สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ไก่ทอดแบบ KFC ทำเองก็ได้ ไม่ต้องง้อ และฮาลาล





พอดีลองค้นๆ สูตรดูค่ะ
เครดิต คุณหมูแดง ครัวไกลบ้าน ค่ะ
แล้วไปเจอมา มีคนลองทำดูก็ได้ผล วันนี้ก็เลยจะทำบ้าง เลยเอาสูตรมาแบ่งปันกันค่ะ




มาเริ่มกันเลยล้างเลือดกับเศษเครื่องในที่ติดอยู่ออกให้หมด แล้ววางไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ ในการทำครั้งนี้ ใช้สะโพก ๒ ชิ้น กับปีกไก่อีก ๓ ชิ้น







แล้วเราก็จัดการทำน้ำเกลือหมักไก่กันค่ะ เครื่องปรุงไม่มีอะไรเลย ใช้เกลือป่นสักช้อนโตๆ ผสมกับน้ำซักประมาณ ๑/๒ ลิตรหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ถ้าไก่น้อยชิ้นค่ะ







เอาไก่ที่จะทอดลงไปแช่ในน้ำเกลือไว้ประมาณ ๑๐-๒๐ นาทีนะคะ เพื่อเพิ่มรสชาติให้ไก่อีกหน่อย ถ้าเราเอาไก่ไปทอดเลย มันจะจืดไปหน่อย เพราะไก่ไม่มีรสชาติอะไรเลย แต่ถ้าจะเอาเกลือทาไก่ ก็เกรงว่าจะเค็มเกินไป ใช้วิธีแช่น้ำเกลือแบบนี้แหละค่ะ กำลังพอดี









แล้วก็เตรียมน้ำมันสำหรับทอดไก่ค่ะ ใช้น้ำมันพืชอะไรก็ได้ พอท่วมไก่ ไม่เช่นนั้นทอดแล้วไก่ไม่สวย และสุกไม่ทั่วกัน เพื่อนๆจะใช้กระทะ ใช้หม้อไฟฟ้า หรือภาชนะอะไรทอดก็ตามสะดวกนะคะ แต่ต้องใส่น้ำมันให้พอท่วมไก่ แต่อย่าให้เกิน ๒ ใน ๓ ของภาชนะที่ใช้ทอดนะ ไม่งั้นน้ำมันจะล้นและกระฉอกออกมาเลอะเทอะครัวค่ะ ใช้ไฟแรงสุดเลยนะคะ







จากนั้นมาจัดการกับไก่กันค่ะ หาผ้าสะอาดมา ๑ ผืน ใช้ tea towel นั่นแหละค่ะ เหมาะที่สุด เอาไก่ที่เราแช่น้ำเกลือไว้แล้วมาวางบนผ้า แล้วซับให้แห้งค่ะ









ซับให้แห้งประมาณนี้นะคะ บางคนอาจจะใช้กระดาษ kitchen towel ก็ตามสะดวกนะคะ แต่หมูแดงไม่ชอบ เพราะกระดาษบางทีมันเปื่อยติดหนังไก่ เลยใช้ผ้าดีกว่า ใช้เสร็จแล้วก็โยนเข้าเครื่องซักผ้าไปเลย ง่ายดี









ได้ไก่แล้วคราวนี้เราก็มีเตรียมแป้งทอดกันค่ะ เครื่องปรุงไม่มีอะไรมากมายเลย มีแค่แป้งสาลี เอาแบบที่มีในบ้านน่ะค่ะ
เริ่มจากใช้ช้อนกินข้าวตักแป้งใส่ชามใบโตๆหน่อยค่ะ วันนี้ทอดสะโพกไก่ติดน่อง ๒ ชิ้น กับปีกไก่อีก ๓ อันค่ะ หมูแดงใช้ช้อนตักแป้งสาลีพูนๆแบบนี้มา ๓ ช้อนค่ะ ใส่ชามผสมรอไว้ก่อน









แล้วใช้ช้อนคันเดิมแหละค่ะตวงเกลือ กับพริกไทยป่น กะประมาณนี้นะคะ อย่างละประมาณ ๑/๓ ก็พอค่ะ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นพริกไทยเยอะๆ ใส่เพิ่มไปอีกก็ได้นะคะ เท่าที่ใส่นี่จะไม่ได้กลิ่นพริกไทยฉุนเลยค่ะ เพราะลุงเด๋อไม่ชอบกินพริกไทยเลย แต่ถ้าจะไม่ใส่ รสชาติมันก็จะอ่อนไป ส่วนรสเค็มนั้น สามารถเพิ่มได้อีกนิดหน่อยถ้าชอบรสจัดกว่านี้ แต่หมูแดงขอใส่แค่นี้พอ รสอ่อนหน่อย แล้วอีกอย่างน้ำจิ้มของหมูแดงก็มีรสเค็มด้วย ถ้าใส่เค็มมากเดี๋ยวจะไปกันใหญ่









ผสมแป้ง เกลือ และพริกไทย ให้เข้ากันแบบนี้นะคะ ตรงนี้ถ้าใครชอบไก่ทอดที่ออกรสเผ็ดแบบแม็กซิกัน จะใส่พริกปราปริก้าป่น สีแดงๆ เพิ่มลงไปก็ได้ค่ะ เราก็จะได้ไก่ทอดรสเผ็ด







นอกจากแป้งแล้ว ส่วนผสมอีกอย่างหนึ่งก็คือไข่ค่ะ ที่นี่ไข่ฟองเล็ก หมูแดงใช้ ๓ ฟอง ตีรอไว้ก่อน เหมือนเรากำลังจะเจียวไข่น่ะค่ะ จำนวนไข่กะเอาตามจำนวนไก่ที่จะชุบนะคะ กะว่าให้พอชุบไก่ติดจนหมดก็แล้วกัน







เตรียมเครื่องปรุงพร้อมแล้ว ลองเช็คดูน้ำมันหน่อยค่ะว่าร้อนหรือยัง ต้องให้ร้อนจัดๆเลยนะคะ พอน้ำมันร้อนแล้ว เราก็มาจัดการชุบไก่กันค่ะ นำไก่ที่ซับแห้งแล้วเอามาชุบแป้งก่อนครั้งหนึ่ง พยายามเอาแป้งโรยให้ทั่วชิ้นไก่นะคะ









จากนั้นจับขาไก่ยกขึ้น แล้วเคาะเบาๆ ให้แป้งที่ชุบไว้มันร่วงลงมา ก็จะเหลือแป้งติดที่ไก่แค่พอบางๆแบบนี้เท่านั้นค่ะ









จากนั้นก็เอาไก่ไปชุบไข่ค่ะ ชุบให้ไข่ติดทั่วๆเลยนะคะ เพราะถ้าชุบไข่ไม่ติด แป้งก็จะไม่ติดเหมือนกันค่ะ







ชุบไข่แล้วเอาไก่กลับมาชุบแป้งอีกครั้ง แป้งชุดเดิมที่ชุบครั้งแรกนี่แหละค่ะ จะเห็นว่าแป้งจะติดที่ชิ้นไก่มากกว่าเดิม นั่นเพราะว่าไก่เปียก เพราะผ่านการชุบไข่มาแล้วไงคะ ตอนที่เราชุบแป้งครั้งที่ ๒ นี่นะคะ ให้ชุบเอาตามชอบเลยค่ะ บางคนชอบกินแป้งทอดกรอบ ก็ชุบไปเยอะๆ ไม่ต้องเคาะออก แต่ถ้าชอบแป้งบางๆ ก็ชุบแต่พอบางๆก็พอ









ของหมูแดงขอชุบประมาณนี้ค่ะ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป









จากนั้นก็เอาไก่ลงทอดค่ะ เวลาเอาไก่ลงหม้อทอดนะคะ อย่าใส่ลงไปพรวดเดียวเลย ค่อยๆจุ่มไก่ลงไป แล้วดูว่าน้ำมันเดือดหรือเปล่า ถ้าน้ำมันเดือดแบบนี้ก็ค่อยๆหย่อนไก่ลงไปค่ะ









ใส่ไก่ลงไปแล้วน้ำมันต้องท่วมไก่แบบนี้นะคะ ไม่อย่างนั้นไก่จะสุกไม่เสมอกันและสีไม่สวย กระดำกระด่าง ไม่น่ากินค่ะ ต้องระวังอย่าโยนลงไปนะคะ เพราะถ้าโยนน้ำมันก็จะกระเด็น กระฉอกออกมาหมด แถมจะลวกมือเราเอาซะอีกแน่ะ









จะทอดไก่กี่ชิ้นก็จัดการชุบแล้วใส่ลงหม้อไปแบบนี้ค่ะ คอยดูด้วยนะคะ ต้องทอดไก่ให้พอดีกับน้ำมันและกับหม้อที่ใช้ทอด ใส่มากก็จะล้นหกเลอะเทอะอีก ถ้าแม่ครัวมือใหม่ใจไม่กล้าที่จะใช้มือจับก็ใช้ tong คีบไก่ค่อยๆหย่อนลงไปแทนนะคะ หรือจะเอาใส่ตะแกรงแล้วค่อยๆหย่อนลงไปแทน ข้อสำคัญอีกอย่างคืออย่าชุบไก่เตรียมไว้ล่วงหน้านะคะ จะทอดเมื่อไหร่แล้วค่อยชุบ เพราะไก่มีความชื้น ถ้าชุบแล้วไม่ทอดเลย แป้งชั้นนอกจะเปียก ทำให้ไม่กรอบค่ะ ชุบไป ทอดไป ดีที่สุดนะคะ เมื่อเอาไก่ลงทอดจนพอแล้ว ให้ลดไฟลงเหลือแค่ปานกลางค่ะ กะเวลาไว้ประมาณ 15 นาที







เตรียมถาด ปูกระดาษ kitcen towel เอาไว้ (กระดาษทิชชู่ ชนิดใหญ่ มีขายใน 7-11 ) เพื่อซับน้ำมันจากไก่ทอดด้วยค่ะ









ทอดไก่ไปแล้ว ๑๐ นาที เหลืออีกแค่ ๕ นาทีก็จะครบเวลาที่เราตั้งไว้ ไปดูซิว่าไก่เป็นอย่างไรบ้าง
สีเริ่มเหลืองสวยแล้วเห็นมั้ย แต่ใจเย็นๆก่อนนะ ไก่ยังไม่สุกดีหรอกค่ะ ถ้าเอาขึ้นตอนนี้ ไก่ข้างในก็จะยังมีเลือดแดงๆ กินไม่ได้ค่ะ







ครบ ๑๕ นาทีแล้ว ไก่ชุดแรกก็สุกกินได้แล้วค่ะ ตักขึ้นมาใส่ถาดที่รองกระดาษไว้ ซับน้ำมันเสียหน่อย ทิ้งไว้ซัก ๕ นาทีแล้วค่อยเอาไปเสริฟนะคะ ไก่จะได้สะเด็ดน้ำมันดี อันที่จริงจะทอดต่ออีกซัก ๕ นาที ให้ไก่เหลืองกว่านี้ก็ได้นะ ทีแรกหมูแดงก็ว่าจะทอดต่ออีกหน่อย ให้เกรียมกว่านี้ แต่คนรอกินนี่ซิคะ เดินมาเร่ิงหลายรอบ บอกว่าหิวแล้ว เลยทอดแค่นี้พอ ถึงจะไม่เหลืองเกรียมมาก แต่ไก่ข้างในก็สุกแล้วละค่ะ


หวังว่าเมนูนี้คงถูกใจใครหลายๆคนนะคะ ไก่ทอดแบบนี้เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี ลองทำดูนะคะ ไม่ยากเลย แต่ไม่อยากแนะนำให้ใช้ไก่ส่วนอกมาทอดเลยค่ะ เพราะไก่ที่มีแต่เนื้อล้วนๆ ทอดแล้วเนื้อจะแข็งหน่อย แต่ถ้าชอบก็เชิญลองดูได้ค่ะ








credit : http://www.annisaa.com/


สูตรเด็ดเคล็ดลับ - ไก่ KFC  สูตร KFC อันนี้แปลมาจากของฝรั่ง ลองทำแล้ว ก็อร่อยดี

ส่วนผสมหมักไก่ KFC ลดหรือเพิ่มตามปริมาณไก่

2 ชต โปแตสเซี่ยม ไม่ต้องใส่ ไก่มันนุ่มอยู่แล้ว
2 ชต เกลือ
4 ชต ผงชูรส ไม่ต้องใส่
1/8 ชช กระเทียมผง ขวดนึงไม่ถึง 30 ไม่มีก็ไม่ต้องใส่
1/3 ถ้วย ซุปไก่เข้มข้นที่เห็นมีขายก็ตราแคมเบล กระป๋องละ 40 บาท ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ ใส่ซุปไ่ก่ผงแทน (แล้วมันจะฮาลาลได้อย่างไรล่ะเนี่ย) เอาแบบไม่มีผงชูรสนะ ชิมรสดู จะเค็มๆ หวานๆ ใส่แล้วก็ลดปริมาณเกลือด้วย ไม่งั้นเค็มตาย
5 ถ้วย น้ำ

ผสมทั้งหมดให้ละลาย ตัดแต่งไก่ เอาไขมันออกให้หมด ถ้ากลัวอ้วนก็เอาหนังออกซะด้วย แช่ไก่ในตู้เย็นไว้ 24 ชม


ส่วนผสมไก่ทอด

ส่วนที่ 1 ตีไข่ผสมกับนม

1 ฟอง ไข่ไก่
1 ถ้วย นม


ส่วนที่ 2 ผสมให้เข้ากัน

2 ถ้วย แป้งสาลีอเนกประสงค์
189; ชช เกลือ
190; ชช พริกไท
190; ชช ผงชูรส ไม่จำเป็น ถ้าผงชูรสอร่อยจริง ก็น่าจะละลายน้ำแล้วกินกับข้าวได้เลย
1/8 ชช พริกปาปริก้า ใส่พริกป่นไทยดีกว่า ปริมาณ แล้วแต่ชอบ ถ้าชอบแซบก็ซักโลนึง
1/8 ขข กระเทียมผง ผมใช้ตราง่วนสูน ซื้อในห้าง วางอยู่แถวๆพริกไทย ซื้อมาซักขวดก็ดี เวลาทอดหมู ไก่ เอาไว้โรยหน้า หอมดี
1/8 ชช เบคกิงโซดา กล่องนึงไม่กี่บาท ไม่ใส่ก็ได้


ทำละนะ

ไก่ ที่หมักน้ำเกลือไว้ ซับน้ำให้แห้ง จุ่มลงในน้ำไข่ กดๆให้ไข่เปียกทั่วชิ้นไก่ แล้วเอามาคลุกแป้งให้ทั่ว สะบัดเบาๆ แล้วเอากลับไปชุบไข่อีกครั้ง แล้วก็เอามาคลุกแป้งให้ทั่ว ห่อแป้งคลุมไก่ให้มิด แล้วก็เอาไปทอดแบบน้ำมันท่วม (deep fry)จนสุกเหลืองทอง น้ำที่หมักไก่ เอามาทำกับข้าวได้อีกนา เอาไปใส่พวดผัดๆก็อร่อย จริงๆแล้วไม่รู้ว่า KFC เค้าใส่อะไรในแป้งตั้ง 18 ชนิด ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า มันจะมีเครื่องเทศอะไรนักหนาตั้ง 18 อย่าง เวลากินไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย เอาแค่นี้ก็อร่อยถมถืด

ชช ช้อนชา
ชต ช้อนโต๊ะ
ถ้วย ถ้วยตวง ไม่ใช่ถ้วยน้ำพริก

จากคุณ : skybrigde



สินค้าของ kfc ต้องผ่านการ marinate วิธีการคือหลังจากการเชือดให้เก็บไก่ทั้งตัว ไว้ที่อุณหภูมิ 2องศา เป็นเวลา 18 ชม. เพื่อที่จะให้เอ็มไซร์จากกระดูกสันหลังของไก่ ออกมาย่อยเนื้อ แล้วค่อยเอาไปชำแหละแล้ว freeze จึงจัดส่ง สังเกตุใด้ว่าไก่ kfc หลังจกาสุกแล้วจะนุ่มไม่แห้ง

จากคุณ : khunden

Read More...


หมอนหน้าคน ไอเดียดี เงินดี

 หมอนหน้าคน

งานแฮนด์เมด งานฝีมือ เป็นงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ หากผลิตงานออกมาในรูปแบบที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง และมีจุดเด่นที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี ก็จะเป็นสินค้าที่ทำเงินได้ดี อย่างงาน หมอนหน้าคน ที่นำใบหน้าคนมาออกแบบให้เป็นแนวการ์ตูนแล้วใช้ทำเป็นหมอน นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง ช่องทางทำกิน ที่น่าสนใจ

ชัยยุทธ์ ประจันทา เจ้าของผลงาน หมอนหน้าคน ภายใต้แบรนด์ hug me เล่าว่า เดิมทีเดียวตนและภรรยาทำงานเป็นพนักงานบริษัท หลังจากที่ทำงานรับเงินเดือนประจำอยู่นานก็เริ่มรู้สึกเบื่องานประจำ อยากทำอาชีพอิสระเป็นของตัวเอง จึงตัดสินใจลาออกจากงานทั้ง 2 คน พร้อมกัน หลังจากนั้นก็ลงทุนซื้อเสื้อผ้าไปขายตามตลาดนัดตามที่ต่าง ๆ แต่เริ่มอาชีพพ่อค้าขายเสื้อผ้าได้ไม่นานก็ต้องเลิกทำ เพราะรายได้จากการขายของนั้นไม่คุ้มกับค่ารถที่ต้องใช้เดินทางไปขายตามตลาดนัดในแต่ละวัน

พอไม่ได้ทำอาชีพพ่อค้าแล้ว ก็เริ่มมองหาอาชีพอื่น ซึ่งต้องเป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ ชัยยุทธ์เล่า พร้อมทั้งบอกต่อไปว่า ในที่สุดเขาก็เลือกการเย็บตุ๊กตาหมีขาย หลังจากได้ไปเห็นเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเสื้อผ้าที่มีสีสันสวยงาม จึงลองนำมาทำเป็นตุ๊กตาหมี ซึ่งก็ไม่เคยเย็บตุ๊กตามาก่อน อาศัยศึกษาวิธีการเย็บ การทำแพตเทิร์นจากอินเทอร์เน็ต ฝึกหัดอยู่ระยะหนึ่งก็ทำได้สำเร็จ และเย็บตุ๊กตาหมีจำหน่ายอยู่ระยะหนึ่ง

สำหรับ งานหมอนหน้าคน นั้น เริ่มมาจากเพื่อนของภรรยาที่ไม่อยากได้ตุ๊กตาหมี แต่อยากได้ภาพของตนเองที่ออกเป็นแนวการ์ตูนมากกว่า จึงมาทดลองทำโดยการวาดรูปหน้าคนให้ออกเป็นแนวการ์ตูนล้อเลียน แล้วนำมาเย็บทำเป็นหมอน จนกลายมาเป็นหมอนรูปหน้าคน ที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง


 หมอนหน้าคน
พอเพื่อนของภรรยาเอาไปไว้ในรถ คนที่ได้เห็นก็ชื่นชอบ ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่แรก ๆ ก็ยังเพิ่มไม่มาก จนหลังจากได้เข้าไปประกวดงานแฮนด์เมดและได้รางวัลติด 1 ใน 10 งานแฮนด์เมด ได้เงินรางวัลมา 10,000 บาท จึงมีคนรู้จักมากขึ้น เริ่มมีออร์เดอร์เข้ามามากขึ้น จึงยึดเป็นอาชีพหลักจริงจังมาจนถึงปัจจุบัน

อุปกรณ์ ที่ใช้ทำ หมอนหน้าคน หลัก ๆ มีดังนี้ คือ ผ้าขนนุ่ม, ผ้าสักหลาด, เข็มเย็บผ้า, ด้าย, ใยสังเคราะห์, กระดาษสำหรับทำแพตเทิร์น, ดินสอ, คอมพิวเตอร์, เครื่องพรินเตอร์, จักรเย็บผ้า

ผ้าขนนุ่มที่ใช้มี 3 สี คือ สีขาว สำหรับทำส่วนใบหน้า สีดำ สีน้ำตาล จะใช้ทำเป็นผม ส่วนผ้าสักหลาดนั้นไว้ทำ ตา คิ้ว ปาก ใยสังเคราะห์ที่ใช้ยัดหมอนนั้นก็จะใช้เกรดดี เพื่อที่หมอนจะนิ่ม สำหรับจักรเย็บผ้า ถ้ายังไม่มีทุนก็สามารถใช้การเย็บมือแทนได้ โดยหมอนหน้าคนนั้นจะมีความยากตรงการทำแบบให้ลูกค้าชอบ

ขั้นตอนการทำหมอนหน้าคน

เริ่มจากนำรูปของลูกค้าที่ส่งมาให้ไปทำการวาดออกแบบใบหน้า ให้ออกเป็นแนวการ์ตูนล้อเลียน แต่ยังคงเค้าโครงหน้าลูกค้าไว้ ขนาดให้ใหญ่ไม่เกินกระดาษ A2 หลังจากที่ออกแบบเรียบร้อยแล้วก็ส่งไปให้ลูกค้าดูว่าถูกใจหรือไม่ ถ้าไม่ถูกใจก็ให้ลูกค้าปรับแก้ได้ แต่จะไม่ให้แก้ไขเกินกว่า 3 ครั้ง

หลังจากได้รูปแบบที่ต้องการแล้ว จากนั้นก็พรินต์รูปออกมาบนกระดาษที่เป็นแพตเทิร์น แล้วนำแบบไปทาบลงบนผ้าสีดำหรือสีน้ำตาล ใช้ชอล์กขีดผ้าวาดตามแบบแพตเทิร์น ใช้กรรไกรตัดตามแบบที่วาดไว้ แต่ต้องตัดห่างจากเส้นที่ขีดไว้ประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ไว้สำหรับเย็บ ก็จะได้เป็นส่วนด้านหลัง ส่วนด้านหน้าที่เป็นส่วนผมก็ใช้ผ้าดำหรือน้ำตาลตัดตามแบบ ตรงส่วนหน้าคนก็ใช้ผ้าขาว จากนั้นก็นำมาเย็บต่อกัน

เมื่อได้แบบ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ก็นำผ้าส่วนที่เป็นขนนุ่มมาประกบกันให้แนวขนของผ้าลงด้านล่าง และทำการเย็บตามรอยชอล์กที่ขีดไว้ เย็บให้เหลือช่องไว้ กะประมาณให้สามารถเอามือล้วงเพื่อยัดใยสังเคราะห์ได้ เย็บเสร็จก็กลับให้ด้านในออกมาด้านนอก แล้วทำการยัดใยสังเคราะห์จนแน่นพอประมาณ ทำการเย็บปิดช่องด้วยมือให้เรียบร้อย ซึ่งหมอนที่ยัดใยสังเคราะห์ออกมาจะมีน้ำหนักประมาณ 1-1.5 กิโลกรัม

 หมอนหน้าคน
ขั้นตอนต่อไป ก็วาดแบบของคิ้ว ตา ปาก ลงบนผ้าสักหลาด ตัดตามแบบแล้วนำมาเย็บติดลงบนใบหน้าด้วยมือ เวลาเย็บให้เย็บแบบเก็บซ่อนด้ายให้เรียบร้อย เย็บคิ้ว ตา ปาก เสร็จแล้วก็ใช้แปรงและกระดาษกาวทำความสะอาดเอาฝุ่นผ้าออกให้เรียบร้อย ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน พร้อมขาย

ราคา หมอนหน้าคน ของชัยยุทธ์ คือ 550 บาท ถ้าสั่งส่งทางไปรษณีย์ก็บวกค่าส่งอีก 100 บาท

ชัยยุทธ์นั้นไม่ต้องมีหน้าร้านแต่ก็สามารถขายสินค้าได้โดยผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งใครที่สนใจสินค้าชนิดนี้สามารถเข้าไปดูแบบงานได้ที่เว็บไซต์ www. hugme4U.com หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-9453-7870 ทั้งนี้ งานรูปแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง ช่องทางทำกิน ที่น่าพิจารณา

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


พิซซ่าญี่ปุ่น สไตล์คนไทย

Written by Administrator   
พิซซ่าญี่ปุ่น
อาหารญี่ปุ่นตอนนี้ก็ยังบูมในบ้านเรา ร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ระดับบนลงล่าง ตั้งแต่ภัตตาคาร ร้านอาหาร รถเข็น ตลาดนัด ฯลฯ และรูปแบบอาหาร ก็มีมากมาย ทั้งอาหารหลัก ขนม เครื่องดื่ม มีการพัฒนาปรับปรุงกันออกมาเรื่อย ๆ เพื่อให้ถูกใจลูกค้าคนไทย ทั้งหน้าตา รสชาติ ซึ่งแต่ละร้านต่างก็มีจุดขายที่แตกต่างกัน และวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน ก็มีข้อมูลมานำเสนออีกหนึ่งรูปแบบ กับ พิซซ่าญี่ปุ่น

ไชยวัฒน์ สุนทรโรจน์พัฒนา หรือ เชฟไชยวัฒน์ เปิดร้านบะหมี่สายรุ้ง อยู่ที่สี่แยกภาสยา ซอยงามวงศ์วาน 74 แยก 42 เจ้าตัวบอกว่า เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นมาปีกว่า ๆ ได้แล้ว ซึ่งถือว่ายังพอไปไหว เพราะอยู่ย่านที่มีนักศึกษา มีประชาชน มีคนทำงานมาทานกันได้ไม่ลำบาก ซึ่งที่ร้านก็มีอาหารมากมายหลายอย่าง อาทิ ราเมง หรือบะหมี่ญี่ปุ่น ข้าวแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า ยากิโซะบะ อุด้ง วาฟเฟิล สาคูแคนตาลูป ฯลฯ

เชฟไชยวัฒน์บอกว่า ส่วนตัวมีฝีมือทางการทำอาหารอยู่แล้ว และเมื่อหลายปีก่อนตนไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ญี่ปุ่น เมื่ออยู่บ้านเพื่อน ก็ไม่มีอะไรทำ ก็ทำกับข้าว ทำอาหารให้เพื่อนกิน ซึ่งเพื่อนก็เห็นว่าหน่วยก้านดีมีฝีมือ ก็เลยฝากงานเชฟที่ร้านอาหารญี่ปุ่นให้ทำ อยู่ไปอยู่มาก็ 2 ปีพอดี โดยทำงานในเมืองโอซาก้า และโตเกียว จนเมื่อกลับมาเมืองไทยก็มองหางานที่เมืองไทย ซึ่งก็อยากทำอาหารญี่ปุ่นที่ตนเองถนัด หาทำเลใกล้บ้าน ซึ่งเป็นทำเลที่ดี สะดวกในการเดินทางสำหรับทุกคน และก็มาลงตัวที่ร้านที่ทำอยู่ทุกวันนี้

นอกจากบะหมี่สายรุ้ง หรือบะหมี่ 7 สี ที่เป็นจุดขายของร้านแล้ว ก็ยังมี พิซซ่าญี่ปุ่น ที่เป็นอาหารว่าง อาหารทานเล่น ซึ่งก็ได้รับนิยมไม่แพ้กัน และวันนี้คอลัมน์ ช่องทางทำกิน ก็จะนำเสนอ
พิซซ่าญี่ปุ่นนี้ เชฟไชยวัฒน์บอกว่า แบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่น คือแป้งต้องหนา และนุ่ม ส่วนความชอบของคนไทย คือแป้งต้องบาง กรอบ ซึ่งตนนั้นต้องมาปรับใหม่หมดเลย เพื่อให้เข้ากับความนิยมของคนไทย


พิซซ่าญี่ปุ่น

 

การทำพิซซ่าญี่ปุ่น

อุปกรณ์ เป็นอุปกรณ์ทำครัวหรืออุปกรณ์ร้านอาหารปกติทั่วไป อาทิ เตาแก๊ส กระทะเทปล่อน กะละมังคลุกแป้ง ทัพพี กะละมังต่าง ๆ ฯลฯ

ส่วนผสมของพิซซ่าญี่ปุ่น จำนวน 1 ชิ้นนั้น มี แป้งสาลี 250 กรัม, นมสด 100 กรัม, ไข่ไก่ 1 ฟอง, น้ำซุป 120 กรัม และขิงดอง 100 กรัม นอกจากนี้ก็มีผัดสด อย่าง แครอท และกะหล่ำปลีซอย โดยวิธีทำ คือ ให้นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในกะละมังสำหรับคลุก ซึ่งจะเป็นกะละมังสเตนเลส หรือกะละมังพลาสติกก็ได้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน และเติมผัดสดลงไป มากน้อยตามใจชอบ คลุกเคล้าให้แป้งนั้นเหนียว เท่านี้ก็ใช้ได้

ขั้นต่อไปนำไปทอดในกระทะเทปล่อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว ซึ่งใส่น้ำมันอยู่พอประมาณ ตักแป้งลงไปในกระทะประมาณ 1 ทัพพีใหญ่ และใช้ตะหลิวแบบแบน ๆ ปาดให้แป้งนั้นเป็นรูปวงกลมเท่าขนาดของกระทะ ไม่หนามาก ใช้ไฟร้อนปานกลาง เมื่อน้ำมันร้อนแล้ว แป้งจะพลอยสุกไปด้วย กลับแป้งทอดไปมา จะใช้ลีลาแบบโยนทอดไปด้วยก็ได้ จนแป้งเหลืองกรอบ ก็เป็นอันใช้ได้

ลำดับถัดมานำแป้งที่ทอดได้วางลงใส่จาน ตัดแบ่งแป้งออกเป็น 8 ชิ้น ในขนาดเท่า ๆ กัน โรยหน้าด้วยงาดำ-งาขาวคั่ว, สาหร่าย, ปลาแห้ง (ปลาโอ) และซอสมายองเนส ซึ่งพิซซ่าญี่ปุ่นตามที่ว่ามานี้ เชฟไชยวัฒน์บอกว่า เป็นหน้าธรรมดา และยังมีพิซซ่าอีก 3 หน้าคือ ไส้กรอก, ปูอัด, เบคอน โดยจะใส่ตอนที่ทอดแป้งพิซซ่าอยู่

พิซซ่าญี่ปุ่น
สนนราคาขายอยู่ที่ 35-50 บาทต่อชิ้น ซึ่งมีต้นทุนต่อชิ้นประมาณ 30 บาทขึ้นไป
เวลาทานพิซซ่าญี่ปุ่นจะทานควบคู่กับซอสทงคัตสึ แต่จะต้องเติมผสมน้ำซุปลงไปในซอสด้วย ในอัตราส่วน 60 : 40 คือ ซอสทงคัตสึ 60% และน้ำซุป 40%

ทั้งนี้ ทางร้านนี้ยังแนะนำเมนูของว่างอีกอย่างคือ ราเมง ช็อกโกแลต ซึ่งเป็นการดัดแปลงบะหมี่มาเป็นของหวาน วิธีทำเริ่มต้นที่การทำบะหมี่ ใช้แป้งสาลี 500 กรัม ไข่ไก่ 4 ฟอง และผงช็อกโกแลต 30 กรัม นวดให้เข้ากันด้วยมือ จากนั้นให้นำไปคลึงให้เป็นแผ่น หรือถ้ามีเครื่องรีดแผ่นบะหมี่ก็ใช้เครื่องรีดแผ่นก็ได้ แล้วนำเข้าเครื่องตัดเส้น จากนั้นแบ่งบะหมี่เป็นก้อน ๆ ละ 50 กรัม เมื่อจะขายก็ลวกเส้นบะหมี่ให้สุกก่อน แล้วจับให้เส้นเป็นก้อนกลม แต่งด้วยไอศกรีมช็อกโกแลต, ครีมนม, วิปปิ้งครีม และเม็ดเจลลี่ ขายในราคาชุดละ 40 บาท

เชฟไชยวัฒน์เปิดร้านบะหมี่สายรุ้งอยู่ที่สี่แยกภาสยา ซอยงามวงศ์วาน 74 แยก 42 เยื้องเซเว่นอีเลฟเว่น หมายเลขโทรศัพท์ 08-7919-9393 ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. ใครสนใจพิสูจน์ พิซซ่าญี่ปุ่น และราเมงช็อกโกแลต ก็ลองแวะไปได้ ทั้งนี้ เมนูอาหารญี่ปุ่นนั้น บางทีฝึกทำเพียง 1-2 อย่าง ก็อาจจะสามารถทำขายเป็นอาชีพได้ ก็ลองพิจารณากันดู

คู่มือลงทุน พิซซ่าญี่ปุ่น
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 30 บาทขึ้นไป / ชิ้น
รายได้ ขายราคา 35-50 บาท / ชิ้น
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านอาหาร, ย่านที่มีกำลังซื้อสูง
จุดน่าสนใจ หลาย ๆ ย่านยังไม่มีคนทำขาย


ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


พิซซ่าญี่ปุ่นฝึกทำขายได้ไม่ยุ่งยาก


"อาหารญี่ปุ่นตอนนี้ก็ยังบูมในบ้านเรา ร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ระดับบนลงล่าง ตั้งแต่ภัตตาคาร ร้านอาหาร รถเข็น ตลาดนัด ฯลฯ และรูปแบบอาหาร ก็มีมากมาย ทั้งอาหารหลัก ขนม เครื่องดื่ม มีการพัฒนาปรับปรุงกันออกมาเรื่อย ๆ เพื่อให้ถูกใจลูกค้าคนไทย ทั้งหน้าตา รสชาติ ซึ่งแต่ละร้านต่างก็มีจุดขายที่แตกต่างกัน และวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลมานำเสนออีกหนึ่งรูปแบบ กับ “พิซซ่าญี่ปุ่น”

@@@
   
ไชยวัฒน์ สุนทรโรจน์พัฒนา หรือ เชฟไชยวัฒน์ เปิดร้านบะหมี่สายรุ้ง อยู่ที่สี่แยกภาสยา ซอยงามวงศ์วาน 74 แยก 42 เจ้าตัวบอกว่า เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นมาปีกว่า ๆ ได้แล้ว ซึ่งถือว่ายังพอไปไหว เพราะอยู่ย่านที่มีนักศึกษา มีประชาชน มีคนทำงานมาทานกันได้ไม่ลำบาก ซึ่งที่ร้านก็มีอาหารมากมายหลายอย่าง อาทิ ราเมง หรือบะหมี่ญี่ปุ่น ข้าวแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า ยากิโซะบะ อุด้ง วาฟเฟิล สาคูแคนตาลูป ฯลฯ
   
 เชฟไชยวัฒน์บอกว่า ส่วนตัวมีฝีมือทางการทำอาหารอยู่แล้ว และเมื่อหลายปีก่อนตนไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ญี่ปุ่น เมื่ออยู่บ้านเพื่อน ก็ไม่มีอะไรทำ ก็ทำกับข้าว ทำอาหารให้เพื่อนกิน ซึ่งเพื่อนก็เห็นว่าหน่วยก้านดีมีฝีมือ ก็เลยฝากงานเชฟที่ร้านอาหารญี่ปุ่นให้ทำ อยู่ไปอยู่มาก็ 2 ปีพอดี โดยทำงานในเมืองโอซาก้า และโตเกียว จนเมื่อกลับมาเมืองไทยก็มองหางานที่เมืองไทย ซึ่งก็อยากทำอาหารญี่ปุ่นที่ตนเองถนัด หาทำเลใกล้บ้าน ซึ่งเป็นทำเลที่ดี สะดวกในการเดินทางสำหรับทุกคน และก็มาลงตัวที่ร้านที่ทำอยู่ทุกวันนี้
   
นอกจากบะหมี่สายรุ้ง หรือบะหมี่ 7 สี ที่เป็นจุดขายของร้านแล้ว ก็ยังมี “พิซซ่าญี่ปุ่น” ที่เป็นอาหารว่าง อาหารทานเล่น ซึ่งก็ได้รับนิยมไม่แพ้กัน และวันนี้คอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” ก็จะนำเสนอ
   
พิซซ่าญี่ปุ่นนี้ เชฟไชยวัฒน์บอกว่า แบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่น คือแป้งต้องหนา และนุ่ม ส่วนความชอบของคนไทย คือแป้งต้องบาง กรอบ ซึ่งตนนั้นต้องมาปรับใหม่หมดเลย เพื่อให้เข้ากับความนิยมของคนไทย
   
การทำพิซซ่าญี่ปุ่นนั้น ในส่วนของอุปกรณ์ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก เป็นอุปกรณ์ทำครัวหรืออุปกรณ์ร้านอาหารปกติทั่วไป อาทิ เตาแก๊ส กระทะเทปล่อน กะละมังคลุกแป้ง ทัพพี กะละมังต่าง ๆ ฯลฯ
   
ส่วนผสมของพิซซ่าญี่ปุ่น จำนวน 1 ชิ้นนั้น มี แป้งสาลี 250 กรัม, นมสด 100 กรัม, ไข่ไก่ 1 ฟอง, น้ำซุป 120 กรัม และขิงดอง 100 กรัม นอกจากนี้ก็มีผัดสด อย่าง แครอท และกะหล่ำปลีซอย โดยวิธีทำ คือ ให้นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในกะละมังสำหรับคลุก ซึ่งจะเป็นกะละมังสเตนเลส หรือกะละมังพลาสติกก็ได้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน และเติมผัดสดลงไป มากน้อยตามใจชอบ คลุกเคล้าให้แป้งนั้นเหนียว เท่านี้ก็ใช้ได้
   
ขั้นต่อไปนำไปทอดในกระทะเทปล่อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว ซึ่งใส่น้ำมันอยู่พอประมาณ ตักแป้งลงไปในกระทะประมาณ 1 ทัพพีใหญ่ และใช้ตะหลิวแบบแบน ๆ ปาดให้แป้งนั้นเป็นรูปวงกลมเท่าขนาดของกระทะ ไม่หนามาก ใช้ไฟร้อนปานกลาง เมื่อน้ำมันร้อนแล้ว แป้งจะพลอยสุกไปด้วย กลับแป้งทอดไปมา จะใช้ลีลาแบบโยนทอดไปด้วยก็ได้ จนแป้งเหลืองกรอบ ก็เป็นอันใช้ได้
   
ลำดับถัดมานำแป้งที่ทอดได้วางลงใส่จาน ตัดแบ่งแป้งออกเป็น 8 ชิ้น ในขนาดเท่า ๆ กัน โรยหน้าด้วยงาดำ-งาขาวคั่ว, สาหร่าย, ปลาแห้ง (ปลาโอ) และซอสมายองเนส ซึ่งพิซซ่าญี่ปุ่นตามที่ว่ามานี้ เชฟไชยวัฒน์บอกว่า เป็นหน้าธรรมดา และยังมีพิซซ่าอีก 3 หน้าคือ ไส้กรอก, ปูอัด, เบคอน โดยจะใส่ตอนที่ทอดแป้งพิซซ่าอยู่
   
สนนราคาขายอยู่ที่ 35-50 บาทต่อชิ้น ซึ่งมีต้นทุนต่อชิ้นประมาณ 30 บาทขึ้นไป
   
เวลาทานพิซซ่าญี่ปุ่นจะทานควบคู่กับซอสทงคัตสึ แต่จะต้องเติมผสมน้ำซุปลงไปในซอสด้วย ในอัตราส่วน 60 : 40 คือ ซอสทงคัตสึ 60% และน้ำซุป 40%
   
ทั้งนี้ ทางร้านนี้ยังแนะนำเมนูของว่างอีกอย่างคือ “ราเมง ช็อกโกแลต” ซึ่งเป็นการดัดแปลงบะหมี่มาเป็นของหวาน วิธีทำเริ่มต้นที่การทำบะหมี่ ใช้แป้งสาลี 500 กรัม ไข่ไก่ 4 ฟอง และผงช็อกโกแลต 30 กรัม นวดให้เข้ากันด้วยมือ จากนั้นให้นำไปคลึงให้เป็นแผ่น หรือถ้ามีเครื่องรีดแผ่นบะหมี่ก็ใช้เครื่องรีดแผ่นก็ได้ แล้วนำเข้าเครื่องตัดเส้น จากนั้นแบ่งบะหมี่เป็นก้อน ๆ ละ 50 กรัม เมื่อจะขายก็ลวกเส้นบะหมี่ให้สุกก่อน แล้วจับให้เส้นเป็นก้อนกลม แต่งด้วยไอศกรีมช็อกโกแลต, ครีมนม, วิปปิ้งครีม และเม็ดเจลลี่ ขายในราคาชุดละ 40 บาท

@@@
   
เชฟไชยวัฒน์เปิดร้านบะหมี่สายรุ้งอยู่ที่สี่แยกภาสยา ซอยงามวงศ์วาน 74 แยก 42 เยื้องเซเว่นอีเลฟเว่น หมายเลขโทรศัพท์ 08-7919-9393 และ 08-9828-3939 ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. ใครสนใจพิสูจน์ “พิซซ่าญี่ปุ่น” และราเมงช็อกโกแลต ก็ลองแวะไปได้ ทั้งนี้ เมนูอาหารญี่ปุ่นนั้น บางทีฝึกทำเพียง 1-2 อย่าง ก็อาจจะสามารถทำขายเป็นอาชีพได้ ก็ลองพิจารณากันดู.

@@@ คู่มือลงทุน พิซซ่าญี่ปุ่น @@@

ทุนอุปกรณ์     ประมาณ    10,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ    ประมาณ 30 บาทขึ้นไป / ชิ้น
รายได้    ขายราคา 35-50 บาท / ชิ้น
แรงงาน    1-2 คนขึ้นไป
ตลาด    ย่านอาหาร, ย่านที่มีกำลังซื้อสูง
จุดน่าสนใจ    หลาย ๆ ย่านยังไม่มีคนทำขาย

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : เรื่อง-ภาพ

Read More...


เครปเค้ก-คัพเค้ก ทำขายรับปีใหม่..ไม่ยาก

ใกล้เทศกาลปีใหม่เข้ามาทุกที ซึ่งเทศกาลปีใหม่เป็นเทศกาลมอบของฝาก-ของขวัญ และขนม-เบเกอรี่ก็นิยมใช้เป็นของขวัญ คนทำขายจึงมีรายได้ดีในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ทางทีมงาน “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการทำเบเกอรี่ การทำ “เครปเค้ก” และ “คัพเค้ก” มานำเสนอให้ลองพิจารณากัน...
วรจันทร์ จันทร์แสนตอ หรือ หน่อย เป็นเจ้าของร้านสุขอุราคาเฟ่ ย่านถนนเฟื่องนคร หลังกระทรวงมหาดไทย (คลองหลอด) เจ้าตัวเล่าว่า “เครปเค้ก” เป็นหนึ่งขนมที่ขายดีของร้าน ราคาไม่แพง และอิ่มท้อง ประกอบด้วยแป้งเครปเรียงกันถึง 12 ชั้น ซึ่งเหมาะที่จะทานกับชา กาแฟ และเครื่องดื่มอื่น ๆ และยังเหมาะที่จะใช้เป็นของฝากในโอกาส หรือในช่วงเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงเทศกาลปีใหม่

อุปกรณ์ในการทำเครปเค้กนั้น วรจันทร์บอกว่า ไม่มีอะไรยุ่งยาก ใช้เพียงอุปกรณ์เบเกอรี่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น อาทิ กะละมัง ตะกร้อตีแป้ง เตาไฟฟ้า กระทะเทปล่อน และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ

ส่วนผสมเครปเค้ก ในส่วนของ ตัวแป้ง ตามสูตรก็มีแป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม, น้ำตาลทราย 30 กรัม, เกลือ 1/4 ช้อนชา, ไข่ไก่ 3 ฟอง, นมสด 400 มิลลิกรัม, เนยละลาย 20 กรัม


วิธีทำ ร่อนแป้ง แล้วนำส่วนผสม น้ำตาล เกลือ ผสมลงไป ค่อย ๆ ใส่ไข่ทีละฟอง และใส่นมสด ตามด้วยเนยละลาย ใช้ตะกร้อมือ หรือโถผสม ตีผสมจนเข้ากันดี เนื้อแป้งไม่เป็นเม็ด ก็เป็นอันใช้ได้
ตั้งกระทะบนเตาไฟฟ้า ใช้กระทะเทปล่อน ขนาด 8 นิ้ว เมื่อกระทะร้อน ค่อย ๆ ตักแป้งลงไปในกระทะประมาณ 1 ทัพพี รีบยกกระทะร่อนไปมา เพื่อให้แป้งไหลไปไหลมาจนเต็มกระทะ เมื่อแป้งสุก ให้กลับแป้งอีกด้านหนึ่ง เสร็จแล้วยกขึ้น ทำแบบนี้ประมาณ 12 ชิ้น ซึ่งจะคล้าย ๆ กับแผ่นโรตี แต่เป็นแป้งเครปที่นิ่ม ๆ
ต่อมาทำ วิปปิ้งครีม ตีครีมในอัตราส่วน 1 : 1 คือวิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง และน้ำ 1 ถ้วยตวง โดยระหว่างที่ตีวิปปิ้งครีม ให้เติมกลิ่นวานิลลาลงไปด้วยพอประมาณ

ขั้นตอนการทำเป็น “เครปเค้ก” วางแผ่นเครปนิ่ม ๆ ลงบนภาชนะแบน จากนั้นตักวิปปิ้งครีมใส่ลงบนแผ่นเครปนิ่มพอประมาณ ปาดให้ทั่วแผ่น จากนั้นจึงวางแผ่นเครปลงไปบนชั้นของวิปปิ้งครีม และทาวิปปิ้งครีมลงไปอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งครบ 12 แผ่น

จากนั้นผ่าเครปเค้กให้ได้ 8 ชิ้น ซึ่งในการตกแต่งหน้าเครปเค้กนั้น จะทำทีละชิ้น ซึ่งทำได้ง่าย ๆ โดยการราดซอสผลไม้ต่าง ๆ ลงไปบนหน้า อย่างเช่นสตรอเบอรี่ซอส ซึ่งซอสผลไม้นี้จะทำเองก็ได้ หรือจะซื้อแบบสำเร็จรูปมาใช้ก็ได้ ทั้งนี้ ต้นทุนต่อเครปเค้ก 1 ก้อนใหญ่นั้น อยู่ที่ประมาณ 250 บาท หรือประมาณไม่เกิน 32 บาทต่อชิ้น ซึ่งสามารถตั้งราคาขายได้ที่ชิ้นละ 50 บาท หรือแล้วแต่ทำเลของร้าน

ต่อด้วยเบเกอรี่ที่น่าขายอีกอย่างในเทศกาลปีใหม่ คือ “คัพเค้ก” ซึ่งการทำคัพเค้ก 40 ถ้วย มีส่วนผสมดังนี้คือ แป้งเค้ก 300 กรัม, เนย 200 กรัม, น้ำตาล 220 กรัม, ผงฟู 20 กรัม, เกลือป่น 1/2 ช้อนชา, ครีมข้น 120 กรัม, ไข่ไก่ 7 ฟอง, เอสพี 15 กรัม, นมสด 300 กรัม




วิธีทำ ร่อนแป้ง เกลือ และผงฟูให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ ตีส่วนผสมให้เข้ากัน โดยใช้เครื่องตี หรือจะใช้ตะกร้อมือตีก็ได้ จากนั้นค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทราย, ไข่ไก่, เนย, นมสด, เอสพี, ครีมข้น ลงไปตีผสมให้เข้ากัน เท่านี้เป็นอันเรียบร้อย เป็นแป้งที่พร้อมใช้ในขั้นต่อไป

เตรียมพิมพ์ขนม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร หยอดแป้งลงไปประมาณ 3/4 ของถ้วย นำเข้าเตาอบนาน 25 นาที อบที่ความร้อน 180 องศา เท่านี้เป็นอันใช้ได้

จากนั้นจึงแต่งหน้าคัพเค้กด้วย บัตเตอร์ครีม ซึ่งประกอบด้วยการตีเนยสด 300 กรัม ผสมกับเนยขาว 200 กรัม, นมข้นหวาน 2 กระป๋อง และกลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา การแต่งหน้าคัพเค้กก็บีบบัตเตอร์ครีมจากกรวยแต่งหน้า ลงบนหน้าคัพเค้ก แล้วแต่งหน้าเพิ่มอีกทีด้วยลูกชุบ ทองหยอด หรือฝอยทองก็ได้ เท่านี้ก็ขายได้ราคา 35 บาทต่อถ้วย หรือแล้วแต่ทำเลร้าน ซึ่งจะมีต้นทุนต่อถ้วยประมาณ 15 บาท


เบเกอรี่ทั้ง 2 อย่างนี้ทำได้ไม่ยาก และลงทุนไม่สูงมากนัก ซึ่งใครจะลองทำขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้มาถึงก็ต้องรีบฝึกฝีมือกันด่วน ส่วนร้านสุขอุราคาเฟ่ของหน่อย-วรจันทร์ อยู่ที่เลขที่ 39 ถนนเฟื่องนคร แขวงวังบูรพา เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร.0-2622-0487 เปิดขายวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 09.00-19.00 น.

http://www.dailynews.co.th  สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : เรื่อง-ภาพ

Read More...


ใครอยากทำวุ้นกะทิ-วุ้นลาย เชิญทางนี้เลยเรามีวิธีทำมาบอกจร้าาา…

 
เงินลงทุน : ประมาณ 3,000 บาท

รายได้ : วุ้นหน้ากะทิ 40 บาท/40 ถ้วย วุ้นลาย 100 บาท/20 ถ้วยวัสดุ/อุปกรณ์ : เตาแก๊ส กะละมังสแตนเลส ไม้พาย ถาด ถ้วยพิมพ์วุ้นพลาสติก ผ้าขาวบาง ช้อนตวง ถ้วยตวง ถ้วยพลาสติกที่มีปากเท กระชอนอะลูมิเนียมแบบมีรูส้อม แบบพิมพ์วุ้นอะลูมิเนียมขนาดกลาง

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ : ร้านขายวัสดุอุปกรณ์ทำขนมทั่วไป ย่านเวิ้งนาครเขษม

ส่วนผสมวุ้น :
- ผงวุ้นตรานางเงือก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
- น้ำใบเตย/น้ำหวานเขียว ½ ถ้วยตวง



vunkati01


วิธีทำ :
1. ตั้งกะละมังสแตนเลส ใช้ไฟกลาง เทน้ำและผงวุ้นลงไป ใช้ไม้พายคนไปเรื่อย ๆจนน้ำเดือด จึงใส่ น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนละลาย


2. ยกกะละมังขึ้น กรองน้ำวุ้นด้วยผ้าขาวบาง เพื่อเอาเศษผงวุ้นและเศษน้ำตาลทรายออกไป นำไปตั้งไฟอีกครั้งใส่น้ำใบเตย/น้ำหวานเขียวลงไปเคี่ยวจนเดือด แล้วเทใส่ถ้วยพลาสติกที่มีปากเทเรียงถ้วยพิมพ์วุ้นพลาสติกใบเล็กประมาณ 80 ถ้วย เทน้ำวุ้น ลงในถ้วยประมาณ ½ ถ้วย ทิ้งไว้ให้วุ้น “ตึงตัว” (ไม่นิ่มหรือแข็งเกินไป) แล้วจึงเทหน้ากะทิลงไป ตั้งทิ้งไว้ให้แข็งตัวเป็นวุ้นหน้ากะทิ สามารถนำออกจำหน่าย

ส่วนผสมหน้ากะทิ :
- ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
- เกลือแกง 1 ช้อนชา
- หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง


วิธีทำ :
1. ตั้งกะละมังสแตนเลสใช้ไฟกลางใส่น้ำและผงวุ้นใช้ไม้พายคนให้ละลายเข้ากันจนน้ำเดือด เติมน้ำตาลทรายและเกลือแกง เคี่ยวจนเดือดอีกครั้ง


2. ยกขึ้นนำไปกรองด้วยผ้าขาวบางก่อนนำไปตั้งไฟอีกครั้งใส่หัวกะทิลงไปผสมเคี่ยวจนเดือดแล้วยกขึ้นเทใส่ถ้วยพลาสติกแบบมีปาก นำไปเทใส่วุ้นที่เริ่มตึงตัวในถ้วยพลาสติก

ส่วนผสมวุ้นลาย :
- ผงวุ้นตรานางเงือก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- น้ำใบเตย/น้ำหวานเขียว ½ ถ้วยตวง



vunkati02


วิธีทำ :
1. ตั้งกะละมังใช้ไฟกลางเทน้ำและผงวุ้นลงไป ใช้ไม้พายคนจนผงวุ้นละลายใส่
น้ำตาลทรายและน้ำใบเตย/น้ำหวานเขียว คนจนน้ำเดือดจัด

2. ตอกไข่ไก่ใช้ส้อมตีให้แตกเทไข่ลงบนกระชอนอะลูมิเนียมแบบมีรู โรยไข่ลงในกะละมังเหมือนการโรยฝอยทองจนหมด ยกขึ้นเทใส่ถ้วยพลาสติกที่มีปากเท (ขั้นตอนนี้ น้ำในกะละมังต้องเดือดจัด มิฉะนั้นไข่จะเหม็นคาว)

3. เรียงตัวพิมพ์อะลูมิเนียมขนาดกลางรูปร่างต่าง ประมาณ 20 ตัว เทวุ้นลงในพิมพ์ ตั้งทิ้งไว้ให้วุ้นแข็งตัว 10-15 นาที แล้วใช้ไม้จิ้มฟันค่อย ๆ แคะตัววุ้นออกมา นำไปจำหน่าย

ตลาด/แหล่งจำหน่าย : ทำขายเองที่บ้าน/ตลาด/แหล่งชุมชน ทำส่งร้านค้า/มินิมาร์ท

สถานที่ฝึกอบรม : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร. 0-2942-8200-45 ต่อ 2037-8

ข้อแนะนำ :
1. ทุกขั้นตอน ต้องใช้ไม้พายคนไปเรื่อย ๆ จนเดือด หากไม่คน วุ้นจะติดกันเป็นก้อน
2. หากทำเป็นวุ้นมะพร้าวอ่อน ใช้น้ำมะพร้าวแทนน้ำ พร้อมกับใส่เนื้อมะพร้าวชิ้นเล็ก ๆ ลงไปด้วย



Read More...


สูตร(ไม่)ลับในการทำกล้วยอบเนย

 
 
เงินลงทุน : ประมาณ 5,000 บาท

วัสดุ/อุปกรณ์ : กระทะใบบัว ตะแกรงลวด กะละมัง ที่ไสกล้วย เครื่องชั่ง ถังน้ำหรือโอ่งน้ำ ตะหลิว ทัพพี มีด กระด้ง เตา ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ (สำหรับอบกล้วย) ขนาดเล็ก (สำหรับบรรจุขาย)

ส่วนผสม : กล้วยดิบ เนย น้ำตาลปี๊บ น้ำมัน

วิธีทำ :
1. นำกล้วยดิบแช่น้ำ 1 คืน เพื่อให้ยางออก
2. ปอก
กล้วยดิบ แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 5 นาที นำขึ้น

banana-obnuay01


3. นำกล้วยมาไสเป็นชิ้นตามความยาวของกล้วย
4. นำกล้วยที่ไสแล้วใส่ถุงพลาสติก มัดปากถุงให้แน่นอบไว้ 1 คืน
5. นำกล้วยที่อบในถุงพลาสติกมาลอกออกเป็นชิ้น ๆ
6. นำส่วนผสมกล้วยดิบ เนย และน้ำตาลปี๊บ มาชั่งในอัตราส่วน กล้วยดิบ 2 กิโลกรัม ต่อเนย 6 ขีด ต่อน้ำตาลปี๊บ 4 ขีด (ไม่ต้องนำมาผสมกันหรือคลุกเคล้าให้เข้ากัน)
7. นำส่วนผสมที่ชั่งแล้วลงทอดพร้อมกันในน้ำมันที่ร้อนจนกล้วยเหลืองสวยงามดี และใช้ตะแกรงลวดตักขึ้น (ถ้าทำจำนวนมาก) พักไว้บนกระด้ง เพื่อให้สะเด็ดน้ำมัน ผึ่งให้เย็น แล้วจึงบรรจุลงถุงพลาสติกนำออกขาย



banana-obnuay02


ตลาด/แหล่งจำหน่าย : ตลาดทั่วไป แหล่งชุมชนบริเวณที่คนสัญจรไปมา หรือทำส่งห้างสรรพสินค้า

สถานที่ฝึกอบรม : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 0-2579-2294, 0-2942-8460 ต่อ 219-222 โทรสาร ต่อ 207


banana-obnuay03


ข้อแนะนำ :
1. เวลานำส่วนผสมลงทอดในน้ำมัน ในช่วงแรกควรใช้ตะหลิวคนเพื่อไม่ให้ชิ้นกล้วย ติดกัน
2. เพื่อให้กล้วยอบเนยคงความกรอบอยู่ได้นาน เวลาบรรจุลงถุงต้องมัดปากถุงให้แน่น


Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...


รับเต้าฮวย-น้ำขิง ร้อนๆสักถ้วยมั๊ยจร้าาาา

 
 
เงินลงทุน : ประมาณ 4,000 บาท (รถเข็นราคาประมาณ 3,000 บาท)

รายได้ : ประมาณ 6,000 บาท/เดือนวัสดุ/อุปกรณ์ :
- รถเข็น
- เตาถ่าน
- หม้ออลูมิเนียม
- กาน้ำขิง (ขนาดกลาง)
- ช้อน ถ้วย
- ถุงพลาสติก (ร้อน)



tuawhuay02


เต้าฮวย  : ส่วนผสม
- เมล็ดถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม
- น้ำสะอาด 7 ลิตร
- หินเต้าหู้ (เจี๊ยะกอ) 4 ช้อนตวง
- แป้งมันอย่างดี 10 ช้อนตวง
- แป้งข้าวโพด 6 ช้อนตวง


วิธีทำ :  ถั่วเหลืองแช่น้ำจนนิ่ม หรือประมาณ 4-5 ชั่วโมง เก็บสิ่งสกปรกและถั่วเสียออกให้หมด ขยำเอาเปลือกออก นำมาโม่จนละเอียดกับน้ำ 7 ลิตร เสร็จแล้วใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำถั่วเหลืองนำไปตั้งไฟกลางๆ เอาเชื้อเจี๊ยะกอ แป้งมันและแป้งข้าวโพดผสมน้ำนิดหน่อยละลายให้เข้ากันเทใส่ภาชนะไว้ เมื่อน้ำถั่วเหลืองเดือดจึงนำมาเทใส่ในภาชนะที่ละลายเชื้อเจี๊ยะกอและแป้งไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก็จะแข็งตัวเป็นเต้าฮวย


tuawhuay01


น้ำขิง : ส่วนผสม
- ขิงแก่จัด 2 ขีด
- น้ำตาลทรายแดง 3 ขีด
- น้ำตาลกรวด 1 ขีด
- น้ำ 5 ถ้วยตวง


วิธีทำ :  นำขิงมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด ทุบให้แตก ใส่น้ำต้มจนเดือด แล้วกรองเอาแต่น้ำนำไปเคี่ยวไฟอ่อน ๆ เติมน้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลกรวด คนให้ละลายเข้ากัน


tuawhuay04


ปาท่องโก๋เต้าฮวย : ส่วนผสม
- แป้งตราฮก 1 กิโลกรัม
- เช่าก่า (แอมโมเนีย) 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 กระป๋องนมข้น



วิธีทำ :  นำเช่าก่า (แอมโมเนีย) เกลือป่นและน้ำผสมรวมกัน คนให้เข้ากัน แล้วเทลงผสมกับแป้ง นวดนานประมาณ 15 นาที พักไว้ 4-6 ชั่วโมง เวลาทอดนำมานวดอีกครั้ง ตัดแป้งเป็นก้อนแล้วคลึงให้ยาวๆ หนาประมาณ ½ เซ็นติเมตร กว้าง 1 ½ นิ้ว ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ โรยแป้งนวลบาง ๆ ก่อนจะนำไปทอดเพื่อไม่ให้ตัวแป้งติดกัน นำไปทอดในน้ำมันที่ตั้งไฟร้อน ทอดให้กรอบ แล้วเก็บใส่ภาชนะปิดฝาไม่ให้โดนลม

ตลาด/แหล่งจำหน่าย : ตลาด แหล่งชุมชน

สถานที่ฝึกอบรม :
1. สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 942-8460 ต่อ 219-222, 942-8200-45 ต่อ 1336-1339


2. ชมรมลุงขาวไขอาชีพ โทร. 538-3981


tuawhuay03


ข้อแนะนำ :
1. วิธีขาย
1.1 นำน้ำขิงใส่กาน้ำตั้งไฟให้ร้อนอยู่เสมอ
1.2 ใช้ช้อนพายตักเต้าฮวยให้เป็นชิ้นบาง ๆ เรียงลงในถ้วย ถ้าต้องการรสหวาน ให้โรยน้ำตาลทรายขาว ตักน้ำขิง ใส่ปาท่องโก๋กรอบตัวเล็กๆ โรยหน้า
2. ควรขายคู่กับน้ำเต้าหู้ เพื่อเป็นการเสริมรายได้
3. ถ้าทำขายปริมาณมาก ต้องเพิ่มอัตราส่วนต่าง ๆ ให้มากขึ้น


Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...


สูตร(ไม่)ลับ ในการทำไอศกรีมสมุนไพร

 
 
เงินลงทุน : อุปกรณ์ 20,000 – 25,000 บาท (เครื่องโม่ถั่ว 3,500 บาท เครื่องกรองน้ำนม ถั่วเหลือง 4,500 บาท หม้อตุ๋นนมถั่วเหลืองขนาด 18 นิ้ว 2,500 บาท ถังเก็บไอศกรีม ขนาด 12 นิ้ว ใบละ 2,000 บาท เครื่องทำไอศกรีม 7,000 บาท เตาแก๊ส 1,500 บาท ที่ตักไอศกรีม 300 บาท ตู้แช่ 70×120 ซม. 14,000 บาท) ทุนวัตถุดิบ 300 บาท/ไอศกรีม 7 กิโลกรัม

รายได้ : 500 – 700 บาท/ไอศกรีม 7 กิโลกรัม

แหล่งจำหน่ายอุปกรณ์ : ร้านขายอุปกรณ์ทำขนม แถวคลองถม ,วงเวียน 22, ตลาดมหานาค

ส่วนผสม :
- นมถั่วเหลือง 4 กก.
- นมผงขาดมันเนย 1 ขีด
- น้ำตาลไม่ฟอก 7 ขีด
- กะทิ 1/2 ก.ก.
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 1 ขีด (ผสมน้ำ ½ กก.)



icecream001


ขั้นตอน :
1. นำถั่วเหลืองมาเลือกเอา
กรวด หินออกแช่น้ำ 3 ชม. เทน้ำออกล้าง 3-4 ครั้ง นำมาบด (ถั่วเหลือง 1 กก. ได้น้ำนมถั่วเหลือง 7 กก.) กรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อแยกกากออก

2. เทนมถั่วเหลืองลงหม้อตุ๋น ตุ๋นประมาณ 1-2 ชม ช่วงแรกใช้ไฟแรง ช่วงหลังลดไฟให้อ่อนลง ใส่ใบเตย 5-10 ก้าน ยกลงปล่อยไว้ให้เย็น

3. นำส่วนผสมทั้งหมดมารวมกัน ตั้งไปให้เดือดแล้วยกลง ปล่อยไว้ให้เย็น กรองด้วยผ้าขาวบาง เทใส่ถังปั่นขนาด 12 นิ้ว ใช้เวลาในการปั่นประมาณ 12 – 20 นาที โดยใช้เกลือเม็ด 1 ส่วน ต่อน้ำแข็ง 3 ส่วน ผสมและเทใส่กับเครื่องปั่น คอยเติมน้ำแข็งและเกลือตลอดเวลา

4. เตรียมถังเก็บไอศกรีมโดยใช้เกลือ 1 ส่วนผสมน้ำแข็ง 3 ส่วน เทใส่ถังเก็บเพื่อให้มีความเย็นตลอด


icecream002


แหล่งจำหน่าย : ตลาด หรือแหล่งชุมชน

ข้อแนะนำ : เพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ โดยนำผลไม้ต่าง ๆ ตามที่ต้องการหรือ สมุนไพรเช่น ใบบัวบก งาดำ ชาเขียว เผือก แครอท มะตูม มาคั้นเอาน้ำ มาผสมใช้ทำไอศกรีม ก็จะได้รสชาติของผลไม้และสมุนไพรด้วย

Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...


ใครชอบทานข้าวเหนียวปิ้ง เชิญทางนี้เลยเรามีวิธีทำมาบอกจร้าาาา

 
เงินลงทุน : ประมาณ 4,000 บาท (รถเข็น 3,000 บาท เตาถ่านและตะแกรง 100 บาท)

รายได้ : ประมาณ 450 บาท/150 ห่อ

วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น เตาถ่านและตะแกรงย่าง กระทะ หม้อ กะละมัง ทัพพี ถาด คีมครีบห่อข้าวเหนียว มีด ลังถึง ใบตอง ไม้กลัด ครกพร้อมสาก

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ : ย่านเวิ้งนาครเขษม ห้างสรรพสินค้าทั่วไป ตลาด

ส่วนผสมข้าวเหนียวมูน :
- ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
- กะทิ 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำสะอาดพอประมาณ


khawneawping01


วิธีทำ :
1. นำข้าวเหนียวมาล้างให้สะอาด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จึงนำไปนึ่งให้สุกโดยใส่น้ำพอท่วมข้าวเหนียวประมาณ ½ นิ้ว ใช้เวลานึ่งประมาณ 45 นาที แล้วยกลง
2. นำกะทิ น้ำตาลทรายและเกลือ มาผสมคนให้เข้ากันแล้วเทราด
ข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าน้ำจะแห้งหมดจะได้ข้าวเหนียวมูนรสหวานมัน


khawneawping02


ไส้กล้วย : ใช้กล้วยน้ำว้าสุกพอเหลืองนำมาปอกเปลือกแล้วผ่าครึ่งตามความยาว

ส่วนผสมไส้เผือก ส่วนผสมไส้มันและฟักทอง :
- เผือก 1 กิโลกรัม มันเทศและฟักทองอย่างละ 1 กิโลกรัม
- กะทิ 500 กรัม
- กะทิ 1 กิโลกรัม
- น้ำตาลปี๊บ 300 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม

วิธีทำ : นำเผือก มันเทศและฟักทองมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาดนำไปนึ่งให้สุก แล้วทุบ ให้ละเอียด ใส่กะทิและน้ำตาลปี๊บตามอัตราส่วนของแต่ละไส้ (สำหรับมันเทศและฟักทองให้นำมาผสมรวมกัน) กวนด้วยไฟอ่อน ๆ จนเข้าเนื้อหรือจนกว่าจะร่อนไม่ติดกระทะยกขึ้นผึ่งให้เย็น


khawneawping03


ส่วนผสมไส้ถั่วดำ ส่วนผสมไส้ถั่วและแห้ว :
- ถั่วดำ 1 กิโลกรัม ถั่วเขียวผ่าซีกและแห้วอย่างละ 1 กิโลกรัม
- กะทิ 500 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 400 กรัม


วิธีทำ :
1. นำถั่วดำ ถั่วเขียวผ่าซีกและแห้วมาแช่น้ำประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้เมล็ดถั่วพอง
2. นำถั่วดำไปต้มให้สุกแล้วทุบพอแหลก
3. นำถั่วเขียวไปนึ่งแล้วบดพอหยาบ ส่วนแห้วสับให้ละเอียดแล้วต้มจนสุก จากนั้นนำถั่วเขียวและแห้วผสมกัน


4. ใส่กะทิและน้ำตาลปี๊บผสมกับข้อ 2 และ 3 ตามอัตราส่วนของแต่ละไส้ กวนจนกระทั่งไม่ติดกระทะ ยกขึ้นผึ่งให้เย็น
 


khawneawping04


วิธีห่อข้าวเหนียว : นำใบตองที่เช็ดสะอาดแล้ว ฉีกให้ได้ขนาดกว้างประมาณ 4 นิ้ว จากนั้นนำ 2 แผ่น ประกบกันให้ด้านมันอยู่ด้านนอก ใส่ข้าวเหนียวมูนแผ่ลงในใบตองพอประมาณ ตักไส้ใส่เล็กน้อย แล้วใส่ข้าวเหนียวปิดทับลงไปอีกชั้นหนึ่ง พับใบตองปิด กลัดด้วยไม้กลัด ตัดแต่งใบตองให้เรียบร้อย นำไปปิ้งด้วยไฟอ่อนๆ จนเหลืองหอม ห่อข้าวเหนียวที่ปิ้งสุก แล้วจะมีขนาดประมาณ 1X3 นิ้ว

ตลาด/แหล่งจำหน่าย : แหล่งชุมชน ตลาด หมู่บ้าน

ข้อแนะนำ :
1. อัตราส่วนข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม สามารถทำข้าวเหนียวปิ้งตามขนาดข้างต้นได้ 140-150ห่อ แต่อัตราส่วนของไส้ต่างๆ สามารถทำได้มากกว่านั้นหากต้องการให้ได้ปริมาณพอเหมาะ ควรลดส่วนผสมลงตามส่วน
2. นอกจากไส้ดังกล่าวข้างต้น สามารถดัดแปลงเป็นไส้ฝอยทอง ไส้หมูหยอง เพื่อเพิ่มความ หลากหลาย
3. หากมีเงินลงทุนมากและมีพื้นที่ขาย อาจสั่งทำเตาสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกขาสูง ทำด้วย สเตนเลส ซึ่งเก็บความร้อนและไม่เปลืองถ่าน ราคาประมาณ 9,000 บาท

Credit : http://www.thaismefranchise.com/

 

Read More...


กระท้อนลอยแก้ว ทำไม่ยากอย่างที่คิด…

 
 
 
เงินลงทุน : 250 บาท

รายได้ : 500 บาท

วัสดุ/อุปกรณ์ : เตา หม้อต้มน้ำ ภาชนะพลาสติกแช่กระท้อน หม้อเคลือบ หรือหม้อสแตนเลส

ส่วนผสม :
- กระท้อน 10 กิโลกรัม
- เกลืออนามัย 2 ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด 30 ถ้วยตวง มะนาว


ส่วนผสมน้ำเชื่อม :
- น้ำตาลทราย 3 กิโลกรัม
- น้ำสะอาด 7 กิโลกรัม
- ใบเตยแก่ ๆ 5 ใบ
- เกลืออนามัย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยสีแดง 1 ถ้วยตวง



kratonloykaw01


การเตรียม :
1. เลือกซื้อกระท้อนพันธุ์เนื้อหนา 10 กิโลกรัม


2. เตรียมน้ำเกลือ ใช้เกลืออนามัย 2 ถ้วยตวง น้ำสะอาด 30 ถ้วยตวง ต้มน้ำเกลือให้เดือดวางพักให้เย็น

3. เตรียมน้ำเชื่อมแช่กระท้อน ใช้น้ำตาลทรายขาว 3 กิโลกรัม น้ำสะอาด 7 กิโลกรัม ใบเตยแก่ ๆ 5 ใบ เกลืออนามัย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยสีแดง 1 ถ้วยตวง โดยต้มน้ำให้เดือด ใส่ใบเตยทิ้งไว้ 5 นาที แล้วใส่น้ำตาลทราย เกลือ พอเดือดเป็นน้ำเชื่อมยกลง กรองด้วยผ้าขาวบาง ทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นใส่น้ำหวานลงผสมจะเป็น สีแดง ปิดฝาพักไว้

4. เตรียมน้ำสุก ใช้น้ำสะอาด 40 ถ้วยตวง ต้มให้เดือด แล้วพักไว้ให้เย็น


kratonloykaw02


วิธีทำ :
- นำกระท้อนมาปอกเปลือก แล้วรีบทาด้วยมะนาว (ใช้มะนาวหั่นครึ่งลูกทา) ป้องกัน
กระท้อนดำ นำไปแช่น้ำสะอาดผสมเกลือพอเค็ม ๆ เพื่อล้างยางสักพัก

- มีดซอยกระท้อนถี่ ๆ จนถึงเม็ดให้รอบลูก คว้านไส้ในตรงกลางลูกออก เสร็จแล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือ (ตามข้อ 2.) ประมาณ 3 ชั่วโมง จับเนื้อดูจะนุ่ม ชิม จะไม่ฝาด ถ้ายังฝาดแช่ต่อไปอีก 1 ชั่วโมง

- นำกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือ บีบคั้นเบา ๆ แล้วนำไปแช่ในน้ำต้มสุก (ตามข้อ 4) อีก 1 ชั่วโมง ชิมดูหากไม่ฝาด ไม่เค็มแล้วก็ใช้ได้ บีบเบา เอาน้ำออก แล้วนำไปลงแช่ในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ (ตามข้อ 3.) โดยเรียงกระท้อนในหม้อเคลือบหรือ หม้อ สแตนเลส แล้วนำน้ำเชื่อมมาราด ปิดฝานำเข้าแช่ตู้เย็นทันทีโดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง (นำใส่ถุงขายได้)

ข้อแนะนำ : หากต้องการกระท้อนหวานให้แช่นานกว่านี้

Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...


มาทำข้าวเหนียวหน้าหมู-เนื้อขายกันมั้ย…

 
 
เงินลงทุน : ประมาณ 4,000  บาท (เตาแก๊สพร้อมถังแก๊ส 2,000 บาท โต๊ะพับขา 400 บาท)

รายได้ : ประมาณ  1,500 บาท/วัน

วัสดุ/อุปกรณ์ : เตาพร้อมถังแก๊ส กระทะ กะละมัง หม้อ ลังถึง ตะหลิว ทัพพี กระติกน้ำแข็ง (ใส่ข้าวเหนียว)  โต๊ะพับขา  กล่องโฟมเบอร์ 8 ถุงพลาสติก

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ : ร้านค้าทั่วไป ห้างสรรพสินค้า ย่านเวิ้งนาครเขษม

วิธีทำข้าวเหนียว : นำข้าวเหนียวประมาณ 4 กิโลกรัม แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นซาวน้ำให้สะอาด นำไปนึ่งในลังถึงประมาณ 30 นาที เมื่อข้าวเหนียวสุกนำไปใส่ในกระติกน้ำแข็ง เพื่อรักษาความร้อนให้คงทนได้นาน

ส่วนผสมหน้าหมู/เนื้อ :
- หมูเนื้อแดงหรือเนื้อวัว  5    กิโลกรัม
- น้ำตาลปี๊บ        3    กิโลกรัม
- เกลือป่น        2    ถ้วยตวง
- ซอสถั่วเหลือง     2         ถ้วยตวง
- รากผักชี        2    ขีด
- หอมแดง        1         กิโลกรัม
- ซีอิ๊วหวาน        1/3    ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช



moo-nuae01


วิธีทำ :
1.    นำเนื้อหมู/วัว มาต้มน้ำ โดยใส่น้ำพอท่วมเนื้อ แล้วใส่เกลือป่นและซอสถั่วเหลือง ชนิดละ 1 ถ้วยตวง ผสมลงไปในน้ำต้ม


2.    หลังจากเนื้อหมู/วัว ต้มสุกจนเปื่อยแล้ว ตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็นสักเล็กน้อยนำมาฉีกเป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปคั่วในกระทะ ใส่ซีอิ๊วหวานผสมลงไปคั่ว  จนแห้ง ตักขึ้นจากกระทะ

3.    นำน้ำตาลปี๊บลงกวนในกระทะจนละลายเหลว แล้วนำเนื้อหมู/วัว ในข้อ 2  ลงไปผัดกับน้ำตาล ใส่เกลือป่นและซอสถั่วเหลืองชนิดละ 1 ถ้วยตวง   และรากผักชี ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยไฟอ่อนจนเนื้อหมู/วัวแห้งกรอบ  ตักขึ้นใส่ภาชนะ

4.    นำหอมแดงมาหั่นซอยบาง ๆ  แล้วนำไปเจียวกับน้ำมันพืช ในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนมีสีเหลืองหอม จึงตักขึ้นจากน้ำมันใส่ภาชนะไว้

5.    เมื่อนำออกขายให้หยิบข้าวเหนียวใส่กล่องโฟมประมาณ 2 ขีด ตักเนื้อหมู/วัวเส้นใส่บนข้าว เหนียว โรยหอมเจียวเล็กน้อย หากลูกค้าต้องการซื้อเฉพาะเนื้อหมู/วัวเส้นก็ขายเป็นขีด โดยบรรจุใส่ถุงพลาสติกให้

ตลาด/แหล่งจำหน่าย : แหล่งชุมชน  ตลาดทั่วไป ป้ายรถประจำทาง


moo-nuae02


ข้อแนะนำ :
1.    การเลือกซื้อหมูเนื้อแดง ควรซื้อเฉพาะบริเวณสะโพกเพราะมีมันน้อย สะดวก       ในการฉีกเป็นเส้นเล็กๆ  หากมีมันติดมาด้วยควรตัดทิ้งให้หมด


2.    ควรแยกต้มเนื้อหมูและเนื้อวัวคนละหม้อ เพื่อป้องกันกลิ่นปนเปื้อน

3.    การผัดเนื้อหมู/วัว ในช่วงที่น้ำตาลใกล้จะแห้ง ควรพลิกเนื้อในกระทะบ่อยๆ เพื่อป้องกัน    น้ำตาลไหม้

Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...


มาทำเต้าหู้ทอด-เผือกทอดขายกันเหอะ…

 
 
 
เงินลงทุน : ประมาณ  6,000 บาท (รถเข็น  3,000  บาท  เตาพร้อมถังแก๊ส 2,000 บาท)

รายได้ : ประมาณ  400-500  บาท/วัน

วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น  เตาพร้อมถังแก๊ส กระทะ ตะหลิว หม้อ ทัพพีกลม  ตะแกรง มีด  เขียง  ภาชนะใส่ถั่วลิสงป่นและพริก ถุงพลาสติก ไม้จิ้ม

แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ : ร้านค้าทั่วไป  ย่านเวิ้งนาครเขษม  ห้างสรรพสินค้า

ส่วนผสมเต้าหู้ทอด :
- เต้าหู้ขาวชนิดแผ่น  4  แผ่น
- น้ำมันพืช  4  ถ้วยตวง


วิธีทำ :
1.    ตัดเต้าหู้แบ่งเป็น  3  ชิ้น  ตามยาว
2.    ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อน นำเต้าหู้ลงทอดให้เหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
3.    หั่นเป็นชิ้นเล็กพอคำใส่ถุงให้ลูกค้า



puaktod01


ส่วนผสมเผือกทอด :
- เผือก            500    กรัม
- พริกไทยป่น    1    ช้อนชา
- หัวกะทิ            1    ถ้วยตวง
- เกลือป่น    2    ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า            1    ถ้วยตวง
- แป้งสาลี    1    ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย            1    ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช


วิธีทำ :
1.    ปอกเปลือกเผือก  หั่นให้เป็นเส้นยาว ๆ  เล็ก ๆ


2.    ผสมแป้งสาลี  แป้งข้าวเจ้าและหัวกะทิเข้าด้วยกัน  นวดให้แป้งข้นพอชุบ เผือกติด  ใส่เกลือป่น พริกไทยและน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน  แล้วใส่เผือกลงไปผสมคนให้ทั่วอีกครั้ง

3.    ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอร้อนใช้ทัพพีหรือช้อนตักเผือกที่ชุบแป้งใส่กระทะทอดให้มีขนาดเท่า ๆ กัน  ทอดให้เหลืองตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

4.    หั่นเป็นชิ้นเล็กพอคำใส่ถุงให้ลูกค้า


puaktod02


ส่วนผสมน้ำจิ้ม :
- น้ำตาลทราย            ½     ถ้วยตวง
- น้ำส้มสายชู      ½     ถ้วยตวง
- เกลือป่น            1    ช้อนชา
- พริกขี้หนู    10    เม็ด
- ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบ ๆ        3       ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ :
1.    ผสมน้ำตาลทราย  น้ำส้มสายชู  และเกลือป่นลงในหม้อตั้งไฟอ่อน ๆ  เคี่ยวพอเหนียว
2.    สับหรือตำพริกขี้หนูพอแหลกใส่ภาชนะไว้  ถั่วลิสงคั่วแยกใส่ภาชนะไว้
3.    ตักน้ำจิ้มใส่ถุงให้ลูกค้า  แล้วตักพริกและ
ถั่วลิสงคั่วป่นผสมลงไป

ตลาด/แหล่งจำหน่าย : ตลาดทั่วไป  แหล่งชุมชน

ข้อแนะนำ :
1.    การทอดเต้าหู้-เผือก ให้เหลืองกรอบ ควรใช้ไฟอ่อนโดยปล่อยให้น้ำมันร้อนจัดก่อนนำลงทอดแล้วหรี่ไฟ


2.    เพื่อเพิ่มความน่ารับประทาน  ควรหั่นผักชีโรยหน้าน้ำจิ้มด้วย

Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...


ขายน้ำเต้าหู้-นมถั่วเหลือง อีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ

 
 
ทำเล : ย่านชุมชน เช่น ตลาด หน้าโรงเรียน สถานที่ราชการ บริษัท ฯลฯ

เงินลงทุน : ครั้งแรกประมาณ 10,000 บาท (รวมรถเข็น)

รายได้ : 7,000 – 10,000 บาท/เดือน

วัสดุ/อุปกรณ์ : รถเข็น เตา หม้อ ถ้วย ฯลฯ

ส่วนผสม :

- ถั่วเหลือง 1 ก.ก.
- น้ำสะอาด 8 ลิตร
- น้ำตาลทราย 1 ก.ก.
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- เครื่องปรุงที่ใส่ในน้ำเต้าหู้
- สาคูเม็ดใหญ่ วุ้นหั่นเป็นเส้นยาว ลูกบัวต้ม ลูกเดือย
ถั่วแดง ฟักเชื่อมหั่นเป็นชิ้น ๆ น้ำเชื่อม


tuahuu01


วิธีดำเนินการ : นำถั่วเหลืองมาคัดเอาสิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 5 ชั่วโมง หรือถ้าแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3 ชั่วโมง จนนิ่ม ขยี้เปลือกออก ล้างจนสะอาด ตวงน้ำ 2 ลิตร นำไปต้มจนเดือด ที่เหลือนำไปปั่นกับถั่วเหลืองจนหมด เทใส่หม้อที่รองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น นำน้ำที่ต้มเดือดเทตามลงไป คนให้เข้ากัน คั้นเอาแต่น้ำนมถั่วเหลือง ต้มไฟกลาง พอเดือดใส่เกลือ ครึ่งช้อนชา เคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที ทำน้ำเชื่อมเข้มข้น โดยใช้น้ำตาลทรายเคี่ยวกับน้ำสะอาด ในสัดส่วน 2 : 1 จนน้ำตาลละลายหมด เวลาขายใส่น้ำเชื่อมและเครื่องปรุงต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ


tuahuu02

สถานที่ฝึกอบรม : สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โทร. 942-8460, 579-2294 ต่อ 219-222

tuahuu03

ข้อแนะนำ :

1. ถ้าจะให้มีรสมัน เวลาปั่น ใส่ถั่วลิสงคั่ว 1 กำมือ ปั่นรวมกัน สีน้ำนมจะออกสีเหลือง หรืออาจใช้นมข้นหวานประมาณครึ่งกระป๋องใส่ลงไป ก็จะได้น้ำนมถั่วเหลืองที่มีสีขาวชวนรับประทาน มีกลิ่นหอมและมีรสมัน เหมือนนมสด

2. เวลาขาย ควรขายร่วมกับ เต้าฮวย-น้ำขิง ก็จะเป็นการเสริมรายได้มากยิ่งขึ้น
หมายเหตุ : สูตรนี้จะได้น้ำนมถั่วเหลือง ประมาณ 60 แก้ว


Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...


การทำเค้กกล้วยหอมไม่ยากอย่างที่คิด

 
 
เงินทุน : เงินทุนต่ำสุดประมาณ 10,000 บาท

รายได้ : วันละประมาณ 1,600 บาท

วัสดุ/อุปกรณ์ : เตาอบ ถ้วยพิมพ์ ที่ร่อนแป้ง ที่ตีไข่ ถาด กะละมัง

ส่วนผสม :

- แป้งทำขนมเค้ก 2 ¼ ถ้วยตวง
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- โซดาไบคาร์บอเนต ½ ช้อนชา
- เนยสด ¼ ถ้วยตวง



banana-cake01


- เนยขาว 1/3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทรายแดง 2/3 ถ้วยตวง
- เกลือ ½ ช้อนชา
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- วานิลลา ½ ช้อนชา
- นมข้นจืด ¼ ถ้วยตวง
- กล้วยหอมสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง



banana-cake02


วิธีทำ : ร่อนแป้งเค้ก ผงฟูและโซดาไบคาร์บอเนตเข้าด้วยกันแล้วพักไว้ ตีเนยสด เนยขาว น้ำตาลทราย น้ำตาลทรายแดงและเกลือ จนกระทั่งฟู ค่อยๆ เติมไข่ไก่ตีให้เข้ากัน เติมวานิลลา แล้วเติมส่วนผสมที่พักไว้สลับกับนมข้นจืดตีด้วยความเร็วต่ำให้พอเข้ากัน จึงเติมกล้วยหอมบดผสมให้เข้ากัน ตักส่วนผสมใส่ถ้วยพิมพ์ที่มีถ้วยกระดาษรองรับ อบประมาณ 15 นาที อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส โรยหน้าด้วยเนยแข็งขูดฝอย


banana-cake03


สถานที่ฝึกอบรม :
1. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครใต้ โทร. 0-2211-2052,0-2211-2056
2. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตโชติเวช โทร. 0-2281-0545,0-2282-8531-2



banana-cake04


ข้อแนะนำ :

1. การเพิ่มปริมาณเพื่อขาย ต้องเพิ่มอัตราส่วนให้มากกว่านี้

2. ถ้าทำได้อร่อยและมีคุณภาพ ควรติดต่อหาร้านเพื่อขายส่ง เป็นการเพิ่มรายได้

Credit : http://www.thaismefranchise.com/

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.