สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

Baked Silver Bluggoe ( กล้วยหักมุกอบ) โดย Jekyll and Hyde

เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด นอกจากจะชอบซื้อของพื้นเมืองต่างๆ จากตามตลาด อีกอย่างนึงที่ต้องหอบติดไม้ติดมือมาบ้าน ก็คือกล้วยน้ำว้าค่ะ ไปเที่ยวตลาดอัมพวามาหลายหน ทุกหนที่ไปเป็นต้องได้หิ้วมาแปดเก้าหวี ที่ซื้อเยอะก็เพราะที่บ้านเนี่ย … นกกินบ้าง … คนกินบ้างค่ะ  ซื้อกล้วยน้ำว้าตามต่างจังหวัดเนี่ย ราคาไม่แพงเลยนะคะ เห็นตามซุปเปอร์หวีละยี่สิบสามสิบบาท ตามตลาดทั่วไปก็หวีละสิบห้าบาทขึ้นไปทั้งนั้น ไม่มีทางเลือกก็ต้องซื้อกินนะคะ ก็อย่างว่า … กว่าเค้าจะขนส่งมาจนถึงเรา มันก็เสียค่าใช่จ่ายไปเยอะ ก็ต้องให้กำไรเค้าบ้างหล่ะค่ะ แต่เมื่อไปถึงแหล่งแล้ว ก็ขอหอบกลับบ้านมาหลายๆหวีหน่อยค่ะ ด้วยความงก ไปอัมพวามา พอเห็นร้านขายกล้วยที่ตรงริมน้ำ เขียนไว้ว่า 3 หวี 20 ก็เลยแวะเค้าไปเลือกซะหน่อย มองดูแล้วก็หวีสวยดีค่ะ เลือกลูกที่มันกลมๆหน่อย เพราะทุกหนที่ซื้อกล้วยลูกกลมๆเนี่ย จะออกมาไส้เหลืองแล้วก็หวานทุกครั้งเลยค่ะ พอซื้อเสร็จจ่ายเงินเรียบร้อย หันไปเห็นกล้วยหักมุกแขวนอยู่ข้างๆ 2 หวี มีปากกาเขียนไว้บนลูกกล้วยว่า 20 บาท ก็เลยถามเจ้าของร้านว่าเท่าไหร่ พี่เค้าคงเห็นว่าซื้อกล้วยน้ำว้าไปเยอะแล้วมั๊งค่ะ แกก็เลยบอกว่าหวีละ 15 บาท เอาไปสองหวีเลยนะ … เวลาซื้อของแล้วเลือดขึ้นหน้าค่ะ สองหวี … ก็สองหวีจ้า ได้มาสองหวี ขนาดไม่เท่ากัน ก็เลยบังคับแหม่ม Mamchan ว่า … แหม่มๆ เอาไปหนึ่งหวี พี่ให้ … เอาหวีใหญ่ไปนะ เพราะบ้านพี่อยู่กันสามคนเอง จริงๆ ไม่ค่อยคุ้นเคยกับกล้วยหักมุกเลยนะคะ ไม่เคยทำขนมด้วยกล้วยหักมุกมาก่อน แต่เป็นคนชอบกินกล้วยหักมุกย่างค่ะ ชอบกินแบบลูกนิ่มๆ สุกจัดๆหน่อย เพราะว่ามันหอมหวานดีด้วย สมัยโบราณอาหารรสที่เห็นว่าไม่แสลง คนป่วยกินได้ ก็คือ กล้วยหักมุกย่างนั่นเองเคยอ่านหนังสือเล่มนึงนานมาแล้ว เค้าเล่าว่า สมัยตอนที่ฝรั่งเศสเอาเรือรบมาปิดปากแม่น้ำของเราตอนปี ร.ศ. ๑๑๒ ประเทศไทบจำต้องยินยอมเสียสละกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้นทั่วไปในดินแดนทางฝั่งซ้าย ฟากตะวันออกของแม่น้ำโขง รวมถึงบรรดาเกาะทั้งหลายในแม่น้ำนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ห้าเสียพระราชหฤทัยเป็นอันมาก ทรงล้มเจ็บประชวรจนไม่ยอมเสวยพระโอสถ ไม่ยอมเสวยอะไรทั้งสิ้น ในขณะประชวรเวลาที่ฟื้นพระองค์เป็นคราวๆ ตอนนั้นท่านได้ทรงพระราชนิพนธ์โคลงสี่สุภาพเอาไว้ค่ะ ช่วงที่ท่องได้ขึ้นใจเป็นช่วงท้ายของโคลงอันนี้
” กล้วยเผาเหลืองแก่ก้ำ เกินพระ ลักษณ์นา
แรกก็ออกอร่อยจะ ใคร่กล้ำ
นานวันยิ่งเครอะคระ กลืนยาก
ทนจ่อซ่อมจิ้มจ้ำ แดกสิ้นสุดใบ”

หวีใหญ่ยังเขียวๆอยู่ ยกภาระให้แหม่มไปค่ะ ของพี่ก้อยหวีเล็กกว่า เริ่มเหลืองๆแล้ว

ตอนดึกๆหิวค่ะ ลงไปกินข้าวต้มมัดที่ซื้อมาจากอัมพวาไปมัดนึง เห็นกล้วยหักมุกที่ซื้อมาเริ่มเหลืองๆ จับดูข้างในนิ่มๆแล้วค่ะ ก็เลยลองปลิดมากินไปลูกนึง เป็นหนแรกที่พี่ก้อยกินกล้วยหักมุกสุกแบบสดๆนะคะ อร่อยดีค่ะ เนื้อเค้าจะฟูๆ แต่เหนียวหนึบ หอมแล้วก็หวานอ่อนๆ  พอวันจันทร์กล้วยเริ่มสุกไปครึ่งหวีแล้ว … หาทางทำอะไร เล่นๆ ดีกว่า เพราะถ้าปล่อยไว้ สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นกล้วยหักมุกย่างเหมือนเคยค่ะ พี่ก้อยตั้งใจทำกล้วยอบดีกว่าค่ะ Baked Banana เป็นเมนูของหวานที่ทำบ่อยๆ เวลาไปต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ เพราะเครื่องเคราไม่มากมาย แถมใช้ไมโครเวฟทำได้ด้วยค่ะ ปรกติจะใช้กล้วยหอมทำ แต่หนนี้ลองกล้วยหักมุกดูซิ จะออกมาเป็นยังไง ส่วนน้ำตาลปรกติเนี่ยจะใช้ brown sugar ค่ะ แต่หนนี้
ขอลองใช้น้ำตาลมะพร้าวสุดหอมอันที่เพิ่งซื้อมานี้ก็แล้วกันค่ะ

จัดการหาชามทนไฟนะคะ … ตัดเนยเป็นชิ้นเล็กๆ เกลี่ยให้ทั่วก้นชาม … โรยด้วยน้ำตาลมะพร้าว

มาเริ่มทำกันเลย ก่อนที่แดดจะหมดไปอดถ่ายรูปค่ะ … ลูกแรก … ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ

ลอกเส้นด้านข้างลูกออกให้เกลี้ยงนะคะ จะทำให้น่าทานขึ้น

สามลูกวางลงไปบนชาม อบ

มะนาวปอกผิวออกซักครึ่งลูก แล้วซอยให้เป็นชิ้นเล็ก ใครจะใช้ที่ขูดผิวมะนาวก็ได้นะคะเหมือนกัน แต่พอดีขี้เกียจล้างค่ะ เลือกมะนาวลูกสีเขียวเพราะผิวเค้าจะหอมค่ะ มะนาวเก่าๆ ลูกเหลืองๆ ไม่มีกลิ่นแล้วนะคะ แล้วก็โรยผิวมะนาวให้ทั่วๆ กล้วย

โรยเกลือลงไปบางๆ ค่ะ … เกลือจะช่วยให้รสจัดขึ้น ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว

บีบมะนาวลงไปบนกล้วยทั้งสามลูก … น้ำมะนาวไหลไปที่ก้นชามอบ

ตัดเนยวางลงบนกล้วยแต่ละใบ … แล้วก็เอาเข้าไมโครเวฟไฟแรงสุดเลยนะคะ

แอบเอาออกมาดูหน่อย … เนยเริ่มละลายเยิ้มมมมมมมมม

เอาเข้าอบต่อค่ะ … ซักพักเอาออกมา เพื่อจะตักน้ำที่ได้จากเนยละลาย แล้วก็น้ำมะนาว ราดกล้วย เบ็ดเสร็จอบกล้วยด้านแรก ใช้เวลาทั้งหมด 5 นาที ค่ะ

พลิกกล้วยค่ะ เอาด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วก็ตักน้ำราดอีก … ทีนี้เอาอบต่ออีก 5 นาที ได้เลยค่ะ ไม่ต้องเอาออกมาราดน้ำ เพราะกล้วยด้านล่างที่ขึ้นมาอยู่ด้านบน มันชุ่มฉ่ำอยู่แล้ว จะเห็นว่ากล้วยเป็นสีเข้มขึ้นสวยเชียวค่ะ

เอากล้วยขึ้นมาใส่จานไว้ก่อน น้ำที่เหลืออยู่ในชามอบจะออกใสๆ นะคะ เพราะในนั้นมีแค่น้ำมะนาวกับเนย เราใส่น้ำตาลมะพร้าวตอนอบไปนิดเดียว ก็เลยเอาน้ำตาลมะพร้าวใส่เพิ่มลงไปประมาณเกือบๆ ช้อนโต๊ะ …. เอาไปคนๆ ให้ละลายเข้ากับน้ำในชามอบ ละลายค่ะ เพราะมันร้อน  ออกมาได้ความหนืดขนาดนี้ … ไม่หวานมาก

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jekyll-and-hyde

Read More...


เปาะเปี้ยกุ้งจำแลง(จากแป้งขนมปัง) โดย นาย เหลือง

เมนูนี้จากการ แข่งขันไอเดียวทำอาหาร ที่เวป ของนายเหลือง เมื่อ ราว เดือน พค. 2007 เป็นอาหารจานด่วนแนวใหม่ ใช้เวลาทำน้อย เชิญชมครับ (มีอีกหลายเมนู ^^)
ส่วนใหญ่ ปัญหาของการทำเปาะเปี้ยนั้นคือ หาเจ้าแป้งห่อไม่ได้ วันนี้ผมเลยนำเสนอแป้งห่อแบบใหม่ครับ คือขนมปังแซนวิชนั้นเอง
ส่วนประกอบ
1. ขนมปังแซนวิช (สำหรับแทนแป้งเปาะเปี๊ยเอาไว้ห่อท่อด) จำนวน 3-5 แผ่น
2. ไข่ไก่สด 1ฟอง
3. หมูสับ 1 ถ้วย
4. น้ำจิ้มไก่ 1 ถ้วยเล็ก
5. ซ๊อสปรุงรส ตามชอบ

ขั้นแรกก็เอาขนมปังมาบดๆๆกดให้แบนมากที่ ซู๊ดดดด..อย่างในภาพ ได้มาละ แบนแต๊ดแต๋เลย 55555…3แผ่น

กุ้งสดผสมหมูสับปรุงรสเสร็จหมัก จัดเตรียมมาไว้

เอามาใส่ในขนมปังตามรูป

ห่อให้แน่น จากนั้นตัดออกให้พอดี แล้วทาด้วยไข่ดิบ (เป็นตัวช่วยให้ติดกัน)

ทาไข่ที่ปลายด้วยแล้วบีบให้แน่น ลองทำดูหลายๆแบบ (เผื่อว่าจะชอบบบไหนเป็นพิเศษ) แบบเต็มแผ่น/แบบครึ่งแผ่น แบบครึ่งวงกลมก็มีนะ

อย่างเพิ่งไปทอดเลยละ เอาไปเข้าไมโครเวฟก่อนให้ใส้ในสุก พักไว้ให้เย็นลงแล้วค่อยเอาไปทอดครับ เหตุเพราะว่าขนมปัง เมื่อทอดแล้วจะเหลืองและไหม้เร็ว ก่อนที่ใส้จะสุกครับ ทานกับซ๊อสบ้วยผสมซ๊อสพริก ทานร้อนๆอร่อยมั่กๆ
 

credit : http://9leang.com/?p=3111

Read More...


พิซซ่าแป้งบาง ด้วยขนมปังแซนวิช โดย นายเหลือง

วันนี้วันอาทิตย์ ขี้เกียจไงไม่รู้ แต่ก็อยากกินอะไรที่ไม่จำเจ เลยมาทำพิซซ่ากินกันอย่างง่ายๆ ไม่ต้อง ทำตัวแป้งพิซซ่า ใช้ขนมปังแซนวิชได้เลย…ก็เอาขนมปังแซนวิช มาทาซ๊อสมะเขือเทศแล้ว ใส่หน้าโดยใส่มะเขื่อเทศฝานสด1-2แผ่น หอมใหญ่ สัก2-3แว่น ตามด้วยใส้กรอก กุ้ง แฮม ตามแต่จะใส่ สุดท้านโรยด้วยชีส มอสซาเรล่า จะได้ดังในภาพ…

จากนั้นเอาไปเข้าเตาอบ สัก5-8นาทีเป็นอันเสร็จ ละครับ….แหมแต่ง่ายจัง แบบนี้นะเขาทำกันเกร่อแล้ว มาดูแบบคิดใหม่ ทำใหม่ดีกว่า 55555 ว่าแล้ว เชิญชมภาพต่อไป…

ที่เคยทำกันก็แบบนี้ ครับ เอาขนมปังแซนวิช มา ทาซ๊อส ใส้หน้าตามชอบแล้วโรยชีส

ทำกี่แผ่นก็แล้วแต่จะทานครับ

แรกก็หาจานกระเบื้องทนไฟ ขนาดสัก6-8นิ้ว มาสักใบ จากนั้นก็เอาน้ำมันพืชทาๆๆๆๆ ให้ทั่วในจานกันขนมปังติด จากนั้นก็เอาขนมปังแซนวิชยี่ห้อสุดโปรด ตัดขอบเสียก่อนมา กรุหรือเรียกว่าวางให้แผ่นเกย กันนิดหน่อยดังในภาพ


ตรงแผ่นต่อแผ่นที่ซ้อนกัน ให้ทาด้วยไข่ดิบๆ ประมาณว่าไข่เป็นเหมือนกาวช่วยในการประสาน ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนทั่วจานดั่งในภาพ จากนั้นเราก็เอามือเรากดๆๆๆแผ่นขนมปัง ให้แบนๆติดจานไปเลย ไม่ต้อกดแรงมากนะเดี๋ยวจะได้พิซซ่า บางเกินไป จังหวะนี้ใครชอบหนานุ่มเชิญ กรุเพิ่มอีกชั้นหนึ่งได้เลย จากนั้นให้พับขอบเข้าหาจานเพื่อเก็บความเรียบร้อย ดังในภาพจากนั้นก็เอาขนมปัง

ภาพนี้โรยชีส และทาไข่+น้ำมันพืช ที่ขอบแล้ว..   เตรียมเข้าเตาอบได้

เอาซ๊อสมะเขือเทศมา ทาๆๆๆ ให้ทั่วแผ่นแบบนี้

ใส่หน้าได้ตามใจชอบ โดยของผมเริ่มจาก เอาหอมใหญ่ แว่นๆว่างให้ทั่ว จากนั้นตามด้วย มะเขือเทศฝานบางๆสัก4-5แผ่น ตามด้วยใส้กรอก+แฮม+กุ้งต้ม สุดท้ายโรยด้วย ชีสๆๆๆๆจนทั่ว

สังเกตที่บริเวณขอบๆ เราต้องเอาไข่มาทาๆพร้อมกับน้ำมันพืช
เพราะมันจะแห้งก่อน แล้วจะไหม้ก่อนเพื่อน จึงต้องทาไข่กัน น้ำมันพืชช่วยไว้ ทำให้อร่อยและสวยขึ้นอีกต่างหาก..

เข้าเตาอบ ตั้งไว้ 180c ประมาณ 8-10นาที  หรือกะเอา พอขอบเหลืองๆชีสละลาย เป็นอันใช้ได้..

เสร็จแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ รสชาติ OK เลยละครับ ง่ายๆและอร่อยชัวร์ ลองไปทำทานดูนะครับ

ตัดเป็นแผ่น สามเหลี่ยม ดังรูปพร้อมทานครับ แผ่นจะออกบางกรอบ ตาม น้ำหนักที่เรากดแผ่น ต้องการหน้าเพิ่มชั้นแล้วกดเบากว่าหน่อย เท่านี้เอง

รสชาติ อร่อยชัวร์ ทำก็ง่าย แถมเป็นพิซซ่าที่ บางกรอบตามสมัยนิยมทีเดียว ลองทำดูนะครับ ^^

credit : http://9leang.com/?p=2748

Read More...


“มูสลี่บาร์” โดย คุณดาวสวรรค์

ทีนี้มาสูตรเด็ดที่รับรองทำแล้วจะกินเพลิน แถมดีต่อสุขภาพด้วย เราทำเป็นประจำเลย
เพราะลูกเอาแพคไปกินที่ รร.ตอนกลางวัน

สูตร มูสลี่บาร์
น้ำตาลป่น 1/2 ถ้วย
มะพร้าวอบแห้ง แบบป่นๆหน่อย 1 ถ้วย
ข้าวโอ๊ต ที่ไม่ใช่แบบ instant เราใช้ rolled oat 1 ถ้วย
คอนแฟลกซ์บดแล้ว 2 ถ้วย ( แบบธรรมดา 2 ถ้วย จะบดแล้วได้ 1 ถ้วย)
เมล็ดทานตะวัน 1/2 ถ้วย
เนยสด 125 กรัม
น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา

ตามสูตรนี้ ก็ไม่ได้หวานมาก แต่ถ้าใครจะลดหวานให้ลดน้ำตาลลง นิดหน่อย แล้วเพิ่มน้ำผึ้งเป็น ช้อนโต๊ะก็ได้ค่ะ แต่อย่าลดน้ำตาลมากเกินไป จะทำให้เวลาอบเสร็จแล้วจะร่วนค่ะ ถ้าจะลดน้ำตาล ก็เพิ่มแบะแซ หรือ กลูโคส ไซรับ ลงไปก็ได้ค่ะ สัก ช้อนโต๊ะนึงก็จะทำให้เหนียวขึ้น ส่วนผสมก็เพิ่มงาก็ได้แต่ว่าก่อนผสมควรเอาไปคั่วพอหอมๆ่อนผสมลงไปค่ะ


ตอนทำเราบดไอ้ตัวนี้เพิ่มลงไปด้วย  ใส่เจ้าตัวนี้ลงไปอีก 1/2 ถ้วย

ขั้นตอนทำ เอาของแห้งผสมกน เคล้าให้เข้ากัน พักไว้ มีอะไรบ้าง ข้าวโอ๊ต น้ำตาล เม็ดทานตะวัน มะพร้าวป่น คอนแฟลกซ์ วีทบิ๊กซ์

ก็เอาเนยไปละลายกับน้ำผึ้ง ถ้าใครใส่แบะแซก็ใส่ตอนนี้เลย ใช้ไฟอ่อนนะ

แล้วก็เอาของเหลว ส่วนผสมเนยมาใส่ที่ส่วนผสมของแห้ง แล้วก็คนๆเคล้าให้เข้ากันนะ

เมื่อเข้ากันดีแล้ว ก็เอามาใส่พิมพ์ แต่ก็หาอะไรมากดๆให้มันแน่นเข้าไว้นะคะ แบบนี้

เวลาอบใช้ไฟประมาณ 180 ก็พอ ประมาณ 20-25 นาที พอหน้าเหลืองเข้มก็ใช้ได้แล้วค่ะ แต่ไม่ต้องเข้มมากนะ แล้วปล่อยให้เย็นบนพิมพ์เลย จึงมาตัด อย่าตัดตอนร้อน เพราะมันจะแตกค่ะ เห็นไม๊ หน้าตาน่าเอ็นดูนะ ทำบ่อยมากเลย เพราะยามว่างก็กิน แถมระบายท้องดี๊ดี ตอนทำรูปข้างบนไม่ได้ใส่งา พอดีรูปมันเบลอ เอารูปที่มีงาไปดูแล้วกันนะคะ
อ้อ อีกอย่าง อย่าใส่ในพิมพ์หนามากเพราะจะทำให้ไม่กรอบ และตัดลำบาก เอาเป็นสูงสักประมาณ 1 cm เดียวก็พอมั้ง มันจะกรอบ ในรูปทำเยอะค่ะ ใช้สองเท่า ออกมาเลยหนานิดนึง แต่เราชอบแบบเอาเป็นแผ่นที่อบเสร็จแล้วมาบี้ๆให้แตกๆและก็ใช้ช้อนตักกิน สบายดี ไม่เปื้อนมือ อิอิ


Read More...


วิธีทำหมูทอด เจ้จง

ดูกิจการของเจ้จงได้ ที่นี่ http://www.9leang.com/?p=2905
ผมเป็นลูกค้า ร้านเจ้จงมานานครับ ไปทานที่ร้านและซื้อมาทานที่บ้านออกจะบ่อย จากการที่ชอบทานหมูมอดแบบนี้ซึ่งหาทานได้หลายเจ้าครับ ความอร่อยนั้นไม่แพ้กัน แต่ราคา ของเจ้จง เธอถูกกว่า จึงได้รับความนิยมอย่างสูง การทำหมูทอดแบบเจ้จง ทราบมานานแล้ว และทำทานเองบ่อยเมื่อมี มีเวลา (ส่วนใหญ่จะซื้อทาน) หมูทอดแบบนี้ถ้าเอาเหมือนต้องใช้หมูสามชั้น อย่างดีมีมันน้อย หนังบางๆ พอทอดออกมา มันจะไม่หนามากและนุ่ม แต่ดูๆแล้วมันก็มากมายอบู่ดีทำให้ทานได้ไม่บ่อยนะถ้าทอดด้วย หมูสามชั้น หากทำทานเองแนะนเลยว่าให้ใช้ คอหมูไปเลย แพงหน่อย นิ่มอร่อยแน่ อาการอ้วนก็ไม่มาก 5555… เดี๋ยวมาดูวิธีทำกันครับ


ก่อนอื่นซื้อหมูสามชั้น แบบหั่นแล้ว เลือกให้เนื้อมากๆหน่อยมันน้อยหนังบาง อันนี้แบบกลัวอ้วนนะ แต่อร่อยครับ จากนั้นเราเอาซ๊อม หรือเหล็กแหลมจิ้มๆๆๆๆๆ ให้ทั่วๆ อันนี้ละครับ เค็ดลับความนิ่ม ของเนื้อหมูที่ทอดแล้ว

เครื่องปรุงสำหรับหมักหมู
1. หมูมาชั้น หั่นแล้ว              3-5 ชั้นตามต้องการ
2. กระเทียมสดสับละเอียด  15-20 กลีบ
3. พริกไทยบ่น                       2 ชต.
4. ซ๊อสปรุงรส                        3-5 ชต.
5. ผงปรุงรส อโรมาต            2 ชต.
6. น้ำมันหอย                         2 ชต.
7. น้ำมันพืช                          5  ชต.
8. น้ำสะอาด                          1/3  ถ้วย
( นำเครื่องปรุง ทุกอย่างผสมกัน แล้วเอา หมูสามชั้นที่เตรียมไว้แล้ว ลงหมักไว้ 1คืน โดยเอาเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา )

วันรุ่งขึ้น เอาน้ำหมักหมู มาใส่แป้ง โดยมีอัตราส่วนดังนี้   แป้งข้าวเจ้า1ส่วน ตามด้วยแป้งสาลี 1/2ส่วน ถ้าต้องการกรอบมากให้ใส่น้ำปูนใส่แทนน้ำปล่าว

ที่ตัวหมูสามชั้น ก่อนชุปแป้ง ให้คลุ๊กแป้งแห้งก่อนเวลาทอดแป้งจะไม่หลุดจากตัวหมูเวลาทอด อันนี้สำคัญมากครับ จากนั้นเอาไป จุ่มกับแป้งชุปทอดที่เราเตรียมไว้ อันนี้กรณีที่ชอบทานแบบ แป้งหนาหน่อย

อันนี้ทำแบบ แป้งไม่หนามาก แค่คลุ๊กแป้งธรรมดา แล้วลงทอดเลย ถ้าชอบแป้งหนาทำแบบข้างบน แต่พอดีผมชอบแบบแป้งบาง เลยทำแบบนี้

เอาลงทอดในกะทะไฟปานกลาง ใช้น้ำมันปลาล์มให้ทั่วหมู ยิ่งท่วมแบบทอดกล้วยแขกยิ่งดี จะทำให้กรอบมาก (แบบร้านเจ้เขาเลย)

ลงทอด กะทะนี้น้ำมันน้อยไปหน่อย แต่แป้งพอดีไม่หนาเกินไป (ชอบโดยส่วนตัว) ทอดนานราว 10กว่านาทีหรือดูว่าหมูเป็นสีเหลืองทอง

สีประมาณนี้

หั่นดู แล้วจะพบว่าข้างนอกกรอบข้างในนิ่ม เนื้อแป้งออกเค็มหน่อย เนื้อหมูนิ่มดีแล้ว มีรสชาติดี

กรอบนอกนุ่มใน อิอิ

โกยใส่จานเตรียม พร้อมทาน

อีกมุม แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ จะอร่อย เพราะแป้งกรอบ กรุบๆ หมูนิ่ม มันเด้งๆ  ง่ะ อ้วน 55555

ตักใส่จาน ราดข้าว ทานไม่ต้องน้ำจิ้มเลย เพราะหมูเค็มดีที่แป้งอยู่แล้ว หรือหากมีน้ำจิ้ม  ก็เป็นน้ำจิ้มแจ่วก็อร่อยไปอีกแบบครับ

ทำกินที่บ้านก็อร่อย ทำขายก็อาจรวยเหมือน เจ้จง 55555..  ”นายเหลือง” ขอให้มีความสุข ในการเลือกทานอาหาร ที่มีคุณค่าเหมาะสม กับทุกๆท่านะครับ ^^

ดูกิจการ ข้าวหมูทอดเจ้จง  ที่ขายจานละ21บาท ทำยอดขายได้ ปีละ 20ล้าน ได้ ที่นี่

http://www.9leang.com/?p=2905

Read More...


ทำขนมเรไรไกลบ้าน ฝากพี่สาว โดย แม่บ้านสวิส

มีพี่สาวคนหนึ่ง พี่เขาใจดีเอาปลามาฝาก บอกพี่เขาว่าอยากกินอะไร บอกได้เลยจ๊ะ คุณพี่เขาคิดถึงขนมเรไร ฝีมือคุณแม่ เอาละซิ งานนี้ บอกพี่เขาไปแต่ว่า กินไปแค่ให้ หายคิดถึงแล้วกัน ความอร่อยไม่รับประกัน คะ ไปซื้อมะพร้าวมาหนึ่งลูก ขูดออกมา คั้นกะทิ เข้มข้น ได ้ 1 ถ้วย แบ่งเป็นสองส่วน เอาไว้ ราดหน้า กับ ผสม แป้ง พี่เขาคนเดียว ทำนิดเดียวพอ
.
ส่วนประกอบ
1. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
2. แป้งเท้ายายม่อม 1/8 ถ้วย
3. น้ำดอกกุหลาบ 1/3 ถ้วย ปกติเขาใช้น้ำดอกมะลิ
.
วิธีทำ
ผสมแป้ง ทั้งสองอย่างให้ เข้ากัน แล้ว แล้วใส่ น้ำกะิทิ คนให ้เข้ากัน นวด จนแป้งนิ่มมือ เอาแป้งใส่กะทะ ปกติเขาใส่กะทะทองเหลือง สำหรับทำขนม แต่ว่า ที่บ้านมีแต่กะทะ เทปล่อน ใบเล็ก ใช้ได้เช่นกัน คะ เอาแป้งที่นวดใส่กะทะ ค่อยๆเท น้ำดอกไม้ ลงในแป้ง ให้ คลายตัว แล้วเอาไปกวนไฟอ่อน แค่แป้งข้น ไม่ติดกะทะ ยกลง เอาแป้งใส่ ถ้วย พออุ่นๆ นวดให้นิ่ม



เอากะทิ อีกส่วนที่เหลือ ใส่หม้อ ตั้งไฟ อ่อน พอเดือด กะทิข้นยกลง จากนั้น คั่วงาขาว 2 ช้อนโต๊ะ ให้ เหลือง ตักกะทิ ใส่ถ้วย สอง ช้อนโต๊ะ เอาไว้ทามือ กันแป้งติดมือ แบ่งแป้งเป็นสามส่วน แล้วผสมสี อ่อนๆ วันนี้ สีสตรอเบอรี่ เยอะไป เพราะ ขี้เกียจใช้ช้อนช่วย ออกมา สีเข้มเกินไป ทำให ้ขนมน่ากลัว มากกว่าน่ากิน ตามความคิดเห็นส่วนตัวคะ ตอนผสมสีกับแป้ง ใช้น้ำมะพร้าวทามือก่อน จะง่ายขึ้น



ในเมื่อพี่เขาอยากกินจริงๆ ต้องหาวิธีทำ ไม่มีพิมพ์เรไร เขาบอกว่า ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้เป็นเส้น ใหญ่กว่าสลิ่ม นิดหน่อยพอ ที่บ้านมีที่กดกระเทียม ต้องล้าง จนหมดกลิ่น แต่ว่า ที่กดยังเล็กกว่าพิมพ์ ขนม ทำให้ ได้เส้นสั้นๆ และขนม กองเล็ก กว่า ที่ควรจะออกมา



บีบออกมา ทุกสี พยายาม จัดให้ เป็นกอง เรียงกันใส่ลังถึง ให ที่ปูด้วยใบตอง ทาด้วยน้ำกะทิ ห่างกันนิดหน่อย กันขนมติดใบตอง และติดกัน ต้มน้ำให้ เดือดแล้วนำขนมไปนึ่ง แค่ 3 นาที อันนี้เร็วดี ถ้านึ่งนานกว่านี้ ขนมจะแข็ง



เอางาที่คั่วไว้ มาบุบ ให้ แตกนิดหน่อย แล้วผสมเกลือป่น นิดหน่อย พอขนมสุกยกลง จัดใส่จาน โรยด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด ไม่มีอีก ใช้ มะพร้าวอ่อนในกระป๋องมาซอย แก้ขัด ราดด้วยน้ำกะทิ และ งาขาว แต่ก่อน จะชอบทำขนมด้วย สี ขาว ชมพู เขียวอ่อน แล้วราดน้ำกะทิแบบนี้ สีสตรอเบอรี่ ดูเข้มมาก เวลาสุกแล้ว ผลออกมา แย่งกันกิน คิดว่าทำน้อยไป พี่สาวบอกว่า คราวหน้า ทำเยอะและกองใหญ่กว่านี้ นะน้อง มีเท่าไหร่ พี่กินหมด ความอ้วนพี่ไม่กลัว อยู่แล้ว เหอ เหอ

 

credit : http://9leang.com/?p=4762

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.