ขนมชนิดนี้ เป็นขนมไทยโบราณมากๆ เลยค่ะ .... พิมเคยอ่านหนังสือเล่มนึง ผู้เขียนเค้าพูดถึงขนมชนิดนี้เอาไว้ว่าเป็นขนมที่มีมาไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยปี แต่ทั้งที่อายุอานามของขนมมากขนาดนี้ กลับไม่พบประวัติเลยสักนิดว่าใครเป็นคนต้นคิด หรือว่าทำขึ้นในโอกาสใด ... อ่ะค่ะ พิมเองก็เคยลองค้นใน internet ลองค้นจากหนังสืออาหารเก่า ๆ ที่พิมพอจะมี ก็ไม่เคยเจอเรื่องราวของขนมตะลุ่มแบบเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกันค่ะ
แล้วในเมื่อเรื่องราวของขนมตะลุ่มหายากขนาดนี้ .... แล้วพิมรู้จักกับขนมตะลุ่มได้ยังไง ..... เพื่อน ๆ คงสงสัยแน่เลยค่ะ
ราว ๆ ปี 2538 พิมไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนนึงค่ะ ที่บ้านเพื่อนคนนี้ ..... น้าสาวของเพื่อนเค้าสะสมหนังสือแม่บ้านฉบับตั้งแต่ปี 2520 ค่ะ พิมไปนั่งรอเพื่อน เจอหนังสือพวกนี้วางอยู่ พิมก็เลยหยิบมาอ่านฆ่าเวลาไปพลาง ๆ (จริง ๆ แอบสนใจมาก) แล้วระหว่างเปิดดูหนังสือไปเรื่อย ๆ ก็สะดุดกับ เมนูขนมหวานอย่างนึงที่ชื่อว่า "ขนมตะลุ่ม" ในหนังสือแม่บ้านเล่มที่กำลังอ่านอยู่น่ะค่ะ ........ ที่สะดุดตา เพราะพิมคุ้นเคยกับขนมตะไลมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเจอ ไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเห็น ขนมตะลุ่มมาก่อน ก็เลยรู้สึกแปลกใจว่า เอ.....มีขนมชื่อแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ที่คล้ายกับขนมถ้วยตะไลอยู่ด้วยเหรอเนี่ย .... ก็เลยอ่าน ๆ แล้วก็แอบจดสูตรกลับมาไว้ว่าจะลองทำที่บ้านน่ะค่ะ
แต่พอกลับมาถึงบ้าน พิมก็ลืมเจ้าสูตรขนมนี่ซะสนิท ตอนจดเสร็จ สอดแผ่นกระดาษเอาไว้ในหนังสือที่ถือไปด้วยยังไง ........ จนวันเวลาผ่านไปประมาณ 2 ปีแผ่นกระดาษก็ยังคงสอดอยู่ในหนังสือเล่มนั้นเลยค่ะ จนกระทั่งวันนึงพิมจะเก็บหนังสือเก่า ๆ ไปบริจาค ก็เลยไล่เปิดหนังสือทุกเล่มที่จะเอาไปบริจาคว่าเราแอบซ่อนอะไรเอาไว้ป่าว หว่า ..... ปรากฎว่าก็เจอสูตรขนมตะลุ่มนี่แหละค่ะ อยู่ในกระดาษแผ่นนั้น ก็ได้เลยลองทำขนมชนิดนี้ดูเป็นครั้งแรกตอนประมาณปี 2540 เห็นจะได้
แต่ว่า ....อาจจะเพราะคาดหวังเอาไว้เยอะ ... ผลจากการทำครั้งแรก ....... ก็เลยไม่ถูกใจพิมเอาซะเลยค่ะ หลังจากนั้นก็ลองทำติด ๆ กันอีก 4-5 ครั้ง ปรับโน่นลดนี่จากสูตรเค้ามาเรื่อย จนกระทั่งได้สูตรที่คิดว่า อืมม...ม ใช้ได้นะ ถึงไม่ได้ดีเลิศมากมาย แต่ก็เป็นขนมตะลุ่มที่พิมคิดว่าโอเคเลยล่ะค่ะ ...... แล้วหลังจากที่คิดว่าโอเคแล้ว ก็เปลี่ยนมาเป็น 1-2 ปีครั้งค่อยทำที (เพื่อไม่ให้ลืม) จนมาปีหลัง ๆ ก็ไม่ค่อยได้ทำแล้วค่ะ
จนกระทั่งมีเมื่อไม่กี่วันก่อน พิมไปโพสต์ขนมถ้วยตะไลไว้ในพันทิป (ห้องก้นครัว) แล้วมีสมาชิกพันทิปท่านนึง พูดถึงขนมตะลุ่ม .... พิมก็เลยนึกอยากจะทำขึ้นมาอีกครั้งค่ะ แม้ว่าทำแล้ว จะไม่ค่อยถูกใจโจ๋ จะไม่ใช่รสที่โจ๋ชอบ (ฮ่ะๆ) สักเท่าไหร่ .... แต่พิมก็ยังอยากทำเอาไว้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ขนมไทยไว้ให้ลูกหลานเราได้รู้จักกันน่ะค่ะ
............. ก่อนอื่น ก็มาดูหน้าตาของขนมตะลุ่ม กันก่อนนะคะว่าหน้าตาเป็นยังไง ....... เห็นเผิน ๆ เพื่อน ๆ อาจจะนึกว่าข้าวเหนียสังขยาอัดใส่พิมพ์กลม ๆ ก็ได้นะคะ ^^
ส่วนผสมขนมตะลุ่มเนี่ย ..... คล้าย ๆ ขนมถ้วยตะไลมากค่ะ คือ มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนตัว และส่วนที่ 2 เป็นส่วนหน้า / ต่างกันตรงที่ว่า หน้าของขนมถ้วยตะไลเป็นกะทิ ส่วนหน้าขนมตะลุ่ม เป็นสังขยาอ่ะค่ะ
:: ส่วนผสม "ตัวขนม" ::
1. หางกะทิ 1/2 ถ้วย
2. น้ำลอยดอกมะลิ 1/2 ถ้วย (ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย + กลิ่นมะลิ 1-2 หยด)
3. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย (ตักออก 1/2 ชต.)
4. แป้งมัน 1 ชต.
5. แป้งท้าวยายม่อม 1 ชต.
6. น้ำปูนใส 1 ชต.
1. ไข่ไก่ชนิดสดใหม่ 3 ใบ (พิมใช้ไข่เป็ดแทนค่ะ เพราะว่าไข่ไก่หมดบ้าน)
2. หัวกะทิข้นๆ 1/2 ถ้วย
3. น้ำตาลปี๊บอย่างดี (สีเข้มมากๆ) 1/2 ถ้วย + 2 ชต.
4. ใบเตย (สำหรับช่วยขยำ) 4-5 ใบ
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเลย เราต้องมาทำตัวขนมกันก่อนนะคะ
ก่อนจะทำ ...... ก็มาดูหน้าตาส่วนผสมสำหรับตัวขนมกันแบบชัด ๆ ก่อนค่ะ



ป.ล. นวดเพื่อให้ตัวขนมนุ่มเหนียว ไม่ยุ่ย ไม่กระด้าง

ด้วยการผสม หัวกะทิ + ไข่ + น้ำตาลปี๊บ รวมกันในอ่างผสมค่ะ
ป.ล. ไข่ ... ควรใช้ไข่ไก่นะคะ จะได้รสสัมผัสที่ละมุนลิ้น และสีที่สวยกว่า (แต่ว่าวันนี้ที่บ้านพิม ไข่ไก่หมด แถวบ้านก็ไม่มีขาย เลยต้องใช้ไข่เป็ดแทน
ป.ล. น้ำตาลปี๊บ .... ต้องเลือกใช้น้ำตาลอย่างดี ที่เป็นน้ำตาลแท้ หอม หวานตามธรรมชาติ เพราะว่าขนมชนิดนี้ ถ้าน้ำตาลไม่ดี ขนมจะออกมาไม่หอม ไม่อร่อยอ่ะค่ะ และที่สำคัญให้เลือกน้ำตาลที่สีเข้มหน่อยนะคะ อย่างในภาพนี่ สีอ่อนไปมาก ทำให้หน้าสังขยาที่ออกมา สีไม่ค่อยสวยเท่าไหร่น่ะค่ะ


จากนั้นก็ทำการขยำ ๆ ส่วนผสมให้เข้ากันค่ะ .... โดยเราขยำให้ส่วนผสมเข้ากันดีก่อน พอส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ก็ขยำต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีค่ะ ..... โดยเวลาเราขยำแต่ละครั้ง ให้เรายกมือขึ้นเหนือส่วนผสมด้วยนะคะ เพื่อให้อากาศเข้าไปในส่วนผสม ส่วนผสมจะได้ "ขึ้น" เร็วยิ่งขึ้น

พอขยำได้ที่แล้ว (ฟองไข่ จะเป็นฟองเล็ก ๆ ละเอียดแบบด้านบน) .... ก็ทำการกรองด้วยกระชอนตาถี่มาก ๆ สัก 1 ครั้ง
ก็จะได้หน้าขนมออกมาเป็นแบบนี้นะคะ ....... ล่ะก็พักไว้ก่อนเหมือนกัน (ถึงตรงนี้ ใครขี้เกียจทำขนมตะลุ่มแล้ว จะเอาไปนึ่งเป็นสังขยา กินกับข้าวเหนียวมูนเลยก็ได้นะคะ ^^)
จากนั้นก็หันมาเรียงถ้วยขนมใส่รังถึงค่ะ (พิมขอเรีกว่า ..... "ซึ้ง" ... นะคะ) โดยพิมใช้ถ้วยใหญ่ 17 ใบ และถ้วยเล็ก 7 ใบค่ะ ..... แล้วก็นำถ้วยขนมไปนึ่งให้ร้อนจัด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ป.ล. ก่อนหยอด ดูด้วยนะคะว่าในถ้วยแต่ละใบ มีน้ำจากไอน้ำขังอยู่ก้นถ้วยหรือเปล่า / ถ้ามี ต้องหยิบถ้วยมาเทน้ำออกด้วยนะคะ
ป.ล. เทคนิคทำให้หยอดได้เร็ว และส่วนผสมไม่หกเลอะเทอะ .. ก็ด้วยการนำส่วนผสม เทใส่ถ้วยหรือกระบอกที่มีปากแหลม หรือจะเป็นกาน้ำก็ได้ค่ะ แล้วค่อยหยอดขนมจากถ้วยแบบนี้ จะทำให้หยอดได้เร็วมาก ๆ เลยค่ะ
หยอดเสร็จ ....... ก็ได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ ... (ดูตอนนี้เหมือนสีสังขยาตอนสุกแล้วจะสวย แต่จริง ๆ สังขยาตอนสุก จะสีอ่อนกว่าตอนยังไม่ได้นึ่งเยอะเลยค่ะ)
ก่อนจะปิดฝาเพื่อนึ่งหน้าขนมต่อ .... ให้เราทำการเอาผ้าสะอาดเช็ดไอน้ำที่เกาะอยู่ใต้ฝาซึ้งก่อนจะปิดฝาซึ้งลงไปนะคะ
ขนมชนิดนี้ ...... จะว่าทำยากก็ยาก จะว่าทำง่ายก็ง่ายค่ะ ... แต่พิมเชื่อว่าถ้าใครเอาไปลองทำ แบบตั้งใจทำ รับรองไม่ยากค่ะ
ลักษณะที่ดีของขนมชนิดนี้ ..... ตัวขนมจะต้องเหนียว นุ่มค่ะ และหน้าขนม (หน้าสังขยา) จะต้องมีรสเข้มข้น หวาน มัน หอมโดดเด่นออกมา (เพราะตัวแป้งจืด ไม่มีรสชาติใด ๆ เลย)... อีกทั้งหน้าขนมจะต้องไม่เรียบนะคะ เป็นหยัก ๆ หน่อยจะสวยมากเลยค่ะ
ยังไงก็ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจ ลองไปทำดูนะคะ ..... ทำไม่ยากค่ะ แต่ถ้าคาดหวังว่าจะได้อารมณ์แบบขนมถ้วยตะไล ที่ หวาน มัน เค็ม .... อันนี้อาจจะผิดหวังได้นะคะ ..... แต่ถ้าไม่คาดหวังมาก ทำเลยค่ะ เพื่อน ๆ อาจจะชอบก็เป็นได้ ^^
credit : http://www.pim.in.th/
Read More...