สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ข้าวไข่เจียวทำเงิน

Mail ดี ๆ ที่ทำให้เกิดไอเดียร์นะครับใครจะรู้อาจจะมีบางคนนำไปทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้ ผมว่านะ ถ้าทำขายจริง ๆ ก็คงจะดีไม่ใช่น้อยครับ อาหารง่าย ๆ กับเวลาที่เราเร่งรีบกันอยู่นี้

บอกลาไข่แบนๆแฟ่บๆ ขาดรุ่งริ่ง อมน้ำมันไปได้เลย
ไข่เจียว in a pot !!
ต้องขอขอบคุณ Forward Mail ดี ๆ ที่ทำให้เกิดไอเดียร์นะครับ
ใครจะรู้ อาจจะมีบางคนนำไปทำขาย เป็นอาชีพเสริมก็ได้
ผมว่านะ ถ้าทำขายจริง ๆ ก็คงจะดีไม่ใช่น้อยครับ อาหารง่าย ๆ กับเวลาที่เราเร่งรีบกันอยู่นี้ ผมว่ามันน่าจะดีกว่าอาหาร ขยะบางอย่าที่ขายกันแพงสุดกู่ก็ได้ครับ อาจนำไปสูตรนี้ไปทำข้าวไข่เจียวขาย เป็นรายได้เสริมอีกทางก็อาจจะรวยไม่รู้เรื่องก็ได้นะครับ ข้าวไข่เจียว ของนายไข่เจียว
“คิดได้ทำได้ ไม่มีจนครับ” พี่น้อง



omelet_1 
omelet_2 
omelet_3 
omelet_4 

omelet_5

ทำ “ไข่เจียวธรรมดา” ให้ฟูแล้วไม่แฟ่บ แถมกรอบนอกนุ่มในแบบไม่พึ่งตัวช่วยใดๆ
ผมเองก็เป็นคนชอบกินไข่เจียวมาก เนื่องจากเป็นเมนูที่ทำให้อร่อยได้ง่าย ถ้ารู้จักเทคนิคเล็กๆน้อยครับ
ซึ่งในกระทู้นี้เราจะว่ากันด้วยการทำ “ไข่เจียวธรรมดา” คือไม่ใส่เนื้อสัตว์หรือผักอะไรใดๆให้วุ่นวาย
ให้เป็นไข่เจียวที่ “ทำง่ายมาก และ อร่อย”
ซึ่งผมนั้นเคยลองทำมาหมดแทบจะทุกวิธีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
  • บีบมะนาว = ไข่ฟูตอนเจียว แล้วจะแฟ่บภายหลังจากตักขึ้นมา

  • ใส่แป้ง , ผงฟู = ไข่ฟูแล้วไม่แฟ่บ ตั้งอยู่ได้จริง แต่เนื้อไข่เจียวจะด้านไปนิด

  • น้ำมันมากๆ โรยไข่จากที่สูงแล้วคนๆตีๆในกระทะ = ไข่ฟูฟ่องเป็นสายๆ ค่อนข้างอมน้ำมันเวลากินจะ
    ไม่ค่อยได้เนื้อไข่เท่าไหร่ เพราะมันจะฟู

  • แยกไข่แดง ไข่ขาวตีให้ตั้งยอด = ฟูจริง แต่เสียเวลาทำมาก
    มีข้อด้อยคือกำหนดรูปร่างไข่ได้ลำบาก
    ด้วย- ฯลฯ


  • จะเห็นได้ว่าเทคนิคต่างๆมีข้อดี แตกต่างกันไป แต่ผมได้พบเทคนิคหนึ่งซึ่งทำให้การทำไข่เจียวให้ฟูนุ่มแล้วไม่แฟ่บ แถมยังง่ายดายมากๆ สมกับการเป็น “ไข่เจียว” มากๆ มาดูกันครับว่ามันจะง่ายแค่ไหน กับผลที่ได้ตาม
    ภาพนี้ เทคนิคที่ว่านั้นคือการใช้ “หม้อ” ในการเจียวไข่นอกจากเราไม่ต้องกลัวรูปร่างไข่จะไม่สวยแล้ว
    เรายังสามารถทำให้มันฟูและหนาได้ตามความต้องการโดยไม่ใช่ตัวช่วย หรือสารประกอบใดๆทั้งสิ้น( ตามปกติแล้ว การใส่หมูสับ หรือใส่แป้งลงไป จะทำให้ไข่หนาขึ้นมาได้มากขึ้น
    แต่ว่าวันนี้เราต้องการเป็นเนื้อไข่ไก่ล้วนๆ)เครื่องมือ+เครื่องปรุงของผม วันนี้มีแค่ 3-4 อย่างเท่านั้น


  • ไข่ไก่ 2 ฟอง

  • ซีอิ้วขาว

  • หม้อ + น้ำมันสำหรับทอด สิ่งที่ยังขาดไม่ได้ก็คือ “ไฟ” ต้องมีความแรงอยู่พอสมควร แต่ไม่ถึงกับต้องแรงจัด

  • คนที่ไม่มีเตาเร่งหรือเตาฟู่ ก็ยังพอทำได้ครับ นำหม้อใส่น้ำมันพืช แล้วนำไปตั้งไฟ
    พอให้เริ่มมีควันเล็กน้อย ไม่ถึงกับควันโขมงนะสำหรับหม้อขนาดนี้ ใช้ไข่ 2 ฟอง กำลังเหมาะครับถ้าใช้ 3 ฟองก็ยังพอได้อยู่ แต่มันจะฟูขึ้นมาจนเกือบล้นเวลาทอด
    เดี๋ยวคอยดูละกันเนอะ ปรุงรสด้วยซีอิ็วขาวเพียงอย่างเดียว แล้วตีเร็วๆ
    ให้เข้ากัน ตีเสร็จแล้ว อย่าวางทิ้งไว้ รีบเอาลงกระทะเลย ฟองอากาศมันจะได้ยังแฝงตัวอยู่ในเนื้อไข่ ไม่ลอยขึ้นมาจนหมดจำไว้ว่า ถ้าอยากได้ไข่ที่ฟูกรอบ
    น้ำมันจะต้องมากพอ แต่ก็ต้องไม่มากเกินไป และต้องร้อนระดับควันขึ้นฉุยๆ แต่ไม่ใช่ควันโขมง นับ 1 2 3 เมื่อเทไข่ลงไป ก็จะได้ผลอย่างที่เห็นในรูป
    มันฟูออกมาพอดีๆหม้อ เป็นไข่เจียวกลมๆหนาๆ ที่แสนน่ากิน
    กลับแล้ว 1 รอบ ทอดไปสักครู่ จนเริ่มเห็นว่าผิวด้านบนของไข่ เริ่มแห้ง
    ผมพลิกอีกครั้งหนึ่ง เพราะไข่เจียวด้านแรก มักจะสวยกว่าอีกด้านเสมอ
    เสร็จแล้วช้อนขึ้นมาโลด เอามาวางไว้บนตะแกรงเพื่อสะเด็ดน้ำมัน
    ถ้าเป็นไข่แบบบีบมะนาว รับรองแฟ่บตั้งแต่ตักขึ้นจากกระทะ
    ด้านข้าง ของเจ้าไข่เจียวทอดหม้อ ฟูแล้วไม่แฟ่บ
    การใช้หม้อทอดไข่ เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ทุกข้อเลยครับ
    ทั้งความง่ายในการทอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลับไข่ ที่ทุกคนเป็นห่วง
    เพราะดูแล้วหม้อมันจะคับแคบ และกลับยาก
    แต่ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิดครับเพราะไข่จะลอยอยู่บนน้ำมัน และไม่ได้แตะก้นหม้อแต่อย่างใด
    ดังนั้นการกลับก็แค่ใช้ตะหลิว หรือแม้กระทั้งช้อนกินข้าวนี่ล่ะ
    ตลบมันกลับอีกด้าน ไม่ต้องกลัวมันแตกหรือขาดอย่างเวลาใช้กระทะทอดด้วยครับ
    คือทำอย่างไรมันก็จะเป็นรูปกลมๆหนาๆ น่ากินเช่นนี้เสมอๆ นอกจากจะฟูแล้วไม่แฟ่บ
    มันยังมีเนื้อไข่สีเหลืองๆนุ่มๆให้เราได้สัมผัสด้านในด้วยไม่ใช่ว่าฟูกรอบจนไม่เหลือเนื้อไข่นะ
    แบบนี้สิ ไข่เจียวในฝันเลยยย เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมม
    วันนั้นผมทอดไข่มากินกับข้าวอบหมูแดดเดียว แบ่งมาโปะข้าวแบบนี้เลย กินคู่กัน อร่อยไปอีกแบบ ที่จริงกินกับข้าวสวยร้อนๆแค่นั้นก็เด็ดขาดแล้ว เป็นไข่เจียวที่ทำง่าย อร่อยง่าย และพลาดยากมากๆ ขอเพียงมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมและใกล้เคียง ส่วนเทคนิคในการทำนั้น แทบไม่มีอะไรเลยครับ เป็นไข่เจียวที่ทอดทีไร ก็ออกมาเหมือนกันทุกครั้ง แบบไม่ต้องลุ้นเลย เนื้อไข่ฟูด้านนอก นุ่มนิ่มด้านใน ไม่อมน้ำมันด้วยน้า

    ขอบคุณ Forward Mail ดี ๆ ภาพและบทความโดย : calamity



    Read More...


    เจ้าแรกในไทย “ไอศกรีมฝอยทอง” ไม่ใส่ถัง แต่มาในถาดคีบเสิร์ฟลูกค้า

           เมื่อไอศกรีมน้ำเต้าหู้ได้ออกสู่ตลาด หลายคนได้ลิ้มลองรสชาติมาแล้ว ทางผู้ผลิตได้แตกไลน์ออกมาในรูปของไอศกรีมฝอยทอง และเป็นไอศกรีมในถาดขนม เจ้าแรกในไทย พร้อมช่วยเหลือคนทุนน้อยเป็นเจ้าของธุรกิจด้วยเงินทุนเริ่มต้นเพียง 3,000 บาท ก็สามารถทำธุรกิจไอศกรีมฝอยทองภายใต้แบรนด์ “แม่จันทร์” ได้
          
           นายพฤฒิพล ประชุมผล เจ้าของธุรกิจไอศกรีมฝอยทองเจ้าแรกในไทย ที่ทำออกมาในรูปแบบของไอศกรีมถาด ภายใต้แบรนด์ “แม่จันทร์” เล่าถึงที่มาของไอศกรีมฝอยทองว่า เป็นผลสืบเนื่องมาจากธุรกิจเดิมที่ทำไอศกรีมน้ำเต้าหู้ เน้นกลุ่มคนที่รักสุขภาพ ทำให้มีความชำนาญในการทำไอศกรีม ต่อมาคิดที่จะแตกไลน์ไอศกรีมของตนเองออกมาในรูปแบบอื่น แต่ต้องยังไม่มีใครทำ และมีความแตกต่าง จึงได้ย้อนกลับมามองธุรกิจไอศกรีมที่มีอยู่ตามท้องตลาดอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงได้แนวคิดในการทำไอศกรีมที่แสดงถึงความเป็นไทย โดยใช้ขนมไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมาเป็นตัวชูโรง ทำให้ “ไอศกรีมฝอยทอง” ที่บรรจุในถาดขนมกำเนิดขึ้นเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
    พฤฒิพล ประชุมผล พร้อมหนังสือรับรองคุณภาพไอศกรีมฝอยทอง
           “จากเดิมผมมีความชื่นชอบในความ เป็นไทยอยู่ก่อนแล้ว จนมาเริ่มทำธุรกิจไอศกรีมน้ำเต้าหู้ที่เหมือนกับเป็นธุรกิจที่ช่วยเหลือผู้ ที่มีรายได้น้อยให้ทำมาค้าขาย แต่ก็ย้อนกลับมาคิดว่าในปัจจุบันยังไม่มีไอศกรีมที่มีรสชาติไทยๆ หรือไอศกรีมที่แสดงถึงความเป็นไทย ทำให้มีแนวคิดที่จะนำขนมไทยมาพัฒนาเป็นไอศกรีม และประกอบกับน้องชายได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับขนมไทยส่งตามร้านค้าต่างๆ เราจึงเลือกที่จะใช้ฝอยทองที่มีความสวยงาม และชื่อก็เป็นมงคล มาเป็นไอศกรีมฝอยทอง ที่บรรจุอยู่ในถาดขึ้นเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย”
           
           แจ้งเกิดไอศกรีมถาดเจ้าแรกในไทย
          
           การที่มาลงตัวที่ไอศกรีมฝอยทองนั้น ย่อมสร้างความแตกต่างให้กับไอศกรีมที่มีอยู่ตามท้องตลาดแล้ว แต่ทางผู้ผลิตยังต้องการให้รูปลักษณ์ของไอศกรีมตนเองมีความโดดเด่นขึ้นมาอีก จึงได้ปฏิวัติการตักไอศกรีมจากถัง มาเป็นไอศกรีมในถาดขนม ที่ไม่ต้องใช้ที่ตักไอศกรีม แต่เป็นการใช้ที่คีบขนมที่เห็นได้ตามท้องตลาดทั่วไป คีบเสิร์ฟให้ลูกค้าแทน ซึ่งได้สร้างความแปลกใหม่ในเรื่องของรูปลักษณ์ และรสชาติของขนมไทย ที่สามารถดึงออกมาได้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
          
           “ไอศกรีมฝอยทองของเราจะมีให้ลูกค้าได้เลือกทั้งฝอยทองสด และฝอยทองกรอบ ตามแต่ลูกค้าพอใจ พร้อมการราดทอปปิ้งด้วยน้ำเชื่อม บริเวณผิวหน้าของไอศกรีมฝอยทอง รวมถึงในเนื้อของไอศกรีมยังมีฝอยทองสดสอดแทรกอยู่ด้วยเป็นชั้นๆ ซึ่งกรรมวิธีในการทำค่อนข้างยุ่งยาก เนื่องจากในช่วงแรกเราได้ลองเอาฝอยทองไปตีพร้อมกับไอศกรีมกะทิสด ผลปรากฏว่าฝอยทองแตกไม่น่ารับประทาน ส่งผลให้เราต้องค่อยๆ ราดฝอยทองลงทีละชั้นของเนื้อไอศกรีมซึ่งเหมือนการทำขนมชั้น แต่เมื่อขนมออกมาเราก็พอใจ เพราะสามารถทำให้ไอศกรีมของเรามีศิลปะ และมีรสชาติอร่อย”
    ไอศกรีมฝอยทองมาในถาด
           ก.พาณิชย์การันตีคุณภาพ
          
           ไอศกรีมฝอยทอง ถือว่าเป็นสินค้าใหม่ที่ออกสู่ตลาดโดยไม่มีลอกเลียนแบบจากใคร ทำให้นายพฤฒิพลได้รับมอบหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลความลับทางการค้า ประเภทข้อมูลการค้าด้านอุตสาหกรรม รวมถึงยังได้รับหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเภทองค์ความรู้ของกลุ่มบุคคลท้องถิ่น สาขา การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ อีกด้วย
          
           “นอกจากความภูมิใจ ที่เราได้รับการการันตีคุณภาพจากกระทรวงพาณิชย์แล้ว เรายังได้รับเกียรติจากม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ชิมรสชาติ และลิ้มลองรูปลักษณ์ใหม่ของวงการไอศกรีมไทย ซึ่งท่านก็ทึ่งในความแปลกใหม่ของไอศกรีมฝอยทอง รวมถึงรสชาติที่แสดงถึงความเป็นไทย”
           สร้างงานคนจนคือปณิธานที่ไม่เปลี่ยน
          
           จากการที่เปิดโอกาสให้คนจน หรือผู้ที่มีเงินลงทุนน้อย แต่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยได้ดำเนินปณิธานนี้มาตั้งแต่ทำธุรกิจไอศกรีมน้ำเต้าหู้ ทั้งเปิดช่องทางให้ผู้ที่ไม่มีเงินลงทุน ได้นำไอศกรีมไปขายก่อน เมื่อได้เงินมาก็นำมาใช้คืน หรือแม้กระทั่งให้โอกาสผู้ไม่มีเงินไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดนำไอศกรีมไปขาย ก่อนได้ ซึ่งก็มีหลายคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ส่วนใหญ่แล้วเงินที่นายพฤฒิพลได้ลงทุนไปให้ก่อน กลับไม่ค่อยได้คืนมา เพราะเมื่อขายได้กำไรแล้ว ก็นำไปเล่นหวยจนหมด ส่งผลให้ที่ผ่านมานายพฤฒิพล ยอมรับว่าขาดทุนไปกับธุรกิจนี้มากพอสมควร แต่เมื่อได้เพิ่มอีกธุรกิจหนึ่งคือไอศกรีมฝอยทอง ปณิธานเดิมที่ต้องการช่วยเหลือคนจนก็ยังไม่ดับมอด เพราะนายพฤฒิพลเชื่อว่า “คนดียังมีอยู่ในโลก” แต่ครั้งนี้อาจจะต้องใช้เวลามากในการพิจารณาผู้ที่จะนำไอศกรีมฝอยทองไป จำหน่าย เพื่อลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ
    รูปแบบคิออสไอศกรีมฝอยทอง
           ลงทุน 3,000 บ. ก็ทำธุรกิจได้
          
           สำหรับการลงทุนในการขายไอศกรีมฝอยทอง ผู้ที่มีเงินลงทุนเพียง 3,000 บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจนี้ได้ โดยจะได้รับธงที่บ่งบอกชื่อร้าน ค่าถาดไอศกรีม ป้ายชื่อร้าน และที่คีบ ส่วนถ้วยไอศกรีม ทางร้านจะให้ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน ส่วนผู้ที่ต้องการคิออสสำเร็จรูป พร้อมตู้แช่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 30,000 บาท เป็นค่าตู้แช่ 12,000 บาท ค่าคิออสแตนเลส 15,000 บาท และค่าแรกเข้าจำนวน 3,000 บาท แต่หากลูกค้าสามารถหาตู้แช่และคิออสสแตนเลสในราคาถูกกว่าทางไอศกรีมฝอยทองก็ ยินดี โดยทางร้านจะกำหนดการสั่งไปจำหน่ายขั้นต่ำ 4 ถาด (ถาดละ 250 บาท จำนวน 36 ชิ้น) และขายในราคาชิ้นละ 12 บาท ซึ่งในปัจจุบันไอศกรีมฝอยทองมีจำหน่ายห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขา ลาดพร้าว และสาขาปิ่นเกล้า (ฟู้ดคอร์ท), ตลาดนัดสวนจตุจักร โครงการ 2 และที่ตลาดนัดสวนจตุจักร 2 (มีนบุรี)
          
           ***สนใจติดต่อ 0-5900-2030 และ 0-5900-2430 หรือที่ www.icecreamfoytong.com***

    Read More...


    ‘ปุ๊กลุ๊ก’ ซาลาเปาตำรับจีน อิมพอร์ตกุ๊กซัวเถาโชว์ฝีมือ

    วินัย ลีลาภิญโญกุล เจ้าของธุรกิจซาลาเปาปุ๊กลุ๊ก
           จากการที่เป็นคนที่ชอบลิ้มลองอาหาร จีน เพราะถือว่าเป็นอาหารที่มีความหลากหลายและมีให้เลือกมากมาย ประกอบกับตนเองเป็นคนชอบทำอาหาร และความใฝ่ฝันสูงสุดคือการเปิดร้านอาหารจีนเป็นของตัวเอง โดยเริ่มนำร่องด้วยธุรกิจอาหารเล็กๆ อย่างคิออสขนมจีบซาลาเปาถึง 10 ไส้ ที่รสชาติแปลกแหวกแนวไม่ซ้ำใครภายใต้แบรนด์ “ปุ๊กลุ๊ก”
          
           นายวินัย ลีลาภิญโญกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล แอล แอนด์ โอวี ฟู๊ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซาลาเปา ขนมจีบและอาหารประเภทอบน้ำแดงต้นตำรับจีนแท้ๆ เล่าว่าเดิมตนเองไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้านอาหารเลย แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนชอบทำอาหาร และชอบลิ้มลองอาหารจีนเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นอาหารที่มีความหลากหลาย ไม่เพียงแต่จำนวนชนิดของอาหารที่มากแล้ว แต่แค่อาหารเพียง 1 ชนิดก็มีความหลากหลายในตัวเอง อย่าง ซาลาเปาไส้เค็มที่มีกว่า 30 ไส้ แต่ซาลาเปาที่คนไทยนำมาประยุกต์มีไม่กี่ไส้เท่านั้น ซึ่งหลังจากที่นายวินัย ได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศจีน จึงมีแนวคิดที่จะนำไส้ซาลาเปาที่มีความหลากหลากมาพัฒนาในเรื่องของรสชาติ เพื่อให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น
    หลากหลายด้วย 10 ไส้ของซาลาเปาปุ๊กลุ๊ก
           “การที่เรานำแนวคิดการทำซาลาเปาหลากหลายไส้จากจีนมาใช้นั้น เราต้องใส่ใจในเรื่องของรสชาติ เพราะรสชาติอาหารของ 2 ประเทศไม่เหมือนกัน คือถ้าเป็นซาลาเปาไส้หมู คนจีน จะชอบรสชาติที่เป็นเนื้อหมูแท้ๆ โดยที่ไม่ต้องการรสชาติของน้ำซอส หรือซีอิ๊ว แต่สำหรับคนไทยชาติของไส้จะเน้นไปที่เครื่องปรุงรส ที่มีความโดดเด่น มากกกว่ารสชาติของวัตถุดิบที่นำมาใช้ ซึ่งเรา ก็ได้เริ่มทำไส้ซาลาเปาด้วยวัตถุดิบหรือรสชาติที่เป็นที่คุ้นเคยของคนไทย ก่อนโดยแบ่งเป็นไส้หวาน 3 ไส้ และไส้เค็ม 7 ไส้ เช่น ไส้หมูเลิศรส ที่ประกอบไปด้วย หมู เห็ดหูหนูดำ กุ้งแห้ง น้ำมันงา และเหล้าจีน, ไส้สุกี้หมู และไส้เนื้อน้ำมันหอย เป็นต้น ส่วนไส้หวานจะมีไส้ ถั่วแดง ครีม และไส้เผือก ในราคาลูกเล็ก 5 บาท ลูกใหญ่ 12 บาท”
           

           จุดเด่นที่รสชาติจีนแท้ๆ
          
           ด้วยความที่คิดจะทำอาหารจีนอย่างจริงจังแล้ว นายวินัย จึงได้เอาใจใส่ในเรื่องรสชาติเป็นพิเศษ โดยได้คำนึงตั้งแต่เครื่องปรุงรสที่อิมพอร์ตมาจากประเทศจีน อย่าง น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว เป็นต้น รวมถึงยังได้พ่อครัวหนุ่มไฟแรงจากซัวเถา ที่คลุกคลีอยู่กับซาลาเปามาตั้งแต่เกิด เพราะธุรกิจของที่บ้านเป็นครอบครัวทำซาลาเปา ขนมจีบตัวยง โดยมาเป็นพ่อครัวมือขวากับนายวินัย ที่จะช่วยกันคิดสูตรอาหารจีนใหม่ๆ เพื่อพัฒนาอาหารภายใต้แบรนด์ “ปุ๊กลุ๊ก”
    ขนมจีบเสียบไม้
           “นอกจากที่ร้านเรามีซาลาเปาที่เป็นตัวชูโรงแล้ว ยังมีขนมจีบเสียบไม้ (ไม้ละ 18 บาท 4 ลูก) ถึง 4 รสชาติ คือ ไส้ปลา กุ้ง ปูและหมู รวมถึงยังมีอาหารประเภทอบน้ำแดงถึง 12 ประเภท เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น และอาหารประเภทอบน้ำแดงก็เป็นอาหารที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว เพราะเนื้อสัตว์ที่นำมาอบน้ำแดง จะมีความนุ่มและรสชาติสามารถซึมถึงเนื้อใน เช่น หมูตุ๋นเห็ดหอมน้ำแดง ซี่โครงหมูอบเต้าซี่ ซี่โครงหมูอบกะปิ และปีกไก่อบเต้าหู้ยี้ใส่ฟองเต้าหู้ เป็นต้น ซึ่งเนื้อ สัตว์ที่เรานำมาใช้จะเป็นเนื้อที่ปลอดสารปนเปื้อนใดๆ เพราะเราใช้เนื้อสัตว์ในเครือซีพี และเบทาโกร เท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของอาหารได้”
           

           ส่วนในเรื่องของเนื้อแป้งซาลาเปา ก็มีความแตกต่างจากเจ้าอื่น เนื่องจากเนื้อแป้งของซาลาเปาปุ๊กลุ๊กจะบาง ทำให้น้ำปรุงรสของไส้ซึมในเนื้อแป้ง เพราะใช้คนปั้นเองทุกลูก โดยในปัจจุบัน กำลังการผลิตอยู่ที่ 2,000 ลูก/วัน แต่หากมียอดการสั่งซื้อที่เพิ่มมากขึ้นทางซาลาเปาปุ๊กลุ๊ก ก็จะใช้เครื่องจักรในการปั้นซาลาเปาเข้ามาช่วย ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3,000 ลูก/ชั่วโมง
           

    ซาลาเปาไส้สุกี้หมู
           เน้นขยายธุรกิจในทุกรูปแบบ
          
           ปัจจุบันนี้หลายธุรกิจจะนิยมขยายแฟรนไชส์ เพื่อลดปัญหาความยุ่งยากในการบริหารงานลง แต่สำหรับร้านซาลาเปาปุ๊กลุ๊กแล้ว การขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ไม่ใช่เป้าหมายหลัก เพราะลูกค้าจะต้องใช้เงินลงทุนสูงแต่จะเน้นไปที่ความพอใจหรือความสะดวกของ ลูกค้าที่จะลงทุน โดยทางปุ๊กลุ๊กถือคติว่า “ทำอย่างไรที่จะไม่ให้ลูกค้าลงทุนมากเกินไปโดยไม่จำเป็น” เพราะทางปุ๊กลุ๊กก็มีหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกลงทุน
          
           “เราไม่ต้องการให้ลูกค้าเสียเงินลงทุนมากับธุรกิจเรา เยอะเกินไป เช่น ถ้าลูกค้ามีร้านอาหารอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้องการเพียงตู้นึ่งกับซาลาเปา ขนมจีบ ของเราเพื่อเป็นการเพิ่มเมนูให้กับร้านเราก็ยินดี หรือรับไปจำหน่ายแล้วไม่ได้ใช้แบรนด์ของเราก็ได้ รวมถึงการลงทุนในรูปแบบของคิออสสำหรับผู้ที่มีทำเล หรือต้องการนำไปตั้งบริเวณศูนย์อาหารตามห้างสรรพสินค้า”
    อาหารประเภทตุ๋นน้ำแดง
           เน้นขยายธุรกิจในทุกรูปแบบ
          
           ปัจจุบันนี้หลายธุรกิจจะนิยมขยายแฟรนไชส์ เพื่อลดปัญหาความยุ่งยากในการบริหารงานลง แต่สำหรับร้านซาลาเปาปุ๊กลุ๊กแล้ว การขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ไม่ใช่เป้าหมายหลัก เพราะลูกค้าจะต้องใช้เงินลงทุนสูงแต่จะเน้นไปที่ความพอใจหรือความสะดวกของ ลูกค้าที่จะลงทุน โดยทางปุ๊กลุ๊กถือคติว่า “ทำอย่างไรที่จะไม่ให้ลูกค้าลงทุนมากเกินไปโดยไม่จำเป็น” เพราะทางปุ๊กลุ๊กก็มีหลายรูปแบบให้ลูกค้าเลือกลงทุน
          
           “เราไม่ต้องการให้ลูกค้าเสียเงินลงทุนมากับธุรกิจเราเยอะเกินไป เช่น ถ้าลูกค้ามีร้านอาหารอยู่ก่อนแล้ว แต่ต้องการเพียงตู้นึ่งกับซาลาเปา ขนมจีบ ของเราเพื่อเป็นการเพิ่มเมนูให้กับร้านเราก็ยินดี หรือรับไปจำหน่ายแล้วไม่ได้ใช้แบรนด์ของเราก็ได้ รวมถึงการลงทุนในรูปแบบของคิออสสำหรับผู้ที่มีทำเล หรือต้องการนำไปตั้งบริเวณศูนย์อาหารตามห้างสรรพสินค้า”
    กุ๊กจากซัวเถา จาง เยี่ยหมิง (เม้ง)
           ฝันเปิดภัตตาคารอาหารจีนเต็มรูปแบบ
           

           การเปิดภัตตาคาร ถือเป็นโครงการต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ในเครือซาลาเปาปุ๊กลุ๊ก ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เมื่อนำไปขายตามคิออสต่างๆ จะไม่สามารถนำอาหารไปจำหน่ายทุกประเภทได้ ทำให้นายวินัยคิดที่จะเปิดเป็นภัตตาคารอาหารจีนที่ครบวงจร และจำหน่ายอาหารได้ทุกประเภท ซึ่งปัจจุบันซาลาเปาปุ๊กลุ๊ก มีจุดจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 9 จุด คือห้างเทสโก้โลตัส สาขาสุขุมวิท 50, ห้างโตคิว มาบุญครอง ชั้น 4 , ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล วงศ์สว่าง, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, จตุจักร หน้าประตูทางเข้าโครงการ 2, บิ๊กซี ราชดำริ ชั้น 4, ร้านกาแฟ ชงมือ ตลาดบางขุนนนท์, ร้านอาหารผัดไท สาขาสีลม (ใกล้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี) และป.ต.ท.สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดี ส่วนลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางไปยังจุดจำหน่ายต่างๆ ทางซาลาเปาก็มีบริการดิลิเวอรี่ (Delivery) อีกด้วย
          
           สนใจติดต่อ 0-2311-6668 และ 0-2311-3698
           


    Read More...


    แฟรนไชส์น้ำเต้าหู้‘หมวยเกี๊ย’ แต่งโฉมสดใสคู่ใส่ใจสุขภาพ

    สุจิตร์ คงสิริพรชัย เจ้าของแฟรนไชส์ “หมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้”
           จากไอเดีย “สุจิตร์ คงสิริพรชัย” แต่งโฉม “น้ำเต้าหู้” ให้กลายเป็นธุรกิจแฟรนไชส์น้องใหม่ ภายใต้แบรนด์ “หมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้” ด้วยการชูจุดเด่นเน้นภาพความเป็นจีนดูน่ารักสดใส พร้อมด้วยเมนูสูตรเพื่อสุขภาพ ชี้ เสน่ห์ธุรกิจน้ำเต้าหู้ลงทุนต่ำกำไรสูง
        
           สุจิตร์ คงสิริพรชัย เจ้าของแฟรนไชส์ “หมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้” เล่าว่า ส่วนตัวเป็นคนรักสุขภาพ จะต้มน้ำเต้าหู้ทานเองมานาน ซึ่งจะผสมแครอท เพื่อช่วยเสริมคุณค่าอาหารด้วย ซึ่งก็ทำทานกันเองในครอบครัว ไม่เคยคิดจับเป็นธุรกิจ เพราะมีงานหลัก คือ ทำเสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งขายทั่วประเทศ ทว่า จากภาวะยอดขายตก เพราะถูกจีนเข้ามาตีตลาด จึงต้องการหารายได้เสริม เลยมองที่น้ำเต้าหู้ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ราคาถูก เหมาะกับผู้บริโภคทุกกลุ่ม และเข้ากับกระแสที่คนหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น
        
           ทว่า จะขายน้ำเต้าหู้แบบทั่วๆ ไป ก็ไร้จุดเด่น เธอจึงวางแนวทางด้วยการชูภาพลักษณ์แบบจีน ออกแบบรถเข็นให้มีสีแดงสดใส ดึงดูดลูกค้าให้เกิดความสนใจ ร่วมกับเน้นเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ด้วยการคิดเมนูต่างๆ ให้สอดคล้องกัน โดยมี 3 เมนู ได้แก่ น้ำเต้าหู้แบบต้นตำรับ ซึ่งเป็นถั่วเหลือง 100% ไม่ผสมแป้ง , น้ำเต้าหู้แครอทที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยป้องกันมะเร็ง กับทำให้ผิวสวย และน้ำเต้าหู้ข้าวกล้องงาดำ ช่วยบำรุงกระดูก นอกจากนี้ ยังเสริมด้วย หมวยเกี๊ยปาท่องโก๋ เป็นสูตรพิเศษผสมธัญพืชเข้ากับแป้งปาท่องโก๋
        
           ส่วนชื่อการค้า และโลโก้ เธอเป็นคนวางแนวทางเองเช่นกัน สื่อถึงตัวเองเป็นลูกสาวชาวจีน ถ่ายทอดออกมาให้ดูน่ารัก มีหน้าตายิ้มแย้มสดใส เชิญชวนลูกค้า และมีอักษรจีนประกอบ ที่มีความหมายถึงการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ เป็นการอวยพรให้แก่ตัวเอง
        
           “ถ้าลูกค้าเดินมา แล้วเห็นรถเข็นธรรมดา หม้อเก่าๆ เขาก็ไม่แวะ เราจึงต้องทำรถให้เด่น ดึงลูกค้าเข้ามาก่อน และขั้นต่อไป เมื่อเขาได้ชิมแล้ว ต้องให้เขารู้สึกถึงความแตกต่างจากน้ำเต้าหู้เจ้าอื่นๆ ถ้ามันอร่อย ต่อไปลูกค้าก็จะจดจำได้ว่า รถเข็นสีแดงๆ อย่างนี้ ยี่ห้อนี้ รสชาติอร่อย จะกลับมาซื้ออีก ลูกค้าก็จะอยู่กับเรานาน”
           
    ออกแบบรถเข็นเน้นสีสดใส สไตล์จีน
           หมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้ เริ่มออกวางขายครั้งแรกเดือนพฤษภาคม 2547 ที่ตลาดบางแค ตั้งราคาขายเท่าท้องตลาด คือ น้ำเต้าหู้ธรรมดา ถุงละ 5 บาท ใส่เครื่อง 6 บาท ส่วนสูตรแครอท , ข้าวกล้องงาดำ ถุงละ 7 บาท ปาท่องโก๋ธัญพืช+สังขยา ชุดละ 20 บาท ซึ่งผลตอบรับเกินคาด วันแรกเริ่มขาย 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่มก็หมด มียอดขาย 3,000 กว่าบาท ซึ่งเมื่อหักต้นทุนแล้ว กำไรก็ยังงาม เพราะต้นทุนเฉลี่ยแล้ว ต่อแก้วไม่ถึง 2 บาทด้วยซ้ำ
        
           ต่อมา ได้ขยายเพิ่มอีก 3 สาขา ได้แก่ จรัญสนิทวงศ์ สาธุประดิษฐ์ และถนนเซ็นต์หลุยส์ ซึ่งความตั้งใจแรก จะขยายด้วยตัวเอง 20 จุด ทว่า เมื่อมีหลายสาขา เธอไม่สามารถดูแลทั่วถึง ประกอบกับต้องดูแลธุรกิจเสื้อผ้าอยู่ด้วย ต้องจ้างพนักงานขาย ยอดขายแต่ละแห่งจึงต่ำลงเหลือวันละ 2,000 กว่าบาท ทำให้เกิดแนวคิดขยายในรูปแบบของแฟรนไชส์ เพราะถ้าผู้ดูแลเป็นเจ้าของเอง ย่อมใส่ใจมากกว่าพนักงาน
        
           สุจิตร์ อธิบายว่า แฟรนไชส์ ลงทุนเพียง 35,000 บาท ได้รับรถเข็นพร้อมอุปกรณ์ครบชุด จะการอบรมวิธีทำให้ 2 วัน มีข้อกำหนดว่า ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องรับวัตถุดิบ เช่น ถั่วเหลือง แป้งปาท่องโก๋ และอื่นๆ จากเราเท่านั้น เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพ โดยวิธีทำหลังจากรับวัตถุดิบไปแล้ว เพียงใส่ตามสูตรกำหนดไว้ ก็จะได้รับน้ำเต้าหู้ที่มีรสชาติ และคุณสมบัติเหมือนต้นตำรับ ทั้งนี้ การสั่งวัตถุดิบ ต่อครั้งกำหนดยอดไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท โดยให้สั่ง 2 ครั้งต่อเดือน
        
           เธอ เผยต่อว่า จุดเด่นของแฟรนไชส์นี้ คือ การลงทุนต่ำ กำไรสูง คืนทุนเร็วภายใน 1 เดือน และไม่ต้องขายทั้งวัน เพราะน้ำเต้าหู้จะขายได้เฉพาะช่วงเช้า และค่ำ ดังนั้น จะเป็นช่องทางให้คนที่ทำงานประจำซื้อไปทำเป็นอาชีพเสริมได้
        
           ทั้งนี้ เป้าที่วางไว้ จะขยาย 200 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากเปิดตัวแฟรนไชส์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดจองแล้วกว่า 50 ราย แต่ทั้งนี้ จะให้ความสำคัญกับการคัดเลือกผู้ร่วมทุนให้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้แบรนด์ที่สร้างขึ้นมาต้องเสียไป ส่วนการคุมแฟรนไชส์ จะมีทีมงานคอยสุ่มตรวจ เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง ถ้าทำผิดข้อตกลง และได้ออกหนังสือเตือน 3 ครั้งแล้ว จะถูกยกเลิกสัญญาทันที
    เมนูปาท่องโก๋ธัญพืช + สังขยา ชุดละ 20 บาท
           “การทำธุรกิจแฟรนไชส์จะเน้นให้ง่ายที่สุด จริงใจกับผู้ลงทุน กฎต่างๆที่ตั้งไว้ก็เพื่อเป็นกรอบ แต่ก็พูดคุยกันได้ 35,000 บาท เราไม่ได้บวกกำไรเลย แต่เราหวังที่จะขายวัสดุดิบ ซึ่งคนที่จะมาลงทุน ขอแค่เขาใส่ใจธุรกิจตัวเอง และอย่าซื้อถั่วเหลือง แป้งที่อื่นมาใช้ เพราะจะทำให้รสชาติ และชื่อเสียงเสีย เขาก็เสีย เราก็เสีย ดิฉันจึงตั้งใจจะคัดเลือกผู้ร่วมทุนให้ดีที่สุด ผู้เชี่ยวชาญภาครัฐที่เราเข้าไปปรึกษา ก็บอกว่า แบรนด์เรามีอนาคตนะ ดังนั้น ต้องพยายามรักษาคุณภาพแฟรนไชส์ให้ได้”
           

           ทั้งนี้ แผนต่อไป จะเพิ่มเมนูน้ำเต้าหู้ชาเขียวด้วย และสำหรับผู้จะทำธุรกิจนี้ ให้ประสบความสำเร็จ เธอบอกเคล็ดลับว่า 1. ต้องพูดจาสุภาพ ยิ้มแย้ม และสามารถแนะนำประโยชน์ของเมนูต่างๆ ได้ 2. ต้องรักษาความสะอาด ทั้งของรถเข็น และวัตถุดิบ และ 3. ต้องรักษาคุณภาพของรสชาติ ไม่ดัดแปลงสูตร จะทำให้ได้ลูกค้าขาประจำ
        
           * * * * * *
        
           คลิกเพื่อดู =>ตารางลงทุนแฟรนไชส์ “หมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้”
           * * * * * * *
        
           โทร. 0-1613-5949
        
           

    Read More...




    ----------------

    ปรับปรุง
    รายการบทความทั้งหมด



    การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



    ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



    รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



    รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



    ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





    MASK รุ่นสายคล้องคอ







    MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
    ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
    3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
    เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
    บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
    ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
    มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
    หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
    มีเรทราคาส่งค่ะ

    -> id line : noeyhorm_06
    #มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


    ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
    ● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
    ● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
    ● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
    ● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































    เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
    ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

    --------------------------------------------------------------------------------------------
    แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
    อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
     
    Option

    รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.