Home » All posts

น้ำข้าวกล้องงอกสร้างอาชีพ

สูตรทำขนม

กระแสน้ำข้าวกล้องงอกกำลังมาแรง เพราะข้าวกล้องงอกมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ข้าวกล้องปริมาณ 100 กรัม

จะมีโปรตีน 7.2 กรัม

ไขมัน 3.4 กรัม

ใยอาหาร 3.4 กรัม

นอก จากนี้ยังมี เกลือแร่ วิตามิน ได้แก่ โซเดียม โปรแตสเซียม แคลเซียมฟอสฟอรัสและแมกนีเซียม ซึ่งสำคัญต่อการสร้างกระดูก ข้าวกล้องจะมีวิตามินสูงกว่าข้าวขาวถึง 2 เท่าแต่เนื่องจากข้าวกล้อง ไม่นุ่มเหมือนข้าวขาวคนถึงไม่นิยมกินกันข้าวกล้องอุดมไปด้วยวิตามิน A ,E ,B1 ป้องกันโรคเหน็บชา B2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก ข้าวกล้องยังมีใยอาหารสูงช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดีลดอาการท้อง ผูก โรคเกี่ยวกับลำไส้ โรคมะเร็งลำไส้ ป้องกันหัวใจขาดเลือด โรคเบาหวาน ที่สำคัญข้าวกล้องมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโทไซยานิน ไฟโตสเตอรอล โทโคเฟอรอลออริซานอล และกรดโฟลิกคุณประโยชน์ข้างกล้องมีอยู่มากมาย จึงอยากเชิญชวนให้หันมาบริโภคข้าวกล้องกัน ข้าวกล้องสามารถนำมา ปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย ยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวันนี้ จึงอยากจะมาแนะนำวิธีการทำน้ำข้าวกล้องงอก เพื่อใช้ดื่มกันเองที่บ้านได้การเพาะข้าวกล้องงอกเลือกซื้อข้าวกล้องที่ใหม่ สด เพราะจะทำให้เปอร์เซ็นต์การงอกมากที่สุด โดยดูจากวันเดือนปีที่ผลิต หากไม่เกิน 6 เดือนจะได้ข้าวกล้องงอกดีที่สุด หากเป็นข้าวใหม่ แช่น้ำทิ้งไว้ไม่เกิน 4-5 ชั่วโมงก็จะสังเกตเห็นตุ่มๆงอกออกมาได้ เป็นใช้ได้ แต่อย่าให้งอกจนมีใบเพราะสารที่มีในข้าวกล้องที่ชื่อ กาบา จะหายไปทำให้ได้ประโยชน์ลดลง

อุปกรณ์ในการทำน้ำข้าวกล้องงอก

1. เครื่องปั่นไฟฟ้า

2. ชามหรือกะละมังแช่ข้าว

3. ทัพพี หรือช้อน

4. หม้อสำหรับต้ม

5. กระชอนหรือ ผ้าสำหรับกรอง

6. ตาชั่ง

วิธีการทำ

1. นำข้าวกล้องที่งอกแล้ว 150 กรัม ล้างจนสะอาด เติมน้ำ 2 ลิตร ปั่นจนละเอียด

2. กรองผ่านผ้าขาวหรือกระชอน

3. ได้น้ำข้าวกล้องที่พร้อมดื่มได้เลย อาจปรุงรสชาติเพิ่มโดยเติมเกลือ น้ำผึ้ง นมสด โอวัลตินเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มกลิ่นและรสให้น่ากิน

4. หากทำเป็นเครื่องดื่มร้อน ก็นำไปตั้งไฟอ่อนๆ ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย น้ำใบเตย น้ำตาล นมสด หรือ เพิ่มน้ำผึ้งจะน่ากินมากยิ่งขึ้น

5. หากต้องการบรรจุขวดไว้กินได้หลายวัน ต้มฆ่าเชื้อที่ อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที บรรจุขวดขณะร้อน เก็บแช่ตู้เย็นได้นาน 1 สัปดาห์

6. หากต้องการเพิ่มคุณประโยชน์มากขึ้น อาจนำธัญพืชอื่นมาปั่นรวมลงไปด้วย ได้แก่ งา ลูกเดือย ถั่วเหลือง ฯลฯ เพิ่มสีสัน ให้น่ากินด้วย ใบเตย โกโก้ หรือ โอวัลติน หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านลองทำกินกันเองที่บ้านได้นะครับ

เรา สามารถนำน้ำข้าวกล้องที่ได้ มาบรรจุขวดขายตามตลาดนัด หรือสถานศึกษา แหล่งชุมชน อาจดัดแปลงทำเป็นน้ำข้าวกล้องร้อนๆขายคู่กับปาท่องโก๋เหมือนน้ำเต้าหู้ขาย ตอนเช้าๆอาจเป็นอีกทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ ทดลองทำขายกันดูได้นะครับเป็นกำลังใจให้ครับ

เขียนโดย kasor ที่ 6/19/2009

สร้างรายได้เพิ่มกับธุรกิจนมสดปั่น มิลค์มี (milk me)

สร้างรายได้เพิ่มกับธุรกิจนมสดปั่น มิลค์มี (milk me)
อาชีพ ที่น่าสนใจอีกอย่างที่ไม่ควรพลาด เพราะธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่ม นับวันมีแต่จะยิ่งเติบโต ยิ่งเป็นเครื่องดื่มเกี่ยวกับสุขภาพยิ่งน่าจับตามอง ใครที่สนใจอยากหารายได้เพิ่ม
จึงไม่ควรพลาด ธุรกิจนมสดปั่น มิลค์มี ลงทุนน้อย กำไรดี ยิ่งช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ มิลค์มี ได้จัดทำ วีซีดี และคู่มือการดำเนินธุรกิจ จำหน่ายเพียงชุดละ 500 บาท โดยจะมีรายละเอียดการสอนทำ และเคล็ดลับต่างๆ

เมนูต่างๆที่เป็นที่ยอดนิยม ของผู้บริโภค สอนวิธีผสมวิปปิ้งครีม และบอกแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบในการทำ รวมทั้งบอกวิธีบริหารจัดการร้าน และบริหารพนักงานขาย เพื่อให้ผู้ประกอบการ ดำเนินธุรกิจได้อย่างดีมีกำไร

เงื่อนไขแฟรนไชส์ลงทุนเพียง 35,000 บาท
-ไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์รายปี รายเดือน
-ได้อุปกรณ์เครื่องปั่นคุณดี ระดับพรีเมี่ยม ราคา 1 หมื่นบาท 1 เครื่อง
-ได้รับเคาน์เตอร์ตกแต่งอย่างสวยหรูสามารถขึ้นห้างได้สบาย เคลื่อนย้ายสะดวก
-มีหม้อต้มและอุปกรณ์ครบครัน
-ขวดโหลทรงสวย ใช้ใส่วัตถุดิบในการทำ ทำให้ดูน่ากิน
-ได้รับวัตถุดิบในการขายชุดแรก อย่างละ 1 กก.และนมสด 5 กก.
-วิปปิ้งครีมอัดแก๊ส ขนาด 400 กรัม 3 กระป๋อง
-ภาชนะในการขายอย่างละ 100 ชุด รวมทั้งหมด 300 ชุด
-มีการสอนอบรม จนกว่าจะทำเป็น
-ซื้อวัตถุดิบได้เอง ในราคาต้นทุน ทำให้สามารถลดต้นทุนได้

สนใจธุรกิจติดต่อได้ที่
มิลค์มี นมสดแท้ 100% 121/20 อ่อนนุช 67/1 ประเวศ กรุงเทพฯ โทร. 086-892-5774,081-371-0047

**ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับ ใครที่อยากลองหารายได้เพิ่มก็ลองติดต่อ สอบถามกันไปได้ เลือกทำเลขายดีๆ รับรองมีลูกค้าแน่นร้าน ขอให้เริ่มต้นทำธุรกิจด้วยความอดทน ขยัน อดออม
ภายภาคหน้าก็จะประสบความสำเร็จเอง เอาใจช่วยครับ

เขียนโดย kasor ที่ 9/04/2009

Read More...

9 UP Thailand ธุรกิจขายสินค้า ทุกอย่าง 20 บาท

ร้านประเภทนี้เราสามารถพบเห็นโดยทั่วไปตามสถานที่ต่างๆไปจนถึงงานเทศกาลต่างๆ หลายคน

คง เคยสงสัยว่า พ่อค้าแม่ค้า เหล่านี้เขาไปรับสินค้ามาจากแล้วขายราคาต่ำขนาดนี้ จะมีกำไรได้มากน้อยเพียงใด สำหรับทีกำลังมองหาอาชีพหรือต้องการมีธุรกิจเป็น
ของตนเองสักธุรกิจหนึ่ง ต้องบอกว่าวันนี้ธุรกิจประเภทขายสินค้าราคาประหยัด ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ยิ่ง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนมาไม่มาก คือเพียงแค่ 4,500-10,000 บาท ขึ้นไป และที่น่าสนใจไปกว่านั้นสามารถทำกำไรจากการขายได้ 25-40 % เลยทีเดียว

"คุณอรอนงค์ ณ ระนอง" ผู้บริหาร 9 UP Thailand ศูนย์จำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งปลีก-ส่ง
ภายใต้คอนเซ็ปท์ "ทุกอย่าง 20 บาท "

มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนอย่างหนาแน่นทุกวัน เธอจึงเกิดความสนใจและเริ่มหาข้อมูลแหล่งที่มาของสินค้าซึ่งเธอเห็นว่าสินคา
กลุ่มดังกล่าวถึงแม้จะมีราคาถก แต่คุณภาพและรูปลักษณ์ดูดีทีเดียว ไม่นานเธอก็ไดคำตอบว่าสินค้าเหล่านั้นนำเข้า
จากประเทศจีนโดยมีแหล่งกระจายสินค้าอยู่ในหลายพื้นที่ สินค้าเหล่านี้มีต้นทุนการผลิตต่ำจึงสามารถนำมาจำหน่ายใน
ราคา ถูก ได้เมื่อทราบถึงแหล่งกระจายสินค้าจึงลองรับมาขายดูปรากฏว่าลูกค้าให้การตอบรับดีมาก

โดยสินค้าที่เรานำมาขายส่งจะเลือกสินค้าประเภทที่มีคุณภาพ ใช้งานไต้จริงและเหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่ม พ่อค้า
แม่ค้าที่เข้ามารับสินค้าจากเราต้องสามารถนำไปขายได้ทุกสถานที่ทุกเวลา และเมื่อความต้องการสินค้าประเภทนี้มีมากขึ้น
ดิฉันจึงตัดสินใจสร้างโกดังขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นจุดกระจายสินค้า รองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาจากทั่วประเทศ”
คุณออกล่าวสินค้าของ 9 UP Thailand' มีให้เลือกรับไปจำหน่ายมากมายหลาย
ประเภท ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนเครื่องครัว พลาสติก เครื่องมือช่างสแตนเลส ขอเล่นเด็ก สินค้าพรีเมี่ยม ฯลฯ
โดยมีราคาขายล่งอยู่ที่ราคาประมาณ 14.50-15 บาท/ชิน (ขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้าที่เลือก) โดยสินค้าของที่นี่กว่า 90 %
เป็นสินค้านำเขาจากประเทศจีน ส่วน 10%ที่เหลือจะเป็นสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ

9 UP Thailand มีความโดดเด่นที่ความหลากหลายของสินค้า ที่สำคัญผู้ที่เข้ามารับสินค้าไปจำหน่ายสามารถเลือกซึ้อสินค้าได้ตามความพอ ใจ ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าแบบยกโหล/ยกลังสินค้าทุกรูปแบบสามารถเลือกคละสี คละแบบและคละชนิดสินค้าได้” ซึ่งเมื่อรับไปจำหน่ายลูกค้าสามารถตั้งราคาจำหน่าย
หน้าร้านได้ตั้งแต่ราคาชิ้นละ 20-25 บาทหรือหากมีไอเดียนำสินค้านำไปจัดขายเป็นชุด แล้วตั้งราคาจำหน่ายให้สูงขึ้นไปก็สามารถทำได้
“ทีผ่านมาพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ก็จะต้องไปหาซื้อสินค้าจากหลายแหล่งจำหน่ายกว่าจะได้สินค้าครบตามต้องการมาซื้อที่เรา มีสินค้าให้ครบทุก
ความ ต้องการ ซึ่งถ้าลูกค้าจะเล่นกลุ่มของราคา 20 บาท ที่นี่มีให้ด้วยราคาและคุณภาพของสินค้าทีทีสุด ส่วนราคาของสินค้าทีเราขายนั้นโดยทั่วไปเราจะส่งขั้นต่ำที
300 ชิ้น ขึ้นไป จะได้สินค้าใน
(สินค้า ชิ้นละ 14.50-15 บาท) ส่วนสินค้าแบบยกลัง ราคาของขึ้นอยู่กับชนิดของสินค้ากรณีของลูกค้าต่างจังหวัดยอดสั่งซื้อขั้น ต่ำอยู่ที่ 1,000 ลูกค้าต้องเป็นผู้ชำระค่าขนส่งจากรับออร์เดอร์มาเราจะและจัดส่งให้ โดยสามารถคละ/สี ฯลฯ ได้ตามความ
ต้องการเห็นกำไรอย่างรวดเร็วก็แนะนำว่า ควรลงทุนซื้อของเข้าร้านใหญ่หน่อยเพราะจะทำให้สินค้าดูหลากหลายและน่าซื้อยก ตัวอย่างง่ายๆ รับสินค้าไป300 ชิน ในราคาชิ้นละ 15 บาท
รวมเป็นเงิน 4,500 บาท ก็สามารถทำได้แต่มันจะไม่เห็นกำไรชัดเจนเนื่องจากสินค้า 300 ชิ้น เขาจะมีกำไรอยู่ที่ชิ้นละ 5 บาทเท่ากับมีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายรวม 1,500 บาทถามว่ากำไรเท่านี้ต่อวันอยู่ได้หรือเปล่า
ในความเป็นจริงเราต้องเข้า ใจว่าของ 300 ชิ้น มันไม่สามารถขายได้หมดภายในวันเดียว ไหนต้องเสียค่าเช่าที่ ค่าจ้างพนักงานขาย ค่าน้ำมันรถ ฯลฯ อาจจะไม่คุ้มถ้าอยากได้กำไรจากการขายเป็นกอบเป็นคำแนะนำว่า ควรซื้อของเข้าร้านอย่างต่ำ 500 ชิ้น ซึ่งจะทำให้สินค้าดูหลากหลายจัดบ้านจัดประเภทของสินค้าดีๆ
รับรองได้ว่าู ลูกค้าแน่นร้านแน่นอน สำหรับทำเลทองของธุรกิจทั้งร้าน 20 บาท ก็คือ ทำเลประเภท ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า แหล่งชุมชน ฯลฯ หากรู้จัก
เลือกสรรทำเลและรู้จักความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย พร้อมกับรู้จักวิธีการบริหารจัดการร้านธุรกิจไปได้ดีแน่ๆ

ธุรกิจ ซื้อมา..ขายไป ประเภทนี้ยังมีอนาคตที่สดใสเนื่องจากเป็นสินค้าราคาถูกมีความหลากหลาย ซื้อแล้วไม่ร้สึกว่าเสียดายเงิน ทำให้มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ของขายง่าย แป๊บเดียวก็หมด เพียงแต่ต้องรู้จักสรรหาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาขาย ซึงทาง 9 UP Thailand ก็มีการพัฒนาเสาะหาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ยังไม่เคย
ทำ ธุรกิจประเภทนี้แต่สนใจอยากเข้ามาทำแนะนำว่าขั้นแรกให้สำรวจความพร้อมของตัว เอง จากนั้นถามตัวเองว่าอยากขายอะไรลูกค้าต้องการอะไร และ
ควรขายในทำเลไหน และหากต้องการคำ

สำหรับ ผู้ที่สนใจเยี่ยมชมสินค้าและหน้าราน “9 UP Thailand” สามารถติดต่อได้ที่ ร้าน “9 UP Thailand”ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดิน ศูนย์การค้า เซียร์ รังสิตหรือหากต้องการรับสินค้าไปจำหน่าย
ติดต่อได้ที่ โทร.08-1822-0403, 08-63170578 (โกดัง) หรือที่ www.upthailand.com

เขียนโดย kasor ที่ 12/17/2009 1 ความคิดเห็น

Read More...

ลูกชิ้นปิ้ง

สูตรทำขนม

ลูกชิ้นปิ้ง

อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ กำไรดี อย่ามองข้ามลูกชิ้นปิ้งไม้ละ 5 บาทเด็ดขาด คุณเคยซื้อลูกชิ้นปิ้งใช่มั๊ย ซื้อครั้งละกี่ไม้ อย่างต่ำ ? ลูกชิ้นปิ้งทำง่ายไม่ยุ่งยาก มีน้ำจิ้ม เปรี้ยว หวานเผ็ด ถูกปากคนไทย สะดวกคนกิน ซื้อกินได้ทันที อิ่มสบาย ไม่แพง เริ่มต้นขายก็ง่ายไม่ยาก ย่างด้วยเตาถ่านไฟไม่ต้องแรงมากเดี๋ยวไหม้ เสียบ 4 ลูกขาย 5 บาท

สูตรน้ำจิ้มลูกชิ้นปิ้ง

พริกสด

กระเทียม

กระเทียมดอง

พริกไทย

น้ำส้มสายชู

รากผักชี

น้ำตาลทราย

เกลือ

แป้งมันหรือแป้งข้าวโพด

นำ ส่วนผสมใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด ใส่หม้อตั้งไฟให้เดือดใส่เกลือและน้ำตาลชิมรสเอาตามชอบใจ จากนั้นใส่แป้งมันหรือแป้งข้าวโพดละลายน้ำค่อยๆเททีละน้อยเพื่อให้น้ำจิ้ม ข้นจนกว่าจะพอใจ ต้องการเผ็ดมากหรือน้อยขึ้นกับพริกและพริกไทย ส่วนเปรี้ยวหวานก็ต้องคะเนน้ำตาลกับน้ำส้มสายชู ทำไปปรับเรื่อยๆก็จะได้รสที่ถูกใจเอง หาทำเลขายย่านที่คนผ่านเยอะรับรองได้ขายแน่ๆครับ ขอให้ขายดี เป็นกำลังใจช่วย

Read More...

ร้านน้ำผัก น้ำผลไม้ปั่น

สูตรทำขนม

น้ำผัก น้ำผลไม้ปั่น เย็นชื่นใจ

อากาศ ร้อนๆอย่างนี้ ได้ผลไม้ปั่นเย็นชื่นใจสักแก้วคงจะดี ย่างเข้าหน้าร้อนธุรกิจเกี่ยวกับน้ำจะขายดีเป็นพิเศษ วันนี้เลยอยากแนะนำวิธีการทำน้ำปั่น ผลไม้ปั่นให้กับท่านที่อยากลองทำขายเพื่อเป็นรายได้เสริม เอาจากประสบการณ์ผู้เขียนเองที่ได้ ผ่านอาชีพนี้มา จะมาแนะนำให้ น้ำผลไม้เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นิยมดื่มกันมากในผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพ น้ำผลไม้ที่จะแนะนำ จะไม่เหมือนที่หลายท่าเคยกินมาก่อนนะครับ

สูตรผลไม้รวม ผลไม้ที่เลือกใช้
แคนตาลูป 1 ชิ้น
น้ำส้มคั้น ใช้ส้ม เบอร์2, 2-3 ลูก
สับปะรด 1 ชิ้น
แอปเปิ้ล 1 ชิ้นแคนตาลูป 1 ชิ้น
แครอท 1 ชิ้น
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำเชื่อม 1 กระบวยเล็ก (น้ำตาลทรายขาว1กก. +น้ำ 1.2 ลิตร ตั้งไฟให้เดือด แล้วเอาน้ำตาลลงคนจนละลายปิดไฟ ทิ้งให้เย็น)

ผล ไม้5 ชนิดนี้จะเป็นตัวหลักในการทำ น้ำผลไม้รวม เน้นความสดสะอาด ถ้าปอกผลไม้เตรียมใส่ภาชนะไว้ ต้องแช่เย็นเพื่อให้ผลไม้สด หัวใจหลักของ ผลไม่รวมปั่นคือ น้ำส้มคั้น ต้องคัดเลือกส้มคั้นน้ำที่รสออกเปรี้ยวหวาน ใช้ส้มรังสิต หรือบางมด เอามาบ่มทิ้งไว้ให้คลายน้ำมันที่เปลือกออกไปบ้างเวลาคั้นจะได้ไม่ขม เทคนิคการคั้นส้ม ใช้เครื่องคั้นแบบมือโยกทั่วๆไป แต่เวลาผ่าส้มอย่าผ่าให้ขาดออกจากกันคือให้ติดกันไว้ไม่ต้องให้แยกเป็น 2 ซีก เวลาคั้นให้คว่ำ หน้าส้มที่เป็นส่วนของเนื้อส้มลงในเครื่องคั้น แล้ว กดคันโยกคั้นเพียงครั้งเดียวไม่ต้องออกแรงหนักมือมาก เพราะจะทำให้น้ำมันที่ผิวส้มออกมาปนในน้ำส้มด้วย น้ำส้มจะมีรสขมหั่นผลไม้อีก 4 ชนิดที่เหลือเตรียมไว้ กะให้พอดีกับการปั่น/ 1แก้ว ขนาด 16 ออนซ์ อย่าลืมเผื่อน้ำแข็งเข้าไปด้วย เติมเกลือป่น นิดหน่อย ใส่น้ำเชื่อม 1กระบวย เติมน้ำส้มคั้นลงไปใช้น้ำส้มจากส้ม 2-3ลูก ปั่นจนเนียนละเอียด เนื้อผลไม้ที่ปั่นจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องปั่นด้วย ต้องเลือกใช้เครื่องที่มีรอบการหมุนของมอเตอร์สูงๆ ต้องทดลองปั่น จะรู้ว่าขนาดใหนพอดีแก้ว เพราะถ้าเหลือก็จะเป็นต้นทุนเรา ต้องพยายามปั่นให้พอดีแก้วแก้ว ขนาด 16 ออนซ์ ตั้งราคาขายที่ 20-25 บาทได้สบายเพราะเราใช้ผลไม้หลายชนิดและสดสะอาด หรือจะเลือกใช้แก้วหลายขนาด หลายราคา เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าก็ได้ผลไม้อื่นๆที่นิยมนำมาปั่นได้แก่

แตงโม
มะพร้าว
มะนาว
ละมุด
มะม่วง
ฝรั่ง
สตอว์เบอร์รี่
กีวี
บลูเบอรี่
แบลคเคอแรนท์
ราสเบอรี่
ฯลฯ

ผักที่นิยมนำมาปั่น

บีทรูท
เซลารี่
แตงกวา
สะระแหน่
มะเขือเทศ
ขิง
ฯลฯ

เรียกได้ว่าผักและผลไม้แทบทุกชนิดสามารถนำมาทำเมนูปั่นได้

คราว นี้ลองมาดูการทำน้ำผักกันบ้างการทำน้ำผักก็ทำได้ง่ายๆ โดยใช้เครื่องคั้นแบบแยกกาก ราคาตั้งแต่ หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น เราทดลองทำใหม่ๆ ไม่ต้องใช้ของแพงมากก็ได้ ถ้าธุรกิจไปได้สวยค่อยเปลี่ยน ก็ไม่ว่ากัน

หั่นผลไม้หรือผัก เป็นชิ้นๆ พอดีช่องที่ใช้ใส่ กดลงไปเบาๆเครื่องก็จะสกัดน้ำแยก ออกจากกากให้เรา สูตรน้ำสกัดใช้สูตรผลไม้รวมก็ได้ หรือดัดแปลง เอาผักบางชนิดลงผสม ก็จะทำให้สีสรรน่ากินมากขึ้นเช่น นำ ผลไม้รวม ผสม บีทรูท ก็จะได้น้ำผลไม้รวมที่มีสีสรรออกม่วง หรือท่าจะใช้ เซลารี่ ผสมลงไปก็จะได้ สีเขียวอ่อนๆ รสซ่าหอมชื่นใจผู้เขียนเคยทดลองขายมาแล้วได้รับผลตอบรับดีมาก โดยเฉพาะสาวๆที่ต้องการดูแลเรื่อง น้ำหนัก และรักษาผิวพรรณ จะนิยมดื่มกันมาก ลองมองหาทำเลดีๆ ใกล้สถานศึกษาหรือออฟฟิตได้ยิ่งดีลองทำขายดูกันะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

เขียนโดย kasor ที่ 3/06/2009

Read More...

อาชีพเสริม ขายเสื้อผ้ามือสอง

สูตรทำขนม

อาชีพเสริม ขายเสื้อผ้ามือสอง

เศรษฐกิจ ไม่ดี ใครๆก็ต้องรัดเข็มขัด ประหยัดกันอย่างถ้วนหน้า ของแบรนด์เนมดังๆก็ต้องงดกันไปก่อน เสื้อผ้ามือสองจึงเป็นตัวเลือกถัดมาเพราะมีราคาถูกและมีคุณภาพดีไม่แพ้ของ มือหนึ่งถ้ารู้จักเลือกดีๆ วันนี้ลองหันมาดูเรื่อง การขายเสื้อผ้ามือสองกันดูบ้างเผื่อ ได้แนวทางในการหารายได้เสริมกันอีกทางหนึ่ง การขายเสื้อผ้ามือสองนั้นลงทุนต่ำได้กำไรดี แต่ต้องรู้จักแหล่งเลือกซื้อของดีมีคุณภาพนำมาตั้งราคาขายต่อ มีทำเลขายที่ดี ก็จะเพื่มรายได้ให้เราไม่ต้องรอรายได้จากงานประจำตอนสิ้นเดือน ลองมาดูแหล่งซื้อหาเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีเพื่อนำมาขายต่อกันบ้าง
1. คุณ ธณภณ มาเจริญ โทร.087-989-8958,086-323-5334 แฟกซ์ 02-521-4464 หรือที่ www.thaiusedclothes.com ,Email:Thanaphon.bkk@gmail.com สินค้าจะขายกันเป็นยกกระสอบ ใน 1กระสอบจะประกอบไปด้วย เสื้อแขนกุด,แขนยาว,แขนสั้น,กางเกงขาสั้น,กางเกงสามส่วน,กระโปรง ทั้งของผู้หญิงและของผู้ชายรวมกัน ของแบรนด์เนมและเสื้อผ้ามือสองอย่างอื่นปะปนกันไป ราคากระสอบละ 8,000 บาท จะมีเสื้อผ้าทั้งหมดประมาณ 600 ตัวเฉลี่ยต้นทุน 10 กว่าบาท/ตัว ส่วนถ้าเป็นกางเกงยีนส์หรือเสื้อยีนส์ ก็ราคา 8,000/กระสอบเช่นกัน จะมี 180-200 ตัว ตกต้นทุน 40 กว่าบาท/ตัว ในกระสอบจะมีของแบรนด์เนมประมาณ 30% ทั้ง Lee, LEVI'S, EDVIN, Lee cooper, Mc,Timberland, Wrangler เสื้อผ้า สวยๆสามารถตั้งราคาขายที่ 300,200 หรือ 199 ได้สบาย ส่วน LEVI'S ตั้งราคาที่ 300-600บาทได้ เพราะเป็นของที่มีคุณภาพดี ส่วนถ้าอยากขายกระเป๋ารองเท้า เข็มขัด หรือของอื่นๆก็ลองติดต่อคุณ ธณภณดูได้นะครับเขาพร้อมจะจัดหาให้ได้

2. ตลาดโรงเกลือ บ้านคลองลึก ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นแหล่งรวม เสื้อผ้ามือสองคุณภาพดีแหล่งใหญ่ที่สุด พ่อค้าแม่ค้า นิยมไปซื้อมาขายกัน แม้แต่ที่กรุงเทพยังนิยมไปรับจากแหล่งนี้มาขายกัน เพราะมีของให้เลือกมากมาย เรียกว่ามีกันครบทุกอย่าง ที่อยากขาย และมีราคาถูก ท่านใดสนใจ ต้องลองไปเลือกซื้อเอง เพื่อจะได้รู้แหล่งที่ราคาถูกสุด แต่ต้องเลือกและสังเกตุด๊ๆเพราะมี ทั้งของแท้และของเลียนแบบ ผู้เลือกต้องตาถึงพอสมควร ตลาดเปิดเวลา 07.00-20.00 น.ของทุกวัน

3. ติดต่อ : jim จังหวัด : สงขลา โทร. 097369889 Email : chewstar2000@yahoo.com เสื้อผ้า มือสอง ขาย ยกกระสอบ ตรงจาก ต่างประเทศ ขายส่ง สำหรับคนที่ต้องการ หารายได้เสริม ราคา 90.00 บาทรายละเอียด: ขายส่ง ยกกระสอบ คิดเป็น กิโลแบบคัด นำมาคัดแยก ซักทำความสะอาด บรรจุอัดเฉลี่ยเป็น 100 ปอนด์ หรือ 45-50 กิโลกระสอบ ขายส่งกิโลละ 90 บาทเฉลี่ยกระสอบละ 4050-4500 บาท เกือบ 180-190 ตัวต่อกระสอบได้เสื้อผ้าทั่มียี่ห้อสามารถขายแพง 200-300 บาท นำไปขายปลีก ตามตลาดนัด ตลาดเปิดท้ายต่างๆ

4. แฟรนไชส์เสื้อผ้ามือสอง เกรด เอ Switch On มีให้เลือกหลากหลาย เสื้อเชิ้ต เสื้อวัยรุ่นสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น แจ็คเก็ตยีนส์ กางเกงยีนส์ ลูกค้าสามารถรับเป็นเอเย่นในเขต อำเภอ หรือจังหวัดได้โดยสั่งแพ็คเก็จ ซื้อ 4แถม 1 โดยมียอดการสั่ง 1-2เดือน จะรับสิทธิ์เป็นเอเย่น ไม่ต้องปวดหัวกับ ทุนจมของขายไม่ออก เพราะถ้าเป็นสมาชิกแฟรนไชส์ สามารถเปลี่ยนได้ถึง 30 ตัว มีการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ตลาดให้ การจัดร้าน ทำเล พร้อมทั้งแก้ปัญหาต่างๆ

Switch On มีแพ็คเก็จดังนี้

1.ครึ่งกระสอบ มี 100ตัว ราคา 4,000 บาท

2. 1 กระสอบ มี 200 กว่าตัว ราคา 7,500

3.แพ็คเก็จ พรีเมี่ยม ซื้อ 4 กระสอบ แถมฟรี 1 กระสอบ 7,500 x 4

สมัคร สมาชิกแฟรนไชส์ 4,500 บาท จ่ายครั้งเดียวเท่านั้น สนใจติดต่อ Switch On โทร. 087-55-3548,081-343-5864

ท่านใดอยากหารายได้เสริม ด้วยเสื้อผ้ามือสอง ก็ทดลองหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมกันได้นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ขายดี

Read More...

อาชีพเสริม ผัดไทยหอยทอด

สูตรทำขนม

ผัดไทย หอยทอด ธุรกิจยั่งยืน

ทุกคนคงเคยกินผัดไทย หอยทอด เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ถูกปากคนไทยเรามานาน ไม่แน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดมาจากที่ใด นึกถึงผัดไทยเส้นเหนียวนุ่มร้อนๆกุ้งแห้ง หรือกุ้งสด เลือกสั่งตามชอบใจ หรือจะเป็นผัดไทยทะเลรวมหอยและหมึกเข้าไปด้วย เพิ่มรสชาติได้อีกหลากหลาย กินแกล้มกับผักสด อย่างหัวปลีก กุ่ยช่ายบางคนสั่งเบิ้ลสองจาน ห่อกลับบ้านอีกต่างหาก วันนี้เลยอยากให้ลองมาดูธุรกิจผัดไทยและหอยทอด อาหารพื้นๆที่เราพบเห็นได้ทุกวัน แต่รายได้ไม่ธรรมดาเลย ยิ่งใช้วัตถุดิบสดสะอาดปรุงอย่างพิถีพิถันแล้ว คนต้องต่อคิวกันรอ วันนี้เลยอยากเอาข้อมูลเกี่ยวกับผัดไทย หอยทอด มาให้ท่านที่สนใจได้ลองพิจารณากันดู เผื่ออยากลองทำเป็นรายได้เสริม เพิ่มเงินในกระเป๋ากันอีกทาง เศรษฐกิจดีไม่ดี คนก็ยังต้องกินธุรกิจด้านอาหารจึงไม่มีวันตก ทำดีๆอาจมีรายได้เป็นอาชีพหลักเลยก็เป็นได้

1. แฟรนไชน์ผัดไทย หอยทอด หัวปลี วิภาวรรณ

ประสบผลสำเร็จมากว่า 2 ทศวรรษ จุดเด่นคือ รสชาติที่อร่อยถูกปาก รับประกันรสชาติ เพราะใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ ทุกสาขาจะใช้เหมือนกันหมดกับสาขาใหญ่ มีทีมงานอบรม ให้ความรู้ สอนเทคนิคในการทำ วัตถุดิบ คือ น้ำผัดไทย เส้นผัดไทยสำเร็จรูป ซอสพริก วิภาวรรณ สำหรับหอยทอด แป้งผงสำเร็จรูป สำหรับทำหอยทอด ทุกอย่างจะได้รับจาก แฟรนไชส์ซี ทำให้ ควบคุมเรื่องรสชาติได้เหมือนๆกันทุกสาขา ระยะคืนทุนสั้นกำไรดี สามารถทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมได้ทุกคน ราคาค่าแฟรนไชส์ 29,000 บาท ค่าสมาชิกแรกเข้า 1,000 บาท ค่าสมาชิกรายปี 5,000 บาท ระยะคืนทุน 3 เดือน ขึ้นอยู่กับทำเล

สิ่งที่จะได้รับ

1. รถเข็นหัวปลี 1 ชุด

2. อุปกรณ์ประกอบอาหารทุกชนิด

3. ชุดฟอร์มพนักงาน 2 ชุด

รายการสินค้า

ผัดไทยธรรมดา 25 บาท

ผัดไทยกุ้งสด 40 บาท

ผัดไทยวุ้นเส้นธรรมดา 30 บาท

ผัดไทยวุ้นเส้นกุ้งสด 45 บาท

หอยแมลงภู่ทอด 30 บาท

หอยนางรมทอด 45 บาท

ออส่วน 55 บาท

*** ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ลองติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท ไทยฟูดส์ ช๊อป จำกัด (วิภาวรรณ) 590-592 ซ.อ่อนนุช 46 ถ. สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช)แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 โทร. 02-752-6851-5 แฟกซ์ 02-752-6851-5 กด 24 หรือ ที่ www.viphawan.com

2. ผัดไทยมณีแดง แฟรนไชส์ ผัดไทยหอยทอดกระทะร้อน เพื่อสุขภาพ

ทาง บริษัทได้คิดค้นสูตรซอสผัดไทย เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการปรุง เพื่อความสะดวกแก่ลูกค้าไม่ต้องรอคอยนานๆ ทำให้มีรสชาติที่มาตรฐาน ปัจจุบันยังได้ส่งซอสผัดไทยนี้ไปขายยังต่างประเทศส่วนแป้งสำหรับหอยทอดนั้น สามารถนำมาผสมน้ำตามสัดส่วนใช้งานได้สะดวก ทางบริษัทจะส่งวัตถุดิบให้แก่สาขาทุก สัปดาห์ วัตถุดิบมีทั้งหมด 3 ชนิดได้แก่ ซอสผัดไทย น้ำจิ้มหอยทอด และแป้งสำเร็จรูปส่วนวัตถุดิบอื่นๆ เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ไข่ไก่ กุ้ง หอยแมลงภู่และผักต่างๆ ทางสาขาตัดสินใจได้เอง สำหรับ ท่านใดสนใจ ราคาแฟรนไชส์จะอยู่ที่ 39,999 บาท

โดยจะได้รับ

คีออสตกแต่งอย่างสวยงาม

วัตถุดิบในการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ ครบชุด 27 รายการ

ใช้เงินทุนหมุนเวียน 600-800 บาท/วันคิดกำไรที่ 50%

*** ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ลองติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท สิริมงคล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คุณ อังคณา วิเลขรัตน์ (มด) โทร. 087-031-6089 02-998-3544-7

เขียนโดย kasor ที่ 3/17/2009

Read More...

อาชีพเสริม ข้าวเกรียบปากหม้อ

สูตรทำขนม

ข้าว เกรียบปากหม้อ เป็นอาหารว่างที่บริโภคกันมาแต่โบราณ และยังได้รับความนินมจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันสามารถทำเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋าได้อย่างสบายหลายท่าน คงอยากลองทำเพื่อเป็นอาชีพเสริม วันนี้จึงนำสูตรการทำข้าวเกรียบปากหม้อมาให้ทดลองทำกันดู

ส่วนผสม

แป้งข้าวจ้าว 1 1/2

ถ้วยแป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ

แป้งท้าวยายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำ 2 ถ้วย

ส่วนผสมไส้

เนื้อหมูสับละเอียด 1 ถ้วย

ถั่วลิสงคั่วโขลก 1/2 ถ้วย

หอมหัวใหญ่สับ 1/2 ถ้วย

ผักกาดเค็มสับละเอียด 1/4 ถ้วย

พริกไทย กระเทียม รากผักชีโขลกละเอียด น้ำมันสำหรับผัด น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าวหรือตาลโตนด

วิธีการทำ

1. น้ำมันตั้งไฟ 3-4 ช้อนโต๊ะ พอน้ำมันร้อนใส่เครื่องที่โขลกลงผัด ใส่หมูสับ ผัดจนหมูแห้งตักขึ้นพักไว้

2. ใส่น้ำตาลลงผัด ใส่น้ำปลา ผักกาดเค็มที่ล้างแล้ว ลงผัดจนน้ำตาลเหนียวลงน้อย ใส่หมู ใส่หอมใหญ่ ผัดให้เข้ากัน ใส่ถั่งลิสงโขลก ผัดจนทุกอย่างเข้ากันดีตักขึ้น

3. ผสมแป้งทั้ง 3 ชนิดเข้าด้วยกันละลายกับน้ำจนแป้งไม่เป็นเม็ด

4. ตั้งหม้อ ใส่น้ำขึ้นไฟขึงผ้าขาวเนื้อละเอียดหนาพอประมาณ ขึงให้ตึง ตักแป้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะละเลงบางๆให้เป็นแผ่นกลมๆ ปิดฝาครอบให้แป้งพอสุกตักไส้ใส่ตรงกลางพับแป้งเป็นสี่เหลี่ยม พรมน้ำมันเจียวกระเทียม

5.จัดผักชี หรือผักสลัด พริกสด น้ำกะทิข้นที่เคี่ยวผสมเกลือเล็กน้อย สำหรับกินแนมกับข้าวเกรียบปากหม้อเป็นชุดๆ 1 ชุดไส่กล่อง ข้าวเกรียบประมาณ 14-15 ตัว ตั้งราคาขายที่ 25-30 บาท

ทดลองทำกินเองที่บ้านดูก่อนก็ได้เพื่อพัฒนารสชาติที่ชื่นชอบเป็นสูตร เฉพาะของแต่ละคน เคล็ดลับอยู่ที่แป้งที่นุ่มเหนียว และรสชาติไส้ที่กลมกล่อม และการพับข้าวเกรียบที่สวยงาม น่ากิน ลูกค้าต้องยืนต่อคิวกันสั่งเลยทีเดียวหรือทดลองทำดูแล้วยุ่งยาก อยากได้สูตรสำเร็จพร้อมประกอบอาชีพเลยก็ ลองติดต่อไปที่

แฟรนไชส์ ข้าวเกรียบปากหม้อ นพวรรณ ขนมไทย

มีให้เลือก 3 สูตรสูตร

1. นำเกร็ดสาหร่ายมาผสมแป้งเพื่อให้เพิ่มรสชาติและกลิ่นที่น่ากินสูตร

2. นำผักมาสกัดผสมลงไปในแป้งเพิ่มสีสันและคุณค่าทางอาหาร ทำให้น่ากินยิ่งขึ้นสูตร

3. นำสีของดอกไม่มาเพิ่มสีสันให้ดูน่ากินยิ่งขึ้น
มี การให้คำแนะนำและฝึกอบรมจนเป็นพร้อมประกอบอาชีพได้ ราคาอยู่ที่ 15,000 บาท มีแป้งให้ทดลองนำไปทำที่บ้านได้ ลองเลือกหาทำเลดี ใกล้แหล่งชุมชนหรือใกล้ ตลาด โรงเรียน บริษัทสำนักงานต่างๆ ผู้คนสัญจรรับรองขายดีแน่ๆ ข้าวเกรียบปากหม้อขายง่าย ไม่ต้องการหน้าร้านใหญ่โตแค่ตั้งโต๊ะตัวเดียวก็ขายได้

แล้วทดลองทำกันดูนะครับ ไม่งอมืองอเท้ารับรองไม่มีอด เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ

Read More...

อาชีพเสริมจากกล้วยปิ้ง

สูตรทำขนม

อาชีพเสริมจากกล้วยปิ้ง

เรื่อง กล้วยๆที่ไม่กล้วยเหมือนชื่อ วันนี้ไปเจอธุรกิจตัวหนึ่งน่าสนใจนั่นคือ กล้วยปิ้ง อ่ะ อย่าเพิ่งดูถูกกล้วยปิ้งนะครับ กล้วยปิ้งอาหารธรรมดาที่ใครก็ต้องเคยกินรสชาติอร่อยเหมาะสำหรับเป็นของกิน เล่นยามว่างหรือจะกินจริงก็อร่อยไม่แพ้กัน วันนี้ผ่านไปเจอกล้วยปิ้ง ก็เลยนำข้อมูลมาให้คุณๆทั้งหลายได้ลองศึกษากันดู อาจจะสนใจทำเป็นอาชีพเสริมได้หลังเลิกงาน ง่ายสบายๆไม่ยุ่งยากมาดูวิธีทำกันเลย

ส่วนประกอบ

กล้วยน้ำว้าแก่กึ่งสุกกึ่งดิบ

ส่วนประกอบน้ำจิ้ม

1. กะทิ

2. น้ำตาลปิ๊บ

3. น้ำตาลทราย

4. โอวัลติน นิดหน่อย

5. เกลือ

6. นมสด

วิธีทำ

1. นำส่วนผสมน้ำจิ้ม ไปตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียว โดยใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป เคี่ยวจนเหนียวพักไว้ให้เย็น

2. หั่นกล้วยตามขวางเป็นชิ้นพอคำ เสียบไม้

3. นำมาย่างไฟให้เหลืองอ่อนๆ แล้วนำไปทุบด้วยไม้นวดแป้งให้แบน

4. แล้วนำไปราดน้ำจิ้มที่เตรียมไว้

สูตรที่ 2.
ส่วนผสมกล้วยน้ำว้าแก่ๆ ไม่ดิบไม่สุก

ส่วนประกอบน้ำจิ้ม

1. น้ำตาลมะพร้าว 2 ฝา

2. กะทิ 1 ถ้วย

3. เนยเค็ม 4 ช้อนโต๊ะ

4. เกลือนิดหน่อย

วิธีทำ

1. นำกะทิ กับน้ำตาลมาต้มให้เดือดพอน้ำตาลละลายก็เติมเนยเกลือ เคี่ยวให้ข้นเหนียวพักไว้ให้เย็น

2. หั่นกล้วยเป็นแว่นๆ ขนาดพอดีคำ และก็เสียบไม้เตรียมไว้

3. นำมาย่างไฟให้เหลืองอ่อนๆ แล้วนำไปทุบด้วยไม้นวดแป้งให้แบน

4. พอกล้วยสุก ก็นำไม้ที่นวดแป้งมาทับให้แบนแบน ราดน้ำเชื่อมเป็นอันใช้ได้

หรือ ถ้าใครอยากได้แฟรนไชส์ก็มีกล้วยปิ้ง ร.ศ.๑๑๒ สูตรกล้วยปิ้งอบเทียนหอม แฟรนไชส์อาหารว่างที่ทำเงินได้ดี สามารถขึ้นห้างได้ จัดการมีระบบระเบียบดี

รายละเอียด กล้วยปิ้ง ร.ศ.๑๑๒

ค่าแฟรนไชส์มี 3 ราคา ได้แก่ 47,000 บาท , 58,000 บาท , 70,000 บาทกรณีมีที่ขายในห้างให้ด้วย

อุปกรณ์ที่จะได้รับ
1. โต๊ะขาย (Kiosk) พร้อมป้าย

2. เตาปิ้งสแตนเลสระบบแก๊สและ มิเตอร์วัดความร้อน

3. ชามอ่างสแตนเลสใส่น้ำเชื่อม สูตร "ร.ศ.๑๑๒"

4. น้ำเชื่อมสูตร "ร.ศ.๑๑๒" ฟรี 5 แกลลอน

5. ถุงใส่กล้วยพร้อมถุงหิ้วพิมพ์ชื่อและ LOGO "ร.ศ.๑๑๒"

6. อุปกรณ์การขายอื่นๆ ครบชุด

การ ฝึกอบรม : จัดอบรมการทำจนกว่าจะขายได้ (ครั้งละไม่เกิน 3 คน) เนื่องจาก "ร.ศ.๑๑๒"ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ดังนั้น จึงมีเงื่อนไขเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
- ห้ามเพิ่มเตาด้วยตนเอง

- ห้ามดัดแปลงหรือปรุงเพิ่มในส่วนของน้ำเชื่อมสูตร "ร.ศ.๑๑๒"

- การย้ายสถานที่ขายต้องแจ้งก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแข่งขันกันเอง

- จะต้องสั่งซื้อน้ำเชื่อมสูตร "ร.ศ.๑๑๒" และถุงใส่กล้วยจากผู้ขายเท่านั้น

- หากจะมีการขายสินค้าอื่นนอกเหนือจากกล้วยปิ้งต้องแจ้งทางบริษัทก่อน

สำหรับใครสนใจจะทำเป็นอาชีพเสริมหรือลงทุนทำเป็นธุรกิจก็สามารถเลือกได้ เศรษฐกิจไม่ดีอย่างนี้ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารไปได้สบายๆ

Read More...

ขนมโตเกียว ทำขายได้ตลอดไม่ตกยุค

สูตรทำขนม

ขนม ที่มีวางขายมาเนิ่นนานแล้วอย่าง “ขนม โตเกียว” ลักษณะเป็นแผ่นกลมรี ๆ นำมาม้วน เนื้อแป้งนิ่มอร่อย รับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งความอร่อยของขนมชนิดนี้หัวใจสำคัญอยู่ที่ไส้ที่จะต้องมีการพลิกแพลงให้ โดนใจลูกค้า และรสชาติของตัวแป้งที่ต้องกลมกล่อมลงตัวกันพอดีกับไส้ และวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็นำข้อมูลการทำ-การขายขนมโตเกียว ที่ขายได้-ขายดีมาตลอด มาให้ลองพิจารณากัน...

ฉัตรชัย อินทรประสิทธิ์ หรือ “ติ๊ก” เจ้าของสูตรขนมโตเกียวโบราณ เล่าให้ฟังว่า ก่อนมายึดอาชีพพ่อค้า เดิมเคยทำงานมาหลายอาชีพ เคยทำงานประจำตามบริษัท แต่เพราะอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ภายหลังเลยเลือกอาชีพขายของ โดยเริ่มต้นจากขายเสื้อผ้า กิฟต์ช็อป ของเล่น ซึ่งแม้จะขายดี แต่ต้องใช้ต้นทุนสูง และถ้าวันไหนขายไม่ดีก็ต้องกินทุน สินค้าประเภทนี้ลูกค้าไม่ได้ซื้อกันทุกวันเหมือนกับของกิน บางครั้งก็ทำให้รู้สึกเบื่อ ๆ ท้อ ๆ เพราะรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายในครอบครัว ที่สุดก็ตัดสินใจมองหาอาชีพใหม่

“เปลี่ยน มายึดอาชีพขายขนมโตเกียวได้ประมาณ 5 ปีกว่า ๆ ได้สูตรมาจากพี่สาว และแฟนเราก็มีพื้นฐานในการทำขนมอยู่บ้าง ก็ไปฝึกทำขนมโตเกียวจาก พี่สาว แล้วมาปรับเพื่อให้เป็นสูตรเฉพาะ ขนมโตเกียวสูตรของเรามีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแป้งและไส้ขนม เนื้อแป้งละเอียด รสชาติดี กลมกล่อม มีกลิ่นหอม สามารถนำไปทำขนมแพนเค้กก็ได้ ส่วนไส้ขนมเราก็จะชูความเป็นไทยประยุกต์ เช่น สังขยา ครีม เผือก และไส้กรอก ใช้ยี่ห้อดีซึ่งไม่ค่อยเหมือนร้านอื่น เลยทำให้ได้ลูกค้าประจำหลายกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่”

ติ๊กบอกว่า ขนมโตเกียวเป็นขนมที่รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ไม่จุกจิก สามารถทำเองคนเดียวได้ ใช้เงินลงทุนไม่สูง ที่สำคัญกำไรดี เพียงแต่ใส่ใจในกระบวนการผสมแป้ง และพลิกแพลงไส้ขนม รับรองขายได้ตลอด

วัสดุ/อุปกรณ์ ในการทำอาชีพนี้ หลัก ๆ ก็มี... เตาแก๊ส, กระทะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า, กะละมัง, เกรียงแซะขนม, ภาชนะสเตนเลสสำหรับใส่ไส้ขนม, ช้อน, ตะกร้อตีไข่, ทัพพีด้ามสั้น, ตะแกรง, ถาด, หม้อ, ถังใส่แป้ง และเครื่องไม้เครื่องมือเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาจากในครัวมาใช้ได้

ส่วนผสมตัว แป้ง... แป้งสาลีตราว่าว 1 กิโลกรัม, นมสดคาร์เนชั่น 1 กระป๋อง, น้ำตาลทราย 6 ขีด, ไข่ไก่ (เบอร์ 3) 10 ฟอง, ผงฟู 30 กรัม, เกลือป่น 10 กรัม, วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ, เนยละลาย 1 ขีด, น้ำเปล่า 1 กิโลกรัม

ขั้น ตอนการทำ “ขนมโตเกียว” เริ่มจากนำแป้งสาลีมาร่อนผสมรวมกับผงฟู ร่อน 2 ครั้ง เสร็จแล้วตั้งพักไว้ ตอกไข่ใส่ภาชนะ ตีไข่ให้ขึ้น ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อยจนหมด ตีไข่ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ขึ้นฟูเป็นสีขาวนวล ใส่เกลือผสมลงไป จากนั้นให้นำแป้งที่ร่อนเตรียมไว้มาค่อย ๆ ใส่ทีละนิด คนส่วนผสมสลับไปเรื่อย ๆ จนหมด จึงใส่เนยละลายและน้ำลงไป คนนวดให้ส่วนผสมเนียนเข้ากัน ตั้งพักไว้ประมาณ 20 นาที

การ เตรียมไส้ขนม ถ้าเป็น “ไส้ครีม” จะใช้...นมข้นจืด, แป้งสาลี, แป้งข้าวโพด, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, เนยสด และวานิลลา ผสมแป้งสาลีกับแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน เทนมสดใส่ลงไป คนให้แป้งละลาย ตอกไข่ใส่ชาม แล้วตีพอเข้ากัน เทไข่ผ่านกระชอนลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้ละลาย นำส่วนผสมใส่หม้อตุ๋นยกตั้งไฟ คนตลอดเวลาจนส่วนผสมสุกเป็นครีมข้น เหยาะ วานิลลาใส่ไปนิดพอให้มีกลิ่น ยกลงจากเตาตั้งพักไว้ให้เย็น

“ไส้ สังขยา” ใช้... นมข้นจืด, แป้งข้าวโพด, กะทิ, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, น้ำใบเตยคั้นข้น และเกลือ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย แล้วทยอยใส่แป้งข้าวโพด คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี จึงใส่นมข้นจืด น้ำใบเตย กะทิ เกลือ คนให้เข้ากันอีกครั้ง ก่อนนำไปกรองเอาเศษออก แล้วนำไปใส่หม้อตุ๋นยกขึ้นตั้งไฟ คนไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลา พอรู้สึกว่าส่วนผสมหนืด ๆ เป็นอันใช้ได้ ยกลงตั้งทิ้งไว้ให้เย็น

“ไส้ เผือก” ใช้... เผือกนึ่งสุกบดละเอียด, กะทิ, นมข้นจืด, น้ำตาลทราย, เกลือ นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปกวนในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง กวนไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด จนไส้เผือกแห้ง ก็เสร็จเรียบร้อย ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น

“ไส้กรอก” ใช้ไส้กรอกขนาด 2 นิ้ว ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่แกะพลาสติกที่หุ้มออก นำไปวางบนกระทะกลับไปมาให้สุก ก็นำไปใส่เป็นไส้ขนมโตเกียวได้เลย

ขั้น ตอนในการทำเป็นขนมโตเกียวที่พร้อมขาย นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน พอกระทะร้อนได้ที่แล้วก็ให้ลดไฟลงให้ไฟอยู่ปานกลาง ไม่แรงไปไม่อ่อนไป เอาเนยทากระทะให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าเช็ดออก ทำให้กระทะแค่พอมัน ๆ ใช้ทัพพีกลมตักแป้งสำเร็จหยอดลงในกระทะ ใช้ก้นทัพพีละเลงแป้งเป็นรูปวงรีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว พอแป้งเริ่มสุกใช้ช้อนตักไส้ที่ต้องการใส่ลงไป ใช้เกรียงแซะแผ่นแป้งทางด้านล่าง พร้อมกับม้วนให้ปิดไส้ (ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและลูกเล่นของแต่ละคน) ก็จะได้ขนมโตเกียวตามที่ลูกค้าต้องการ

ขนมโตเกียวนั้น ต้องรับประทานร้อน ๆ ถึงจะอร่อย จึงต้องทำไปขายไป โดยราคาขายนั้น กล่องละ 20 บาท มีขนมโตเกียว 6 ชิ้น มีต้นทุนประมาณ 50% ของราคา

ติ๊ก-ฉัตร ชัยทำ “ขนมโตเกียว” ขาย โดยวันจันทร์และวันพุธขายที่ตึกซัน ข้างธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ วันอังคารขายที่ สวทช. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต และวันศุกร์ขายที่กระทรวงพาณิชย์ และยังรับออกร้าน-ออกงานทั่วไป ทั้งงานมงคล งานปีใหม่ งานวันเด็ก งานเทศกาลต่าง ๆ โดยมีเบอร์ติดต่อคือ โทร. 08-6782-8078 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ไม่ตกยุค แถมยังมี “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ!!.

เชาวลี ชุมขำ : รายงาน

ชมภาพและ วีดีโอ..http://www.dailynews.co.th..

Read More...

ขนมหัวเราะ ขนมไทยเชื้อ สายจีน

สูตรทำขนม

ขนม หัวเราะ” ขนมไทยเชื้อสายจีนที่ครั้งหนึ่งเคยนิยมกินคู่กับกาแฟโกปี๊ในตอนเช้า แต่มาตอนนี้กลายเป็นขนมหากินยากไปเสียแล้ว ทั้งที่เป็นขนมซึ่งทำง่ายมีส่วน ผสมไม่กี่อย่าง แถมยังสนุกกับการลุ้นด้วยว่าขนมจะแตกจนดูเหมือนกับหัวเราะร่าหรือไม่ ถ้าขนม หัวเราะคนทำก็พลอยหัวเราะชอบใจไปด้วย

ส่วนผสม

* แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก 4 ถ้วย
* เกลือป่น 2 ช้อนชา
* ผงฟู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ไก่ทั้งฟอง 2 ฟอง
* ไข่แดง 1 ฟอง
* น้ำตาลทรายบดละเอียด 1 ถ้วย
* น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
* งาขาวคั่วสำหรับคลุก

วิธีทำ

1. ร่อนแป้ง เกลือและผงฟู เข้าด้วยกันพักไว้

2. ตีไข่ไก่และไข่แดงให้ขึ้นฟู ค่อยๆใส่น้ำตาล ตีต่อไปเรื่อยๆจนขึ้นฟูขาว จากนั้นเติมแป้งสลับกับน้ำและน้ำมัน ตะล่อมให้พอ เป็นเนื้อเดียวกันเบาๆ จนเป็นก้อนโด (โดจะค่อนข้างแฉะและติดมือ)

3. แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กขนาดประมาณ 1 นิ้ว คลุกงาขาวให้ทั่ว

4. ใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน นำแป้งที่ปั้นไว้ลงทอด ใช้ไม้ปลายแหลมคนกลับไปกลับมา ขนมจะฟูแตกออก วิธี สังเกตว่าขนมสุกได้ที่แล้ว ให้ใช้ไม้แหลมจิ้มตรงรอยแตก ถ้าไม่มีเศษขนมติด ออกมาแสดงว่าสุกแล้ว ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน

H&C Tips

- ขณะนวดแป้งให้เข้ากัน ต้องระวังอย่านวดนานเกินไป เพราะจะทำให้แป้งแน่นแข็ง ทอดแล้วขนมจะแข็งเกินไปกินไม่อร่อย

- ควรทอดในน้ำมันมากๆและร้อน แต่ใช้ไฟอ่อน ขนมจึงจะแตกสวย

- ทุกครั้งที่ทอดเสร็จ ต้องช้อนเศษงาที่ลอยในน้ำมันออกให้หมด เพื่อไม่ให้มีเศษงาที่ไหม้ ติดขนมที่จะทอดรอบใหม่

ที่มา......
นิตยสาร Health & Cuisine ปีที่ : 6 ฉบับที่ : 65 เดือน : มิถุนายน 2549
http://www.healthandcuisine.com/cuisine.aspx?cId=11&aId=736

Read More...

พิซซ่าปัง อร่อยแบบไทย ๆ ขายลื่น

สูตรทำขนม

"พิซ ซ่า”แม้ไม่ใช่อาหารไทยแต่มาบัดนี้ก็ไม่ใช่ของแปลกสำหรับคนไทยอีกแล้ว แถมยังกลายเป็นอาหารต่างชาติยอดนิยมของใครๆหลายคนซึ่งจากที่เคยเป็นอาหาร ราคาสูงเพราะเป็นของต่างชาติที่ต้องมีการบวกค่าอะไรต่างๆเข้าไปด้วยปัจจุบัน ก็ไม่เสมอไปอีกแล้วและวันนี้ทีม“ช่องทางทำกิน”ก็มีข้อมูลอาชีพขาย พิซซ่าสไตล์คนไทยราคาถูกรสชาติถูกปากคนไทยเจาะกลุ่มลูกค้าได้กว้างมาให้ลอง พิจารณากัน...

คณินวงศ์เขื่อนแก้วอายุ36ปีเป็นเจ้าของธุรกิจและเจ้า ของสูตร“พิซซ่าปัง”เจ้าซัน(ชวนชิม)เจ้าตัวเล่าถึงที่มาของอาชีพนี้ว่าก่อนจะ ประกอบอาชีพนี้เคยทำงานร้านเบเกอรี่มาก่อนทำอยู่นานหลายปีก็รู้สึกเบื่อ

ประกอบกับมีครอบครัวด้วยจึงลาออกมาทำงานประจำเป็นช่างซ่อมนาฬิกาของบริษัท และผู้ที่จุดประกายไอเดียให้หันมาทำพิซซ่าปังขายก็คือลูกชาย

“เปิด ร้านทำพิซซ่าปังขายมาประมาณ3ปีแล้วกระแสตอบรับในตอนนี้ดีมากเพราะพิซซ่าปัง เป็นสินค้าที่ยังใหม่ชื่อก็ใหม่หลายคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินยังนึกไม่ออกว่ามี หน้าตาเป็นอย่างไรพิซซ่าปังเป็นพิซซ่าสไตล์คนไทยที่ทำแบบง่ายๆแต่รสชาติ อร่อยถูกปากคนไทย

เด็ก ส่วนใหญ่จะชอบกินพิซซ่าลูกชายผมก็เช่นกัน จะซื้อให้กินบ่อยๆก็ไม่ไหวเพราะราคาแพงจึงมักซื้อขนมปังแผ่นไส้กรอกแฮมทิ้ง ไว้ในตู้เย็นพอหิวเขาก็จะเอาขนมปังทาเนยไส้กรอกหรือแฮมวางราดด้วยซอสมะเขือ เทศกินผมจึงเกิดปิ๊งไอเดียจึงลองผิดลองถูกโดยดัดแปลงส่วนผสมให้รสชาติโดนๆ หลายครั้งทำแล้วเอาไปฝากเพื่อนๆทุกคนที่กินพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า อร่อยจริงๆเพราะคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีมาทำ”
จากนั้นไม่นานจึง เริ่มทำออกมาขายคณินบอกว่าแรกๆยอดขายก็ไม่ค่อยดีนักคนแค่มองๆดูไม่รู้ว่า เป็นอะไรแต่พอลองชิมแล้วก็ซื้อเลยพูดกันปากต่อปากจนมีลูกค้าขาประจำมากพอ ประมาณ

อาชีพนี้อุปกรณ์ที่ต้องลงทุนซื้อหามาใช้ที่ขาดไม่ได้ หลักๆคือเตาอบ,ถาดสเตนเลส-พลาสติก,ที่คีบขนม,ขวดพลาสติกใส่ซอส,ไม้กลัดหรือ ไม้จิ้มฟันที่เหลือก็จะเป็นอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ดทั่วไป

วัตถุ ดิบก็มี...ขนมปังปอนด์,ไส้กรอกไก่,ไส้กรอกชีส,สโมคกี้,ไส้กรอกกะเพรา,ปู อัด,แฮม,ซอสมะเขือเทศ,ซอสขาวหรือซอสซีส(สูตรพิเศษปรับทำเอง),ใบออริกาโน (สูตรพิเศษปรับทำเองให้กลิ่นหอมยิ่งขึ้น)

ขั้นตอนการทำ“พิซซ่าปัง”

ขั้น ตอนก็ไม่มีอะไรมากเริ่มจากนำขนมปังมาตัดขอบบางๆเสร็จแล้วนำเอาไส้กรอก ไก่(หรือสโมคกี้ไส้กรอกชีส,ไส้กรอกกะเพรา,ปูอัด,แฮม)มาวางทแยงเข้ามุมบนขนม ปังแล้วพับมุมขนมปังแหลมๆเข้าหากันใช้ไม้จิ้มปักกลัดตรงกลางขนมปังกับ ไส้กรอกทุกชิ้นเพื่อไม่ให้ขนมปังอ้าหรือแยกออกทำจนเสร็จหมด

จาก นั้นนำไส้กรอกที่ห่อขนมปังที่ได้มาเรียงไว้ในถาดติดๆกันจนเต็ม

นำขวดซอส มะเขือเทศมาบีบราดไปบนขนมปังให้ทั่วให้สวยงาม

แล้วก็นำเอาขวดซอสซีสหรือซอส ขาวมาบีบราดตามลงไปให้ทั่วๆเช่นเดียวกับซอสมะเขือเทศ

สุด ท้ายนำ ใบออริกาโนมาโรยให้ทั่วๆพอประมาณก่อนจะนำไปเข้าเตาอบใช้ความ ร้อน540ฟาเรนไฮต์อบประมาณ7นาทีเมื่อครบกำหนดก็เอาออกมาตั้งไว้ให้เย็นเป็น อันเสร็จเรียบร้อยพร้อมขาย

สำหรับราคาขาย“พิซซ่าปัง”คือชิ้นละ12บาท

ใคร สนใจอยากลองชิม“พิซซ่าปัง”ของคณินว่าเป็นอย่างไรก็ไปหาซื้อกันได้ตามวันและ สถานที่ดังนี้คือวันจันทร์ขายที่การไฟฟ้าฯบางกรวย,วันอังคารขายที่กระทรวง การคลัง,วันพุธขายที่กระทรวงสาธารณสุข,วันพฤหัสบดีขายที่โรงงานยาสูบวัน ศุกร์ขายที่กระทรวงพาณิชย์ส่วนวันหยุดราชการขายที่กรมชลฯและตลาดใหม่นอกจาก นี้คณินยังสามารถสร้างเงินเพิ่มด้วยการรับจัดเลี้ยงตามงานสัมมนาต่างๆออก ร้านนอกสถานที่ซึ่งหากใครต้องการติดต่อกับคณินก็ติดต่อได้ที่ โทร.08-3617-3146,08-1422-0063

ทิ้งท้ายขอแจ้งให้แฟน คอลัมน์“ช่องทางทำกิน”ทราบกันนิดว่าตอนนี้คอลัมน์“ช่องทางทำกิน”ซึ่งนำเสนอ ข้อมูลการประกอบอาชีพต่างๆมีการถ่ายภาพเป็น“ภาพเคลื่อนไหว”หรือ“คลิป”ด้วย ใครสนใจลองคลิกเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของเดลินิวส์ที่ http://www.dailynews.co.th

เชาวลี ชุมขำ เรื่อง/ภาพ

Credit : http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?

Read More...

เปิดตำรับเมนูพื้นบ้าน..ต้านภัยมะเร็งตับ เสน่ห์ปลายจวักคุณนายผู้ว่าฯภาคอีสาน

Read More...

ช่วยเสริมภูมิชีวิต ป้องกันหวัดสำหรับหนาว 'วุ้นผลไม้รวม '

“วุ้นผลไม้รวม” เป็นเมนูสุขภาพที่มั่นใจว่า

จะทำให้ผู้กินชื่นใจ ชื่นกายได้ เพราะ

ผลไม้มีวิตามินที่ทำให้ร่างกายสดชื่น

โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยเสริมภูมิชีวิต ป้องกันหวัดสำหรับหนาวนี้ นอกจากนี้ผลไม้สดๆ ยังมีกากใยสูงช่วยระบาย

ยังไม่นับรวมสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ของผลไม้แต่ละชนิด
ทั้งเขียว เหลือง แดง จากสารพฤษเคมีตามธรรมชาติ

ซึ่งถือเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์พลังสูง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้
วุ้นผลไม้จึงเป็นเมนูสุขภาพที่อยากให้ทุกคนลองทำจ้ะ

ส่วนผสม

ตัววุ้น

น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย
ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
ผลไม้สดตามชอบ เช่น กีวี ส้ม แอ๊ปเปิ้ล องุ่น กล้วย ฯลฯ
หน้าวุ้น
น้ำผลไม้ร้อยเปอร์เซ็นต์ 1 ถ้วย
ผงวุ้น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. หั่นผลไม้แต่ละชนิดให้มีขนาดและรูปร่างตามชอบ
2. ทำตัววุ้น โดยผสมผงวุ้นกับน้ำเต้าหู้ คนให้เข้ากันจนผงวุ้นละลาย นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทรายแดง คนให้ละลาย พอส่วนผสมเริ่มเดือด ยกลง
3. เทส่วนผสมลงในถ้วยหรือพิมพ์ ประมาณ ¾ ของถ้วย พักไว้ รอจนวุ้นเริ่มแข็งตัวเล็กน้อย วางผลไม้ลงบนตัววุ้นตามใจชอบ
4. ระหว่างรอให้ตัววุ้นแข็งตัว ทำหน้าวุ้น โดยผสมผงวุ้นกับน้ำผลไม้ร้อยเปอร์เซ็นต์ คนให้เข้ากันจนผงวุ้นละลาย นำไปตั้งไฟ พอส่วนผสมเริ่มเดือด ยกลง
5. เทส่วนผสมหน้าวุ้นลงบนตัววุ้นที่แต่งหน้าด้วยผลไม้ไว้แล้ว ทิ้งไว้สักครู่ แล้วนำไปแช่เย็น
6. หน้าวุ้นที่เหลือนำมาเทใส่ถ้วยหรือพิมพ์ แต่งหน้าด้วยผลไม้ตามชอบ ทิ้งไว้สักครู่ แล้วนำไปแช่เย็น

Tip

ควรเลือกใช้น้ำผลไม้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะรสชาติจะไม่หวานจัด และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

http://www.cheewajit.com

Read More...

แปรรูปผลไม้เป็น"ข้าวเกรียบ" เพิ่มวิตามิน-ใยอาหารสร้างรายได้

http://www.thairath.co.th/column/eco/capable/129660

Read More...

วิธีทำแกงส้มให้อร่อยเริด

สูตรทำอาหาร

นอก จากตัวน้ำพริกแกง ที่มีความสำคัญแล้ว ขั้นตอนการปรุง และสัดส่วน ระหว่างน้ำแกงกับผัก ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในอันที่จะทำให้แกงส้มได้อร่อย เริ่มตั้งแต่ตั้งน้ำในหม้อ ต้องให้น้ำเดือดก่อนถึงใส่พริกแกง (น้ำแกงจะได้หอม) หลังจากใส่น้ำพริกแกง ลงไปแล้วให้ใช้ไฟกลาง ให้น้ำพริกแกงเดือดสักครู่ใหญ่ ถ้ารีบใส่ผักกับเครื่องอื่น ๆ ลงไป จะได้แกงส้มที่มี รสเผ็ดแบบแผด ๆ ไม่กลมกล่อม

หลัง จากเคี่ยวน้ำพริกแกงสักครู่แล้ว จึงใส่ผักลงต้มจนผักสุกนุ่ม จึงใส่เนื้อปลาหรือกุ้ง ยกเว้น กรณีแกงส้มผักกระเฉด ให้ใส่ปลาปรุงรส รอจนน้ำเดือด จึงใส่ผักกระเฉดเป็นอันดับสุดท้าย แล้วปิดเตาทันที เพราะผักกระเฉด หากถูกความร้อนนานจะเหนียว ทานไม่อร่อย

แกงส้มปลา ความใช้ปลาที่สดใหม่ ยังไม่แช่เย็น จะได้เนื้อปลาที่นุ่ม อร่อย ไม่ยุ่ย ถ้ากลัวว่าแกงแล้วจะคาว

ให้ นำปลาหั่นเป็นชิ้นตามต้องการ นำไปลวกครั้งหนึ่งก่อน แล้วค่อยนำไปแกง แต่ถ้าปลาไม่ค่อยสด หรือเป็นปลาแช่เย็น แนะนำให้นำไปทอดก่อน ให้พอเหลือง แล้วค่อยนำมาแกงจะดีกว่า

เคล็ดลับสุดยอด ถ้าอยากได้แกงส้มที่มีน้ำเข้มข้น ให้ผสมเนื้อปลา ลงในน้ำพริกแกงก่อนนำไปแกง มีวิธีการตามนี้นะคะ นำเนื้อปลาที่จะใช้ แบ่งออกมาเล็กน้อย นำไปต้มจนสุก จากนั้นแยกก้างออก นำไปโขลกในครกให้เนื้อปลาแตก จากนั้น ใส่น้ำพริกแกงส้ม ที่เตรียมไว้ลงไปโขลกรวม แล้วจึงนำไปแกง ตามขั้นตอนปรกติ จะได้น้ำแกง ของแกงสัมที่เข้มข้นขึ้น

Credit : http://iam.hunsa.com/beet1984/article/64546

Read More...

โยเกิร์ตสด โดนใจลูกค้ารักสุขภาพ

สูตรทำขนม

"โยเกิร์ต สด”ปัจจุบันเป็นของกินเล่นของเด็กวัยรุ่นคนรุ่นใหม่คนทุกๆวัยซึ่งมีประโยชน์ ต่อร่างกายในการลดน้ำหนักและยังมีรสชาติอร่อยการทำขายจึงกลายเป็นอาชีพใหม่ ในยุคนี้ซึ่งวันนี้ทีม“ช่องทางทำกิน”ก็มีข้อมูลอาชีพนี้มานำเสนอเผื่อใครที่ อยากทำอาชีพขายสินค้าแนวเพื่อสุขภาพอาจจะสนใจ...
---@@@---

อิ๊บ-วิไลรัตน์สกุลเจริญพรเจ้าของร้านมอแอนด์มอร์วัย26ปีขายโยเกิร์ตสดและ เต้าหู้นมสดย่านตลาดท่าน้ำนนทบุรีซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเพิ่งมาทำขายจริงจัง ได้3เดือนเหตุที่มาทำขายเพราะส่วนตัวก็เป็นคนขอบกินโยเกิร์ตและผลไม้มากๆและ ได้หัดทำกินเองมานานแล้วจนพอจะมั่นใจฝีมือจึงได้ทำขายด้วย

“เมื่อก่อนทำงานเป็นพนักงานโรงแรมและก็ออกมาทำร้านกาแฟซึ่งเป็นธุรกิจส่วน ตัวแต่ทำเลไม่ดีและคู่แข่งมากจนสู้ไม่ไหวต่อมาจึงเปลี่ยนมาขายโยเกิร์ตสดตาม ที่ตนเองชอบ”เจ้าของร้านนี้กล่าว

อาชีพนี้การลงทุนอุปกรณ์ครั้งแรกอิ๊บบอกว่าประมาณ15,000-20,000บาทโดยที่ ร้านใช้ลังไม้สำหรับใส่ผลไม้สดซึ่งมีราคาค่อนข้างแพงเพราะทำมาจากไม้สักนอก จากนี้ที่ต้องมีเพิ่มเติมอีกคือตู้ฟรีซผลไม้สำหรับเก็บผลไม้สดที่ใช้ซึ่ง บางอย่างเป็นของที่ต้องสั่งนำเข้าผ่านบริษัทเอกชนโดยจะมีช่วงที่ผลไม้ของ เมืองนอกที่ต้องใช้ในการทำขาดดังนั้นต้องสั่งซื้อมาตุนไว้จำนวนหนึ่งซึ่ง ต้องใช้ตู้แช่ซึ่งเป็นตู้ฟรีซซึ่งมีราคาแพงเอาไว้ใช้ขณะที่ในส่วนของอุปกรณ์ อื่นๆก็มีอาทิหม้อต้มนมหม้อโยเกิร์ตโดยใช้ในเรตราคาทั่วๆไปไม่ได้แพงมากนัก

วิธีทำ“โยเกิร์ตสด”อิ๊บอธิบายว่าถ้าเริ่มต้นในขนาดเล็กๆใช้นมสดประมาณ200ซี ซีต้มในอุณหภูมิที่93องศาฯนาน5นาทีจากนั้นทิ้งไว้ให้อุ่นวัดอุณหภูมิที่ 45องศาฯหรือลองหยดนมที่หลังมือถ้าไม่ร้อนแสดงว่าใช้ได้จากนั้นใส่หัวเชื้อ โยเกิร์ตรสธรรมชาติลงผสมประมาณ3ช้อนโต๊ะตั้งทิ้งไว้8-12ชั่วโมงห้ามเปิด ฝานอกจากนี้อิ๊บยังบอกอีกว่าอุปกรณ์ทุกอย่างต้องล้างให้สะอาดหมดจดต้องสะอาด จริงๆจะได้ไม่ติดเชื้อซึ่งเวลาขายนั้นต้องทำให้โยเกิร์ตเย็นเสมอด้วยการ เตรียมน้ำแข็งไว้รอบๆหม้อโยเกิร์ต

วิธีขายก็เตรียมผลไม้สดและซอสผลไม้อย่างผลไม้ที่ร้านนี้เตรียมไว้ขายก็มี อาทิบลูเบอรี่,สตรอเบอรี่,ส้ม,กีวี,แอปเปิ้ล,กล้วยหอม,ลูกเกด,คอนเฟลกส่วน ซอสผลไม้จะจับคู่กับผลไม้แต่ละชนิดซึ่งก็มีซอสบลูเบอรี่,ซอสสตรอเบอรี่,ซอส ส้ม,ซอสกีวี,ซอสแอปเปิ้ลส่วนกล้วยหอม,ลูกเกด,คอนเฟลกจะใช้น้ำผึ้งแทน

ในการขายนั้นก็เตรียมถ้วยพลาสติกซึ่งใส่โยเกิร์ตสดได้ในปริมาณ160กรัมเริ่ม ด้วยราดซอสผลไม้ลงไปก่อนพอประมาณจากนั้นค่อยๆตักโยเกิร์ตสดลงไปประมาณค่อน ถ้วยแล้วใส่ผลไม้สดพอประมาณจากนั้นราดด้วยซอสผลไม้อีกทีเป็นอันเรียบร้อยขาย ในราคาถ้วยละ25บาท

นอกจากนี้อิ๊บยังให้สูตร“เต้าหู้นมสด”เพิ่มเติมโดยเป็นสูตรการทำเต้าหู้นมสด ประมาณ10ถ้วยมีส่วนผสมดังนี้คือนมสด1,200กรัม,น้ำตาล30กรัม,ผงวุ้น3กรัม(อาจ มากกว่านี้หน่อยก็ได้)และนมสดพาสเจอไรซ์1กระป๋องนอกจากนี้อาจจะใส่กลิ่น วานิลลาเพิ่มเติมด้วยก็ได้

วิธีทำนำนมสดตั้งไฟอ่อนๆหมั่นคนพออุ่นๆแล้วจึงค่อยนำผงวุ้นใส่ลงไปแล้วหมั่น คนเหมือนเดิมตั้งไฟอีกประมาณ15นาทีสังเกตว่าน้ำนมจะใสไม่มีเกล็ดผงวุ้นลอย อยู่จากนั้นก็ใส่น้ำตาลลงไปคนจนน้ำตาลละลายหมดแล้วปิดไฟรอให้เย็นสักครู่ แล้วจึงตักใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมและรอจนกว่าจะแข็งตัวหรือจะนำใส่ตู้เย็นก็ได้ เพื่อให้แข็งเร็วขึ้นเมื่อเต้าหู้นมสดแข็งตัวแล้วจะเป็นสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆ จากนั้นอาจจะนำผลไม้สดหรือแช่อิ่มราดบนเต้าหู้นมสดแล้วก็นำนมสดตราหมีราด หน้าอีกทีก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแบ่งขายเป็นถ้วยๆน้ำหนักถ้วยละ120-150กรัม ขายในราคาถ้วยละ20บาท

---@@@---

ร้านขาย“โยเกิร์ตสด”และเต้าหู้นมสดของอิ๊บ-วิไลรัตน์เปิดขายวันจันทร์-ศุกร์(หยุดเสาร์-อาทิตย์)
เวลา16.00-20.00น.โดยร้านอยู่ที่ตลาดท่าน้ำนนท์ใกล้หอนาฬิกาตรงข้ามกับวุฒิ ศักดิ์คลินิกหมายเลขโทรศัพท์คือ08-6892-9310และ08-7072-4290หรือดูข้อมูลที่ เฟซบุ๊กMOOMOREก็ได้

นี่ก็เป็นอีก“ช่องทางทำกิน”ร่วมสมัย!!.

Read More...

‘ตูเล อัลมอนด์’ คุกกี้ฝรั่งเศส ขนมกินเล่น หยิบเพลินใจ

สูตรทำขนม

ณัฎฐ์ปัณชญา แสงสมพร หรือ คุณน้ำฝน

ใครจะคิดว่าเพียงแค่หนึ่งคนในครอบครัวชื่นชอบการทำขนม แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สมาชิกทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม และมีความสุขไปกับการทำขนม ที่ไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่ยังช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ผลิต ไปจนถึงผู้บริโภคที่ได้รับประทานขนมที่มีรสชาติอร่อยจนวางไม่ลง ซึ่งถือเป็นปณิธานเริ่มแรกของผู้ประกอบการที่ยึดมั่น มุ่งมั่น ในการทำขนมออกมาให้ผู้บริโภครับประทานแล้วมีความสุขเหมือนที่ผู้ผลิตรู้สึก

ขนมตูเล อัลมอนด์ อบสดใหม่

“เกอเต้ เบเกอรี่” ขนมที่ตอบโจทย์ให้กับคนยุคนี้ ด้วยคุณภาพของวัตุดิบเกรดพรีเมียม ที่คนไทยโหยหา ประกอบกับรสชาติที่กลมกล่อม หอมหวาน ชวนลิ้มลอง ของขนม “ตูเล อัลมอนด์” คุกกี้แผ่นบางสูตรฝรั่งเศส รสชาติถูกปากคนไทย ที่แม้จะเป็นการดัดแปลงจากสูตรต้นตำรับ ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ปรับแผ่นคุกกี้ให้บางลง สามารถละลายในปากได้ทันที กลายเป็นของทานเล่นสร้างความเพลิดเพลิน ในขณะที่รสชาติก็ปรับให้มีความหวานน้อยลง เน้นการนำไข่ขาวมาเป็นวัตถุดิบหลัก รับกระแสคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตก็สามารถรับประทานได้ ซึ่ง “ณัฎฐ์ปัณชญา แสงสมพร” หรือ น้ำฝน ที่ก้าวเข้ามาดูแลกิจการนี้อย่างเต็มตัว แม้จะไม่ได้เป็นผู้คิดค้นสูตรคุกกี้แผ่นบางนี้ก็ตาม

จับบรรจุลงแพคเกจ

การเริ่มต้นของธุรกิจนี้ อาจบอกได้ว่าเกิดจากความชอบล้วนๆ ของผู้เป็นพี่สาวที่มักใช้เวลาว่างในการทำเบเกอรี่ ถึงขนาดไปเรียนหาความรู้ เทคนิคแปลกใหม่ด้านเบเกอรี่ จากหลากหลายสถาบัน และนำมาฝึกฝนฝีมือด้วยตัวอยู่บ่อยครั้ง อาศัยญาติสนิทมิตรหาย เป็นผู้ตัดสินรสชาติความอร่อยที่ลงตัว ซึ่งสูตรขนมต่างๆ ไม่เพียงแต่จะใช้ตำราของไทยเท่านั้น แต่ยังได้ศึกษาตำราจากต่างประเทศด้วย ในการแปลสูตรแล้วนำมาปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย ซึ่งขนมตูเล อัลมอนด์ สุดท้ายได้กลายเป็นขนมที่ผู้ผลิตภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก หลังจากได้รับคำชมจากผู้ลิ้มลองในเรื่องรสชาติที่อร่อย สามารถรับประทานได้ต่อเนื่องจนวางไม่ลง ประกอบกับเริ่มมีออเดอร์จากเพื่อนฝูงให้ผลิตให้ เพื่อใช้ในการจัดเลี้ยง หรือแม้กระทั่งมีการรับไปจำหน่ายต่อ

พนักงานช่วยกันทำขนมอย่างมีความสุข

“เมื่อออเดอร์เริ่มเพิ่มมากขึ้น จนเราผลิตไม่ทัน เพราะใช้เวลาหลังเลิกงานช่วงกลางคืนมาผลิตขนมขาย สุดท้ายสมาชิกในครอบครัวก็มาคุยกันเพื่อคนผู้ที่จะเข้ามาดูแลกิจการนี้อย่างเต็มตัว สุดท้ายก็กลายเป็นเรา (น้ำฝน) ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำงานด้านกราฟิกดีไซน์ เข้ามารับช่วงดูแลด้านการผลิตเต็มตัว เนื่องจากการทำขนมตูเล อัลมอนด์ ต้องเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนการผลิตอย่างใกล้ชิด เพื่อคุณภาพของขนม และรสชาติที่ต้องรักษามาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องวัตถุดิบที่เลือกสรรเป็นเกรดพรีเมียมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเนยสด ไข่ไก่ ต้องสดใหม่ อัลมอนด์คุณภาพเกรดเอ ซึ่งการเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่นั้น ถือเป็นหัวใจหลักของการผลิตขนม เพราะหากวัตถุดิบไม่มาตรฐานตามที่เราต้องการ จะไม่สามารถผลิตขนมให้มีรสชาติอย่างในปัจจุบันได้”

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของขนม ตูเล อัลมอนด์ นั้นอยู่ที่ความบางของแผ่นคุกกี้ ที่สามารถละลายในปากได้ทันที ทำให้ผู้บริโภคเพลินขณะรับประทาน ที่ทางเกอเต้ เบเกอรี่ กล้ารับประกันว่าเมื่อผู้บริโภคได้ลองรับประทานชิ้นแรกแล้ว จะต้องมีชิ้นต่อๆ ไปตามมา ที่บางคนยั้งใจไม่อยู่รับประทานจนหมดกระป๋องก็มี ในขณะเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง คือขั้นตอนการผลิต ที่เป็นขนม Home Made อย่างแท้จริง เนื่องจากใช้พนักงาน วนแผ่นแป้งคุกกี้ทีละแผ่นให้ออกมามีขนาดที่เท่าๆ กัน เพื่อความสวยงามเมื่อนำไปจัดเรียงลงในแพคเกจที่เป็นกล่องพลาสติกสุญญากาศทั้ง 2 ขนาด คือขนาดเล็กราคา 80 บาท ขนาดใหญ่ราคา 160 บาท

แผ่นบางเฉีย ห้ามทำกล่องตก เพราะจะทำให้แผ่นคุกกี้แตกเป็นเสี่ยงๆ

ปัจจุบันขนม ตูเล อัลมอนด์ มีวางจำหน่ายที่ร้านเสน่ห์จันทร์ ตลาดบองมาเซ่ ร้านตลาดวังหลัง ท่าพระจันทร์, ร้านแกลเล่ คาเฟ่ แยกชักพระ, ร้านMy mammon,ฮ่องกงพลาซา นราธิวาส ซอย 5 และสาขาซอยละลายทรัพย์ ,สถานีไฟฟ้าช่องนนทรี,ย่านรัชดาซอย 4 และโรงพยาบาลพญาไท 3 ทางออกลานจอดรถชั้น 4 ซึ่งทางผู้ผลิตยังไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง แต่จะเน้นในเรื่องของการผลิตมากกว่า โดยขรธนี้ทาง น้ำฝน มีแนวคิดว่าจะหาตัวแทนจำหน่ายขนมในย่านใจกลางเมือง หรือตามชานเมืองทั่วกรุงเทพฯ เพื่อจัดตั้งให้เป็นศูนย์กระจายสินค้า หวังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ต้องการรับไปจำหน่ายต่อ พร้อมเร่งสร้างมาตรฐานการผลิตให้ได้คุณภาพ ด้วยมาตรฐาน อย. และ GMP เพื่อใช้ต่อยอดขยายตลาดสินค้าตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และการส่งออกไปยังต่างประเทศอีกช่องทางหนึ่ง เนื่องจากที่ผ่านมีก็มีคนไทยรับไปจำหน่ายยังต่างประเทศด้วย
อาจเรียกได้ว่า ขนม “ตูเล อัลมอนด์” ทุกชิ้น นอกจากจะอบอวลไปด้วยกลิ่นของเนยสดแล้ว ยังอวลไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ที่แฝงลงไปอยู่ในขนมทุกชิ้น เพราะเริ่มตั้งแต่พนักงานที่ผลิตมีในรักในงานนี้ ทำงานด้วยความสุข และเมื่อขนมไปสู่ผู้บริโภคเมื่อรับประทานก็เกิดความสุขขณะรับประทานเช่นกัน