Read More...
Home » All posts
ปรับโฉมพิซซ่า “สูตรทอด”เมนูไฮโซราคาตลาดสด
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
โทร. 08-9180-7607 |
Read More...
'สะเต๊ะยิ้มสยาม' เปิดตัว 'Store' เต็มรูปแบบ
พิธาน อิมราพร บริษัท ยิ้มสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ “สะเต๊ะยิ้มสยาม” เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เปิดตัวสะเต๊ะยิ้มสยามโมเดลชอปสโตร์ ขนาดพื้นที่ 25 ตารางเมตรจำนวน 24 ที่นั่ง สาขาต้นแบบที่ปากซอย 26 ถนนสายไหม และโมเดลชอป ขนาด 2*1.5 เมตร หลังจากที่ก่อนหน้านี้เปิดเพียงโมเดลเดียวคือคีออส นอกจากนี้ได้ปรับคอนเซ็ปต์ธุรกิจใหม่เกือบทั้งหมด หลังจากที่เข้าอบรม B2B รุ่น 12กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้มีมุมมองต่อการดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์เปลี่ยนไปและมีความเข้าใจ กับการทำธุรกิจแฟรนไชส์มากขึ้น | ||||
นอกจากนี้ ได้เพิ่มเมนูที่ให้บริการและเปลี่ยนจากอาหารทานเล่น มาเป็นสะเต๊ะอาหารจานหลักโดยมีการพัฒนาเมนูเพิ่มเติมเป็น 28 เมนู เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันสะเต๊ะ ข้าวอัดสะเต๊ะ ฯลฯ และเพิ่มความหลากหลายของประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อกวางและเนื้อนกกระจอกเทศ เป็นต้น เพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายของเมนูให้กับลูกค้าที่เข้ามารับประทาน โดยเมนูต่างๆ เหล่านี้เพื่อขยายไปยังชอปเพื่อซื้อกลับไปทาน และนั่งรับประทานในรูปแบบร้านที่เป็นสโตร์ ส่วนคีออสนั้นจะเน้นเป็นอาหารว่างเพื่อซื้อกลับเหมือนเดิม ด้วยจำนวนพื้นที่ที่จำกัดการขยายรูปแบบร้านที่หลากหลายสามารถทำให้พัฒนาเมนู หรือสินค้าใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น พิธาน บอกความแตกต่างของสะเต๊ะยิ้มสยามกับสะเต๊ะทั่วไปว่า ได้รับการยอมรับในเรื่องของรสชาติด้วยการพัฒนารสชาติของผงหมัก เครื่องแกง และมีสูตรคงที่ รวมถึงการคัดสรรคุณภาพของเนื้อแต่ละประเภท ทำให้ได้รสชาติของสินค้าที่ดี ซึ่งการคัดสรรเนื้อส่วนที่ดีเพื่อให้เนื้อมีความนุ่ม ขณะที่ราคาขยายนั้นไม่มีความแตกต่างจากราคาขายทั่วไป และราคาขายต่อไม้ที่ไม้ละ 5 บาท ยกเว้นเนื้อนกกระจอกเทศไม้ละ 12 บาท เนื้อกวางไม้ละ 15 บาท ส่วนอาหารจานหลักเริ่มที่ราคาจานละ 40 บาท ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของผู้ซื้อพบว่าเฉลี่ยจับจ่ายต่อคนต่อหัวเฉลี่ยที่ 50 บาททั้งการนั่งรับประทานในร้านหรือการซื้อกลับ และกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มวัยทำงาน | ||||
และสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนนั้น ทางบริษัทจะจำหน่ายผงหมักและเครื่องแกงซึ่งเป็นสูตรของสะเต๊ะยิ้มสยาม พร้อมคำแนะนำในการซื้อเนื้อสัตว์ให้ หรือผู้ที่ต้องการสั่งซื้อกับบริษัทได้มีทั้งนำเนื้อสัตว์ไปเสียบไม้เองหรือ ให้บริการเสียบไม้ให้พร้อมเพื่อเพิ่มความสะดวกในการไปจำหน่าย ทั้งนี้ “พิธาน” มองถึงความยั่งยืนในการทำธุรกิจ ทั้งแฟรนไชซีและแฟรนไชซอร์ จึงต้องการพัฒนารูปแบบสโตร์อย่างเต็มที่และทยอยลดรูปแบบคีออสเพื่อสร้างความ มีมาตรฐานเดียวกันของร้านสาขา ที่แฟรนไชซอร์สามารถเข้าไปให้การดูแลระบบการบริหารจัดการและการให้การสนับ สนุนต่างๆ เพื่อการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งสำคัญตนมองถึงความตั้งใจของผู้เข้ามาลงทุนระดับเงินลงทุนหลัก แสนในรูปแบบสโตร์นั้นผู้ลงทุนมีความตั้งใจในการทำธุรกิจและฝ่าฝันปัญหาที่ เกินขึ้น ขณะที่การลงทุนรูปแบบคีออสหรือเงินลงทุนหลักหมื่นนั้นจะสามารถล้มเลิกกิจการ กลางคันก็ได้เมื่อเจออุปสรรคหรือยกเลิกเพื่อไปประกอบกิจการหรืออาชีพอื่น ซึ่งในฐานะเจ้าของกิจการหรือแฟรนไชซอร์ต้องการผู้ลงทุนที่มีความตั้งใจพร้อม ที่จะพัฒนาธุรกิจไปด้วยกันมากกว่า อย่างไรก็ตามสำหรับการขยายสาขานั้น ในปี 2553 นี้จะเน้นที่สาขาต้นแบบในรูปแบบสโตร์ จำนวน 2 สาขา ซึ่งปัจจุบันมีสาขาแรกแล้วตั้งอยู่ที่ถนนสายไหม ปากซอย 26 และ จากนั้นในปี 2554จะขยายสาขต้นแบบในรูปแบบสโตร์อีก 3-5 สาขาก่อนที่จะขายแฟรนไชส์ โดยเน้นทำเลย่านชุมชน ซึ่งเป็นปีที่ “พิธาน” จะลุยธุรกิจอาหารอย่างเต็มตัว เพราะมั่นใจการความทุ่มเทให้กับการพัมนาสินค้าหรือ Product จนรสชาติถูกปากผู้บริโภค พร้อมเล็งทำเลหรือ Place เจาะทาร์เก็ตคนวัยทำงาน และระบบหรือ System แฟรนไชส์ นำพาธุรกิจตามเป้าหมาย และตั้งเป้าการสร้างรายได้จากธุรกิจอาหารจะเป็นรายได้หลักหรือประมาณ 60—70% เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ที่ทำอยู่ในขณะนี้ จุดเริ่มต้นธุรกิจอาหาร “พิธาน อิมราพร” เจ้าของธุรกิจออร์แกไนซ์ ฝากผลงานจากการจัดงานใหญ่ๆ มาหลายงาน นอกจากนี้ยังทำธุรกิจการ์เม้นท์ผลิตสินค้าจำพวกตุ๊กตาผ้าขนหนูส่งห้างสรรพ สินค้าชั้นนำและภายใต้ชื่อแบรนด์ของตนเอง การทำธุรกิจต่างๆ ประสบความสำเร็จมาได้ด้วยดี แต่เมื่อเกิดวิกฤตปี 2540 ยุคฟองสบู่แตก ธุรกิจต้องประสบปัญหาอย่างหนัก แต่เมื่อเทียบกับธุรกิจร้านอาหารขนาดใหญ่ของญาติที่มีจำนวนโต๊ะ มากกว่า 200 โต๊ะ ธุรกิจยังดำเนินต่อไปได้ แม้จะพบวิกฤตแต่สามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ เช่น บริหารต้นทุนสินค้าในการบริหารบุคคล และเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เมื่อหันมองธุรกิจของตนเอง เมื่อวิกฤตมาแทบจะล้มทั้งยืนหรือบางกิจกรรมก็ต้องเลิกทำไป เช่น ธุรกิจการ์เม้นท์ ซึ่งมองเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งธุรกิจต่างๆ ที่ “พิธาน” ทำนั้น เขามองว่าไรไซเคิลของธุรกิจสั้นกว่าธุรกิจอาหาร ด้วยความที่ “พิธาน” คลุกคลีกับผู้คนในวงธุรกิจมามากและวิกฤตในครั้งนั้น ทำให้เขาสนใจ “ธุรกิจอาหาร” อย่าง จริงจัง และสนใจกับอาหารทานเล่นอย่าง “สะเต๊ะ” เพราะมองว่าเป็นอาหารทานเล่นที่ทุกเพศ วัยรู้จัก และสามารถรับประทานได้ทุกกลุ่มอายุทุกภาคของประเทศ ธุรกิจจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยคิดค้น ผงหมักเนื้อสัตว์ และเครื่องแกง ซึ่งทำสำเร็จรูปในรูปแบบผง ในปีแรกทำให้เขาขยายสาขาได้มากถึง 9 สาขา และด้วยรสชาติความอร่อยของสะเต๊ะ ทำให้สะเต๊ะยิ้มสยามออกสื่อต่างๆ จำนวนมากทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสารต่างๆ แต่เมื่อดำเนินธุรกิจไปได้ระยะหนึ่ง เขากลับเห็นปัญหาในการดำเนินธุรกิจเครือข่าย อับดับแรกรายได้ที่เข้ามาที่เขาเป็นผู้จำหน่ายผงหมักและเครื่องแกง กำไรที่เขาได้จากสินค้าเหล่านี้ไม่มากแม้สินค้าจากสะเต๊ะที่ลูกค้าขายจะขาย ได้ดีก็ตาม และไม่สามารถควบคุมหรือดูแลทำเลสาขาได้ขึ้นอยู่กับลูกค้าสนใจทำเลใดก็ไปเปิด ทำให้หลายสาขามียอดขายไม่ดี ทำให้เขาเริ่มมองหาธุรกิจที่มีรูปแบบหรือมีมาตรฐานเดียวกันในทุกสาขาที่เปิด บริการ จากนั้น “พิธาน” จึงได้เข้าอบรมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใต้โครงการ B2B รุ่น 12 หลังจากที่ได้ลองผิดลองถูกกับการทำธุรกิจมาแล้ว และปรับธุรกิจใหม่ทั้งหมดเพื่อเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์อย่างเต็มรูปแบบ ลงทุนกับ 'สะเต๊ะยิ้มสยาม' รูปแบบ ขนาด เงินลงทุน Satay Store 1.5 เมตร 656,000 บาท Satay Shop 1.5*2 เมตร 96,000 บาท Satay Kiosk 25 ตร.ม. 56,000 บาท *ประมาณการณ์คืนทุนทั้ง 3 รูปแบบที่ 3 เดือน *ราคาลงทุนรวมอุปกรณ์พร้อมขาย ที่มา : ผู้จัดการรายสัปดาห์ |
Read More...
เย็นตาโฟเจ้าดัง ซ.อารีย์ ลุยแฟรนไชส์ขยายตำนาน 40 ปี
จากความสำเร็จดังกล่าว หนึ่งในทายาทร้าน คิดต่อยอดกิจการครอบครัว โดยขายอาชีพรูปแบบกึ่งแฟรนไชส์ ภายใต้ชื่อ “เย็นตาโฟแซ่ซ้อง” หวังเพิ่มช่องทางตลาดเข้าหาลูกค้าได้กว้างและทั่วถึงยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังช่วยสร้างโอกาสแก่คนอยากมีอาชีพ | ||||
| ||||
ในฐานะเป็นหนึ่งในทายาทที่เข้ามาสานต่อกิจการครอบครัว วีรวิชญ์ เผยว่า อยากให้ธุรกิจแตกแขนงออกไปให้กว้างขึ้น โดยอาศัยชื่อเสียงร้านที่สะสมมานานกว่า 40 ปีเป็นใบเบิกทาง ด้วยการเปิดขายธุรกิจสร้างอาชีพ รูปแบบกึ่งแฟรนไชส์ เพื่อให้ร้านมีช่องทางกระจายวัตถุดิบมากขึ้นแล้ว และยังช่วยสร้างโอกาสให้คนอยากมีอาชีพได้ด้วย | ||||
| ||||
| ||||
ทั้งนี้ ข้อกำหนดในการร่วมธุรกิจกัน คือ ต้องรับวัตถุดิบหลัก 10 ชนิด ที่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของความอร่อยในก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม เช่น ลูกชิ้นชนิดต่างๆ (ราคาส่ง 100 ลูกต่อ 120-140 บาท แล้วแต่ชนิดลูกชิ้น) และ ซอสเย็นตาโฟ เป็นต้น ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องมาซื้อวัตถุดิบต่างๆ ด้วยตัวเองที่ร้านนายฉุ่ย สาขา 1 ที่ ซ.อารีย์ หรือที่สาขา 2 ย่านนวมินทร์ หรือกรณีจะให้จัดส่ง คิดค่าบริการขนส่งตามจริง ส่วนวัตถุดิบพื้นฐานอื่นๆ เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ผัก เครื่องปรุง ฯลฯ ให้ผู้ลงทุนจัดหาเอง | ||||
ทั้งนี้ เริ่มเปิดขายแฟรนไชส์มาประมาณ 4-5 ปี ปัจจุบันมีสาขาประมาณ 14 แห่ง รายได้เฉลี่ยต่อร้านอยู่ที่ 60,000-100,000 บาทต่อเดือน (ยังไม่หักค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเช่า และค่าพนักงาน) ส่วนอัตราร้านที่เปิดแล้วต้องปิดตัวลงมีอยู่ 3 ราย ด้วยเหตุผลหลัก คือ ทำเลไม่เอื้อ สำหรับราคาขายปลีกของก๋วยเตี๋ยว กำหนดที่ชามละ 30-35 บาท ผู้ขายจะมีกำไรหลังหักค่าวัตถุดิบแล้ว ต่อหน่วยประมาณ 50% ตัวอย่างหากขายได้วันละ 60 ชาม จะมีรายได้ประมาณ 21,000 บาทต่อเดือน หากขายได้วันละ 100 ชาม จะมีรายได้ประมาณ 36,000 บาทต่อเดือน โดยผู้ขายควรมีเงินสำรองสำหรับใช้หมุนเวียนประมาณ 30% ของยอดขาย | ||||
@@@@@@@@@@@@@@@@ โทร.08-1456-3030 หรือ www.yentafothai.com |
Read More...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ปรับปรุง
การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น
ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้
รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง
รวมบทความอาชีพ
เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม
รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม
ทองม้วน thong
muan ; rolled wafer
MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100% ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง
มีหลายสีให้เลือกนะคะ สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย
มีเรทราคาส่งค่ะ
-> Inbox : http://m.me/noeyhorm
-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44
ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0