“สเต็กการ์วินแมน” ชูจุดขาย ยอดมนุษย์ฮีโร่คนไทย

ร้านสเต็กชูจุดขายซุปเปอร์ฮีโร่คนไทย        มิสเตอร์การ์วิ นแมน ซุปเปอร์ฮีโร่ที่เกิดขึ้นจากความฝันของชายหนุ่ม ที่ชื่อว่า “นายเกรียงกฤตย์ ดุรงค์พิศิษฎ์กุล” ที่มุ่งมั่นจะปลุกปั้น ซุปเปอร์ฮีโร่คนไทยขึ้นมา แต่การเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนไทย ดังนั้น ความฝันของมิสเตอร์การ์วินแมน ที่เดินทางมากว่า 12 ปี จึงได้จบลงที่ร้านสเต็ก ก่อนเป็นใบเบิกทางกลับมาสร้างชื่อฮีโร่การ์วินแมนอีกครั้ง

ทีมงานซุปเปอร์ฮีโร่การ์วินแมน        นายเกรียงกฤตย์ เล่าว่า หลังจากที่ผมพยายามเดินตามแรงบันดาลใจที่จะสร้างฮีโร่คนไทย ที่ชื่อการ์วินแมนขึ้นมา หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะขาดเงินทุนจากผู้ที่เห็นคุณค่ามาสนับสนุน ทำให้แรงบันดาลใจที่ทุ่มเทสร้างฮีโร่หมดลงไปเรื่อย ชื่อของการ์วินแมน ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แม้ว่าจะใช้เวลานานถึง 12 ปี และด้วยเหตุนี้เอง มิสเตอร์การ์วินแมน จึงได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนที่ยังชื่นชมในซุปเปอร์ฮีโร่คนนี้ เปิดร้านสเต็กมิสเตอร์การ์วินแมนขึ้น               สำหรับร้านสเต็กการ์วินแมน เปิดให้บริการมาได้ประมาณ 1 ปี ชูจุดขาย โดยใช้ซุปเปอร์ฮีโร่การ์วินแมนมาเป็นสัญญลักษณ์และตัวแทนของร้าน เช่น เดียวกับแฟรนไชส์ร้านอาหารชื่อดังจากต่างประเทศ หลายๆร้าน อาทิ แมคโดนัลด์ ไก่ทอดเคเอฟซี เป็นต้น ตัวแทนของร้านเพื่อให้คนจดจำและนึกภาพออก ถ้าในอนาคตได้มีการพัฒนาสร้างซุปเปอร์ฮีโร่ตัวนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

ฮีโร่การ์วินแมน        “ก่อนหน้านี้ ที่ผมได้สร้างซุปเปอร์ฮีโร่การ์วินแมน ขึ้นมา และได้พัฒนาเรื่องของคาร์แรกเตอร์ ชุดที่สวมใส่ เพื่อให้ดูเข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน ผมได้ใช้เงินกับการพัฒนาเรื่องของชุดไปกว่า 1 แสนบาท บวกกับการเดินทางไปโปรโมทแนะนำ ให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการแนะนำผ่านหนังสือ นิตยสาร การ์ตูน หลายสำนัก แต่สุดท้ายด้วยความที่เป็นคนไทย ทุกคนกลับมองไม่เห็นคุณค่า แม้แต่ครอบครัวเอง ก็ไม่ต้องการให้เราเลิกทำเพราะเสียเวลาและไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ผมก็ไม่ท้อ ได้กำลังใจจากคนที่รู้จัก และชื่นชมในตัวฮีโร่การ์วินแมน จึงมีแรงทำงานต่อไป รวมถึงเพื่อนที่มาร่วมกับเราในการเปิดร้านสเต็กในครั้งนี้ก็มาจากผู้ที่ชื่น ชอบการ์วินแมน”

ป้ายหน้าร้านสร้างชื่อคนรู้จักการ์วินแมน        โดยร้านสเต็กจะเป็นสูตรของเพื่อน มีสเต็กหลากหลายชนิด เช่นเดียวกัยร้านสเต็กทั่วไป แต่จะเน้นเรื่องของปริมาณ เพราะมองว่า ฮีโร่ก็ต้องกินเยอะ เนื่องจากต้องใช้พลังงานมาก ดังนั้นสเต็กทำออกมาจึงชิ้นใหญ่เป็นพิเศษ ภายในร้านตกแต่งแบบนั่งสบายๆ เมนูก็ใช้ชื่อของการ์วินแมนมาตั้งเป็นชื่ออาหารหลายเมนู ราคาสเต็กเริ่มต้นที่ 60 บาท ไปจนถึง 80 บาท               สำหรับ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ในตอนนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเพื่อนที่เป็นครีเอทีฟ กลุ่มคนทั่วไป ที่ผ่านไปมา และกลุ่มเพื่อนในเฟสบุ๊ค และได้ออกรายการโทรทัศน์ และหนังสือ นิตยสาร ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น คนก็แวะเวียนมากินกัน รวมถึงการขึ้นป้ายภาพของฮีโร่ข้างหน้าร้าน เป็นจุดสนใจที่ทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาได้รู้จักฮีโร่การ์วินแมนมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการโปรโมทซุปเปอร์ฮีโร่การ์วินแมนอย่างที่เราต้องการ ส่วนของการ์วินแมนตัวจริงๆก็มีการมาโชว์ตัวและเสิร์ฟอาหารบ้างในโอกาสพิเศษๆ

บรรยากาศภายในร้าน        “ผมเชื่อว่า การเปิดร้านสเต็ก หรือ ร้านอาหารสักแห่ง ในปัจจุบัน ถ้าไม่มีคาร์แรกเตอร์ โอกาสจะเรียกลูกค้าเข้าร้านในช่วงแรกค่อนข้างจะทำได้ยาก การเปิดร้านและมีคาร์แรกเตอร์สัญลักษณ์ ช่วยให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย และยังเป็นจุดสนใจของสื่อในการนำเรื่องราวของเราไปลงหนังสืออีกด้วย”               ในอนาคตมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางในการโปรโมทซุปเปอร์ฮีโร่ และเพื่อเป็นการสร้างชื่อสร้างรายได้ให้กับร้านสเต็กอีกทางหนึ่ง ซึ่งถ้ามีคนสนใจในเรื่องของแฟรนไชส์ เข้ามา ก็อาจจะพิจารณาขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์ แต่ก็คงจะต้องใช้เวลาศึกษาเรื่องของแฟรนไชส์ก่อน

นายเกรียงกฤตย์ ดุรงค์พิศิษฎ์กุล ฮีโร่การ์วินแมน        นายเกรียงกฤตย์ เล่าว่า สิ่งทีเราต้องการ คงไม่ใช่ความสำเร็จของร้านสเต็กเพียงอย่างเดี่ยว แต่คาดหวังการสร้างชื่อการ์วินแมนด้วย โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตสินค้า ให้เราได้มีการโอกาสไปโชว์ตัว ในงานอีเว้นท์ต่างๆ ส่วนแผนอนาคตอันใกล้ คือ การทำหนังสั้น การ์ตูนแอนนิเมชั่น ออกมาก่อน เพราะไม่ต้องใช้เงินทุนมาก และถ้ามีคนรู้จักมากขึ้ คงจะได้มีโอกาสไปเสนอ ค่ายหนังให้พิจารณาอีกครั้ง

สเต็กเสิร์ฟในร้านเน้นชิ้นใหญ๋        ในส่วนของร้านสเต็ก ตั้งใจจะทำร้านแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อที่เป็นที่รวมตัวของคนทำงาน ด้านครีเอทีฟ ได้มานั่งทำงานและพบปะพูดคุ๋ย แลกเปลี่ยนความคิดกัน เพราะโดยส่วนตัวผมเอง ก็ชื่นชอบงานด้านนี้ และได้มีโอกาสทำงานตรงนี้มาก่อน โดยเคยเป็นนักเขียนการ์ตูนมาก่อน ส่วนจุดเริ่มต้นของการคิดทำซุปเปอร์ฮีโร่ มาจากความชอบซุปเปอร์ฮีโร่แบบฝั่งใจมาตั้งแต่เด็ก พอได้มาเขียนการ์ตูน ก็อยากจะทำตามความฝันในการสร้างฮีโร่ตามแรงบันดาลใจของตัวเอง

เมนูใช้ชื่อการ์วินแมน        ทั้งนี้ ในอนาคต เชื่อว่า ทุกคนจะเห็นถึงความตั้งใจจริงของ การ์วินแมน ซุปเปอร์ฮีโร่ สายเลือดคนไทยคนนี้ ในการที่จะเดินไปตามฝันทำให้เมืองไทยได้มีซุปเปอร์ฮีโร่ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศกับเขาสักครั้งหนึ่ง ผ่านร้านสเต็กแห่งนี้ เพราะรายได้ของการทำร้านสเต็ก คุณเกรียงกฤตย์ นำไปใช้กับแรงบันดาลใจในการสร้างฮีโร่ในครั้งนี้               โทร. 08-1741-8915 ,www.misterkavinman.com

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

กระหรี่พั๊ฟ “เจ๊อ้วน” เจ้าดัง ยกเครื่องรุกตลาดโกอินเตอร์

คุณชำเรืองและลูกสาวคุณสุภาพร ปิ่นนาค เจ้าของสูตรกระหรี่พั๊ฟเจ๊อ้วน        บจก.สยามปิ่นนาคฯ ผู้ผลิตกระหรี่พั๊ฟรายใหญ่ เตรียมปรับกลยุทธ์จากผู้รับจ้างผลิต สู่ตลาดค้าปลีกและตลาดต่างประเทศ พร้อมปั้นแบรด์ “เจ๊อ้วน” ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นภายใน 2 ปี หลังอยู่เบื้องหลังตลาดค้าส่งมานานกว่า 23 ปี ล่าสุดจับมือ iTAP เครือข่าย มทส. พัฒนาการยืดอายุผลิตภัณฑ์ และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตด้วยการวิจัยและพัฒนา

คุณชำเรือง ปิ่นนาค(เจ๊อ้วน)        “กระหรี่พั๊ฟ” ของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดสระบุรี และนครราชสีมา ที่หลายคนมักซื้อติดไม้ติดมือกลับทุกครั้งที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวโดย เฉพาะในช่วงหน้าเทศกาลอย่างปีใหม่ สงกรานต์ ฯลฯ เพราะกระหรี่พั๊ฟ นอกจากจะเป็นอาหารว่าง ที่หอม กรอบ อร่อยแล้วยังให้คุณค่าทางอาหาร และมีรูปลักษณ์ที่น่ารับประทาน

กระหรี่พั๊ฟที่ห่อไส้แล้วเตรียมนำไปทอด        แม้ปัจจุบันจะมีผู้ผลิตกระหรี่พั๊ฟนับร้อยราย แต่น้อยคนนักจะรู้ว่า ผู้ผลิตกระหรี่พั๊ฟรายใหญ่ที่สุด คือ “กระหรี่พั๊ฟ เจ๊อ้วน” จากปริมาณการผลิตที่สูงถึง 200,000 - 300,000 ชิ้นต่อเดือน และ สินค้ามีวางจำหน่ายอยู่ภายในร้านสะดวกซื้อ อย่างเซเว่นอีเลฟเว่นที่กระจายอยู่ตามปั๊มน้ำมันครอบคลุมเกือบทุกจังหวัดใน พื้นที่ภาคกลางจนถึงจังหวัดนครสวรรค์ และภาคอีสานไปจนถึงชายแดนจังหวัดหนองคาย รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวและผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในพื้นอ.มวกเหล็ก ซึ่งหลายคนมักซื้อกลับไปรับประทานหรือเป็นของฝากกันเป็นจำนวนมาก เพราะชื่นชอบในความสดใหม่ และรสชาติที่อร่อยถูกปาก

ขั้นตอนการทำกระหรี่พั๊ฟ        นางสาวสุภาพร ปิ่นนาค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศและผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ บริษัท สยามปิ่นนาคเคอรี่พั๊ฟ จำกัด ในฐานะทายาทรุ่นที่2 เล่าให้ฟังว่า กว่าจะประสบความสำเร็จจนถึงวันนี้ คุณแม่หรือเจ๊อ้วน ต้องใช้ความอดทนและลองผิดลองถูกอยู่นาน จากเดิมทำอาชีพเกษตรกรรมหันมาทำกระหรี่พั๊ฟขาย เพื่อต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตรของครอบครัว

นำไปทอดในน้ำมัน        "การทำกระหรี่พั๊ฟของคุณแม่ได้รับการถ่ายทอดวิธีการทำมาจาก คุณญ่า ซึ่งเป็นพี่สาวของคุณแม่ โดยคุณแม่ได้นำมาปรับปรุงรสชาติเพิ่มเติมตามสไตล์ของตนเอง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกระหรี่พั๊ฟเจ๊อ้วนตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา โดยเปิดร้านจำหน่ายแห่งแรกบริเวณ อคส.อ.มวลเหล็ก จ.สระบุรี จนในปี 2547 ได้ย้ายมาอยู่ที่ตลาดกลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมจัดตั้งเป็นบริษัท สยามปิ่นนาคฯขึ้น จนถึงปัจจุบัน โดยกิจการขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 10%”

กระหรี่พั๊ฟทอดในน้ำมันใช้เวลาประมาณ 15นาที        ทั้งนี้ การเติบโตของบริษัทฯ เป็นการโตจากตลาดค้าส่ง เพราะกระหรี่พั๊ฟเจ๊อ้วนได้รับการตอบรับอย่างมากจากผู้บริโภคและนักท่อง เที่ยวทำให้มียอดการสั่งซื้อจากผู้ค้าปลีกเข้ามาเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ เป็นเช่นนี้มานานกว่า 23 ปี ทำให้บริษัทไม่มีเวลาทำตลาดค้าปลีกเอง แต่จากนี้ไป บริษัทฯ มีแผนรุกตลาดค้าปลีกมากขึ้น โดยตั้งเป้าสร้างแบรนด์ “เจ๊อ้วน” ให้เป็นรู้จักและติดตลาดค้าปลีกพร้อมกับส่งออกตลาดต่างประเทศภายใน 2 ปี ( พ.ศ.2554 - พ.ศ.2555 )

กระหรี่พั๊ฟกรอบ หอม อร่อย น่ารับประทาน        บริษัทฯ จึงมีแนวคิดในการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ “กระหรี่พั๊ฟ” ให้ สามารถจัดเก็บได้นานขึ้นโดยไม่ใส่สารกันบูดหรือวัตถุกันเสีย เพื่อรองรับแผนดังกล่าวจึงได้เข้ารับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย(iTAP) เครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในโครงการ “การยืดอายุการจัดเก็บรักษาผลิตภัณฑ์กระหรี่พั๊ฟ” โดยมีอาจารย์ ประทุม อุ่นเรือน และอาจารย์ปิยะมาศ จานนอก จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เป็นผู้เชี่ยวชาญ

ผลิตภัณฑ์กระหรี่พั๊ฟเจ๊อ้วน        ผลการวิจัยและการพัฒนาพบว่า สามารถยืดอายุการเก็บรักษากระหรี่พั๊ฟ จาก 7วันเป็น 9วันโดยที่ไส้กระหรี่พั๊ฟไม่แห้งแข็ง และผลที่ได้ดังกล่าวนำไปสู่เฟส 2 ในโครงการ “ศึกษาความเป็นไปได้ของการยืดอายุกระหรี่พั๊ฟ ให้ได้ 14 วัน” โดยมี ดร.รัชฎาพร อุ่นศิวิไลย์ จากมหาวิทยากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ สุรนารี เข้ามาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

กระหรี่พั๊ฟและผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์เจ๊อ้วน        น.ส.สุภาพร กล่าวว่า “กระหรี่พั๊ฟ เป็นการทำสดวันต่อวัน อายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น ปกติจะเก็บได้ 4-7 วัน จึงต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถยืดอายุการเก็บได้นานขึ้นเป็น 14 วัน เพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่ง(โลจิสติก)ของบริษัท (ปัจจุบันบริษัทมีการขนส่งสินค้าและบริการด้วยตัวเองอยู่) และเพื่อรองรับระบบการขนส่ง(โลจิสติก)ของเซเว่นอีเลฟเว่นในส่วนกลางได้ ทำให้กระหรี่พั๊ฟจะต้องมีอายุนานกว่า 10 วัน รวมถึงรองรับการส่งออกตลาดต่างประเทศ อาทิ ประเทศในแถบตะวันออกกลาง และประเทศในกลุ่มมุสลิม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคกลุ่มอาหารฮาลาล และเริ่มมียอดสั่งผลิตเข้ามามากขึ้น ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายที่ กำหนดไว้”

ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป        สำหรับผลิตภัณฑ์เจ๊อ้วน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มขนมทอด ประกอบด้วย กระหรี่พั๊ฟไส้ต่างๆ อาทิ ไส้ไก่ ,หมูแดง,ถั่ว,ไส้ผลไม้ อาทิ ไส้แก้วมังกร,สัปปะรด,องุ่น และในอนาคตจะผลิตกระหรี่พั๊ฟไส้กล้วยออกสู่ตลาดเพิ่ม กลุ่มขนมอบ ประกอบด้วย พายใผลไม้ต่างๆ คุ้กกี้สิงคโปร์ และกลุ่มเนื้อแปรรูป แบ่งออกเป็น กลุ่มเนื้อวัว อาทิ เนื้อเค็ม และกลุ่มเนื้อหมู อาทิ หมูสวรรค์ ,กุนเชียง เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเจ๊นอกจากได้รับการรับรองจากอย.แล้ว ยังเตรียมยกระดับคุณภาพสู่มาตรฐานระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ อาหาร หรือ HACCP และมาตรฐานบริการอาหารฮาลาล คาดว่าจะสามารถผ่านการประเมินและรับรองมาตรฐานดังกล่าวได้ในปี 2554

ผลิตภัณฑ์พายสัปปะรดที่อบเรียบร้อยแล้ว        นอกจากนี้บริษัทยังสนใจที่จะพัฒนาเครื่องจักรที่มีอยู่เดิมให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัว จากเดิม 200,000 - 300,000 ชิ้นต่อเดือน (ผลิตด้วยแรงงานคน)เพิ่มขึ้น 500,000 - 600,000 ชิ้นต่อเดือน และยังช่วยเรื่องสต๊อคสินค้า ซึ่งจะสามารถรองรับออเดอร์ได้ในปริมาณมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังมีกำลังการผลิตไม่ทันต่อความต้องการของตลาด หากนำเครื่องจักรเข้ามาเสริมคาดว่าจะทำให้มีกำลังการผลิต

คุณชำเรืองและลูกสาว        “ ยอมรับว่ากระหรี่พั๊ฟเป็นของฝากที่นักท่องเที่ยวมักต้องซื้อติดมือกลับไปทำ ให้มูลค่าการซื้อสูง เชื่อว่าแนวโน้มความต้องการบริโภคกระหรี่พั๊ฟจะยังคงมีมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมียอดขายประมาณปีละ 30 ล้านบาท”

คุณสุภาพร ปิ่นนาค ลูกสาวเจ๊อ้วน        นอกจากนี้ ยังได้แสดงความเห็นต่อโครงการ iTAP ว่าเป็นโครงการที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการSME ได้เป็นอย่างดี เพราะธุรกิจขนาดเล็กนั้นไม่มีศักยภาพพอที่จะวิจัยและพัฒนาได้เอง การที่มีหน่วยงานอย่าง iTAP เข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือถือว่าดีมาก ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กที่เปรียบเสมือนเม็ดทราย มีความแข็งแกร่งขึ้นเป็นก้อนกรวดได้ และการที่ iTAP นำ องค์ความรู้ทาง ว&ท เข้ามาช่วยนั้น เป็นการตอบโจทย์ของผู้ประกอบการได้อย่างตรงประเด็น สามารถช่วยเสริมข้อด้อยขึ้นมาเป็นข้อเด่นและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ ว่า “ประเทศไทยจะทำสินค้าเพื่อการส่งออก” นางสาวสุภาพร กล่าวในที่สุด

หน้าร้านเจ๊อ้วนกระหรี่พั๊ฟ        ///////////////////////////////////        บจก.สยามปิ่นนาคเคอรี่พั๊ฟ ผู้ผลิตและจำหน่ายกระหรี่พั๊ฟ แบรนด์ “เจ๊อ้วน” เลขที่ 110 หมู่ 7 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30320 โทร. 044-361-046 , 044-322-151-2 แฟ็กซ์ 044-322151 หรือที่เว็บไซต์ www.siampinnark.com               ข้อมูลโดยโครงการ iTAP ติดต่อได้ที่(ส่วนกลาง) โทร. 02-564-7000 ต่อ โครงการ iTAP หรือ iTAP เครือข่าย มทส. โทร.044-224-818 , 044-224-921, 044-224-947               ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการ iTAP โทร. 02-270-1350-4 ต่อ 115,114

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ขนมปังกรอบ “บิ๊กปัง” คุณภาพคับถุงราคาเกินคุ้ม

ระดม วรรณพัฒน์ เจ้าของธุรกิจบิ๊กปัง        ขนมปังกรอบที่หอมหวน ถูกปากคนไทยแบบไม่จำเจ ด้วยรสชาติที่มีให้เลือกหลากหลาย และเนื้อแป้งที่นุ่มน่ารับประทาน จากการผลิตและส่วนผสมในแบบฉบับของ “บิ๊กปัง” ทำให้เป็นที่ติดอกติดใจของผู้ได้ลิ้มลอง ซึ่งนั่นก็ทำให้รู้ว่าการทำธุรกิจให้ออกมาดีและเป็นที่ยอมรับนั้น ไม่ไช่เรื่องง่าย เพียงแค่เอาใจใส่ในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพและรสชาติต้องผลิตออกมาให้ดีและถูกปากผู้บริโภคจึง จะประสบความสำเร็จเช่นนี้

เนื้อแป้งขณะอยู่ในเครื่องทำแป้ง        ระดม วรรณพัฒน์ เจ้าของธุรกิจบิ๊กปัง เล่าว่า จุดพลิกผันที่ทำให้ได้มาทำธุรกิจนี้มาจาก อ.บุญชู ผลวัฒนะ ซึ่งสอนอยู่ที่โรงเรียนโชติเวช (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ (โชติเวช) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร) จึงได้เข้าไปศึกษาและได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้านอาหารทุกอย่างให้ จนมีโอกาสเข้าทำงานที่ โรงแรมไฮแอท เซ็นทรัลพลาซา (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว) อยู่หลายปี ซึ่งยอมรับว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้มีแนวคิดที่จะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ อาหารมาจนถึงปัจจุบันนี้ จากนั้นได้ทำงานที่สายการบินซาอุดิอาระเบีย ด้านอาหาร ในตำแหน่งกุ๊ก ทำอยู่ประมาณ 4 ปี จึงกลับมาอยู่ที่เมืองไทย

หน้าขนมปังที่ทาเนยสดสูตรเฉพาะสไตล์บิ๊กปังก่อนนำไปอบ        “เหตุผลที่หันมา ประกอบธุรกิจนี้ เนื่องจากรู้สึกเบื่อที่จะเป็นลูกจ้างคนอื่น จึงเริ่มจากการลองทำขนมปังปอนด์ขายพร้อมกับกาแฟ และขนมปังสังขยา ซึ่งตอนนั้นผมเช่าพื้นที่หน้าร้านหมอ ตอนนั้นมีโต๊ะให้ลูกค้าอยู่เพียงแค่ 4-5 โต๊ะ ขายอยู่ประมาณ 8 ปี ซึ่งขนมปังปอนด์ที่เป็นสูตรของเราเองและผลิตเองในบ้าน เมื่อนำมาวางขายได้รับผลตอบรับดี เป็นที่ยอมรับของลูกค้าว่าเป็นขนมปังปอนด์ที่มีเนื้อแน่น เนื้อแป้งดี ไม่เหมือนขนมปังปอนด์ที่วางขายทั่วไป”

ขณะนำไปอบ        จากนั้นเริ่มหันมาผลิตแต่ขนมปังปอนด์ส่งเพียงขายอย่างเดียว ซึ่งกำไรดีมาก แต่เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่ชำนาญเรื่องการทำบัญชี เมื่อเอาขนมปังปอนด์ไปส่งตามร้านบางครั้งยังไม่ได้รับเงินสด หรืออาจจะได้รับเงินมาเพียงบางส่วนเท่านั้น เหมือนเป็นการทำธุรกิจแบบพี่ น้อง ซื้อขายกันด้วยใจ จึงทำให้กลายเป็นการทำธุรกิจแบบได้ไม่คุ้มเสีย จนรู้สึกท้อหลังจากนั้นจึงเริ่มมองหาเส้นทางการขายใหม่ๆ อีกครั้ง โดยมอง ว่าขนมปังสามารถนำมาประยุกต์ทำเป็นของกินเล่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทาแยม รับประทานกับนมข้นหวาน ทำแซนวิส หรือแม้แต่นำไปทำเป็นขนมปังกรอบ ซึ่งทำให้มองเห็นทางที่จะเติบโต จึงเริ่มลองทำขนมปังกรอบขายเอง โดยสูตรขนมและขนมปัง เกิดมาจากการลองผิดลองถูกของนายระดมล้วนๆ

หน้าตาของขนมปังกรอบที่อบเสร็จแล้วน่ารับประทาน        “ยอมรับว่าตอนแรกขายไม่ดี เนื่องจากผมเป็นพ่อค้ารายใหม่ ทั้งทำเองและขายเอง ตามตลาดนัดของทางราชการ และตามออฟฟิตต่างๆ ทำให้ผมไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้แปลกใหม่ขึ้น โดย ใส่ลูกเล่นในขนมปังกรอบให้หลากหลายรสชาติมากขึ้น เช่น กาแฟ ช็อกโกแลต งาดำ เม็ดมะม่วงหินมะพานต์ มะพร้าว หมูหยองน้ำพริกเผา กระเทียม เป็นต้น ส่วนรสชาติดั้งเดิมคือหน้า เนยสด ก็ยังคงอยู่ เนื่องจากเป็นเหมือนตัวชูโรงในการทำธุรกิจนี้ ซึ่งผลตอบรับจากการขายขนมปังกรอบดีมาก ลูกค้าชื่นชอบในรสชาติ เนื่องจากผมใช้วัตถุดิบที่ดี มีคุณภาพทั้งสิ้น เนยที่ใช้ก็เป็นเนยสดแท้ 100% ทำให้ต้นทุนในการผลติตค่อนข้างสูง แต่ได้ความอร่อยและไม่ผิดหวังที่จะลองชิม อีกทั้งยังได้คัดเลือกเป็นสินค้าโอทอปนนทบุรีระดับ 4ดาว”

ผลิตภัณฑ์ของบิ๊กปัง        ด้านคู่แข่งขณะนี้ถือว่ามีจำนวนมาก แต่ความแตกต่างทั้งด้านรสชาติและการตกแต่งหน้าขนมปังกรอบ ที่มีให้เลือกหลากหลาย ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อในเรื่องของรสชาติเดิมๆ ดังนั้นขนมปังปอนด์จึงแทบไม่ได้ผลิตเลย นอกจากจะมีลูกค้าสั่งให้ทำเป็นพิเศษ ส่วนความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตัวเนื้อแป้งขนมปังปอนด์ นายระดม บอกว่า เป็นขนมปังปอนด์ที่ผลิตขึ้นเพื่อทำขนมปังกรอบโดยเฉพาะ ฉะนั้นเมื่อนำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ และนำไปอบกรอบ จะทำให้ไม่แตกง่าย โดยราคาขายปลีกถึงเล็ก 35 บาท ถุงกลาง 50 บาท และถุงใหญ่ 100 บาท สามารถเก็บไว้รับประทานได้ประมาณหนึ่งเดือนโดยที่รสชาติไม่เปลี่ยน               “อนาคตอยากมีหน้าร้านเป็นของตนเอง ซึ่งตอนนี้วางแผนไว้แล้ว อาจจะกลับไปขายขนมปังกับกาแฟเหมือนในอดีต เนื่องจากตอนนี้ก็เริ่มมีอายุมากขึ้น แต่ในเรื่องการผลิตขนมปังกรอบก็ยังคงผลิตต่อไป เพราะเชื่อว่าขนมปังกรอบจะยังคงขายได้เรื่อยๆ และจะไม่หยุดนิ่งอยู่เพียงแค่นี้ จะมีการพัฒนารสชาติให้มากขึ้นกว่าเดิม แม้ขนมปังกรอบจะเป็นเพียงแค่ขนมทานเล่น แต่รับรองได้ว่าในอนาคตก็ยังคงขายได้ตลอดแน่นอน” ระดม กล่าวทิ้งท้าย               @@@@@@@@@@@@@@@@               ***ติดต่อ 08-6022-7681***

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

เปิด2หลักสูตรใหม่รับปีกระต่าย

คมชัดลึก : ได้ฤกษ์เปิดสอนกันตามปกติอีกครั้งหลังหยุดช่วงเทศกาลปีใหม่กว่า 1 เดือนเต็มสำหรับการฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้นในโครงการ "คม ชัด ลึก ฝึกอาชีพ" เพื่อต้อนรับการเข้าสู่ปีกระต่าย (ทอง) ทีมงานก็พยายามเฟ้นหาหลักสูตรใหม่ๆ มาเปิดสอนให้ผู้สนใจอย่างหลากหลายมากที่สุด เริ่มจากเสาร์และอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (22-23 ม.ค.) มีหลักสูตรใหม่แกะกล่องถึง 2 หลักสูตรด้วยกัน 


เริ่มจาก ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 9 อย่าง โดยคุณวาริศา กมลานนท์ เจ้าของร้าน ฺ"ก๋วยเตี๋ยวหลอดนพเก้า" ซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องชื่อดังย่าน ถ.บางนา-ตราด โดยมีส่วนประกอบด้วยหมู เต้าหู้ เห็ดหอม กุนเชียง ไข่ฝอย กุ้งแห้งทอดกรอบ ปลาหมึกทอดกรอบ ทอดมันและกากหมู ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะที่คุณวาริศานำมาประยุกต์ จนได้สูตรสำเร็จที่มีรสชาติอร่อยชวนรับประทาน

  อีกหลักสูตรก็เพิ่งเปิดสอนครั้งแรกเหมือนกันคือ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ สูตรคุณทิพย์วรรณ ปูดำ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ ริมถนนยุคล 2 ตรงข้ามธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งเปิดขายมาตั้งแต่ปี 2527 จุดเด่นของเขาคือการใช้เตาถ่านในการทำ เพราะจะทำให้ก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นหอม ส่วนไก่ก็จะเลือกใช้คือไก่แขกที่เลี้ยงตามธรรมชาติ เพราะจะทำให้เนื้อนุ่ม จนได้รับความไว้วางใจจากสำนักพระราชวังสั่งทำก๋วยเตี่ยวคั่วไก่ทุกๆ 10 วัน ครั้งละหลายร้อยกล่องและหน่วยภาครัฐและบริษัทเอกชนอีกหลายแห่งที่ไว้วางใจ ใช้บริการก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่จากร้านนี้

 ส่วนอีก 2 หลักสูตร ถึงแม้จะเปิดสอนมานานแต่ทุกครั้งที่เปิดก็จะได้รับความสนใจจากผู้คนอย่างล้น หลาม จนต้องนำมาเปิดสอนเป็นปฐมฤกษ์ในปีนี้ นั่นก็คือ ข้าวเหนียวสมุนไพรสูตรนิ่มและหมูเส้น โดยคุณพิมพ์วรรณ กาเตื่อย เจ้าของผลิตภัณฑ์ "หมูยิ้มหวาน" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์โอท็อปชื่อดังที่สั่งตรงมาจากวัดไร่ขิง จ.นครปฐม
 จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือข้าวเหนียวจะนุ่มและมีกลิ่นหอมของสมุนไพร ส่วนสีของข้าวเหนียวก็จะเป็นสีของสมุนไพร ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดสมุนไพรผสมลงไป โดยข้าวเหนียวสมุนไพรสูตรนิ่มนี้จะมีอายุอยู่ได้ 2 วันโดยไม่ต้องอุ่น ส่วนหมูเส้นก็จะกรอบรสชาติกลมกล่อมไม่หวานมาก ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะของรานนี้เท่านั้น

 เช่นเดียวกับหลักสูตร "ราดหน้ายอดผักสูตรเอ็มไพร์" โดย อ.มนต์ชัย พลบุบผา เจ้าของร้านราดหนายอดผักนายรอนเอ็มไพร์ ย่านสุขุมวิท 71 (ปากซอยปรีดีพนมยงค์ 31) ซึ่งเปิดให้บริการราดหน้ามากว่า 20 ปี ที่พิถีพิถันในเรื่องของวัตถุดิบต้องเป็นของแท้และสะอาด ไม่ใช้สารเคมี หมักหมูให้นุ่มด้วยสับปะรดแทนผงหมัก ทำให้ราดหน้าแตกต่างจากเจ้าอื่น แต่ยังคงรสชาติความอร่อยไม่เปลี่ยนแปลง

 ทุกหลักสูตรที่เปิดสอนจะเน้นการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดความชำนาญ พร้อมเคล็ดลับถึงขั้นตอนการทำจากวิทยากรเจ้าของสูตรโดยตรง สนใจหลักสูตรใดสามารถสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ฝ่ายโครงการ "คม ชัด ลึก ฝึกอาชีพ" โทร.0-2338-3356-7, 08-9493-5772 (จันทร์-ศุกร์) รับเพียง 40 ท่านต่อหลักสูตร

"สุรัตน์ อัตตะ"
surat_a@nationgroup.com

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

เปิดบ้านขาย"กาแฟ-ชาใบเตย" เสริมอาชีพหลัก-ลูกค้าหนุนแน่น

คมชัดลึก :ช่วง เวลากว่า 30 ปีที่ยึดค้าขาย "ป้าพุก" กองทอง นพคุณ ผ่านมาหลายอาชีพ ทั้งขายกล้วยทอด ข้าวแกง อาหารตามสั่ง บริการซักรีด ขณะที่อาชีพหลักของครอบครัวคือรับเหมาก่อสร้าง แต่ด้วยพื้นที่หน้าบ้านยังพอมีเหลือ เธอจึงเปิดเป็นร้านชำเล็กๆ ขายจิปาถะ พร้อม "กาแฟโบราณ" ควบคู่สร้างรายได้เสริมเรื่อยมา ล่าสุดนำความรู้ที่ได้จาก "คม ชัด ลึก" ฝึกอาชีพ ปรับใช้กับเมนูเดิม และต่อยอดเป็นเครื่องดื่มใหม่ "ชาใบเตย" ส่งให้กิจการในหมู่บ้านเทพประทานพร ถ.แม้นรำลึก อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอยู่แล้วมีลูกค้าเพิ่มขึ้น จากที่ยึดอาชีพแม่ค้ามา ตลอด ป้าพุก บอกว่า จึงทำให้รู้วิธีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันได้ใช้ประสบการณ์ด้านค้าขายนี้ช่วยสามีรับเหมางานก่อสร้างควบคู่ ด้วย โดยทำหน้าที่ดูแลค่าใช้จ่ายเหมือนฝ่ายการเงินของบริษัท ทำให้เข้าใจคนหาเช้ากินค่ำและคนมีรายได้น้อย

 "สิ่งสำคัญคือต้องเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ตั้งราคาสินค้าสูงเกินจริง ไม่เอาเปรียบลูกค้า แรกเริ่มที่ขายของใหม่ๆ จะมีลูกค้ามาชื้อและขอลงบัญชีเอาไว้จ่ายสิ้นเดือน เราในฐานะแม่ค้าต้องเห็นใจคนที่ไม่มี อย่างน้อยก็ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และความที่เราเข้าใจเขานั้นส่งผลให้ลูกค้ามีความเกรงใจไม่กล้าเบี้ยว" ป้าพุกอธิบายถึงหลักการเปิดร้านขายของชำเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ก่อนเจียดหน้าร้านขายกาแฟโบราณช่วงถัดมา

  เหตุผลที่ขายกาแฟเสริม นั้น ป้าพุกบอกว่า เพราะมีลูกค้าสูงอายุมาอ่านหนังสือพิมพ์ที่ร้านในช่วงเช้าเยอะ และมีหลายคนแนะให้ขายกาแฟ จึงทดลองทำโดยอาศัยเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทั้งอ่านจากตำรา สอบถามจากผู้มีประสบการณ์ จากนั้นจึงทำขาย ปรากฏว่าขายดีมาก มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมๆ แล้วก็ยังมีลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วยในปัจจุบัน อย่างยิ่งหลังเข้าร่วมฝึกอาชีพกับ "คม ชัด ลึก" เมนู "เทคนิคการชงกาแฟโบราณ" โดยคุณวิธาน ศิริเบญจวรรณ เจ้าของร้านวาสนาน้ำโบราณย่านตลิ่งชัน กทม.เมื่อเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา

 "เรานำสิ่งที่ได้รับจากการอบรมหนนั้นมาปรับใช้กับที่ร้านด้วย ซึ่งนอกจากรสชาติกาแฟจะอร่อยถูกใจประเภทสั่งได้แล้ว การให้บริการที่ดีเราก็ทำควบคู่ด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดขาย บวกกับขายไม่แพงด้วยเพียงแก้วละ 6 บาท ซึ่งเราขยับราคาขึ้นอีก 1 บาท หลังขายแก้วละ 5 บาทมานานหลายปีไม่เปลี่ยน เพราะราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคา ยังขายดีมากอยู่เหมือนเดิม" ป้าพุก บอกและว่าปัจจุบันได้นำความรู้จากการอบรมหนนั้นมาทำชาใบเตยขายอีกชนิด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีพอๆ กับกาแฟโบราณ

 ป้าพุกบอกอีกว่า จะได้รับคำชมจากลูกค้าตลอดว่าเป็นชาที่หอมอร่อย สามารถรับประทานกับปาท่องโก๋ได้อย่างลงตัวเช่นเดียวกับกาแฟ ซึ่งเฉพาะปาท่องโก๋นั้นจะขายไม่ต่ำกว่าวันละ 100 ตัว

 "ไม่ว่าจะทำอะไรหากเราทำด้วยใจรัก ทำแล้วมีความสุข แม้ว่าเงินหรือค่าตอบแทนจะไม่มาก แต่เราก็อยู่ได้อย่างมีความสุข" นั่นเป็นคติประจำใจของป้าพุก ซึ่งเธอยอมรับว่า ด้วยเพราะยึดอาชีพค้าขายนี้ทำให้เธอมีรายได้ส่งเสียให้ลูกๆ ได้ร่ำเรียนจนจบปริญญากันทุกคน อย่างยิ่งการเปิดหน้าร้านขายกาแฟโบราณ-ชาใบเตย ที่มีลูกค้าอุดหนุนอย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้นในทุกวันนี้

 สำหรับผู้กำลังมองหางาน หรือต้องการมีอาชีพเสริม ทางโครงการ "คม ชัด ลึก ฝึกอาชีพ" มีแผนจะเปิดอบรมหลักสูตร "เทคนิคการชงกาแฟโบราณ" นี้อีกครั้งเมื่อไหร่นั้น สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2338-3356 และ 0-2338-3357
       
"ธานี กุลแพทย์"

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

หมูผัดเคยเค็ม

ไปภูเก็ตทั้งที ไม่หาเวลาไปลองลิ้มชิมรสชาติอาหารปุ้นเต๋ ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่นภูเก็ตเลย คงเสียเที่ยวแย่ และถ้าจะให้ดีควรหาคนพื้นถิ่นพาไป จะได้ชิมอาหารปุ้นเต๋ รสชาติดั้งเดิมแบบภูเก็ตแท้ๆ จะยิ่งมีความสุขมากแถมไม่เสียพื้นที่ในกระเพาะและความรู้สึกที่อยากจะชิม อาหารอร่อยของภูเก็ตอีกด้วย เหมือนที่ได้ไปในคณะของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ธำรงศรีสกุล ที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้ลูกน้องเก่า (ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต) พาไปชิมที่ร้านครัวนิยม ของ คุณนิยม และ คุณคมขำ ธนาวุฒิกุล ร้านนี้จะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนพื้นถิ่นภูเก็ต ขณะที่ชาวไฮโซเมืองกรุงมักจะเฮละโลกันไปที่ร้านระย้า

คุณแอ๋ว-คมขำ พูดอย่างถ่อมตัวว่า เธอเป็นลูกจ้างของสามี รับหน้าที่ทั้งจ่ายตลาด แม่ครัวอยู่หน้าเตา บางครั้งก็ต้องเป็นเด็กเสิร์ฟ และล้างจานด้วย เพราะที่ร้านทำกันอยู่ 3 คนพ่อแม่ลูก โดยลูกชายเพิ่งจะลาออกจากแบงก์มาช่วย ด้วยความที่คุณแอ๋วมีฝีมือในการทำอาหาร โดยเป็นลูกมือให้อาม่า (ยาย) มาตั้งแต่เด็กๆ และได้รับการติวเข้มการทำอาหารจากอาม่า ถ้าทำออกมาไม่ดี ก็จะต้องทำใหม่ จึงทำให้ฝีมือคุณแอ๋วเข้าขั้นเทพแล้ว เห็นได้จากคุณแอ๋วได้รับการติดต่อให้ทำอาหารปุ้นเต๋ไปจัดแสดงในงานต่างๆเสมอ

ร้านอาหารครัวนิยมของคุณแอ๋ว เปิดมานาน 20 ปีได้แล้ว ตั้งแต่ถนนรัษฎานุสรณ์ยังเป็นป่าอยู่เลย และจะมีโต๊ะนั่งแค่ 3-4 โต๊ะ แถมเปิดขายเพียงวันละ 2.5-3 ชั่วโมง แค่นี้คุณแอ๋วก็บอกว่าพอกินแล้วค่ะ ใครมีโอกาสแวะไปภูเก็ตลองโทร.หาคุณแอ๋วที่โทร.  0-7622-3485

สำหรับอาหารปุ้นเต๋ที่อยากแนะนำวันนี้ คือ หมูผัดเคยเค็ม ซึ่งใช้เนื้อหมูตรงส่วนที่เรียกว่า เอี่ยมต้อ อยู่ใต้อกตรงราวนม เนื้อส่วนนี้จะนุ่มและติดมันนิดๆ หมูตัวหนึ่งจะมี "เอี่ยมต้อ" แค่ชิ้นเล็กๆเท่านั้น คุณแอ๋วนำมาผัดกับ "เคย" ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลตัวเล็กจิ๋วคล้ายกุ้ง มีมากแถบชายทะเลภาคใต้ นิยมนำมาหมักทำเป็นกะปิ มีกลิ่นหอมไม่คาว แต่ "เคย" ที่คุณแอ๋วนำมาใช้ จะหมักสดๆไม่ตากแห้งจนเป็นกะปิ

เครื่องปรุง : หมูเอี่ยมต้อ/เคย/ หอมแดงซอย/พริกขี้หนู ...วิธีทำ หั่นเนื้อหมู (เอี่ยมต้อ) เป็นชิ้นบางๆ ลงไปผัดในกระทะใส่น้ำมันนิดหน่อย คั่วไปมาจนเนื้อหมูสุก จึงใส่เคย พริกขี้หนูตำหยาบๆ และหอมแดงซอย ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย ทานกับข้าวสวยร้อนๆก็อร่อยแล้ว.

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล