สัปดาห์ นี้ผมจะพาเพื่อน ๆไปกินอาหารที่จังหวัดนครสวรรค์ครับ เพราะว่าหลานของผมกลับมาจากเมืองนอก จึงถือโอกาสกลับไปเยี่ยมคุณพ่อ คุณแม่ ของหลาน ผมก็เลยได้ขึ้นไปที่จังหวัดนครสวรรค์กันเพื่อพบปะสังสรรค์และหาอะไรอร่อย ๆ กิน
ปรากฏว่า เฮียฮ้อ พ่อของหลานผมพาไปกินอะไรอร่อย ๆ มากมายเลยครับ ผมก็เลยจะเอามาเขียนให้เพื่อน ๆ ตามไปกินกัน เพราะแต่ละร้านที่เราได้ไปกินมานั้นเป็นร้านที่อร่อยทั้งนั้นเลย เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าผมได้ไปกินอาหารมาตั้ง 5-6 ร้านนะครับ แต่สำหรับอาทิตย์นี้ผมจะเขียนถึง 2 ร้านก่อน
ร้านแรกเป็นร้านอาหารโบราณดั้งเดิมเปิดมาหลายสิบปีได้แล้วครับ ชื่อว่า ร้านโกตา หมูแดงหมูกรอบ ร้านนี้มีอาหารที่น่ากินมาก ๆ คือ มีหมูแดง หมูกรอบ ดูจากขนาดตู้ที่ห้อยหมูกรอบและหมูแดงยังเป็นไม้และมีกระจกกั้น นับว่ายังเป็นร้านที่อนุรักษ์ของเก่าไว้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนบรรยากาศก็เดิม ๆ ครับ มีโต๊ะตั้งอยู่ในร้านเต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรให้สวยงาม พวกผมมากินกันและก็มีความสุขในการกินอาหารร้านนี้มากครับ ที่ร้านเขาทำหมูแดง หมูกรอบแบบโบราณครับ เวลาสั่งจะได้หมูแดงกับหมูกรอบที่อร่อย เพราะหมูแดงจะใช้ส่วนของหมูที่ยังมีมันติดอยู่นิด ๆ แต่ไม่มันจนเกินไปนัก แล้วเขาก็ย่างไม่แห้งจนเกินไปด้วยครับ เมื่อมีคนสั่งเขาก็จะสไลด์ใส่จานมาให้พร้อมกับหมูกรอบที่ทางร้านทำเองเหมือน กัน ลักษณะเกือบจะเหมือนที่ฮ่องกงเลยนะครับ แต่หมูกรอบของบ้านเรานั้น เขาจะสับมาเป็นชิ้นบาง ๆ แต่ที่ฮ่องกงจะชิ้นใหญ่กว่าครับ ผมก็ได้สั่งทั้ง หมูแดง และ หมูกรอบ เลยครับ
จากนั้น มี เครื่องเคียง ซึ่งก็คือ ต้นหอม แตงกวา และมีมะนาวให้ด้วยนะครับ ไม่นานนักทุกคนก็ได้อีกจานหนึ่งเป็นข้าวสวย ส่วนเนื้อหมูแดงและหมูกรอบจะแยกใส่จานมาต่างหาก แล้วยังมีซอสที่เขาทำเองมาให้อีกด้วย โดยซอสเขาก็ไม่เหมือนที่เรากินในกรุงเทพฯ และที่ร้านหมูแดงอื่น ๆ นะครับ เพราะว่าโดยมากแล้วจะมีรสหวาน ๆ มัน ๆ เข้มข้นมาก ๆ แต่ซอสของที่นี่จะเบาบางกว่า ไม่เข้มข้น แต่ยังมีรสชาติที่กลมกล่อมและมีกลิ่นหอมชวนกิน แต่ดูจากลักษณะภายนอกแล้วไม่เข้มข้นเท่าที่ควรครับ เพราะไม่เหมือนที่ผมเคยเห็นมา
ากนั้น สิ่งที่เขาเอามาให้ คือ น้ำปลาพริกพร้อมกับมะนาว ครับ เราก็ตักเนื้อหมูแดงและหมูกรอบ ราดด้วยซอสและเอาน้ำปลาพริกราดและมะนาวบีบลงไปกินกับข้าวรสชาติกลมกล่อมดี ครับ แต่ว่าต้องใส่น้ำปลาพริกนะครับ มิฉะนั้นผมว่าจะไม่ค่อยอร่อย และไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร ตรงนี้คงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย แต่ถ้ากินอย่างผม รับรองอร่อยจริง ๆ ครับ
แล้วก็ตามด้วยแตงกวา ซึ่งคุณแม่ของเจ้าของร้านนั่งหั่นแตงกวาเป็น กองอยู่ตรงนั้นเลยครับ ร้านนี้อร่อยและโบราณมาก ราคาไม่แพงเลยครับ ผมชอบมากเลยเมื่อเข้าไปในร้านนี้ เพราะทำให้รู้สึกว่าผมเป็นเด็กอยู่ครับ เนื่องจากบรรยากาศในร้านเขาทำแบบโบราณ ๆ ทำให้นึกถึงสมัยก่อน
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยแล้วเฮียฮ้อก็พาผมไปที่ถนนสายหนึ่ง ซึ่งมีร้านที่เป็นรถเข็นขายข้าวมันไก่ ที่นี่เป็นร้าน ข้าวมันไก่รถเข็น ที่อยู่ในซอยติดกับถนนใหญ่เลยนะครับ รถเข็นคันนี้ มีสุภาพสตรีเป็นเจ้าของร้าน โดยตั้งเป็นรถเข็นขวางทางอยู่ข้างหนึ่งของซอยแล้วก็มีโต๊ะและร่มตั้งเรียง กันอยู่
สำหรับข้าวมันของเขาหอม ทำได้ไม่มันจนเกินไปนัก ส่วนไก่ต้ม สำหรับผมอาจจะแห้งไปหน่อย ส่วนราคาไม่แพงครับ ที่ร้านนี้ยังมีไก่ทอดด้วยนะครับ เมื่อจะเข้ามากินที่ร้านนี้ทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะชาวบ้านแถวนั้น แต่ชาวบ้านแถวนั้นจะไม่ค่อยนิยมกินที่ร้านกัน ส่วนมากจะซื้อห่อกลับไปกินที่บ้าน เพราะอยู่ใกล้
เมื่อมาถึงร้านแล้วก็ต้องจับจองหาที่นั่งกัน เมื่อได้ที่นั่งแล้วก็สั่งอาหาร พวกเราสั่ง ข้าวมัน สั่ง ไก่ต้ม แล้วก็สั่ง ไก่ทอด มากิน ส่วน น้ำซุป ของที่ร้านนี้ต้องไปตักเอาเองนะครับ ซึ่งเขาจะจัดมุมเอาไว้ให้ เมื่อตักน้ำซุปเสร็จแล้วก็นำมาวางไว้ที่โต๊ะ พออาหารมาเสิร์ฟ เขาจะมีน้ำจิ้มมาให้ทั้งสองอย่าง คือทั้งน้ำจิ้มสำหรับข้าวมันไก่ทอด และน้ำจิ้มสำหรับข้าวมันไก่ต้ม
น้ำจิ้มทั้งสองชนิด เป็นน้ำจิ้มที่แตกต่างกันโดยปริยาย แต่อร่อยทั้งสองอย่างเลยครับ โดยส่วนตัวของผมชอบกินเป็นน้ำจิ้มของข้าวมันไก่ต้ม โดยผมจะกินกับข้าวมันไก่ต้มและก็กินกับข้าวมันไก่ทอดด้วยเลย เพราะว่ามีความเปรี้ยว ความเผ็ดและเข้มข้นมากกว่า ผมคิดว่าน้ำจิ้มข้าวมันไก่ทอดหวานไปหน่อยนะครับ
สำหรับคนที่ชอบกินหวาน ยังมีซีอิ๊วหวานใส่ขวดไว้ให้ รวมทั้ง น้ำปลาและซอสอื่น ๆ อีกด้วยนะครับ มีหลายอย่างมาก ร้านนี้อร่อยครับ ถ้าใครอยากจะไปกินต้องไปแต่เช้าเลยนะครับ แล้วไปนั่งกินที่นั่น เพราะสาย ๆ อาจจะอดกินได้เพราะหมดเร็วพอสมควรครับ
ผมมีความสุขที่ได้กินอาหารอย่างนี้ เพราะเป็นอะไรที่ง่าย ๆ ดีไม่แพง อร่อยสมราคา สมคุณภาพใครไปที่จังหวัดนครสวรรค์ อย่าคิดว่าไม่มีอะไรกินนะครับ อาหารเช้านครสวรรค์มีให้เลือกกินมากมายเลยล่ะครับ.
การชิมหมูแดง หมูกรอบและซอส
อาทิตย์นี้จะขอพูดเรื่องการ ชิมหมูแดง หมูกรอบและซอส ครับ การที่เราจะชิมหมูแดงหรือหมูกรอบให้เป็นนั้น เราควรจะรู้จักลักษณะหมูแดงว่าเป็น
อย่างไร เพราะวิธีการทำหมูแดงของแต่ละร้านไม่เหมือนกันนะครับ แต่ร้านนี้ที่ผมไปชิมนั้น ทำได้ดีมากครับ
ที่เป็นเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะเป็นร้านเก่าแก่มีประสบ การณ์ในการทำ เนื่องจากทำมานานจนเกิดความชำนาญ และรู้หลักการทำหมูแดงอย่างถูกต้อง ถึงทำให้เนื้อหมูแดงข้างนอกยังมีสีแดง ๆ อยู่ แต่ก็มีความแห้งและสุกแล้วนะครับ แต่ว่าข้างในยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ตรงนี้ต้องยอมรับว่ากรรมวิธีในการทำดีมาก รู้ว่าเนื้อหมูแดงที่ดี ที่อร่อยจะต้องทำอย่างไร
เมื่อกัดหมูแดงเข้าไปแล้วจะได้กลิ่นเครื่องหมักที่หมักไว้ และยังได้ความนุ่มนวล รวมทั้งความชุ่มชื้นของชิ้นเนื้อหมูแดง ไม่แห้งผาดเหมือนกินกระดาษทิซชูนะครับ
ส่วนหมูกรอบของที่ร้านนี้นั้น จะชิมให้เป็นจะต้องดูที่ชั้นของมันหมูที่เป็นหมูสามชั้นและสังเกตความกรอบ ด้วยครับ นั่นหมายความว่า ต้องดูบนหนังของหมูกรอบที่เขาทำว่ากรอบและยังมีไขมันอยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ ซึ่งไขมันที่ผมว่านั้นจะต้องเป็นไขมันที่ไม่มากจนเกินไปนัก คือ มีไขมันติดอยู่เล็กน้อยเท่านั้น
ซึ่งร้านนี้เขาทำแบบโบราณครับ ไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย แต่ว่าอร่อยมาก เพราะฉะนั้น ต้องไปชิมกันดูนะครับและก็ลิ้มรสดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร แต่อย่ากินแบบเร็วเกินไปนักนะครับ ต้องเคี้ยวและดูถึงลักษณะเวลาที่หมูกรอบเข้าไปในปากได้รสชาติอะไรบ้างแล้วจะ รู้ว่าอร่อยจริง ๆ ครับ.
เปาะเปี๊ยะหอยนางรม
เครื่องปรุงไส้เปาะเปี๊ยะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- เบคอนหั่นเป็นเส้น ๆ 50 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- กะหล่ำปลีซอย 2 ถ้วยตวง
- แครอทขูดเป็นเส้น 1 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปตั้งให้ร้อน
2. ใส่เบคอนลงไปผัดพอหอม ใส่กระเทียมสับ กะหล่ำปลีซอย แครอทขูดเป็นเส้น ผัดพอสลด
3. ปรุงรสด้วย เกลือป่น พริกไทย ผัดให้เข้ากัน (ไม่ต้องสุก แค่พอผักสลด) ยกออกพักไว้ให้เย็น
เครื่องปรุงหมักหอย
- รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- หอยนางรมสะเด็ดน้ำซับให้แห้ง 200 กรัม
วิธีทำ
1. ในครก นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ มาโขลกรวมกัน
2. ในชามผสม ใส่หอยนางรม และเครื่องที่โขลกไว้ ลงไปหมักไว้ ประมาณ 10 นาที
3. พักไว้เป็นไส้เปาะเปี๊ยะ
เครื่องปรุงเปาะเปี๊ยะทอด
- แป้งเปาะเปี๊ยะ 10 แผ่น
- ไส้เปาะเปี๊ยะที่ผัดแล้ว ตามต้องการ
- หอยนางรมที่หมักแล้ว 200 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำมันพืช สำหรับทอด
- น้ำจิ้มบ๊วย พอประมาณ
- น้ำจิ้มซีฟู้ด พอประมาณ
วิธีทำ
1. นำแผ่นเปาะเปี๊ยะมาวาง ตักไส้ที่ผัดไว้ลงขอบสามเหลี่ยมของแผ่นแป้ง วางหอยนางรมลงไปทับ และพับขอบเข้าหากัน
2. นำไข่ไก่ใส่ถ้วยตีให้เข้ากัน นำไปทาส่วนปลาย ของแป้ง แล้วม้วนให้ปลายติดกับตัวแป้ง
3. นำกระทะใส่น้ำมันตั้งเตาให้ร้อน นำเปาะเปี๊ยะลงทอด พอแป้งสุกเหลือง ตักออกสะเด็ดน้ำมัน
4. จัดเปาะเปี๊ยะที่ทอดแล้วใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มซีฟู้ด
ความรู้คู่ครัว
ทำไมการทอดแผ่นเปาะเปี๊ยะจะต้องใช้ไฟแรงในการทอดเพราะอะไร?
เพราะไม่ต้องการให้หอยสุกเกิน
หมึกแดง
www.mcdangguide.com