที่ไหนก็ได้ แต่หมกเนื้อยอมรับครับฝีมือเป็นเยี่ยมในแผ่นดิน เคยกินมาหลายที่จะได้กลิ่นเนื้อแรงมากแต่ที่นี่ไม่เป็นเช่นนั้น กินแล้วติดคอไปนิด ต้องหาอะไรมาซดให้ชื่นใจ มาถึงที่ซุปหางวัว คงยอมไม่สั่งไม่ได้ อร่อยมากครับ (สำหรับผู้ที่ชอบรสจัดบอกเขาหน่อยที่มาปรกติจะเบามือไปนิดครับ) หางวัวล้างจนไม่มีกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ ต้มกับเครื่องปรุงจนเปื่อยได้ที่ ตามด้วยเครื่องปรุงรสจัด จิ๊ดจาด มากครับ...


อีกจานที่อยากแนะนำสลัดแขก เครื่องครบ น้ำราดที่ลงตัว ตัวผักหวานกรอบน้ำราดที่ไม่หวานจนเกินไปพอดีพอดี ชอบมากครับเป็นอีกจานที่อยากให้ไปได้ลอง สุดท้ายครั้งนี้ที่ได้ลองกินกันก็ ก๋วยเตี๋ยวแขก หลายคนคิดว่าข้าวซอย ใกล้เคียงกันมากครับ แต่จะไม่มีเครื่องพวกหอมแดงและผักดองเท่านั้น ที่เหลือคล้ายกันมากๆ น้ำซุปที่บอกสัญชาติได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่ชอบความเข็มข้นต้องจานนี้ไม่ผิดหวัง


ร้านนี้อยู่ที่ร้านอยู่บนถนนรามบุตรี มาจากบางลำภู ให้เลี้ยวเข้าซอยมาทางสิบสามห้าง ร้านอยู่ตรงซอก ใกล้ๆ กับร้านเซเว่นเปิด08.00 - 17.00 น. หยุดทุกวันที่ 4 ของเดือน  ไปไม่ถูกโทรไปก่อน 02 - 282 – 6378 ครับ

Rating : ที่สุดในแผ่นดิน (5 ดาว)

เรื่องและภาพโดย
ธนา  ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)

Read More...


ห่อหมก(จิ๋ว)'ไม่ต้องมีหน้าร้านก็ขายได้

“ห่อ หมก” อาหารไทยที่ไม่เหมือนใครในโลก มีรสชาติ เอกลักษณ์ เป็นตัวของตัวเอง วิธีการทำต้องพิถีพิถัน ผู้ที่มีอาชีพทำห่อหมกขายจะต้องมีความมุ่งมั่น เพราะกว่าจะได้ห่อหมกแสนอร่อยสักห่อไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องหลังขดหลังแข็งหลายชั่วโมง อย่างไรก็ดี ยุคนี้มีการปรับเปลี่ยนภาชนะห่อหมกให้ดูทันสมัย สร้างจุดขายน่าสนใจ ขายได้ทุกทำเล ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน”  มีข้อมูลการทำ-การขาย “ห่อหมกจิ๋ว” มานำเสนอ...

ตุ๊ก-สุทธิดา โหตรภวานนท์ อดีตเจ้าของร้านอาหาร “ต้นไม้” เป็นเจ้าของสูตร “ห่อหมกปลากราย (จิ๋ว) ใบเตย” เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ทำธุรกิจร้านอาหารมานานถึง 15 ปี แม้จะขายดิบขายดี แต่จำต้องเลิกกิจการไปเพราะไม่มีคนช่วย ประกอบกับต้องไปอยู่ดูแลพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดด้วย แต่ชีวิตเธอก็ยังวนเวียนเกี่ยวกับอาหารอยู่ พอกลับมาอยู่กรุงเทพฯกับครอบครัว ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจและไม่ชอบอยู่ว่าง ก็รับทำอาหารเดลิเวอรี่ส่งตามบ้านและบริษัทต่าง ๆ
   
“ใช้วิธีโทรฯ แจ้งบอกลูกค้าเก่า ผลตอบรับดีมาก มีลูกค้าโทรฯสั่งอาหารเกินความคาดหมาย พูดปากต่อปาก มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำคนเดียวส่งลูกค้าทันบ้างไม่ทันบ้าง ทำเอาลูกค้าเสียความรู้สึก แล้วลูกค้าก็เริ่มน้อยลง บวกกับการสต๊อกของต้องซื้อทุกวัน ก็เกิดการสูญเสีย สุดท้ายก็ต้องเลิกอีก แต่ด้วยใจรักการทำอาหารจึงย้ายไปลงทุนเปิดร้านอาหารที่อื่นรวมทั้งขายตาม ศูนย์อาหาร สุดท้ายปัจจุบันนี้ก็ต้องกลับมารับสั่งทำอาหารอยู่กับบ้าน โดยเฉพาะข้าวกล่องและอาหารว่างในงานอีเวนต์ หรือสั่งเป็นกับข้าวเป็นอย่าง ๆ รวมทั้งห่อหมกปลากรายใบเตย ซึ่งเป็นอะไรที่เป็นไทย ๆ เน้นรสชาติดั้งเดิม”
   
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำห่อหมกนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำครัวทั่วไป อาทิ เขียง, หม้อ, มีด, เตาแก๊ส, กระทงใบเตย และเครื่องครัวเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ส่วนที่ต้องมีพิเศษคือเครื่องปั่นพริก และลังถึงสำหรับนึ่งห่อหมก        

ส่วนผสมและวัตถุดิบที่ใช้ ก็มีผักต่าง ๆ ใช้สำหรับรองพื้นกระทง เช่น ใบยอ, โหระพา, กะหล่ำปลี ส่วนของสดก็มี เนื้อปลากรายขูด, ไข่เป็ด, น้ำกะทิ, พริกแกงเผ็ด (เจ้าประจำ), น้ำตาลทราย, น้ำปลา, แป้งข้าวเจ้า และผักโรยหน้า คือใบมะกรูดหั่นฝอย, พริกชี้ฟ้าหั่น        

ขั้นตอนการทำ “ห่อหมกปลากราย (จิ๋ว) ใบเตย” 
   
เริ่มจากการทำผักรองพื้น โดยนำผักมาล้างให้สะอาดแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นนำใบยอมาหั่นเป็นชิ้น ๆ กะหล่ำปลีลวกพอนิ่ม หั่นเป็นชิ้นเล็กตามต้องการ ส่วนใบโหระพาเด็ดเป็นใบ ๆ ตั้งเตรียมไว้ในภาชนะที่สะอาด
   
นำน้ำกะทิใส่อ่างหรือหม้อสำหรับกวนพอประมาณ ตามด้วยพริกแกงเผ็ดห่อหมก ใช้ไม้พายคนส่วนผสมน้ำกะทิกับพริกแกงให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นนำเนื้อปลากรายขูดและไข่เป็ดใส่ตามลงไป ทำการกวนส่วนผสมห่อหมกให้เข้ากัน (ต้องกวนวนไปทางเดียวกัน ถ้ากวนกลับไปกลับมาส่วนผสมจะไม่เหนียวข้น) ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ค่อย ๆ เติมน้ำกะทิทีละน้อยจนหมด กวนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ จนฟูและเหนียว ตั้งพักไว้
ระหว่างนั้นให้ทำน้ำกะทิสำหรับหยอดหน้าห่อหมก ด้วยการเอาหัวกะทิผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือเล็กน้อย คนให้ละลาย ก่อนจะนำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ กวนจนให้กะทิข้นหนืด ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น        

จากนั้นให้นำ กระทง “ใบเตยหอม” กระทงเล็ก ๆ เหมือนกระทงขนมตะโก้ มารองด้วยผักที่เตรียมไว้ แล้วเรียงกระทงในลังถึง ใช้ช้อนตักส่วนผสมห่อหมกมาหยอดใส่ลงในกระทงใบเตยจนหมด เสร็จแล้วยกขึ้นนึ่งด้วยน้ำเดือด แล้วค่อย ๆ หรี่ไฟประมาณ 10 นาที (การนึ่งถ้าใช้ไฟแรงเกินไปพอสุกแล้วหน้าห่อหมกจะระเบิดเป็นแฉกไม่สวย) เสร็จแล้วแต่งหน้าด้วยกะทิ ใบมะกรูดหั่นฝอย และพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่น เพื่อเพิ่มสีสันและภาพลักษณ์ให้กับห่อหมก       

ราคาขายห่อหมก (จิ๋ว) ปลากรายใบเตย กล่องเล็กมี 6  กระทง ขายราคา 35 บาท, กล่องกลางมี 9 กระทง ขายราคา 50 บาท และกล่องใหญ่มี 12 กระทง ขายราคา 65 บาท
   
ทั้งนี้ คุณตุ๊กบอกว่า อาหารไทย ๆ นั้นเธอทำได้หมด รวมถึงอาหารฝรั่งก็ทำได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดจะเปิดร้านอาหาร การจะเปิดร้านขายอาหารนั้นไม่ใช่ว่าอยู่ที่ฝีมือและรสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่นจังหวะและทำเลก็มีส่วนเสริม จำเป็นต้องพิจารณาให้ดี

.................

ใครสนใจ “ห่อหมกปลากราย (จิ๋ว) ใบเตย” ต้องการติดต่อคุณตุ๊ก-สุทธิดา ติดต่อได้โดยตรงที่ โทร. 08-9130-3107 ทุกวัน ซึ่งหากต้องการสั่ง ก็ต้องออร์เดอร์ล่วงหน้า 1 วัน เพื่อที่จะได้เตรียมวัตถุดิบ ทั้งนี้ การทำห่อหมกขายนั้น แม้ไม่มีร้าน ไม่มีหน้าร้าน ก็สามารถทำได้ ด้วยวิธี “รับสั่งทำ” ซึ่งก็น่าสนใจ.

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง-ภาพ

Read More...


ข้าวเหนียวหมูย่างนุ่ม



 คมชัดลึก :คุณ ฐิตินพ ดวงประทีป พาทีมงานแม็คโคร สาขาลพบุรี ไปให้ความรู้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ฝึกอาชีพทำข้าวเหนียวหมูปิ้ง คุณสุพจน์ มุสิกะสิน นายก อบต.ทะเลชุบศร นำชาวทะเลชุบศรไปเรียน เพื่อกลับไปทำอาชีพเสริมหลังน้ำลด

 เครื่องปรุง
 1.เนื้อหมูสันนอกสไลด์แม็คโคร    1  กิโลกรัม
 2.ผงพะโล้ตรามือ     2  ช้อนโต๊ะ
 3.พริกไทยป่นตรามือ     2  ช้อนโต๊ะ
 4.ผงหมักเนื้อนุ่มโชติธนโชติ    1  ช้อนโต๊ะ
 5.น้ำตาลปี๊บ     1  ช้อนชา
 6.ซอสถั่วเหลือง     2  ทัพพี
 7.ซีอิ๊วดำหวานเอโร่     1  ทัพพี
 8.น้ำต้มสุก     2  ทัพพี
 9.น้ำมันถั่วเหลืองเอโร่     

วิธีทำ
 1.ผสมผงพะโล้ พริกไทยป่น ผงหมักเนื้อนุ่ม น้ำตาลปี๊บ ซอสถั่วเหลือง ซีอิ๊วดำ น้ำ และน้ำมันคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
 2.นำเนื้อหมูสันนอกสไลด์ลงเคล้ากับเครื่องปรุงให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 30 นาที
 3.ใช้ไม้เสียบเนื้อหมู แล้วนำไปย่างบนเตาย่างไร้ควัน ให้เนื้อหมูสุกนุ่ม กินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ ขายไม้ละ 5 บาท มีกำไร 300 บาทต่อหมู 1 กิโลกรัม

ข้าวเหนียวหมูย่างแม็คโคร

ระหว่างที่เกิดภัยน้ำท่วมใหญ่ในเมืองไทย คุณสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่สยามแม็คโคร ขอให้ผมและทีมงานแม็คโคร ตระเวนไปสอนทำอาหารให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนัก โคราช ชัยภูมิ และลพบุรี มีประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมไปเรียนฟรีกันมาก
   
ที่ชัยภูมิซึ่งเกิดน้ำท่วมในตัวเมือง จนน้ำป่าไหลมาท่วมรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล หลายครอบครัวไปเรียนทำ ข้าวเหนียวหมูย่าง ที่ห้างแม็คโครสาขาชัยภูมิ ผมได้ติดตามผลงานของลูกศิษย์ ปรากฏว่ามีการทำข้าวเหนียวหมูย่างแม็คโคร ไปขายให้เด็ก ๆ ที่หน้าโรงเรียน จนเป็นอาชีพหลักไปแล้วครับ
   
เครื่องปรุง

1. เนื้อหมูสันนอกสไลด์แช่แข็ง 1 กิโลกรัม
   
2. พริกไทยป่นตรามือ 2 ช้อนโต๊ะ
   
3. ผงกระเทียมตรามือ 2 ช้อนโต๊ะ
   
4. ผงพะโล้ตรามือ 1 ช้อนโต๊ะ
   
5. ซีอิ๊วดำหวานเอโร่ 1 ทัพพี
   
6. ซีอิ๊วขาวเอโร่ 2 ทัพพี
   
7. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
   
8. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
   
9. น้ำเปล่า 1 ถ้วย

วิธีทำ
   
1. ผสมเครื่องปรุง พริกไทยป่น ผงกระเทียม ผงพะโล้ ซีอิ๊วดำหวาน ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ น้ำมันพืช น้ำเปล่า ให้ละลายเป็นน้ำเดียวกัน
   
2. นำเนื้อหมูสไลด์มาเคล้าเครื่องปรุงให้ทั่ว แล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง
   
3. นำหมูหมักเสียบไม้ แล้วปิ้งบนเตาไฟฟ้าไร้ควัน ให้เป็นหมูย่างเนื้อนุ่ม ไม่สกปรกเลอะเทอะเหมือนการปิ้งย่างบนเตาถ่านซึ่งจะทำให้เนื้อหมู
ไหม้เกรียม
   
ขายหมูย่างแม็คโครให้นักเรียนไม้ละ 5 บาท หมูเนื้อสันสไลด์ 1 กิโลกรัม ย่างขายแล้วจะทำให้มีกำไร 200 บาท ขายหมูย่างวันละ 5 กิโลกรัม จะมีกำไรถึงวันละ 1 พันบาท พอมีรายได้ใช้จ่ายในครอบครัว และกลายเป็นอาชีพหลักไปแล้วครับ
   
ผมกำลังเตรียมหลักสูตรสอนทำอาหาร ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ข้าวหมกไก่ ข้าวหน้าไก่ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง เรียนฟรีแล้วให้ไปทำเป็นอาชีพขาย หารายได้เลี้ยงครอบครัว สอบถามโทร.08-6552-8444.


ขุนขยับ แม่มะลิ
chaisang_k@yahoo.co.th


Read More...


จะทำตัวอย่างไร เมื่อยามตกงาน

เป็นของแน่นอนว่า ไม่มีใครอยากตกงาน แต่ในภาวะการณ์ปัจจุบัน การตกงานเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับผู้จบการศึกษาใหม่ ๆ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นระดับ ปวช. ปวส. ปริญญาตรี หรือแม้แต่จบ ม.3 หรือม.6 ก็ตาม ความรู้สึกของคนตกงาน เป็นความรู้สึกของคนที่ผิดหวัง หมดอาลัยในชีวิตและเห็นว่าตนเองไร้คุณค่า ประจวบกับปัญหาต่างๆ ที่ประเดประดังเข้ามา เช่น พ่อ แม่ ญาติพี่น้องที่เริ่มบ่นว่า ทำไมยังหางานทำไม่ได้สักทีได้แต่แบมือขอเงิน บางคนที่เช่าหอพักอยู่ ก็เริ่มมีปัญหาติดค้างค่าเช่า ค่าอาหาร ในอาทิตย์หน้าก็ยังไม่ทราบว่าจะไปหาได้ที่ไหน ค่าแสตมป์ส่งจดหมายสมัครงาน ค่าถ่ายรูป ค่าถ่ายเอกสารก็ยังหาไม่ได้ ยิ่งคนที่หางานมานานแต่ยังไม่ได้ ยิ่งมีปัญหาว้าวุ่นสับสน และท้อถอยมากยิ่งขึ้น ท่านผู้ที่กำลังหางาน เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คงจะยอมรับว่าสิ่งที่กล่าวมาแต่ต้นนั้นเป็นความจริง

หยุด!! หยุดความรู้สึกต่างๆที่คุณมีและมาเริ่มต้นใหม่ดังนี้ 
 
1.ทำใจให้สนุก อาจจะทำยากแต่คุณต้องทำ คุณจะต้องพยายามคิดว่า เออ สนุกดีนะ วันนี้ได้หัดเขียนจดหมายอีกแนวหนึ่งไปสมัครงาน ได้ไปพบเพื่อนเพื่อรับการสัมภาษณ์กับบริษัทแห่งนั้น หรือหากไม่มีการสมัครงานใดๆเลย ก็ควรจะแต่งกลอนประชดตัวเองให้สนุกๆ (แต่อย่าแต่งกลอนประเภททำให้ตัวเองชอกช้ำหนักไปกว่าเดิมอีก ) เมื่อพบเพื่อนฝูงก็พยายามพูดคุยในเรื่องที่สนุกๆ หรือมิฉะนั้นก็นั่งดูรายการสนุกๆ ตลกๆ ทางโทรทัศน์ 


2.ทำตัวให้ง่วนอยู่เสมอ หาอะไรทำได้ก็ทำเข้าไป เช่น ขุดดิน ปลูกต้นไม้ ทาสีรั้วบ้าน ลอกท้องร่อง ช่วยเพื่อนทำงานต่างๆ ช่วยอาจารย์ทำรายงาน หรืออาจจะทำงานอดิเรกต่างๆ


3. ออกไปพบปะผู้คนบ้าง หาโอกาสที่จะพบปะเพื่อนๆ หรือคนรู้จักกัน เพื่อถามไถ่เรื่องงานหรือพูดคุยเรื่องต่างๆต้องดูว่าคนที่เราไปพบพอจะมีเวลาคุยกับเรามากน้อยแค่ไหนระวังไว้อย่างคือ อย่าไปเป็นภาระกับเขา เพราะคนบางคนเมื่อไปพบเพื่อนฝูงแล้ว เพื่อนฝูงรำคาญ เพราะไม่เป็นอันทำงานเนื่องจากต้องคอยมาตอบคำถาม หรือคอยดูแลแขกที่ไปเยี่ยม ติดตามข่าวสารบ้านเมือง เพื่อจะเป็นประโยชน์ในด้านการสมัครงานขณะไปรับการ สัมภาษณ์ หรืออาจจะนำข่าวสารต่างๆไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ช่วงน้ำท่วม ฝนตก การแพร่ระบาดของโรคต่างๆ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงหรือหาทางป้องกัน


5 ติดตามข่าวการรับสมัครงาน ควรจะแวะไปที่กระทรวง แรงงานฯ เพื่อหาตำแหน่งงาน ว่าง หรือแม้แต่บอร์ดติดประกาศของสถาบันการศึกษาที่จบออกมา เพราะอาจจะมีหน่วยงานต่างๆ ส่งประกาศรับสมัครงานไปติดไว้ก็ได้ หรืออาจจะแวะไปถามไถ่อาจารย์ที่สอนอยู่ เพราะอาจจะมีผู้แจ้งความประสงค์ต้องการคนผ่านไปที่อาจารย์ ก็ได้ ขณะเดียวกันก็ควรจะหางานตามหน้าหนังสือพิมพ์ด้วย


6. ส่งจดหมายสมัครงาน ควรจะเลือกสมัครงานในตำแหน่งที่คิดว่า เรามีคุณสมบัติใกล้เคียงกับที่เขาต้องการเมื่อส่งไปแล้วควรจะต้องคอยติดตามข่าว ไม่ใช่ว่าส่งจดหมายสมัครงาน จากนั้นก็หายไปอยู่ต่างจังหวัดเสียนานซึ่งอาจจะทำให้พลาดโอกาสที่จะได้งาน


7. ต้องประหยัด การใช้จ่ายเงินต่างๆแม้จะเป็นเพียงหนึ่งสลึงก็ต้องคิดให้ดี ทุกสตางค์ที่จ่ายออกไป ควรจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รายจ่ายบางอย่างที่ยังไม่จำเป็นก็ควรจะงด เช่น เคยซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนก็อาจจะส่งเป็นการ์ดอวยพรแทน เป็นต้น


8. ต้องมีกำลังใจกล้าแข็ง มีความมุมานะบากบั่นที่จะต่อสู้กับปัญหาต่างๆในแต่ละวัน อย่าท้อถอยหมดกำลังใจ ต้องบอกตัวเองว่า วันหนึ่งเราจะต้องพบกับความสำเร็จ เพราะชีวิตคนเราเมื่อตกถึงจุดต่ำสุดมันควรจะต้องมีจุดที่ขึ้นสูงได้บ้าง ทุกอย่างจะต้องมีจุดหักเหกลับ คนที่รุ่งเรืองสูงสุดก็ย่อมจะต้องมีจุดตกอับเหมือนกัน คนที่ตกอับก็ย่อมจะมีวันรุ่งเรืองได้ ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะจีรังยั่งยืน ก็เหมือนกับชีวิตคนเราที่คงจะไม่ตกอับตลอดชาติ วันหนึ่งมันจะต้องเป็นวันของเรา อย่าหมดหวังในชีวิต จะต้องสร้างพลังใจ พลังแห่งความคิด และพลังแห่งความหวังในทางที่เป็นไปได้ หากขาดพลังใจ พลังคิด และพลังความหวังแล้วเราจะมีชีวิตต่อสู้กับสภาวะทางสังคมอย่างไร


9. เมื่อไปสมัครงาน อย่าตั้งความหวังเสียจนสูงส่ง อย่าคิดว่าต้องได้งานแน่ๆ แต่จงตั้งความคิดว่า ได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่าไปกังวลวิตกว่าจะไม่ได้งาน


10.มองหาลู่ทางอื่น หากสมัครงานไว้หลายแห่งแต่ยังไม่มีวี่แววใดๆ อาจจะมองหาช่องทางอื่นในการดำรงชีพ เช่น อาจจะหาทางประกอบอาชีพอิสระของตนเอง เป็นต้นว่าการไปรับสินค้ามาขาย การทำสิ่งประดิษฐ์ขายเอง การไปติดต่อรับจ้างติดโปสเตอร์หาเสียงให้นักการเมืองหรือพรรคการเมืองต่างๆ ครับ ทั้งหมดนั้นเป็นข้อแนะนำ 10 ประการ ที่ขอมอบแก่ผู้ที่กำลังหางานอยู่ บางข้ออาจจะทำยาก แต่ควรจะต้องพยายาม

โปรดระลึกว่า การต่อสู้ของชีวิตคือการเริ่มต้นก้าวไปสู่ความสำเร็จ การจะขึ้นบันไดขั้นสูงนั้น จะต้องเริ่มที่บันไดขั้นต่ำก่อนเสมอ ถ้าไม่มีบันไดขั้นต่ำ จะก้าวสู้บันไดขั้นสูงได้อย่างไร ว่าวจะขึ้นสูงได้ ก็เพราะมีแรงลมต้าน ถ้าไม่มีลมต้าน ว่าวจะขึ้นสูงได้อย่างไร

ที่มา : รวบรวมจากหนังสือ เทคนิคการหางานทำ เขียนโดย สายัณห์ จันทร์วิภาสวงศ์ : สำนักพิมพ์มติชน


เป็นไงคะ เป็นข้อมูลเป็นประโยชน์ของผู้กำลังหางานและตกงานอยู่นะคะ

Read More...


9 คาถาคุมสติ (แตก) เมื่อตกงาน!


สรุปประเด็นโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

นาทีนี้ ไม่ต้องบอก หลายคนก็คงจะทราบดีว่า เรื่องชวนสติแตกที่สุดของชาวไทย (และชาวโลก) ก็คือการตกงาน เพราะกำลังอยู่ในที่ทั่วโลกคอนเฟิร์มแล้วว่าจะวิกฤตหนัก ข่าวการปลดพนักงานสะพัดไปทั่วทั้งไทย และอีกหลายประเทศ ยิ่งในบ้านเราปัญหาการเมืองที่ยังไม่สงบ ยิ่งทำให้กระทบเศรษฐกิจให้แย่ลงไปอีก
สำหรับคนที่กำลังตกงาน หรือหางานไม่ได้ในช่วงนี้ ก็อย่าเพิ่งเครียดเกินไป เพราะจะทำให้บั่นทอนสุขภาพจิตใจเสียเปล่าๆ มาดู 9 คาถารับมือการตกงาน  ที่ นพ.กัมปนาท แนะนำไว้ ดังนี้

1.เริ่มต้นจากการมองโลกในแง่ดีให้มากเข้าไว้ 
คิดเสียว่าการที่เราตกงาน ก็เพื่อให้ตนเองได้พักผ่อน เพราะบางคนทำงานหนักจนแทบไม่ได้พักเลย ได้เงินมาแต่ไม่ได้ดูแลสุขภาพตัวเองเลยจะมีประโยชน์อะไร ที่มีเงินแต่อยู่ในสุขภาพที่ย่ำแย่ในที่สุดก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้เงินอยู่ดี

2.อย่าเป็นคนรักษาหน้ามากนัก 
บางคนมองว่าการตกงาน เป็นการบอกว่าเราด้อย ไม่มีความสามารถ ทนไม่ได้กับการที่ต้องตกงาน ก็เลยไม่กล้าลงทุนทำอะไรอย่างอื่นอีก หรือคิดรวยทางลัด หาเงินจากแหล่งการพนัน เสี่ยงโชค ยอมขายตัวขายศักดิ์ศรีแลกเงิน อย่างนี้ทำให้สถานการณ์เลวร้าย
3.มองว่าการตกงานก็เพื่อฝึกทบทวนความสามารถตนเองใหม่ 
ว่าควรจะได้มีการพัฒนามากขึ้นจนได้อยู่ในตำแหน่งที่มีความเสี่ยงน้อย รวมทั้งได้ฝึกการบริหารจัดการเรื่องเงินเรื่องทองให้ได้ ถ้าทำได้หรือฝ่าฟันไปได้ก็จะเป็นคนที่มีประสบการณ์และแกร่งขึ้น
4.เผื่อใจไว้สำหรับการไม่มีเงิน 
หากจำเป็นต้องใช้เงิน ก็อาจจะต้องยอมสละอะไรบางอย่าง (ที่เคยยึดติด) เช่น อาจจะต้องยอมขายหรือเสียอะไรบางอย่างบ้าง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการเงินให้ได้ อย่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบยึดติดกับวัตถุมากเกินไป เพราะเงินทองเป็นของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ อย่าไปปักใจอยู่กับคุณค่าของวัตถุมากเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว คุณค่าที่เกิดขึ้นเกิดจากใจของเราเองต่างหากที่ไปสร้างเงื่อนไขทางความคิด จัดลำดับความสำคัญในชีวิตดีๆ ว่าจะทำอย่างไรให้พอดำรงชีวิตอยู่ได้ แม้จะต้องสูญเสียวัตถุสิ่งของที่รักไปบ้าง

5.ส่วนใครที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ขายชดใช้หนี้ ก็อย่าลืมทรัพย์สินทางปัญญา
ต้องพยายามหาทางนำออกมาใช้ให้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าไม่มีทรัพย์ใดจะมีค่ามากไปกว่าปัญญาของเราเอง ยิ่งไปกว่านั้นการได้คิดได้ร่วมแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่มีค่า มากกว่าทรัพย์สินใดๆ เพราะประสบการณ์ที่ได้ จะทำให้ทั้งแข็งทั้งแกร่ง ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงินทองหรือของมีค่า

6.พยายามคิดหาทางเลือกอื่นๆ ไว้ เมื่อตกงาน 
อย่าเพิ่งคิดสั้นๆ และมองว่าตนเองไม่มีทางเลือก อย่าลืมว่าปัญหามักจะมีทางออกสำหรับผู้ที่ฝึกคิดเสมอ

7.พึงคิดไว้เสมอว่าหากวันนั้นมาถึง “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” สำคัญที่สุด 
อย่าไปหวังว่าใครจะมาช่วยเราถ้าเรายังไม่เริ่มต้นที่จะคิดช่วยเหลือตนเอง

8.ฝึกให้ตนเองมุ่งมั่นในการหางานใหม่ไปเรื่อยๆ 
โดยที่ไม่ต้องคิดเรื่องการตกงานให้อยู่ในสมองมากนัก คิดเพียงการมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง เมื่อนั้นคุณจะรู้สึกว่าภูมิใจที่เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบที่ดี อย่าลืมชมตัวเองบ่อยๆ ก็แล้วกัน

9.สำหรับคนที่ค่อนข้างเครียดเรื่องตกงาน ให้ลองสำรวจตนเองว่าเป็นคนวิตกกังวลเกินไปหรือไม่ 
ความวิตกกังวลนั้นส่งผลต่อชีวิตอย่าง ทำให้ขยันขึ้น หรือทำให้หมดเรี่ยวหมดแรงในการต่อสู้กับปัญหากันแน่ ถ้าเป็นประเด็นหลังอาจต้องมารับการบำบัดทางด้านสุขภาพจิต เพราะหากปล่อยไว้ ชีวิตจะค่อยๆ หมดพลังในที่สุด

และสำหรับคนที่ยังโชคดีมีงานทำ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ในช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งเปลี่ยนงานหรือโลภมากขออัพเกรดตัวเองเร็วนัก สำคัญคืออย่าเลือกงาน แต่ขอให้รับผิดชอบในหน้าที่ ณ เวลาที่เป็นอยู่ตอนนี้ให้ดีที่สุด รวมทั้งอย่าหาความสุขที่มากเกินพอดี ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เล่นการพนัน หรือหาทางออกด้วยยาเสพติด 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก



รายงานโดย :วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

Read More...


สูตรขนมโตเกียว ขายง่าย รายได้ดี

ขนมโตเกียวสูตรโบราณ มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแป้งและไส้ขนม เนื้อแป้งละเอียด รสชาติดี กลมกล่อม มีกลิ่นหอม สามารถนำไปทำขนมแพนเค้กก็ได้ ไส้ขนมก็มี สังขยา ครีม เผือก และไส้กรอก

ขนมโตเกียว

ขนมที่มีวางขายมาเนิ่นนานแล้วอย่าง ขนมโตเกียว ลักษณะเป็นแผ่นกลมรี ๆ นำมาม้วน เนื้อแป้งนิ่มอร่อย รับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งความอร่อยของขนมชนิดนี้หัวใจสำคัญอยู่ที่ไส้ที่จะต้องมีการพลิกแพลงให้ โดนใจลูกค้า และรสชาติของตัวแป้งที่ต้องกลมกล่อมลงตัวกันพอดีกับไส้ และวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน ก็นำข้อมูลการทำ-การขายขนมโตเกียว ที่ขายได้-ขายดีมาตลอด มาให้ลองพิจารณากัน

ฉัตรชัย อินทรประสิทธิ์ หรือ ติ๊ก เจ้าของสูตรขนมโตเกียวโบราณ เล่าให้ฟังว่า ก่อนมายึดอาชีพพ่อค้า เดิมเคยทำงานมาหลายอาชีพ เคยทำงานประจำตามบริษัท แต่เพราะอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ภายหลังเลยเลือกอาชีพขายของ โดยเริ่มต้นจากขายเสื้อผ้า กิฟต์ช็อป ของเล่น ซึ่งแม้จะขายดี แต่ต้องใช้ต้นทุนสูง และถ้าวันไหนขายไม่ดีก็ต้องกินทุน สินค้าประเภทนี้ลูกค้าไม่ได้ซื้อกันทุกวันเหมือนกับของกิน บางครั้งก็ทำให้รู้สึกเบื่อ ๆ ท้อ ๆ เพราะรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายในครอบครัว ที่สุดก็ตัดสินใจมองหาอาชีพใหม่

เปลี่ยนมายึดอาชีพขายขนมโตเกียวได้ประมาณ 5 ปีกว่า ๆ ได้สูตรมาจากพี่สาว และแฟนเราก็มีพื้นฐานในการทำขนมอยู่บ้าง ก็ไปฝึกทำขนมโตเกียวจากพี่สาว แล้วมาปรับเพื่อให้เป็นสูตรเฉพาะ ขนมโตเกียวสูตรของเรามีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแป้งและไส้ขนม เนื้อแป้งละเอียด รสชาติดี กลมกล่อม มีกลิ่นหอม สามารถนำไปทำขนมแพนเค้กก็ได้ ส่วนไส้ขนมเราก็จะชูความเป็นไทยประยุกต์ เช่น สังขยา ครีม เผือก และไส้กรอก ใช้ยี่ห้อดีซึ่งไม่ค่อยเหมือนร้านอื่น เลยทำให้ได้ลูกค้าประจำหลายกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ติ๊กบอกว่า ขนมโตเกียวเป็นขนมที่รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ไม่จุกจิก สามารถทำเองคนเดียวได้ ใช้เงินลงทุนไม่สูง ที่สำคัญกำไรดี เพียงแต่ใส่ใจในกระบวนการผสมแป้ง และพลิกแพลงไส้ขนม รับรองขายได้ตลอด

ขนมโตเกียว

วัสดุ/อุปกรณ์
ในการทำอาชีพนี้ หลัก ๆ ก็มี เตาแก๊ส, กระทะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า, กะละมัง, เกรียงแซะขนม, ภาชนะสเตนเลสสำหรับใส่ไส้ขนม, ช้อน, ตะกร้อตีไข่, ทัพพีด้ามสั้น, ตะแกรง, ถาด, หม้อ, ถังใส่แป้ง และเครื่องไม้เครื่องมือเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาจากในครัวมาใช้ได้

ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งสาลีตราว่าว 1 กิโลกรัม, นมสดคาร์เนชั่น 1 กระป๋อง, น้ำตาลทราย 6 ขีด, ไข่ไก่ (เบอร์ 3) 10 ฟอง, ผงฟู 30 กรัม, เกลือป่น 10 กรัม, วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ, เนยละลาย 1 ขีด, น้ำเปล่า 1 กิโลกรัม

ขั้นตอนการทำขนมโตเกียว

เริ่มจากนำแป้งสาลีมาร่อนผสมรวมกับผงฟู ร่อน 2 ครั้ง เสร็จแล้วตั้งพักไว้ ตอกไข่ใส่ภาชนะ ตีไข่ให้ขึ้น ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อยจนหมด ตีไข่ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ขึ้นฟูเป็นสีขาวนวล ใส่เกลือผสมลงไป จากนั้นให้นำแป้งที่ร่อนเตรียมไว้มาค่อย ๆ ใส่ทีละนิด คนส่วนผสมสลับไปเรื่อย ๆ จนหมด จึงใส่เนยละลายและน้ำลงไป คนนวดให้ส่วนผสมเนียนเข้ากัน ตั้งพักไว้ประมาณ 20 นาที

การเตรียมไส้ขนม

ขนมโตเกียวไส้ครีม จะใช้ นมข้นจืด, แป้งสาลี, แป้งข้าวโพด, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, เนยสด และวานิลลา ผสมแป้งสาลีกับแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน เทนมสดใส่ลงไป คนให้แป้งละลาย ตอกไข่ใส่ชาม แล้วตีพอเข้ากัน เทไข่ผ่านกระชอนลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้ละลาย นำส่วนผสมใส่หม้อตุ๋นยกตั้งไฟ คนตลอดเวลาจนส่วนผสมสุกเป็นครีมข้น เหยาะ วานิลลาใส่ไปนิดพอให้มีกลิ่น ยกลงจากเตาตั้งพักไว้ให้เย็น

ขนมโตเกียวไส้สังขยา ใช้ นมข้นจืด, แป้งข้าวโพด, กะทิ, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, น้ำใบเตยคั้นข้น และเกลือ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย แล้วทยอยใส่แป้งข้าวโพด คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี จึงใส่นมข้นจืด น้ำใบเตย กะทิ เกลือ คนให้เข้ากันอีกครั้ง ก่อนนำไปกรองเอาเศษออก แล้วนำไปใส่หม้อตุ๋นยกขึ้นตั้งไฟ คนไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลา พอรู้สึกว่าส่วนผสมหนืด ๆ เป็นอันใช้ได้ ยกลงตั้งทิ้งไว้ให้เย็น

ขนมโตเกียวไส้เผือก ใช้ เผือกนึ่งสุกบดละเอียด, กะทิ, นมข้นจืด, น้ำตาลทราย, เกลือ นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปกวนในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง กวนไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด จนไส้เผือกแห้ง ก็เสร็จเรียบร้อย ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น

ขนมโตเกียวไส้กรอก ใช้ไส้กรอกขนาด 2 นิ้ว ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่แกะพลาสติกที่หุ้มออก นำไปวางบนกระทะกลับไปมาให้สุก ก็นำไปใส่เป็นไส้ขนมโตเกียวได้เลย

ขนมโตเกียว

ขั้นตอนในการทำเป็นขนมโตเกียวที่พร้อมขาย นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน พอกระทะร้อนได้ที่แล้วก็ให้ลดไฟลงให้ไฟอยู่ปานกลาง ไม่แรงไปไม่อ่อนไป เอาเนยทากระทะให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าเช็ดออก ทำให้กระทะแค่พอมัน ๆ ใช้ทัพพีกลมตักแป้งสำเร็จหยอดลงในกระทะ ใช้ก้นทัพพีละเลงแป้งเป็นรูปวงรีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว พอแป้งเริ่มสุกใช้ช้อนตักไส้ที่ต้องการใส่ลงไป ใช้เกรียงแซะแผ่นแป้งทางด้านล่าง พร้อมกับม้วนให้ปิดไส้ (ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและลูกเล่นของแต่ละคน) ก็จะได้ขนมโตเกียวตามที่ลูกค้าต้องการ

ขนมโตเกียวนั้นต้องรับประทานร้อน ๆ ถึงจะอร่อย จึงต้องทำไปขายไป โดยราคาขายนั้น กล่องละ 20 บาท มีขนมโตเกียว 6 ชิ้น มีต้นทุนประมาณ 50% ของราคา

ติ๊ก-ฉัตรชัยทำ ขนมโตเกียว ขาย โดยวันจันทร์และวันพุธขายที่ตึกซัน ข้างธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ วันอังคารขายที่ สวทช. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต และวันศุกร์ขายที่กระทรวงพาณิชย์ และยังรับออกร้าน-ออกงานทั่วไป ทั้งงานมงคล งานปีใหม่ งานวันเด็ก งานเทศกาลต่าง ๆ โดยมีเบอร์ติดต่อคือ โทร. 08-6782-8078 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ไม่ตกยุค แถมยังมี ช่องทางทำกิน ที่น่าสนใจ สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ เช่นกัน

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.