สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

WIZARD เปิดตลาดแฟรนไชส์ รับเทรนด์ธุรกิจล้างรถมาแรง!

เครื่องล้างรถอัตโนมัติ จุดขายของWizard

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ไชยะ สุริยาพรพันธุ์ ทายาทเจ้าของศูนย์ล้างรถ

พนักงานกำลังให้บริการ

อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการบริการ

อบโอโซนช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในความสะอาด

ส่วนนั่งรอภายในมีบริการหนังสือ ทีวี

ป้ายหน้าร้านสีสันสะดุดตาลูกค้า

ศูนย์บริการล้างรถเป็นธุรกิจที่เติบโตตามการเติบโต ของตลาดรถยนต์ ที่ผ่านมาการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอยู่ในสัดส่วนที่สูงมาก ผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ ต่างหันมาให้ความสนใจเปิดให้บริการล้างรถกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เจ้าของรถทั้งหลายสามารถเลือกเข้ารับบริการกันได้ตามกำลังเงินใน กระเป๋า และตามความต้องการของเจ้าของรถ
       

และสำหรับผู้ที่ต้องการจะได้เป็นเจ้าของศูนย์บริการล้างรถมีหลายวิธีให้ เลือก ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้บริการด้วยการเรียนรู้ด้วยตัวเอง หรือการให้บริการในรูปแบบของแฟรนไชส์ ซึ่งมีให้เลือกหลายยี่ห้อ รวม ถึงศูนย์บริการล้างรถยี่ห้อ วิซาร์ด WIZARD ศูนย์บริการล้างรถ ที่เกิดขึ้นมาจากการขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ และได้หันมาเปิดศูนย์บริการล้างรถ เพื่อต้องการเป็นช่องทางหนึ่งในการได้แนะนำสินค้าWIZARD
       

       ทั้งนี้ จากการยอมรับในตัวผลิตภัณฑ์ WIZARD ที่ลูกค้าให้การยอมรับและเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ทำให้ศูนย์บริการล้างรถ เกิดขึ้นและเป็นที่รู้จักไม่ยาก โดยมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดกลางและบน ซึ่งจุดขายของ WIZARD ที่ลูกค้าจดจำได้ นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ ที่ทาง WIZARD ผลิตขึ้นมาใช้เฉพาะกับศูนย์ล้างรถของตนเองแล้ว สิ่งหนึ่งที่ลูกค้านึกถึงเมื่อเข้ามาใช้บริการในศูนย์ล้างรถแห่งนี้ คือ เป็นศูนย์ล้างรถด้วยเครื่องล้างรถอัตโนมัติ
นายไชยะ สุริยาพรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท T.R. PRODUCT &MARKERING จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ศูนย์บริการล้างรถ WIZARD กล่าวว่า ได้เปิดศูนย์บริการล้างรถมานานกว่า 10 ปี และมีสาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 30 สาขา และจากความสำเร็จในการขยายสาขาของศูนย์ล้างรถ จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำให้ผู้ที่ต้องการจะมีธุรกิจล้างรถเติบโตได้ โดยการเปิดขายแฟรนไชส์ ซึ่งทีผ่านมาไม่ได้เปิดขายแฟรนไชส์ เพราะไม่มั่นใจว่าจะโตได้จริงหรือเปล่า และ ไม่รู้ว่าคนที่มาซื้อแฟรนไชส์ของเราจะเข้าใจคอนเซ็ปต์ของเรามากน้อยแค่ไหน เพราะเราจะมีการจัดโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
       

       อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทหันมาเปิดแฟรนไชส์ เพราะได้พิสูจน์แล้วว่า การทำตลาดในรูปแบบของการจัดโปรโมชั่นช่วยให้ศูนย์ล้างรถ WIZARD ประสบความสำเร็จ ซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะมาร่วมทำธุรกิจกับ WIZARD ในครั้งนี้ได้ โดยแผนการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ของ WIZARD จะมุ่งเป้าไปที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยตั้งเป้าขยายสาขาในจังหวัดใหญ่ จำนวน 12 แห่ง โดยวางแผนเปิดสาขาเดือนละ 1 แห่ง
      
       

สำหรับการขยายสาขาในต่างจังหวัดจะเปิดสาขาแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางบริษัทเล็งไว้ว่าจะเปิดประมาณ 3 สาขา โดยขณะนี้มีผู้สนใจหลายราย แต่ทางบริษัทจำเป็นจะต้องเลือกรายที่มีความเหมาะสมและมีความตั้งใจจริง เพื่อจะได้ผู้ร่วมธุรกิจที่สามารถเปิดให้บริการไปได้ตลอด เพราะการขยายสาขาในรูปของแฟรนไชส์ในครั้งนี้ ทางบริษัทไม่ได้ให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นผู้ลงทุนเสี่ยงแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ ทางบริษัทจะร่วมลงทุนด้วย โดยการลงทุนในส่วนของเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ซึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า 3 ล้านบาท ส่วนค่าติดตั้งทางผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องเป็นผู้ออกเอง และเมื่อเลิกกิจการเครื่องดังกล่าวต้องส่งคืนบริษัท
ส่วนค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องจ่าย เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,620,000 บาท แบ่งเป็นเงินประกัน 6 แสนบาท และค่าแฟรนไชส์ฟรี 3 แสนบาท โดยทำสัญญาต่อกันจำนวน 12 ปี ซึ่งส่วนของพื้นที่และทำเลจะยึดในปั้มน้ำมันเป็นหลัก ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการติดต่อกับค่ายน้ำมันทุกค่าย จึงไม่ใช่ปัญหาในเรื่องของทำเลที่เหมาะสม ส่วนค่าเช่าขึ้นอยู่กับทำเล และข้อตกลงทำร่วมกันระหว่างเจ้าของปั้ม ซึ่งการเปิดศูนย์ล้างรถของ WIZARD จะต้องมีเงินทุนหมุนเวียนภายในร้านประมาณ 1 แสนบาทถึง 3 แสนบาท เพื่อจ่ายให้กับพนักงาน และซื้อผลิตภัณฑ์ โอกาสคืนทุนขึ้นอยู่กับทำเล แต่ตามแผนที่บริษัทวางไว้คือ ประมาณ 2 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปี ผลตอบแทนสำหรับศูนย์ล้างรถ WIZARD ประมาณ 40% ถึง 50%
       

"ทั้งนี้ จะเห็นว่าปัจจุบันหลายคนหันมาให้ความสนใจกับการเปิดให้บริการล้างรถกันมาก เพราะผลตอบแทนค่อนข้างสูง และลูกค้ามีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาจะเห็นได้ว่าการเปิดศูนย์ล้างรถไม่ใช่เรื่องง่าย สังเกตได้จากผู้ที่จะอยู่รอดได้ในธุรกิจนี้มีน้อยมาก เนื่องจากเป็นงานบริการถ้างานออกมาไม่ดี ลูกค้าก็จะเปลี่ยนไปหารายใหม่ๆ ซึ่งการที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน เจ้าของกิจการจะต้องตระหนักอยู่เสมอว่าจะต้องทำในสิ่งที่จะมัดใจลูกค้าให้ ได้ ซึ่งก็ไม่ต้องทำอะไรมากเพียงแค่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาคุ้มกับการเข้ามาใช้ บริการแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะตั้งราคาแพงหรือถูกก็ตาม
นายไชยะ เล่าถึง ศูนย์บริการล้างรถของWIZARD ปัจจุบันมีจำนวน 30 สาขา และบริษัทมีแผนจะเปิดด้วยตัวเองที่ไม่ใช่แฟรนไชส์อีก 20 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉลี่ยรายได้ที่เป็นกำไรต่อสาขาอยู่ในหลักหมื่นบาท การที่ศูนย์ล้างรถจะอยู่รอดได้ในแต่ละสาขาจะต้องมีรถเข้ามาใช้บริการอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 25 คัน ซึ่งก็ไม่ใช่ล้างรถอย่างเดียว มีบริการอื่นๆ ที่สามารถเรียกเงินในกระเป๋าของลูกค้าได้ ซึ่งการให้บริการของศูนย์ล้างรถไม่ควรจะมากเกินไป เพราะถ้ามีรถเข้ามารับบริการมาก ลูกค้าเบื่อที่จะต้องเข้ามานั่งรอนานๆ ซึ่งวันหนึ่งควรรับลูกค้าไม่เกิน 50 คัน ถึง 60 คัน และการให้บริการไม่ควรเกิน 30 นาที สำหรับการล้างรถทั่วไป
      
       สนใจ โทร. 0-2538-8111

Read More...


Feel Top ตู้เติมเงินมือถือ เจ้าแรกในไทยเช็คข้อมูลผ่านเน็ต

นายกิตติ์ธนา ประเสริฐสุนทร
       กระแสธุรกิจบริการเครื่องหยอดเหรียญ อัตโนมัติ กำลังเป็นที่นิยมของมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องการมีรายได้เสริมโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปคอยดูแลร้าน ไม่ว่าจะเป็นตู้น้ำดื่ม หรือเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งเครื่องหยอดเหรียญเหล่านี้ ล้วนมีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน ตอบสนองความต้องการได้ตรงจุดโดยเฉพาะย่านชุมชนไม่เว้นแม้แต่วงการสื่อสารใน สังคมปัจจุบัน ที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในกลุ่มของนิสิตนักศึกษา หรือนักเรียน ส่วนใหญ่จะใช้มือถือแบบเติมเงิน แต่หากจะให้ซื้อบัตรเติมเงินในหลักร้อยบาท คงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างคิดหนักอยู่เหมือนกัน จากจำนวนเงินในกระเป๋า
ตู้เติมเงินหยอดเหรียญใช้งานง่าย
       ซึ่งตรงนี้เองทำให้บริษัท ธนทัต โซลูชั่น จำกัด คิดผลิตตู้เติมเงินมือถือขึ้น โดยหาจุดด้อยจากตู้เติมเงินมือถือทั่วไป นำมาเสริมเป็นจุดแข็งให้กับธุรกิจ จนกลายเป็นผู้ประกอบการหนึ่งเดียวของไทยที่ได้นำเอาระบบ GPRS มาใช้กับตู้เติมเงินมือถือ ที่เจ้าของสามารถเช็คข้อมูลการเติมเงินของลูกค้าได้ตลอดเวลาผ่านอินเทอร์เน็ตตู้เติมเงินมือถือภายใต้แบรนด์ Feel Top เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการหัวใสที่สามารถอุดช่องว่างทางการตลาดธุรกิจตู้เติม เงินมือถือได้สำเร็จ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาในกรณีที่เครื่องมีปัญหา ลูกค้าไม่สามารถเติมเงินได้ หรือเงินไม่เข้า ด้วยศูนย์ Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่เจ้าของธุรกิจไม่จำเป็นต้องออกมาดูแลลูกค้าเอง เพราะมีทีมงานจากแฟรนไชส์ซอว์เตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือ
      
       นายกิตติ์ธนา ประเสริฐสุนทร ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ธนทัต โซลูชั่น จำกัด เล่าว่า แต่เดิมตนเองอยู่ในแวดวงของการสื่อสาร โดยเป็นผู้ให้เช่า Video Conferences ตามโรงแรมหรือหน่วยงานต่างๆ จนเห็นโอกาสทางธุรกิจของตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือแบบหยอดเหรียญที่มีอยู่ ทั่วไปว่ายังมีปัญหาบางเรื่องที่สร้างความไม่สะดวกให้กับผู้ใช้งานและเจ้า ของธุรกิจ รวมถึงขณะนี้อัตราการเติบโตของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นธุรกิจการขายบัตรเติมเงินจึงเติบโตตามกระแสนี้ไปด้วย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมาบัตรเติมเงินมูลค่า 50 บาท หาซื้อได้ยากเต็มที จะมีก็แต่บัตรราคาหลัก 100 บาทขึ้นไป ทำให้ผู้ที่มีรายได้น้อย หรือไม่ต้องการที่จะเติมเงินในจำนวนมากต้องประสบปัญหาดังกล่าว จากจุดนี้เองทำให้มีตู้เติมเงินขึ้นเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งกับลูกค้า เพราะมีเงินเพียง 10-20 บาทก็สามารถมีเงินในโทรศัพท์เพื่อโทรอออกได้แล้ว
ใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อยก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้
       “การที่ผมอยู่ในแวดวงสื่อสารอยู่ แล้ว ทำให้การคิดนำระบบ GPRS เข้ามาใช้กับธุรกิจตู้เติมเงินมือถือจึงเป็นเรื่องที่ยากไม่มากนัก โดยใช้เวลาทดลองระบบประมาณ 8 เดือน จนสามารถอุดโหว่ต่างๆ ได้สำเร็จ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานและเจ้าของธุรกิจ จากศูนย์ Call Center 24 ชั่วโมง”
      
       สำหรับจุดเด่นของตู้เติมเงินมือถือ Feel Top ได้มีการนำเอาระบบออนไลน์มาใช้ โดยยึดถือสโลแกนง่ายว่า “เติมเงินง่าย ดูได้ผ่านเน็ต” ซึ่งคำว่าเติมเงินง่าย แปลว่า ลูกค้าที่มาเติมเงินปุ๊บ ก็ต้องใช้งานได้ปั๊บ ส่วนคำว่า ดูได้ผ่านเน็ตนั้น หมายถึง คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ย่อมต้องการรู้ว่ามีเงินอยู่ในตู้กี่บาท มีลูกค้ามาใช้บริการกี่คน และเป็นเบอร์อะไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าของตู้ต้องเดินทางไปดูด้วยตัวเอง ในขณะที่ Feel Top เจ้าของธุรกิจเพียงเปิดอินเทอร์เน็ต เช็คดูข้อมูลเหล่านี้ได้ตลอดเวลา โดยทางบริษัทฯ ได้ทำการส่งข้อมูลเหล่านี้จากทุกตู้ผ่านสัณญาณ GPRS แล้วนำข้อมูลมารวมกันไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อพร้อมออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทันที
ทำเลทองย่านโรงงานอุตสาหกรรม
       ส่วนรูปแบบการลงทุนทาง Feel Top ได้แบ่งการลงทุนออกเป็นรุ่นต่างๆ ดังนี้ 1.รุ่น Mr. Feel-Top แบบยืน (เหรียญ+ธนบัตร) ราคา 59,000 บาท 2.รุ่น Mr. Feel-Top แบบนั่ง (เหรียญ+ธนบัตร) ราคา 54,900 บาท 3.รุ่น Mr. Feel-Top แบบยืน (เหรียญ) ราคา 43,900 บาท 4.รุ่น Mr. Feel-Top แบบนั่ง (เหรียญ) ราคา 39,900 บาท และรุ่น NT-073 Classic รับได้เฉพาะเหรียญอย่างเดียว รุ่นนี้จะบางกว่ารุ่นอื่น เหมาะสำหรับร้านขายของชำที่มีเหรียญให้แลก ราคาเพียง 29,900 บาท โดยเน้นทำเลย่านสถานศึกษา โรงงานอุตสาหกรรม และชุมชน
      
       นายกิตติ์ธนา กล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับเทรนด์ตู้เติมเงินมือถือว่า ยังมีการเติบโตในทิศทางที่ดี โดยเป็นแบบก้าวกระโดด เพราะขณะนี้บริษัทเจ้าของระบบในไทย อย่าง ดีแทค เอไอเอส และทรู กำลังลดต้นทุนในการผลิตบัตรเติมเงิน ดังนั้นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้บริการบัตรเติมเงิน ต้องปรับพฤติกรรมมาเป็นการเติมเงินแบบออนไลน์แทน ทำให้โอกาสธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน เพราะหากใครที่คิดจะลทุนก่อน ก็จะสามารถเลือกทำเลทองให้กับตนเองได้ก่อนเช่นกัน
       ***ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0-2920-2200 หรือที่ www.feel-top.com***

Read More...


KoKoaHut ช็อคโกแลตคนไทย จับผลไม้เคลือบแข็งเพิ่มค่าส่งออก

มณฑิรา บุญพารอด
       ช็อคโกแลตถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความ สุข และการให้ ที่ดูจะไม่ขัดเขินเมื่อนำไปเป็นของขวัญ ของฝาก ในทุกๆ เทศกาล แต่คำว่าช็อคโกแลตสำหรับคนไทยนั้น สิ่งแรกที่นึกถึงคือการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมายังไม่ค่อยมีผู้ประกอบการคนไทยที่คิดทำช็อคโกแลตขึ้นเอง เนื่องจากต้องลงทุนในเรื่องเครื่องจักร รวมถึงความยุ่งยากในการผลิต แต่จะเป็นการนำเข้าช็อคโกแลตก้อนเข้ามา และนำมาละลาย เพื่อนำไปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป
       

ช็อคโกแลตหลากหลายรสชาติ
       แต่ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่ต้องการนำช็อคโกแลต ผลิตภัณฑ์ที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี มาผสมผสานกับของดีในไทย อย่างผลไม้ไทย ที่ชาวต่างชาติ ก็รู้จักดีไม่แพ้ช็อคโกแลตเช่นกัน มาสร้างเป็นธุรกิจ และสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อต้องการเปิดตลาดสินค้าไทย พ่วงสินค้าต่างชาติที่คนทั่วโลกคุ้นเคย
Dark Chocolate สำหรับคนชอบความขม
       มณฑิรา บุญพารอด เจ้าของธุรกิจร้านช็อคโกแลต KoKoaHut บริษัท คาราเฟ จำกัด เล่าว่า เดิมธุรกิจของครอบครัวเริ่มจากการนำเมล็ดทานตะวันมาคั่ว เพื่อรับกระแสคนรักสุขภาพ จนกระทั่งมีโอกาสไปเห็นผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวันเคลือบช็อคโกแลตที่ร้าน Loft จึงคิดว่าน่าจะทำได้ แต่ความคิดนั่นก็ต้องหยุดชะงัก หลังจากที่ตนเองตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่เมื่อเรียนจบกลับมา ความคิดดังกล่าวก็กลับมาอีกครั้ง และคิดที่จะนำร่องการนำวัตถุดิบอื่นๆ มาเคลือบช็อคโกแลตแบบแข็ง ด้วยการนำผู้เชี่ยวชาญจากประเทศมาเลเซียมาสอน การทำเมล็ดทานตะวันเคลือบช็อคโกแลต
ราคาขายกล่องละ 45-95 บาท
       “เราเริ่มต้นจาการนำเมล็ด ทานตะวันมาเคลือบช็อคโกแลตเป็นอันดับแรก เพราะเป็นวัตถุดิบที่เราคุ้นเคยและใกล้ตัว แต่ขั้นตอนและผลผลิตที่ได้กลับไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากเมล็ดทานตะวันถือเป็นวัตถุดิบที่ต้องเอาใจใส่ในขั้นตอนการเก็บ รักษาเป็นอย่างดี เพื่อเลี่ยงปัญหากลิ่นเหม็นหืน ดังนั้นเราจึงทดลองเก็บในซองที่บรรจุก๊าซไนโตรเจนประมาณ 3-4 ปี จนได้ผลผลิตที่ครองคุณภาพได้อย่างเดิม ทำให้ต่อจากนี้ไปเราจะนำวัตถุดิบอื่นๆ มาเคลือบช็อคโกแลตแบบแข็งก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”
กระเช้าของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่
       เมื่อคิดจะที่จำเป็นผู้นำในเรื่องช็อคโกแลตของเมืองไทย ดังนั้นการทำช็อคโกแลตเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ภายใต้แบรนด์ “KoKoaHut” ในคอนเซ็ปต์ “Chocolate Experience” ด้วยการนำผงโกโก้ ผสมกับนม และน้ำตาล มาผสมเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ช็อคโกแลตที่มีรสชาติแตกต่างจากตามท้องตลาดทั่วไปที่เน้นไปที่การนำ เข้าช็อคโกแลตแบบก้อน แล้วนำมาละลายเพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป
       “เรานำร่องด้วยเมล็ดทานตะวัน ต่อมาจึงแตกไลน์ไปที่เมล็ดฝักทอง โดยยังไม่ทิ้งผลิตภัณฑ์แนวรักสุขภาพ แต่ด้วยการที่เราทำช็อคโกแลตเอง ดังนั้นจึงน่าจะนำของไทยๆ อย่างผลไม้ไทย มาเคลือบบ้าง เพื่อให้ผลไม้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และที่ผ่านมายังๆ ไม่มีคนไทยที่คิดนำผลไม้ไทยมาเคลือบช็อคโกแลตเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น มะม่วง ทุเรียนกวน กล้วยตาก ลูกเกด มะขาม และสับปะรด เป็นต้น ซึ่งการที่เราเอาผลไม้มาเคลือบช็อคโกแลตนั้น เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผลไม้ได้ 100% แน่นอน แต่ขั้นตอนการผลิตก็ย่อมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะต้องเริ่มจากการรับวัตถุดิบมาจากชาวบ้าน นำผลไม้มากวน และใส่ในเครื่องปั้น เพื่อนำไปเคลือบช็อคโกแลตต่อไป”
ดิปปิง สำหรับจิ้มกับขนมปัง
       จากผลสำเร็จที่นำผลไม้ไทยมาเคลือบช็อคโกแลต นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในการับซื้อผลผลิตแล้ว ยังทำให้ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะลูกค้าประเทศญี่ปุ่น ที่จากเดิมจะชื่นชอบมะม่วงสุกของไทยอยู่ก่อนแล้ว แต่เนื่องจากราคาแพง หารับประทานยาก แต่เมื่อได้นำมาแปรรูป และเคลือบช็อคโกแลต ทำให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นเข้าถึงผลไม้ได้ง่ายขึ้น ในขณะที่รสทุเรียนกวนเคลือบช็อคโกแลต ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน จากลูกค้าชาวจีน ในขณะที่คนไทยนิยมซื้อเป็นของขวัญ ของฝาก โดยราคาของเมล็ดธัญพืชเคลือบช็อคโกแลตอยู่ที่ 45-95 บาท/กล่อง ส่วนผลไม้กวนเคลือบช็อคโกแลตอยู่ที่ 65 บาท/กล่อง ซึ่งคนไทยจะชื่นชอบไส้ทุเรียน และกล้วยตาก
       สำหรับร้าน KoKoaHut ขณะนี้ได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ในวงการของช็อคโกแลตเช่น ดิปปิ้ง ช็อคโกแลต สำหรับจิ้มกับขนมปัง, เครื่องดื่ม Milk Chocolate, Dark Chocolate และช็อคโกแลตชิ้น สหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติแท้ ความขมของช็อคโกแลต
      
       ปัจจุบัน KoKoaHut มีทั้งหมด 11 สาขา โดย 7 สาขา เป็นการลงทุนของ มณฑิรา เองทั้งหมด ส่วนอีก 4 สาขา เป็นการลงทุนในลักษณ์ของผู้ร่วมลงทุน ไม่ใช่ในลักษณะของแฟรนไชส์ เพราะทางร้านไม่ได้เรียกเก็บค่าแฟรนไชส์ฟี หรือค่าแรกเข้าใดๆ ทั้งหมด เพียงแต่ต้องซื้อวัตถุดิบจากบริษัทแม่เท่านั้น ซึ่งการลงทุนแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 1.แบบเคาเตอร์ สำหรับจัดวางสินค้า 2.แบบคีออสก์ (Kiosk) และ 3.แบบ Sit in หรือร้านที่มีที่นั่ง ซึ่งร้านในลักษณะเช่นนี้จะมีการขายเครื่องดื่มด้วย คือ ที่สาขา เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และที่ห้างเซ็นทรัลเวิร์ล
      
       “ภายในระยะเวลาที่เราเริ่มธุรกิจมาเกือบ 2 ปี มี 11 สาขา ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจ ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น โดยในอนาคตเราจะขยายสาขาไปตามจังหวัดใหญ่ๆ ด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ให้คนรู้จักมากขึ้น ด้วยการลดขนาดแพคเกจให้เล็กลงเพื่อเจาะตลาดตามร้านสะดวกซื้อ ในขณะที่ช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางร้านก็มีการจัดกระเช้าช็อคโกแลต เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ได้อีกด้วย”
      
       ***สนใจติดต่อ 02-522-6680-2 หรือที่ www.kokoahut.com***

Read More...


ลูกชิ้น ‘นำชัย’ ต่อยอดสูตร 30 ปี อัปเกรดมาตรฐาน บุกตลาดผ่านรถเข็น

       แม้ลูกชิ้นเนื้อ “นำชัย” จะยืนหยัดอยู่ในวงการมานานกว่า 30 ปี มีร้านรถเข็นกว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศ ทว่าที่ผ่านมา ชื่อเสียงกลับยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าที่ควร ดังนั้น เมื่อทายาทธุรกิจ เข้าสานต่อกิจการ ได้เร่งปรับกลยุทธ์ หวังสร้างแบรนด์เป็นที่จดจำในฐานะเจ้าตลาดวงการลูกชิ้น
นายลาภ จิตต์เที่ยง ทายาทธุรกิจลูกชิ้น "นำชัย"
       นายลาภ จิตต์เที่ยง ทายาทธุรกิจรุ่นที่ 2 เล่าว่า ลูกชิ้นเนื้อนำชัย เกิดจากการพัฒนาสูตรของรุ่นพ่อและแม่ คือ นายสมชาย และนางพาณี จิตต์เที่ยง ผลิตลูกชิ้นวัวแท้ ในชื่อ “นำชัย รสเด็ด” ซึ่งได้รับนิยมจากผู้บริโภคอย่างสูง รวมถึง ขยายผลิตลูกชิ้นหมู ตรา “นายเล้ง” และเส้นบะหมี่ ตรา “หงส์หงส์” จนธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยาวนานกว่า 30 ปี โดยช่องทางขายทั้งหมดส่งผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่ปัจจุบัน มีกว่า 1,500 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ แบ่งเป็น 30% ในกรุงเทพฯ และอีก 70% ตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และอีสาน
      
       ***ยกมาตรฐานเพิ่มคุณค่าแบรนด์
      
       อย่างไรก็ตาม ตลอดมา ดำเนินกิจการแบบครอบครัว ไม่เคยโฆษณาประชาสัมพันธ์แต่อย่างใด แม้ธุรกิจจะเติบโตได้ดี แต่ชื่อเสียงแบรนด์กลับไม่เป็นที่คุ้นเคยของผู้บริโภคมากนัก เมื่อเข้ามาสานต่อกิจการได้ต่อยอดธุรกิจ เพื่อให้ก้าวสู่ความยั่งยืน ตั้งแต่จัดตั้งเป็นบริษัท เอ็น.ซี.ฟู๊ด โปรดักชั่น จำกัด เมื่อ 1 ปีที่แล้ว เพื่อจัดระบบบริหารอย่างมืออาชีพ
      
       นอกจากนั้น เน้นสร้างชื่อแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยวางจุดเด่นเป็นเจ้าตำรับลูกชิ้นเนื้อวัวแท้ที่อร่อยและมีมาตรฐานความ สะอาด และปลอดภัย ตั้งแต่วัตถุดิบมีฟาร์มเลี้ยงหมู และวัวของตัวเองที่ จ.สุพรรณบุรี และราชบุรี โดยเลี้ยงระบบธรรมชาติ ผ่านรับรองของกรมปศุสัตว์
      
       ขณะที่การผลิตของโรงงานลงทุนหลายล้านบาท ปรับปรุงเข้าสู่มาตรฐานทั้ง GMP ฮาลาส และกำลังสู่มาตรฐาน HACCP มีกำลังผลิตกว่า 8-10 ตันต่อวัน นอกจากนั้น แยกส่วนการผลิตระหว่างลูกชิ้นเนื้อ และลูกชิ้นหมูออกจากกันชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อถือแก่ผู้บริโภค
      
       “ลูกชิ้นที่อยู่มาได้กว่า 30 ปี โดยไม่ได้ทำตลาดเลย เรื่องความอร่อย ผมคิดว่า มันเป็นต้นทุนเดิมของเราอยู่แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ต้องการเสริม คือ ด้านมาตรฐาน การันตีได้ว่า โรงงานของเราสะอาด ปลอดภัย ไม่มีวัตถุที่เป็นพิษหรืออันตรายปะปน ดังนั้น การสร้างแบรนด์จะมุ่งที่รักษารสชาติดั้งเดิมที่ลูกค้าชื่นชอบ เสริมด้วยการนำเสนอถึงความปลอดภัย จุดแข็งนี้ทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ” นายลาภ ระบุ
       นอกจากนั้น ด้านการบริหาร เพื่อส่งวัตถุดิบให้สาขากว่า 1,500 จุดได้ครอบคลุมและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลงทุนตั้งศูนย์กระจายสินค้าประจำภาค ทั้งภาคกลางที่กรุงเทพฯ ภาคเหนือที่เชียงใหม่ และภาคอีสานที่นครราชสีมา และเตรียมขยายศูนย์ภาคใต้เพิ่มเติม เร็วๆนี้
      
       ***เปิดกลยุทธ์ปูพรมขายผ่านรถเข็น
       

       ทั้งนี้ แผนการตลาดในปีนี้ (2552) บริษัทฯ จะเน้นเชิงรุก โดยขยายสาขาเพิ่มเติมทุกจังหวัด รูปแบบไม่ได้ใช้หลักแฟรนไชส์เต็มรูปแบบ แต่พยายามให้ผู้สนใจมาร่วมธุรกิจได้ง่ายที่สุด ใช้เงินทุนเริ่มต้น 15,000 – 28,000 บาท (แล้วแต่ขนาดรถเข็นและรูปแบบการลงทุน) หรือผู้ไม่มีเงินก้อน ได้จัดระบบเงินผ่อน วางเงินดาวน์แค่ 5,000 บาท ส่วนค่างวดที่เหลือแบ่งชำระเป็นงวดๆ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้ง ไม่บังคับปริมาณสั่งซื้อลูกชิ้น เพราะถือว่า การสต๊อกสินค้าขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า ส่วนบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ตามต้องการ
ภายในโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP และฮาลาส
       ในด้านผลกำไรจากการขาย หากใช้วัตถุดิบลูกชิ้น 1 ถุง ผู้ขายจะมีกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายทุกๆ ด้านแล้ว ประมาณ 500 บาท โดยมีการคาดการณ์คืนเงินลงทุนได้ภายใน 3 เดือน
       

       “วัตถุประสงค์หลักของบริษัทฯ คือ ต้องการมีจุดปล่อยวัตถุดิบลูกชิ้นเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากมีคนเข้ามาเป็นสาขาจำนวนมากขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ยอดขายของบริษัทฯ ดีขึ้นด้วย และเมื่อผลิตในปริมาณยิ่งมากต้นทุนจะต่ำลงด้วยเช่นกัน” ทายาทธุรกิจ เผย
รถเข็นขนาดเล็ก
       เนื่องจากมีสาขามากถึง 1,500 สาขา หลักการวางตำแหน่งไม่ให้แย่งลูกค้ากันเอง ใช้วิธีง่ายๆ คือ แต่ละสาขาต้องไม่สามารถมองเห็นกันได้ในระดับสายตา ส่วนการดูแลคุณภาพให้เสมอกันทุกแห่ง รวมถึง ข้อมูลอัตราล้มเหลวของธุรกิจ ยอมรับว่า ที่ผ่านมา ยังไม่มีระบบอย่างชัดเจน ดังที่กล่าวข้างต้นว่า ในอดีตรุ่นพ่อและแม่ทำธุรกิจแบบครอบครัว ดังนั้น การควบคุมคุณภาพ บริษัทฯ จึงทำได้แค่เบื้องต้นคือ อบรมให้พร้อมที่สุดก่อนเปิดร้าน และผลิตลูกชิ้นคุณภาพที่ลูกค้ายอมรับ
ขั้นตอนบรรจุลูกชิ้นลงถุง
       อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้ามาสานต่อกิจการนี้ ได้วางระบบทีมสุ่มตรวจ หากพบสาขาใด ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ขั้นแรกจะตักเตือน ถ้าไม่ปรับปรุงอีกจะทำการยึดป้ายคืน
รถเข็นขนาดใหญ่
       และนอกจากมาตรการดังกล่าว จากประสบการณ์ที่แล้วมา พบว่า หากสาขาใดรักษาคุณภาพ ปฏิบัติตามขั้นตอนที่อบรม และขยันในการทำมาหากิน จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้แทบทุกราย ตรงกันข้าม รายที่ขาดวินัย ก๋วยเตี๋ยวก็จะไม่อร่อย ในที่สุดต้องปิดตัวไป ซึ่งเป็นกลไกที่ผู้บริโภคจะคัดกรองให้เหลือเฉพาะสาขาที่ทำธุรกิจอย่างตั้งใจ เท่านั้น
      
       นายลาภ เผยว่า ยอดขายสินค้าของบริษัทฯ ที่ผ่านมา เฉลี่ย 5-8 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนเป้าหมายในปีนี้ (2552) จะเน้นเพิ่มยอดขายในสาขาเดิม และขยายสาขาใหม่เพิ่มอย่างน้อย 50 แห่ง และเนื่องจากปัจจุบันวงการ มีคู่แข่งค่อนข้างสูง จึงเน้นทำตลาดมากขึ้น ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อเจาะถึงผู้บริโภคให้รู้จักแบรนด์ “นำชัย” อีกทั้ง ส่งเสริมการขายผ่านการจัดกิจกรรมโรดโชว์ เป็นต้น นอกจากนั้น ในช่วงปลายปี วางแผนนำสินค้าขายตามห้างโมเดิร์นเทรด รวมถึง ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และปรับปรุงบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
      
       *****************
       
ตารางลงทุนธุรกิจก๋วยเตี๋ยว “นำชัย”
เงินลงทุน

       1.ราคารถเข็นเงินสด - รถคันเล็ก รถ+ตู้+หม้อ 1 ใบ+ป้าย3 ด้าน(ให้ยืมและทำสัญญา) ราคา 15, 000 บาท
       - รถคันใหญ่
รถ+ตู้+หม้อ 2 ใบ+ป้าย3ด้าน(ให้ยืมและทำสัญญา) ราคา 25, 000 บาท
       2. ราคารถเข็นเงินผ่อน

       - ราคาเงินผ่อน รถคันเล็ก รถ+ตู้+หม้อ1 ใบ+ไฟฟ้า+ป้าย3ด้าน เงินดาวน์5, 000 บาท ผ่อน 8 เดือน รวมเงินทั้งหมด 17, 000 บาท
       - ราคาเงินผ่อน รถคันใหญ่
รถ+ตู้+หม้อ2 ใบ+ไฟฟ้า+ป้าย3 ด้าน เงินดาวน์8, 500 บาท ผ่อน 13 เดือน รวมเงินทั้งหมด 28, 000บาท
เงื่อนไข และสิทธิประโยชน์

       - มีอบรมก่อนเริ่มธุรกิจ ทั้งการปรุงส่วนผสมน้ำซุป การเลือกซื้อวัตถุดิบต่างๆ เป็นต้น
       -ต้องรับวัตถุดิบลูกชิ้นจากบริษัทแม่เท่านั้น ราคา 100 – 200 บาท/ถุง (แล้วแต่ปริมาณ และชนิดของลูกชิ้น)
       -ใช้วัตถุดิบลูกชิ้น 1 ถุง ปริมาณ 100 ลูก (200 บาท) บวกค่าใช้จ่ายๆ อื่นแล้ว ผู้ขายจะมีกำไรประมาณ 500 บาท
       -บริษัทฯ ส่งเสริมการตลาด ผ่านการออกงานแสดงสินค้า กิจกรรมโรดโชว์ ตลอดจนโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ

      
       ***************************************
      
       โทร.0-2294-1986

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.