Home » All posts

ชวนอุดหนุนของดีของเด่นภูมิปัญญาท้องถิ่น 25 จังหวัด

เศรษฐกิจ ซบเซาไปทั้งประเทศ ยอดนักท่องเที่ยวก็หดหายอย่างน่าตกใจ ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้อง ช่วยไทย ด้วยการอุดหนุนสินค้าจากภูมิปัญญาไทย ค่ายเดอะมอลล์ กรุ๊ป ภายใต้การนำของ "ลักขณา นะวิโรจน์" จับมือกับกระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกันจัดงาน "Thailand Food Festival" มหกรรมของดีของเด่นของเมืองไทย และสินค้าจากแหล่งผลิตในภาคกลางและภาคตะวันออก รวม 25 จังหวัด ซึ่งรวบรวมมาจัดแสดงและจำหน่ายมากกว่า 221 รายการ ที่ห้อง MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ สาขาบางแค ระหว่างวันที่ 1-7 ก.ค.นี้

ลักขณา นะวิโรจน์

สำหรับ ของดีของเด่นจากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย ที่น่าช็อปน่าจับจ่ายในงานนี้ มีอาทิ น้ำมันมะพร้าว เพื่อสุขภาพ จากจังหวัดนครปฐม เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มาก ผลิตภายใต้ยี่ห้อทรอปิคานา สามารถนำส่วนต่างๆของมะพร้าวมาทำยาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับความสวยความงาม บำรุงผิว และเส้นผม นอกจากนี้ ยังมี ไวน์และน้ำผลไม้ จังหวัดปทุมธานี จากกลุ่มอาชีพสหกรณ์คลองสอง ภายใต้ตราสินค้าไนท์ แบล็ค ฮอร์ส มีครบครันทั้งไวน์องุ่น ไวน์ลิ้นจี่ กระชายดำ ไวน์ดอกอัญชัน ไวน์สตรอเบอร์รี่ และน้ำผลไม้แปรรูปต่างๆ แถมยังส่งออกไปขายในต่างประเทศมาแล้ว

ใคร ชอบทาน ปลาช่อนแดดเดียว จังหวัดสิงห์บุรี ก็คงต้องนึกถึงปลาช่อนแม่ลา ที่มีรสชาติอร่อยต่างจากปลาช่อนทั่วๆไป งานนี้ต้นตำรับปลาช่อนแดดเดียวจากถิ่นกำเนิดตำบลแม่ลา จังหวัดสิงห์บุรี ก็นำของดีของอร่อยประจำถิ่นมาจำหน่ายเพื่อให้ได้ชิมกันด้วย เช่นเดียวกับ คุกกี้ธัญพืชผลิตจากเมล็ดทานตะวัน จังหวัดสระบุรี ซึ่งเกิดขึ้นจากภูมิปัญญาไทย ที่นำเมล็ดทานตะวัน ที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง มาดัดแปลงเป็นคุกกี้ธัญพืชสไตล์ไทยๆได้อร่อยไม่แพ้คุกกี้โฮลวีตของฝรั่ง

ถ้าอยากให้เศรษฐกิจเมืองไทยฟื้นตัวเร็ว ต้องช่วยกันอุดหนุนของดีของไทยคนละไม้ละมือ!!

Thanks Thairath Online

น่าเสียดาย..4 อาหารไทยที่ไทยเมิน

สูตรทำอาหาร

อาหาร ไทย ใครๆก็รู้ถึงกิตติศัพท์ของความอร่อย ซึ่งบางเมนูก็ติดหูติดปากกันมานาน แต่สำหรับบางเมนูก็แทบจะถูกกลืนไปกับกาลเวลาที่ทุกวันนี้จะเรียกว่าถูกลืมไป แล้วอย่าง 4 เมนูอาหารไทยท้องถิ่น ที่คนไทยได้กินบ่อยเหล่านี้...

ไข่ป่าม

เป็น อาหารท้องถิ่นของทางภาคเหนือ มีลักษณะคล้ายกับไข่ตุ๋น และไข่เจียว แต่กรรมวิธีของเมนูนี้จะเอามาจี่บนเตาจนสุกได้กลิ่นหอมของใบตอง ส่วนวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมของไข่ป่ามก็จะมีเกลือ และต้นหอมซอย แต่ถ้าอยากให้พิเศษหน่อยก็อาจจะใส่เห็ด หรือเนื้อสัตว์ลงไปด้วยก็ได้

ข้าวปุก

อีก เมนูพื้นบ้านของทางภาคเหนือที่หาทานยาก และทำยาก เพราะต้องเอาข้าวเหนียวดำนึ่งมาผสมกับงาดำและตำจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว คิดดูสิกว่าจะได้แต่ละแผ่นยากเย็นขนาดไหน เมนูนี้นอกจากจะอร่อยเหนียวหนึบแล้ว ยังฝึกความอดทนของคนทำอีกด้วย เพราะถ้าแรงไม่ดีจริง หรือขี้เกียจเสียก่อนก็คงไม่ได้ทานขนมอร่อยๆแบบนี้

หมี่พันลับแล

คุ้น หูขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่บ่อยที่จะหาทานได้นอกจากเดินทางไปที่เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็นอาหารว่างขึ้นชื่อของที่นั่น มีรสชาติจัดจ้านของไส้ที่เป็นเส้นหมี่ ห่อด้วยข้าวแคบปรุงรสเผ็ดเล็กน้อย

ขนมหัวล้าน

หน้า ตาของขนมหวานชนิดนี้อาจไม่แปลกเท่าชื่อ ซึ่งเท่าที่ถามจากคนในท้องถิ่น จ.ปัตตานี ก็เล่าว่า เพราะเจ้าลูกกลมๆสีขาวนี่แหละทำให้ต้องตั้งชื่อว่าขนมหัวล้าน เพราะมันเกลี้ยง โล้นแถมพอผสมกับน้ำกะทิยังเกิดความเงาที่ผิวอีก

แต่ ถึงชื่ออาจจะแปลกไปหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะความรสชาตินั้นถือว่าอร่อย ทีเดียว ยิ่งถ้าใครที่ชอบทานบัวลอย กับครองแครงน้ำกะทิต้องลอง เพราะขนมชนิดถือเป็นการผสมผสานของขนม 2 ชนิดนี้ เพียงแค่ว่าภายในลูกกลมๆ สีขาวจะมีไส้ซึ่งทำจากถั่วเขียวนึ่งสุกกวนกับมะพร้าวขูดและน้ำตาล เลยได้ความหอม มัน และเหนียวหนึบจนหยุดไม่อยู่จริงๆ.

Read More...

ความเรียบง่ายที่สุดพิเศษประพักตร์อร่อยเน้นๆทั้งคาว หวาน

สูตรทำอาหาร

เค้กเนื้อชุ่ม..นุ่มลิ้น

บ้านสีขาวสะอาดตาขนาดไม่ใหญ่โตตั้งหลบอยู่ในหมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 ซอยสัมมากร 1 ตรงข้ามตลาดบองมาเช่ เป็นที่ตั้งของร้าน "ประพักตร์" ร้านอาหารไทย ตกแต่ง สไตล์อิงลิช คันทรี่ เก๋ไก๋ รสชาติไม่ฉาบฉวย เรียกว่าสวยที่รูปจูบก็ห้อม...หอม (หุหุ)

"ร้านนี้เริ่มจากคุณแม่ผมเคยรับทำอาหาร ทำขนม ตามออเดอร์มาก่อน เป็นขนมอย่างกะหรี่ปั๊บ หรือบัตเตอร์เค้ก และอาหารไทยที่รสชาติแบบไทยแท้ๆ ทำกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเราคิดมาเปิดร้านเพราะลูกค้าที่สั่งออเดอร์เชียร์ให้เปิดร้านครับ ผมก็เลยดัดแปลงพื้นที่บางส่วนของบ้านให้เป็นร้านอาหารนะครับ เปิดมาได้ 10 ปีแล้วครับ สูตรทั้งหมดของอาหารก็จะมาจากคุณแม่ ร้านเราจะเน้นสีขาว อบอุ่นกันเอง แบบครอบครัว ให้ความรู้สึกเหมือนลูกค้ามาทานอาหารที่บ้านตัวเอง ร้านเราอาจจะเล็กซักนิดนึง จุผู้คนไม่ได้มาก แต่ก็กำลังพอดีครับ อาหารทุกอย่างเราทำเองหมดครับ แล้วทำสดใหม่ ทุกวัน เน้นความสะอาดและไม่มีของค้างคืนแน่นอน" "คุณพี่ณรงค์" เล่าถึงแนวความคิดที่ร่วมกันวางกับ "คุณพี่กมลเนตร" ภรรยาผู้ทำหน้าที่คุมในครัวอย่างใกล้ชิด

"ประพักตร์" เป็นที่รู้จักกันดีในวงการขาหม่ำ ขาโซ้ย ที่นิยมความเรียบง่ายกะทัดรัด แต่ รสชาติจัดจ้าน รวมไปถึงมนุษย์ตอกบัตรที่ปักหลักทำงานในย่านประชานิเวศน์ลามออกมาถึงวิภาวดี รังสิต หลายคนฝากท้องผูกปิ่นโตกันมายาวนาน ด้วยความละเมียดละไม ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้ร้านเล็กๆที่หลบซ่อนอยู่ในซอยหมู่บ้านได้รับความนิยมมาอย่างเหนียวแน่น มีจำนวนแฟนคลับขยับขยายออกไปเรื่อยๆ แบบปากต่อปาก

เรียกน้ำย่อยกันด้วย 3 รายการเด็ดที่สลับกันขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งในหมู่ลูกค้าขาประจำ คือ ลูกหยั่นทอด หมี่กรอบไทย และจุ๊ยก๋วย อร่อยเบาๆเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศสบายๆของร้าน

"ลูกหยั่นทอด" หรือ "ลูกชิ้นแคะแบบดั้งเดิม" ที่ต้องเน้นว่าเป็นแบบดั้งเดิมเพราะทางร้านยังคงยึดวิธีการทำตามแบบ บรรพบุรุษที่เป็นชาวเซี่ยงไฮ้ เมื่อก่อนเคยทำทานกันเองในบ้านยังไงทุกวันนี้ก็ยังทำแบบเดิมขายให้ลูกค้า ทำให้ลูกหยั่นของที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น คุณพี่ณรงค์ใช้ทั้งเนื้อหมู เนื้อปลา และเนื้อปลาหมึก ตีกับเครื่องเทศมากมายจนได้รสชาติที่กลมกล่อม นำไปทอดให้เหลืองกรอบกำลังดีไม่อมน้ำมัน หม่ำกับน้ำจิ้มธรรมดาก็อร่อยล้ำ หรือจะสั่งให้ทำเป็น"เส้นหมี่ลูกหยั่นทอด" ก็อร่อยเริ่ด!

"หมี่กรอบไทย" ของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา ดูแค่หน้าตาก็รู้แล้วว่าไทยแท้ๆ เป็นหมี่เส้นเล็กทอดกรอบคลุกกับน้ำซอสรสเปรี้ยวอมหวานหอมกลิ่นส้มซ่าชื่นใจ "จุ๊ยก๋วย" ของทานเล่นของชาวจีน ตัวแป้งทำจากแป้งข้าวเจ้า และแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อย ผสมกันจนเนื้อเนียนเป็นหนึ่งเดียว นำไปนึ่งให้เหนียวหนึบ ขนาดเท่าขนมน้ำดอกไม้ โซ้ยกับเนื้อหมูสับ ผัดกับหัวไชโป๊ว หอม กระเทียมสับละเอียดจนหอมกรุ่น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ พริกไทย ผัดจนสีเข้มเกือบดำ เวลาหม่ำให้ตักไส้ใส่ในรอยบุ๋มตรงกลางแป้ง ราดน้ำจิ้มเล็กน้อย ตักใส่ปากและเคี้ยวช้าๆ ให้รสชาติของแป้ง ไส้ และน้ำจิ้มนัวอยู่ในปาก...อร่อยมั่กๆ!

ออเดิร์ฟง่ายๆ สไตล์ไทยๆ

แถมด้วยอีกหนึ่งเมนูทานเล่นที่เป็นดาวเด่นไม่แพ้กัน "ปีกไก่ทอดกระเทียมกรอบ" ขวัญใจชาวกระเทียมเลิฟเวอร์มาแล้วต้องลอง กระเทียมเค้าเยอะจริงๆ!!

ต่อกันที่เมนูหลัก...ของหนักๆที่เน้นคุณภาพตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ และทำความสะอาด"เราจะเน้นมากครับเรื่องความสะอาด ผักเรานี่ล้างทีละใบ แม้แต่ผักรองจานก็ต้องสะอาด เราทำทานกันในบ้านยังไง ก็ทำขายอย่างนั้น" เริ่มต้นที่เมนูซดรสจัด "แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย" หอมพริกแกงอย่างแรง กะทิไม่ข้นมาก รสชาติจัดจ้าน แต่กลมกล่อม ลูกชิ้นปลากรายตีเอง รับประกันความเหนียวหนึบหนับ จะโซ้ยกับข้าวสวยหรือขนมจีนก็อร่อยลงตัว"น้ำพริกปลาป่น" วิธีทำเหมือนน้ำพริกปลาร้า แต่เปลี่ยนมาใส่ปลาป่นแทน ปรุงรสจัด ไม่เหม็นคาว โซ้ยคู่กับผักต้ม และข้าวสวยร้อนๆ สุดแซบ!!

พี่ณรงค์เจ้าของร้าน

อีกหนึ่งเมนูคู่โต๊ะ ขวัญใจรุ่นใหญ่ "ไก่ต้มแช่เหล้ากับพริกสด" เนื้อไก่คัดอย่างดี หมักค้าง คืน ต้มจนเนื้อนุ้ม...นุ่ม แช่ในเหล้าจีนสารพัดชนิด สูตรเด็ด เคล็ดลับที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โซ้ยกับพริกจีนสับผัดกับเกลือและน้ำมันงาเข้ากันได้เป็นอย่างดี ใครที่ตั้งใจว่าจะพาบุพการีที่รักมาโซ้ยอย่าลืมสั่งมาเอาใจ

สำหรับอาหารจานเดียว เจ๊แซบขอแนะนำคู่ขวัญสองสัญชาติ "ข้าวคลุกหมูคั่วกะปิโบราณ" แบบไทยๆ และ "สปาเกตตีผัดพริกแห้ง" ใส่มะกอกดำและเบคอน จะแซบแบบไทยหรือแบบฝรั่งก็เลือกได้ตามใจชอบ

ปิดท้ายด้วยรายการของหวานด้วยรายการเค้กสารพัดเมนู ในร้านมีเค้กทั้งหมด 60 ชนิด แต่จะทำวันละ 15 ชนิด สลับสับเปลี่ยนกันไป หม่ำได้บ่อยๆไม่มีเบื่อ เค้กที่ขึ้นชื่อลือชาลูกค้าประจำหม่ำแล้วติดใจเป็นเค้กเนื้อชุ่ม (Chilled Cake) ต้องแช่ทานตอนเย็นๆอร่อยชื่นใจ ไม่ว่าจะเป็น "กรีนทีเค้ก" (Green Tea Cake) และ"สตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตครีม" (Strawberry Yogurt Cream) หรือเค้กนมสด (Fresh Milk Cake) มีหลากหลายรสให้เลือก อร่อยไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน สำหรับขาโซ้ยนิยมรสออกเปรี้ยว เจ๊แนะนำ "เลมอนเมอร์แรง" (Lemon Meringue) หม่ำกับชาร้อนๆเข้ากันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี "บลูเบอร์รี่ ชีส พาย" (blueberry Cheese pie) กับ "เค้กเครปกับสตรอเบอร์รี่ซอส" (Mille Crepe with Strawberry Sauce) สองรายการที่ฮอตฮิตติดใจใครหลายคน

ใครที่อยากแวะมาพักผ่อนหย่อนกระเพาะที่ "ร้านประพักตร์" มาได้ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ร้านหยุดวันจันทร์ เปิดตั้งแต่ 11 โมงถึง 3 ทุ่ม ร้านขนาดไม่ใหญ่ มีโต๊ะจำนวนจำกัด กรุณาโทร.จองเพื่อความสบายใจ เบอร์ 0-2580-4651 และ 08-1647-6819 ถ้าโทร.มาแล้วไม่มีคนรับกรุณาเห็นใจ เจ้าของร้านไม่ได้หยิ่ง แต่มันยุ่งจริงๆคร่า...!!!
เจ๊แซบ หัวเขียว

Read More...

หมี่กะทิอุบลฯ

สูตรทำอาหาร

คุณก๊องส์-กรองกาญจน์ ชมะนันทน์ ลูกสะใภ้ คนสวยหนึ่งเดียวของอดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายาอินทรีบางเขน "พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์" ผู้ซึ่งได้รับการถ่ายทอดสูตรอาหารของพญาอินทรีบางเขนมาอย่างครบถ้วน ไม่ให้เสียชื่อตระกูล ในฐานะที่เธอก็เป็นคนช่างทำ (อาหาร) เช่นกัน

คุณ ก๊องส์เล่าว่า ด้วยความที่ได้รับการปลูกฝังให้เป็นแม่ศรีเรือนจากทางบ้านมาตั้งแต่เด็ก และตอนเรียนที่โรงเรียนราชินี (ถ.มหาราช) ทางโรงเรียนก็มีหลักสูตรสอนทำอาหารและโภชนาการแก่นักเรียนในระดับชั้นมัธยม 1 ยิ่งช่วยเติมเต็มความชอบเรื่องการครัวให้กับเธอมากยิ่งขึ้น ถึงกับเคยส่งเมนูข้าวผัดน้ำพริกปลาทู เข้าร่วมประกวดชิงถ้วยรางวัลประทานของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้า เพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในงานของโรงเรียน แต่ต้องพลาดรางวัลชนะเลิศไปอย่างน่าเสียดาย แค่ขาดน้ำปลาพริกขี้หนู ซึ่งเป็นเครื่องปรุงคู่โต๊ะอาหารไทยเท่านั้นเอง

คุณก๊องส์มีทั้งความ สวยระดับดรัมเมเยอร์ งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ปี 2531 การันตี แถมยังมีความเป็นกุลสตรีพร้อมสรรพ ซึ่งเธอบอกว่า โชคดีที่คุณแม่ทำอาหารเก่ง และสอนลูกให้รู้จักเรื่องงานบ้านงานครัวมาตลอด พอแต่งงานก็ได้มาอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ทุกคนจะต้องมาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมหน้ากัน โดยมีคุณพ่อสามีเป็นพ่อครัวประจำบ้าน และทุกสิ่งที่เธอได้รับการปลูกฝังมานี้ เธอก็นำมาอบรมลูกสาวฝาแฝดต่อ เพื่อให้เขารู้จักช่วยเหลือตัวเองได้ต่อไป

เรื่องการทำอาหารนี้ นอกจากคุณก๊องส์จะได้คนใกล้ตัวเป็นครูให้แล้ว เธอยังเพียรหากูรูเพื่อช่วยฝึกสอนให้อีกด้วย ซึ่งมีทั้งพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา, ท่านผู้หญิงดัชรีรัช รัชนี, ครูจันทรา เป็นต้น แต่สำหรับหมี่กะทิอุบลราชธานีที่คุณก๊องส์ มักจะทำเลี้ยงเพื่อนๆเสมอ เธอก็ได้สูตรมาจากคุณยายที่เป็นชาวอุบลฯ หมี่กะทิของอุบลฯจะไม่ใช้เส้นหมี่เหมือนภาคกลาง เนื่องจากชาวอีสาน เขาจะทำเส้นก๋วยเตี๋ยวขึ้นเอง ซึ่งเรียกว่า "หมี่" คล้ายกับเส้นเล็กของทางภาคกลาง แต่จะเป็นเส้นที่ตากแห้ง และขดเป็นวงกลม เช่นเดียวกับเส้นจันท์ เมื่อจะนำมาใช้ ก็ต้องแช่น้ำให้คลายตัว

เครื่องปรุงหมี่กะทิอุบลฯ : เส้นหมี่อุบลฯ/หมูสับ 2 ขีด/น้ำกะทิคั้นแยกหัวและหาง 1/2 กก./พริกแกงแดง 1 ชต./เต้าเจี้ยว 1 ชต./น้ำมะขามเปียก 1 ชต./น้ำตาลปึก 1 ชต./เกลือป่น 1 ชช./....

วิธีทำ 1) นำเส้นหมี่อุบลฯไปแช่น้ำให้คลายตัว แล้วลวกด้วยน้ำเดือดจนเส้นนุ่ม 2) รวนพริกแกงกับหัวกะทิจนแตกมันแล้วจึงใส่หมูสับลงไปเคี่ยวด้วย เพื่อให้เครื่องแกงจับเนื้อหมูจนทั่ว 3) ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว, น้ำมะขามเปียก, น้ำตาลปึก, เกลือป่น 4) ผัดเครื่องปรุงทั้งหมดให้เข้ากันดีแล้ว จึงเติมหางกะทิที่เหลือจนท่วม คนให้เข้ากันและตั้งไฟต่อจนเดือด จึงยกขึ้น

เมื่อจะรับประทานจึงตัก น้ำหมูกะทิราดบนเส้นให้ชุ่มๆ ทานกับผักเครื่องเคียงนานาชนิด อาทิ หัวปลี, ถั่วงอกลวกหรือดิบตามชอบ, ใบกุยช่าย, ใบบัวบก, แตงกวา, ผักติ้ว, ใบชะพลู, ยอดมะม่วง, ใบชะมวง, ผักกาดหอม หรือผักอะไรก็ตามที่มีรสเปรี้ยว และถ้ายังได้รสชาติที่ไม่ถูกใจ อาจจะขอมะนาว น้ำปลา น้ำตาล และพริกป่นมาปรุงได้อีกนะคะ.

Read More...

แตกต่างอย่างกลมกล่อม ข้าวผัดพริกเกลือสูตรป้าศรี ร้านก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิท

สูตรทำอาหาร

ข้าวผัดพริกเกลือ

หนึ่ง ในเพื่อนสาวแสนเก๋ของ 'เจ๊แซบ' เป็นคนจังหวัดตราดโดยกำเนิด มีนิสัยรักการโซ้ยโดยสัญชาตญาณ คุณเพื่อนมีหนึ่งเมนูแนะนำ เป็นร้านประจำท้องถิ่น กินมาตั้งแต่สมัยแตกเนื้อสาวเปรี๊ยะๆ เป็นอาหารจานเก๋ที่มีชื่อสุดเท่ว่า "ข้าวผัดพริกเกลือ" นอกจากชื่อสะดุดหูแล้ว รสชาติยังสะดุดลิ้น กินเพลิ้น... เพลิน!!!

แรก เห็นหน้าตาข้าวผัดพริกเกลืออาจจะดูไม่แตกต่างจากข้าวผัดทั่วไป แต่ พอเข้าปากแค่คำแรก รสชาติที่แหวกความจำเจของข้าวผัดแบบเดิมๆ ทำให้การโซ้ยได้อรรถรสแปลกใหม่ อยากรู้ว่าใส่อะไร ต้องไปฟัง "ป้าศรี" ผู้ควบตำแหน่งเจ้าของร้าน แอนด์ เจ้าของสูตร พูดถึงที่มาที่ไปด้วยตัวเอง

เกี๊ยวปลา

"ป้าใส่น้ำจิ้มซีฟู้ดลงไปตอนผัดข้าวด้วยค่ะ...ป้าเป็นคนคิดเอง เมื่อก่อนก็ไม่ได้ทำหรอก เพิ่งจะมาทำเมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว เมื่อก่อนมีแค่ ไม่กี่อย่าง ไม่หลากหลาย เมนูแรกของเราคือ ข้าวหน้าปู...ไม่มีอะไรมากก็คือ เอาเนื้อปูวางบนข้าว แล้วก็กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากเลย แต่คนก็ชอบทานกัน จากตอนนั้นถึงตอนนี้ป้าก็มีประมาณ 20 กว่าเมนูแล้ว" ป้าศรีเล่าย้อนไปเมื่อ 25 ปีก่อน ตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน

ข้าวผัดพริกเกลือ

สำหรับเมนู "ข้าวผัดพริกเกลือ" ที่หลายคนติดอกติดใจ เกิดมาจากความซุกซนของคนชอบทำกับข้าว หลังจากที่ป้าเปิดร้านขายข้าวผัด และข้าวโน่นข้าวนี่มาสิบกว่าปี ป้าศรีเริ่มเห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาโซ้ยจะติดใจน้ำจิ้มซีฟู้ดของทางร้าน มากเป็นพิเศษ ป้าเลยเกิดไอเดียเด็ดใส่น้ำจิ้มซีฟู้ดลงไปผัดกับข้าวให้มันรู้แล้วรู้ รอดไป ไม่ต้องเสียเวลามาตักน้ำจิ้มใส่ข้าวแล้วตักเข้าปากทีละคำ ป้าศรีลองทำอยู่ไม่กี่ครั้งก็ได้สูตรที่ลงตัว เริ่มขายได้ไม่กี่เดือน ลูกค้าต่างกล่าวขานถึงความเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก จนมีเซียนหม่ำ นักชิมหลายสำนักแวะมาฝากท้องพร้อมทำการประชาสัมพันธ์ให้ไปในตัว นับจากนั้นมาชื่อเสียงร้านป้าศรีเริ่มกระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศ ใครไปใครมาถ้ารู้จักเป็นต้องแวะโซ้ยอย่างไม่ขาดสาย

หัวใจสำคัญของ "ข้าวผัดพริกเกลือ" อยู่ที่น้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติต้องจัดจ้าน เข้มข้น ป้าศรีเป็นคนทำน้ำจิ้มเอง ทุกวันป้าจะตื่นตอนตี 2 เตรียมเครื่อง เตรียมของแล้วลงมือทำน้ำจิ้มทิ้งไว้ เครื่องปรุงมีอะไรบ้างป้าขอเก็บเป็นความลับ บอกได้แค่ว่าตั้งแต่เปิดร้านมาป้าไม่เคยใช้มะนาวสังเคราะห์แม้แต่ครั้งเดียว ต้องใช้มะนาวสดเท่านั้น ไม่ว่าราคาแพงแค่ไหน ป้าไม่ท้อ ขอทุ่มสุดตัว

ข้าวผัดไข่ปูพริกขี้หนู

ข้าวที่ใช้ป้าบอกว่าอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช้ ข้าวหอมมะลิ เพราะเวลาผัดจะทำให้แฉะเกินไป แต่ใช้ข้าวอะไรป้าขอปิดไว้เป็นความลับ ใครอยากรู้ไปแอบดูกันเอาเอง (ถ้าไม่ เกรงใจ...หุหุ)

นอกจากน้ำจิ้มซี ฟู้ดรสเด็ด ข้าวเม็ดสวยแล้ว น้ำหนักมือในการผัดและความร้อนของเตาก็มีความสำคัญกับความอร่อย ไฟต้องเร่งให้แรงตลอด ห้ามเบาเด็ดขาด ป้าศรีจะมีกระทะ ประจำกายเอาไว้ทำข้าวผัดแต่ละชนิด จะไม่ใช้ปนกัน โดยเฉพาะข้าวผัดพริกเกลือต้องใช้กระทะใบโปรดเท่านั้น ถึงจะผัดได้มันส์ถึงใจ!!

ขาโซ้ยหน้าใหม่ที่เพิ่งมาครั้งแรก เจ๊เแซบแนะนำให้ เริ่มต้นจาก "ข้าวผัดพริกเกลือกุ้ง" หรือ "ข้าวผัดพริกเกลือกั้ง" ข้าวเม็ดสวยผัดจนแห้งได้ที่ รสชาติกลมกล่อม เค็มนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ เปรี้ยวน้อยๆ อืมมม์...ลงตัว!!!

ป้าศรีใจดี๊..ดี

ถ้าท้องยังพอมีที่ว่าง เจ๊แนะนำให้สั่ง "ข้าวกั้งผัดพริกอ่อน"มาหม่ำเพิ่มเติมเป็นจานที่สอง ของง่ายๆที่ป้าศรีทำได้อร่อยมั่กๆ เจ๊แซบยอมรับในลีลาการผัดและน้ำหนักมือของป้า ขอยกให้เป็นที่หนึ่งในดวงใจ ใครอยากดูด้วยตาต้องรีบไปเกาะขอบเตาเฝ้าติดตามการผัดอย่างใกล้ชิดแล้วจะรู้ ว่ามัน...เพลินดีจริงๆ!!!

ก๋วยเตี๋ยวผัดปู

ระหว่างหม่ำข้าวผัด ป้าศรีมี "ก๋วยเตี๋ยวปู" "เย็นตาโฟ" "ต้มยำ" และอีกสารพัดเมนูเส้นเป็นทางเลือก แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ เย็นตาโฟ โดยเฉพาะกุ้งทอดกรอบสูตรลับฉบับป้าศรีที่โรยมาในชามก๋วยเตี๋ยว ลูกค้าจะชอบมาก ถ้าใครมาสายอาจหมดอดหม่ำ!

เครื่องปรุงส่วนใหญ่ที่ ใช้ในการทำก๋วยเตี๋ยว ไม่ว่าจะเป็น พริก ถั่ว หรือน้ำพริกเผา ป้าศรีเป็นคนเตรียมเองทั้งหมด เพื่อให้ได้มาตรฐานเดียว กันทุกวัน รับประกันว่าโซ้ยมันไม่น้อยหน้าข้าวผัด!!!

ข้าวกั้งผัดพริกอ่อน

"ก๋วยเตี๋ยวปูสุขุมวิท" ชื่อว่าสุขุมวิท แต่ ตัวร้านตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดตราด ร้านอยู่หลังตลาดสดในตัวเมืองตราด ถ้าหันหน้าเข้ามาตลาดสด ร้านจะอยู่ในซอยทางขวามีชื่อซอยว่าสุขุมวิท เข้ามาในซอยประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ร้านเปิดตั้งแต่ 8 โมงถึงบ่าย 3 ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ยกเว้นเช็งเม้ง ตรุษจีน และวันที่ป้าป่วย ถ้าอยากรู้ว่าป้าป่วยหรือเปล่า โทร.ถามได้ที่เบอร์ 0-3951-1972

ก่อนจบก่อนจาก เจ๊แซบแอบกระซิบ ถ้าใครอยากลองกุ้งทอดสูตรเด็ดที่ครองใจทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ต้องรีบไปแต่เช้า ของดีมีจำนวนจำกัด!!!

เจ๊แซบ หัวเขียว

Read More...

เช็ควัยเกษียณอ่อนแรงเพราะแก่ หรือเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นพักๆ กันแน่

หนังตาตก พูดไม่ชัด กลืนลำบาก สำลักบ่อยๆ ไม่มีแรงเอื้อมหยิบของ นั่งยองๆ ไม่ได้ อาการเหล่านี้ส่อแววอาการของโรค MG หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นพักๆ หากเป็นมากไม่รักษาอาจทำให้ระบบการหายใจล้มเหลวได้

นพ.นริศ สมิตาสิน อายุรแพทย์ระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นพักๆ หรือทางการแพทย์เรียกว่า MG (Myasthenia gravis) เป็นกลุ่มโรคที่พบไม่บ่อยนัก สาเหตุของโรคนั้นเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มี ผลต่อกล้ามเนื้อ ภาวะความผิดปกติของต่อมธัยมัสและยังสัมพันธ์กับโรคซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำ งานของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ผิดปกติอีกหลายชนิด ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในหลายๆ บริเวณ และอาการจะเป็นมากขึ้นถ้ามีการออกแรงใช้กล้ามเนื้อมัดนั้นๆ ซ้ำๆ ดังนั้น จึงพบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีอาการอ่อนแรงช่วงเวลาสายหรือช่วงบ่ายๆ ของวัน หลังจากได้พักแล้วอาการอ่อนแรงก็จะกลับมาเป็นปกติ

อุบัติการณ์ของการเกิดโรคอยู่ที่ประมาณ 1.7 ถึง 10.4 คนต่อประชากรล้านคนในประเทศแถบตะวันตก ซึ่งในบางประเทศที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยที่แม่นยำและการรักษาที่ถูกต้อง อาจพบว่ามีการรายงานอุบัติการณ์ของการเกิดโรค MG สูงกว่านี้

ผู้ป่วย ที่เป็นโรค MG มักเป็นเพศหญิง โดยส่วนมากอาการของโรคจะพบช่วงแรกเมื่ออายุน้อยกว่า 40 ปี แต่ถ้าในช่วงที่อายุมากกว่า 50 ปี อุบัติการณ์ของการเกิดโรคกลับพบในเพศชายบ่อยกว่าเพศหญิงถึง 3 เท่า

รูปA: คนไข้ MG จะสังเกตว่ามีอาการหนังตาด้านซ้ายตกเมื่อเปรียบเทียบกับด้านขวา

รูป B: คนไข้หลังจากได้รับการรักษาด้วยยาจะสังเกตุเห็นว่าหนังตาด้านซ้ายเปิดได้มากขึ้น

อาการของโรค MG
อาการ และอาการแสดงของโรค MG จะพบว่าผู้ป่วยมาด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งอาการอ่อนแรงนั้นจะเกิดขึ้นเป็นพัก ถ้าผู้ป่วยมีการออกแรงมากพบว่ากล้ามเนื้อก็จะยิ่งอ่อนแรงมากขึ้น แต่ถ้าผู้ป่วยได้พักจะพบว่ากล้ามเนื้อที่อ่อนแรงจะค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งอาการแสดงที่พบบ่อยๆ ได้แก่
- หนังตาตก อาจเป็นข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ทำให้มีลักษณะคล้ายคนง่วงนอน เห็นภาพซ้อนจากกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง
- พูดไม่ชัด หรือพูดแล้วเหมือนเสียงขึ้นจมูก
- กลืนอาหารลำบาก หรือเคี้ยวข้าวลำบาก ในบางครั้งมีอาการสำลักอาหารบ่อยๆ
- กล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนและต้นขาเริ่มมีอาการอ่อนแรงในรายที่เป็นมากขึ้น ซึ่งอาการนำที่พบได้บ่อยๆ เช่น ไม่สามารถหวีผมได้ หรือเอื้อมมือไปหยิบของที่ชั้นวางของสูงๆ ขึ้นบันไดลำบาก ไม่สามารถนั่งยองได้ และในบางครั้งจะต้องโหนตัวเวลาลุกจากเก้าอี้นั่ง
- ในรายที่เป็นมากขึ้นและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง พบว่าอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงจะลุกลามไปยังกล้ามเนื้อกระบังลมซึ่งควบคุมการ หายใจ ทำให้มีภาวะการหายใจล้มเหลว หรือในบางครั้งผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการสำลักอาหารเข้าหลอดลมจากภาวะกล้าม เนื้อที่ช่วยในการกลืนอ่อนแรง ส่งผลให้ระบบหายใจล้มเหลวได้

ลักษณะการดำเนินโรค
ลักษณะ การดำเนินโรคจะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะค่อยเป็นค่อยไปโดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีของการดำเนินโรคในช่วงแรก แต่บางครั้งอาการของโรคจะเป็นมากขึ้นจากบางภาวะ เช่น ภาวะการติดเชื้อโดยเฉพาะการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ การได้รับยาบางชนิดซึ่งมีผลต่อการทำงานของตัวรับสารสื่อประสาทของกล้ามเนื้อ ภาวะเครียดและพักผ่อนน้อย

การได้รับการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่ม ต้นของโรค ก็จะช่วยลดภาวะเสี่ยงของโรคที่อาจลุกลามมากขึ้นได้ ซึ่งประกอบด้วยการตรวจกระแสไฟฟ้าประสาทและกล้ามเนื้อ เพื่อดูการทำงานของกล้ามเนื้อหลังจากที่ถูกกระตุ้นซ้ำๆ คล้ายกับการให้ผู้ป่วยออกแรงทำงานมากๆ การตรวจด้วยวิธีเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อดูภาวะการทำงานของ ต่อมธัยมัสที่ผิดปกติ นอกจากนี้ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องมีการส่งตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการ เพื่อดูภาวะโรคภูมิคุ้มกันบางชนิดที่สัมพันธ์กับภาวะโรค MG ด้วย

MG เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด แต่สามารถควบคุมอาการของโรคให้สงบ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ การรักษาจะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ การรักษาด้วยยาและการผ่าตัด แต่จะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละรายตามอายุ ความรุนแรง และอาการแสดงของโรค ซึ่งในปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรค MG นั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หลังจากได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องและมาติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ

ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี
www.vejthani.com

Read More...

อกเป็ดอบราดซอสเสาวรส และ ข้าวกลางดง

สูตรทำอาหาร

อกเป็ดอบราดซอสเสาวรส และ ข้าวกลางดง

เมนูขึ้นสำรับ วันนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออกได้อย่างอัศจรรย์จริงๆ โดยนำน้ำพริกกลางดงของไทยมาเสิร์ฟเป็นเครื่องชูรส คู่กับข้าวกล้องงอกและอกเป็ดอบแบบตะวันตก จากการคิดรังสรรค์ของอาจารย์สาวแห่งวิทยาลัยดุสิตธานี อ.ธีร์-ธีรกัญญา ตั้งสุวรรณรังษี

ต้องเรียกว่า อ.ธีร์ มีพรสวรรค์ด้านอาหารจริงๆ และยังเป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นอีกด้วย เพราะคุณแม่ (รศ.กัญญา ตั้วสุวรรณรังษี) ก็เป็นอาจารย์สอนทำอาหารมา 30 กว่าปีแล้ว ที่ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ ม.รามคำแหง แถมที่บ้านก็ยังทำ catering ด้วย จึงทำให้ อ.ธีร์ได้เห็นและคลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุนี้ พอเรียนจบ ป.ตรี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตามความต้องการของพ่อแม่แล้ว และโทด้านบริหารธุรกิจบริการ ที่ ม.สวนดุสิต เธอก็ขอเดินตามเส้นทางที่ตัวเองต้องการบ้าง โดยบินไปเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ประเทศอังกฤษ แบบเต็มหลักสูตรเลย แต่ก่อนไปอังกฤษ อ.ธีร์ยังได้ทดสอบความสามารถของตัวเอง โดย ได้รับทุนรัฐบาลในโครงการครัวไทย สู่ครัวโลก เข้าเรียนทำอาหารแบบเข้มข้นที่ ม.เกษตรศาสตร์ และมีโอกาสได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาสอนทำอาหารที่ศูนย์วิชาชีพของ กทม. ด้วย ทุกวันนี้ เป็นอาจารย์สอนด้าน Western Cuisine (อาหารตะวันตก) ที่วิทยาลัยดุสิตธานี และเมนู อกเป็ดอบราดซอสเสาวรส และข้าวกลางดง อ.ธีร์ก็คิดผสมผสานขึ้นจากจินตนาการของตัวเอง

เครื่องปรุง : อกเป็ดขนาด 180 กรัม 4 ชิ้น/น้ำตาลบราวน์ ชูการ์ 2 ชต./ น้ำมันมะกอก 1 ชต./ไวน์แดง 1 ชต. ...วิธีทำ หมักอกเป็ดกับส่วนผสมที่ให้ทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที จึงนำไปอบที่ความร้อน 200 ํC ประมาณ 8-10 นาที หรือสุกระดับ Wel-done สังเกตจากเนื้อเป็ดเป็นสีชมพู และน้ำที่ไหลออกมาค่อนข้างใส

ส่วน ผสมซอสเสาวรส : ซอสเข้มข้น (Brown Sauce) 500 มล./น้ำตาล 3 ชต./น้ำเสาวรส 100 มล./เนยสด 1 ชต./Cayenne Pepper (พริกป่น) 1/4 ชช./ไวน์แดง 2 ชต./บรั่นดี รสส้ม หรือ caracao 2 ชต./เศษเนื้อเป็ด 100 กรัม/เกลือ/พริกไทย...

วิธี ทำ ผัดเศษเนื้อเป็ดกับเนยและน้ำตาลจนได้กลิ่นคาราเมลจึงเติมไวน์แดงและบรั่นดี ตามด้วยน้ำเสาวรส พอเดือดจึงใส่ Brown Sauce ปรุงรสด้วยพริกป่น เกลือ พริกไทย จากนั้นลดไฟลงและเคี่ยวต่อจนข้น

เครื่องปรุงน้ำพริกกลางดง : หอมเจียว 500 กรัม/กระเทียมเจียว 500 กรัม/พริกแห้งหั่นท่อนๆทอด 200 กรัม/กุ้งแห้งจืดทอด 500 กรัม/น้ำตาลปี๊บ/น้ำส้มมะขาม/น้ำปลา...วิธีทำ เคี่ยวน้ำตาล+น้ำปลา+น้ำส้มมะขาม จนเหนียว สังเกตจากน้ำตาลเดือดเป็นฟองหยาบๆ ถ้าเคี่ยวน้ำตาลไม่เหนียว เวลานำไปคลุกกับหอม+กระเทียม+พริก จะถูกความชื้นจากน้ำในเครื่องปรุงรสทำให้ไม่กรอบ เมื่อคลุกน้ำปรุงกับหอมเจียว+กระเทียมเจียว+พริกทอด+กุ้งแห้งทอด จนเข้ากันดีแล้ว ถ้ายังมีน้ำปรุงเหลือก็ให้ทิ้งไป โกยเอาแต่เครื่องขึ้นมา

วิธี หุงข้าวกล้องงอก ให้แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จนข้าวเริ่มงอกเป็นหัวขาวๆออกมา ทำให้ข้าวมีคุณค่าของสารอาหารมากขึ้น คือมีทั้งสาร gaba ที่ช่วยบำรุงสมอง และกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังทำให้ข้าวนุ่มขึ้นด้วย จากนั้นก็นำไปหุงเหมือนปกติ

เวลา จะเสิร์ฟ นำอกเป็ดที่อบแล้วมาหั่นแฉลบชิ้นขนาดพอดี ไม่หนาหรือบางจนเกินไป แล้วราดด้วยน้ำซอสเสาวรส ตกแต่งจานด้วยข้าวกล้องงอกและน้ำพริกกลางดง แซมด้วยผักสลัดให้ดูสวยงาม.

โดย ทีมข่าวหน้าสตรี

Read More...

เครื่องในสะอาด รสชาติเข้มข้น ประสานบริการ ข้าวเลือดหมูคู่เมืองตราด

สูตรทำอาหาร

อาหารเช้าอุ่นท้อง ต้มเลือดหมู ซุปใส

"ต้มเลือดหมู" เมนูมื้อเช้าที่อยู่คู่สังคมไทยมาเนิ่นนาน ไม่ว่าจะอยู่ภาคใด เหนือ ใต้ ออก ตก ตลาดเล็กตลาดใหญ่เป็นต้องมี ที่อำเภอเมือง จังหวัดตราด มีร้านต้มเลือดหมูรุ่นใหญ่อยู่ยงคงกระพันผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานถึง 40 ปี มีชื่อว่า "ประสานบริการ" ชื่อนี้เป็นที่คุ้นเคยกันดีในหมู่ขาหม่ำประจำจังหวัด สำหรับคนต่างถิ่นที่ไม่รู้จักอาจจะขับรถผ่านไป เพราะไม่คิดว่าจะมีร้านต้มเลือดหมูที่มีชื่อละม้ายคล้ายอู่ซ่อมรถ (ฮา)

ขาโซ้ย ขาซิ่งที่เคยขับรถเข้ามาในตัวอำเภอเมืองของตราด อาจจะเคยเห็นป้ายหน้าร้านที่เขียนไว้ตัวโตว่า "ประสานบริการ" พร้อมด้วยตัว หนังสือห้อยท้ายตัวไม่ใหญ่ว่า "ข้าวเลือดหมู" แต่ถ้ามองไม่ดีอาจจะไม่เห็น ข้าวเลือดหมูในที่นี้ มีความหมายเต็มๆว่า "ข้าวและต้มเลือดหมู" เมนูเด่น และเมนูเดียวที่มีมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน ขาหม่ำหลายใจที่ชอบมีตัวเลือกมาร้านนี้อาจมีเคืองเล็กน้อย (ฮา)

"เราขายต้มเลือดหมูอย่างเดียวครับ ตั้งแต่เปิดมาก็ไม่เคยขายอย่างอื่นเลยครับ สูตรที่ทำเป็นสูตรที่ตกทอดกันมา เป็นสูตรจากรุ่นปู่ รุ่นย่าอีกทีครับ ท่านทำขายมาก่อน แล้วพ่อก็มารับช่วง แล้วก็มีพัฒนาสูตรบ้าง แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากครับ ร้านนี้เปิดมาได้ 40 ปีแล้วครับ ขายตรงนี้มาตลอด ตั้งแต่ผมเกิดมาก็ขายอยู่แล้วครับ"

"น้องโจ" ลูกชายของลุงประสานทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของครอบครัว เนื่องจากคุณลุงต้องเข้าไปประจำการที่สวนผัก เจ๊แซบเลยได้นั่งจับเข่าคุยกับประสานจูเนียร์แทน (หุหุ)

ประสานบริการเป็นร้านขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ไม่มีผนัง ตัวร้านเปิดโล่ง นั่งสบายๆ มีสวนเล็กๆล้อมรอบ เหมาะสำหรับขาโซ้ยที่ต้อง การเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าแบบเบาๆ อุ่นๆ สบายท้อง ไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย ข้าวจาน ต้มเลือดหมูชาม... อร่อยถูกปาก ราคาถูกใจไม่ทำร้ายสุขภาพการเงิน (หุหุ)

ในหนึ่งชามต้มเลือดหมู นอกจากตัวเลือดที่สด สะอาด ไม่เหม็นคาวแล้วยังมีเครื่องในหลากหลายชนิดให้เลือกโซ้ย ไม่ว่าจะเป็น เซี่ยงจี๊ ตับ ลิ้น หัวใจ และไส้อ่อน เครื่องในทุกอย่างผ่านการล้างด้วยเกลือมาอย่างดี ไม่มีกลิ่นคาวให้ขัดเคืองอารมณ์ระหว่างการโซ้ย

หน้าร้าน

เทคนิคการต้มเครื่องในแต่ละชนิดให้สุกเสมอ และไม่เหม็นคาว ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ส่วนตัว ลุงประสานจะแยกต้มเครื่องในแต่ละชนิดไม่ต้มรวมกัน บางชนิดลวกแค่พอผ่านน้ำแล้วค่อยต้มซ้ำก่อนเสิร์ฟบางชนิดต้องต้มลงไปในน้ำซุป หม้อใหญ่ เพื่อให้ความหวานของเครื่องในมาช่วยเพิ่มความหวานให้กับน้ำซุป เทคนิคการลวกเครื่องในแบบดาวกระจายจะทำให้ ได้อรรถรสของเครื่องในอย่างเต็มที่!!

สำหรับขาโซ้ยที่ไม่นิยมเครื่อง ใน ลุงประสานมี หมูสับ หมูชิ้น หมูกรอบ เต้าหู และเห็ดหูหนู ไว้ให้ บริการ น้องโจบอกว่าขาหม่ำรุ่นใหม่ ที่ใจไม่แข็งพอ ยังไม่ก้าวเข้าวงการนักโซ้ยเครื่องในระดับมืออาชีพ จะนิยมสั่งเต้าหู้ หมูสับ และเพิ่มใบตำลึง มาโซ้ยกับข้าวร้อนๆ ถือว่าเป็นเมนูสุดฮอตของคนขาหม่ำหน้าใหม่

หมูสับร้านนี้มีรสชาติน่า จดจำ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำไว้เป็นแค่เครื่องประดับ ลุงประสานใช้เนื้อหมูสับหยาบๆ หมักกับกระเทียม เกลือ พริกไทย และลวกใส่ทีละชาม เนื้อหมูเวลาสุกจะพองฟูดูน่าเคี้ยว แค่เห็นรูปก็เปรี้ยวปากอยากขับรถไปหม่ำซ้ำอีกรอบ...ซื้ดดดดด!!!!

ทั้งเครื่องใน และเนื้อหมู ทุกสิ่งอย่างลุงประสานจะทำแค่พอขายในแต่ละวัน ไม่มีเหลือค้างให้อ้างว้างเสียอารมณ์

นอกจากเครื่องในดี มีหมูสับอร่อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ใบตำลึง ต้องยอมรับว่าทางร้านคัดมาดีจริงๆ อ่อนกำลังดี สีเขียวสด ไม่มีรสขม เคี้ยวง่ายสบายเหงือก ใบตำลึงที่ใช้ส่วนใหญ่ลุงเก็บมาจากสวน รับประกันความสด สะอาด ปราศจากสารเคมี

น้ำซุปร้านนี้ หอม อร่อย ชื่นใจ ขับรถมาไกลๆ แวะซดซักชามหายเหนื่อย!

ลุงประสานลงทุนตื่นมาต้มตั้งแต่ตี 4 ใช้กระดูกหมูอย่างดี ต้มจนความหวานจากกระดูกค่อยๆซึมออกมา แล้วก็ทยอยต้มเครื่องในเพื่อเพิ่มความหวานให้น้ำซุป ต้มมาเรื่อยจนถึง 6 โมงกว่า ได้เวลาเปิดร้านซุปหวานพอดี ซดกี่ทีไม่มีเซ็ง!!

"ร้านประสานบริการ ข้าวเลือดหมู" ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดตราด ถ้ามาจากกรุงเทพฯพอเข้าตัวเมือง ก่อนถึงสามแยกคลองใหญ่ จะเห็นปั๊มน้ำมันบางจาก ร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามติดกับธนาคารกสิกรไทย มาแล้วหลงงงเส้นทาง โทร.ถามได้ที่เบอร์ 08-3718-9187

เริ่มบริการความอร่อยตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึงบ่ายสอง แต่ถ้าช่วงวันหยุดประมาณเที่ยงอาจจะหมด ไม่อยากเสียใจ เสียเวลาแอนด์อารมณ์ โทร.ถามเพื่อความสบายใจ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่จันทร์ถึงอาทิตย์นักโซ้ยขาแซบที่แอบเซ็งกับวันทำงาน ที่ผ่านมา หอบลูกจูงภรรยามาหาของอร่อยๆหม่ำให้หนำอารมณ์ที่จังหวัดตราด เช้ามาหม่ำ "ข้าวเลือดหมูลุงประสาน" กลางวันไปโซ้ย "ข้าวผัดพริกเกลือป้าศรี" ปิดท้ายด้วยมื้อเย็นแบบชุดใหญ่ที่ "ร้านนำโชค" อร่อยครบสามมื้อถือเป็นกำไรชีวิต คิดแล้วก็แสนดีใจในวาสนาที่ได้เกิดเป็นคนไทย...ไม่ว่าจะไปทางไหนก็หา ของอร่อยหม่ำได้ในราคาไม่แพง!!!
เจ๊แซบ หัวเขียว

Read More...

ถูกและดี มีอยู่จริง! แอ๊ปเปอร์ติโต้อิตาเลียนพาสต้าราคาสัมผัสได้

สูตรทำอาหาร

หนึ่ง ในศูนย์รวมของอร่อยของดีที่อยู่ ในใจขาหม่ำชาวกรุงมาเนิ่นนาน คือ ตลาดลุงเพิ่มหลังการบินไทย ตลาดขนาดไม่ใหญ่ แต่อัดแน่นไปด้วยของดีมีคุณภาพ ก่อนหน้านี้ ‘เจ๊แซบ’ บุกตะลุยเข้าไปค้นหาของอร่อยมาฝากแฟนคลับขาโซ้ยหลายครั้งหลายครา มาคราวนี้เจ๊มีของเด็ดของดี เป็นอาหารอิตาเลียนน้องใหม่ชื่อ "แอ๊ปเปอร์ติโต้" (Appetito) ถึงแม้หน้าร้านจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ฝีมือและประสบการณ์ไม่จุ๋มจิ๋ม!!

"ผม เปิดร้านนี้ขึ้นมาเพราะชอบทานอาหาร อิตาเลียน ผมกับคุณน้อยเป็นหุ้นส่วนทำร้านนี้ มาด้วยกัน ผมเจอกับคุณน้อยตอนทำงานอยู่ในบริษัทรับจัดเลี้ยงอาหารอิตาเลียนแบบมืออาชีพ ผมทำอยู่ที่นั่นสิบกว่าปี ผมอยู่ฝ่ายบริหารได้ คลุกคลีกับเชฟอาหารอิตาเลียนระดับแถวหน้าของประเทศไทยถึงสองคน ผมก็ซึมซับการทำอาหารมาเรื่อยๆ ส่วนคุณน้อยก็อยู่ในส่วนของ การจัดเลี้ยง ได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาหารโดยตรง หลังจากที่ไม่ได้ทำงานบริษัทแล้ว เราสองคนก็เลยออกมาเปิดร้านของเรากันเอง เริ่มทดลองทำจากพาสต้าหลายชนิด ทั้งลองทำ ลองชิม อยู่นานพอสมควร จนได้สูตรอาหาร ที่อร่อยลงตัวในแบบของเราเอง หลัง จากนั้นเราก็เริ่มคิดว่าจะทำยังไง ให้ราคาขายถูกลง เพราะเราใช้แต่ ของนำเข้าจากอิตาลี เราเลยต้องติดต่อหาผู้ขายและเช็กราคาของทุกร้าน จนได้ส่วนผสมหลัก ในราคา ที่เหมาะสม ก็เริ่มหาทำเลเปิดร้าน" คุณตาล หนุ่มไทยไฟแรงชี้แจงถึงเส้นทางของความฝันเล็กๆที่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ ครั้งใหญ่ในชีวิต

"พาส ต้า" (Pasta) เมนูเส้น สไตล์อิตาเลียน ที่มีส่วนประกอบหลักคือ แป้งสาลี น้ำ และไข่ นำมานวด ปั้นเป็นก้อน รีดเป็นแผ่น และตัดเป็นเส้น ลักษณะเส้นพาสต้ามีรูปแบบแตกต่างกันไปมาก มายหลายร้อยชนิด ทั้งแบบเส้นกลม เส้นแบน แบบมีรูตรงกลาง มีทั้งรูเล็ก รูใหญ่ แบบเส้นสั้น เส้นกลาง เส้นยาว มีไส้ และไม่มีไส้ โอ้ยยย...มากมายสาธยายไม่หวาดไม่ไหว บางตำรากล่าวว่าชาวอิตาเลียนได้ไอเดียเก๋ๆมาจากชาวจีน หลังจากที่มาร์โคโปโลได้ไปเยือนประเทศจีนและนำวิธีทำบะหมี่มาเผยแพร่ใน อิตาลี จนดัดแปลงกลายมาเป็นเส้นพาสต้า แต่ชาวอิตาเลียนบางกลุ่มค้านหัวชนฝาบอกว่าพาสต้ามีมาตั้งแต่สมัยโรมันแล้ว จ้ะ ไม่ได้ก๊อบไม่ได้ลอกมาจากชาติใด สรุป...ไม่ว่าพาสต้าจะกำเนิดแต่ใดมา ณ บัดนาว...ชาวโลกก็ได้รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพาสต้าที่มี ชื่อว่า "สปาเกตตี" และ "มักกะโรนี" เป็นที่ติดอกติดใจไปทั่วโลก

สำหรับ เมนูพาสต้าของคุณตาลและคุณน้อยแห่งแอ๊ปเปอร์ติโต้ถึงแม้ จะมีให้เลือกไม่มากนัก แต่คัดเฉพาะเมนูอร่อยเน้นๆ เป็นที่เชิดหน้าชูตา ตัวเส้นเน้นที่เส้นสปาเกตตีและเพนเน (Penne) เป็นพาสต้าท่อกลมขนาดกลางปลายตัดเฉียง

ส่วนตัวซอสมีให้เลือกหลากหลายเลือกที่ถูกปากคนไทยไม่ต้องปีนกระไดไปรับประทาน (หุหุ)

เริ่ม จากเมนูเบๆบ้านๆ คอพาสต้ารู้จักกันดี "โบโลเนสพอร์ค" (Bolognese Pork) เป็นหมูสับในซอสมะเขือเทศ รสชาติเข้ม ข้น จัดจ้าน ทุกจานทำสดๆใหม่ๆ จะหม่ำที่ร้านหรือซื้อ ใส่กล่องไปโซ้ยที่บ้านก็ไม่ทำลายอรรถรส

คอ ครีมซอสที่นิยมรสชาติหอม มันของครีม เจ๊ขอแนะนำ "มัชรูมครีมซอส" (Mushroom Cream Sauce) ตัวครีมเข้มแต่ไม่ข้นมากจนเกินไป รสชาติกลมกล่อม กำลังดี ครีมหอมกรุ่นได้ใจเจ๊จริงๆ คอโซ้ยที่ นิยมพาสต้าครีมซอสห้ามพลาด รสชาติใกล้ เคียงร้านอิตาเลียนหรูแต่ราคาน่าคบมั่กๆ!!

ต่อกันด้วย "คาโบนาร่า" (Cabonara) ซอสพื้นฐานที่เกือบทุกร้านต้องมี เป็นครีมซอสผัดใส่เบคอน รส ชาติกำลังพอเหมาะพอดี ไม่มันเลี่ยน แต่หอมกรุ่น หม่ำตอนอุ่นๆยิ่งอร่อยรื่นอารมณ์

คุณบอย, คุณตาล และคุณน้อย

ขา โซ้ยที่นิยมสปาเกตตีแบบ ผัดแห้ง เจ๊ แซบขอแนะนำ "สปาเกตตีซีฟู้ดไวท์ไวน์" (Spaghetti Seafood white wine) เส้นสปาเกตตีลวกได้กำลังดีเหนียวนุ่ม ผัดไม่แห้งจนเกินไป รสชาติกำลังดีหม่ำกับซีฟู้ดแบบ ไทยๆ เน้นความสดเป็นหลัก ถ้าวันไหนของไม่สดจริงๆ คุณตาลไม่ยอมขายให้อับอายลูกค้า เป็นเมนูเบาๆที่หม่ำได้เรื่อยๆไม่มีเบื่อ

เพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าให้ได้หม่ำพาสต้าในราคาไม่ไกลตัว คุณตาลได้ สร้างสรรค์พาสต้าขึ้นมาสามขนาดราคา มี แบบย่อมเยา ไซส์เล็กสุด สำหรับคนที่ไม่อยากหม่ำหนักเกินไป แบบปกติ สำหรับอิ่มกำลังดี และ แบบคุ้มค่า สำหรับผู้ที่หิวอย่างแรง หรือซื้อมาแบ่งปันเพื่อนฝูง สามสไตล์คุณลูกค้าเลือกได้ ตามสุขภาพกระเป๋าตังค์

นอกจากเมนูพาสต้าย อดนิยมแล้วทางร้านยังมี "ลาซานญ่า" และ "ผักโขมอบชีส" ที่มีแฟนคลับเป็นลูกค้าขาประจำมากมาย วางได้ ไม่ทันถึงครึ่งวันมีอันต้องหมด เพราะคุณตาลทำแค่พอขาย ไม่ทำมากจนเกินไปจนเหลือค้างข้ามวัน ใครอยากลองของดีต้องมาแต่เช้า หรือโทร.มาจองล่วงหน้าจะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์

แอ๊ปเปอร์ ติโต้เป็นแผงขนาดไม่ใหญ่โต ตั้งอยู่ในตลาดลุงเพิ่มหลังการบินไทย เดินเข้ามาด้านในโรงอาหารร้านอยู่ใกล้ๆกับศาลพระภูมิ ร้านเปิดทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ มีบริการส่งถึงบ้านและที่ทำงาน คิดเงินปลายทาง เริ่มขายตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น

ทางร้านรับจัดเลี้ยงไม่เกี่ยงจำนวนคน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 08-7086-4666, 08-3705-3770 และ 08-3268-8242 ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่... แอ๊ปเปอร์ติโต้พร้อมบริการถึงที่!!

เจ๊แซบ หัวเขียว