“ความคิดสร้างสรรค์” นอกจากความช่างสังเกตแล้ว
การรู้จักมองหาวัตถุดิบในพื้นที่มาใช้ก็ยังเป็นอีกเคล็ดลับหนึ่งที่ใช้ได้ดี
ยิ่งนำเรื่องราวทางวัฒนธรรมมาสร้างจุดขาย ผสมเข้ากับรสชาติเฉพาะด้านด้วย
ก็มีโอกาสที่จะสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้าได้ไม่ยาก อย่างเช่น
’เค้กสับปะรด“ ของ “ธนิดา จตุรพรชัย” ที่เป็นของดีเมืองประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งทีม ’ช่องทางทำกิน“ จะนำเสนอในวันนี้...
ธนิดา เจ้าของสูตรเค้กสับปะรดโกลเด้นซู เล่าว่า เค้กสับปะรดที่ทำอยู่นี้เป็นสูตรตกทอดมาจากครอบครัว แต่นำมาปรับให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น โดยนอกจากจะเป็นขนมทานเล่น หรือเป็นของฝากแล้ว ด้วยชื่อที่เป็นมงคลทั้งคำว่า “โกลเด้น” ที่แปลว่าทองในภาษาอังกฤษ กับคำว่า “ซู” ที่แปลว่ากรอบนุ่มในภาษาจีน รวมถึงในภาษาจีนฮกเกี้ยนก็มีคำเรียกวัตถุดิบหลักที่นำมาใช้อย่างสับปะรดว่า “อ่องหลาย” ที่แปลว่าโชคดีเข้ามา ทำให้เค้กสับปะรดเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ในเทศกาลสำคัญอีกด้วย
“เป็นสูตรต้นตำรับของครอบครัว เป็นขนมสูตรฮกเกี้ยน แต่ปรับปรุงสูตรเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับปัจจุบัน โดยเฉพาะการปรับสูตรให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ” ธนิดา เจ้าของสูตรขนมเค้กสับปะรดกล่าว
แม้จะเป็นของทานเล่น แต่ถูกเพิ่มค่าด้วยการชูจุดเด่นเป็น “ขนมสุขภาพ” ด้วยการนำวัตถุดิบอย่าง “แป้งข้าวกล้องงอก” มาทดแทนวัตถุดิบเดิมอย่างแป้งสาลี อีกทั้งส่วนผสมอย่างน้ำตาลก็เปลี่ยนมาใช้น้ำผึ้งออร์แกนิคแทน ทำให้ได้เค้กสับปะรดตามสูตรปรับปรุงในแบบฉบับของเธอ นอกจากอร่อยยังแฝงด้วยคุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้นด้วย...
ธนิดา เจ้าของสูตรเค้กสับปะรดโกลเด้นซู เล่าว่า เค้กสับปะรดที่ทำอยู่นี้เป็นสูตรตกทอดมาจากครอบครัว แต่นำมาปรับให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น โดยนอกจากจะเป็นขนมทานเล่น หรือเป็นของฝากแล้ว ด้วยชื่อที่เป็นมงคลทั้งคำว่า “โกลเด้น” ที่แปลว่าทองในภาษาอังกฤษ กับคำว่า “ซู” ที่แปลว่ากรอบนุ่มในภาษาจีน รวมถึงในภาษาจีนฮกเกี้ยนก็มีคำเรียกวัตถุดิบหลักที่นำมาใช้อย่างสับปะรดว่า “อ่องหลาย” ที่แปลว่าโชคดีเข้ามา ทำให้เค้กสับปะรดเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ในเทศกาลสำคัญอีกด้วย
“เป็นสูตรต้นตำรับของครอบครัว เป็นขนมสูตรฮกเกี้ยน แต่ปรับปรุงสูตรเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับปัจจุบัน โดยเฉพาะการปรับสูตรให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ” ธนิดา เจ้าของสูตรขนมเค้กสับปะรดกล่าว
แม้จะเป็นของทานเล่น แต่ถูกเพิ่มค่าด้วยการชูจุดเด่นเป็น “ขนมสุขภาพ” ด้วยการนำวัตถุดิบอย่าง “แป้งข้าวกล้องงอก” มาทดแทนวัตถุดิบเดิมอย่างแป้งสาลี อีกทั้งส่วนผสมอย่างน้ำตาลก็เปลี่ยนมาใช้น้ำผึ้งออร์แกนิคแทน ทำให้ได้เค้กสับปะรดตามสูตรปรับปรุงในแบบฉบับของเธอ นอกจากอร่อยยังแฝงด้วยคุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้นด้วย...
ทุนเบื้องต้น ในการทำขายเป็นอาชีพ ใช้เงินลงทุนประมาณ 50,000 บาท
ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 50% จากราคาขาย โดยราคาขาย 1 กล่องมี 6 ชิ้น
ขายราคา 120 บาท
อุปกรณ์ในการทำ ประกอบด้วย เครื่องตีส่วนผสม, เตาอบ, แม่พิมพ์ใส่เค้ก, ถาด, กระทะ และอุปกรณ์ครัว อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำขนม อาทิ ไม้พาย, ช้อนตวงส่วนผสม, ถ้วยหรือเหยือกสำหรับปรุงส่วนผสม
ส่วนผสม “ตัวเค้ก” ประกอบด้วย แป้งข้าวกล้องงอก 5 ถ้วย, เนยเค็ม 150 กรัม, ไข่ไก่ 3 ฟอง, ผงฟู 1 ช้อนชา และผงไอซิ่ง 1 ถ้วย ขณะที่ในส่วนของ “ไส้สับปะรด” ส่วนผสมประกอบด้วย เนื้อสับปะรด 1 กิโลกรัม และน้ำผึ้ง 1 ถ้วย ส่วนผสมตามสูตรนี้ สามารถทำได้ 50 ชิ้น
ขั้นตอนการทำเนื้อเค้ก เริ่มจากนำแป้งข้าวกล้องมาผสมเข้ากับผงฟู ทำการตีผสมให้เข้ากันด้วยเครื่องตี เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วนำมาตั้งทิ้งไว้สักพัก หันมานำเนยเค็มและผงไอซิ่งผสมให้เข้ากัน ตีด้วยเครื่องตีจนส่วนผสมขึ้นเนื้อฟูจึงหยุด ทำการปาดด้วยไม้ปาด เติมไข่ไก่ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำจนส่วนผสมเข้ากันจึงหยุด จากนั้นเติมแป้งข้าวกล้องงอกลงไป ตีส่วนผสมอีกครั้งด้วยความเร็วต่ำจนแป้งเข้ากันดีกับส่วนผสม เติมน้ำสะอาดลงไปเล็กน้อย ตีจนเข้ากันอีกครั้ง
ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำไส้สับปะรด นำเนื้อสับปะรดมาทำการยีให้ละเอียด เติมน้ำผึ้งลงไปตามสัดส่วนที่ได้ตวงไว้ ทำการกวนเนื้อสับปะรด เมื่อได้ไส้สับปะรดกวนแล้ว นำแป้งที่เตรียมไว้มาทำการห่อกับไส้สับปะรด แล้วนำเค้กที่ได้ใส่ลงแม่พิมพ์เค้กที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบ ตั้งอุณหภูมิประมาณ 250 องศาเซลเซียส อบประมาณ 15 นาที จึงนำออกจากเตาอบ ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ “เค้กสับปะรด”
“ด้วยความที่เป็นขนมสุขภาพ จึงไม่มีการเติมสารกันเสียหรือใส่สารกันบูด แต่ขนมก็มีอายุการเก็บได้นาน โดยสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 3 เดือน” ธนิดา เจ้าของสูตรกล่าว
ใครสนใจ ’เค้กสับปะรด“ รูปแบบนี้ ต้องการติดต่อ ธนิดา จตุรพรชัย
ติดต่อได้ที่ โทร. 08-9837-7944 หรือเฟซบุ๊ก
www.facebook.com/pages/พันตา-Punta-Pineapple-Cake
ซึ่งใครที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ก็สามารถเปิดเข้าไปดูหรือสอบถามกันได้ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมทำเงิน
เป็นอีก ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าสนใจ...อุปกรณ์ในการทำ ประกอบด้วย เครื่องตีส่วนผสม, เตาอบ, แม่พิมพ์ใส่เค้ก, ถาด, กระทะ และอุปกรณ์ครัว อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำขนม อาทิ ไม้พาย, ช้อนตวงส่วนผสม, ถ้วยหรือเหยือกสำหรับปรุงส่วนผสม
ส่วนผสม “ตัวเค้ก” ประกอบด้วย แป้งข้าวกล้องงอก 5 ถ้วย, เนยเค็ม 150 กรัม, ไข่ไก่ 3 ฟอง, ผงฟู 1 ช้อนชา และผงไอซิ่ง 1 ถ้วย ขณะที่ในส่วนของ “ไส้สับปะรด” ส่วนผสมประกอบด้วย เนื้อสับปะรด 1 กิโลกรัม และน้ำผึ้ง 1 ถ้วย ส่วนผสมตามสูตรนี้ สามารถทำได้ 50 ชิ้น
ขั้นตอนการทำเนื้อเค้ก เริ่มจากนำแป้งข้าวกล้องมาผสมเข้ากับผงฟู ทำการตีผสมให้เข้ากันด้วยเครื่องตี เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วนำมาตั้งทิ้งไว้สักพัก หันมานำเนยเค็มและผงไอซิ่งผสมให้เข้ากัน ตีด้วยเครื่องตีจนส่วนผสมขึ้นเนื้อฟูจึงหยุด ทำการปาดด้วยไม้ปาด เติมไข่ไก่ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำจนส่วนผสมเข้ากันจึงหยุด จากนั้นเติมแป้งข้าวกล้องงอกลงไป ตีส่วนผสมอีกครั้งด้วยความเร็วต่ำจนแป้งเข้ากันดีกับส่วนผสม เติมน้ำสะอาดลงไปเล็กน้อย ตีจนเข้ากันอีกครั้ง
ต่อมาเป็นขั้นตอนการทำไส้สับปะรด นำเนื้อสับปะรดมาทำการยีให้ละเอียด เติมน้ำผึ้งลงไปตามสัดส่วนที่ได้ตวงไว้ ทำการกวนเนื้อสับปะรด เมื่อได้ไส้สับปะรดกวนแล้ว นำแป้งที่เตรียมไว้มาทำการห่อกับไส้สับปะรด แล้วนำเค้กที่ได้ใส่ลงแม่พิมพ์เค้กที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบ ตั้งอุณหภูมิประมาณ 250 องศาเซลเซียส อบประมาณ 15 นาที จึงนำออกจากเตาอบ ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำ “เค้กสับปะรด”
“ด้วยความที่เป็นขนมสุขภาพ จึงไม่มีการเติมสารกันเสียหรือใส่สารกันบูด แต่ขนมก็มีอายุการเก็บได้นาน โดยสามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 3 เดือน” ธนิดา เจ้าของสูตรกล่าว
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
Read More...