สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

หมูสะเต๊ะ(วิธีทำ) อร่อยๆมาแล้วจร้าาา

 
เงินลงทุน :   ครั้งแรกประมาณ 3,800 บาท
รายได้ :   ประมาณ 12,000 – 15,000 บาท/เดือน
วัสดุ/อุปกรณ์ :   รถเข็น เตาถ่านและตะแกรงย่าง ไม้เสียบหมูสะเต๊ะ ถุงพลาสติก กล่องพลาสติก


เครื่องปรุง :
- เนื้อหมู 10 กิโลกรัม
- น้ำสับปะรดคั้น ½ ถ้วยตวง
- เกลือ ½ ขีด นมสด 1 กระป๋อง
- น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
- ผงกะหรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
- (สีผสมอาหารสีเหลืองอีกเล็กน้อย)


วิธีทำ :
1. นำเนื้อหมูมาแล่ขนาด 1 x 2.5–3 นิ้ว บางพอประมาณ โรยน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้ทั่ว จากนั้นนำน้ำสับปะรด เกลือ นมสด ผงกะหรี่ และสีผสมอาหารสีเหลืองลงไปอีกเล็กน้อย คนให้ เข้ากัน แล้วนำไปเทใส่เนื้อหมูเคล้าให้ทั่ว เสร็จแล้วนำไปใส่กล่องพลาสติก แช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา พอรุ่งเช้าจึงนำหมูออกมาเสียบไม้ เสร็จแล้วก็นำหมูเข้าแช่ในช่องแช่แข็งอีกสัก 1 ชั่วโมง


2. เครื่องปรุงน้ำกะทิพรมหมูสะเต๊ะ
- หัวกะทิ 1 กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ½ ช้อนชา


วิธีทำ :   นำหัวกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟให้เดือด แล้วยกลง
วิธีย่างหมูสะเต๊ะ    :    นำหมูที่เสียบไม้ออกจากช่องแช่แข็ง แล้วนำมาชุบในน้ำกะทิที่เตรียมไว้ ก่อนจะนำขึ้นย่างไฟต้องย่างไฟปานกลาง ห้ามใช้ไฟอ่อน หมูจะแข็ง ไม่อร่อย แล้วก็พรมน้ำกะทิเป็นระยะขณะกำลัง
ย่าง หากเนื้อหมูตรงไหนไหม้ก็ใช้กรรไกรตัดทิ้ง เพราะจะดูไม่น่ารับประทาน

satea-01

ส่วนผสมน้ำจิ้ม :
- หัวกะทิ 4 กิโลกรัม
- ถั่วลิสงคั่วตำละเอียด 1 กิโลกรัม
- งาขาวคั่ว 1 กิโลกรัม
- น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ขีด
- เกลือ 1.5 ช้อนชา
- น้ำพริกแกงมัสมั่น 1 ขีด
- น้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม


วิธีทำ :   แยกหัวกะทิ 2 กิโลกรัม มาผัดให้แตกมัน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ด น้ำพริกแกงมัสมั่น น้ำตาลปี๊บลงไปผัด ใส่เกลือผัดให้หอม ใส่หัวกะทิลงไปอีก 2 กิโลกรัม ปล่อยให้เดือดมาก ๆ แล้วลดไฟลง ใส่ถั่วและงาลงไป คนให้ละลายเข้ากัน ทิ้งไว้ให้เดือดจนน้ำกะทิแตกมัน ยกลงจากเตาตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนนำออกขายให้อุ่นอีกครั้ง เพื่อถั่วและงาจะพองตัวได้เต็มที่

ส่วนผสมน้ำอาจาด :
- น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
- น้ำส้มสายชู ½ ขวด
- เกลือถุงเล็ก ½ ถุง
- แตงกวา(ลูกเล็ก) 5 กิโลกรัม
- พริกชี้ฟ้า 3 ขีด
- หอมแดงหัวเล็ก 5 ขีด


วิธีทำ :   หั่นแตงกวาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปอกหัวหอมแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาหน่อย พริกหั่นเป็นแว่นหนา แบ่งใส่ภาชนะไว้ต่างหาก เอาน้ำส้มสายชูมาผสมกับเกลือและน้ำตาลทราย นำไปตั้งไฟให้เป็นยาง ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น

ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ตลาด แหล่งชุมชน
ข้อแนะนำ :
1. รสชาติของน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะต้องหวานนำ ตามด้วยเค็มเล็กน้อย
2. ถ้าบริเวณที่อยู่อาศัยเป็นทำเลที่เหมาะกับการค้าขาย ก็ไม่ต้องซื้อ รถเข็น ทำให้ประหยัดเงินลงทุนได้
3. เนื้อหมูให้ใช้เนื้อหมูสันในสดๆ และต้องทำให้สะอาดน่ารับประทาน

Read More...


สูตร(ไม่)ลับ กับการทำขนมจีน-น้ำยา(ขาย)

 
เงินลงทุน :   ครั้งแรกประมาณ 7,500 บาท (ไม่รวมค่าเช่าสถานที่) เตาแก๊สพร้อมถัง 2,000 บาท รถเข็น 3,000 บาท โต๊ะ-เก้าอี้ 3 ชุด ประมาณ 1,800 บาท

รายได้ :   ประมาณ 15,000 บาท/เดือน

อุปกรณ์ :   รถเข็น เตาแก๊สพร้อมถัง หม้อ ทัพพี จาน ช้อนส้อม แก้วน้ำ ภาชนะใส่ผัก ภาชนะใส่ช้อนส้อม โต๊ะ-เก้าอี้

แหล่งจำหน่ายอุปกรณ์ :   ร้านค้าทั่วไป ตลาด ห้างสรรพสินค้า

วิธีดำเนินการ :   หาทำเลที่เหมาะสมหรือเช่าสถานที่ อาจเป็นตลาด ริมทางเท้าที่คนสัญจรไปมา เพื่อให้มีเนื้อที่เพียงพอสำหรับการจอดรถเข็นและวางโต๊ะ-เก้าอี้ จัดวางภาชนะใส่ช้อนส้อม ภาชนะใส่ผักต่างๆ พริกขี้หนูทอดกรอบและพริกป่นไว้บนโต๊ะ เพื่อให้ลูกค้าได้ตักเองตามต้องการ ส่วนน้ำยานั้นต้องตั้งไฟอุ่นอยู่บนเตาเสมอ เมื่อลูกค้ามาซื้อ จึงตักราดขนมจีนขณะร้อน ๆ

วิธีทำ :   ขนมจีน (ซื้อจากตลาดทั่วไป โดยซื้อเหมามาในปริมาณมากเพียงพอสำหรับการขายแต่ละวัน เพื่อจะได้ราคาถูก)

Knmhin-solution01

ส่วนผสมพริกแกง :
- พริกแห้ง 9 เม็ด
- ตะไคร้หั่น 2 ช้อนโต๊ะ
- ข่าหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
- หัวหอมหั่น 3 ช้อนโต๊ะ


Knmhin-solution02

- กระเทียมหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- กะปิ 1 ช้อนชา
- กระชาย 1 ถ้วยตวง


นำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นให้ละเอียดถ้าจะใช้วิธีโขลก ต้องโขลกทีละอย่างเพื่อไม่ให้กระเด็น

Knmhin-solution03

ส่วนผสมน้ำยา :
- ปลาช่อน (หรือปลาน้ำดอกไม้ หรือปลาสำลี) 1 กิโลกรัม
- น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง
- มะพร้าวขูดแล้ว 1 กิโลกรัม


Knmhin-solution04

วิธีทำ :   นำมะพร้าวมาคั้นเป็นหัวกะทิ 1 ถ้วยตวง หางกะทิ 10 ถ้วยตวง นำปลาไปต้ม แกะเอาเฉพาะเนื้อปลามาโขลกรวมกับพริกแกง (ที่โขลกไว้แล้วข้างต้น) จากนั้น นำหางกะทิใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด เอาปลาที่โขลกรวมกับพริกแกงใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา แล้วเติมหัวกะทิ

Knmhin-solution05

ผักและเครื่องปรุง :    ถั่วฝักยาวหั่นเป็นท่อนสั้นๆ ผักกระเฉดหั่นเป็นท่อนสั้นๆ แตงกวาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผักกาดดองหั่นละเอียด ผักบุ้งลวกหั่นละเอียด ถั่วงอกดิบ ใบแมงลัก พริกขี้หนูทอดกรอบ พริกป่น
ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   แหล่งชุมชนทั่วไป ตลาด ริมทางเท้าคนสัญจรไปมา


Knmhin-solution06

ข้อแนะนำ :
1. ถ้าทำขาย ต้องเพิ่มปริมาณอัตราส่วนทุกชนิดให้มากขึ้น
2. ถ้าไม่มีทำเลพอที่จะวางโต๊ะ-เก้าอี้ก็อาจตักใส่ถุงขายอย่างเดียว หรือเข็นรถเข็นขายไปตามที่ต่าง ๆ ซึ่งทำให้ประหยัดเงินลงทุนด้วย
3. ถ้าต้องการประหยัดเวลาอาจซื้อเครื่องพริกแกงสำเร็จรูปจากตลาดมาโขลกผสมกับเนื้อปลาเลย แต่อาจไม่อร่อยเท่ากับการทำเครื่องพริกแกงเอง


Knmhin-solution07

สถานที่ฝึกอบรม :
1. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครใต้ โทร. 211-2052, 211-2056
2. โรงเรียนฝึกอาชีพ กรุงเทพมหานคร โทร. 643-7177-8, 613-7191

Read More...


อร่อยไปกับอาหารไทย(ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย)

เงินลงทุน :   ครั้งแรกประมาณ 6,500 บาท (รถเข็น 3,000 บาท เตาแก๊สพร้อมถัง 2,500 บาท)
รายได้ :   ประมาณ 25,000 บาท/เดือน
อุปกรณ์ :   รถเข็น เตาแก๊สพร้อมถัง กะทะ ตะหลิว


ส่วนผสม :
- ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก 1 ถ้วยตวง
- กุ้งแห้งฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ 1 ฟอง ถั่วงอก ½ ถ้วยตวง
- ใบกุยช่ายหั่น ½ ถ้วยตวง
- ถั่วลิสงคั่วป่น ¼ ถ้วย
- เต้าหู้แข็งหั่นเล็ก ¼ ถ้วยตวง
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- หัวผักกาดเค็มหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ


Pad-Thai01

วิธีทำ :
1. นำเส้นก๋วยเตี๋ยวแช่น้ำจนอิ่ม
2. ใส่น้ำมันลงกะทะตั้งไฟให้ร้อน นำเส้นก๋วยเตี๋ยวลง
ผัด เติมน้ำเล็กน้อย เพื่อให้เส้นนุ่ม ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำส้มสายชู น้ำส้มมะขาม ตอกไข่ใส่กุ้งแห้งฝอย ผักกาดเค็ม เต้าหู้ ใบกุยช่าย ถั่วงอก ถั่วลิสง ผัดให้สุก

Pad-Thai02

เครื่องเคียง :    ถั่วงอกดิบ หัวปลี ต้นกุยช่าย มะนาวฝานเป็นชิ้น
สถานที่ฝึกอบรม :
1. สถาบันที่เทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตโชติเวช โทร. 281-0545, 282-8531-2
2. ชมรมลุงขาวไขอาชีพ โทร. 538-3981


Pad-Thai03

ข้อแนะนำ :
1. เส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าใช้เส้นจันทน์ จะน่ารับประทานยิ่งขึ้น หรือใช้วุ้นเส้น หรือไม่ใส่เส้นตามลูกค้าต้องการ
2. ใส่กุ้งสด หรือปลาหมึกสดเพิ่มเติมได้ตามลูกค้าต้องการ
3. ถ้าต้องการทำปริมาณมาก ให้เพิ่มอัตราส่วนต่าง ๆ ขึ้นตามส่วน
4. ควรขายคู่กับหอยทอด เพื่อเป็นการเสริมรายได้

Read More...


รวยได้ด้วยการขายข้าวแกง

 
เงินลงทุน :   ประมาณ 10,000 บาท (รถเข็น 3,500 บาท เตาพร้อมถังแก๊ส 2,000 บาท ถาดสแตนเลส 400 บาท/ใบ)
เงินทุนหมุนเวียน :   1,000 บาท/วัน
รายได้ :   1,800 – 2,000 บาท/วัน
วัสดุ/อุปกรณ์ :   รถเข็น เตาพร้อมถังแก๊ส เตาถ่าน (มีไว้เสริมเพื่อให้รวดเร็วขึ้น) หม้อ/กะละมัง/ถาดใส่อาหารขาย ทัพพี และอุปกรณ์ในครัวเรือนสำหรับประกอบอาหาร
แหล่งจำหน่ายวัสดุ/อุปกรณ์ :   ร้านค้าทั่วไป ย่านเวิ้งนาครเขษม สำเพ็ง ห้างสรรพสินค้า

แหล่งจำหน่ายวัตถุดิบ :   ตลาดบางกะปิ ตลาดคลองเตย ปากคลองตลาด ตลาดบางกอกน้อย  / ตลาดพรานนก หรือตลาดทั่วไปใกล้บ้าน

วิธีดำเนินการ :
1. การจ่ายตลาด
- ขายช่วงเช้า ควรเริ่มจ่ายตลาดก่อนตี 5
- ขายช่วงสาย บ่าย เย็น จ่ายตลาดช่วงเช้า


Rice-and-curry01

2. การเลือกซื้อวัตถุดิบต่างๆ ควรให้พอเหมาะกับการขายแต่ละวัน และต้องมีความใหม่สด เช่น
เนื้อหมู - ต้องมีสีชมพู เนื้ออิ่มเป็นมัน หนังเกลี้ยง
เนื้อวัว - ต้องมีสีแดงสด เนื้อละเอียดแน่น
ไก่ - หนังสด บาง สีไม่ซีด
กุ้ง - เนื้อแน่น ตัวเขียวปนน้ำเงินสดใส
ปลา - เหงือกแดง ตานูนสดใส เนื้อแข็งแน่น
ปลาหมึก - ควรเลือกที่เยื่อหุ้มตามตัวยังไม่ลอก
ผักสด - ใบติดแน่น สีเขียวสด ไม่ช้ำ
กะทิ - ควรเลือกซื้อจากร้านที่ใช้มะพร้าวใหม่สด
เครื่องแกง - หากไม่ทำเอง ก็ต้องเลือกซื้อจากร้านที่ทำไม่ค้าง


3. การขายแบบรถเข็น ควรมีอาหาร 5-8 อย่าง เพื่อความเหมาะสมกับขนาดของรถ สำหรับอาหารที่ควรมีประจำได้แก่ แกงกะทิ แกงส้ม ผัดเผ็ด ผัดผัก ต้มจืด ต้มยำ น้ำพริก-ปลาทู-ผักจิ้ม เป็นต้น รวมทั้งข้าวสวย

4. การปรุงอาหารต้องสะอาด รสชาติอร่อยและสม่ำเสมอ ความทั้งมีสีสันน่ารับประทาน หากยังไม่ชำนาญในการปรุง ก็ศึกษาได้จากตำราอาหาร หรือฝึกอบรมเพิ่มเติม

5. หม้อ/กะละมัง/ถาดที่ใส่อาหารขาย ควรเป็นสแตนเลส เพราะใช้งานได้ทนทาน ปลอดภัย และทำให้ดูน่ารับประทานกว่าอลูมิเนียม โดยสัดส่วนที่สวยงามในการบรรจุอาหารใส่ภาชนะ ควรเป็น ¾ หรืออย่างน้อยครึ่งหนึ่งของภาชนะ (เริ่มต้นการขายครั้งแรกควรใช้ถาดหรือกะละมัง เพราะหม้อจุมากกว่าและราคาแพงกว่า)

6. บริการลูกค้าด้วยความรวดเร็ว และอัธยาศัยดี คือต้องตักอาหารใส่ถุงได้คล่องแคล่ว หรืออาจตักใส่ถุงเตรียมไว้ก่อนเลยบางส่วน

7. ราคาอาหาร ควรขายในราคาถูก แต่อาจลดปริมาณลงเล็กน้อย เช่น ขายถุงละ 10 หรือ 15 บาท แทน 20 บาท โดยพิจารณาจากทำเลด้วยว่าควรขายราคาใด

Rice-and-curry02

ทำเล :   ตลาดทั่วไป แหล่งชุมชน หมู่บ้าน
สถานที่ฝึกอบรม :
1. โรงเรียน/ ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร โทร 613-7177-8
2. สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานกลาง โทร. 691-8440, 276-0717
3. สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 942-8460,579-2294
ต่อ 218-224
4. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครใต้ โทร. 211-2056, 212-5700-1
5. วิทยาลัยการอาชีพจังหวัด


ข้อแนะนำ :
1. หากเริ่มต้นขายครั้งแรก ควรเริ่มทำทีละน้อยไปก่อน
2. หากมีเงินลงทุนมาก อาจดำเนินการรูปแบบแผงลอย อาคารพาณิชย์หรือตึกแถว
3. หากเปิดร้านขายข้าวแกง 1 คูหา ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาท (ไม่รวมค่าเช่าสถานที่) ได้แก่
- ค่าวัสดุอุปกรณ์ เช่น โต๊ะพับ 200-300 บาท/ตัว เก้าอี้พลาสติกไม่มีพนักพิง 3 ตัว 100 บาท จานกระเบื้อง 120-130 บาท /โหล หรือจานพลาสติก ช้อนส้อม 70 บาทขึ้นไป/โหล แก้วน้ำ ถังน้ำแข็ง
- ค่าวัตถุดิบ ต้องเพิ่มปริมาณขึ้น
- ค่าแรงงาน คนในครอบครัวหรือจ้างลูกจ้างและอาจเพิ่มรายได้เสริมด้วยการขายน้ำอัดลม หรือขนมหวาน เช่น ลอดช่อง กล้วยบวชชี ถั่วเขียวต้มน้ำตาล เป็นต้น

Read More...


category: จุดประกายอาชีพ, อาหารการกิน, อาหารพารวย, แบไต๋อาชีพอิสระเค้ก…ของว่างจานโปรดของใครหลายๆคน

 
 
เงินลงทุน :    ครั้งแรกประมาณ 20,000 บาท (เตาอบขนมแบบแก๊สราคาประมาณ 4,000 – 5,000 บาท เตาแก๊สพร้อมถังประมาณ 2,500  บาท)
รายได้ :   400 – 500 บาท/วัน  (ขึ้นอยู่กับปริมาณการขาย)  วัตถุดิบ 270 บาท ทำได้ 12 ชิ้น ๆ ละ 30 – 35 บาท
วัสดุ/อุปกรณ์ :   เตาอบขนม  เครื่องตีไข่  หม้อ  กระทะ  กะละมัง  กระชอน  เตาแก๊สพร้อมถัง (อุปกรณ์เครื่องครัว)
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :   เวิ้งนครเขษม  กล้วยน้ำไท  คลองเตย  และร้านจำหน่ายอุปกรณ์ขนมอบ


cake01

ส่วนผสมเค้กชาเขียว :
- แป้งเค้ก                170     กรัม
- ไข่ไก่                    300     กรัม
- น้ำตาลทราย         200    กรัม
- แป้งข้าวโพด          30     กรัม


cake02

- นมผง              25    กรัม
- น้ำ                   50    กรัม
- โอเวอร์เล็ต     15    กรัม (ทำให้ฟู)
- ชาเขียว          1.5    ช้อนชา
- น้ำหอมกลิ่นนม เนย  1    หยด
- เนยละลาย      150    กรัม


cake03

วิธีทำ :
1. นำไข่  น้ำตาลทราย  โอเวอร์เล็ต  ใส่เครื่องตีด้วยความเร็วสูงสุดให้เป็นครีมข้นขาววับจากนั้นใส่แป้งเค้กที่ร่อนแล้วลงไปตีให้เข้ากันจนเนียน
2. ใส่นมผง  ชาเขียว  น้ำตีต่อ  โดยลดความเร็วลงต่ำสุด


cake04

3. ใส่เนยละลายลงไปพร้อมกับกลิ่นนมเนย  ตีต่ออีกเล็กน้อย  เทใส่ถาดที่ทาด้วยเนยขาว
4. นำเข้าเตาอบทันทีที่ 350 องศาฟาเรนไฮต์  ประมาณ 25 นาที  เปิดตู้ใช้ส้อมจิ้มดู  หากแป้งติดส้อมแสดงว่ายังไม่สุกให้อบต่ออีก 5 นาที  อย่าให้แป้งสุกมากเพราะจะแข็ง


cake05

ส่วนผสมหน้าเค้ก :
- เนยสด              250      กรัม
- เนยขาว            150      กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง    150      กรัม
- นมข้นหวาน          ½     ถ้วย
- เกลือป่น               ¼     ช้อนชา
- ผงชาเขียว            1     ช้อนชา


cake06

วิธีทำ :
1. ร่อนน้ำตาลไอซิ่งแล้วนำไปใส่เครื่องตีกับเนยสองชนิดและเกลือป่นให้ขึ้นฟูเบานุ่ม
2. ใส่นมข้นแล้วตีต่อด้วยความเร็วสูงสุดจนเข้ากันและฟู  จากนั้นลดความเร็วต่ำอีกประมาณ 5 นาที  จะได้ครีมแต่งหน้าเค้ก
3. นำเค้กที่อบแล้ววางบนกระดาษสำหรับรองเค้กที่ทาเนยขาว  แล้วใช้ครีมทาหน้าเค้ก  นำเนื้อเค้กมาวางซ้อนอีกชั้นหนึ่ง    นำครีมมาแต่งหน้าเค้กแล้วโรยด้วยผงชาเขียวให้ดูเหมือนตะไคร่น้ำ  แต่งหน้าด้วยอัลมอนด์สไลด์  แล้วหยอด
ครีมเป็นรูปกรวย

cake07

ส่วนผสมตัวแป้งเอแคลร์ชาเขียว :
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ตราว่าว ½+¼  ถ้วย
- แป้งเค้กบัวแดง    ½    ถ้วย
- น้ำ   1 ถ้วย
- เนยสด   40 กรัม
- มาการีน        100    กรัม
- เกลือ            ¼    ช้อนชา
- น้ำตาลทราย       2    ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ (เบอร์ 2)          4    ฟอง


cake08

(การใส่เนยสดและมาการีนเพราะจะทำให้แป้งนุ่ม)
วิธีทำ    :
1. นำเนยสด  มาการีน  เกลือ  น้ำตาลทรายผสมน้ำสะอาดใส่หม้อ (หรือกระทะ)  ตั้งไฟพอเดือดคนให้เข้ากัน
2. นำแป้งมาร่อนในกระชอนใส่ผสมลงไปในหม้อโดยใช้ไฟอ่อน  คนจนกระทั่งแป้งไม่ติดก้นหม้อ  ยกลงพักไว้ให้เย็น  ตักขึ้นไปใส่ในเครื่องตีไข่แล้วตอกไข่ใส่ลงไปทั้งหมด  ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. นำถาดอลูมิเนียมมาทาด้วยเนยขาว    หยอดแป้งลงไปบนถาดให้เป็นก้อนกลมตามขนาดที่ต้องการ   นำไปอบที่อุณหภูมิ 375    องศาฟาเรนไฮต์ 12 – 15 นาที (แป้งเอแคลร์ที่ดี  อบแล้วข้างในจะต้องกลวง)


cake09

ส่วนผสมไส้ :
- นมสด            2    ถ้วย
- แป้งข้าวโพด    4    ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดงของไข่ไก่        2    ฟอง
- เกลือ                ¼    ช้อนชา
- น้ำตาลทราย      ½ ถ้วย +2    ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ :
1. นำไข่แดงมาตีให้ขึ้นฟูใส่ในหม้อ  จากนั้นเท
นมสด แป้งข้าวโพด  น้ำตาลทราย  เกลือ  ใส่ลงไป  ยกหม้อตั้งบนกระทะที่ใส่น้ำเดือด  คนไปมาตลอดเวลาจนกระทั่งข้นได้ที่เป็นไส้ครีม  (หรือจะนำหม้อไปตั้งไฟ   ใช้ไฟปานกลาง คนไปช้า ๆ   จนส่วนผสมเข้ากันดีจนเหนียวข้นก็ได้)  ยกลงรอให้เย็น
2. หากต้องการรสชาเขียว  ใช้ผงชาเขียว 1.5 ช้อนชาโรยลงไป      รสช็อกโกแลตใช้ผง-ช็อกโกแลต 1ช้อนโต๊ะละลายน้ำเล็กน้อย     รสใบเตยใช้ใบเตยปั่นคั้นเอาแต่น้ำข้น ๆ  1 ช้อนโต๊ะ   รสกาแฟใช้กาแฟผง 1 ช้อนชาละลายน้ำใส่ลงไป

3. ใช้กรรไกรตัดตัวขนมที่อบสุกแล้วตามแนวนอน    นำไส้ใส่กรวย  ใส่หัวบีบตัวเล็ก บีบไส้ใส่ไปในเนื้อแป้งพอประมาณ  ปิดตัวขนมที่ถูกตัดให้กลับมาแนบติดกัน (ต้นทุน 180 บาท  ทำได้ 75 ลูก  ขายลูกละ 3 บาท)

ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ตลาดทั่วไป  ขายส่งมินิมาร์ทหรือร้านเบเกอรี่
ข้อแนะนำ :    ควรขายควบกับขนมปังหน้าต่าง ๆ หรือไส้ต่าง ๆ  เพื่อเพิ่มรายได้
สถานที่ฝึกอบรม :
1. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล  วิทยาเขตพระนครใต้ 

โทร. 0 2211  2052 ,0 2211 2056 ,0 2212 5700 – 1

2. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล  วิทยาเขตโชติเวช
โทร. 0 2282 8531-2 , 0 2281 0545

Read More...


category: จุดประกายอาชีพ, อาหารการกิน, แบไต๋อาชีพอิสระสูตร(ไม่)ลับ ในการทำขนมใส่ไส้

 
 
เงินลงทุน :   ครั้งแรกประมาณ 2,500 บาท
รายได้ :   240 บาท/120 ห่อ
วัสดุ/อุปกรณ์ :   เตาแก๊สขนาดเล็ก กระทะทองเหลือง ไม้พาย ลังถึง หม้ออะลูมิเนียม กะละมังอะลูมิเนียม ช้อน กรรไกร ใบตอง ก้านมะพร้าว ไม้กลัด
แหล่งจำหน่าย/วัสดุอุปกรณ์ :   แถวย่านเวิ้งนาครเขษม ร้านขายอุปกรณ์ทำขนมทั่วไป


dessert-saisai01

ขั้นตอนวิธีการทำ :
1. ขั้นตอนทำใส้ขนม
ส่วนผสม
- น้ำตาลปี๊บ 2 ถ้วย
- เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
- มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย 4 ถ้วย


dessert-saisai02

วิธีทำ :      ตั้งกระทะทองเหลืองใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำตาลปี๊บ มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย และเกลือป่นลงไปพร้อมกัน ใช้ไม้พายเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน และแห้งพอหมาด ใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 20-30 นาที จึงจะใช้ได้ จากนั้นตักไส้ขนมขึ้นมาพักไว้ให้เย็นประมาณ 10 นาที แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ ขนาดเล็กกว่าลูกชิ้น ตั้งพักไว้

dessert-saisai03

2. ขั้นตอนการนวดแป้ง
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
- น้ำเปล่า 2 ½ ถ้วย
- น้ำใบเตยคั้น 1 ถ้วย
วิธีทำ :    เทแป้งข้าวเหนียวลงในกะละมังอะลูมิเนียม ตามด้วยน้ำเปล่าและน้ำใบเตยคั้น ลงไปใช้มือนวดแป้งไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะเข้ากันดีกับน้ำใบเตย หากนวดเสร็จแป้งยังแข็งอยู่ ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าเพิ่มไปอีกเล็กน้อย นวดอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แป้งนิ่มขึ้นเวลานำมาห่อใส่ขนมจะห่อได้สะดวก


dessert-saisai04

3. ขั้นตอนการห่อไส้ขนม
หยิบแป้งขึ้นมาพอประมาณ บีบให้แป้งแบออกเป็นแผ่นกลม นำไส้ขนมวางลงบนแผ่นแป้ง บีบ
แป้งให้ปิดไส้ขนมแล้วปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดเท่าลูกชิ้นปิ้ง พักไว้

dessert-saisai05

4. ขั้นตอนทำหน้าขนม
ส่วนผสม
- น้ำกะทิ 2 กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
- เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวจ้าว 3 ถ้วย
- กลิ่นมะลิ 1- 2 ช้อนชา


dessert-saisai06

วิธีทำ :    ละลายแป้งข้าวจ้าวกับน้ำกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ กลิ่นมะลิ ลงในหม้ออะลูมิเนียม ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใช้ไม้พายกวนไปเรื่อย ๆ จนกว่าแป้งจะเหนียวข้นเหมือนกาว

5. ขั้นตอนการห่อขนม
เตรียมใบตอง 2 ขนาด คือ ใบตองชั้นนอก ใช้ทางยาวฉีกกว้างประมาณ 6 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว ใบตองชั้นในใช้ทางขวางฉีกกว้างประมาณ 5 นิ้ว ยาวประมาณ 6 นิ้ว จากนั้นเจียนใบตองชั้นนอกให้เป็นรูปรี ขนาด 5 x 8 นิ้ว และใบตองชั้นในขนาด 4 x 6 นิ้ว ใบมะพร้าว กว้าง 0.5 นิ้ว ยาว 12 นิ้ว ไม้กลัด เมื่อเตรียมอุปกรณ์การห่อเสร็จแล้ว จากนั้น นำใบตองชั้นในวางบนใบตองชั้นนอก โดยให้ด้าน สีอ่อนทั้งสองประกบกัน วางบนมือตักหน้าขนม 1 ช้อนลงบนใบตอง ใส่ไส้ขนมลงไป 1 ลูก ตักหน้าขนม ใส่อีก 1.5 ช้อนโต๊ะ ปิดไส้ขนม แล้วห่อใบตองทางขวางทั้งสองด้านก่อน จากนั้นห่อทางด้านยาวประกบเป็นทรงสูง ใช้ ใบมะพร้าวคาดห่อขนมแล้วกลัดด้วยไม้กลัด นำขนมที่ห่อเสร็จแล้วลงใส่ลังถึง นึ่งประมาณ 15-20 นาที เท่านี้ก็เสร็จ


dessert-saisai07

ตลาดแหล่งจำหน่าย :    ย่านชุมชน ตลาดตอนเช้า
แหล่งฝึกอบรม :   ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร วัดวรจรรยาวาส ถนนเจริงกรุง 72 กรุงเทพฯ โทร 292-0194
ข้อแนะนำ :   ขั้นตอนการทำหน้าขนม ต้องกวนหน้าขนมด้วยความเร็ว ห้ามหยุดมือโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นแป้งข้าวจ้าวจะจับตัวกันแน่น

Read More...


รวยได้ด้วยการทำอาชีพขายอาหารตามสั่ง

 
เงินลงทุน :   ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน) ไม่รวมค่าเช่าร้าน (เตาแก๊สพร้อมถัง 2,000 บาท ตู้กระจก 2,500 บาท โต๊ะวางตู้กระจก 500 บาท โต๊ะ-เก้าอี้ 6 ชุด ประมาณ 3,600 บาท)
เงินลงทุน/ต่อวัน
:   ประมาณ 700 – 4,000 บาท (ขึ้นอยู่กับปริมาณของที่ชื้อ)
รายได้ :   วันละประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป
วัสดุ/อุปกรณ์ :   เตาแก๊สพร้อมถัง โต๊ะ-เก้าอี้ ตู้กระจก โต๊ะวางตู้กระจก หม้อ กระทะ มีด เขียง ตะหลิว ทัพพี จาน ชาม ถ้วย ช้อนส้อม แก้วน้ำ
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :   ตลาด ร้านค้าทั่วไป


food-tamsung01


วิธีดำเนินการ :    หาสถานที่ตั้งร้าน อาจเป็นบ้านของตนเอง (ถ้ามีทำเลที่เหมาะสม อยู่ในแหล่งชุมชน หรือในหมู่บ้านจัดสรร) หรือหาสถานที่สำหรับเช่าทำร้าน เช่น ใกล้สถานที่ราชการ/สำนักงาน มหาวิทยาลัย โรงเรียน ตลาด เป็นต้น ซึ่งขึ้นอยู่กับเงินลงทุนว่ามากน้อยเพียงใด แล้วจึงจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น จัดร้านให้ดูสะอาด งามตา น่านั่ง ตั้งโต๊ะ-เก้าอี้ ให้พร้อม มีอุปกรณ์ใส่เครื่องปรุงรส (น้ำส้ม น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกป่น) วางบนโต๊ะ จากนั้นเตรียมของสดและเครื่องปรุงตามรายการอาหารที่มีอยู่ในเมนูไว้ให้พร้อม ซึ่งโดยทั่วไป ได้แก่ น้ำมันพืช น้ำมันหอย น้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำซอส(ถั่วเหลือง) น้ำตาลทราย เกลือป่น พริกไทยป่น ไข่ไก่ กระเทียม หอมแดง ประเภทผัก ได้แก่ ผักคะน้า ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ข้าวโพดอ่อน แครอท มะเขือเทศ ผักชี ต้นหอม กระเพรา หอมหัวใหญ่ มะนาว มะกรูด ใบโหระพา พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า ประเภทเนื้อสัตว์ ได้แก่ ไก่ หมู กุ้ง ปลาหมึก เนื้อวัว ปลา ผู้ที่จะขายอาหารตามสั่ง ต้องมีความชำนาญในการทำอาหาร สามารถทำได้หลายอย่าง ทำได้อร่อยรสชาติ ถูกปากลูกค้าและทำได้ รวดเร็วคล่องแคล่วกะส่วนผสมได้แม่นยำ และเหมาะสมกับภาชนะที่ใส่ไม่มากหรือน้อยเกินไปและที่สำคัญต้องสะอาด ถูกหลักอนามัย น่ารับประทาน ดังนั้น จึงควรฝึกฝนให้มีความชำนาญในการประกอบอาหารชนิดต่างๆ โดยอาจเข้ารับการฝึกอบรมจากสถานที่ฝึกอบรมต่างๆที่เปิดสอนทดลองทำโดยดูจากตำราอาหาร หรือเริ่มต้นจากการเป็นลูกมือของผู้ที่ชำนาญในการประกอบอาหารมาก่อนและเมื่อมีความชำนาญแล้ว อาจดัดแปลงสูตรอาหารต่างๆ ให้มีรสอร่อยเพิ่มขึ้นได้เอง


food-tamsung02


สถานที่ฝึกอบรม :
1. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครใต้ โทร. 211-2052, 211-2056
2. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตโชติเวช โทร. 281-0545, 282-8531-3
3. สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 942-8460 ต่อ 219-222, 942-8200-45 ต่อ 1336-1339
4. โรงเรียนฝึกอาชีพ กรุงเทพมหานคร โทร. 643-7177-8, 613-7191
5. วิทยาลัยอาชีพทุกจังหวัด


food-tamsung03


ข้อแนะนำ :
1. ผักและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ต้องสด ใหม่ และสะอาด
2. รสชาติของอาหารต้องคงเส้นคงวา เป็นที่ถูกปากลูกค้า
3. ควรมีน้ำแข็งเปล่า น้ำโพลาลิส และน้ำอัดลมไว้บริการลูกค้าตามต้องการ

Read More...


การทำกุนเชียง ไม่ยากอย่างที่คิด…

 
เงินลงทุน :   ครั้งแรกประมาณ 3,500 บาทขึ้นไป (เครื่องบดเนื้อหมู 2,000 – 5,000 บาท)
รายได้ :   ประมาณ 850 บาท/7 กิโลกรัม
วัสดุ/อุปกรณ์ :   เครื่องบดเนื้อหมู มีด เชือกปอหรือเชือกป่าน ถังน้ำและกะละมัง
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :   ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การแปรรูปอาหาร เวิ้งนครเขษม
ส่วนผสม :
- ไส้หมูขม 1 กิโลกรัม
- มันหมูชนิดแข็ง 3 กิโลกรัม
- เนื้อหมู 7 กิโลกรัม
- เกลือ 1.5 ขีด
- น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม
- น้ำยาจีนดองเหล้า 1-2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ขวด


kunchaing01

วิธีทำ :
1. นำไส้หมูขมมาขูดด้วยมีดเอาไขมันหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในไส้ออกให้หมดจนเหลือแต่แกนของไส้ ล้างให้สะอาดในน้ำเกลือแล้วล้างในน้ำสะอาดอีกหลาย ๆ น้ำ จนแกนไส้มีสีขาวนวล จึงนำมาแช่น้ำสะอาดทิ้งไว้ก่อนที่จะกรอกเนื้อหมูใส่


2. นำขาหลังของหมูซึ่งจะมีมันและเอ็นน้อย ทำการเลาะเอามัน เอ็นและหนังออกให้ได้เนื้อหมู 7 กิโลกรัม แล้วนำมาบดด้วยเครื่องบดจนละเอียด

3. นำเนื้อหมูบดปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ซีอิ๊วขาว และน้ำยาจีนดองเหล้า (ซึ่งเป็นน้ำที่ได้จากการหมักยาจีนกับเหล้าขาว ควรดองทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน จนน้ำมีสีแดงเข้มเพื่อทำให้มีกลิ่นหอมและเนื้อหมูนุ่ม) คลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างกับเนื้อหมูจนเป็นเนื้อเดียวกัน

4. นำมันหมูแข็งมาหั่น ซอยเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็ก ๆ ขนาดเล็กกว่านิ้วก้อยเล็กน้อย ผสมลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเนื้อหมูบดที่ปรุงรสแล้ว

5. นำไส้หมูที่เตรียมไว้มามัดปลายด้านหนึ่งด้วยเชือกปอหรือเชือกป่าน แล้วค่อยทยอยใส่เนื้อหมูบดลงไปทีละน้อยจนกุนเชียงมีขนาดและความยาวตามต้องการ จึงมัดปลายอีกด้าน ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนหมดเนื้อหมูบด หรือจะใส่เนื้อหมูบดให้หมดความยาวของไส้หมูเสียก่อน จึงทยอยมัดเชือกแล้วค่อยตัดให้ได้ขนาดตามต้องการก็ได้

6. หลังจากนั้น นำกุนเชียงตากแดดให้แห้ง 2-4 วัน กุนเชียงจะเริ่มมีขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ และมีสีแดงเข้มขึ้นโดยไม่ต้องใส่สี สามารถนำไปจำหน่ายได้

ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ตลาดสดทั่วไป ร้านขายอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ฝากขายตามร้านค้า
สถานที่ฝึกอบรม :   สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครใต้ โทร. 0-2211-2052, 0-2211-2056

ข้อแนะนำ :
1. หากกิจการก้าวหน้า ต้องทำกุนเชียงปริมาณมากขึ้น ควร
ซื้อเครื่องผสมเนื้อหมูบดแทนการใช้มือ เครื่องอัดเนื้อหมูบดเข้าไส้และเครื่องอบกุนเชียง ซึ่งใช้เวลาการอบในเตาเท่า ๆ กับการตากแดด อุณหภูมิประมาณ 50-60 องศา แต่สามารถเก็บกุนเชียงได้นานประมาณ 1 เดือน ถ้าตากแดดจะเก็บไว้ได้ประมาณ 7-10 วัน

2. กุนเชียงที่ดีจะต้องแห้งสนิท ถ้าไม่แห้งจะขึ้นรา

3. นอกจากกุนเชียงที่ทำจากเนื้อหมูแล้ว ยังสามารถทำ “กุนเชียงไก่” ที่ทำจากเนื้อไก่ได้ในกรรมวิธีเดียวกัน

Read More...


จะเริ่มต้นการทำขนมครกขายอย่างไรดี มาดูกัน

 
เงินลงทุน :   ประมาณ 1,000 บาท
รายได้ :   580 บาท/350 คู่
วัสดุ/อุปกรณ์ :   เตาขนมครก ถาดพิมพ์ขนมครกพร้อมฝาครอบ หม้อใส่แป้ง ถ่าน กระทง ใบตอง หรือแผ่นโฟม
แหล่งจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ :   ย่านเวิ้งนาครเขษม ร้านขายอุปกรณ์ทำขนมทั่วไป


kanomklok01

ส่วนผสมแป้ง :
- ข้าวสารเจ้า 1.5 กิโลกรัม
- มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม
- น้ำเดือด 6 ลิตร
- ข้าวสุก 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ :    ผสมข้าวสาร มะพร้าวขูด ข้าวสุก ใส่น้ำเดือดทีละน้อย คนให้ทั่วจนน้ำเดือดหมด ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำไปโม่ให้ละเอียด พักไว้


kanomklok02

ส่วนผสมหน้ากะทิ :
- มะพร้าวขูด 1.5 กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย 5 ขีด
- เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ :   คั้นมะพร้าวให้ได้กะทิ 9 ถ้วย (ใช้น้ำสำหรับคั้น 6 ถ้วย) ใส่น้ำตาล เกลือ คนให้น้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ สำหรับนำไปหยอดหน้าขนมครก

วิธีหยอดขนมครก :    นำถาดพิมพ์ตั้งไฟอ่อน ๆ เช็ดให้สะอาดด้วยน้ำมันพืชเล็กน้อยให้ทั่วทุกหลุม พอถาดร้อนก็ตักแป้งตัวขนมหยอดลงหลุมแต่อย่าให้เต็ม หยอดประมาณ 3 ส่วนก็พอ โดยให้หยอดแบบนี้ประมาณ 3-4 หลุม แล้วหยอดหน้าขนมตาม ทำเช่นนี้จนครบทุกหลุม แล้วปิดฝาไว้ประมาณ 5-8 นาที จึงค่อยเปิดฝา สังเกตขอบขนมครกเริ่มเป็นสีน้ำตาลก็เป็นอันใช้ได้

kanomklok03

ตลาด/แหล่งจำหน่าย :   ย่านชุมชนตอนเช้าตรู่ หรือทำขายหน้าบ้านตอนเช้า
ข้อแนะนำ :
1. ข้าวสารที่ใช้โม่ ควรใช้ข้าวสารเก่าดีกว่าข้าวสารใหม่
2. ขนมครกที่อร่อยต้องมีรสเค็มหวานในตัว
3. เพื่อให้มีหน้าขนมครกหลากหลาย ควรนำ
ฟักทอง เผือก ข้าวโพด ต้นหอม ฝอยทอง มาทำเป็นหน้าขนมครกด้วย
4. ถาดพิมพ์นั้น ถ้าเพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ ก่อนใช้ครั้งแรกให้เช็ดด้วยไข่แดงก่อน แล้วจึงเช็ดด้วยน้ำมันพืช ส่วนครั้งต่อไปใช้น้ำมันพืชอย่างเดียว และเมื่อเลิกขาย ให้เช็ดพิมพ์ให้สะอาด ห้ามล้างโดยเด็ดขาด

Read More...


ร้านถ่ายเอกสาร อีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยม

 
เงินลงทุน :   ประมาณ 70,000 – 150,000 บาท
- เครื่องถ่ายเอกสารมือสอง ราคาประมาณ 60,000 บาท ประสิทธิภาพในการถ่ายเอกสาร ประมาณ 30 แผ่น/นาที เครื่องใหม่ราคาประมาณ 150,000 บาท
- วัสดุ กระดาษถ่ายเอกสารขนาดต่าง ๆ หมึกสำหรับเครื่องถ่ายเอกสาร
อุปกรณ์ :   เครื่องถ่ายเอกสาร กระดาษถ่ายเอกสารขนาดต่าง ๆ หมึกสำหรับเครื่องถ่ายเอกสาร
รายได้ :   เฉลี่ยวันละประมาณ 1,000 – 1,500 บาท (ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งร้าน)


Photocopying01

วิธีดำเนินการ :
1. ทำเลที่ตั้งร้าน ซึ่งควรอยู่ในที่ชุมชน / ใกล้สถานที่ราชการ / ใกล้สถานศึกษา
2. ศึกษาประสิทธิภาพของเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับงานที่ใช้ เพราะประ-สิทธิภาพของเครื่องที่แตกต่างกัน ราคาก็จะแตกต่างกันด้วย
3. ศึกษาวิธีการใช้เครื่องและการแก้ไขเบื้องต้น เมื่อเกิด
ปัญหาระหว่างการใช้งานจากพนักงานของบริษัท ที่ทางร้านได้สั่งซื้อเครื่องถ่ายเอกสาร
4. สั่งซื้อกระดาษถ่ายเอกสารขนาดต่าง ๆ เช่น A4, B4 เป็นต้น


Photocopying02

5. จัดร้านให้ลูกค้าสามารถเห็นเครื่องถ่ายเอกสารได้ชัดเจน หรือติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้เห็นเด่นชัด
6. อัตราค่าถ่ายเอกสาร ให้คิดตามขนาดกระดาษต้นแบบและลักษณะของการถ่ายเอกสาร เช่น
- กระดาษ A4 ราคาแผ่นละ 0.75 -1.00 บาท
- กระดาษ B4 ราคาแผ่นละ 1.50 – 2.00 บาท
- ย่อ ราคาแผ่นละ 2.00 บาท
- ขยาย ราคาแผ่นละ 2.00 บาท
(โดยต้นทุนอยู่ระหว่าง 40 – 50 สตางค์ / แผ่น)


Photocopying03

7. คอยดูแลตรวจสอบเครื่องก่อนการใช้งานทุกครั้ง และหากมีไฟสัญลักษณ์ปรากฏเตือนบนแผงหน้าปัด ควรหยุดใช้งานทันที และตรวจสอบสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นจนไฟสัญลักษณ์นั้นหายไป จึงใช้งานต่อไป

Photocopying04

ข้อแนะนำ :
1. ควรให้บริการที่
รวดเร็วและประทับใจ โดยอาจมีบริการเสริม เช่น รับเข้าเล่ม ทำปกรายงาน หรือรับพิมพ์งานร่วมด้วย
2. เมื่อเริ่มดำเนินกิจการใหม่ ควรใช้เครื่องถ่ายเอกสารมือสอง เพราะจะลดต้นทุนลงได้มาก
3. หากมีทุนไม่พอในการซื้อเครื่องถ่ายเอกสาร อาจใช้วิธีเช่าเครื่องถ่ายเอกสารแทนการซื้อก็ได้ โดยทางบริษัทจะคิดค่าเช่าเป็นรายแผ่น แผ่นละ 80 สตางค์ แต่ควรปรับเพิ่มอัตราค่าถ่ายเอกสารด้วย

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.