ทุกวันนี้แม้คนไทยจะมีวิถีชีวิตใกล้ชิดกับประชากรของประเทศ เพื่อนบ้าน ทั้งลาว เขมร และพม่า มากขึ้น เพราะมีคนหลายเชื้อชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่า เข้ามาขายแรงงานในไทยแทบจะทุกบ้าน แต่เราก็ยังไม่ค่อยได้รู้จักวัฒนธรรมการกินของพวกเขามากนัก วันนี้จึงเป็นโอกาสที่จะได้นำเสนอเมนูอาหารพม่าบ้าง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากอาหารพื้นบ้านของไทยเราเลย จะต่างกันก็แต่รสชาติเท่านั้นเอง
คุณซูซี่–สมศรี (สันติพงศ์ชัย) หาญศิริสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งมีเชื้อสายพม่าจากคุณแม่ (มาดามลี หรือดอ อมายี) และเกิดที่นครย่างกุ้ง เมืองหลวงในอดีตของพม่า ได้ย้ายเข้ามาอยู่เมืองไทย เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว คุณยายดอซอของซูซี่ เป็นชาวพม่าแท้ๆ แต่งงานกับ "โอวบุนปาร์" คนจีน (แคระ) ที่อพยพเข้ามาอยู่ในพม่า และเป็นน้องชายของ "โอวบุนโฮ้ว" ต้นตำรับยาหม่องตราเสืออันลือชื่อนั่นเอง
โดยสองพี่น้องช่วยกันบุกเบิกธุรกิจไปคนละเส้นทาง คนพี่อยู่ที่ฮ่องกง ส่วนคนน้องจะอยู่พม่า และสิงคโปร์ คุณซูซี่บอกว่า คุณยายดอซอจะทำอาหารเก่งมาก จนลูกหลานติดใจรสมือ ทุกวันนี้ที่บ้านของเธอก็ยังทานอาหารพม่าเป็นหลัก โดยนำสูตรอาหารของคุณยายมาทำรับประทาน แถมเผื่อแผ่ไปยังพรรคพวกเพื่อนฝูงจนติดใจไปตามๆ อย่างขนมจีนน้ำยาดอซอ สูตรคุณยาย และน้ำพริกปลาร้าดอยี สูตรบ้านคุณแม่ของเธอ
เครื่องปรุง ขนมจีน (น้ำยา) ดอซอ : ปลาดุก/กระเทียม/หอมแดง/ตะไคร้/ขิง/ผงขมิ้น/พริกแห้งเม็ดใหญ่/แป้งเบซัน (แป้งของแขก)/พริกไทยดำ/ขนมจีน/ถั่วฝักยาว/ผักชี/ถั่วเบซัน (ถั่วแขก)/น้ำเต้า/แป้งโกกิ/ไข่ต้ม/ มะนาว/ กระเทียมเจียว/พริกป่น/น้ำปลา/ข้าวคั่ว
วิธีทำ 1). นำกระเทียมทุบ ตะไคร้ทุบ และขิงหั่นเป็นชิ้นแล้วทุบ เรียงใส่หม้อ 2) ตามด้วยปลาดุกที่ทำความสะอาดแล้ว เรียงลงในหม้อ 3) ต่อด้วยพริกแห้งเม็ดใหญ่ๆ 4) โรยเกลือ ขมิ้น และเหยาะน้ำปลาลงไปด้วย 5) เติมน้ำลงในหม้อให้ท่วมปลาแล้วต้มให้เดือดประมาณ 1 ชั่วโมงค่อยปิดไฟ 6) ตักปลาขึ้นมาพักไว้ให้เย็นแล้ว ค่อยแกะเอาแต่เนื้อไม่เอาหนัง 7) นำขิงกับตะไคร้ที่ใส่ ลงไปต้มกับปลาขึ้นมาตำ แล้วคั้นเอาแต่น้ำที่มีกลิ่นหอมใส่ลงในหม้อต้มปลาตั้งไฟให้เดือด 8) แยกขิงก้อนเท่าหัวแม่มือมาตำรวมกับกระเทียมพอหยาบๆแล้วนำไปผัด ส่วนพริกที่ต้มในหม้อก็นำมาตำให้ละเอียด แล้วใส่ลงไปผัดกับขิงและกระเทียมให้หอม 9) ใส่เนื้อปลาที่แกะไว้ลงไปผัดด้วยจนแห้ง 10) ละลายแป้งเบซัน เป็นแป้งของแขก ใส่ลงไปในน้ำต้มปลา รอจนเดือดค่อยใส่ข้าวคั่วลงไป รอจนเดือดอีกครั้งจึงใส่ปลาที่ผัดไว้ลงผสม 11) ใส่พริกไทยดำคั่วและตำจนละเอียดลงไปในปริมาณตามชอบ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ และปรุงรสตาม ชอบ 12) ใส่ไข่ต้มที่ซอยเป็นเส้นๆ ลงไปต้มด้วย
ส่วนเครื่องเคียงที่รับประทานร่วมกัน ได้แก่ ไข่ต้ม น้ำเต้า (หั่นเป็นแท่งๆเหมือนเฟรนช์ฟรายด์) ชุบแป้งโกกิทอดให้เหลือง เช่นเดียวกับถั่วฝักยาว ถั่วเบซัน และหอมใหญ่ที่หั่นเป็นแว่นๆ โรยด้วยผักชี กระเทียมเจียว พริกป่น และบีบมะนาวตาม คล้ายกับรับประทานขนมจีนน้ำเงี้ยว และถ้าจะให้ดีใส่น้ำพริกปลาร้าสูตรพม่า จะช่วย เพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับเส้น ก็ใช้เส้นขนมจีน หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว อาจจะใช้เส้นใหญ่มาตัดให้ขนาดเล็กลง อาจจะใหญ่กว่าเส้นขนมจีนนิดหน่อย
ส่วน ผสมน้ำพริกปลาร้าดอยี : ปลาร้าอย่างดี ครึ่งกิโลนำมาต้มในน้ำกับผงขมิ้นครึ่งช้อนชา ต้มให้เดือด แล้วกรองเอาแต่น้ำไว้ จากนั้นนำปลาดุกย่าง แกะเอาแต่เนื้อ มาตำกับพริกขี้หนูคั่ว แล้วนำไปต้มกับน้ำปลาร้า จะได้ น้ำพริกปลาร้าที่หอมอร่อย ทานกับขนมจีน (น้ำยา) ดอซอ หรือผักลวกตามชอบ.
http://www.thairath.co.th/content/life/134366
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001