สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

“กะทิสด” รสเด็ดขนมไทย หอมชื่นใจ หวานอร่อย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 มิถุนายน 2554 14:35 น.

บรรยากาศในร้านกะทิสด
       “ผ่านมาแวะกิน” พาไปชิมอาหารคาว ข้าว ก๋วยเตี๋ยว หมุนเวียนเปลี่ยนไปมาหลากหลายร้านแล้ว มื้อนี้เลยอยากจะพาไปล้างปากกับของหวานกันบ้าง มากันที่ร้าน “กะทิสด”ที่นำเสนอขนมหวานแบบไทยๆ แสนอร่อย ที่มีหน้าตาและสีสันชวนลิ้มลอง
    
       ร้าน “กะทิสด” เปิดมาได้ 3 ปีแล้ว เป็นร้านขนมหวานไทยๆ ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ “กะทิ” ซึ่ง จะแตกต่างจากร้านอื่นตรงที่เป็นลักษณะของกะทิคั้นแห้งไม่ได้ผสมกับน้ำ จึงทำให้ได้หัวกะทิแบบเน้นๆ และได้กลิ่นหอมของกะทิมากกว่า ซึ่งมะพร้าวกะทิที่จะนำมาทำน้ำกะทินั้นก็คัดสรรมาเป็นอย่างดี และนำมาทำกันสดๆ ใหม่ๆ ทุกวัน ทำให้ได้ขนมหวานแบบคุณภาพ
ทับทิมกรอบสยาม




       ถ้าจะลองชิมกะทิหวานอร่อยของที่นี่ ก็ต้องสั่งเมนูแนะนำ ทับทิมกรอบสยาม (ถ้วยละ 30 บาท) สีแดงน่ากิน ที่จะใช้แห้วเป็นวัตถุดิบหลัก นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วห่อด้วยแป้งสูตรเฉพาะของทางร้านได้ออกมาเป็นทับทิมกรอบสยามที่กรอบข้าง ใน ข้างนอกแป้งบางนุ่ม ไม่ร่วน ไม่หนามากไป เสิร์ฟมาพร้อมกับแห้ว มะพร้าวกะทิ และชิ้นขนุน ราดด้วยกะทิสดหวานมันหอม โปะด้วยน้ำแข็งปั่นละเอียดจนเกือบจะเป็นเกล็ด ทำให้ได้ความเย็นชื่นใจเพิ่มขึ้น
ทับทิมกรอบเผือกหอม
       นอกจากทับทิมกรอบสยามแล้ว ก็ยังมีอีกสองเมนูทับทิมที่น่าลิ้มลอง คือ ทับทิมกรอบเผือกหอม (ถ้วยละ 30 บาท) โดยถ้วยนี้จะเลือกใช้เผือกหอมมาแทนแห้ว เผือกหอมที่ได้ก็นำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ห่อด้วยแป้ง ผสมกับสีผสมอาหารสีม่วง และในถ้วยก็จะมีแห้ว ขนุน และมะพร้าวกะทิด้วย ซึ่งมะพร้าวกะทินั้นก็จะนำมาหั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปเชื่อมกับน้ำตาลอีกเล็ก น้อยเพื่อให้ได้ความหวานซึมเข้าเนื้อ ลองชิมแล้วทั้งหนึบทั้งหอมมันส่วนตัวทับทิมกรอบเผือกหอมก็จะนุ่มๆ หนึบๆ
ทับทิมกรอบมัน
       อีกถ้วยก็คือ ทับทิมกรอบมัน (ถ้วยละ 30 บาท) ที่ใช้มันญี่ปุ่นมาแทนแห้วและเผือกหอม ถ้วยนี้ก็จะนุ่มๆ เด้งๆ ได้รสชาติแตกต่างจากแห้วและเผือกหอม ส่วนเครื่องเคราอื่นๆ ก็ใส่มาเหมือนๆ กับอีกสองถ้วย และได้ความหอม หวาน มัน จากกะทิสดเหมือนกัน
    
       หรือถ้าอยากจะลองชิมทับทิมกรอบทั้งสามแบบก็ต้องสั่ง ทับทิมกรอบแฟนซี (ถ้วยละ 30 บาท) ที่จะได้ชิมครบทุกอย่าง หรือจะสั่ง ทับทิมกรอบใส่ลูกมะพร้าว (ลูกละ 40 บาท) และยังมี ทับทิมกรอบเกล็ดหิมะกะทิสด (ถ้วยละ 40 บาท) ที่จะนำตัวกะทิสดไปแช่แข็งแล้วนำออกมาปั่นเป็นเกล็ดหิมะ ใช้แทนกะทิสดที่เป็นน้ำ ได้รสชาติหวานหอมเย็นจับใจยิ่งกว่า
ทับทิมกรอบใส่ลูกมะพร้าว
       หรือจะลองชิม เกล็ดหิมะนมสด (ถ้วยละ 40 บาท) ที่จะเป็นน้ำแข็งเกล็ดหิมะราดด้วยน้ำแดง น้ำเขียว หรือน้ำองุ่น แล้วตามด้วยเครื่องต่างๆ ทั้ง ถั่วแดง เผือก มัน สับปะรด และวุ้นมะพร้าว ทอปปิ้งด้วยไอศกรีมกะทิ โรยหน้าด้วยซีเรียลเพิ่มความกรุบกรอบ ไอศกรีมหวานมันหอมชื่นใจ คู่กับน้ำแข็งเกล็ดหิมะหวานๆ และเครื่องเคียงหลายอย่างก็เข้ากันดี เหมาะกับช่วงที่อากาศร้อนๆ หรือตอนที่กำลังร้อนอกร้อนใจ
ทับทิมกรอบเกล็ดหิมะกะทิสด
       นอกจากขนมหวานที่ได้ลองชิมไปแล้ว ทางร้านก็ยังมีขนมหวานไทยๆ อีกหลายชนิดให้มาเลือกกัน อาทิ ลูกตาลมะพร้าวกะทิ (30 บาท) ผลไม้ลอยแก้ว (กระปุกละ 35 บาท, 3 กระปุก 100 บาท) วุ้นฟรุ๊ตสลัด (35 บาท) วุ้นลูกชุบ (35 บาท) ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ฯลฯ ที่จัดเรียงอยู่ในตู้เย็นที่ทางร้านเรียกว่าป่าขนมหวานไทย (กระปุกเล็ก 20 บาท / กระปุกใหญ่ 35 บาท, 3 กระปุก 100 บาท) และยังมีสารพัดน้ำที่ทางร้านทำเอง เช่น กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย ใบเตย กีวี เป็นต้น (ขวดละ 15 บาท)
    
       ตามมาลองลิ้มชิมรสชาติขนมหวานไทยๆ กับกะทิสดหอมหวานมันอร่อยแบบนี้กันได้ที่ร้าน “กะทิสด” ใน ซ.แจ้งวัฒนะ 14 กะทิสดอร่อยสมชื่อร้านแบบนี้ กินกันจนลืมอิ่มเลยทีเดียว
เกล็ดหิมะนมสด
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
    
       ร้าน “กะทิสด” ตั้ง อยู่ที่ 29/5-6 ซ.แจ้งวัฒนะ 14 (ซ.บิ๊กซี) แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกหลักสี่ ให้วิ่งตรงมาบน ถ.แจ้งวัฒนะ ฝั่งที่จะไปปากเกร็ด ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงแยกคลองประปา ให้กลับรถแล้วตรงมาจนถึงห้างบิ๊กซี แล้วเลี้ยวเข้าซอยด้านข้างห้าง (ซ.แจ้งวัฒนะ 14) ตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ติดริมถนน มีป้ายให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้ด้านหน้าร้าน ทางร้านรับออกงานภายนอก และรับสั่งทำกระเช้าขนม ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.30-22.00 น. โทร.0-2573-6071-2, 08-6620-4953

Read More...


“ข้าวขาหมูเจ๊มะลิ” เนื้อนุ่มแน่น อร่อยเต็มคำ

 โดย : ผ่านมาแวะกิน (travel_astvmgr@hotmail.com)
คุณมะลิ ชาแก้ว หรือเจ๊มะลิ เจ้าของร้าน
       เวลามีใครมาทักว่าดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้น หลายคนก็จะรู้สึกสะเทือนใจ โดยเฉพาะสาวๆ ทั้งหลาย แต่สำหรับ “ผ่านมาแวะกิน” แล้ว ไม่ค่อยเป็นปัญหาสักเท่าไหร่ เพราะความสุขนั้นอยู่ที่การกิน ฉะนั้น ถึงน้ำหนักจะขึ้นบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็ถือซะว่าเป็นผลพลอยได้จากความสุขทางปาก
     




       ในมื้อนี้ เราก็เลยอยากจะชวนกันมาเพิ่มเนื้อหนังให้ตัวเองกับเมนูขาหมูกันที่ร้าน “ข้าวขาหมูเจ๊มะลิ” ที่ขายกันมานมนานเกือบ 40 ปีแล้ว โดยคุณมะลิ ชาแก้ว หรือเจ๊มะลิ เจ้าของร้านอัธยาศัยดี ที่เสิร์ฟขาหมูอร่อยๆ ให้ลูกค้าได้ชิมกัน
บรรยากาศที่นั่งของร้าน
       ความโดดเด่นของร้านนี้อยู่ที่กรรมวิธีการทำขาหมูที่ไม่เหมือนใคร โดยจะเคี่ยวบนเตาถ่าน ซึ่งใช้ถ่านแบบเดียวกันกับถ่านปิ้งหมูสะเต๊ะ ที่จะให้ไฟแรงกว่าถ่านทั่วไป และการเคี่ยวบนเตาถ่านนี้ก็จะให้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เชิญชวนมาให้ลิ้มลองมากกว่าการเคี่ยวบนเตาแก๊สทั่วไป
ขาหมูเนื้อ-หนัง
       มาลองชิม ข้าวขาหมู (จานละ 30 บาท) กันก่อนสักจาน เริ่มจากข้าวที่จะใช้ข้าวหอมมะลิอย่างดีมาหุงไม่ให้แฉะหรือแข็งเกินไป ส่วนขาหมูนั้นจะเลือกใช้ทั้งขาหน้าและขาหลังปนกันไป นำมาล้างทำความสะอาด จากนั้นนำไปทอดเพื่อให้ไขมันในขาหมูละลายออกไป แล้วค่อยนำมาต้มกับเครื่องพะโล้ ปรุงรสและเพิ่มสีสันด้วยซีอิ้วอย่างดี ใส่เหล้าจีนเพื่อลดกลิ่นคาวและเพิ่มความหอม เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จนเนื้อเปื่อยนุ่ม ก็นำมาเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย
ไข่ต้มและเต้าหู้
       ถ้าไม่สั่งเป็นข้าวขาหมู จะสั่งขาหมูมาเป็นจานๆ ก็ตามแต่ความชอบ หรือจะสั่งเป็นทั้งขา (ขาละ 350-380 บาท) แล้วค่อยสั่ง ข้าวเปล่า (จานละ 7 บาท) หรือหากอยากจะเพิ่มโปรตีนด้วย ไข่ต้ม (ฟองละ 7 บาท) มากินคู่กันก็ได้
ลิ้นหมู
       นอกจากขาหมูแล้ว ที่ร้านก็ยังมีส่วนอื่นๆ ให้เลือกชิมตามชอบ อย่างเช่น ลิ้น (80 บาท) ไส้ (30-40 บาท) หาง (30 บาท) คากิ (50-70 บาท) เต้าหู้ (5 บาท) เห็ดหอม (5-10 บาท) ซึ่งทุกอย่างนั้นจะนำมาทำความสะอาด แล้วนำไปเคี่ยวกับน้ำพะโล้เช่นเดียวกับขาหมู ทำให้ได้รสชาติความเข้มข้นเต็มที่ ออกรสเค็มมากกว่าหวาน เนื้อขาหมูเปื่อยนุ่ม ส่วนอื่นๆ ก็เปื่อย ไม่เหนียว เคี้ยวกันเต็มปากเต็มคำ
ไส้หมู
       เวลาที่นำขาหมูมาเสิร์ฟนั้น ก็จะมาพร้อมๆ กับเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ ผักฉ่ายกัว เป็น ผักกาดแห้งหมักเกลือ เวลากินคู่กันจะได้รสออกเค็มๆ เล็กน้อย และที่ขาดไม่ได้สำหรับความอร่อยที่นี่ก็คือ น้ำจิ้มสูตรเด็ดของเจ๊มะลิ ที่ใช้พริกขี้หนูสวนมาตำเอง ปรุงรสชาติด้วยเคล็ดลับเฉพาะ ได้น้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน ทั้งเปรี้ยวทั้งเผ็ด เข้ากันดีกับขาหมูที่ออกเค็มหวาน
หางหมู
       ถ้าหากว่าใครอยากจะมาลองลิ้มความอร่อยของขาหมูที่ร้านนี้ คงจะต้องรีบมากันแต่เช้า เพราะของดีก็มีน้อย ถึงแม้ว่าจะเปิดขายถึงเที่ยง แต่ถ้าขายดีบางวันก็หมดตั้งแต่เก้าโมงเช้า ฉะนั้นถ้าอยากจะมากินก็โทรศัพท์มาสอบถามเจ๊มะลิก่อนก็ได้ว่าหมดหรือยัง หรือหากจะสั่งทำขาหมูก็ควรสั่งล่วงหน้า 1-2 วันจะได้เตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อย
    
       มากินขาหมูที่ร้าน “ข้าวขาหมูเจ๊มะลิ” กันอิ่มแล้ว ก็ไปเดินย่อยออกกำลังกายสลายไขมันกันต่อที่ตลาดโบ๊เบ๊ หรือจะไปเลือกซื้อผลไม้หลากหลายกันที่ตลาดมหานาคต่อก็ยังได้
คากิ
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
    
       “ข้าวขาหมูเจ๊มะลิ” ตั้งอยู่ในตลาดโบ๊เบ๊ สะพาน 4 การเดินทางจากแยกหัวเฉียว เลี้ยวเข้าถนนกรุงเกษม เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ผ่านโรงพยาบาลหัวเฉียว มุ่งหน้ามาทางตลาดโบ๊เบ๊ สังเกตสะพานข้ามคลองทางขวามือนับไปถึงสะพานที่ 4 (มีป้ายบอกชื่อสะพาน 4) ให้เดินตรงเข้าไปข้ามสะพาน 4 ตรงผ่านร้านขายผ้าต่างๆ จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวา จากนั้นตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายตรงตรอกแรก จะมีตลาดสดอยู่ทางซ้ายมือ ให้เข้าไปในตลาด ร้านข้าวขาหมูเจ๊มะลิจะอยู่บริเวณกลางตลาด สามารถจอดรถได้ที่ตึกโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ แล้วเดินย้อนมาที่สะพาน 4 (ตรงสะพาน 4 นำรถเข้าไปไม่ได้) รับสั่งทำข้าวขาหมูกล่อง และขาหมูไหว้เจ้า ร้านเปิดทุกวัน เวลา 06.00-12.00 น. โทร. 08-1634-9119, 0-2249-9147

Read More...


มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ

sala1 มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ

ช่วงนี้ราคาผลไม้แต่ละชนิด ราคาถูกแสนถูก วันก่อนไปตลาดเห็นสละราคาถูกมาก เลยซื้อมา
หลายกิโล กะว่าจะมาทำสละลอยแก้วซะหน่อย เผื่อมาพลาสเจอร์ไรซ์จะเก็บไว้ทานได้หลายวัน





ส่วนผสม

- สละ 1 กิโลกรัม

- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง

- เกลือ 2 ช้อนชา

-ใบเตย

วิธีทำ

ปอกสละลอกใยออกให้หมด

sala syrup1 มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ
sala syrup2 มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ

คว้านเมล็ดออกโดยใช้มีดคว้านปลายโค้งค่อยๆ เลาะเนื้อสละ

ให้หลุดออกจากเม็ด โดยใช้มีดแทงเข้าไปเลาะทั้ง 2 ด้าน
เมื่อคว้านเมล็ดสละเสร็จแล้ว นำเนื้อสละล้างด้วยน้ำเกลือ (น้ำ 1/2 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา) สง

ให้สะเด็ดน้ำ

sala syrup6 มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ

ต่อจากนั้นตั้งน้ำให้เดือดใส่น้ำตาลทราย 1 ถ้วยครึ่ง ใส่ใบเตยสัก 5-6 ใบ ม้วนเป็นก้อน
แล้วใส่ลงไป ตั้งไฟ พอเดือดยกลงกรอง

sala syrup5 มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ

- นำขึ้นตั้งไฟใหม่ พอเดือดใส่สละที่เตรียมไว้ ใส่เกลือ 1 ช้อนชา ชิมรสให้ได้ตามต้องการ

sala syrup7 มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ

- ต้มสักครู่ ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น เสริฟใส่น้ำแข็ง อากาศร้อนๆได้ชิมสละลอยแก้ว
เสร็จ ตักใส่ชาม หน้าตาแบบนี้  สักถ้วย รู้สึกชื่นใจมากๆ

sala syrup0 มาลองทำสละลอยแก้วกันเถอะ

แต่ถ้าจะพลาสเจอร์ไรซ์ก็เอาขวดแก้วใส่รังถึงนึ่งสัก 15 นาที
เอาสละลอยแก้วที่เพิ่งปิดเตาใส่ลงในขวดที่นึ่งแล้วนึ่งต่ออีกสัก 15 นาที
ปิดฝาไว้ แล้วเก็บใส่ตู้เย็นไว้ได้นานเป็นสัปดาห์

http://www.keajon.com/

Read More...


แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิด ลูกชิ้นปลาทอดแฟรนไชส์ ธุรกิจน่าลงทุนในยุคนี้

แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิดต้นตำหรับแฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาระเบิดที่มาแรงที่สุดแห่งปี รับรองคุณภาพและบริการด้วยรางวัลสุดยอด SMEs ประจำปี 2010 สาขาแฟรนไชส์น่าลงทุนแห่งปี 
 
000321295666564 แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิด ลูกชิ้นปลาทอดแฟรนไชส์ ธุรกิจน่าลงทุนในยุคนี้

ลูกชิ้น เป็นของทานเล่นที่คนไทยทุกรุ่นทุกวัยโปรดปรานเป็นที่สุด แต่ที่จะให้อร่อยติดใจลูกค้านั้นมีเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น และสิ่งนี้เองที่จุดประกายให้ คุณสมศักดิ์ ลิขิตวรกุล หรือคุณบิ๊ก หนุ่มนักเรียนนอกไฟแรง ผันความชอบให้เป็นอาชีพ พร้อมส่งต่อโอกาสให้ทุกคนด้วย ‘แฟรนไชส์แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิด’ เพราะเห็นว่าคุณภาพลูกชิ้นปลาทอดที่มีขายอยู่มากมายแต่กลับหาที่อร่อยถูกใจ ไม่ได้ จึงเกิดความสนใจและหันมาเริ่มต้นธุรกิจลูกชิ้นปลาทอดคุณภาพดี ด้วยการคิดค้นพัฒนาสูตรลูกชิ้นปลาระเบิดที่สามารถควบคุมคุณภาพและรสชาติได้ เอง พร้อมชูจุดเด่นความอร่อยที่แตกต่างของแพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิดที่ใช้เนื้อปลา ทะเลแท้ๆ ที่มาพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ผ่านการทดลองมากว่า 60 สูตร
 




โดยผ่านการวิจัยและทดสอบกับผู้บริโภคจนได้รสชาติที่กลมกล่อม ไม่เผ็ดจนเกินไป และไม่หวานจนเลี่ยน ขายในราคาเพียงชุดละ 20 บาท นับเป็นอาหารว่างคุณภาพดี ที่ตอบสนองพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่นิยมทานอาหารกินเล่นไม่แพ้อาหารหลัก ได้ตรงใจเลยทีเดียว

000321295666668 แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิด ลูกชิ้นปลาทอดแฟรนไชส์ ธุรกิจน่าลงทุนในยุคนี้

ด้วย รูปแบบและโลโก้ที่โดดเด่นพร้อมกำไรเบื้องต้นที่สูงถึง 50% บวกกับของแถม รวมถึงอุปกรณ์พร้อมขายครบครันช่วยให้สามารถเปิดขายได้ง่ายและสามารถคืนทุน ได้ภายใน 1 เดือน อีกทั้งการจัดการที่ไม่ยุ่งยากดูแลง่ายใคร ๆ ก็ทำได้ วันนี้ “แฟรนไชส์แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิด” จึงได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและกระจายความอร่อยไปแล้วกว่า 100 สาขาทั่วทุกภาคของประเทศ

คุณบิ๊ก บอกว่า “เราสามารถคำนวณดูกำไรได้ดังนี้ ถ้าคิดจากลูกชิ้น 1 กิโลกรัมขายได้ 8 ชุด ชุดละ 20 บาท เท่ากับ ได้เงินจากลูกค้า 160 บาท มีต้นทุนลูกชิ้นกิโลกรัมละ 42 บาท ต้นทุนน้ำจิ้มต่อลูกชิ้น 1 กิโลกรัม 25 บาท ต้นทุนจิปาถะต่างๆ อีก 13 บาทโดยประมาณเมื่อนำ 160 – 80 บาท เท่ากับว่าจะได้กำไรเฉลี่ย 80 บาท/กิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันลูกค้าขายเฉลี่ยวันละ 15 – 20 กิโล ซึ่งหากลองคำนวณดูแล้วจะเห็นได้ว่าลูกค้าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 เดือน แต่ก็มีสาขาของเราจำนวนไม่น้อยที่ขายได้เกินค่าเฉลี่ยและสามารถคืนทุนได้ภาย ใน 1-2 อาทิตย์ รวมทั้งได้กำไรเกือบแสนบาทต่อเดือนก็มีเช่นกันครับ”

ด้วย คุณภาพสินค้าที่โดดเด่น การบริการและแผนการตลาดระยะยาว จากการบริหารงานโดยนักธุรกิจผู้มีประสบการณ์พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีใจ บริการ ทำให้สโลแกนกรอบ..อร่อย..ติดใจ..ไม่มีเบื่อ แทรกเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าแบบติดหนึบเรียบร้อยแล้ว

รูปแบบการลงทุน
ค่าแฟรนไชส์                       โปรโมชั่น 24,900 บาท (จากปกติ 40,000 บาท)
สิ่งที่แฟรนไชส์จะได้รับ            รถเข็น+ป้ายแพนด้า+อุปกรณ์ครบชุดพร้อมขาย+การฝึกสอน
ฟรีของแถมลูกชิ้น 60 กิโลกรัม น้ำจิ้ม 20 กิโลกรัมและถุงลายแพนด้าอีก 1 กิโลกรัม มูลค่า 9,600 บาท  (เท่ากับว่าต้นทุนแฟรนไชส์เหลือเพียง 15,300 บาทเท่านั้น)

thumbnailshow424136 253x300 แพนด้าลูกชิ้นปลาระเบิด ลูกชิ้นปลาทอดแฟรนไชส์ ธุรกิจน่าลงทุนในยุคนี้

ทำไมต้องแฟรนไชส์ แพนด้า ลูกชิ้นปลาระเบิด
- ขายง่าย… กำไรดี –> มีความแตกต่างอย่างชัดเจน
- ลงทุนน้อย… คืนทุนเร็ว –> การันตีคืนทุนภายใน 1 เดือน*
- รูปแบบร้าน…โดดเด่น –> ออกแบบโดยมืออาชีพในวงการโฆษณา
– อร่อย..รสคงที่ไม่ต้องปรุง –> ผ่านการพัฒนามาอย่างดี ไม่มีรสเพี้ยน
– จัดการง่าย..ใคร ๆ ก็ทำได้ –> ไม่ต้องเช็คสต๊อกหรือเตรียมวัตถุดิบให้ยุ่งยาก
-  มั่นใจ และมั่นคง –> ด้วยคุณภาพสินค้า การบริการและแผนการตลาดระยะยาว
- จริงใจ ไม่ทอดทิ้ง –> บริหารงานโดยนักธุรกิจผู้มีประสบการณ์พร้อมทีมงานมืออาชีพ

เรามีรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย สามารถจัดได้ตามความต้องการและงบประมาณของลูกค้า แนะนำให้

โทรสอบถามข้อมูลกับเราครับ

สนใจติดต่อ : 087-0036066 (คุณบิ๊ก)
e-mail: pandaplaraberd@gmail.com หรือ Facebook ที่
http://www.facebook.com/#!/pandaplaraberd

Read More...


ไดฟูกุ..ขนมญี่ปุ่นปรับสไตล์ เป็นโมจิสมุนไพร..อร่อยอย่างไทยๆ

6301 300x180 ไดฟูกุ..ขนมญี่ปุ่นปรับสไตล์ เป็นโมจิสมุนไพร..อร่อยอย่างไทยๆ

ขนม หวาน ของประเทศญี่ปุ่น…มักเรียกชื่อเดียวกันว่า “วากาชิ” มีมานานตั้งแต่ สมัยนะระ  หรือ ประมาณ 1,300 ปี มาแล้ว แต่มาเฟื่องฟูสุดๆ ใน ช่วงเอโดะ (ปี ค.ศ.1603-1867) โดยเฉพาะ เมืองเกียวโต และ โตเกียว ซึ่งแต่ละร้านแข่งกันทำขนมชนิดใหม่ๆ เช่น ยูคิโมจิ หรือ โมจิ และ ไดฟูกุ ออกมาเป็นต้นตำรับ…ขนมหวานประจำชาติ…!!

ชาวญี่ปุ่นก็ไม่ได้กิน…ชากา ชิ…กันบ่อยๆ เพราะเขานิยมรับประทานผลไม้กันมากกว่า ส่วน วากาชิ…จะเปิบเป็นของว่างและในโอกาสพิเศษ หรือมีพิธีการต่างๆ เช่น พิธีแต่งงาน หรือ พิธีชงชา ในการสร้างสรรค์ขนมวากาชินั้น  พ่อครัวหรือแม่ครัวมักจะมีแรงบันดาลใจมาจาก ธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ หรือการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล  เช่น  ฤดูใบไม้ ร่วง จะทำ ขนมคิคุโกะโระโมะรูปดอกเบญจมาศ ส่วนฤดู หนาวก็ทำ ยูคิโมจิ หรือโมจิ และ ไดฟูกุ เป็นต้น

โมจิ  หรือ ไดฟูกุ เป็น ขนมอีกชนิดหนึ่งที่ทำจากข้าวเหนียว แล้วตัดเป็นก้อนๆ สามารถนำไปประยุกต์เป็นขนมอื่นๆได้อีกหลายชนิด โดยมีการนำมาผสมกับสมุนไพร หรือผลไม้ น.ส.จุติภัค ยัง- โนนตาด อยู่ที่ 88/15 ถนนเลียบทางด่วน  แขวงและเขตทุ่งครุ  กรุงเทพฯ เป็นผู้ที่คิดค้นสูตรขนมญี่ปุ่นให้มาเป็นสไตล์ไทยๆ บอกว่า ชื่นชอบที่จะทำ  ขนมญี่ปุ่นให้ออกมาในรูปแบบถูกปากคนไทย จึงทดลองไปเรียนรู้พยายาม  คิดค้นสูตรขนมไดฟูกุ  กระทั่งทุกอย่างลงตัว โดยมีส่วนผสมเตรียมไว้ กำหนดให้มี  แป้ง 40% และ  ไส้ 60%  ส่วนผสมหลักจาก แป้งข้าวเหนียว, แป้งมัน, เนยขาว และ  ส่วนผสมของไส้  ประกอบด้วย  งาดำ 50%, น้ำตาล 30%, ถั่ว 20%) ผงชาเขียว 5%, ถั่ว 50% น้ำตาล 30% และ น้ำมันพืช 15%

560 225x300 ไดฟูกุ..ขนมญี่ปุ่นปรับสไตล์ เป็นโมจิสมุนไพร..อร่อยอย่างไทยๆ

…ไส้ สตรอเบอร์รี่ หรือ ราส-เบอร์รี่ ให้ล้างผ่านน้ำเย็น สะเด็ดน้ำ แล้วใช้กระดาษซับน้ำออกให้แห้ง ตัดขั้วออกให้เรียบร้อย เมื่อเย็นก็นำมาหุ้มผลไม้ไว้ ให้รอบ ส่วนไส้ถั่วแดงกวน ให้นำ ถั่วแดงไปบดให้ละเอียด ใส่ น้ำตาลทรายลงไป ผสม ก่อนจะนำหม้อตั้งไฟกลาง กวนจนแห้งข้นก็ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น แล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ สำหรับทำไส้  หรือจะนำมาหุ้มผลไม้  เสร็จแล้วก็โรยแป้งที่คั่วแล้วหนาๆบนโต๊ะ…
จากนั้น ก็มาทำตัวแป้งกัน ผสมแป้งข้าวเหนียว น้ำเปล่า และ น้ำตาลทราย รวมกันในภาชนะ คนพอแป้งละลายหมดไม่เหลือเป็นเม็ดแล้ว หากอยากให้มีสีสันก็ใส่สีต่างๆตามใจชอบ, สีม่วงจากดอกอัญชัน, สีส้มจากแครอท และสีเหลืองจากขมิ้น ฯลฯ ก่อนนำพลาสติกแร็บคลุมชามแป้ง แล้วนำเข้า ไมโครเวฟไฟสูงสุดประมาณ 1 นาที แล้วนำออกมาใช้ไม้พายแตะๆ หากยังเหลวอยู่ก็นำเข้าเวฟต่ออีกไม่เกิน 1 นาที  หรือจนแป้งมีลักษณะแห้งๆ ปุดๆ พองๆ ตรงกลาง ถือว่าใช้ได้… นำไปใส่ไส้ผสมกันเท่านี้ก็เปิบได้แล้ว

2522 300x180 ไดฟูกุ..ขนมญี่ปุ่นปรับสไตล์ เป็นโมจิสมุนไพร..อร่อยอย่างไทยๆ

สำหรับ การใส่ไส้ที่หลากหลายให้ลิ้มลองรสชาติ เช่น เผือก งาดำ ใบเตย พุทราจีน ถั่วแดง ถั่วเหลือง ชาเขียว และ กาแฟ ผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุด คือ ไดฟูกุ ไส้สตรอเบอร์รี่ ใครสนใจอยากลองทานขนมโมจิและไดฟูกุ หรือ สนใจที่จะนำสูตรไปทำเพื่อเปิบ เองบ้าง หรือ ขายเลี้ยงชีพ  เขาก็ไม่หวงวิชา  จะสอนให้ฟรี สามารถ กริ๊งกร๊างหา จุติภัค 08-7455-3351,  08-1557-2421 ได้ทุกวันในเวลาที่เหมาะสม.





เรื่องและภาพโดย : ไชยรัตน์  ส้มฉุน
เอื้อเฟื้อข่าวโดย : logo ไดฟูกุ..ขนมญี่ปุ่นปรับสไตล์ เป็นโมจิสมุนไพร..อร่อยอย่างไทยๆ

Read More...


คุกกี้” ช็อกโกแล็ตชิพขนมสุดฮิต ทำกินขายกำไรเท่าตัว

“คุกกี้” ช็อกโกแล็ตชิพขนมสุดฮิต ทำกินขายกำไรเท่าตัว.


Pic_177732
คุกกี้ช็อกโกแล็ตชิพที่พร้อมเปิบ.

“คุกกี้” ขนมยอดฮิตของเด็ก และผู้ใหญ่ที่ เวลานี้กลุ่มผู้ “เปิบ” ขยายวงกว้างบวกกับวัฒนธรรมการ นั่งจิบกาแฟ อานิสงส์นี้จึงส่งผลไปถึงกลุ่มแม่บ้าน และผู้ที่กำลังมองหาอาชีพเสริม หากอาชีพที่เล็งๆอยู่ขณะนี้ หากเป็นของกินน่าจะเป็นอาชีพที่น่าจับตา อาศัยเพียงฝีมือ ทำเลที่ตั้ง
และ…เมื่อเอ่ยถึงเมนูนี้ต้องไปถามสูตรเด็ดจาก ผศ.วาสนาขวยเขิน อาจารย์ประจำสาขาอาหารและ โภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลโชติเวช ที่คิดสูตร “คุกกี้ช็อกโกแล็ตชิพ” ขึ้น

ผศ.วาสนา ขวยเขิน.
ผศ.วาสนา ขวยเขิน.



ผศ.วาสนา บอกกับ “ทำได้ ไม่จน”ว่า…แรกเลยนักศึกษาที่กลับ มาจากฝึกงานจากโรงแรมทุกคน ต้องมาทำโปรเจกต์ ว่ากลับมาแล้วได้ประสบการณ์อะไรบ้าง กลุ่มเด็กจึงทำคุกกี้ พอชิมแล้วรสชาติอร่อยแต่ยังไม่กลมกลืนลงตัว ปรับส่วนผสม ใหม่แล้วให้อาจารย์ นักศึกษาช่วยกันชิม กระทั่งได้สูตรที่เหมาะสม
…จากนั้นจึงเริ่มเปิดสอนและ อบรมให้กับผู้ที่สนใจ พร้อมกับเปิดรับสั่งออเดอร์ ที่ผ่านมาในช่วงเทศกาล จะสั่งเข้ามาจากนอก ซึ่งนอกจากเด็ก จะได้ฝึกทักษะกันแล้วยังมีรายได้ขณะที่เรียน ฤดูกาลหนึ่งก็หลายพันบาทต่อคน สำหรับผลิตภัณฑ์เด่นๆ ที่สร้างชื่อก็คือ “คุกกี้ช็อกโกแล็ตชิพ” จะเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในเอกลักษณ์เฉพาะในเรื่องของความอร่อย ใหม่สด

ส่วนผสมต่างๆที่ใช้.
ส่วนผสมต่างๆที่ใช้.

โดยเราจะคัดเลือกวัตถุดิบที่นำมาใช้เพราะ  หัวใจหลักของการทำอยู่ที่วัตถุดิบต้องใหม่สด คุณภาพดี สัดส่วนผสมที่ต้องเหมาะสม ประกอบไปด้วย แป้งอเนกประสงค์ ทั่วไป400 กรัม เนยสดแท้ 250 กรัม ห้ามใช้มาการีน เพราะจะไม่หอมอร่อยเก็บนานไม่ได้ น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม ช่วยในเรื่องสี กลิ่นหอมเฉพาะตัว
น้ำตาลไอซิ่ง 150 กรัม โซดาไบคาร์บอเนต 3/4 ช้อนชา เพื่อช่วยให้กรอบ ผงฟู 2 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ ไข่ไก่ 1 ฟอง ลูกเกด 125กรัมเม็ดมะม่วงหักเล็ก 400 กรัม และ เม็ดมะม่วง ซีกอบ75กรัมช็อกโกแล็ตชิพ50กรัมจะใช้เม็ดใน ไม่ใช้นอกเพราะเม็ดโตกว่า อัลมอนด์สไลด์ 50 กรัม


…มาถึงขั้นตอนการทำ เริ่มจากร่อนแป้งสาลี ผงฟูรวมกัน 1 ครั้ง พักไว้ นำเนยสด เกลือ โซดา ตีด้วยเครื่องที่ความเร็วปานกลาง เติมน้ำตาลไอซิ่ง น้ำตาลทรายแดง กระทั่งขึ้นฟู ลดความเร็วเครื่องปั่น ใส่ไข่ ตามด้วยวานิลลา ปรับเครื่องปั่นให้ช้าลงแล้วเติมแป้งตีเข้ากัน จึงใส่เม็ดมะม่วงหักเล็ก ลูกเกด เสร็จแล้วตักวางบนถาดที่ทาเนยขาว แต่งหน้าด้วยช็อกโกแล็ตชิพ เม็ดมะม่วงซีก

ตีให้เข้ากันแล้วนำไปแต่งหน้าก่อนเข้าตู้อบ.
ตีให้เข้ากันแล้วนำไปแต่งหน้าก่อนเข้าตู้อบ.

นำเข้าอบไฟที่อุณหภูมิ 350 องศา ใช้เวลา 20 นาที จะได้คุกกี้ที่สุกเหลืองกลิ่นหอม พักไว้กระทั่งเย็นจึงบรรจุใส่ถุง ภาชนะที่เตรียมไว้ จะได้คุกกี้ 1.5 กิโลกรัม ขายได้ 525บาท (กิโลกรัมละ 350 บาท) หรือถ้าแพ็กใส่ถุงส่งขายเวลานี้ที่ราคาถุงละ 350 บาท โดยส่วนผสมทั้งหมดลงทุนเพียง 280 บาทเท่านั้น


สำหรับผู้ที่สนใจเข้าอบรมเพื่อทำเป็นอาชีพเริ่ม เพิ่มรายได้ หรือจะรับไปขายอีกต่อหนึ่ง สามารถกริ๊งกร๊าง ถามรายละเอียดกันได้ที่ โทร.0–2281–9231–4 ต่อ 5203 ในวันและเวลาราชการ.
เพ็ญพิชญา เตียว

ไทยรัฐออนไลน์

  • โดย เพ็ญ​พิชญา เตีย​ว
  • 10 มิถุนายน 2554, 05:00 น.

Read More...


ต่อยอดของดีเมืองเพชร "ตาลโตนดผง" ส่งขายนอก

"ตอนนี้ที่มีส่งให้เป็นญี่ปุ่นและ อังกฤษ ญี่ปุ่นเป็นต้นคิดออกแบบและผลิตเครื่องให้ มีข้อผูกพันที่ต้องผลิตส่งให้กับญี่ปุ่นในทุก 4 เดือน จำนวนส่ง 700-800 กิโลกรัม ต่อครั้ง ส่วนอังกฤษเป็นช่องทางที่ลูกชายไปเรียนและมีกลุ่มเพื่อนที่รู้จักนำไป จำหน่าย จึงยังเป็นจำนวนไม่มากนัก รวมถึงในประเทศไทยที่ยังวางจำหน่ายไม่แพร่หลายเท่าที่ควร มีมากในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และร้านเลมอนฟาร์ม ในกรุงเทพฯ เท่านั้น"


อาหารสร้างอาชีพสุทธิทัต










สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ขายดีต่อยอด เป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือโอท็อป (OTOP) มีให้เห็นเป็นจำนวนหลักหมื่นต่อภูมิภาคของประเทศ ซึ่งหลังตราแบรนด์เป็นสินค้าโอท็อปแล้ว ขึ้นอยู่กับกลุ่มหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ในการพัฒนายกระดับสินค้าให้ครองใจ จนกลายเป็นสินค้าท็อปฮิตติดลมบน นอกเหนือจากตราแบรนด์โอท็อปที่ได้รับมาก่อนหน้า



ส่วนใหญ่ของดีของขึ้นชื่อจะได้รับการพัฒนายกระดับมาจากทรัพยากร ธรรมชาติในท้องถิ่นนั้นๆ และหวังต่อยอดให้เป็นเสมือนหนึ่งอาชีพของชุมชน แต่ทั้งหมดก็ด้วยความสร้างสรรค์พัฒนาต่อยอดให้สินค้าขายตัวเองได้หรือไม่ เช่น ตาลโตนด เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นของดีเมืองเพชรบุรี เพราะเป็นพืชที่ปลูกในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีมากที่สุดของประเทศไทย ทั้งยังเป็นพืชที่ให้คุณประโยชน์นับจากรากถึงยอด โดยเฉพาะ "น้ำตาลโตนด" กลายเป็นน้ำตาลโตนดที่รสชาติดีที่สุดของประเทศ แม้ว่าจะมีผลิตในจังหวัดอื่นบ้างก็ตาม

ความหวานหอมอันเลื่องชื่อของน้ำตาลโตนด ปัจจุบัน ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการแปรรูป ออกแบบโลโก้ แพ็กเกจ และชื่อผลิตภัณฑ์ วางจำหน่ายเป็นน้ำตาลโตนดผง บรรจุในรูปของซองขนาดเล็ก ฉีกง่าย สำหรับปรุงรสชาติเครื่องดื่มร้อนโดยเฉพาะ "เส้นทางเศรษฐี" ขออาสาพาไปดูความสำเร็จของน้ำตาลโตนดของดีเมืองเพชรบุรี

รักษาฐานอาชีพ
สร้างผลิตภัณฑ์รองรับ

"ตอน นี้ที่มีส่งให้เป็นญี่ปุ่นและอังกฤษ ญี่ปุ่นเป็นต้นคิดออกแบบและผลิตเครื่องให้ มีข้อผูกพันที่ต้องผลิตส่งให้กับญี่ปุ่นในทุก 4 เดือน จำนวนส่ง 700-800 กิโลกรัม ต่อครั้ง ส่วนอังกฤษเป็นช่องทางที่ลูกชายไปเรียนและมีกลุ่มเพื่อนที่รู้จักนำไป จำหน่าย จึงยังเป็นจำนวนไม่มากนัก รวมถึงในประเทศไทยที่ยังวางจำหน่ายไม่แพร่หลายเท่าที่ควร มีมากในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และร้านเลมอนฟาร์ม ในกรุงเทพฯ เท่านั้น"

ข้อความข้างต้นเป็นคำให้สัมภาษณ์ของ คุณบุญสม นุชนิยม ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี และอีกตำแหน่งคือแม่ของลูกและภรรยาที่ดีของครอบครัว "ยี่สาร"

คุณบุญสม แม้จะมีตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นถึงประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ก็ไม่ได้ทำให้มุมมองในแง่ของภูมิปัญญาท้องถิ่นจะเลือนไป เพราะคุณบุญสมถือเป็นตัวตั้งตัวตีและเป็นหลักในการยกระดับน้ำตาลโตนดเป็นของ พรีเมี่ยม เทียบเท่าน้ำตาลชั้นดีชนิดบรรจุซองบนชั้นกาแฟ แม้ฟังดูอาจไม่แปลกเพราะน้ำตาลก็สามารถบรรจุซองสำหรับปรุงเครื่องดื่มร้อน ได้เช่นกัน เพียงแต่ที่ผ่านมาหากคิดคำนวณให้ดีจะทราบว่า น้ำตาลบรรจุซองล้วนเป็นน้ำตาลทรายที่ไม่ได้เริ่มต้นวัตถุดิบมาจาก "ตาลโตนด"

ทั้งปัจจุบันยังบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเป็นซองกันความชื้นอย่าง ดี มีการผลิตที่ได้มาตรฐาน ได้ชื่ออย่างเป็นทางการ วางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ "เสน่ห์เมืองเพชร"

คุณบุญสม เล่าย้อนที่มาที่ไปก่อนเติบใหญ่เป็นแบรนด์ว่า ด้วยพื้นฐานอาชีพดั้งเดิมของประชากรจังหวัดเพชรบุรี คือ ทำน้ำตาลโตนด เมื่อวันเวลาเปลี่ยนทำให้การสานต่อด้านอาชีพที่ต้องใช้กำลังกายในการขึ้นตาล เริ่มหดหาย เนื่องจากความเสี่ยงต่อชีวิต หากพลาดพลั้งนั่นหมายถึงโอกาสพิการหรือเสียชีวิต เพราะต้นตาลแต่ละต้นมีความสูงประมาณ 40 เมตร หรือแม้กระทั่งการทำคล้ายนั่งร้านพาดไปยังตาลแต่ละต้นตามแนวคิดของคนรุ่น ใหม่ก็นับเป็นความเสี่ยงที่ไม่ต่างกัน
แต่หากยังคงอาชีพทำน้ำตาลโตนดอยู่ ผลผลิตที่ได้สามารถนำรายได้เป็นกอบเป็นกำได้เช่นกัน เนื่องจากตาลเพียง 3 ต้น สามารถนำมาเคี่ยวเป็นน้ำตาลโตนดได้ 2 ครั้ง หรือน้ำตาลโตนด 7-10 กิโลกรัม ขึ้นกับฤดูการให้ผลผลิต

ความคิดของคุณบุญสม พุ่งประเด็นไปที่การรักษาอาชีพดั้งเดิมของท้องถิ่นไว้ในฐานะของคนเมือง เพชรบุรี แต่อีกนัยหนึ่ง คือ มุมมองของการพัฒนา "น้ำตาลโตนด" ให้ออกมาในรูปของผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ

รับซื้อราคาสูงกว่าตลาด
มุ่งแปรรูป "น้ำตาลผง"

นับ ถอยหลังไปก่อนหน้านี้ไม่นานนัก คุณบุญสม ยอมรับว่าเป็นความยากในความพยายามทำให้เกษตรกรที่มีอาชีพทำน้ำตาลโตนดมีราย ได้เทียบเท่ากับเกษตรกรผู้ปลูกพืชชนิดอื่น เพราะการส่งเสริมให้คงไว้ในอาชีพการทำน้ำตาลโตนดโดยการขึ้นตาลเองไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในมุมของการรับซื้อผลิตผลเป็นสิ่งที่ต้องขบคิด

ภาพของการเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ทำให้ถูกตั้งคำถามจากพ่อเมืองเพชรบุรีขณะนั้นว่า จะทำอย่างไรให้น้ำตาลโตนดขายดีเหมือนน้ำตาลทราย ทั้งยังแนะด้วยว่าควรทำให้น้ำตาลโตนดเป็นที่ต้องการจากตลาดในรูปของน้ำตาลผง สำหรับชง เพื่อเป็นช่องทางกระจายสินค้า แต่ด้วยมุมมองของพื้นฐานคนเพชรบุรีเดิม ทำให้คุณบุญสมมองว่า น้ำตาลโตนดไม่เหมาะแปรรูปเป็นน้ำตาลผง เนื่องจากคุณสมบัติของน้ำตาลโตนดหากถูกลมหรือความชื้นเพียงนิดเดียวจะละลาย
"จังหวะ นั้นมีรายการโทรทัศน์พูดถึงอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำน้ำตาลจากต้นจาก ยิ่งเมื่อรู้ว่าการทำน้ำตาลไม่แค่น้ำตาลปี๊บแต่เป็นน้ำตาลผง จึงพยายามติดต่อนายอำเภอในพื้นที่ และขอไปดูขั้นตอนการลงมือทำจริง"
คุณ บุญสม บอกว่า ขั้นตอนการทำเหมือนการเคี่ยวตาล จึงขอให้เจ้าของพื้นที่เคี่ยวน้ำตาลโตนดที่นำไปด้วยให้เกิดผง กลับได้รับการปฏิเสธ แต่ด้วยความสามารถในการเจรจาต่อรองจึงทำให้การไปในครั้งนั้นได้ประสบการณ์ อย่างมากเหลือ
"เมื่อลงมือทำเอง นำน้ำตาลโตนดไปเคี่ยวหลังจากปุดน้ำตาลละเอียดหายหมด ดิฉันยกเทลงกระบะ ก่อนใช้พายไม้คนกระทั่งขึ้นเกล็ด หลังแห้งรีบนำใส่ถุง คนที่ได้ชิมพูดเป็นคำเดียวกันว่า อร่อย หอมและหวาน ทั้งสียังออกเป็นสีทองอร่ามสวย"

นับเป็นครั้งแรกที่คุณบุญสมลงมือเคี่ยวน้ำตาลโตนดและได้ผลผลิตออกมา เป็นน้ำตาลผงอย่างที่เคยได้รับคำแนะนำ ทำให้เริ่มมองเห็นอนาคตของน้ำตาลโตนดผงที่อยู่ในมือ จึงเปิดรับซื้อน้ำตาลโตนดแท้จากชาวบ้านด้วยราคากิโลกรัมละ 60-65 บาท หรือในราคารับซื้อที่มากกว่าราคาท้องตลาด 20 บาท โดยไม่จำกัดจำนวน

"เสน่ห์เมืองเพชร"
ส่งญี่ปุ่น-อังกฤษ

หลัง ประสบความสำเร็จในการเคี่ยวน้ำตาลโตนดผง คุณบุญสมใช้ประสบการณ์เท่าที่มีทั้งหมดในการเคี่ยว เมื่อได้น้ำตาลโตนดผงจึงเก็บไว้บ้าง แจกจ่ายให้กับแขกของจังหวัดบ้าง และท้ายที่สุดได้มีโอกาสถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในนามของจังหวัดเพชรบุรี อีกทั้งระหว่างนั้นมีการพัฒนาเรื่องของการออกแบบแพ็กเกจ โลโก้ และชื่อสินค้า โดยได้รับการสนับสนุนจากจังหวัด เพราะเป็นสินค้าที่เชิดหน้าชูตาให้กับจังหวัดเป็นอย่างดี รวมทั้งการจดอนุสิทธิบัตรน้ำตาลโตนดผงแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจดทะเบียนเป็นประเภท อนุสิทธิบัตรกรรมวิธีการผลิต ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา

คุณบุญสม เล่าว่า เริ่มก้าวเข้าสู่รูปแบบของอุตสาหกรรมหลังจากตัดสินใจซื้อเครื่องผลิตน้ำตาล โตนดผง ซึ่งทราบจากการบอกเล่าของชายคนหนึ่งว่า มีเครื่องผลิตน้ำตาลโตนดผงอยู่ในอำเภอท่ายาง จึงตามไปพบและทราบว่า เครื่องผลิตน้ำตาลโตนดผงเป็นกรรมสิทธิ์ของชาวญี่ปุ่นที่นำเครื่องนี้มอบให้ กับคนไทยรายหนึ่ง สำหรับใช้ในการผลิตน้ำตาลโตนดผง โดยมีข้อผูกพันว่าน้ำตาลโตนดผงที่ผลิตได้ทั้งหมดต้องส่งให้กับญี่ปุ่นเพียง รายเดียว

"เจ้าของเดิมที่เป็นคนไทยดูแลการผลิตเสียชีวิตไปก่อนหน้าที่ดิฉันพบ เครื่อง จึงตัดสินใจซื้อเครื่องด้วยราคา 1,500,000 บาท และติดต่อกับเจ้าของเครื่องชาวญี่ปุ่นเพื่อผลิตน้ำตาลโตนดผงส่งให้เช่นเดียว กับชาวไทยคนแรก คนญี่ปุ่นต้นตอของเครื่องผลิต บอกกับดิฉันว่า ชาวญี่ปุ่นรับประทานน้ำตาลโตนดผงมานานกว่า 3 ปีแล้ว และติดใจในรสชาติ ความหอม หวาน จึงคิดค้นเครื่องผลิตและขอให้คนไทยผลิตส่งให้ โดยรับซื้อปีละ 3 ครั้ง ครั้งละ 700-800 กิโลกรัม"

คุณบุญสม ระบุด้วยว่า เครื่องดังกล่าวเป็นลิขสิทธิ์ของญี่ปุ่น ไม่มีจำหน่ายที่ใดในโลก จึงไม่กลัวการลอกเลียนแบบทำน้ำตาลโตนดผง ซึ่งผลผลิตที่ได้จากเครื่องจะได้น้ำตาลโตนดผง 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเครื่องไม่รับน้ำตาลปลอม หากนำน้ำตาลอื่นปนไประหว่างการผลิตจะทำให้เครื่องเกิดปัญหา

หลังมีชื่อสินค้า โลโก้ และแพ็กเกจเป็นของตนเอง คุณบุญสมเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยให้วางจำหน่ายยังร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวและชุมชนของจังหวัดเพชรบุรี เพียง 4-5 ร้าน และร้านเลมอนฟาร์มในกรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียว โดยจำนวนการผลิตหลักจัดส่งไปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะ

สำหรับกำลังการผลิต คุณบุญสม ระบุว่า สามารถผลิตได้ 20 กิโลกรัม ต่อครั้ง ใน 1 วัน จะเดินเครื่อง 5-6 ครั้งแล้วแต่ออร์เดอร์ ซึ่งในอนาคตอยู่ระหว่างการขนส่งเครื่องที่มีกำลังผลิตมากขึ้นจากญี่ปุ่น โดยเครื่องดังกล่าวจะสามารถผลิตได้ครั้งละ 150 กิโลกรัม ต่อครั้ง ดังนั้น เมื่อสามารถผลิตได้สินค้าคราวละจำนวนมาก การสต๊อควัตถุดิบ คือ น้ำตาลโตนด จึงเป็นส่วนสำคัญ

ฤดูที่น้ำตาลโตนดมีมากคือระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน ส่วนเดือนอื่นๆ เป็นปริมาณน้ำตาลที่มีน้อย หรือไม่มีเลย ทำให้คุณบุญสมจำต้องนำวัตถุดิบที่ได้มากในช่วงฤดูของผลผลิตเข้าห้องเย็นเช่า ซึ่งอยู่ในละแวกบ้าน

"กำไร" ตัวเลขของการประกอบธุรกิจ คุณบุญสมไม่ปฏิเสธว่า คนทำธุรกิจไม่มีใครไม่หวังรวย เธอเองก็เช่นกันหวังว่าสักวันหนึ่งจะรวย แต่ด้วยอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่ประกอบอยู่ขณะนี้ อยู่ในระดับเริ่มต้น อีกทั้งจำต้องเปิดตลาดใหม่ให้กับสินค้า ราคาสินค้าที่วางจำหน่ายจึงทำให้เธอได้กำไรเพียงกล่องละ 4 บาท

ในท้ายที่สุด คุณบุญสมยังหวังว่า "เสน่ห์เมืองเพชร" ในรูปของน้ำตาลโตนดผง จะได้รับการตอบรับจากสังคมอย่างดี เพราะเป็นการผลิตโดยวัตถุดิบดั้งเดิมในท้องถิ่นของประเทศ ดังนั้น หากมีผู้สนใจนำไปจำหน่ายเพื่อเพิ่มยอดการผลิตให้กับสินค้าภายในประเทศ สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ (081) 984-8946 หรือ (032) 414-128 คุณบุญสม ยินดีต้อนรับ

ข้อมูลจำเพาะ
กิจการ   รับซื้อน้ำตาลโตนด ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลโตนดผง
ชื่อกิจการ  เสน่ห์เมืองเพชร
ลักษณะกิจการ  เจ้าของคนเดียว
เจ้าของกิจการ  คุณบุญสม นุชนิยม
เงินลงทุน  หลักล้านบาท
วัตถุดิบ/วัสดุอุปกรณ์ น้ำตาลโตนดแท้ เครื่องผลิตน้ำตาลโตนดผง
รูปแบบการขาย  จำหน่ายส่ง
แหล่งซื้อวัตถุดิบ  รับซื้อจากเกษตรกรปลูกตาลในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี
สินค้า   น้ำตาลโตนดผง
จุดเด่นของสินค้า  หอม หวาน สีสวย
รายจ่ายซื้อวัตถุดิบ ขึ้นกับการรับซื้อวัตถุดิบ โดยให้ราคารับซื้อสูงกว่าราคาตลาด 20 บาท
พนักงาน  8 คน
ยอดขาย   ประมาณ 3-4 ตัน ต่อปี
สถานที่ตั้ง  เลขที่ 210/8-10 หมู่ 1 ถนนใหญ่ ตำบลท่ายาง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
โทรศัพท์   (081) 984-8946 และ (032) 414-128

........................................................

ตาล เป็นพรรณไม้พวกปาล์มขนาดใหญ่ สกุล (Genus) Borassus ในวงศ์ (Family) Palmae เป็นปาล์มที่แข็งแรงมากชนิดหนึ่ง และเป็นปาล์มที่แยกเพศกันอยู่คนละต้น ต้นสูงถึง 40 เมตร และโตวัดผ่ากลางประมาณ 60 เซนติเมตร ลำต้นเป็นเสี้ยนสีดำแข็งมาก แต่ไส้กลางลำต้นอ่อน บริเวณโคนต้นจะมีรากเป็นกลุ่มใหญ่ ใบเหมือนพัดขนาดใหญ่ กว้าง 1-1.5 เมตร มีก้านเป็นทางยาว 1-2 เมตร ขอบทางของก้านทั้ง 2 ข้าง มีหนามเหมือนฟันเลื่อยสีดำแข็งและคมมาก โคนก้านแยกออกจากกันคล้ายคีมเหล็กโอบหุ้มลำต้นไว้ ช่อดอกเพศผู้ใหญ่ รวมกันเป็นกลุ่มคล้ายนิ้วมือ เราเรียกว่านิ้วตาล แต่ละนิ้วยาวประมาณ 40 เซนติเมตร และโตวัดผ่ากลางประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร โคนกลุ่มช่อจะมีก้าน ช่อรวมและมีกาบแข็งหลายกาบหุ้มโคนก้านช่ออีกทีหนึ่ง ช่อดอกเพศเมียก็คล้ายกัน แต่นิ้วจะเป็นปุ่มปม ปุ่มปมคือดอกที่ติดนิ้วตาล ดอกหนึ่งโตวัดผ่ากลางประมาณ 2 เซนติเมตร และมีกาบแข็งหุ้มแต่ละดอก กาบนี้จะเติบโตไปเป็นหัวจุกลูกตาลอีกทีหนึ่ง ผลกลมหรือรูปทรงกระบอกสั้นๆ โตวัดผ่ากลางประมาณ 15 เซนติเมตร ผลเป็นเส้นใยแข็งเป็นมัน มักมีสีเหลืองแกมดำคล้ำเป็นมัน หุ้มห่อเนื้อเยื่อสีเหลืองไว้ภายใน ผลหนึ่งๆ จะมีเมล็ดใหญ่แข็ง 1-3 เมล็ด
    
............................................................

จังหวัดเพชรบุรี มีต้นตาลมากที่สุดในประเทศไทย ดังปรากฏหลักฐานจาก "นิราศเมืองเพชร" ของ สุนทรภู่ ความตอนหนึ่งว่า "ทุกประเทศเขตแคว้นแดนพริบพรี เหมือนจะชี้ไปไม่พ้นแต่ต้นตาล" ด้วยเหตุนี้ ต้นตาลจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีคู่กับเขาวัง หรือพระนครคีรี ปรากฏเป็นตราและธงประจำจังหวัดเพชรบุรี สืบมาจนถึงทุกวันนี้
ต้นตาลเมือง เพชร ให้ผลผลิตน้ำตาลโตนดที่ดีที่สุดมาตั้งแต่สมัยโบราณตราบจนถึงปัจจุบัน จึงมีชื่อเสียงติดปากคนทั่วไปว่า "น้ำตาลเพชรบุรี" เพราะมีรสหวานหอมอร่อย มีรสชาติกลมกล่อมชวนรับประทาน จนเป็นที่มาของคำว่า "หวานเหมือนน้ำตาลเมืองเพชร" ดังนั้น ต้นตาลจึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดเพชรบุรี โดยทั่วไปชาวชนบท ชาวนาจะปลูกข้าวและทำตาลควบคู่กันไป ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกต้นตาลไว้บริเวณคันนา ในตัวเมืองเพชรบุรี ก็ปรากฏว่ามีการปลูกต้นตาลเช่นกัน บริเวณที่มีต้นตาลมากที่สุดของจังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ ท้องทุ่งตำบลหนองไม้เหลือง ตำบลโตนดหลาย ตำบลไร่ส้ม ตำบลโรงเข้ เป็นต้น และทุกท้องที่ในเขตอำเภอบ้านลาด เมื่อมองผ่านต้นตาล จะมองไม่เห็นท้องฟ้าอีกด้านหนึ่ง แต่ปัจจุบันเนื่องจากมีการทำนา 2 ครั้ง เป็นผลให้ต้นตาลปรับสภาพไม่ทัน เพราะพื้นที่มีน้ำมากเกินไป กลายเป็นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ต้นตาลไม่ได้พักตัวที่เรียกว่า "แต่งตัว" ในที่สุดก็ต้องยืนต้นตายภายในเวลาไม่นานนัก เพราะระบบนิเวศเปลี่ยนจากเดิม ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
..................................................

ต้นตาลในจังหวัดเพชรบุรี แบ่งออกได้เป็น 2 พันธุ์ ดังนี้1. ตาลบ้าน มีจำนวนเต้าตาลในแต่ละผล 1-4 เต้า แบ่งสายพันธุ์ย่อยได้อีก 3 พันธุ์ คือ
1.1 ตาลหม้อ มีผลขนาดใหญ่ ผิวดำคล้ำ
1.2 ตาลไข่ มีผลสีขาวเหลือง ผลขนาดเล็กกว่า แต่เต้าตาลใหญ่ขนาดใกล้เคียงกับตาลหม้อ (มีเนื้อหุ้มเต้าตาลบาง)
1.3 ตาลจาก มีผลในทะลายแน่นคล้ายทะลายจาก
2. ตาลป่า มีผลเล็กขนาดตาลไข่ มีผลเขียวคล้ำ มีเต้า 1-2 เต้า ลำต้นสีเขียวสด ก้านใบยาว (บางคนเรียกว่า ตาลก้านยาว) พบแถบเขาแด่น อำเภอบ้านลาด และในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตาลป่ายังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก เพราะมักขึ้นอยู่ในป่า
ประโยชน์ของต้นตาล ต้นตาลเป็นต้นไม้คู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรี ที่แข็งแรงยืนยง สามารถทนแล้ง ทนฝน และกระแสลมร้อนหนาวตามสภาพดินฟ้าอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องบำรุงรักษามากนัก นอกจากต้นตาลจะให้ประโยชน์ในการทำน้ำตาลโตนดแล้ว ส่วนต่างๆ ของต้นตาลยังมีประโยชน์ในด้านต่างๆ อีก

credit : http://www.matichon.co.th/

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.