สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ข้าวแตนแต่งหน้าสมุนไพร ทำง่าย….กินสะดวก

Pic_90210
ข้าวแตนหน้าพริก เผา และใบมะกรูดที่กำลังได้รับความนิยมมากในขณะนี้.

เพื่อ นำเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นบ้านมาใช้ให้เกิดประโยชน์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโคกสว่าง ตำบลดอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น จึงพัฒนาปรับเปลี่ยนแนวทางการผลิต “ข้าวแตน” ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ ส่งผลให้นั่งนับเม็ดเงินเข้ากระเป๋าได้มากถึงวันละหลายหมื่นบาท…

นาง สายทิพย์ ลามา ประธานกลุ่ม บอกกับ “ทำได้ ไม่จน” ว่า เดิมมีอาชีพทำนาแต่ประสบปัญหาขาดทุนมาตลอด จึงตัดสินใจไปขายแรงงานอยู่ที่แดนปลาดิบ หลังกลับมาได้ซื้อที่ดินในจังหวัดขอนแก่น ตามด้วยสูตร “ข้าวแต๋น” ตามคำแนะนำของแม่สามี แล้วมาลองผิดลองถูกอยู่พักใหญ่ ช่วงแรกทำออกมาได้หน้าเดียวคือ ราดด้วยน้ำตาลเคี่ยว แต่หลายแห่งทำกันอยู่แล้ว จึงส่งขายได้มากบ้างน้อยบ้าง

…กระทั่ง ปีี’43 ทาง สนง.เกษตรอำเภอแวงใหญ่ มาขอพื้นที่จัดทำจุดถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรเรื่องแปรรูปข้าว (ข้าวแตน) ประจำตำบลดอนฉิม และแนะนำให้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็น “วิสาหกิจชุมชน” พร้อมทั้งช่วยพัฒนาการแปรรูป โดยเฉพาะการนำเอา “เถากระพังโหม” หรือท้องถิ่นเรียกว่า “ตดหมูตดหมา” ซึ่งสมุนไพรชนิดนี้มี สรรพคุณด้านแก้ท้องเสีย อืดเฟ้อ จุกเสียด ขับลม ขับปัสสาวะ ในสมัยก่อนนำมาใช้เป็นส่วนผสมทำ “ข้าวเกรียบว่าว” เพื่อให้ข้าวโป่งพองตัวมีความกรุบกรอบแทนผงฟู จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่ม


และ…ผศ.ดร.วิเชียร วรพุทธพร ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งได้รับทุนวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มาช่วยชี้แนะการแต่งหน้าแบบต่างๆ อาทิ หน้าพริกเผา มะม่วงหิมพานต์ หน้ามะกรูด หน้าคอร์นเฟลกส์ สาหร่าย และ งาดำ

ในการทำข้าวแตนของ กลุ่ม สำหรับวัตถุดิบ ที่ใช้ประกอบด้วย เถากระพังโหมที่ซื้อจากสมาชิกราคา กก.ละ 70 บาท นม เกลือ น้ำตาลปีบ น้ำตาลทรายแดง ข้าวเหนียวเก่าเม็ดยาวพันธุ์ กข.6 ที่ทางกลุ่มรับจากโรงสีในหมู่บ้านเป็นการเชื่อมเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนด้าน การใช้วัตถุดิบพื้นบ้านที่ปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซ็นต์

…มาถึงขั้น ตอนกรรมวิธีการผลิต เริ่มจากข้าวเหนียว 1 กก.แช่กับน้ำซาวข้าว แล้วนำผ้าขาวมากรองเอาเฉพาะน้ำ ผสมกับน้ำแตงโมช่วยให้เมล็ดข้าวรัดตัวไม่พองมากเกินไปในสัดส่วนที่เหมาะสม กวนขึ้นรูปเป็นแผ่นขนาดเล็กตากให้แห้งแบบภูมิปัญญาพื้นบ้านด้วยการใช้ สังกะสีปูยกพื้นสูงทำหน้าที่รับความร้อน เอาแผ่นข้าววางบนแคร่ไม้ โปร่งวางบนสังกะสี

แคร่ไม้สำหรับตากแผ่นข้าว.

หาก แดดจัดใช้เวลาผึ่งให้แห้งสนิทเพียง 2 วัน นำมาทอดด้วยน้ำมันบัว เสร็จแล้วตกแต่งหน้าโดยใช้ น้ำตาลไอซิง 8 ขีด ผสม ไข่ขาว 30 ฟอง ตีให้เข้ากันกระทั่งฟู ทาผิวข้าวที่ทอดแล้ว ตกแต่งหน้าต่างๆ อย่าง ใบมะกรูดหั่นฝอยอบแห้ง หรือ “งาดำ” เพื่อ ช่วยเพิ่มแคลเซียม ซึ่งขายดีที่สุดในขณะนี้ นำเข้าตู้อบในอุณหภูมิที่เหมาะสมกระทั่งหน้าเหลือง

…พักให้เย็นแล้วบรรจุใส่ถุงเพื่อรักษาความกรอบพร้อมส่งขาย ซึ่งแต่ละวันจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ ทั้งนี้สูตรดังกล่าวได้ข้าวแตน 300 แผ่น เมื่อถามถึงรายได้ สายทิพย์บอกว่า วันหนึ่งเฉลี่ยที่ 25,000 บาท ยังไม่หักต้นทุนค่าวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์องกลุ่มยังได้การรับรองจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

เมื่อทำได้อย่างนี้แล้วก็ไม่จน เงินใช้อย่างแน่นอน สำหรับใครที่สนใจลิ้มชิมรสข้าวแตนพันหน้าสมุนไพร สามารถกริ๊งกร๊างสอบถามกันได้ที่ โทร.08-7231-7891.

เพ็ญพิชญา เตียว
ข่าวไทยรัฐออนไลน์.

Read More...


ขนมไข่..ไส้ใบเตย ทำง่ายๆขายขึ้นห้าง

Pic_111624
ผลิตภัณฑ์ขนมไข่มีไส้.

ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ รถของนักท่องเที่ยวพุ่งไปที่…ตลาดร้อยปีสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรีอย่างไม่ขาดสาย ที่ตลาดแห่งนี้มี ผลผลิตทางการเกษตรท้องถิ่น มาจำหน่ายอย่างมากมาย ของสดๆที่หาที่ไหนไม่ได้ อย่างเช่น แห้ว กระจับ ฯลฯ

ขนมไข่…ก็เป็นของหวานที่ทำกินกันมานาน แต่ก็ไม่พ้นที่จะนำผลผลิตจากภาคเกษตรพื้นบ้านมาเป็นส่วนประกอบคือ ใบเตย สับปะรด หรือจากไข่ไก่ ที่เรียกว่า สังขยา ใส่เข้าไปเป็นไส้ด้านในเพื่อให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น

ทำได้  ไม่จน  จึงไปสอบถามที่มาของขนมไข่พบกับ นางสุรีย์พร ภรณ์พิริยะนิยม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 4 ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เจ้าของไอเดียขนมไข่มีไส้ ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาทำ ขนมไข่เสริมด้วยไส้หวาน และ ผลไม้นานาชนิด เช่น ใบเตย สังขยา สตรอเบอร์รี่ สับปะรด ลูกเกด เมื่อทดลองชิมพบว่า รสชาติยังหวาน หอมอร่อยมาก…!!

สุรีย์พร ภรณ์พิริยะนิยม 
สุรีย์พร ภรณ์พิริยะนิยม 
 
สุรีย์พร บอกว่า เป็นคนที่ชอบทำขนมมานานแล้ว มีหลากหลายชนิดที่เคยทำกันมา โดยเฉพาะโดนัทจิ๋วก็เคยไปทั่วจังหวัดสุพรรณฯและใกล้เคียง ล่าสุดก็ได้สูตร ขนมไข่มาจากคนเฒ่าคนแก่ในตลาดร้อยปีสามชุก โดยการเตรียมวัตถุดิบประกอบด้วย ไข่ไก่ 10 ฟอง น้ำตาล-ทราย 100 กรัม แป้งสำเร็จรูป 400 กรัม แป้งสาลี 100 กรัม และ น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

สำหรับวิธีทำขนมไทยเป็นไปทีละขั้น ทีละตอน  เริ่มจากตีไข่กับน้ำตาลจนไข่ขึ้นฟู จากนั้นจึงเติมน้ำกับแป้งลงไปตะล่อมเบาๆ จนละลาย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที นำส่วนผสมใส่ในตะแกรงร่อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก เมื่อร่อนเสร็จแล้วตีจนไข่ขึ้นฟูอีกครั้ง

นำส่วนผสมแป้งและไข่ที่ทำ เสร็จไป หยอดลงในแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ เน้นย้ำกันไว้ว่า…อย่าใส่จนเต็มแบบ เพราะเมื่ออบแล้วตัวขนมจะฟูขึ้นอีก ควรใส่ประมาณครึ่งหนึ่งของแบบก็พอ ควรทาน้ำมันบางๆที่ผิวแบบเพื่อไม่ให้ขนมติดกับแบบพิมพ์

จากนั้นนำไป อบ ประมาณ 3 นาทีหรือจนสุก จึงนำออกมาจากเตา แคะขนมออกจากแบบ แล้วใส่ไส้หลากหลายชนิดลงไป ด้วยการบีบไส้ที่อยู่ในขวดให้เข้าไปอยู่ตรงกลางของขนมไข่ แล้วจึงจัดใส่จานเสิร์ฟเปิบแบบสะดวกๆ หรือ นำไปบรรจุภัณฑ์เก็บไว้ได้นาน 5-7 วัน

ขั้นตอนการทำขนมไข่. 
ขั้นตอนการทำขนมไข่. 
 
สุรีย์พร บอกว่า อยากถ่ายทอดความรู้สู่ผู้ว่างงานที่ต้องการทำเป็นอาชีพ หรือรายได้เสริมจากงานประจำ โดยทางห้างบิ๊กซี เทสโก้โลตัส ไม่คิดค่าเช่าให้นำไปจำหน่ายได้ แต่แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ ขายมากให้มาก ขายน้อยก็ให้น้อย ขายไม่ได้ก็ไม่ต้องจ่าย…

…หากคิดคำนวณต้นทุน แล้ว เมื่อขายหมดจะมีกำไรประมาณ 60% ถือว่าเป็นโอกาสและอีกช่องทางที่จะได้ลืมตาอ้าปาก หากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องกันต่อไป…

ใครสนใจไปดูขั้นตอนการทำได้ที่ตลาดร้อยปี สามชุก หรือต้องการความรู้กริ๊งกร๊างหาสุรีย์พร 08-1570-3870 เวลากลางวันสะดวกที่สุด.ไชยรัตน์ ส้มฉุน

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน

Read More...


น้ำพริกขนมจีน ‘กากถั่วเหลือง’ ไขมัน-แคลอรี่ต่ำ เมนูเพื่อสุขภาพ

Pic_113455
ขนมจีนน้ำพริกจากถั่วเหลือง.

ยุคนี้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะ มีปัญหาสุขภาพซึ่งสาเหตุเกิดจากความเร่งรีบ การใช้ชีวิตที่ต้องแข่งขันกับเวลา   รวมทั้งปัจจัยรอบด้าน   อาทิ   สภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัย รวมทั้ง อาหารการกิน
ฉะนี้…อาหารเพื่อ สุขภาพจึงมีออกมาให้เลือกเปิบ มากมายและกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยของสังคมยุคปัจจุบัน และ น้ำพริกขนมจีน ไขมัน-แคลอรีต่ำ นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

นายอัครพล  โพธิ์ศรีทอง 
นายอัครพล โพธิ์ศรีทอง 
 
นายอัครพล โพธิ์ศรีทอง นักศึกษา จากคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (โชติเวช) บอกกับ “ทำได้ ไม่จน” ว่า… น้ำพริกขนมจีนเป็นอาหารไทยโบราณที่ปัจจุบันหารับประทานค่อนข้างยาก ปกติแล้วการทำเมนูดังกล่าวส่วนผสมหลักที่สำคัญคือ น้ำกะทิ ต้องมันข้นถึง จะได้รสชาติที่อร่อยลิ้น แต่นั่นก็ทำให้ คอเลสเทอรอลมีอยู่จำนวนมาก

ดัง นั้น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับผู้บริโภคที่มีปัญหารวมทั้งผู้ที่ “รักษ์ สุขภาพ”   จึงคิดส่วนผสมใหม่   โดยใช้ น้ำนมถั่วเหลือง   ซึ่งอุดมไปด้วยไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินบี 1 และเหล็ก เหมาะ สำหรับเป็นอาหารเสริมของทุกเพศทุกวัย สามารถทำเองได้ง่ายมาทดแทนน้ำกะทิ และใช้ กากถั่วเหลือง ซึ่งเหลือจากการคั้น (เพื่อนำไปทำน้ำเต้าหู้) มาเป็นส่วนผสมของเมนูดังกล่าว

ส่วนผสมน้ำพริกไขมัน-แคลอรีต่ำ. 
ส่วนผสมน้ำพริกไขมัน-แคลอรีต่ำ. 
 
“…การนำน้ำนมและ “กากถั่วเหลือง” แทนกะทิ สำหรับทำน้ำพริก (ราดขนมจีน) นอกจากลดไขมัน-แคลอรีต่ำ ยังเป็นเมนูที่เหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่ม ที่กำลังประสบปัญหาภาวะโภชนาการสูง เพราะการรับประทานอาหารที่ทำมาจากกะทิมากๆส่งผลให้คอเลส-เทอรอลในร่างกายสูง กลายเป็นที่มาของโรคภัยต่างๆ…”

สำหรับส่วนผสมประกอบด้วย น้ำนมถั่วเหลือง 1,500 กรัม เนื้อกุ้งต้มสุก 200 กรัม กากถั่วเหลือง 50 กรัม หอมเผา 30 กรัม กระเทียมเผา 30 กรัม รากผักชีหั่นคั่ว 15 กรัม ข่า 5 กรัม ผิวมะกรูด 5 กรัม กระเทียมสับละเอียด 20 กรัม พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 กรัม น้ำมันพืช 30 กรัม น้ำตาลมะพร้าว 90 กรัม น้ำปลา 60 กรัม น้ำมะขามเปียก 60 กรัม น้ำมะกรูด 30 กรัม


ส่วนขั้นตอนวิธีการทำ   อัครพลบอกว่าไม่ ยุ่งยาก   เริ่มจากโขลกเนื้อกุ้งให้ละเอียดแล้วพักไว้   โขลกพริกแห้ง   หอมเผา   กระเทียมเผา   ข่า   ผิวมะกรูด รากผักชีให้ละเอียด   จากนั้นตั้งกระทะด้วยไฟอ่อนๆเจียวกระเทียมให้เหลืองแล้วตักพักไว้ นำพริกที่โขลกไว้ ลงไปเคี่ยวในน้ำมันที่เหลือพอหอม  ใส่น้ำนมครึ่งหนึ่ง-กากถั่วเหลือง เนื้อกุ้ง คนให้เข้ากัน แล้ว ปรุงรส   ตามด้วยกระเทียมเจียว   เสร็จแล้วเทน้ำนมถั่วเหลืองที่เหลือตั้ง ไปกระทั่งเดือด   เพียงเท่านี้ก็จะได้ น้ำพริกไว้กินกับขนมจีน

นอก จากเป็นการสร้างทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภค ยังเป็นเมนูใหม่สำหรับกลุ่มพ่อค้าแม่ขายที่ต้นทุนไม่สูง ขยันทำขยันขายรับรองว่ามีเงินใช้ไม่จนอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถกริ๊งกร๊างสอบถามรายละเอียดกันได้ที่ โทร.0-2282-4490, 08-1869-6097 ในวันและเวลาที่เหมาะสม.เพ็ญพิชญา เตียว

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย เพ็ญพิชญา เตียว

Read More...


คุมคุณภาพสุก-ดิบสะเต๊ะ ประหยัด..ด้วยปิ้งอัตโนมัติ

Pic_132915

เมื่อวันก่อน ฯพณฯอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นประธานในการเปิดงาน สยามนิทัศน์ 2010 ที่ มหาวิทยาลัยสยาม กรุงเทพมหานคร โดยมี ดร.พรชัย มงคลวนิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม พาประธานพร้อมคณะสื่อมวลชนเดินดูตามบูธของสถาบันต่างๆ

ทีมงาน “ทำได้ ไม่จน” ได้พบกับ ดร.พรชัย มงคลวนิช บอกว่า มหาวิทยาลัยสยามได้สร้างให้นักศึกษาทุกคนแสดงความสามารถและแสดงออกได้อย่าง เต็มที่ โดยในแต่ละคณะจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีคุณวุฒิ คร่ำ หวอดเฉพาะด้าน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกกว้างเพื่อให้ออกไปใช้ชีวิตในการทำงานอย่างมีศักยภาพ และประสิทธิภาพ ล่าสุด ได้ผลิตเครื่องมือต่างๆมากมาย ทั้ง เครื่องทอดเฟรนช์ฟราย เครื่องเฉือนมะนาวอัตโนมัติ และ เครื่องย่างหมูสะเต๊ะ

นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เปิดงานสยามนิทัศน์ 
นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เปิดงานสยามนิทัศน์ 
 
โดยผลงานทั้งหมดเป็นฝีมือทีมงานจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยสยาม เพื่อเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกให้กับพ่อค้าแม่ขายที่คิด ว่าจะขายหมูสะเต๊ะ คือ เครื่องปิ้งหมูสะเต๊ะอัตโนมัติ ซึ่งเป็นผลงานของนักศึกษาปีที่ 4 โดยมี อาจารย์สันติสุข สว่างกล้า ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นผู้ควบคุมดูแล โดยผลงานชิ้นนี้เป็นของ นายเกรียงไกร เกตุแก้ว นายวัฒนชัย ยิ้มย่อง นายอนุพงษ์ ดีอ่ำ และ นายเอกชัย แป้นหาญ

อาจารย์สันติสุข บอกอีกว่า ตอนแรกนักศึกษากลุ่มนี้ได้มาปรึกษาในการทำเครื่องปิ้งอัตโนมัติจึงเห็นว่า เป็นโครงการที่ดี เนื่องจาก คนส่วนมากสามารถสัมผัสได้ และใช้งานได้จริง ไม่ใช่ ทำใช้แค่การทดลอง ทางนักศึกษาจึงเริ่มลงมือทำ…เครื่องปิ้งหมูสะเต๊ะอัตโนมัติ ตัวนี้ใช้การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้เฟืองจานคล้ายการทำงานของ รถจักรยานหมุนรอบได้ด้วยโซ่จักรยาน และ ใช้ฮีตเตอร์ หรือ ขดลวดจำนวน 3 เส้น  เป็นตัวทำ ความร้อน…

เครื่องปิ้งหมูสะเต๊ะ 
เครื่องปิ้งหมูสะเต๊ะ 
 
…กลไกทั้งหมดนี้จะถูกควบคุมด้วย ระบบแม็กเนติกคอนโทรล สามารถปรับความร้อนและความเร็ว ได้ ส่วนตัวโครงสร้างจะเป็นสเตนเลสทั้งตัว เพื่อสะดวกต่อการทำความสะอาด เครื่องตัวนี้ไร้ควัน และมีถาดรองน้ำมันที่ตกลงมาที่พื้น สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้อย่างสะดวก ใช้ไฟฟ้า  3  เฟส  ค่อนข้างใช้ไฟสูง อนาคตกำลังปรับเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าบ้านธรรมดา แต่จะใช้แค่ขดลวดทำความร้อนเพียง 2 เส้น ก็ให้ความร้อนได้อย่างเพียงพอ สามารถประหยัดไฟได้ถึงครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว

สำหรับปริมาณในการ ผลิตหมูสะเต๊ะต่อครั้ง 1 รอบ ใส่หมูสะเต๊ะเสียบไม้แล้วได้ 50 ไม้ จะใช้เวลาในการหมุน รอบตัวเอง 3 นาที เมื่อครบ 3 นาที จะได้หมูสะเต๊ะที่สุกกำลังดี  จากนั้นจะไหลออกมาสู่รางสเตนเลส โดยไม่มีรอยไหม้เกรียม แต่ให้รสชาติที่เหมือนกันและเนื้อนุ่มกว่า ถ้าเปลี่ยนเป็น ลูกชิ้นปิ้ง หมูปิ้ง หรือไก่ย่าง ต้องเพิ่มเวลา ตามความหนาของชิ้นเนื้อนั้นๆ

“…ในส่วน อุณหภูมิความร้อน ที่ใช้อยู่ ประมาณ 200-250 องศา ความร้อนกับรอบในการหมุนของมอเตอร์ต้องสัมพันธ์กัน ในช่วงลองผิดลองถูกกว่าจะได้เนื้อสัตว์ที่สุกกำลังดี… ไม่ไหม้เกินไปหรือดิบเกินไป ในการทดลองก็ต้องใช้หมูไปหลายกิโลเลยที เดียว…” อ.สันติสุข กล่าวและว่า

 

ในตอนแรก ลองผิดลองถูกกันอยู่นานกว่าครึ่งปี เปลี่ยนอะไหล่ไปก็หลายครั้ง เสียเงินค่าอะไหล่ไปจำนวนหนึ่ง จนมาได้ข้อสรุปที่ราคา ต้นทุนประมาณ 25,000 บาท ตอนนี้ทุกอย่างลงตัว สามารถใช้เวลาในการผลิต เครื่องชนิดนี้ได้ภายในไม่เกิน 7 วัน

ใครสนใจไปชิมหมูสะเต๊ะปิ้งด้วยเครื่อง หรือต้อง การเห็นตัวเครื่องจริงๆ…กริ๊งกร๊างได้ที่ อาจารย์ สันติสุข 0-2457-0068 ต่อ 122 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยสยาม ในวันและเวลาราชการ.
ไชยรัตน์ ส้มฉุน

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน

Read More...


แปรรูป…กาแฟโรบัสต้าชุมพร เป็นผลิตภัณฑ์โบราณGMPการันตี

Pic_142796

ต้นปีนี้ (2554) ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพืชสวน เห็นชอบการ พิจารณามาตรการนำเข้าเมล็ดกาแฟ เพื่อใช้ในประเทศภายใต้ afta ปี 2554 โดยให้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) หรือผู้ประกอบธุรกิจแปรรูปกาแฟ และเป็นนิติบุคคลที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดเป็นผู้ดำเนินการ…

ทางคณะอนุกรรมการฯมีวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูป เท่านั้น ห้ามจำหน่ายหรือแจกจ่ายเป็นวัตถุดิบในประเทศ โดยผู้มีสิทธินำเข้าต้องรับซื้อผลผลิตกาแฟภายในประเทศช่วงฤดูกาลถัดไปเป็น ปริมาณ 2 เท่า เพื่อเป็น มาตรการช่วยเหลือให้ เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ…

เอนก จิตตขจรเกียรติ หรือเฮียหนุ่ย. 
เอนก จิตตขจรเกียรติ หรือเฮียหนุ่ย.

กาแฟ…เป็นพืชเศรษฐกิจตัวหนึ่งของบ้านเราแม้ว่าจะไม่ใช่พืชหลัก แต่ก็ทำรายได้กระจายให้กับเกษตรกรปีหนึ่งเป็นจำนวนไม่น้อย เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกได้ในหลายพื้นที่ทั้งในพื้นราบและที่สูง

โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์อราบิก้า (Arabica) ซึ่งปลูกในพื้นที่สูง จังหวัดเชียงราย นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ยกขึ้นมาเป็นนโยบายด้วยการจัดเทศกาล มหัศจรรย์ ดอกกาแฟบานบนดอยฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่เชียงรายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

ชุมพรเป็นจังหวัดหนึ่งที่ปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้ากันมาอย่างยาวนาน มีพื้นที่การปลูกกาแฟประมาณร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ปลูกกาแฟทั้งประเทศ (ราว 300,000 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 40,000 กว่าตันต่อปี) ปัจจุบันมีการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟจังหวัดชุมพร

การผลิตกาแฟของกลุ่มสหกรณ์ยังไม่ครบวงจรของกระบวนการจาก Farm to Cup จึงต้องส่งผลผลิตจากต้นน้ำเข้าสู่การผลิตให้เข้าถึงผู้บริโภค ช่วงที่เป็นช่องว่างของกระบวนการผลิตนี้ นายเอนก จิตตขจรเกียรติ หรือเฮียหนุ่ย จึงเข้ามาเชื่อมต่อ ประสานให้ครบวงจร

ขั้นตอนการคั่วเมล็ด. 
ขั้นตอนการคั่วเมล็ด.

เฮียหนุ่ย เล่าว่า…กิจการกาแฟโบราณได้ฝ่าความจนมา 3 ชั่ว เริ่มจาก คุณปู่ขี่ลิ้ม แซ่จิว เมื่อราวปี 2490 เปิดโรงงานเล็กๆ แถว ซอยจินดาถวิล ถนนสี่พระยา กทม. จากนั้นผ่านมาสู่รุ่น คุณพ่อวรเทพ จิตตขจรเกียรติ รับช่วงกิจการนี้เมื่อปี 2507…

….กระทั่งเมื่อปี 2535 ผมเข้ามาทำเป็นรุ่น 3 จากนั้นกิจการเติบโตเรื่อยมา และจดทะเบียนในรูปแบบบริษัทในชื่อ บริษัทขจรเกียรติกาแฟ จำกัด…แต่ยังคงใช้กรรมวิธีผลิตแบบดั้งเดิม โดยนำผลผลิตเมล็ดกาแฟ สายพันธุ์โรบัสต้า จาก กลุ่มสหกรณ์จังหวัดชุมพร มาเป็นวัตถุดิบประมาณ เดือนละไม่ต่ำกว่า 10 ตัน

ขั้นตอนการผลิตกาแฟ เริ่มจาก นำเมล็ดกาแฟที่ต้องการไปคั่วในเตาอบที่อุณหภูมิอันเหมาะสม  ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง  แล้วเทเมล็ดกาแฟออกจากเครื่องอบกาแฟ ก่อนนำเมล็ดกาแฟที่ผ่านการอบแล้วไปพักไว้ในถังสักพักให้เย็นลงเพื่อรอการ ผสม  ต่อมาให้นำกาแฟที่ผ่านการอบแล้วไปบดให้  ละเอียดตามสูตร  ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่กำหนดตามผู้บริโภค (เปิดเผยได้แต่ต้องเข้ามาเรียนรู้ด้วยตนเอง)

จากนั้นให้ นำกาแฟที่บดแล้วมาผสมกับน้ำตาลทรายขาว และนำไปเคี่ยวให้สุกจนเป็นสีดำ ซึ่ง ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่จะต้องใช้น้ำตาลทรายขาวเท่านั้น เพราะหากใช้น้ำตาลทรายแดงในเวลาต่อมาจะมีรสชาติเปรี้ยวเกิดขึ้นได้ แล้วไปผสมกับธัญพืชต่างๆ เช่น ข้าว, ข้าวกล้อง, ข้าวโพด, ถั่วเหลือง, งา ฯลฯ ตามความต้องการ  จุดเด่นอยู่ที่เป็นของดี  มีสีดำ  ความเข้มข้น  รสชาติดี  และ  ราคาถูก ซึ่งผลิตภัณฑ์จะมีหลายชนิด หลายเกรด รวมแล้วขณะนี้มีถึง 10 สูตร

การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์. 
การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์.

ทิ้งไว้สักพัก ก่อนบรรจุถุง จากนั้นนำผลิตภัณฑ์ที่บรรจุแพ็กเกจ ภายใต้แบรนด์ “กาแฟโบราณมังกรบิน” เตรียมส่งจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ผลิตภัณฑ์นี้นอกจาก ได้รับการการันตีคุณภาพสินค้า  จาก  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  (อย.)  แล้วยังได้รับมาตรฐาน GMP หรือ (Good Manufacturing Practice) ในการผลิตอาหารโดยเน้นการป้องกันและขจัดความเสี่ยงที่อาจจะทำให้อาหารเป็น พิษไม่ปลอดภัยแก่ผู้บริโภคอีกด้วย….นับว่าเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย

ผู้สนใจต้องการไปเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตหรืออยากซดกาแฟโบราณ ก็ติดต่อไปได้ที่ 94/2 ม.4 ซ.กระทุ่มล้ม 27 ถ.พุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม 73220 หรือกริ๊งกร๊างหา เฮียหนุ่ย ได้ที่ 0-2814-1059, 0-2814-1649 เขาพร้อมที่จะถ่ายทอดเป็นวิทยาทาน เพื่อความเจริญรุดหน้าในผลิตภัณฑ์กาแฟโบราณของบ้านเรา…คือฟรี.

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน

Read More...


ตำน้ำพริกผสม..ลูกหม่อน อาหารเป็นยา..ต้านมะเร็ง

Pic_146272

น้ำพริกผสมลูกหม่อน.

หม่อน…เป็นพืชยืนต้นประเภทไม้พุ่มมีเนื้ออ่อน สามารถเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกษตรกรบ้านเรามักจะปลูกหม่อนไว้เพื่อใช้ใบมาเลี้ยงหนอนไหม…
ในทวีปยุโรป เช่น ประเทศออสเตรีย   และ อเมริกาเหนือ มีการปลูกกันอย่างกว้างขวาง และมักจะนำ ผล หรือ ลูก ของต้นหม่อนมารับประทานสด หรือนำแปรรูปเป็นอาหารหลากหลายชนิด เช่น น้ำมัลเบอร์รี่ ไวน์ลูกหม่อน ฯลฯ ส่วนเมืองไทยมี ต้นหม่อนพันธุ์ลูกผสมหลายสายพันธุ์ ที่ผลสามารถรับประทานสดได้ แต่ยังไม่เป็นที่กว้างขวาง

 

น.ส.บุปผา ปะถะมา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จึงได้คิดค้น “น้ำพริกผสมลูกหม่อน” ขึ้น โดยมี ผศ.สุชาดา งามประภาวัฒน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา…
น.ส.บุปผา เล่าว่า น้ำพริก…อาหารที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณรับประทานกันทุกครัวเรือน ทำง่ายเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสีย เพราะมีส่วนประกอบของเครื่องเทศที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ เช่น พริก กระเทียม ปัจจุบันคนไทยหันมารักษาสุขภาพและควบคุมน้ำหนักกันมากขึ้น   จึงเกิดแนวคิด…ตำน้ำพริกมาผสมกับลูกหม่อน
เนื่องจากในผลหม่อนมี…วิตามินเอ บี 1 บี 2 บี 6 วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก กรดโฟลิก สารเควอซิติน และ เคมเฟอรอล ซึ่งเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วย ต้านมะเร็ง อีกทั้งยังมีลักษณะเหมือนกับ น้ำพริกตาแดง เมื่อรับประทานน้ำพริกลูกหม่อนคู่กับผักสดและผักสุก ก็จะได้ สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และ ที่สำคัญเพิ่มรสชาติของน้ำพริกทำให้มีรสเปรี้ยว (ทดแทนมะนาวได้)

ขั้นตอนการทำ 
ขั้นตอนการทำ 
 
สำหรับส่วนผสมประกอบด้วย พริกแห้งเม็ดใหญ่ 27 กรัม กระเทียมซอย 72 กรัม หอมแดงหั่น 38 กรัม เกลือป่น 4 กรัม กะปิจี่ไฟ 15 กรัม ปลาช่อนกรอบป่น 36 กรัม กุ้งแห้งป่น 22 กรัม น้ำตาลปี๊บ 21 กรัม น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ และ ลูกหม่อนสุกบดละเอียด 60 กรัม….
ขั้นตอนการทำเริ่มจาก คั่วพริกแห้งในกระทะด้วยไฟอ่อนให้หอมและกรอบ จากนั้น คั่วกระเทียมและหอมแดงต่อใช้ไฟกลาง โขลกพริกแห้งที่คั่วให้ละเอียดใส่ กระเทียม หอมแดง เกลือ โขลกให้เข้ากัน ต่อมา ใส่กะปิโขลกรวมกันให้ละเอียด แล้วจึงใส่ปลากรอบและกุ้งแห้งโขลกเบาๆให้เข้ากัน ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาล, น้ำปลา ชิมรสให้พอดี
จากนั้นนำ…ลูกหม่อนมาโขลกหรือปั่นให้ละเอียด มาผสมน้ำพริกเข้าด้วยกันแล้วชิมรส ตั้งกระทะใส่น้ำมันไฟปานกลาง พอเริ่มร้อนใส่น้ำพริกที่โขลก ผัดให้หอม ลดไฟอ่อน ผัดสักครู่พอทั่วปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟกับผักสด เช่น แตงกวา ยอดกระถิน
ในการนำลูกหม่อนมาดัดแปลงเป็นเมนูใหม่ๆ ถือเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่รักสุขภาพให้ห่างไกลโรคมะเร็ง ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมส่วนผสมหรือขั้นตอนการปรุง กริ๊งกร๊างหา ผศ.สุชาดา 08-9526-7598 ในวันและเวลาราชการ.

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน

Read More...


แซนด์วิชสเปรด..นมถั่วเหลือง เปิบสะดวก..เพื่อคนรักสุขภาพ

Pic_153123

แซนด์วิชสเปรด…เป็นอาหารประเภทหนึ่งที่นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรือ ของว่างระหว่างมื้อ เพียงแค่ ทาขนมปัง…หรือ แครกเกอร์ ก็รับประทานได้ทันที…ส่วนใหญ่ทำจาก น้ำมันพืช หรือ ผสมไข่แดง…
…จากนั้นผสม ผักดอง ปรุงแต่งรสด้วยน้ำส้ม สายชู, น้ำมะนาว หรือ ผสมแป้งสุกกับเนื้อสัตว์ด้วย ทำให้มี ไขมันไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 โดยน้ำหนัก
ผลิตภัณฑ์แซนด์วิชสเปรด ที่ขายอยู่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงและอุดมไปด้วยคอเล สเทอรอลที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ…อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิด โรคอ้วน หรือ ไขมันในเส้นเลือดสูง ได้ ใน ปัจจุบันผู้บริโภคใส่ใจ เรื่องการรักษาสุขภาพ กันมากขึ้น เรื่องอาหารการกินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ…

แซนด์วิชสเปรดลดไขมัน. 
แซนด์วิชสเปรดลดไขมัน.

ดังนั้น นางสาววราภรณ์ ประเสริฐ นักวิจัยจากฝ่ายกระบวนการผลิตและแปรรูป สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้คิดสูตรการทำ แซนด์วิชสเปรดไขมันต่ำ โดยการลดไขมันและไข่แดง แต่อาจจะทำให้มีปัญหาต่อลักษณะเนื้อสัมผัสและลักษณะทางกายภาพของผลิตภัณฑ์ ได้ จึงจำเป็นต้องมีการ พัฒนาสูตรและเติมส่วนผสมอื่นๆขึ้นมา
นางสาววราภรณ์ บอกว่า แซนด์วิชสเปรดลดไขมัน นี้ ได้พัฒนาสูตรขึ้น เพื่อรองรับเทศกาลอาหารเจ จึงไม่ ผสมเนื้อสัตว์หรือไข่ลงไป ทั้งยังใช้ น้ำนมถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมหลัก กระ-บวนการในการผลิต เริ่มด้วยการนำ น้ำนมถั่วเหลือง น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ แป้งข้าวเจ้า และ มัสตาร์ดมาปั่นเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปให้ความร้อนโดยการตุ๋นผ่านน้ำเดือดจนส่วนผสมมีลักษณะเป็นเนื้อ ครีม  เสร็จแล้ว…เติมผักดองลงไป ซึ่งคือ แตงกวา และ แครอท ขั้นตอนสุดท้ายคือ ทำการบรรจุขณะร้อนลงในขวดแก้วปิดสนิท

 

จากการนำแซนด์วิชสเปรดไขมันต่ำสูตรน้ำนมถั่วเหลือง ไปทดลองในห้องแล็บ และ ให้ผู้บริโภค พบว่าครีมสเปรดลดปริมาณ น้ำมันเหลือเพียง 10% เมื่อหาปริมาณไขมันจากส่วนผสมทั้งหมด เมื่อ เติมผักดองแล้วมีเพียง 16.22% มี พลังงานทั้งหมด 217 Kcal ต่อ 100 กรัม และ สามารถเก็บได้นาน 2 เดือนในตู้เย็น โดยไม่ใส่สารกันบูดหรือวัตถุกันเสีย
แต่เมื่อทดสอบพบว่า…มีปริมาณ เชื้อจุลินทรีย์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และผลจากการทดสอบ ทางประสาทสัมผัส พบว่า ผู้บริโภคมีความชอบต่อลักษณะปรากฏ เช่น สี กลิ่น รสชาติ และ ความชอบโดยรวมไม่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์สดๆ…

 วราภรณ์ ประเสริฐ.

แซนด์วิชสเปรดไขมันต่ำสูตรน้ำนมถั่วเหลือง จึงเป็นเมนูอาหารที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ และยังสามารถทำเองได้ด้วย ซึ่งอาจจะปรับสูตรใส่ผักดองตามที่ชอบ เป็นการเชิญชวนสมาชิกใน ครอบครัวมาช่วยกันทำอาหารก็จะยิ่งสนุกมากขึ้น ผู้ที่ประสงค์จะต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกริ๊งกร๊างหา นางสาววราภรณ์ ที่ 0-2942-8629-35 ต่อ 608 ในเวลาราชการ.


ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน

Read More...


ซีเรียล..จากกากมะพร้าว ขนมอบกรอบ..ขจัดความจน

Pic_154852
 อาจารย์เกศรินทร์ เพ็ชรรัตน์ และกลุ่มนักศึกษา.

“มะพร้าว” สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนตั้งแต่ใบบังแดด ห่อขนม ยอดอ่อน คั่วกะลา ผลเล็กที่ตกหล่นยังสามารถนำมาผลิตชิ้นงานสร้างมูลค่าเพิ่ม ผลบริโภคสดๆคั้นน้ำกะทิแปรรูปทำอาหารทั้งคาว หวาน เคี่ยวทำน้ำมัน
และในห้วงคาบเวลาที่เกษตรกรชาวสวนต้องการ ใช้พื้นที่ปลูกหรือว่าต้นแก่ ให้ผลผลิตน้อย  จนต้องโค่นเอาออก ลำต้นก็ยังสามารถนำมาแปรรูปทำเป็นไม้สร้างที่อยู่อาศัย แต่เวลานี้ราคาผลิตผลนั้นมีมูลค่าค่อนข้างแพง หากซื้อมาคั้นน้ำกะทิ จะมีส่วนที่เหลือคือ “กาก” ที่ส่วนใหญ่มักทิ้งลงถัง

ซีเรียลกากมะพร้าวพร้อมเปิบ. 
ซีเรียลกากมะพร้าวพร้อมเปิบ. 
 
ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มผู้บริโภค กลุ่มนักศึกษาปี 3 พร้อมด้วยอาจารย์เกศรินทร์  เพ็ชรรัตน์  และอาจารย์ดวงรัตน์ แซ่ตั้ง อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จึงร่วมกันคิดค้นสูตรการทำ “ซีเรียลกากมะพร้าว” ขึ้น

อาจารย์เกศรินทร์บอกกับ  “ทำได้ไม่จน” ว่า… กากมะพร้าวเป็นส่วนเหลือใช้จากการคั้นน้ำกะทิ หลายคนมองว่าหมดประโยชน์ ซึ่งจริงแล้วคุณค่ายังคงเหลืออยู่ โดยเฉพาะด้านที่ช่วยทำให้การขับถ่ายคล่อง และเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต ทีมงานจึงร่วมกันคิดค้นสูตรการทำซีเรียลที่ปัจจุบันหลายคนนิยมมีไว้ติดบ้าน เนื่องจากไม่ยุ่งยากต่อการ “เปิบ”

กากมะพร้าวคั่วให้หอมก่อนนำไปผสมเครื่องปรุง. 
กากมะพร้าวคั่วให้หอมก่อนนำไปผสมเครื่องปรุง. 
 
สำหรับกรรมวิธีขั้นตอนการแปรรูปนั้นแสนง่าย ประกอบด้วยกากมะพร้าว 10 เปอร์เซ็นต์ น้ำตาลทราย 6   เปอร์เซ็นต์   แป้งสาลี   45   เปอร์เซ็นต์   น้ำ   28 เปอร์เซ็นต์  นมผง  11  เปอร์เซ็นต์  ส่วนวิธีการทำ  เริ่มจากนำกากมะพร้าวมาคั่วให้เหลืองหอม   เพื่อไล่ความชื้น  โดยใช้ไฟระดับต่ำ   เสร็จแล้วนำมาปั่นให้ละเอียด   เติมน้ำ  น้ำตาล   แป้งสาลี   และนมผงใส่เครื่อง   ปั่นให้ ส่วนผสมทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

 

…นำแป้งที่ผ่านการผสมเอาไปรีดให้เป็นแผ่นบางโดยใช้เครื่องรีดแป้ง จากนั้นจึงเอาไปพิมพ์กดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ออกมารูปแบบต่างๆ ตามต้องการ ก่อนเข้าตู้อบ โดยใช้เวลาที่เหมาะสม เพียงเท่านี้จะได้ซีเรียลเหลืองกรอบน่ารับประทาน…
“ซีเรียลกากมะพร้าว” นอกจากทดแทนการใช้แป้งสาลีลงได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ยังมีส่วนช่วยให้ เนื้อสัมผัสกรอบนุ่มไม่แข็งเกินไป ได้ประโยชน์จากกากใยอาหาร ลดต้นทุนการผลิต มีกลิ่นหอม ที่สำคัญตลาดกลุ่มผู้บริโภคบ้านเรายังไม่มีใครทำกัน ดังนั้น น่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการขจัดความจน สร้างรายได้ ในห้วงเวลาที่ข้าวยากหมากแพง

 

กลุ่มแม่บ้าน คนว่างงาน ที่สนใจสามารถกริ๊งกร๊างสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โทร.0-2281– 9231-4 ต่อ 6201 ในวันและเวลาราชการ.
เพ็ญพิชญา เตียว

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย เพ็ญพิชญา เตียว

Read More...


แปรรูปผลไม้เป็น”ข้าวเกรียบ” เพิ่มวิตามิน-ใยอาหารสร้างรายได้

Pic_129660

ประเทศไทย…เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผักและผลไม้ที่สำคัญจำพวก ทุเรียน ลิ้นจี่ มังคุด ลำไย สับปะรด ฯลฯผลไม้ที่ให้ผลผลิตในฤดูกาล มักจะออกมามากจนล้นตลาด อีกทั้งยังมีปริมาณเกินความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ราคาตกต่ำเกือบทุกปี เกษตรกรที่ลงทุนค่าปุ๋ย ค่ายา เมื่อขายไม่ได้ราคาก็กลายเป็น หนี้กับธนาคารและสถาบันการเงิน…
เกษตรกรหลายรายต้องเข้า…โครงการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร กับทาง สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ถึงหลุดพ้นมาได้
สำนักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลผลิตเกษตร กรมวิชาการเกษตร ได้จัดตั้ง กลุ่มวิจัยและพัฒนาการแปรรูปผลผลิตเกษตรขึ้น โดยทีมงานของ นางสาวชุติมา อัศวเสถียร นางจิตติมา วรรณแก้ว และ นางนารีรัตน์ สุนทรธรรม เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรในการนำผลิตผลมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อ เก็บไว้บริโภคเองหรือจำหน่ายออกสู่ท้องตลาดให้ได้นานกว่าผลไม้สด…

ส่วนผสมของข้าวเกรียบผลไม้ 
 ส่วนผสมของข้าวเกรียบผลไม้

นางสาวชุติมา อัศวเสถียร บอกว่า ผลไม้อุดมไปด้วยใยอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆได้มากมาย แต่ที่เก็บไว้ได้นานที่สุด ปัจจุบันคือ ผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบ ซึ่งเป็นอาหารว่างที่นิยมกันมากในทุกเพศทุกวัย แต่มีคุณค่าทาง โภชนาการค่อนข้างน้อย ทำให้การรับประทานผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ…
“…แนวคิดที่ดี ก็คือ การนำเนื้อ ผลไม้เข้าไปรวมอยู่ด้วย กับส่วนประกอบของ เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ เช่น ปลา กุ้ง ฟักทอง เผือก งาดำ งาขาว และยังมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น พริกไทย เกลือ แป้งมัน น้ำตาล กระเทียม ผงฟู และ น้ำกับเนื้อผลไม้…เพื่อเป็นการ เพิ่มวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารให้กับผู้บริโภค…”

ผลผลิตสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์บรรจุถุง 
ผลผลิตสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์บรรจุถุง

น.ส.ชุติมา บอกถึงขั้นตอนการทำว่า…ให้บดผสมน้ำและเนื้อผลไม้ที่ปั่นละเอียด ให้เข้ากับ เครื่องปรุงรส แล้ว จากนั้นนำไปทำให้เป็นรูปทรงตามต้องการ ก่อนจะเข้าเครื่องนึ่งให้สุก  วางทิ้งไว้ให้อุณหภูมิเย็นลง พอนิ่มแต่ไม่ถึงกับแข็งแห้ง ใช้เครื่องมือตัดให้เป็นแผ่นบางๆ นำไปทำให้แห้งอีกครั้งด้วยแสงแดด หรือวิธีอื่นที่เหมาะสม อาจทอดก่อนบรรจุหรือไม่ก็ได้….
ข้าวเกรียบผลไม้…หากจะมี การเติมกุ้งหรือปลา เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารและรสชาติ แต่จะมีผลต่อ ลักษณะเนื้อของข้าวเกรียบจะทำให้การพองตัวเมื่อทอดลดลง ส่วน ข้าวเกรียบมังสวิรัติเสริมสมุนไพรที่ปริมาณ 3 และ 4% โดยน้ำหนัก จะส่งผลให้ข้าวเกรียบมีคุณภาพด้านสีลดลง
ในการผลิตข้าวเกรียบจากผลไม้ชนิดต่างๆ จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากผลิตผลทางการเกษตร เพื่อการแปรรูปเป็น ผลิตภัณฑ์อาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
…ดีกว่าปล่อยให้ผลไม้เน่าเสียไป….ตามกาลเวลาอย่างไร้คุณค่า…!!!
ไชยรัตน์ ส้มฉุน


ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน

Read More...


ชิฟฟอน..เค้กฟองน้ำ น้ำอ้อยผสมงาดำ..เนื้อนุ่ม

Pic_139407

ชิฟฟอนเค้กสูตรน้ำอ้อยผสมงาดำ.
เค้กชิฟฟอน (Chiffon type cake) หรืออีกชื่อหนึ่ง เค้กฟองน้ำ เป็นเค้กเนื้อโปร่งและนุ่มที่ขึ้นฟู มักนำมาเป็นอาหารว่างในช่วงพักการประชุมสัมมนา…ซึ่งทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบ ติดใจในรสชาติ เมื่อได้เปิบพร้อมกับเครื่องดื่มร้อนและเย็น…
…โดยทั่วไปมีการผลิต ชิฟฟอนเค้ก เพื่อนำมาวางขายในท้องตลาดก็มีมากมายหลายสูตร แต่แม่ค้าบางรายพลิกแพลงดัดแปลงให้เป็นที่น่าสนใจแก่ผู้บริโภค อย่างเช่น สูตรน้ำอ้อยผสมงาดำ…สูตรผสมขนมฝอยทอง ฯลฯ
นางสุรีย์พร ภรณ์พิริยะนิยม หรือ เจ้ปลา จากตลาดอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีความถนัดในการทำขนมหวานมาหลากรสชาติ บอกว่า ชิฟฟอนสูตรน้ำอ้อยผสมงาดำ…เป็นสูตรแปลกพิเศษ ที่ได้ทำขึ้นโดยการคัดสรร ต้นอ้อยสายพันธุ์สุพรรณ 50 ซึ่งเป็นอ้อยที่แก่จัดนำมาคั้นน้ำเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผสมกับงาดำ ซึ่งให้ประโยชน์มีคุณค่าของสารอาหารมากมาย…

 

…เมื่อเริ่มขั้นตอนการเตรียมพิมพ์เค้กชิฟฟอน ไม่ต้องทาไขมัน เพียงรองกระดาษไข  เท่านั้น  ถ้าถาด หรือแบบพิมพ์ทาไขมันให้รองกระดาษโดยไม่ต้องทาไขมันทับ หรือใช้แป้งนวลโรยให้ทั่ว เคาะแป้งที่โรยลงไปออกให้เหลือติดพิมพ์บางๆ ก่อนที่จะใส่ส่วนผสมลงไป
เจ้ปลา…บอกว่า เคล็ดลับเฉพาะเค้กชิฟฟอน ในส่วนผสมของไข่แดง เมื่อผสมกับแป้งและน้ำตาล เกลือแล้ว ช่วงเติมน้ำมันพืช ไข่แดง และของเหลวอื่นๆ  โดยเฉพาะน้ำอ้อยผสมงาดำ  ควรเติมพร้อมกันเพียงทีเดียว จากนั้นนำไปใส่อ่างผสม
หัวตีที่ใช้ตีไข่ขาว ต้องสะอาด ปราศจากไขมัน อ่างที่ใช้ตีไข่ขาว ไม่ควรเป็นสังกะสี เพราะจะทำให้ตีไข่ขาวไม่ขึ้น และไข่ขาวอาจมีสีคล้ำ ในการตีไข่ขาวมากเกินไปจะทำให้เนื้อเค้กแห้ง และ ส่วนไข่ขาวกับไข่แดงผสมกันยากขึ้น

 

วิธีการอบชิฟฟอนหากชั้นเดียว แนะนำให้ใช้ พิมพ์ที่มีปล่องตรงกลาง และไม่ทาไขมัน เพราะการขึ้นฟูของชิฟฟ่อนคือการเกาะจากพิมพ์ด้านข้าง และ ต้อง การทำเค้ก 2 ชั้น แนะนำให้แบ่งเป็น 2 พิมพ์ การอบเค้กชิฟฟอนจะขึ้นฟูอย่างรวดเร็ว และมีปริมาตรสูง เนื่องจากการขยายตัวของเซลอากาศที่เกิดขึ้นจากการตีไข่ขาว และเมื่อปฏิกิริยาของผงฟูได้รับความร้อนจากเตาอบ
นางสุรีย์พร บอกอีกว่า ในการตรวจ เช็กเค้กชิฟฟอนว่าสุกหรือยัง ให้ใช้นิ้วแตะลงบนเค้กแล้วมีความรู้สึกแน่น และรอยนิ้วจะถูกดันกลับขึ้นมา แสดงว่าเค้กอบสุกดีแล้ว เมื่อนำออกจากเตาต้องกระแทกพิมพ์เพื่อไล่ความร้อนบางส่วนออก หรือ คว่ำพิมพ์ลงทันทีเพื่อให้ผิวตอนของเค้กสม่ำเสมอ และนำออกจากพิมพ์ได้ง่าย เท่านี้ก็จะได้เนื้อเค้กชิฟฟอน ที่สามารถนำส่วนผสมอื่นๆ อย่างเช่น ฝอยทอง ฯลฯ
…ชิฟฟอนเค้ก…สูตรแปลกน้ำอ้อยผสมงาดำ สนนราคาเพียงชิ้นละ 10 บาท กล่องละ 11 ชิ้น ขายอยู่ที่ 100 บาท ผลิตภัณฑ์นี้มีการส่งไปให้ องค์การอาหารและยา (อย.) การันตีรับรองคุณภาพอาหารปลอดภัยมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
ใครสนใจไปชิมไปชมหรือต้องการสูตรใหม่ เขาก็จะสอนให้เป็นวิทยาทาน กริ๊งกร๊างหาเจ้ปลา 08-1570-3870 เวลากลางวันสะดวกที่สุด.
ไชยรัตน์ ส้มฉุน

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน

Read More...


หนวดมังกร ขนมอร่อยสมัยราชวงศ์ซ่ง

หลังทราบข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า ห้างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ จัดเทศกาลขนมนานาชาติ World Cultural Sweets ระหว่างวันที่ 14-19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ต่อมสอดรู้สอดเห็นเริ่มทำงาน ว่าขนมแต่ละประเทศจะมีหน้าค่าตาอะไรเด็ดๆ บ้าง 

           ความจริงไม่อยากรู้ขนมของประเทศไหนในโลกอีกแล้ว แค่รู้ว่ามีขนมจากประเทศเกาหลีมาสถิตย์อยู่ในห้างนี้ แทบอยากจะหาประตูโดเรม่อนไปให้ถึงงานนั้นไวๆ เพราะเกิดมาในชีวิตไม่เคยกินมา ก่อน และอยากรู้ว่าขนมเกาหลีอร่อยแค่ไหน เพียงขนมจากประเทศนี้ประเทศเดียว ทำให้ชีวิตไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว

         
 
            เมื่อไปถึงบรรดาผู้ออกร้านทั้งหลายต่างส่งเสียงเรียกลูกค้าให้มาลองชิม หากถูกปากก็ซื้อหาไปกินกัน
           แต่จะว่าไป ขนาดจอมโจรเป็นคนชอบกินขนม แต่พอเห็นขนมหลายๆ ร้านแล้ว กลับรู้สึกว่าไม่มีอะไรโดนใจ เพราะส่วนใหญ่เขาทำสำเร็จมาเลย ไม่มีโชว์หน้าร้าน ทำให้สีสันการกินขนมจืดไป อีกอย่างหัวใจของจอมโจร คงอยู่ที่ร้านขนมร้านนั้น เลยทำให้สายตามืดบอด จนไม่ได้ลิ้มรสจากชาติอื่นๆ 

            ความ จริงขนมเกาหลีเจ้านี้ เขาทำสำเร็จมาแล้วเช่นกัน แต่ที่เลือกซื้อคงเป็นเพราะความอยากส่วนตัว เลยลองซื้อมากินให้สมกับความตั้งใจ 1 กล่อง ราคา 79 บาท กินตั้งแต่ห้างเปิดยันห้างปิด อิ่มชนิดที่ว่าไม่อยากจะกินข้าวอีกเลย 

           

         จะว่าไป ยังมีบ้างบางร้านที่ทำขนมไปขายไป อย่างของประเทศฟิลิปปินส์ แต่ด้วยการสนทนาที่ค่อนข้างจะลำบาก เพราะจอมโจรเป็นอัจฉริยะด้านภาษาอังกฤษติดอันดับโลก จึงไม่สามารถจะสนทนากับเจ้าแม่ฟิลิปปินส์ได้ตลอดรอดฝั่ง ลำพังแค่ถามว่า นี่คือขนมอะไร กว่าจะรู้ก็ หะ หะ หะ กันอยู่หลายเพลา 

           แต่อย่างไรก็ดี มางานนี้ยังไม่เสียเที่ยวซะทีเดียว อย่างน้อยมันยังมีอะไรที่เข้าตาอยู่บ้าง


            "ขนมหนวดมังกรคร้าบบ ขนมอร่อยจากราชวงศ์ซ่ง เจ้าแรกเจ้าเดียวในประเทศไทยคร้าบบบ" ชายหนุ่มรูปร่างท้วมผิวเข้ม ส่งเสียงเรียกลูกค้าด้วยสีหน้าขี้เล่น อีกทั้งมือไม้ทั้งสองยังไม่หยุดวางมือจากก้อนกลมๆ ก้อนนั้น 

           ลูกค้า หลายรายต่างหยุดยืนมองอย่างใคร่รู้ ต่างถามเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งนั้นทำมาจากแป้งอะไร หลังจากก้อนกลมๆ เมื่อครู่ กลายเป็นเส้นด้ายนับพันบนมือเขา

           "ไม่ใช่แป้งครับ เดี๋ยวผมจะเล่นกลให้ดู" ว่าแล้วหนุ่มคนเดิม ก็หันไปบิน้ำผึ้งที่เคี่ยวดีแล้วในกล่องพลาสติกใสเป็นรูปกลมๆ คล้ายลูกบอลเล็กๆ แล้วโยนเข้ามาในถังไม้โอ๊กที่มีแป้งข้าวโพดและแป้งสาลีอย่างแม่นยำ

           จากนั้นเขาหยิบน้ำผึ้งก้อนกลมๆ นั้นขึ้นมาให้ประชาชีที่มาร่วมงานได้เห็น ตอนนี้เขาเสมือนนักมายากลที่ผู้คนต่างกำลังรอคอย

            ตุ๊บ!!
 
            เขายิ้มน้อยๆ ที่ทำให้คนที่มาดูต่างตกใจ

            "ไม่มีอะไรครับ แค่วางมันเบาๆ" เขายิ้มด้วยแววตาขี้เล่นอีกแล้ว

 

เขาจะนวดแป้งหรืออะไรสักอย่างที่ดูคล้ายๆ พวกคาราเมลอ่ะ เหนียวๆ หนืดๆ สีน้ำตาลๆ
 


 
แล้วก็ดึงไปเรื่อยๆ จนเส้นเล็กๆๆ และจำนวนเส้นมากขึ้น น่าจะเป็นวิธีเดียวกับการทำเส้นราเมนอ่ะ พวกเส้นบะหมี่ก็ใช้วิธีนี้ ดึงจนเป็นเส้นเล็กๆ แต่ต้องมีเทคนิคและฝีมือนะ ไม่งั้นขาดและเส้นไปละเอียดพอ
 

 
ดึงจนบางพอก็เอาไปคลุกกับผงแป้ง
 

 
ก่อนจะมาดึงมาพอประมาณ ใส่ไส้ แล้วม้วนๆ เป็นก้อนๆ
 



             หลังจากที่น้ำผึ้งกลายเป็นไหมสีขาวแล้ว หนุ่มร่างท้วมจึงบิดออกเป็นท่อนๆ เพื่อนำไปใส่ไส้ที่ทำมาจากถั่วลิสง อัลมอลล์ และงาขาว แล้วม้วนเก็บไส้ ก่อนบรรจุลงในกล่อง 

              "กล่องละ 50 ซื้อสองกล่องแถมหนึ่งกล่อง" ว่าแล้วเขาก็เปิดการขายหลังจากที่การแสดงจบลง
             ไม่แคล้วผู้คนที่ต่างอึ้ง ทึ่ง เสียวเมื่อครู่ พากันกรูซื้อกันไปชิมยกใหญ่

             "ทานไม่หมดสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือนนะคร้าบ" เขาส่งเสียงบอกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ลูกค้าจะหันหลังออกไป

            สำหรับประวัติของขนมหนวดมังกรนั้น ทางร้านได้นำมาแปะไว้ที่หน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าได้ทราบ มีความว่า ขนมหนวดมังกร เป็นขนมที่มีตำนานมานานกว่า 1000 ปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง ซึ่งในตำนานกล่าวว่าเป็นขนมที่ทำขึ้นมา เพื่อถวายให้กับฮ่องเต้ในราชวงศ์เท่านั้น

           ขนมหนวดมังกรมีกรรมวิธีการผลิตที่เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยโบราณ เริ่มต้นการผลิตด้วยการผสมข้าวมอลล์ แป้งสาลี น้ำผึ้งแท้ คาราเมล สมุนไพรจีน และน้ำตาลกรวด  เคี่ยวผสมเข้าด้วยกันจนได้ที่ หลังจากนั้นเมื่อผสมจนเข้ากันแล้ว ให้ปั้นเป็นลูกกลมๆ คล้ายลูกบอล พร้อมกับนำไปคลุกเคล้ากับแป้งข้าวโพดและแป้งสาลีจนเป็นเนื้อเดียวกัน

            จากนั้นให้ดึงแป้งออกมาเป็นเส้นๆ คล้ายเส้นเชือกพันกันหลายๆ พันเส้น ดึงจนออกมาเป็นเส้นเล็กๆ บางๆ ให้มีลักษณะคล้ายกับหนวดมังกร จากนั้นม้วนเป็นชิ้นๆ แล้วโรยด้วยถั่วลิสง อัลมอลล์ และงาขาว (หรือใส่ไส้รสชาติต่างๆ ลงไป เช่น ไส้มะพร้าวคั่ว ไส้หมูหยอง ฯลฯ ตามต้องการ) จนได้เป็นที่น่ารับประทาน พร้อมเสิร์ฟทันที


           คุณกาญจนา ศิรประภาธรรม Vice President โชคดีติ่มซำ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าหนวดมังกรเจ้าแรก เล่าให้ฟังว่า เพื่อนที่อยู่ปักกิ่งได้มาเที่ยวที่เมืองไทยเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว และได้คิดกันว่าจะทำอะไรขายในประเทศไทยดี ดังนั้นเขาจึงคิดถึงหนวดมังกรนี้ จึงร่วมหุ้นกับเพื่อนได้ประมาณ 2 ปี ก็วางมือไป เพราะในเวลานั้นโชคดีติ่มซำที่เธอดูแลอยู่ยังไม่ลงตัว จึงขอไปทำหน้าที่ดูแล ให้ดีก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านมาจนเธอคิดว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว จึงเริ่มหันมาทำธุรกิจนี้อีกครั้งหนึ่ง

          "เพิ่งจะเร่งเครื่องเมื่อตรุษจีนที่ผ่านมานี้เอง ตอนนี้พยายามไปออกบูธต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักสินค้ามากที่สุด" คุณกาญจนากล่าว

           นอกจากนี้ เธอยังบอกด้วยว่า ถ้าใครสนใจจะให้ไปทำหนวดมังกรนอกสถานที่นั้น สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องสั่งสินค้าประมาณ 3,000 บาท หากให้เดินทางไปทำต่างจังหวัดนั้น ขอบวกค่ารถและค่าที่พัก สนใจติดต่อคุณกาญจนา ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-992-3999, 089-110-9195

           อย่าง ไรก็ตาม ใครที่อยากลิ้มรสของขนมชนิดนี้ สามารถไปซื้อหรือไปดูลีลาการทำขนมชนิดนี้ได้อีกครั้ง ที่เดอะมอลล์ ท่าพระ ระหว่างวันที่ 1-15 ส.ค.ศกนี้
         . . . . . . . . . . .
ปล.  
         ขอขอบคุณ ภาพประกอบจากเว็บไซด์ http://serene.exteen.com/20071113/travel-somewhere-in-hangzhou และ เว็บไซด์ http://talk.edtguide.com/

Read More...


ข้าวห่อใบบัว 4 สูตร สร้างรายได้

ข้าวห่อใบบัว

ข้าวห่อใบบัว

เครื่องปรุง
- ข้าวหุงค่อนข้างสวย 8-10 ทัพพี
- แฮม 100 กรัม
- หมูย่างหั่นบาง ๆ 2 ถ้วยตวง
- กุนเชียงไม่ใส่สีและดินประสิว 2 อัน
- เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่ม 8 ดอก
- ไข่แดงดิบจากไข่เค็ม 4 ลูก
- เม็ดแปะก๊วย(หรือเม็ดบัว) 1 ถ้วยตวง
- น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบบัวปลอดสารพิษ 8-10 ใบ

วิธีทำ
คลุก ข้าวกับน้ำมันงา ซีอิ๊วดำ และซีอิ๊วขาวให้ทั่ว เอาใบบัววางคว่ำลง ตักข้าวที่คลุกไว้ใส่กลางใบบัว
เรียงแฮมที่หั่นแล้ว หมูย่าง กุนเชียง เห็ดหอม และเม็ดแปะก๊วยวางบนข้าว
เอาไข่แดงจะหั่นครึ่งก็ได้หรือจะใช้ทั้งใบก็แล้วแต่วางลงไปตรงกลาง
ห่อใบบัวเป็นสี่เหลี่ยม เอาตอกหรือเชือกกล้วยผูกไว้ นำไปนึ่งในลังถึงนาน 20 นาที

หมายเหตุ
คน ไทยภาคกลางอยู่กับน้ำ ในเมื่อใบบัวใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มก็เอามาห่อข้าวพกไปกินยามเดินทาง
เพื่อความ ง่ายและสะดวก เหมือนกับคนทางเหนือและอีสานที่เอาไม้ไผ่มาหลามข้าวเป็นข้าวหลามพกพาไปกิน
ยามต้องเดินทางไกล สมัยนี้คงจะหาใบบัวที่ปลอดสารพิษมาทำข้าวห่อใบบัวได้ยากเต็มที จึงต้องอนุรักษ์เมนูนี้ไว้

ที่ จริงข้าวห่อใบบัวย่อมมีหลายสูตร ใครจะคิดสูตรไหนมาทำก็คงไม่แปลก
เคยกินข้าวห่อใบบัวที่ออกมาหน้าตาเหมือนกับบ๊ะจ่างเปี๊ยบเลย ผิดกันก็แต่ใช้ใบบัวห่อแทนใบไผ่เท่านั้น ก็อร่อยดี



ข้าวห่อใบบัว

ข้าวห่อใบบัว

ส่วนผสม
* ข้าวกล้องหุงสุกสวยประมาณ 3 ถ้วย
* เห็ดเป๋าฮื้อหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/2 ถ้วย
* หน่อไม้ฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็ก 1/2 ถ้วย
* แปะก๊วยหั่นชิ้นเล็ก 1/2 ถ้วย
* เห็ดหอมแห้งแช่น้ำหั่นชิ้นเล็ก 1/2 ถ้วย
* น้ำมันหอยเจประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันงา 1 ช้อนชา
* เกลือ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทรายอย่างละเล็กน้อย
* แป้งข้าวโพดละลายน้ำเล็กน้อย (จะไม่ใส่ก็ได้)
* ใบบัว 1-2 ใบ

วิธีทำ
1. ตั้ง กระทะใส่น้ำมันพอร้อน ใส่ส่วนผสมผักทั้งหมดลงผัดรวมกัน ไฟแรง ผัดพอผักสลด
ใส่น้ำซุปผักพอชุ่มๆใส่แป้งข้าวผสมน้ำให้พอเหนียว แล้วจึงใส่ข้าวลงผัด ค่อยๆผัดข้าวกับผักให้เข้ากัน
ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำมันงา เกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ชิมรส ผัดจนข้าวแห้ง พักไว้

2. ลวก ใบบัวในน้ำเดือดจนสลด ตักขึ้นพักให้เย็นและแห้งหมาด ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง ตักข้าวใส่ ห่อพับให้เรียบร้อย
จะใช้ไม้กลัดกลัดก็ได้ นำไปนึ่ง 15 นาที ยกขึ้น จะใช้กรรไกรตัดใบบัวหรือเปิดห่อก็ได้ รับประทานร้อน ๆ



ข้าวห่อใบบัว

ข้าวห่อใบบัว

เครื่องปรุง
ข้าวสวย 5 ถ้วย
กุ้งชีแฮ้ 100 กรัม
เนื้อปูแกะนึ่ง 1 ถ้วย
เม็ดถั่วลันตา 1/4 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เม็ดถั่วลันเตา 1/4 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 5 ดอก

วิธีทำ
1. ต่อยไข่ใส่ชาม ใส่เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำมันงา 1 ช้อนชา ตีให้เข้ากัน ตั้งกะทะด้วยไฟกลาง ใส่น้ำมัน 2 ช้อนชา
พอน้ำมันร้อนเทไข่ลงกลอกให้เป้นแผ่นบางทิ้งไว้สักครู่พอสุก ตักขึ้นหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า

2. ล้างกุ้ง แกะเปลือก เด็ดหัวเด็ดหางคลุกด้วยแป้งมัน น้ำมันงา 1 ช้อนชาให้ทั่ว ผัดในน้ำมันถั่วลิสงพอสุก
ตักขึ้นหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า

3. ผัดเนื้อปูกับน้ำมันที่ผัดกุ้ง ใส่หมูแดง เห็ดหอม เนื้อกุ้ง เม็ดถั่วลันเตา ไข่แผ่น ผัดให้เข้ากัน ใส่ข้าวสวยผัดให้ทั่ว

4. ปรุงรสด้วย น้ำตาล พริกไทย ใส่น้ำมันงาที่เหลือ ผัดพอทั่ว
ใส่เหล้าจีน ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ชามทิ้งไว้ให้เย็น

5. ล้างใบบัวให้สะอาด ลวกในน้ำเดือดจัดที่ใส่น้ำมันเล็กน้อย ผึ่งให้แห้ง
ใส่ข้าวที่ผัดตรงกลางใบบัว ห่อเป็นสี่เหลี่ยม มัดด้วยเชือกกล้วย ทำจนหมด
นึ่งข้าวห่อใบบัวในน้ำเดือด ไฟแรง นานประมาณ 15-20 นาที

6. เมื่อจะรับประทาน ใช้มีดกรีดใบบัวเปิดออกให้เห็นข้าวตักใส่จาน แต่งด้วยยอดและดอกโหระพา
รับประทานร้อนๆ



ข้าวห่อใบบัว

ข้าวห่อใบบัว' อาหารมีเสน่ห์-คู่แข่งน้อย

“ข้าวห่อใบบัว” เป็นรูปแบบอาหารดั้งเดิมอย่างหนึ่งของไทยที่กำลังสูญหายไปจากวัฒนธรรมด้านการกิน
เนื่องจากมีกรรมวิธีค่อนข้างมาก แต่เมื่อทำเสร็จออกมาแล้วอร่อยอย่าบอกใคร
ซึ่งใครหลายคนคงพอจะได้เคยลิ้มรสมาบ้างแล้ว ความหอมที่ได้จากใบบัวหลวงนั้นเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ติดใจ
วันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มีอาชีพการทำข้าวห่อใบบัวขาย ซึ่งก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ.....

สุศิมา อัครเดชาเกียรติ เจ้าของร้านข้าวห่อใบบัว ลุงชู พระราม 4 เล่าให้ฟังว่า
เป็นผู้รับช่วงทำธุรกิจขายข้าวห่อใบบัวมาเป็นเวลานานถึง 5 ปีแล้ว
โดยได้รับการถ่ายทอดสูตร-ฝีมือการทำข้าวห่อใบบัวมาจากคุณพ่อ-คุณแม่ของสามี ซึ่งก่อนที่จะมารับช่วงต่อนั้น
เคยทำงานประจำเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
แต่เนื่องจากคุณพ่อของสามีเจ้าของตำรับประสบอุบัติเหตุ ส่วนแม่ก็ต้องคอยดูแลคุณพ่อ ไม่มีคนดูแลร้านต่อ
เธอในฐานะลูกสะใภ้ก็เลยต้องเข้ามาทำตรงนี้แทนอย่างเต็มตัว

“สมัยก่อนคุณพ่อเคยเป็นกุ๊กโรงแรม ก็เลยนำสูตรมาดัดแปลง ปรับรสชาติโน่นบ้างนี่บ้าง
จนกลายเป็นสูตรลับเฉพาะของครอบครัวมานานกว่า 20 ปีแล้ว เมื่อคุณพ่อประสบอุบัติเหตุ
ร้านก็ไม่มีคนดูแลที่สำคัญกลัวว่าสูตรข้าวห่อใบบัวจะสูญหาย ก็ใช้เวลาฝึกนานพอสมควรแม้ทำไม่ยาก
แต่จุกจิกและต้องพิถีพิถัน รวมถึงการเลือกซื้อวัตถุดิบ เช่น ใบบัวหลวง ต้องไม่อ่อน-ไม่แก่เกินไป
ใช้ข้าวเสาไห้ที่ต้องเป็นข้าวเก่า เป็นต้น”

เคล็ดลับความอร่อย สำคัญอยู่ที่เมล็ดข้าว ต้องสุกพอดี อย่าดิบ อย่าแข็งเกินไป
เพราะข้าวห่อใบบัวจะคล้าย ๆ กับบะจ่าง จะต่างกันก็ตรงที่ บะจ่างใช้ข้าวเหนียว

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำก็มี... เตาแก๊ส, กระทะ, ตะหลิว, กะละมังสเตนเลส หลาย ๆ ขนาด, ลังถึงนึ่ง,
มีด, เขียง, ช้อน, ถาด, ไม้พาย ฯลฯ เครื่องมือเครื่องไม้เบ็ดเตล็ดอย่างอื่นก็สามารถหยิบยืมได้จากในครัว

ส่วนผสม
การทำข้าวห่อใบบัวที่สำคัญก็มี... ข้าวขาวเสาไห้, เม็ดบัวต้ม, กุ้งแห้ง, กุนเชียง, เห็ดหอม, เนื้อหมูหมัก,
ไข่แดงไข่เค็ม, น้ำมันพืช และน้ำซอสที่ใช้ผสมข้าว ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว และผงปรุงรส

ขั้นตอนการทำข้าวห่อใบบัว
อันดับแรกเริ่มจากการหมักเนื้อหมู นำเนื้อหมู 5 กก. มาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเท่าแผ่นเกี๊ยว
หมักกับซีอิ๊วขาว 1 ถ้วยครึ่ง, น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม, พริกไทย 6 ช้อนโต๊ะ
ตามด้วยผงปรุงรสเล็กน้อย ทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 3 ชั่วโมง

การเตรียมน้ำซอสปรุงรสที่ใช้ผสมข้าวสวย
ตามสูตรต่อข้าว 5 กิโลกรัม ก็มีส่วนผสมของน้ำมันพืช 1 ขวด, ซีอิ๊วขาวกับซีอิ๊วดำอย่างละ 1 ถ้วยตวง,
น้ำมันหอย 2 ถ้วยตวง และผงปรุงรสนิดหน่อย ผสมให้เข้ากัน
นำข้าวสวยที่หุงเสร็จแล้วใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ กระจายข้าวออก ใส่น้ำซอสที่ปรุงไว้ราดลงไปให้ทั่ว
ทำการคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วโรยกุ้งแห้งลงไปประมาณ 1/2 กก. คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบ
สังเกตดูว่าน้ำซอสกับข้าวเป็นเนื้อเดียวกันดีแล้วก็ใช้ได้ ตั้งพักไว้

การเตรียมส่วนผสม นำไข่แดงของไข่เค็ม 1 ฟองผ่าเป็น 2 ซีก เม็ดบัวนำไปต้มให้สุก
กุนเชียงทอดแล้วนำมาหั่นแฉลบเป็นชิ้นขนาดพอคำ เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่ม
ใบบัวหลวงที่เตรียมไว้ต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที แล้วนำมาผึ่งให้สะเด็ดน้ำ

ขั้นตอนการห่อข้าว
นำข้าวที่ผสมเสร็จแล้วมาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนละครึ่งถ้วย เตรียมไว้ วางใบบัวหลวงซ้อนกันในถ้วย (ห่อละ 2 ใบ)
ใส่เม็ดบัวต้ม 6-7 เม็ดลงไปก่อน ตามด้วยข้าวส่วนที่ 1 (ครึ่งถ้วย), เห็ดหอม, หมูหมัก, กุนเชียง, ไข่เค็ม
แล้วตักข้าวส่วนที่ 2 (อีกครึ่งถ้วย) ปิดท้าย ทำการห่อใบบัวให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมให้แน่น
แล้วนำไปนึ่งในลังถึงที่ตั้งไฟรอจนน้ำเดือด ประมาณ 20 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เวลาจะรับประทานข้าวห่อใบบัว นั้นก็จะนำกรรไกร หรือมีด มาตัดที่ใบบัวเป็นรูปกากบาท เพื่อให้ทานง่าย
โรยต้นหอม หรือผักชี เพื่อความ สวยงามเวลาทานต้องทานคู่กับ น้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งเป็นสูตรของทางร้านนี้
เพื่อเพิ่มรสชาติให้ข้าวห่อใบบัวกลมกล่อมยิ่งขึ้น

น้ำจิ้มซีฟู้ดก็มีส่วนผสมของพริกขี้หนูสด, น้ำตาลทราย, น้ำส้มสายชู และเกลือ
ใครชอบรสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม หรือเผ็ด มากน้อยขนาดไหน ก็สามารถปรุงได้ตามใจชอบ

คุณสุศิมาบอกว่า ราคาขายข้าวห่อใบบัวของร้านจะอยู่ที่ห่อละ 30 บาท ต้นทุนตกประมาณ 60%
และนอกจากที่ร้านจะขายข้าวห่อใบบัวแล้ว ยังมีก๋วยเตี๋ยวหลอดและขนมจีบไว้คอยให้บริการลูกค้า
ซึ่งทางร้านจะมีน้ำซุปบริการให้ทุกวันอาทิตย์ด้วย

ใครที่สนใจจะชิมรสชาติ ข้าวห่อใบบัว ของร้านนี้ ร้านตั้งอยู่ริมถนน พระราม 4 ตรงข้ามโชว์รูมรถบีเอ็มดับเบิลยู
เปิดตั้งแต่เวลา 12.00-01.00 น. หรือถ้าหาร้านไม่เจอก็สอบถามคุณสุศิมาได้ที่ โทร.08-1242-2533
ทั้งนี้ อาหารการกินแบบโบราณหลายอย่างในยุคปัจจุบันหากินยาก
ซึ่งจุดนี้ก็กลายเป็นช่องทางทำกิน ที่มีคู่แข่งน้อยและข้อดีตรงจุดนี้ก็รวมถึงอาชีพทำข้าวห่อใบบัวขายด้วย !!.

เชาวลี ชุมขำ - โสภนา กิตติรัตน์ชัชวาล : รายงาน


แหล่งที่มาข้อมูล เดลินิวส์,Health&Cuisine,
http://utcc2.utcc.ac.th,
http://www.balavi.com


'ข้าวห่อใบบัว'เมนูโบราณสร้างรายได้


สมัย นี้หากจะหาอาหารโบราณรสชาติอร่อยถูกปากอาจจะหายากอยู่สักหน่อย เพราะอาหารโบราณแต่ละอย่างล้วนค่อนข้างมีขั้นตอนยุ่งยากในการทำและต้องพิถี พิถันในการเลือกสรรวัตถุดิบ อย่าง “ข้าวห่อใบบัว” ก็เป็นเมนูโบราณที่หารับประทานยากในยุคปัจจุบัน หากจะรับประทานต้องไปหาซื้อตามแหล่งเฉพาะ หรือตามตลาดที่มีอาหารไทยโบราณ ซึ่งที่ตลาดน้ำบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ก็มีอยู่เจ้าหนึ่ง เป็นสูตรโต๊ะจีนโบราณ และเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา

จากความคิดที่ต้องการอนุรักษ์วัฒนธรรมด้านอาหาร พลิกฟื้นเมนูอาหารไทย-จีน ให้คนรุ่นใหม่รู้จัก ทิพวรรณ สกุลเรืองศรี หรือ “เจ๊อ๊อด” ได้ทำ “ข้าวห่อใบบัว”  สูตรโต๊ะจีน  ออกขาย เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ตลาดน้ำบางคล้าเปิดแรก ๆ ก็มีการสำรวจคนที่จะไปขายของว่าใครจะขายอะไรบ้าง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชมตลาดน้ำบางคล้า และเพราะเธอเป็นคนพื้นเพที่นี่ ก็คิดอยากอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ และเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก พอดีพี่ชายทำธุรกิจรับจัดโต๊ะจีน เมนูอาหารในโต๊ะก็มีข้าวห่อใบบัวเป็นนางเอกรวมอยู่จึงได้ไอเดียตรงนี้มา ประกอบการตัดสินใจ

“ตัดสินใจทำข้าวห่อใบบัวขายทันที ยังไงก็ขายได้ เพราะไม่มีร้านไหนทำขาย คู่แข่งน้อย เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ห่อด้วยใบบัวมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ที่สำคัญไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ เป็นสินค้าที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี ลูกค้าบางคนไม่เคยรู้จักข้าวห่อใบบัวมาก่อน แต่เพราะหน้าตาที่ดูน่ารับประทาน  รสชาติอร่อย จึงบอกปากต่อปากจนมีลูกค้าขาประจำจำนวนมาก รวมถึงนักท่องเที่ยวที่นิยมซื้อคนละหลาย ๆ ห่อเพื่อนำไปเป็นของฝาก สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน  เมื่อจะรับประทานก็เอามาอุ่นในไมโครเวฟ รสชาติเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ หลัก ๆ ก็มี... เตาแก๊ส, กระทะ, ตะหลิว, กะละมังสเตนเลส หลาย ๆ ขนาด, ลังถึงนึ่ง, ถาด และเครื่องมือเครื่องไม้เบ็ดเตล็ดอย่างอื่นที่สามารถหยิบยืมได้จากในครัว

สำหรับวัตถุดิบ-ส่วนผสมในการทำข้าวห่อใบบัว ก็หาซื้อได้จากตลาดสดทั่วไป  หลัก ๆ ก็มี ข้าวขาวเสาไห้, เผือกทอด, เม็ดบัวต้ม, กุ้งแห้งทอด, กุนเชียงทอด, เนื้อหมูหมัก, ไข่แดงไข่เค็ม, น้ำมันพืช, พริกไทย และน้ำซอสที่ใช้คลุกเคล้ากับข้าวสวย มีส่วนผสมของน้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และผงปรุงรส

ขั้นตอนการทำ “ข้าวห่อใบบัว” สูตรโต๊ะจีน เริ่มจากนำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นขนาดตามต้องการ หมักกับซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย  ผงปรุงรส  และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปหมักในตู้เย็นสักครู่

ทำการหุงข้าวเตรียมไว้ นำกุนเชียงไปทอดแล้วหั่น ส่วนไข่แดงไข่เค็มนั้นผ่าเป็นสองซีก ปอกเปลือกเผือกล้างสะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้น นำไปทอดแล้วพักไว้ และกุ้งแห้งนำไปทอดเตรียมไว้ เม็ดบัวก็นำไปต้มเตรียมไว้

เมื่อส่วนผสมทุกอย่างพร้อม ก็นำเอาข้าวที่หุงสุกแล้ว มาคลุกเคล้ากับน้ำซอสปรุงรสให้ทั่ว ตั้งกระทะ พอน้ำมันร้อนนำหมูหมักลงไปผัดให้หอม ตามด้วยข้าวที่เคล้าซอสใส่ลงไปผัดพร้อมกับเผือกทอด กุ้งแห้งทอด และเม็ดบัวต้ม  ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน ปรุงรสให้กลมกล่อมด้วยพริกไทย น้ำตาลและเกลือ เสร็จแล้วยกลง

ต่อไปเป็นขั้นตอนการห่อข้าว วางใบบัวหลวงซ้อนกันในถ้วย (ห่อละ 2 ใบ) จากนั้นเลือกตักส่วนผสมลงไปก่อน เพื่อโชว์ เช่น เนื้อหมู เผือก กุนเชียง กุ้งแห้ง และไข่แดงไข่เค็ม แล้วจึงตักข้าวผัดซอสใส่ตามลงไปปิดท้าย จากนั้นห่อใบบัวให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม ห่อให้แน่น ก่อนจะนำไปนึ่งในลังถึงที่ตั้งไฟรอจนน้ำเดือด ประมาณ 20 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เวลาจะรับประทานข้าวห่อใบบัว ก็จะนำกรรไกรหรือมีดมาตัดที่ใบบัวเป็นรูปกากบาท เพื่อให้ทานง่าย

เคล็ดลับความอร่อย เจ๊อ๊อด บอกว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่เมล็ดข้าวที่สุกพอดี  อย่าดิบ  และอย่าแข็งเกินไป และต้องใส่ใจเรื่องความสะอาด พิถีพิถันทุกขั้นตอนในการทำ ใบบัวที่ใช้ห่อก็ต้องใช้ใบบัวหลวง ทำให้ข้าวมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน

ราคาขาย “ข้าวห่อใบบัว”  ห่อละ 35  บาท มีต้นทุนประมาณ 60%

“ข้าวห่อใบบัว” เจ้านี้ขายที่ตลาดน้ำบางคล้าทุกวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือถ้าเป็นวันธรรมดาก็ไปแวะเวียนเยี่ยมร้านเจ๊อ๊อดได้ที่ บ้านเลขที่ 94/103 หมู่บ้านสุขสมบูรณ์ ต.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา โทร.08-0249-8289 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกกรณีศึกษาการนำเมนูอาหารโบราณมาสร้างรายได้ กลายเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ.


เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง-ภาพ
เดลินิวส์ออนไลน์

Read More...


ผัดเต้าหู้ชะอมหมู อร่อยจังฮู้ เมนูครอบครัว โดย นายเหลือง

วันนี้ขอนำเสนอเพื่อนๆให้ลองไปทำทานดูที่บ้านครับ “ผัดเต้าชะอม” หลายท่านอาจไม่เคยห็นนะ ว่าทานแบบนี้ก็ได้ แต่ที่บ้านผม นี่เห็นเมนูประจำที่ทำทานกัน ง่ายๆ แต่อร่อยครองใจคนในครอบครัว ครับ อยากให้ลอง  แต่เรื่องความ อร่อยและ ความชอบแต่ละบ้านต่างกัน ยืนยันว่า บ้านผม ชอบบบบบบ



เครื่องปรุง
1. เต้าหู้หลอดไข่  1 หลอด
2. พริกแดง เผ็ดปานกลาง
3. กระเที่ยมสด แกะสับหยาบ
4. กระเที่ยมดอง แกะสับหยาบ (กว่า)
5. ผักชะอม เด็ดเฉพาะยอด
6. ซ๊อสปรุงรส
7. น้ำมันหอย
8. หมูสับ
วิธีทำ
เตรียมเต้าหู้ไข่หลอด หั่นพอคำ ชุปแป้งทอดกรอบ ทดจนสุกเหลืองพักไว้ ตั้งกะทะ ใส่น้ำมัน พอร้อน ลงพริกกระเทียมสด ผัดพอหอม  ลงหมูสับ ปรุงรสต่างๆตามชอบ หมูสุก เอาชะอมและเต้าหู้ที่ทอดแล้ว ลงเติมน้ำเล็กน้อยพัดจนน้ำงวด เข้าเนื้อเต้าหู้ ยกลงเสริฟทานร้อนกับข้าวสวย



ตัก ใส่จานทานเป็นกับข้าว หรือราดข้าว ทานกันร้อนๆ ก็อร่อยครับ กลิ่นหอมชะอบและกระเทียมดอง เฉพาะตัว ที่บางคนไม่ชอบบอกว่าเหม็น แต่แหมขอบอกว่าเข้ากั้นเข้ากันครับท่าน..เพื่อน ที่รัก



แบบ ใกล้ๆเลยครับ ^^



อยากให้ลองทำทานกันดู

Read More...


เต้าหู้ แบบแข็ง แบบอ่อน และเต้าฮวย


วิธีทำเต้าหู้อ่อน
ส่วนผสม
-ถั่วเหลือง 300 กรัม ( 3 ขีด)
-เจี๊ยะกอ 1 ช้อนชา ……… สังเกตเต้าหู้อ่อนใช้ “เจี๊ยะกอ”

อุปกรณ์
เครื่องปั่น ผ้าขาวบาง ตะแกรง ถ้วยตวงน้ำ พิมพ์ไม้สี่เหลี่ยม เขียงหรือของหนัก

วิธีทำ
1. เลือกเมล็ดถั่วที่เสียออก ล้างน้ำแล้วแช่น้ำ 3 ชั่วโมง จนเมล็ดถั่วพองและอมน้ำเต็มที่ บี้เอาเปลือกออกให้หมด (ควรใช้ถั่วเหลืองซีก )การแช่ถั่วเหลืองไม่ควรนานเกิน 2-3 ชั่วโมงให้สังเกตว่าพอเม็ดถั่วเริ่มพองอมน้ำเต็มที่ก็จะใช้ได้ ถ้าเราแช่เมล็ดถั่วเหลืองในน้ำนานเกินไปจะทำให้โปรตีนในถั่วจับตัวกันได้ไม่ ดีเท่าที่ควร ( เคร็ดลับนี้ ผมอ่านจากตำรากับข้าวของแม่บ้าน )
2. ใส่ถั่วและน้ำลงในโถปั่น ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด
3. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง (ผ้ากรองเป็นผ้าสังเคราะห์ เขาเย็บเป็นถุงเรียบร้อย ใช้กรองได้ดีกว่า… ถึงดีมากๆ มีขายตามร้านขายของชำ ราคา 100 บาท ครับ )
4. บีบเอาน้ำนมถั่วเหลืองออกให้หมด
5. นำน้ำนมถั่วเหลืองมาต้ม โดยใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง พอเดือดสักครู่ ปิดไฟ ระหว่างต้มคอยคนไปด้วย จะได้ไม่ไหม้ติดก้นหม้อ
6. เทน้ำเจี๊ยะกอลงในหม้อทีละน้อย คนให้เข้ากัน จนโปรตีนถั่วเหลืองจับตัวเป็นก้อน “คล้ายกะทิแตกมัน”
**** ถ้าโปรตีนถั่ว “ไม่ยอมจับตัวเป็นก้อนเล็กๆ” แสดงว่า *ความร้อนไม่พอ* ให้ตั้งไฟให้ร้อนสักพักจะจับตัวเป็นก้อนเล็กๆ ครับ
(ตามตำราเขาใช้ปรอทวัดความร้อน ผมอุตส่าห์ไปซื้อที่ศึกษาภันฑ์มาใช้ แต่ลองทำแล้ว ไม่จำเป็นต้องเครียดขนาดนั้น ถ้ามันร้อนไม่พอ เราก็ตั้งไฟให้ร้อนใหม่ ได้ครับ )
7. ตั้งหม้อทิ้งไว้สักครู่ให้โปรตีนตกตะกอน
8. ตักโปรตีนถั่วเหลืองใส่พิมพ์ไม้ที่รองด้วยผ้าขาวบางจนเต็ม ห่อให้เรียบร้อย
9. ทับด้วยเขียงหรือของหนักๆ ประมาณ 30 นาที จะได้เต้าหู้ (ถ้าไม่ชอบแข็งมาก ไม่ต้องทับก็ได้)
10. นำเต้าหู้ที่ได้ไปนึ่งสักครู่ ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่กล่องที่มีน้ำ ปิดฝาแช่ตู้เย็น
หมายเหตุ เต้าหู้ที่ทำเสร็จ มีกลิ่นรส ความนุ่ม สี อะไรๆ คล้ายกับ “เต้าหู้ดาว” มากครับ พิมพ์ไม้สี่เหลี่ยม ตอนแรกผมยังไม่มี ใช้ตะแกรงพลาสติกสี่เหลี่ยม ที่มีรูๆ ก็ใช้ได้เหมือนกัน ครับ

วิธีทำเต้าหู้แข็ง
ส่วนผสม
1. ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม
2. น้ำดีเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ………. สังเกต เต้าหู้แข็ง ใช้ “ดีเกลือ”
3. น้ำ 4 ลิตร

อุปกรณ์
เครื่องปั่น ผ้าขาวบาง ตะแกรง ถ้วยตวงน้ำ พิมพ์ไม้สี่เหลี่ยม เขียงหรือของหนัก

วิธีทำ
1. เลือกเมล็ดถั่วที่เสียออก ล้างน้ำแล้วแช่ในน้ำร้อน 2-3 ชั่วโมง จนเมล็ดถั่วพองและอมน้ำเต็มที่ บี้เอาเปลือกออกให้หมด
2. ใส่ถั่วและน้ำลงในโถปั่น ครั้งละ 1/3 ของโถปั่น ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียดทำจนหมด
3. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง
4. บีบเอาน้ำนมถั่วเหลืองออกให้หมด
5. นำน้ำนมถั่วเหลืองมาต้ม โดยใช้ไฟกลางค่อนข้างแรง พอเดือดสักครู่ ปิดไฟ ยกลงแช่ในอ่างน้ำประมาณ 10 นาที จนอุณหภูมิ 70-80 องศาเซลเซียส ยกหม้อออก
6. เทน้ำดีเกลือลงในหม้อทีละน้อย คนให้เข้ากัน ใส่น้ำดีเกลืออีก จนข้นและโปรตีนถั่วเหลืองจับตัวเป็นก้อน จนหมดน้ำดีเกลือ
7. ตั้งหม้อทิ้งไว้สักครู่ให้โปรตีนตกตะกอน
8. ตักโปรตีนถั่วเหลืองใส่พิมพ์ไม้ที่รองด้วยผ้าขาวบางจนเต็ม ห่อผ้าให้เรียบร้อย
9. ทับด้วยเขียงหรือของหนักๆ ประมาณ 30 นาที จะได้เต้าหู้แข็ง
10. นำเต้าหู้ที่ได้ไปนึ่งสักครู่จนร้อน ทิ้งไว้ให้เย็น เก็บใส่กล่องที่มีน้ำ ปิดฝา แช่ตู้เย็น

หมายเหตุ อุณหภูมิที่ต้ม 70-80 ซี ตำราเขากำหนดไว้ขนาดนี้  ถ้าน้ำเต้าหู้เราทำปริมาณน้อยๆ อุณหภูมิระดับนี้อาจจะไม่พอ เนื่องจากการระบายความร้อน ทำให้ บางทีน้ำ เต้าหู้ไม่ยอมจับตัว ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ไม่เป็นไร … ยกตั้งไฟให้ร้อนใหม่ หรือร้อนจนน้ำเต้าหู้เริ่มจับตัว ลักษณะเหมือนกะทิแตกมัน ก็ได้ครับ
Nutsawan :
พี่ช่างกล เข้ามาบอกวิธีทำเต้าหู้แล้ว ขอบคุณมากๆๆค่ะ
แต่ก็ยังมีเรื่องที่ต้องการทราบอีกจุดค่ะ พี่ช่างกล ตรงที่ว่า
น้ำเจี่ยกอ (จากหินอ่อน) ทำอย่างไรค่ะ แบบว่า เอาหินมาบ่นให้ละเอียดแล้ว
ใส่น้ำลงไปหรือค่ะ หากเอาหินออกเหลือแต่น้ำอันนี้ใช่น้ำเจียกอ
หรือปล่าว ตรงนี้อยากขอความกระจ่างค่ะเพราะไม่เข้าใจจริงๆ
ขอบคุณค่ะพี่ ^^
ดาวสวรรค์ :
นอกจากจะสงสัยเรื่องเจี๊ยะกอแล้วยังสงสัยดีเกลืออีกซื้อได้ที่ไหนคะ และน้ำดีเกลือทำอย่างไร
ช่างกล :
ตอนนี้ผมซื้อ เจี๊ยะกอ แบบผง เขาป่นละเอียดเสร็จแล้ว
ซื้อที่ร้านเครื่องเบเกอรี่ ที่ตลาดมินบุรี มีขาย เขาขายเป็นกิโล
อย่างน้อย 1/2 กิโล
ถ้าจะซื้อน้อยกว่านี้ ให้เดินไปที่ร้านยา(ร้านเก่าๆ) อยู่ใกล้ๆ สะพาน เขาขายปลีก มีหลายร้านครับ
– เจียะกอ เป็นแท่งๆ ผมก็เคยใช้ ไม่ต้องป่น ใช้มีดค่อยๆขูดจะออกมาเป็นผงขาวๆ เอาไปละลายน้ำเป็นน้ำเจี๊ยะกอ … ไม่ต้องกรอง ใช้ได้เลย ครับ
–ดีเกลือ หาซื้อง่าย ตามร้านขายยาทั่วไปมีขายครับ
แต่ทำเต้าหู้แล้ว เนื้อจะแข็ง เอาไปทำเต้าหู้ทอดไม่อร่อยครับ
——————————–
ยังติดค้าง วิธีทำ เต้าฮวย ยังหาไม่เจอที่จดไว้ครับ
บอกหลักการลองทำดูก่อน
หลักการเหมือนเต้าหู้ แต่ละลายเจี๊ยะกอ เทใส่ชาม (ขนาดชามก๋วยเตี๋ยว) เตรียมไว้ก่อน
ในระหว่างนั้น เราก็เอาน้ำเต้าหู้ ตั้งไฟให้ร้อนจนเดือด
ก็ตักมาเทลงในชาม ต้องเทสูงๆ เพื่อให้น้ำเต้าหู้ลงไปผสมกับน้ำเจ๊ยะกอ เสร็จแล้ว ห้ามเคลื่อนย้ายชาม ปล่อยไว้สักพัก จะกลายเป็นเต้าฮวย
ลักษณะเป็นเต้าหู้อ่อน คล้ายๆ เต้าหู้นางพยาบาล จะเอาไปทำแกงจืดหมูสับก็ได้
ประโยชน์ทางหนึ่ง
เต้าฮวยมีเคลเซียมสูง (อยู่ในเจ๊ยะกอ) ช่วยเสริมเคลเซียมให้ร่างกายด้วยครับ
ภาพประกอบจาก http://bangkok-guide.z-xxl.com/?p=2378

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.