สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

101 เมนูซูชิ part 1



ซูชิเป็นอาหารชื่อดังของญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย หลายคนคงเคยได้กินซูชิมาแล้ว ซูชินิยมใช้อาหารทะเลสดๆ หั่นหรือแล่เป็นแผ่นบาง จัดวางอย่างสวยงาม ขนาดพอดีคำเพื่อรสสัมผัสที่อร่อยและดูน่าทาน การปั้นซูชิและการจัดวางซูชิเพื่อเสิร์ฟให้ลูกค้าถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ทั้งนี้เพราะซูชินิยมใช้อาหารทะเลหรือเนื้อสัตว์สดๆมาทำ ถ้าทำไม่ดีหรือใช้ของไม่สดจะทำให้ดูไม่น่ากินและรสชาติแย่ ซูชิมีชื่อเรียกตามวัตถุดิบและรูปร่าง มาดูกันซิว่าซูชิทั้ง 101 อย่างมีอะไรบ้าง
1. ข้าวปั้นหน้าปลามากุโร่, มากุโร่ นิกิริ (Maguro Nigiri)



ข้าวปั้นหน้าปลาทูน่าเนื้อแดง ใช้ปลาทูน่าทุนนัส (Thunnus Tuna) หรือ ปลาทูน่าครีบเหลือง เนื้อแดงไขมันต่ำ เป็นปลาทูน่าพันธุ์เล็ก

2. ข้าวห่อสาหร่ายไส้แตงกวา, กัปปะมากิ (Kappa Maki)


มากิก็คือข้าวห่อสาหร่าย ส่วนที่เรียกว่ากัปปะเพราะว่า ตัวกัปปะปิศาจชนิดหนึ่งของญี่ปุ่นชอบกินแตงกวา

3. ข้าวปั้นซูชิหน้าปลาแซลมอน, ซาเกะนิกิริ (Sake Nigiri)



4. ข้าวห่อสาหร่ายหน้าไข่ปลาแซลมอน (Ikura Gukan)


5. ข้าวปั้นซูชิหน้าปลาทูน่า (Toro)


โทโร่เป็นเนื้อส่วนท้องที่มีไขมันเยอะของปลาทูน่าครีบน้ำเงินหรือปลาทูน่ายักษ์

6. ข้าวปั้นซูชิหน้าไข่หอยเม่น, อุนิ (Uni)


จริงๆ แล้วอุนิไม่ใช่ไข่หอยเม่นแต่มันคืออัณฑะหรือรังไข่ของหอยเม่น

7. ข้าวปั้นซูชิหน้ากุ้งแบบดิบ, อามะเอบิ นิกิริ (Amaebi)


8. ข้าวปั้นซูชิหน้ากุ้งแบบปรุงสุก, เอบิ นิกิริ (Ebi Nigiri)


9. ซูชิปลาฮามาจิ (Hamachi)


ฮามาจิเป็นชื่อเรียกปลาบุรี (ปลาหางเหลือง) ขนาดที่ยังเล็กอยู่

10. ซูชิหน้าปลาไหล, อานาโกะ (Anago)


ปลาอานาโกะเป็นปลาไหลชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในน้ำเค็ม ปลาไหลที่นำมาทำเป็นซูชินิยมปรุงสุกโดยการย่างหรือต้ม น้ำซอสที่ใช้ปรุงจะนิยมให้ออกรสหวานเค็ม

11. ซูชิหน้าปลาหมึก (Ika Nigiri)



12. ซูชิหน้าหอยโอตาเตะ (Hotate Nigiri)


โฮตาเตะหรือหอยเชลล์ญี่ปุ่น

13. ซูชิหน้าไข่หวานย่าง (Tamagoyaki)


14. ซูชิหน้าปลาหมึกยักษ์ (Tako Nigiri)


15. ซูชิหน้าปลากะพง (Tai)



16. ซูชิหน้าปลาอาจิ (Aji)


ปลาอาจิ (Japanese Jack Mackerel) เป็นปลาทูสายพันธุ์หนึ่ง

17. ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปลาทูน่า, เท็กกะมากิ (Tekkamaki)



18. ซูชิหน้าปลาซาบะ (Saba)



19. แคลิฟอร์เนียโรล (California Roll)


เป็นซูชิสไตล์ตะวันตกที่เป็นที่นิยมมาก เป็นข้าวห่อม้วนสาหร่ายไส้ในเป็นแตงกวา อาโวคาโด ปูอัด หรือแล้วแต่เชฟสร้างสรรค์

20. ฟุโตะมากิ (Futomaki)


เป็นข้าวห่อสาหร่ายที่มีส่วนประกอบของไส้ในที่หลากหลาย ที่นิยมก็คือ คัมเปียว (ฟักหรือน้ำเต้าหมักด้วยโชยุและน้ำตาล หั่นเป็นเส้นๆแล้วตากแห้ง) ไข่หวาน แตงกวา เห็ด

21. ซูชิหน้าปลาอุนากิ (Unagi)


อุนากิเป็นปลาไหลน้ำจืด ต้มในน้ำซอสหวาน

22. ซูชิหน้าปลาอายุ (Ayu)



23. ข้าวห่อสาหร่ายไส้นัตโตะหรือถั่วหมัก(Natto Maki)



24. ซูชิหน้าปลาซันมะ (Sanma)


25. เนกิโทโร่ (Negitoro)


เนื้อส่วนท้องปลาทูน่าบลูฟินสับกับต้นหอม ทำเป็นไส้ข้าวห่อสาหร่าย

ที่มา http://www.japan-talk.com/jt/new/101-kinds-of-sushi-in-Japan

credit by :  http://megatopic.blogspot.com/2013/08/101-part-1.html

Read More...


กุยช่ายแต้จิ๋วสูตรโบราณ แป้งบางใส ถูกใจใช่เลย


เราเป็นคนที่ไม่ชอบกินผักกุยช่าย   แต่ถ้าเอามาทำขนมกุยช่ายจะชอบมาก ทำไมเป็นงั้นก็ไม่รู้
จริง ๆ เราเคยทำไปแล้วสองสูตร   สูตรแรกทำแล้วแป้งนุ่มเหนียวดีแต่แป้งไม่ใส
 ตอนห่อแป้งติดมือหนุบหนับมาก อิอิ..     แต่ผลออกมาอยู่ในเกณฑ์์ที่อร่อยน่าพอใจ

เมื่อต้นปีได้ลองสูตรที่สอง  ก็คิดว่ามันยังไม่ใช่  กลับไปเทใจให้สูตรแรกเหมือนเดิม

ดังนั้นมันต้องมีสูตรที่สามค่ะ    สูตรนี้เป็นกุยช่ายแต้จิ๋วสูตรโบราณ   ที่มาของสูตรนี้เรียกว่าใกล้เกลือกินด่าง  
เพราะคุณนายแม่บอกว่าจำสูตรมาจากอาม่า (ย่า) เรานั่นเอง  ตอนนี้อาม่าไปเฝ้าเง็กเซียนที่บนสวรรค์แล้ว
ตามไปถามสูตรไม่ได้เราก็เลยถามคุณนายแม่แทน แต่อัตราส่วนที่คุณนายบอกมาถ้าเราเอามาลงบล็อก  
เพื่อน ๆ คงงงเป็นไก่ตาแตก  เพราะเธอตวงเป็นชาม 555   แล้วชามแต่ละบ้านมันขนาดเท่ากันซะเมื่อไหร่เนาะ
เราเลยต้องเอามาเทียบน้ำหนักและตวงวัดอีกทีค่ะ   ไม่ลำบากอะไรเพราะของอร่อยต้องมาแบ่งกันกินค่ะ

แม่เล่าว่าแป้งกุยช่ายแบบจีนจะใช้วิธีกวนในกระทะให้แป้งสุก   แล้วนำมานวดจนแป้งได้ที่
แต่เพราะเวลากวนแป้งจะติดกระทะทำให้ต้องทิ้งแป้งไปเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันจึงใช้วิธีการนวดกับน้ำเดือดจัดแทน   ซึ่งจะทำได้ง่ายกว่ากันค่ะ

ส่วนผสมและวิธีทำ
แป้ง
แป้งมันสำปะหลัง 500 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
น้ำเดือดจัด 3+1/2 ถ้วย
น้ำ 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

ไส้กุยช่าย
กุยช่ายซอย 2 กก.
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 3/4 ถ้วย

น้ำจิ้ม
น้ำ 4 ถ้วย
เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
ซีอิ๊วดำหวาน 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายไม่ฟอก 1/2 ถ้วย
พริกขี้หนูสวนบดผสมน้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย

** สูตรนี้จะได้ประมาณ 80 ชิ้น  ไม่ใหญ่มากค่ะขนาดที่เราทำ  วันนี้เราทำแค่ 1/4 สูตรนะคะ **

1. ทำน้ำจิ้มโดยผสมเครื่องปรุงทั้งหมดใส่หม้อ เคี่ยวไฟกลางพอเดือด ปิดไฟ



2. ทำไส้โดยผสมกุยช่าย เบกกิ้งโซดา เกลือ น้ำตาล และน้ำมัน เคล้าให้เข้ากัน พักไว้ 1 ชั่วโมง
เพื่อให้ใบกุยช่ายนุ่ม  (อยากให้นุ่มเร็วไม่ต้องรอถึง 1 ชม.ก็ขยำ ๆ ซะหน่อยค่ะ)
จากนั้นเทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ  (สูตรนี้ไม่ต้องนำไปผัดนะคะ)





3. ทำแป้งโดยผสมแป้งมันและแป้งข้าวเจ้ารวมกันในอ่างผสม ใส่น้ำเดือดจัด ใช้พายไม้คนให้ทั่ว
พอแป้งอุ่นมือใช้มือนวดให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้ำทีละน้อยสลับกับน้ำมัน ใช้สันมือนวดไปเรื่อย ๆ
จนแป้งเหนียวรวมกันเป็นก้อน นวดจนน้ำและน้ำมันหมด แป้งจะเป็นก้อนเหนียวและนุ่มมือ





4. แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมเล็ก ใช้แป้งมันแห้งเป็นแป้งนวล แล้วบีบไล่แป้งให้เป็นแผ่นบาง
หรือจะใช้ไม้รีดแป้งให้บางก็ได้   ตักใส่ไส้ห่อจับจีบห่อโดยรอบและไม่มีรอยรั่ว
  เรียงใส่ลังถึงที่รองด้วยใบตองฉีกเป็นริ้วทาน้ำมัน
** แป้งสูตรนี้เริ่ดมาก  ไม่ติดมือเลย เหนียวนุ่ม ห่อง่าย **



5.    นำไปนึ่งบนน้ำเดือดด้วยไฟกลางนานประมาณ 10 นาที   ทาด้วยน้ำมันอีกครั้งเพื่อไม่ให้ติดกัน



6.   จัดใส่จาน  โรยกระเทียมเจียวเล็กน้อย  เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม












Read More...


‘ขนมกง’ ประยุกต์ใหม่..ได้เงินงาม


ขนมโบราณบางชนิดเป็นขนมเฉพาะในงานสำคัญ อย่างงานแต่งงาน ไม่ใช่ขนมกินเล่นทั่ว ๆ ไป หากปล่อยให้เป็นแค่ขนมโบราณ หรือขนมมงคลเพียงอย่างเดียว นานวันคงจะหายไป เพราะคนรุ่นใหม่ ๆ ไม่มีใครรู้จัก จึงต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย  อย่าง “ขนมกง” ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...             

อินทนา สาระบัน เจ้าของขนมกงโบราณ “สูตรแม่อรุณ” จ.กำแพงเพชร เล่าว่า แม่อรุณเจ้าของสูตรได้ทำขนมกงมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 จนถึงปัจจุบัน โดยประวัติของขนมกงที่ ต.หนองแก จ.กำแพงเพชร นี้ สันนิษฐานกันว่าพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไป มักทำกันในเทศกาลตรุษสงกรานต์ และประเพณีแต่งงานของ ต.หนองแก โดยขนมกงนี้เป็นขนมมงคลที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ในประเพณีแต่งงาน นอกจากนี้ ในแง่ของชีวิต ขนมกงนี้ยังมีความหมายดี ๆ อีกด้วย

“เมื่อเวลาผ่านไป คนรุ่นใหม่ ๆ ก็เริ่มไม่รู้จัก หากไม่ปรับเปลี่ยนให้มีรสชาติใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ขนมกงนี้คงจะใช้เฉพาะในงานมงคลเท่านั้น ไม่ใช่ขนมทานเล่นทั่ว ๆ ไป” อินทนา กล่าว

ปัจจุบัน ขนมกงโบราณ “สูตรแม่อรุณ”นี้ มีทั้งหมด 6 รสชาติ ได้แก่ ถั่วเขียวดั้งเดิม, ถั่วเขียวงาดำ, ถั่วเขียวใบเตย, ถั่วเขียวชาเขียว, ถั่วเขียวกาแฟ และถั่วเขียวสาหร่ายทะเล

อุปกรณ์ในการทำขนมกง หลัก ๆ มี เครื่องบดแป้ง, เตาแก๊ส, กระทะทองเหลืองขนาดใหญ่, ไม้พาย, ไม้นวดแป้ง, ที่ตัดแป้ง, ตะแกรงรองขนม, ถาดสเตนเลส และอุปกรณ์ในครัวอื่น ๆ 

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/264843/‘ขนมกง’+ประยุกต์ใหม่..ได้เงินงาม


Read More...


'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด


“ตวง หรือ วัลญา ตุลาผล” เจ้าของธุรกิจบ้านขนมอบ
       ความอยากรู้อยากลองทำขนมของเด็กสาว ก่อเกิดเป็นธุรกิจ “บ้านขนมอบ” ที่เจ้าตัวพอมีพื้นฐานอยู่บ้าน อาศัยการหมั่นฝึกฝน จนได้สูตรคุกกี้ของตัวเอง แจกให็เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องชิมจนเป็นที่ถูกปาก ตัดสินใจฝากขายตามร้านกาแฟ และโรงเรียนใกล้บ้าน กระแสตอบรับดีกลายเป็นแรงใจให้เธอรุกช่องทางจำหน่ายผ่านโซเชียล มีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก กระจายสินค้าทั่วไทย
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
       แม้คุกกี้จะเป็นขนมที่พบเห็นได้ทั่วไป หลายคนมองว่าขั้นตอนการผลิตไม่ยุ่งยาก แต่การจะอยู่ในตลาดได้ยาวนาน ลูกค้าขาประจำมีมาไม่ขาดสาย ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือและรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่นเดียวกับ “ตวง หรือ วัลญา ตุลาผล” เจ้าของธุรกิจบ้านขนมอบ โดยเธอย้อนที่มาธุรกิจบ้านขนมอบให้ฟังว่า หลังเรียนจบจากสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรู้ด้านการทำขนมเลย แต่เธออาศัยความชอบส่วนตัว และความอยากรู้อยากเห็น ทำขนมเล่นๆ ที่บ้าน ในเวลาที่ว่างจากการทำงานประจำ และหลังเลิกเรียน เนื่องจากที่บ้านมีอุปกรณ์และมีพื้นฐานในการทำขนมอบอยู่บ้าง
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
       เธอเริ่มจากการหัดทำขนมที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนในการทำอย่าง “คุกกี้” โดยเริ่มจากการหาสูตรจากหนังสือและอินเทอร์เน็ตมาทดลองทำ แจกจ่ายให้คนรอบข้างลองรับประทานประมาณปีเศษ จนได้สูตรที่ลงตัวและเป็นเอกลักษณ์จากนั้นจึงเริ่มนำขนมไปฝากร้านกาแฟของ ญาติเพื่อวางขายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผลตอบรับจากการวางขายเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นักเรียนและบุคลากรรู้จักขนมมากขึ้น ทำให้มีกำลังใจที่จะเดินหน้ากับธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ด้วยการขยายพื้นที่ในการวางขนมไปยังร้านกาแฟ และร้านค้าอื่นๆ พร้อมทั้งขายผ่านเฟซบุ๊กควบคู่กันไปด้วย ทำให้ช่วงเปิดตัวธุรกิจได้ไม่นาน แต่มีลูกค้ารู้จักและสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมาย
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
       “บ้านขนมอบ by Wanlaya เริ่มต้นจาก สั่งให้จัดแพคเกจเพื่อนำไปเป็นของขวัญ ของฝาก รวมถึงสั่งเพื่อนำไปแบ่งขายที่จังหวัดอื่น แต่บนโอกาสดีๆ บางครั้งก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการติดต่อขอวาง ขนมตามร้าน หรือการต้องนำขนมที่ขายไม่หมดกลับมาบ้างในช่วงแรก แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ถึงจะท้อบ้างเราก็ผ่านพ้นมันมาได้หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นบทเรียนสอนให้เรารู้จักมองไปข้างหน้าบนพื้นฐานของ ประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับปัญหาหรืออุปสรรค แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ต้องสู้กับมันให้ถึงที่สุด”
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
       'คุกกี้' ถือเป็นขนมไฮไลท์ของบ้านขนมอบ เพราะมียอดขายมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งน้องตวงเชื่อว่า มาจากสูตรคุกกี้ที่ตนเองคิดค้นขึ้นเป็นที่ถูกปากของลูกค้า รวมถึงคุณสมบัติ เฉพาะตัวของคุกกี้ ที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน แม้ไม่ได้ใส่สารกันเสียใดๆ เป็นขนมทานเล่นได้ทุกโอกาส สะดวกแก่การขนส่ง และเป็นของขวัญของฝากก็ดูดีผู้รับทุกเพศทุกวัยชื่นชอบ เช่น คุกกี้คอนเฟล็กอบน้ำผึ้ง และเม็ดมะม่วงคั่วงา เพื่อเน้นลูกค้าที่รักสุขภาพเป็นหลัก
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
       “ลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มคนที่ทำงานตามโรงพยาบาล โรงเรียน และร้านกาแฟ ที่รับไปจำหน่ายต่อ โดยมีการกลับมาซื้อซ้ำกลายเป็นลูกค้าประจำ ส่วนในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีออเดอร์เข้ามาค่อนข้างเยอะนอกจากการขายผ่านหน้าร้านค้าแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ทางเราได้มีการทำ การตลาดออนไลน์บนโลก Social Network ชื่อดังอย่าง Facebook ด้วยชื่อ บ้านขนมอบ (www.facebook.com/WanlayaShop) ซึ่งก็มีกระแสตอบรับดีมาก
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
       ส่วนจุดเด่นของคุกกี้บ้านขนมอบ อยู่ที่ความสดใหม่ ความสะอาดและคุณภาพของขนมเป็นหลัก เนื่องจากน้องตวงจะแบ่งไว้รับประทานเองภายในครอบครัวด้วยทุกครั้ง ขณะที่ความหอมหวานจากเนยสดแท้คุณภาพสูงก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายที่สำคัญ รวมถึงรสชาติไม่หวานจนเกินไป เพราะเธอเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานขนมหวานแต่ไม่ชอบทานหวาน จึงได้พัฒนาสูตรออกมาในแนวทางนี้ ฟังดูขัดแย้งแต่ทุกคนที่ได้ลองชิมต่างก็ติดใจในรสชาติ ซึ่งเหมาะกับสาวๆ ผู้ที่ควบคุมอาหาร และผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพเป็นอย่างมาก อีกทั้งขนมยังไม่ใส่สารกันเสีย แต่เก็บรักษาได้นาน เคล็ดลับความอร่อยที่ต้องบอกต่ออีกอย่างคือ หากทานไม่หมดให้แช่ตู้เย็นจะช่วยคงความกรอบและเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
      
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
      
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
      
'บ้านขนมอบ' คุกกี้เด็กอยากลอง ขายผ่านโซเชียลยอดกระฉูด
       สำหรับใครที่อยากลองลิ้มชิมรสกับคุกกี้ จากบ้านขนมอบ by Wanlaya เข้าไปที่แฟนเพจบ้านขนมอบ (www.facebook.com/WanlayaShop) สั่งซื้อใน Inbox ได้เลย...

credit by ; http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000128668

Read More...


ขนมเข่ง "หนึ่งในขนมไหว้วันตรุษจีน"

  • ขนมเข่ง ขนมมงคล ซึ่งมีความหมาย ถึงความหวานชื่น มีชีวิตที่ราบรื่น อุดมสมบูรณ์ 
สมัยก่อนคนไทยเชื้อสายจีนจะเตรียมทำขนมเข่งก่อนวันไหว้ตรุษจีน นึ่งกันมากมาย ไว้แบ่งปันแจกจ่ายหลังจากไหว้ตรุษจีนแล้ว 

ที่บ้านฉันนึ่งแบบธรรมดา นึ่งไม่นานจะเป็นสีขาว เมื่อเตรียมแป้งใส่กระทงใบตองแล้ว นำไปนึ่งบนกระทะมีชั้นนึ่งและฝาครอบอันใหญ่ ใช้เตาฟืน การจับเวลานึ่ง ทำโดยการจุดธูป หนึ่งก้าน  

เคยมีคำถามว่าทำไมต้องจุดธูป ได้คำตอบ ... "ถ้าไม่จุดธูปขนมเข่งจะไม่สุก "
โตมาเพิ่งจะทราบว่า นั่นคือ การกะเวลา หรือการจับเวลาในการนึ่งนั่นเอง ด้วยสมัยก่อนไม่ได้ใช้นาฬิกาจับเวลา เมื่อมาลองเปรียบเทียบดู ธูปหนึ่งก้าน (ธูปยาวประมาณ 1ฟุต) เมื่อจุดแล้วใช้เวลาประมาณ1ชั่วโมงจึงจะหมดก้าน

การนึ่งขนมเข่งก็เหมือนกัน ถ้านึ่งแบบธรรมดา (สีขาว) ใช้เวลาประมาณ 50 -60 นาที จึงจะสุก แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ขนมเข่งเป็นสีน้ำตาลและเหนียวแข็ง จะใช้วิธีการหนึ่งด้วยเตาฟืนแบบนึ่งนานข้ามวันข้ามคืน ขนมจึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แต่สมัยนี้ การนึ่งด้วยฟืนทำได้ยากขึ้นสำหรับชุมชนเมือง ขนมเข่งสีน้ำตาลปัจจุบัน จะใช้ น้ำตาลปี๊บ หรือ น้ำตาลสีเข้ม แทน น้ำตาลทรายขาว หรือบ้างก็ใช้ข้าวเหนียวดำแทน ข้าวเหนียวขาว เพื่อนทุ่นเวลาในการนึ่ง 

•วันนี้มีสูตรการทำขนมเข่ง แบบสีขาว มาฝากนะคะ 
มาดูกันค่ะ 


•ส่วนผสมการทำขนมเข่ง สูตรนี้ ประกอบด้วย
สูตรนี้ ได้ ขนม น้ำหนัก 50-60 กรัม จำนวน 8 - 9 กระทง 


  • แป้งข้าวเหนียว 250 กรัม  ( 
    2 ½ ถ้วยตวง )
  • แป้งข้าวเจ้า 20 กรัม ( ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ)
  • น้ำตาลทราย 130 กรัม  ( 3/4 ถ้วยตวง)
  • น้ำมันพืช 30 กรัม  (ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ )
  • น้ำเปล่า 215 กรัม (ประมาณ 14 ช้อนโต๊ะ  หรือ  เท่ากับ  3/4 ถ้วยตวง+2ช้อนโต๊ะ)

•ก่อนลงมือนวดผสมแป้ง เราต้องเตรียมกระทงใบตองไว้ก่อน 
จะใช้ใบตองสด หรือใบตองแห้ง ก็ได้  
  • วิธีการทำกระทงใบตอง 
  • 1 ) เช็ดใบตองให้สะอาด ด้วยผ้าแห้ง เช็ดให้เกิดมันเงา จะทำให้ใบตองนิ่มไม่แตกง่าย ขณะทำ จากนั้นก็ตัดใบตองเป็นวงกลม ตามขนาดที่ต้องการ  ครั้งนี้ ตัด ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 14 ซม. (ภาพที่1.)
  • 2 ) เตรียมไม้กลัดไว้ สำหรับกลัดใบตองด้วย อาจจะใช้ไม้จิ้มฟัน หรือไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้ หากไม่มีก้านมะพร้าว
  • 3 ) จับมุม แล้วกลัดด้วยไม้กลัด เป็นมุม ที่หนึ่ง (ภาพที่2.) แล้วจับมุมตรงกันข้าม เป็นมุมที่สอง (ภาพที่3.) และ มุมที่สามสี่ ตามลำดับ  ก็จะได้กระทง สำหรับทำขนมเข่งแล้วนะคะ
  • ภาพ : กระทง ทำจากใบตองแห้ง
หากทำจากใบตองแห้ง 
เรานำใบตองแห้ง ตัดตามขนาดที่ต้องการแล้ว วางซ้อนกัน วางเขียงหรือของหนักๆทับไว้ก่อนนะคะ ใบตองจะเรียบ ทำให้ตัดง่าย หากว่าแห้งกรอบมาก ให้ใช้กระบอกฉีดน้ำ พ่นให้หมาดๆ แล้วเช็ดให้สะอาด  ขั้นตอนต่อไปก็ทำเช่นเดียวกันกับใบตองสดค่ะ เราสามารถ เตรียมกระทงไว้ก่อนล่วงหน้าได้ 



•มาดูขั้นตอนการเตรียมผสมแป้งกันต่อ นะคะ 

วิธีการผสมแป้ง 
  • ภาพที่ 1 ) นวดแป้งกับน้ำมันพืชเข้าด้วยกัน  เติมน้ำนวดพอนิ่มมือ 
  • ภาพที่ 2 ) เติมน้ำตาลทราย 
  • ภาพที่ 3 )นวดต่อน้ำตาลจะค่อยๆละลาย 
  • ภาพที่ 4 ) เติมน้ำที่เหลือ ค่อยๆคลายแป้ง จะได้แป้งที่ข้นๆ ดังภาพ
  • ปิดฝา พักแป้ง ประมาณ 5 ชั่วโมง หรือ 1 คืน 



• เตรียม หยอดแป้งใส่กระทง และ นึ่ง

  • ใช้น้ำมันพืชทากระทงบางๆ เพื่อไม่ให้ขนม ติดกระทง
  • ตักแป้งที่หมักไว้ ลงในกระทง เกือบๆเต็ม อย่าให้เต็มเกินไป นะคะ 
(หยอดแป้งมากไปจะล้นกระทง หน้าขนมจะไม่สวย เพราะเมื่อนำไปนึ่ง แป้งจะพองตัวขึ้นอีก )

  • นำไปนึ่งในลังถึง โดยตั้งน้ำให้เดือดพล่านก่อน นำขนมไปนึ่ง 
  • จับเวลานึ่งประมาณ 45 -50 นาที หรือจนสุก 
  • ยกลง วางพักบนตะแกรง ให้ขนมเย็นสนิท 
( การวางพักขนม ช่วยให้ไล่ความชื้น ส่วนเกินออกจากชิ้นขนม ทำให้ขนมเก็บได้นานขึ้นขึ้นไม่เสียง่าย)

  • หากเหลือขอบใบตอง ก็ให้ตัดแต่ง ส่วนเกินออกได้ เพื่อความสวยงาม 
  • แล้ว แต้ม จุดสีแดง ด้วยสีผสมอาหาร 
  • เสร็จแล้วนะคะ ... ขนมเข่ง 



ขอขอบคุณต้นตำรับ สูตร ดี ๆ จากหนังสือ อาหารไทย ( พิมพ์ ครั้งที่ 7  ตค. 2533 ) หน้า 178 
เขียนโดย อาจารย์ จันทร ทศนนท์

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.