ข้าวเหนียวมูน 3 หน้า ตอน "วิธีทำข้าวเหนียวมูน อย่างละเอียด"

อาทิตย์ก่อนพี่ Ramida ได้ส่งรีเควสมาทางเวบบอร์ดว่าอยากได้สูตรและวิธีทำข้าวเหนียวหน้าต่างๆ สักหน่อย พอดีกับว่าพิมกำลังรื้อฟื้นสูตรเดิมที่เคยทำ เพื่อมาทดลองให้แน่นอน ก่อนที่จะนำไปทำขายอีกครั้ง...  ก็เลยสบโอกาสเหมาะพอดีกันเลยค่ะ

..... สำหรับสูตรที่พิมจะนำมาทำให้ดูในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวมูน  หน้ากุ้ง  หน้าปลาแห้ง  หน้าสังขยา  ผ่านการปรับปรุงสูตรมาหลายครั้งหลายคราวมากๆ  จนได้สูตรที่พิมคิดว่าดีที่สุดเท่าที่พิมจะทำได้ในตอนนี้แล้วอ่ะค่ะ  ^__^   แต่เนื่องจากว่าเพราะมันเป็นชุดใหญ่  ทำหลายอย่างด้วยกัน อีกทั้งพิมพยายามจะอธิบายให้ละเอียดที่สุด บอกเทคนิคเคล็ดลับที่พิมรู้ในทุกเรื่อง  รูปกับคำอธิบายก็เลยเยอะเป็นพิเศษ    พิมก็เลยขอแยกออกเป็น 2 ตอนนะคะ เพื่อนๆ จะได้อ่านกันง่าย ๆ ไม่ต้อง scroll หน้ากันยาวๆ

โดยตอนแรก พิมจะขอพูดถึงการทำข้าวเหนียวมูนก่อน ส่วนตอนที่ 2 จะพูดถึงการทำหน้ากุ้ง  หน้าปลาแห้ง  และก็หน้าสังขยาอ่ะค่ะ

แต่ก่อนจะลงมือทำ มาดูผลงานของพิมที่ทำในคราวนี้กันก่อนค่ะ .... ซึ่งจริง ๆ จะมี 3 หน้า 3 กระทงนะคะ แต่ว่าพิมชอบเลข 4  ก็เลยขอมี 4 กระทง ซึ่งกระทงสุดท้ายก็ขอเป็นหน้างาคั่วล่ะกันอ่ะค่ะ  (อร่อยนะจะบอกให้)

:: ส่วนผสมและวัตถุดิบสำหรับทำ "ข้าวเหนียวมูน" ::

- ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 1 กก.
- หัวกะทิ 600 กรัม  (คั้นจากมะพร้าวขูดขาว 1 กก.)
- น้ำตาลทรายขาว 500 กรัม
- เกลือป่นแบบธรรมดา 40 กรัม ............  (แต่วันนี้เกลือธรรมดาหมด พิมใช้เกลือไอโอดีนแทนนะคะ)

- สารส้มชนิดก้อน
- ใบเตยแก่ๆ 5-6 ใบ
:: วิธีทำ ::

เริ่มแรกเราก็มาทำการเตรียมข้าวเหนียวกันก่อนนะคะ

สำหรับข้าวเหนียว .... พิมเลือกใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากเชียงราย ที่เป็นข้าวใหม่ค่ะ เพราะว่าเมล็ดข้าวจะเป็นสีขาว เรียวยาว  และมีความหอม  อีกทั้งนึ่งสุกง่าย ราคาที่ขายกันในตอนนี้ก็ประมาณโลละ 40 บ. +/- ไม่เกิน 4 บาทอ่ะค่ะ

ส่วนสารส้ม พิมก็เลือกใช้แบบเป็นก้อน (มีแบบป่น แบบแท่งกับแบบก้อน)  .. สารส้มเนี่ย พิมฝากแม่ซื้อจากที่เมืองจันทบุรีค่ะ  ส่วนถ้าในกรุงเทพฯ พิมไม่แน่ใจว่าหาซื้อได้ที่ไหน  แต่คิดว่าตามร้านขายยาเก่า ๆ หน่อย หรือร้านขายของชำในตลาดใหญ่ ๆน่าจะมีนะคะ  (เค้าขายเป็นกิโลอ่ะค่ะ กิโลละเท่าไหร่ แม่พิมก็ลืมไปซะแล้ว)

เริ่มต้นการเตรียมข้าวเหนียว เราจะต้องทำการขัดข้าวเหนียวกับสารส้มกันก่อนนะคะ (เรียกว่าขัดแห้ง)  โดยการเอามือนึงข้างที่ไม่ถนัด ตักข้าวเหนียวขึ้นมาไว้ในฝ่ามือ  แล้วมือข้างที่ถนัดก็จับสารส้มถู ๆ กับข้าวเหนียว  ซึ่งจะต้องถูเบา ๆ นะคะ  เพราะหากถูแรงจะทำให้เมล็ดข้าวหักได้ค่ะ (การขัดแห้งแบบนี้ เพื่อให้ยางที่เคลือบเมล็ดข้าวออก เมล็ดข้าวจะได้สุกใสเวลามูนเสร็จแล้ว)

และเมื่อเราขัดข้าวเหนียวกับสารส้มในแบบ แห้งทั่ว ๆ แล้ว  ก็ให้เราเติมน้ำลงไปในข้าวเหนียวค่ะ ปริมาณน้ำไม่ต้องเยอะนัก  กะว่าสูงสักข้าวเหนียว 1 - 1.5  นิ้วก็พอ

แล้วก็ทำการขัดข้าวเหนียวกับสารส้ม (ในแบบเปียก) อีกครั้งค่ะ

ซึ่งเมื่อเราขัดสารส้มกับข้าวเหนียวไปสัก พัก จะเห็นได้ว่าน้ำข้าวเหนียวขุ่นข้นมากๆ  .... ถึงตรงนี้ก็เป็นอันว่าเราขัดข้าวเหนียวได้ที่แล้วนะคะ  (อย่าลืมต้องขัดเบา ๆ ระวังเมล็ดหัก แตก)

ก็ให้เราเทน้ำทิ้งค่ะ  (ส่วนสารส้ม ก็ล้างให้สะอาด  เอาไปผึ่งลมให้แห้ง  พอแห้งดีก็ใส่ถุงเก็บไว้ใช้งานอื่น)  และก็ซาวข้าวเหนียวสัก 3 - 4 รอบ จนกระทั่งน้ำซาวข้าวเหนียวใส มองเห็นเมล็ดข้าวอย่างชัดเจน ก็เป็นอันใช้ได้

จากนั้นก็ใส่น้ำให้ท่วมข้าวเหนียวประมาณ 2-3 นิ้วค่ะ   แล้วก็ทำการแช่ข้าวเหนียวไว้ประมาณ 3 ชม.

ผ่านไป 3 ชม. เราก็จะได้ข้าวเหนียวที่แช่ได้ที่ออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ   (ลักษณะเมล็ดข้าวจะดูอ่อนนุ่มกว่าตอนเริ่มแช่)

จากนั้นก็ให้เราทำการเทข้าวเหนียวใส่กระชอนหรือตะกร้าโปร่งๆ ที่ตาถี่ ๆ เพื่อให้ข้าวเหนียวสะเด็ดน้ำ

พอข้าวเหนียวสะเด็ดน้ำดีแล้ว  ก็ให้เราเอาข้าวเหนียวนั้นไปนึ่งให้สุกค่ะ  โดยปกติเนี่ยถ้ามูนข้าวเหนียวทีละเยอะๆ  พิมจะใช้วิธีการนึ่งด้วยรังถึงนะคะ  ซึ่งจะใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 25-30 นาที แต่ว่าวันนี้ทำแค่กิโลเดียว พิมก็ขอนึ่งด้วยหวดล่ะกันค่ะ เพราะว่ามันเร็วดี  (ใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที ขึ้นกับน้ำและไฟที่ใช้)

ระหว่างนึ่งข้าวเหนียว พิมก็จะมาเตรียมทำน้ำกะทิสำหรับมูนข้าวเหนียวนะคะ ....... ซึ่งส่วนประกอบสำหรับน้ำกะทิมูนข้าวเหนียวเนี่ย ก็ตามข้างบนที่พิมบอกไว้เลยค่ะ

วิธีการทำน้ำกะทิมูนข้าวเหนียวนั้นก็ไม่ยากเย็นอะไร  ให้เราเอาหัวกะทิเทใส่กาละมังใบโตหน่อย   แล้วก็ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ลงไป ค่ะ

จากนั้นก็ใช้ใบเตยช่วยในการขยำน้ำตาลทรายกับน้ำกะทิ ... จนกระทั่ง้นำตาลทรายและเกลือละลายหมดดี ก็เป็นอันว่าใช้ได้  (ใช้เวลาไม่นาน)

พอน้ำตาลทรายละลายหมดแล้ว  ก็ทำการกรองน้ำกะทิด้วยตะแกรงตาถี่ๆ หรือผ้าขาวบางพับทบ 2 ชั้น .... 1 ครั้งค่ะ  เพื่อกรองเศษผง เศษใบเตย หรือน้ำตาลทรายที่ละลายไม่หมดทิ้งไป

กรองเสร็จแล้วก็จะได้น้ำกะทิ สีหวาน ๆ อย่างนี้นะคะ ^^

ซึ่งตอนที่เราทำน้ำกะทิเสร็จเรียบร้อย  ข้าวเหนียวที่เรานึ่งไว้ก็จะสุกพอดีกัน  (เวลาใกล้เคียงกันอ่ะค่ะ)

ป.ล. หากนึ่งข้าวเหนียวด้วยหวดแบบนี้  หลังจากเรานึ่งไป 10 นาทีแล้ว  ให้เรากระดกข้าวเหนียวด้านล่างขึ้นมา และให้ด้านบนลงไป และนึ่งต่ออีกประมาณ 5-7 นาที ข้าวเหนียวก็จะสุกทั่วกันดี

ป.ล. อย่านึ่งข้าวเหนียวนานเกินไป  ไม่งั้นข้าวเหนียวจะบานเละเวลาที่เราเอาไปมูน / และอย่านึ่งโดยใช้เวลาน้อยเกินไป ไม่งั้นพอมูนเสร็จ ข้าวเหนียวไม่สุกดี  กินแล้วจะหรุบ ๆ  หากไม่แน่ใจ ใช้วิธีหยิบขึ้นมากัดดูสัก 3-4 เมล็ดก็ได้ค่ะ

แล้วพอข้าวเหนียวสุกดี  ก็ให้รีบเทข้าวเหนียวทั้งร้อนๆ ลงไปในน้ำกะทิที่เราเตรียมไว้เลยค่ะ  แล้วก็จัดการคนด้วยพายให้เข้ากันดี  แล้วก็ปิดฝาไว้ให้สนิทประมาณ 10 นาที ......  พอ 10 นาทีผ่านไป ก็ให้เราเปิดฝา แล้วทำการคนข้าวเหนียวแบบปาดไปปาดมาอีกครั้ง  แล้วก็ปิดฝาอีกรอบค่ะ

จากนั้นก็ทิ้งไว้อีก 20 นาที แล้วก็เปิดฝามาคนข้าวเหนียวแบบปาดไปปาดมาอีกรอบ  และก็ปิดฝาทิ้งไว้อีก 10 นาทีสุดท้ายค่ะ

และเมื่อ 30-40 นาทีผ่านไป  เราก็จะได้ข้าวเหนียวมูนที่เม็ดยาว เรียว สวย นุ่ม หอม และเป็นเงาแวววาว ... ออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ   ซึ่งพิมรับรองว่าสูตรนี้เนี่ย หากเพื่อนๆ ตวงไม่ผิด  ข้าวเหนียวมูนจะไม่แฉะหรือแห้งจนเกินไปแน่นอนอ่ะค่ะ ^__^

ทีนี้เวลาจะกิน หรือจะขาย ... พิมก็จะเอามาจัดใส่กระทงใบตองเล็ก ๆ แบบนี้นะคะ ... แล้วก็ใส่หน้าต่าง ๆ ที่เราชอบลงไป  ไม่ว่าจะหน้ากุ้ง หน้าปลาแห้ง  หน้าสังขยา หน้ากระฉีก หรือหน้างา .... แค่นี้เราก็จะได้ข้าวเหนียวมูนสุดแสนอร่อย พร้อมเอาไปโชว์หรือเอาไปทำขายได้แล้วอ่ะค่ะ ^__^ ... ซึ่งสำหรับวิธีทำหน้าข้าวเหนียวมูนต่างๆ นั้น  เปิดชมได้ใน "วิธีทำข้าวเหนียวมูน 3 หน้า ตอนที่ 2" .. นะคะ 

credit : http://www.pim.in.th/

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ข้าวต้มมัด (หรือข้าวต้มผัด)

หลายอาทิตย์มาแล้วค่ะ ที่น้องชายพิมทั้งสองคนบ่นกับแม่ว่าอยากจะกินข้าวต้มมัด  แต่แม่พิมก็ไม่ว่างจะมัดให้กินซะที  จนเค้ามาบ่นกับพิมว่าให้พิมทำก็ได้  แต่พิมก็ไม่ว่างจะทำให้เหมือนกันค่ะ  .. จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา  เค้าเริ่มงอนแล้วค่ะ แล้วก็บ่นๆๆๆ เป็นหมีกินผึ้ง  พิมก็เลยตัดสินใจเอาก็เอานะ ใบตองก็มี กล้วยก็มี ถั่วดำก็มี.. เพราะงั้นทำเลยดีกว่าค่ะ
"ข้าวต้มมัด" ... ในความรู้สึกพิม เป็นขนมที่ทำไม่ยาก วัตถุดิบไม่เยอะ   แต่มีวิธีการทำที่ยุ่งยากค่ะ  หลายขั้นตอนมาก ๆ แถมใช้เวลานานในการทำ  ...  ดังนั้นนาน ๆ พิมและแม่พิมถึงจะลงมือทำสักที   ... แต่ถ้าทำวันไหน ก็ทำทีนึงเยอะเลยค่ะ  ประมาณสัก 50-60 มัดได้   ทำแล้วกินไม่หมด แจกยังไม่หมด ก็เก็บเข้าช่องฟรีสเอาไว้  เวลาไหนอยากจะกินก็เอามาอุ่นโดยการนึ่งให้ร้อน ๆ  ก็ได้อารมณ์เหมือนข้าวต้มมัดที่ทำเสร็จใหม่ ๆ เลยค่ะ

วันนี้พิมก็เลยอยากจะมาขอแนะนำสูตรข้าวต้มมัดแบบที่บ้านพิม  พร้อมกับสอนวิธีการห่ออย่างละเอียด สำหรับคนที่สนใจอยากจะทำด้วยนะคะ

ซึ่งส่วนผสมหรือวัตถุดิบในการทำข้าวต้มมัด  ถ้าไม่นับพวกใบตอง-ตอก (ที่ใช้ห่อ) แล้ว  ก็จะมีส่วนผสมตามด้านล่างนี่ค่ะ

:: ส่วนผสมข้าวเหนียวผัด ::
1. ข้าวเหนียวเก่า 500 กรัม (พิมใช้ 1.6 กิโล)
2. มะพร้าวขูดขาว  600 กรัม (1.8 กิโล)
3. น้ำตาลทรายขาว  280 กรัม (850 กรัม)
4. เกลือป่น 20-25 กรัม (70 กรัม)
:: วัตถุดิบอื่นๆ ::
5. ถั่วดำต้มสุก  3/4 ถ้วย  (2 ถ้วย)
6. กล้วยน้ำว้าสุก งอม  1-2 หวี  (4 หวี)
ป.ล. วันนี้ที่พิมทำ เป็นไส้กล้วยนะคะ  ถ้าใครอยากจะทำไส้อื่น เช่น ไส้ถั่ว ไส้กุ้ง ไส้เผือก ก็เปลี่ยนหรือเพิ่มได้ตามใจชอบเลยค่ะ
ป.ล. ปริมาณในวงเล็บ คือ ปริมาณที่พิมทำจริง ๆ ซึ่งจะมากกว่าที่บอกไว้ในสูตรประมาณ 3 เท่าค่ะ
ป.ล. อุปกรณ์ และวิธีการห่อข้าวต้มมัด  หากใครสนใจจะดูก่อน   >> คลิ๊กที่นี่ << ได้เลยนะคะ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเราก็จะมาทำการแช่ข้าวเหนียวกันก่อนเลยค่ะ ... "ข้าวเหนียว" ... เนี่ย ให้เลือกข้าวเหนียวเขี้ยวงู หรือข้าวเหนียวเก่าหน่อย  เพราะว่ามันจะไม่ค่อยแหยะ ไม่ค่อยเละค่ะ

นำเอาข้าวเหนียวมาซาวในน้ำสะอาดประมาณ 2-3 ครั้ง   แล้วก็แช่น้ำไว้ประมาณ  2 ชม. ... (บางตำราให้แช่ชั่วโมงเดียว  แต่บางตำราก็ให้แช่ข้ามคืน  แต่ที่บ้านพิมจะแช่ประมาณ 2 ชม. เท่านั้นค่ะ)

พอครบ 2 ชม. ก็เอาข้าวเหนียวเทใส่ตะกร้าโปร่ง  (ที่มีรูเล็กกว่าเมล็ดข้าวเหนียว) ... พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

ระหว่างรอข้าวเหนียวสะเด็ดน้ำ  ก็ทำการคั้นมะพร้าวขูดขาว  ให้ได้หัวกะทิ 4 ถ้วยค่ะ
ป.ล. วันนี้พิมมีแต่มะพร้าวขูดปกติ  (ที่ไม่ได้ปอกเปลือกดำๆ ออก) .... ไม่มีมะพร้าวขุดขาว  สีกะทิเลยออกมาหมอง ๆ ไม่ขาวจั๊วะเหมือนทุกทีน่ะค่ะ

แล้วก็เทน้ำตาลทรายทั้งหมดใส่ลงไปในน้ำกะทิ

ตามด้วยเกลือป่น (แบบถุงละบาท) 1 1/2 ถุง  หรือราว ๆ 70 กรัม

แล้วก็ใช้ทัพพีคนให้น้ำตาล + เกลือ....ละลาย  (หรือใครจะเทใส่หม้อ แล้วเอาไปตั้งไฟ  ให้กะทิร้อน น้ำตาลละลายก็ได้นะคะ)

พอน้ำตาลละลายแล้ว  ก็กรองซะ 1 รอบ ด้วยผ้าขาวบาง หรือกระชอนที่มีตาถี่มาก ๆ (อย่าง ที่ร่อนแป้ง)  ... และเทใส่กระทะทอง (เหลือง) หรือภาชนะที่เราจะใช้ผัดข้าวเหนียวน่ะค่ะ
ป.ล. หากลองชิมดู จะรู้สึกว่าเค็มนำมากๆ และตามด้วยหวานจัดค่ะ

นำกระทะขึ้นตั้งไฟ  ... แล้วเทข้าวเหนียวที่สะเด็ดน้ำแล้วลงไป

จากนั้นก็ทำการผัด  (อย่ากวนนะคะ  เพราะถ้าเรากวน เหมือนกวนทุเรียน กวนสับปะรด จะทำให้เมล็ดข้าวแตกหัก ไม่สวยค่ะ)  ... ซึ่งการผัดนั้น  เราจะใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อน โดยการปาดไม้พายไปมา  ปาดซ้ายทบขวา ปาดขวาทบซ้าย อะไรอย่างนี้น่ะค่ะ
...... ซึ่งตอนแรกที่เราเทข้าวเหนียวลงไป  (ไม่ได้ถ่ายภาพมา)  เราจะเห็นว่าปริมาณน้ำกะทิจะท่วมข้าวเหนียวพอประมาณ  แต่พอผัดไปสักแป๊บ  ตัวข้าวเหนียวจะเริ่มดูดน้ำกะทิ  และน้ำกะทิจะแห้งลง จนมีลักษณะแบบนี้  ..... ซึ่งช่วงนี้ให้ลดไฟลงเหลือไฟอ่อนหน่อย  แต่อย่าอ่อนมาก  และระวังเรื่องก้นกระทะไหม !! สำคัญมาก ๆ เลยค่ะ
ป.ล. ในภาพ ในคำพูดผิดค่ะ จริง ๆ ต้องพูดว่า "ผัด" .. ไม่ใช่ "กวน"

แล้วเราก็ผัดไปเรื่อย ๆ กระทั่งข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิจนแห้งแบบนี้  ก็ใช้ได้ค่ะ
ป.ล. ข้าวเหนียวและภาพ สีหมองหม่นสุด ๆ  ดูไม่สดใสเลย .... เพราะว่าตอนที่ผัดข้าวเหนียวกัน มันจะ 5 โมงเย็นแล้วค่ะ  แถมฟ้าฝนก็มืดครึ้มสุด ๆ  ในครัวไม่สว่างเลย  แสงไม่พอเอามาก ๆ ถ่ายช๊อตนี้มา 10 กว่าภาพ ใช้ได้ 3-4 ภาพเอง  และนี่ก็เป็นภาพที่ดีที่สุดค่ะ  -*-

แล้วเราก็ยกกระทงลงจากเตา  เอาไม้พายแหวกตรงกลางกระทะ ให้ข้าวเหนียวมีลักษณะแยกออกจากกัน  เพื่อให้คลายความร้อนได้ไว ๆ ค่ะ ... ช่วงนี้เราก็พักข้าวเหนียวไว้ก่อน เพื่อให้เย็นตัวลงหน่อย

หันมาดูไส้ข้าวต้มกันบ้างค่ะ  ซึ่งวันนี้พิมมีแต่กล้วยค่ะ  ก็ขอใช้กล้วยอย่างเดียวนะคะ  แต่ถ้าใครมีไส้อื่น หรืออยากกินไส้อื่น เช่น ไส้เผือก ไส้ถั่ว ไส้กุ้ง ก็ใช้ได้นะคะ ... หรือหากใครจะลองไส้แปลก ๆ อย่าง ไส้หมูแดง  ไส้แกงกะหรี่ อันนี้พิมก็เคยลองทำมาแล้วค่ะ เข้ากันได้เลย ^^"  แต่มันจะออกเป็นแนวอาหารคาวไปนะคะ
ไส้กล้วยเนี่ย ... พิมใช้ "กล้วยน้ำว้าสุก" ... ที่งอม ๆ หน่อย ตามในภาพค่ะ  ... ใครอยากได้ข้าวต้มมัดที่มัดอวบ ๆ ก็เลือกใช้กล้วยลูกอ้วน ๆ นะคะ  แต่ถ้าใครชอบมัดเล็ก  ๆ ก็ใช้กล้วยที่ลูกเล็กหน่อยได้ค่ะ  หรือจะใช้กล้วยลูกใหญ่มาผ่า 4 ก็ได้
เราก็เอากล้วยน้ำว้า มาปอกเปลือก แล้วผ่า 2 อย่างนี้นะคะ   (ดึงเส้น ๆ ออกไปด้วย) ... และถ้ามีผงอะไรดำ ๆ ติดอยู่ที่กล้วย ก็แตะ ๆ ออกไปด้วยนะคะ

และก็อย่าลืม "ถั่วดำ" ... อันนี้พิมชอบมาก  ถั่วดำเนี่ยเราจะต้องต้มให้สุกก่อนนะคะ ...  ซึ่งจะต้องต้มสุกจริง ๆ  หากทดลองกินแล้วรู้สึกว่าถั่วไม่หรุบ ไม่มีกรุบกรับ ไม่แข็ง  ... แต่ก็อย่าต้มจนเละนะคะ  .... ต้มเสร็จแล้ว เอามาล้างน้ำสัก 3 รอบค่ะ ให้น้ำล้างกลายเป็นน้ำเกือบจะใส ก็ใช้ได้  เทออกจากกาละมังใส่ตะกร้าโปร่งหรือกระชอน ... พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

แต่มีบางคนที่ไม่ชอบถั่วดำ ... ซึ่งหากไม่ชอบ ก็ไม่ต้องใส่นะคะ  (คือเอาตามชอบเลย)  หรือบางทีพิมมีถั่วเขียวซีก  พิมก็ใช้ถั่วเขียวซีกที่เอาไปคั่วจนเหลืองกรอบแล้ว มาใช้แทนถั่วดำ .. ก็ได้ความอร่อยไปอีกแบบค่ะ

เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างเรียบร้อย .. และข้าวเหนียวก็กำลังอุ่น  ๆ ได้ที่แล้ว เราก็จะมาลงมือห่อกันค่ะ ..... แต่ก่อนจะห่ออย่าลืม เอาชามใบเล็ก ๆ ใส่น้ำสะอาดมาไว้สำหรับชุบมือ และผ้าสะอาดสักผืน สำหรับเช็ดมือ ... เอามาไว้ข้าง ๆ ตัวด้วยนะคะ

---

:: วิธีห่อ ::

(ดูรายละเอียดอุปกรณ์ + การเตรียมใบตอง  >> ที่นี่ << นะคะ)

เริ่มต้นก็ ... เอาแผ่นใบตองชั้นนอก ชั้นใน วางซ้อนกัน ... บนฝ่ามือข้างที่ไม่ถนัด ... โดยสลับหัวท้าย  แบบในภาพนะคะ

วางถั่วดำ แปะลงไป  กี่เม็ดก็ได้ตามชอบ .... ชอบเยอะใส่เยอะค่ะ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่

ตามด้วยข้าวเหนียวที่เราผัดเอาไว้แล้ว  ... พิมใช้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ ค่ะ  ก็แผ่บาง ๆ กะว่าให้พอดีกับความยาวและความกว้างของกล้วยที่เราใช้ (แต่ถ้าใครชอบข้าวเหนียวเยอะ ๆ  จะใส่ข้าวเหนียวเยอะกว่านี้ก็ได้นะคะ)

แล้วก็วางกล้วยที่เราผ่าครึ่งไว้แล้ว  หรือจะเป็นไส้เผือกกวน ถั่วกวน ..... ตามไป

ตามด้วยข้าวเหนียว....แปะลงไป  อีกครั้งนึง ... ปริมาณก็เท่า ๆ กับที่แปะลงไปทีแรกอ่ะค่ะ

และสุดท้ายก็แปะถั่วดำอีกสักหน่อยค่ะ

เมื่อใส่เครื่องข้าวต้มมัดหมดแล้ว  จากนี้เราก็จะมาเริ่มห่อกัน ...... เริ่มต้นด้วยการพับทบใบตอง ตามแนวยาวนะคะ (สมมติเราวางใบตองที่มือซ้าย  เราก็ใช้มือขวาในการจับปลายใบตองมาทบกัน) ... กะเอาว่าให้เสมอกัน  แต่ไม่ต้องเสมอกันเปรี๊ยะะะะ ก็ได้นะคะ

แล้วก็พับชายใบตองลงมาทางด้านตัวเรา .. ประมาณครึ่งนึง ..... แล้วก็พับลงมาครึ่งนึง ... อีกครั้งค่ะ  ... (พับทบให้แน่นนะคะ)

ก็จะได้ออกมาเป็นลักษณะแบบนี้

แล้วเราก็จะเริ่มพับ (จับจีบ) ตรงบริเวณด้านปลายใบตองบน-ล่าง  ทั้ง 2 ด้านค่ะ .... โดยเริ่มที่ด้านบนก่อน

ให้เราจับห่อใบตองที่มือในลักษณะเอียงตั้ง ขึ้น   แล้วก็ใช้นิ้วชี้มือขวากดพับ ..ไขว้ใบตองไปทางซ้าย (กดให้แนบกับข้าวเหนียว)  แล้วก็ใช้นิ้วมือซ้าย (มือที่จับห่อใบตองอยู่)  กดพับใบตองไขว้มาทางขวา   (ดูตามภาพ จะง่ายกว่านะคะ)

พอพับจีบ  (หรือที่บ้านพิมเรียกว่า "จับนม") ได้แล้ว ... ก็ทำการพับปลายลงมาด้านในค่ะ  .. โดยเก็บริมให้เรียบร้อย ... ก็เป็นอันว่าเราทำเสร็จไปข้างนึง

จากนั้นเราก็จับจีบและพับปลายใบตองอีกข้าง ในลักษณะเดียวกันค่ะ

ก็จะได้ออกมาในลักษณะแบบนี้  (ด้านใน)

ส่วนด้านบน (หรือด้านนอก)  ก็จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ... ซึ่งโบราณเค้าบอกไว้ว่า  จะดูว่าใครห่อข้าวต้มสวย ให้ดูนมค่ะ (ตรงมุมแหลม) แหละ ว่ามันตั้งหรือเปล่า ^^" ....  ถ้าตั้งก็แปลว่านมสวย .. อะไรทำนองนี้แหละค่ะ - -"

แล้วก็ทำเช่นเดียวกันนี้ ..... อีก 1 กลีบ  ... ก็จะเป็น 2 กลีบ (1 มัดข้าวต้ม มี 2 กลีบ) .... พยายามห่อให้แต่ละกลีบมีขนาดความกว้างยาวที่เท่า ๆ กันนะคะ

นำมาประกบกัน   โดยหันด้านในชนกัน

แล้วก็มัดด้วยตอกเป็น 2 เปลาะ

ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้  (อวบอ้วนเหมือนคนทำเลย -*-)  ....... แล้วเมื่อมัดได้หลาย ๆ มัดรวมกัน ...... ก็เอาไปนึ่งได้เลยค่ะ ^^

โดยเราจะใช้เวลานึ่งประมาณ 1 1/2 ชม. - 2 ชม. ค่ะ  .... จริง ๆ ตอนพิม 1 1/2 ชม. พิมไปเปิดฝาซึ้ง แล้วแกะมาชิมห่อนึงแล้ว ปรากฎว่าข้าวเหนียวสุกดี  แต่กล้วยยังไม่ค่อยแดงค่ะ  ก็เลยจัดการนึ่งต่อไปอีกซะ 1/2 ชม.  ผลปรากฎว่าได้กล้วยแดง .. น่ากินสมใจ ^^

และภาพข้าวต้มมัดในซึ้งนี่ ... พิมถ่ายตอนเช้าวันรุ่งขึ้นค่ะ ... ซึ่งพอเปิดฝามาก็ต๊กกะใจ  ข้าวต้มมัดเกือบ 50 มัด ทำไมมันเหลือแค่นี้เนี่ย  แถมยังมีซากตอก ซากใบตองอยู่ด้วย - -"  ... ปรากฎว่าสอบถามคนในบ้าน  (ก็แค่แม่กับน้องแหละค่ะ ^^")   ได้ความว่าตอนเช้าที่พิมยังไม่ตื่น น้อง ๆ แม่ ๆ มาแอบชิมกันไปแล้วค่ะ  แถมยังเอาไปแจก ลุงป้า น้าอา ข้างบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ^^" ...... เหลือไว้ให้คนทำเห็นก็เท่านี้ล่ะค่ะ .... ฮ่ะๆ

แต่ไม่เป็นไรค่ะ .. เหลือเท่านี้ ก็แสดงว่าเราทำอร่อย  (ชมตัวเองมาก ๆ  - -")  ....... ซึ่งที่เหลือนี่ พิมก็กินกับคุณแฟน 3 มัดค่ะ   แล้วก็ให้แม่เอาไปไว้กินที่จันฯ ประมาณ 7 มัด ที่เหลืออีกราว 5 มัด ก็เก็บใส่ช่องฟรีสเอาไว้อุ่นกินวันหลังน่ะค่ะ

ว่าแล้วก็ ...... สักมัดไหมค่ะ ^^

หรือจะเอาแบบแกะแล้วดี ... จะได้ไม่ต้องเลอะมือ ^^

สุดท้าย ... กลัวเพื่อน ๆ จะคิดว่าไม่อร่อย ..... ขอแอบชิมให้ดูคำนึงด้วยค่ะ ...... ^___^ ... แล้วก็ขอตัวไปโพสต์เมนูอื่นก่อนล่ะนะคะ

 

credit : http://www.pim.in.th/

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล