สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

41 Freakin' Funny Fortune Cookie Fortunes










































ขอขอบคุณเจ้าของบทความ :http://www.smosh.com/

Read More...


'เปาะเปี๊ยะ-น้ำยาขนมจีน' 'สูตรเห็ด' ทำเงินเด็ดๆได้

▼ อาหารทั่วไปหากสามารถประยุกต์เป็นอาหารมังสวิรัติ ก็สามารถทำตลาดได้กว้างขึ้น อย่าง “เปาะเปี๊ยะทอดไส้เห็ด” และ “ขนมจีน-น้ำยาเห็ด” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้ นี่ก็น่าพิจารณาเช่นกัน...

• • • • •

อรนุช ทวีศักดิ์ หรือ ปู เจ้าของร้านคุณปู เปาะเปี๊ยะเห็ด ย่านซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม ซึ่งทำเปาะเปี๊ยะทอดไส้เห็ดและขนมจีนน้ำยาเห็ดขายมาเกือบ 10 ปี เล่าว่า แรกเริ่มเดิมทีตนทำปลาซาบะส่งห้าง และมีช่วงหนึ่งได้ไปต่างประเทศ ได้ไปทานอาหารที่ภัตตาคารจีนแห่งหนึ่ง ได้ทานเปาะเปี๊ยะแบบนี้ จึงกลับมาลองทำดูด้วยวิธีของตัวเอง ทดลองให้เพื่อน ๆ และคนรู้จักชิม ซึ่งก็บอกว่าอร่อย จึงได้ทำขายมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้

▼สำหรับ อุปกรณ์ทำเปาะเปี๊ยะเห็ด หลัก ๆ ก็มี กระทะ เตาแก๊ส มีด เขียง หม้อ กะละมัง และอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวทั่วไป ส่วนประกอบของเปาะเปี๊ยะทอดไส้เห็ด ตามสูตรก็มี แป้งเปาะเปี๊ยะขนาดกลาง 20-30 กก., แครอทหั่นฝอย 20 กก., วุ้นเส้นหั่นแช่น้ำ 4 กก., เห็ดออริจิหั่นเป็นท่อน ๆ 5 กก., เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 2 กก., เห็ดหูหนูหั่นฝอย 6-7 กก., ข้าวโพดสุกแกะเม็ด 10 กก., ซอสถั่วเหลือง 500 ซีซี., น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย, น้ำมันถั่วเหลืองสำหรับผัด 1 ถ้วย, น้ำมันปาล์มสำหรับทอด
2 แกลลอน (แกล ลอนละ 18 กก.)



▼วิธี ทำไส้เปาะเปี๊ยะ เตรียมส่วนผสมทั้งหมด (ยก เว้นแผ่นเปาะเปี๊ยะและวุ้นเส้น) ผัดรวมกันพอสุก ตามด้วยวุ้นเส้นที่แช่น้ำไว้แล้ว ผัดรวมกัน ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง, น้ำตาลทราย, เกลือ, ซอสเห็ดหอม ชิมรสชาติให้กลมกล่อม เสร็จแล้วตักใส่ถาดพักให้เย็น เน้นว่าไส้ที่ผัดต้องแห้ง เพื่อจะทำให้การห่อนั้นง่ายขึ้น

การ ห่อเปาะเปี๊ยะ ตักไส้ใส่ลงแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ม้วนแล้วพับหัวท้ายให้แน่น ทาริมด้วยแป้งเปียก เสร็จแล้วนำลงทอดในกระทะที่น้ำมันร้อน ใช้ไฟปานกลาง ทอดจนเป็นสีเหลืองกรอบจึงตักขึ้นซับน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมใบโหระพา ผักกาดหอม และน้ำจิ้ม



▼ ส่วนผสมน้ำจิ้ม ตามสูตรก็มี น้ำตาลมะพร้าว 20 กก., น้ำตาลทรายแดง 8 กก., น้ำส้มสายชู 2.5 ลิตร, พริกขี้หนูแดง 2 กก., เกลือ 500 กรัม และกระเทียม 3 กก.▲ วิธีทำน้ำจิ้ม นำพริกแดงปั่นรวมกับกระเทียมและน้ำส้มสายชู จากนั้นใส่ลงในหม้อที่ต้มน้ำตาลมะพร้าวไว้แล้ว หลังจากนั้นก็ใส่เกลือ ชิมรสชาติให้กลมกล่อม
 
“เปาะเปี๊ยะทอดไส้เห็ด” ขายราคาชิ้นละ 7 บาท หรือ 3 ชิ้น 20 บาท พร้อมน้ำจิ้ม และผักข้างเคียง

ต่อ ด้วย “น้ำยาเห็ด” ที่รับประทานกับขนมจีน น้ำยาก็ใช้เห็ด 3 อย่าง ส่วนประกอบน้ำยาเห็ด ได้แก่ เห็ดนางฟ้าปั่นละเอียด 500 กรัม, เห็ดฟางปั่นละเอียด 500 กรัม, เห็ดหอมสดปั่นละเอียด 200 กรัม, กะทิสด 3 กก., เครื่องแกง 1/2 ถ้วย (ประกอบด้วย ข่า 2 แง่ง, ตะไคร้ 10 ต้น, ใบมะกรูด 5 ใบ, พริกแห้งสีแดงเม็ดใหญ่ 10 เม็ด และกระเทียม 10 กลีบ โขลกรวมกันให้ละเอียด), กระชายหั่นหยาบ 1 กก., น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ และผักเคียง ต่าง ๆ เช่น มะระลวก, ถั่วงอกลวก, ผักกาดดองหั่นบาง ๆ, ใบแมงลัก, กะหล่ำปลี และถั่วฝักยาว

▼ วิธีทำน้ำยาเห็ด ปั่นเครื่องแกงให้ละเอียด ใส่กระชายที่ปั่นไว้ลงปั่นรวมให้เข้ากัน แล้วจึงนำส่วนผสมมาลงละลายในหัวกะทิ จากนั้นนำกะทิที่ได้ตั้งไฟปานกลาง พอเดือดก็ใส่เห็ดที่ปั่นไว้แล้วคนให้เข้ากัน ใช้ไฟอ่อนต้มต่อจนเดือด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล และต้มต่ออีกสักพัก ชิมรสให้ได้ที่ ก็เป็นอันเสร็จ

น้ำยาเห็ดรับประทานกับขนมจีน และผักเคียงต่าง ๆ ขายเป็นชุด ราคาชุดละ 30 บาท

ปู-อรนุช ทวีศักดิ์ ทำ “เปาะเปี๊ยะทอดไส้เห็ด” และ “ขนมจีนน้ำยาเห็ด” ขายเป็น “ช่องทางทำกิน” ตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ตลาดสีเขียว โรงพยาบาลธรรมศาสตร์-รังสิตเฉลิมพระเกียรติ, กระทรวงสาธารณสุข, โรงพยาบาลปทุมธานี และซอยละลายทรัพย์ สีลม หมายเลขโทรศัพท์ คือ โทร. 08-1818-1605 และ 08-6600-7719 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพค้าขายอาหารที่นำ “เห็ด” มาทำเป็นสูตรเด็ด และก็ทำเงินได้เด็ด ๆ น่าสนใจ.



▼สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล เรื่อง-ภาพ
▲http://www.dailynews.co.th/

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ :

Read More...


'ขนมจีบแป้งสด' ทำให้เห็นๆเป็นเงินงาม

 
 
“ขนม จีบ” เป็นอาหารว่างชนิดหนึ่งที่สามารถทานได้ทุกเวลา ซึ่งขนมจีบที่เราพบเห็นกันโดยทั่วไป ตามท้องตลาดจะเป็นขนมจีบที่ใช้แผ่นเกี๊ยวห่อไส้ แต่วันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลการทำ-การขายขนมจีบอีกรูปแบบมานำเสนอให้ได้ลองพิจารณากัน กับ “ขนมจีบแป้งสด” อีกหนึ่งรูปแบบอาชีพด้านการขายอาหารที่น่าสนใจ...
   
บุษกร ล้านมา หรือ “เมย์” ซึ่งทำขนมจีบแป้งสดขาย เล่าให้ฟังว่า เดิมนั้นเธอเป็นพนักงานประจำเกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ มานานหลายปี  ก็รู้สึกเครียดและเบื่อ ที่สำคัญไม่ค่อยมีเวลาเป็นส่วนตัว ประกอบกับแฟนเป็นนักดนตรียิ่งทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะเวลาทำงานจะสวนทางกัน จึงทำให้เธอกับแฟนปรึกษากันว่าจะออกจากงานแล้วมาทำธุรกิจส่วนตัว
   
“เราสองคนก็ไปขอสูตรและฝึกทำขนมจีบแป้งสดจาก เจ๊ละม่อม ซึ่งเป็นคุณแม่แฟน ทำขายมากว่า 20 ปี ต้นตำรับดั้งเดิมในนครสวรรค์ ขายดิบขายดีมีลูกค้าขาประจำมากมาย จนสามารถส่งลูก ๆ เรียนจบมาแล้วหลายคน พอเอามาให้เพื่อนชิมก็ตื่นเต้นกันใหญ่บอกว่าอร่อย และไม่เคยเห็นมาก่อน ระหว่างนั้นยังไม่กล้าตัดสินใจ จึงลองทำขายเล่น ๆ ในวันหยุดควบคู่กับการทำงานประจำ เสียงตอบรับดีมาก ทำมาเท่าที่ทำได้ก็ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน จากนั้นก็ลาออกจากงานมาช่วยกันทำขายเป็นอาชีพหลัก ทำมาได้นานประมาณ  2 ปีแล้ว”
   
อุปกรณ์ในการทำหลัก ๆ ก็มี...กระทะใบบัว, ไม้พาย, เครื่องรีดแป้ง, เครื่องตีแป้ง, เครื่องตัด, หม้อนึ่ง, เตาแก๊ส ถ้วยตวง และอุปกรณ์ทั่วไปที่ใช้กันในครัวเรือน วัตถุดิบและส่วนผสมจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ... ส่วนผสมในการทำตัวแป้ง และส่วนผสมในการทำไส้ ซึ่งส่วนผสมในการทำแป้ง ประกอบด้วย แป้งสาลี แป้งมันสำปะหลัง และน้ำสะอาด 
   
สำหรับส่วนผสมในการทำไส้ ตามสูตรประกอบด้วย เนื้อหมูปนมันสับ 10  กิโลกรัม, หอมแดง 1 กิโลกรัม มันแกวสับ 1 กิโลกรัม กระเทียมสับ 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ก็ใช้รากผักชี หอมใหญ่สับ น้ำตาล พริกไทยป่น ต้นหอม-ผักชีสับหยาบ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา น้ำมันหอย และเกลือป่น 
   
ขั้นตอนการทำ “ขนมจีบแป้งสด” เริ่มจากนำแป้งสาลีผสมกับแป้งมันสำปะหลัง ผสมรวมกันแล้วร่อน  ใส่น้ำสะอาดตามลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปตั้งไฟกวนในกระทะให้ส่วนผสมแป้งสุก ล่อนจับตัวเป็นก้อน ยกลงตั้งพักไว้ให้อุ่น แล้วนำแป้งที่ได้มานวดจนแป้งนุ่มและเนียนไม่ติดมือ จากนั้นก็แบ่งแป้งออกเป็นก้อน ๆ
   
นำก้อนแป้งที่ได้มารีดและโรยด้วยแป้งมัน  รีดให้เป็นแผ่นบางยาว   นำแผ่นแป้งที่ได้มาทับซ้อน ๆ กัน แล้วตัดโดยให้ขนาดของแผ่นแป้งอยู่ที่ประมาณ  2x2  นิ้ว ตั้งพักไว้ รอห่อไส้
   
ส่วนตัวไส้นั้น การทำเริ่มจากนำรากผักชี  พริกไทยป่น และกระเทียม โขลกรวมกันให้ละเอียด เสร็จแล้วนำไปใส่ในเนื้อหมูปนมันสับ  ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาล  เกลือ  ซอสปรุงรส  น้ำมันหอย   น้ำมันงา  และต้นหอม-ผักชีสับ  คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี   หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1-2  ชั่วโมง  ก่อนจะนำออกไปห่อ
   
ต่อไปเป็นขั้นตอนการห่อ  ให้นำแป้งที่เตรียมไว้มาแผ่ลงบนมือ ตักไส้มาวางบนแผ่นแป้งแล้วขึ้นรูปห่อ  ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้จีบจนรอบ วนขวา   แล้วล้มจีบไปทางเดียวกัน รวบหัวขนมจีบให้ยาวแล้วหักลงมาเป็นหัวนกกระทุง (จะห่อรูปแบบอื่นก็ได้) เรียงลงในซึ้ง โดยระหว่างรอห่อเสร็จก็ให้ตั้งซึ้งนึ่งให้น้ำเดือดรอไว้ กะน้ำให้พอดี  เมื่อน้ำเดือดแล้วจึงนำขนมจีบลงนึ่งโดยใช้เวลา 15-20 นาที ตัวขนมจีบที่ได้จะแววใสน่ารับประทาน ระหว่างการนึ่งต้องคอยตรวจดูอย่าให้น้ำแห้ง เพราะหากน้ำแห้งแล้วขนมจีบจะแข็งกระด้าง ในการขายก็ต้องมีซอสเปรี้ยว “จิ๊กโฉ่” และทานคู่กับผักกาดหอมและพริกขี้หนูสดสีเขียวแก้เลี่ยน ซึ่งซอสเปรี้ยวเจ้านี้จะทำเองโดยใช้ซีอิ๊วดำหวาน น้ำตาลทราย เกลือ น้ำส้มสายชูกลั่น ผสมกันแล้วต้มให้เดือด ชิมรสตามชอบ
   
ปกติขนมจีบแป้งสดนี้จะอยู่ได้นานประมาณ   2  วัน ทั้งนี้เพราะเป็นแป้งสด จะทำวันต่อวัน  จึงสามารถอยู่ได้นานกว่าขนมจีบทั่วไป  แต่หากเก็บไว้ในตู้เย็นจะอยู่ได้  3-4 วัน  และเก็บในช่องแช่แข็งได้ประมาณ  1 สัปดาห์  นอกจากนี้ เมย์ยังมีซาลาเปาขายควบคู่ไปด้วย ซึ่งซาลาเปาจะมี 2 ไส้คือ ไส้หมูสับและไส้ถั่วดำ
   
ส่วนขนมจีบ ราคาขายชุดเล็ก 12 ลูก 30 บาท และชุดใหญ่ 20 ลูก 50 บาท
   
เรื่องจุดขาย เมย์บอกว่า ไม่ต้องอะไรมาก แค่ปั้นโชว์กันสด ๆ แล้วนึ่งกันเห็น ๆ หน้าร้านเท่านั้น  ซึ่งวันจันทร์, พุธ, พฤหัสฯ จะขายที่ตลาดนัดตอนเย็นหน้าองค์การโทรศัพท์ จ.พระนครศรีอยุธยา วันอังคาร, วันศุกร์ ตลาดนัดเย็นที่ศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต และวันศุกร์เช้ายังขายที่กรมประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วย
   
ใครสนใจ “ขนมจีบแป้งสด” เจ้านี้ ต้องการติดต่อคุณเมย์ ติดต่อได้โดยตรงที่ โทร. 08-5223-9988 ซึ่งการใช้ขนมจีบแป้งสดเป็น “ช่องทางทำกิน” นี้ ก็เป็นอีกกรณีศึกษาการทำอาชีพค้าขายอาหารที่มีจุดต่าง ที่ดึงลูกค้าได้เป็นอย่างดี.

เชาวลี ชุมขำ/ชนิกานต์ วงศ์สุวรรณ
อนุสรา แสงเงิน เรื่อง - ภาพ

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ :http://dailynews.co.th/

Read More...


‘เกสรลำเจียก’ขนมไทยที่คนขายมีน้อย




ขนม ไทยแท้ ๆ อีกอย่างที่ปัจจุบันหาทานยาก ไม่ค่อยเห็นตามท้องตลาดทั่วไป คือ “ขนมเกสรลำเจียก” ซึ่งมีลักษณะเป็นกลีบ ๆ หลากสี ประกอบไปด้วยมะพร้าว น้ำตาล แป้ง ซึ่งขนมไทย ๆ ที่ปัจจุบันหาทานได้ไม่ง่าย มีแหล่งที่ทำขายไม่กี่แหล่งนั้น ในยุคนี้บางทีอาจจะเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดี สำหรับคนที่พอจะมีฝีมือทางด้านการทำขนม...
.....................................                 

ผศ.อภิญญา มานะโรจน์ อาจารย์สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ได้ให้ข้อมูลในงานนิทรรศการ “๗๔ ปีโชติเวชสร้างสรรค์ไทย คหกรรมศาสตร์ก้าวไกลสู่สากล” เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า “ขนมเกสรลำเจียก” เป็นขนมไทยอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งตนได้เรียนรู้มาจากคุณยายของเพื่อนที่เป็นคนอ่างทอง และคนอ่างทองก็จะบอกเสมอว่า ขนมนี้เกิดในอ่างทอง เท็จจริงประการใดไม่ทราบแน่ชัด แต่เท่าที่ตัวเองได้เรียนรู้มา และมีโอกาสได้เห็น คือ ขนมชนิดนี้จะเห็นในอ่างทอง แต่ในท้องตลาดทั่วไปจะไม่เห็น

ที่ไม่ค่อยมีทั่วไป สาเหตุอาจเพราะเป็นขนมที่ทำยาก และถ้าเก็บไม่ดีก็จะเจอปัญหาคือขนมมันแข็ง ดังนั้นจึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ค่อยมีคนทำขาย แต่ถ้ามีคนทำขาย ก็มีคนซื้อ เพราะไม่หวานเกินไป และไม่กรอบเกินไป       

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนมเกสรลำเจียก ได้แก่ กระทะทองเหลือง ไม้พาย ช้อน เตาไฟ ถ่าน แต่ในการทำเกสรลำเจียกประเภทร่อน ก็จะมีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นอีก 2 ชิ้น คือ กระทะเหล็ก และแร่งร่อนแป้ง
               
สำหรับสูตรขนมเกสรลำเจียกที่จะดูกันวันนี้ สูตรแรกเป็นสูตรของ อาจารย์วไลภรณ์ สุทธา อาจารย์สาขาเดียวกัน โดย ผศ.อภิญญาเป็นผู้เล่าแทน ซึ่งที่ต้องใช้ก็มี มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม, น้ำตาลทราย 250 กรัม, น้ำเปล่า พ ถ้วย    

ในส่วนของมะพร้าวที่ใช้ในการทำขนม จะใช้มะพร้าวทึนทึกที่ไม่แก่มาก ซึ่งจะมีความนุ่ม การทำก็นำน้ำตาลทรายมาบีบขยำกับมะพร้าวให้เข้ากัน เพื่อต้องการให้มะพร้าวมีความนุ่มนวล เมื่อน้ำตาลละลายแล้วจะทำให้สองส่วนนี้เข้ากัน ถ้าไม่บีบมะพร้าวให้มะพร้าวนุ่มพร้อมน้ำตาล ปัญหาที่ตามมาคือ เวลาทานจะรู้สึกว่ามะพร้าวแข็งกระด้าง        

จากนั้นก็เอาผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ  ผสมกับน้ำ พ ถ้วย นำไปใส่กระทะทองตั้งไฟ โดยวิธีการคือ เอาผงวุ้นโรยลงไปในน้ำ ทิ้งไว้สักครู่ให้ผงวุ้นจับน้ำ  รอให้ผงวุ้นอิ่มตัวเลยน้ำขึ้นมานิดหน่อย  จึงค่อยเอาไปตั้งไฟอ่อน ๆ  และคนให้วุ้นละลาย  พอวุ้นละลายแล้วให้ใส่ส่วนของมะพร้าวที่คลุกน้ำตาลเตรียมไว้ คนให้เข้ากันจนรู้สึกว่าสามารถปั้นเป็นก้อนได้ คือไม่แห้งและไม่แฉะเกินไป แล้วเติมสีผสมอาหารตามใจชอบ แต่ลักษณะของขนมไทยต้องเป็นสีอ่อน ๆ หวาน ๆ ไม่เข้มเกินไป ให้สีดูน่าทาน แล้วจะทำให้มีความรู้สึกหวานหอม ถ้าสีสวย กลิ่นดี รสชาติหวานหน่อย ๆ  ก็จะทำให้เกิดความรู้สึกหอมหวาน     ส่วนเวลาปั้นขนม จะใช้ช้อน 2 คัน  โดยคันหนึ่งตักเนื้อขนมพอประมาณ แล้วจากนั้นจะใช้มุมช้อน 2 คัน โดยเอาส่วนด้านข้างของช้อนมาตักไปตักมาจนเกิดเป็นเหลี่ยม ส่วนขนาดขนมที่ตักขึ้นมาก็แล้วแต่ว่าเราจะต้องการขนาดใด แล้วก็กรองออก การตักไปตักมาด้วยปลายช้อนเราเรียกว่ากรอง ทำจนได้ขนมที่มีลักษณะรี ๆ คล้ายลูกรักบี้ เกิดสันมุม 3 สัน

ต่อไปเป็นสูตร “ขนมเกสรลำเจียกแบบร่อนแป้ง” ซึ่ง ผศ.อภิญญาเป็นผู้ให้สูตร ส่วนผสมตัวแป้ง มีแป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย, หัวกะทิ ผ ถ้วย และเกลือไทยป่น ผ ถ้วย ส่วนไส้ขนมมีมะพร้าวทึนทึกขูดด้วยกระต่ายจีน 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย, แป้งข้าวเหนียว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ   

วิธีทำ ผสมน้ำตาล  มะพร้าว  บีบนวดให้มะพร้าวนุ่ม ใส่ลงกระทะทองกวนจนแห้ง  จากนั้นให้ละลายแป้งข้าวเหนียวและน้ำเปล่าเทลงในส่วนผสมไส้ กวนต่อไปจนไส้จับตัวกัน ยกลงพักไว้ให้เย็น  เมื่อเย็นแล้วปั้นส่วนไส้ขนมเป็นก้อนยาวประมาณ 3 นิ้ว อบด้วยควันเทียนดอกมะลิให้หอม                            

ส่วนตัวแป้ง นวดแป้งข้าวเหนียวด้วยหัวกะทิให้นุ่ม  แล้วนำแป้งที่ผสมแล้วใส่แร่งร่อนแป้ง ร่อนในกระทะก้นแบน โดยใช้ไฟอ่อน ๆ  ใส่ไส้บนแผ่นแป้ง  และใช้เหล็กแซะขนมพับแป้งให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือกลมก็ได้ ตามใจชอบ ส่วนผงแป้งที่เหลือก็สามารถนำไปทำ ขนมขี้มอด ได้
“ขนม เกสรลำเจียก” นี้ จะขายอยู่ที่ราคา 25-30 บาท ต่อ 6-8 ชิ้น เมื่อก่อนต้นทุนไม่มาก แต่ปัจจุบันมะพร้าวแพง ต้นทุนจึงสูงขึ้น ซึ่งจากราคาขาย 25-30 บาท จะมีต้นทุนประมาณ 15-20 บาท แล้ววัตถุดิบ   
.............................

สนใจเรื่อง “ขนมเกสรลำเจียก” ต้องการติดต่อ ผศ.อภิญญา มานะโรจน์ ติดต่อไปได้ที่คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร โทร.0-2281-2854 ต่อ 5201-3 ในวันและเวลาราชการ 
                               
----------------------

คู่มือลงทุน...ขนมเกสรลำเจียก
ทุนอุปกรณ์       5,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ    15-20 บาท ต่อ 6-8 ชิ้น

รายได้     25-30 บาท ต่อ 6-8 ชิ้น

แรงงาน    1 คนขึ้นไป

ตลาด    ย่านอาหาร, ร้านขนมไทย

จุดน่าสนใจ     ปัจจุบันมีคนทำขายไม่มาก

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล
ชนิกานต์ วงศ์สุธารส/อนุสรา แสงเงิน : เรื่อง-ภาพ

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : http://www.dailynews.co.th/

Read More...


เคล็ดลับ : บันทึก และนำเข้าการตั้งค่าเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) ในWindows 7 อย่างง่าย

ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) ถือว่า
Boomมาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่สร้างความน่ารำคาญให้กับผู้ใช้เครือข่ายไร้สาย 
(Wireless Networks) เป็นอย่างยิ่งคือการตรวจสอบค่าความปลอดภัย
หรือการใส่Username และ Password เช่นถ้าเพื่อนมาบ้านเรา 5 คนต้อง
การใช้เครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) ทั้ง 5 คนเราก็ต้องเสีย
เวลาพิมพ์Username และ Password  5 ครั้ง วุ่นวายมั้ยล่ะ

วันนี้จึงมีวิธีที่ช่วยให้คุณเข้าใช้เครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks)
ได้สะดวกขึ้นนั่นก็คือบันทึกมันไว้เป็นไฟล์ 1 ไฟล์เลย เมื่อต้องการใช้ก็
สามารถดับเบิ้ลคลิกได้เลยไม่ต้องมามัวพิมพ์อะไรทั้งสิ้น ง่ายไม๊ล่ะแถม
ยังพกพาใส่แฟรชไดรว์ของคุณไปได้ทุกที่อีกต่างหาก เพื่อนคนไหนต้อง
การใช้เครือข่ายก็สามารถบันทึกใส่ในแฟรชไดรว์ให้ไปเลย ง่ายละซิ ไป
ดูขั้นตอนกันเลยกันเลย

วิธีการบันทึกการตั้งค่าเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks)

 ก่อนเปิดเครือข่าย คุณสามารถทำได้โดยคลิกที่สัญลักษณ์เครือข่ายไร้สาย 
(Wireless Networks) จากแถบงานและไปที่ Control Panel --> 
Network and Internet --> Network and Sharing Center



 คลิกที่ Manage Wireless Network




 ในหน้าต่างจัดการเครือข่ายไร้สายคุณจะเห็นรายการที่มีเครือข่ายไร้สาย 
(Wireless Networks) ที่คุณเคยเชื่อมต่อทั้งหมด ดับเบิลคลิกเครือ
ข่ายที่คุณต้องการ


 ตอนนี้คุณจะเห็นคุณสมบัติของหน้าต่าง  ให้คลิกที่ลิงค์ด้านล่างที่ 
Copy this network profile to a USB flash drive เพื่อบันทึก
การเชื่อมต่อไว้ในแฟลชไดรฟ์



 ตัวช่วยในการบันทึกเครือข่ายจะเริ่มทำงาน ให้เสียบแฟลชไดรฟ์  
แล้วรอจนกว่าจะมีการตรวจพบและคลิกปุ่ม next


 กระบวนการคัดลอกจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที  เมื่อเสร็จแล้วคลิกที่ปุ่ม Close


 ถ้าคุณดูในแฟลชไดรฟ์ ของคุณจะเห็นโฟลเดอร์ SMRTNTKY และไฟล์ setupSNK.exe  ซึ่งเป็นไฟล์ที่นำไปใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย 
(Wireless Networks)


 วิธีนำเข้าการตั้งค่าเครือข่ายไร้สาย  (Wireless Networks)

1. เสียบแฟลชไดรฟ์ ในแล็ปท็อปที่คุณต้องการนำเข้าการตั้งค่าและเรียกใช้แฟ้ม setupSNK.exe  เมื่อขึ้น Dialogbox ของ Wireless Network Setup Wizard
ให้คลิกที่ปุ่ม Yes



2. จะมีการนำเข้าการตั้งค่าและเมื่อได้รับการแจ้งเตือนดังรูปด้านล่างให้คลิกปุ่ม
OK และเริ่มใช้เครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks) 



 ขั้นตอนดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเครือข่ายไร้สาย (Wireless 
Networks) สาธารณะและเครือข่ายไร้สาย (Wireless Networks)
ที่ซ่อนอยู่ เพียงแค่เสียบแฟรชไดรว์ ติดตั้งและเรียกใช้ไฟล์ เท่านั้น

 Credit : www.howtogeek.com

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.