หมูสะเต๊ะชาววัง

หมูสะเต๊ัะชาววัง

การเลือกเนื้อหมู และการหั่นหมูสะเต๊ะ
การ เลือกเนื้อหมูมีส่วนสำคัญในการทำหมูสะเต๊ะ เพราะจะอร่อยหรือไม่เนื้อหมูมีส่วนสำคัญ ควรเลือกใช้เนื้อหมูส่วนสันใน เพราะจะเป้นส่วนที่นุ่มรสชาติดีที่สุด ควรสั่งแม่ค้าไว้
อาจจะรับกันเป็นเจ้าประจำเลยก็ได้ แม่ค้าจะได้จัดไว้ให้ทุกๆวันและต้องกำชับแม่ค้าไว้ว่าจะเอาไปทำหมูสะเต๊ะ จัดส่วนดีๆไว้ให้หน่อย
ถ้าใช้ส่วนหมูสันนอกจะเหนียวไม่นุ่ม

การ หั่นหมูนั้นต้องค่อยหัดทำให้ชำนาญ ถ้าหั่นดีๆ เนื้อหมู 1 กิโล จะสามารถเสียบได้ประมาณ 120- 130 ไม้เลยทีเดียว ผู้ทำต้องหัดทำดูจะเกิดความชำนาญเอง

การหมักหมูสะเต๊ะ
ในการหมัก หมูสะเต๊ะนั้นน้ำหมักหมู จะเป็นหัวใจสำคัญหมูจะนุ่มอร่อยขึ้นอยู่กับขั้นตอนการหมักหมูนี่ล่ะ ต้องมีสูตรน้หมักหมูที่เป็นสูตรเฉพาะ

สูตรน้ำหมักหมูสะเต๊ะ/ หมู 1 กก.
มะพร้าวขูด 1/2 กิโลกรัม
ผงกะหรี่ 7 กรัม
น้ำตาลทราย 80 กรัม
สีเหลืองผสมอาหาร 1 ซอง
นมข้นจืด 1/4 กระป๋อง
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

** สูตรนี้เป็นแนวทาง อาจจะปรับเพิ่มหรือลดลง ตามความชอบ **

วิธีการทำน้ำหมักหมูสะเต๊ะ
1.เริ่ม จากการคั้นกะทิแยกหัว-หาง นำหัวกะทิตั้งไฟปานกลาง ตักหางกะทิทีแยกไว้เติมลงไปบ้าง ใช้ไม้พายคนให้กะทิเดือด 1 ครั้ง แล้วดับไฟ ไม่ต้องให้กะทิแตกมัน
2.จากนั้นให้ใส่น้ำตาลทราย น้ำปลา ผงกะหรี่ สีผสมอาหาร นมข้นจืด คนให้เข้ากันดี
3.นำหมูทื่หั่นไว้ มาหมักในน้ำหมัก คลุกเคล้าด้วยมือเบาๆ ให้เข้ากันดี
4.นำหมูที่หมักแล้ว เข้าไปแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาๆ 3 ชัวโมง
5.พอหมักได้ที่ ครบ 3 ชั่วโมง ให้นำหมูออกมาเสียบไม้ และเรียงหมูสะเต๊ะใส่ถาดไว้โห้เรียบร้อย
6.ขั้นตอนต่อไปให้นำหมูที่เสียบไม้แล้วแช่ไว้ในช่องฟรีชอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

****
หมู หมัก ถ้าวางด้านล่างตู้เย็นต้องเร่งความเย็นเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อหมู เขียว หมูหมักทีแช่ไว้ในช่องฟรีซ เวลาจะนำออกมาปิ้งขายก็ละลายน้ำแข็งก่อน
หมู หมักที่แช่ไว้ในช่องฟรีซ สามารถเก็บไว้ได้นาน 3 เดือน โดยทีรสชาติไม่เปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว น้ำหมักหมูสะเต๊ะก็เช่นเดียวกันหากนำใส่ขวดแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาสามารถเก็บ ไว้ได้ 3 เดือน
เวลาจะใช้ห้ามนำไปอุ่นไฟเด็ดขาด เพียงแต่นำมาคนๆ ให้ตะกอนเข้ากันใช้ได้แล้ว และเวลาใช้ให้ราดพอชุ่มเพราะหมูสันในจะนุ่มอยู่แล้วพอราดน้ำหมักเข้าหมูจัด ูดน้ำหมักเข้า

**เคล็ดลับ**
การนำหมูที่หมักแล้วมาใส่ช่องฟรีซเอา ไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง จะทำให้เนื้อนุ่ม และเครื่องปรุงรสต่างๆชึมซับเข้าไปในเนื้อหมูสะเต๊ะได้ดี เหตุฑิ
และจะทำให้หมูมีความหนืด เสียบไม้ได้ง่ายๆอีกด้วย

สูตรน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ สูตรนี้ใช้กับหมู 1,000 ไม้
สำหรับสูตรน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะนั้นมีดังนี้
มะพร้าวขูด 5 กก.
น้ำตาลปิ๊บ 1.5 กก.
น้ำปลา 1/2 ถ้วย
น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยน้ำพริกหมูสะเต๊ะ 0.5 กก.
ถั่วลิสงคั่ว 0.5 กก.

ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
1.นำ มะพร้าวมาคั้นแยกหัวกะทิ และหางกะทิ แล้วนำหัวกะทิตั้งไฟเคี่ยวใช้ไฟแรง คนไปทางเดียวตลอดรอจนกะทิแตกมัน ระวังอย่าให้ก้นหม้อไหม้ ถ้าไหม้ให้เปลี่ยนหม้อทีใช้เคี่ยวเลย เพราะจะทำให้น้ำจิ้มที่ได้มีกลิ่นเหม็นไหม้
2.แยกเปลือกถั่วลิสงออก และน้ำถั่วมาปั่นรวมกับหางกะทิจนละเอียดเป็นน้ำนม จากนั้นนำส่วนผสมมาใส่ในหม้อเคี่ยวกะทิ และเคี่ยวต่อให้แตกมัน
3.ใส่น้ำตาลปี๊บ คนจนน้ำตาลละลาย ใส่น้ำปลา น้ำส้มสายซูลงไป
4.ใส่ น้ำพริกหมูสะเต๊ะลงไปแล้วคนจนละลายหมด ช่วงนี้ควรใช้ไฟแรง เพื่อให้น้ำพริกละลายหมดและแตกมันลอยขึ้นมา จากนั้นค่อยปรับใช้ไฟอ่อน คนเบาๆไปเรื่อยๆ จนได้ที่จึงปิดไฟ
*** การเก็บรักษาน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ โดยการใส่ขวดปิดฝาให้ดี แช่ตู้เย็นช่องธรรมดาเก้บไว้ได้นาน 3 เดือน

ส่วนผสมอาจาด
น้ำตาลทราย 2 กก.
เกลือป่น 1 ถุง
น้ำส้มสายชู 1 ขวด
แตงกวาหั่น
หอมแขกหั่น
พริกชี้ฟ้าเหลือง แดงซอย

วิธีทำ
ก็นำส่วนผสมทั้ง หมดมาผสมกันแล้ว ตั้งไฟปานกลาง คนให้น้ำตาลละลาย แล้วปล่อยให้เดือด 1 ครั้งปิดไฟ ปรุงรสให้ถูกใจ


การปิ้งหมูสะเต๊ะให้อร่อย

- เตรียมเตาปิ้งให้พร้อม จะเป็นเตาอะลูมิเนียมหรือเตาเหล็กก็ได้เอาให้ขนาดพอดี กะว่าปิ้งได้ครั้งละ 30 ไม้ กำลังเหมาะสม
- ถ่านที่ใช้ ควรเป็นไม้โกงกาง ให้ความร้อนได้ดีกว่าถ่านไม้อื่นๆ และจะทำให้หมูสะเต๊ะมีกลิ่นหอมมากกว่าถ่านไม้อย่างอื่น
- เวลาปิ้งหมูสะเต๊ะ เมื่อนำหมูวางบนเตาให้พรมกะทิให้ชุ่มๆทันที เพื่อป้องกันหมูสะเต๊ะแห้งเกินไป หรือจะพรมตลอดก็ได้
- พอพรมกะทิเสร็จ ต้องกลับหมูสะเต๊ะทันที ไม่งั้นจะไหม้ได้ และควรพลิกทีเดียวหลายๆ ไม้พร้อมๆกัน
- เมื่อเห็นหมูสะเต๊ะเปลี่ยนสีแสดงว่าสุกพอดีแล้ว อย่าให้สุกมาก จะแห้งเกินไปไม่น่าอร่อย

***รสชาติความอร่อยและความหอมอาจจะอยู่ที่การปิ้งด้วยเตาถ่าน


อาชีพ การขายหมูสะเต๊ะนั้นเป้นอาชีพที่น่าสนใจ Idooidea หวังว่าพอจะเป้นแนวทางให้ท่านที่สนใจได้มีอาชีพเสริมสำหรับใช้ เป็นแหล่งสร้างรายได้ให้ตัวเอง ขอเป็นกำลังทุกท่านที่มีความมุ่งมั่นครับ

เขียนโดย kasor ที่ 7/02/2010

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

 

ก๋วยเตื๋ยวลุยสวน
อาชีพ เสริมที่ใช้ทุนน้อย ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยาก ขายง่าย เป็นอาหารที่ทานง่าย สะดวก และรวดเร็วแถมยังได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เพราะมีทั้งผัก หมู และเห็ดอัดแน่นอยู่ข้างใน รับประทานพร้อมกับน้ำจิ้มที่มีรสจัดจ้าน รวมทั้งใส่ใบโหระพาเพี่อเพิ่มความหอมและรสชาติที่ดีขึ้น

วัตถุดิบ
1. เนื้อหมูสับ 1/2 กก.
2. แผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 1 กก.
3. เห็ดหูหนูสดหั่นเล็กๆ 1/2 ถ้วยตวง
4. เห็ดหอมหั่น 1/4 ถ้วยตวง
5. น้ำตาลทราย 1 /2 ช้อนชา
6. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
7. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
10. แครอทหั่นลูกเต๋า 3 1/4 ถ้วยตวง
11. โหระพาสด
12. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
13. รสดี รสหมู 2 ช้อนโต๊ะ
14. ไชโป๊วหวานสับหยาบ 1/4 ถ้วยตวง
15. ผักชีไทย
16. ผักกาดหอม
17. น้ำเปล่าต้มสุก

วิธีทำไส้ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
1. หมักหมูกับซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น รสดี และน้ำตาลทราย นวดให้เข้ากัน หมักไว้อย่างน้อย 15 นาที
2. ตั้งกระทะ พอน้ำมันร้อน นำหมูทีหมักไว้ลงผัดพอสุก ใส่ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และรสดีรสหมูที่เหลือผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่เห็ดหูหนู เห็ดหอม หัวไชโป๊ว แครอท ผัดต่อไปจนเข้ากัน ชิมรสออก เค็ม หวานเล็กน้อยผัดต่อจนน้ำแห้ง ตักใส่จานพักไว้ให้เย็น

เตรียมแป้งก๋วยเตี๋ยวและผัก
1. แผ่นก๋วยเตี๋ยวเเผ่นใหญ่ 1กก. ขนาดกว้าง 12x16 นิ้ว
2. ตั้งลังถึงให้น้ำเดือด นึ่งแผ่นก๋วยเตี๋ยวนานประมาณ 10 นาที แล้วยกลงพักไว้ ให้เย็น
3. ผักกาดหอมตัดเส้นกลางใบออก ตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาด 12x16 นิ้ว ประมาณ 1 ต้นใหญ่
4. โหระพาสดๆ
5. ผักชีเด็ดใบเป็นช่อสั้นๆ

วิธีการห่อก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
1. เลือกถุงพลาสติกขนาดใหญ่กว่าแผ่นก๋วยเตี๋ยว นำมาตัดขอบออกเป็นแผ่นใหญ่วางลงพลาสติกคลี่ออกบนโต๊ะที่สะอาด
2. นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่นั่งแล้วมาพับครึ่ง ขนาด 12x16 นิ้ว และห่อไส้ แล้วม้วนแบบห่อปอเปี๊ยะ ตัดตรงปลายทั้งสองข้างออกเล็กน้อย จากนั้นตัดเป็นชิ้นพอดีคำ

เครื่องปรุงน้ำจิ้ม
1. พริกขี้หนูสวนสีเขียวซอย 20 เม็ด
2. น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง
3. พริิกขี้หนูสีเขียวซอย 10 เม็ด
4. ใบโหระพาซอยหยาบ ๆ 1/2 ถ้วยตวง
5. กระเทียมไทยโขลกหยาบ ๆ 2O กลีบ
6. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง ต้มจนละลาย แล้วพักให้เย็น
7. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
8. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
ปั่นกระเทียม ใบโหระพา พริกขี้หนูทั้งหมด ให้ละเอียดเทใส่ชาม ใส่น้ำเชื่อม เกลือ คนให้เกลือละลาย ชิมรสให้ออก เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน

ประมาณการเงินลงทุน
การลงทุนเบื้องต้น : ไม่เกิน 5,000 บาท
ต้นทุนหมุนเวียน/วัน : ประมาณ 300-500 บาท

ราคาขาย/กล่อง 25-30 บาท
กำไร : ประมาณ 40% ของยอดขายทั้งหมด

ก๋วยเตี๋ยว ลุยสวน สามารถสร้างรายได้ให้ ผู้ที่ต้องการอาชีพเสริมได้ดีมากๆอีกอาชีพหนึ่ง ขอเพียงมีความขยันมุ่งมั่น ตั้งใจทำของดีมีคุณภาพให้ผู้บริโภค รับรอง
ใครที่ได้กินแล้วต้องติดใจ บอกต่อปากต่อปากอย่างแน่นอน

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ขายขนมกุยช่าย

การขายกุยช่ายเพื่อเป็นรายได้เสริมนั้นน่าสนใจไม่ใช่น้อยเพราะต้นทุนการผลิตไม่สูง และขายดีเพราะคนนิยมกินกันมากๆ

เพราะ กุยช่ายเป็นผักที่เรารู้จักมานาน เป็นผักที่มีกินได้ตลอดทั้งปี ราคาถูก นอกจากนี้กุยช่ายยังมีประโยชน์ต่อร่างกายต่างๆมากมาย ดังนี้

- แก้อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย โดยใช้เมล็ดแห้งต้มรับประทาน หรือจะทำเป็นยาเม็ดรับประทานก็ได้
- บำรุงน้ำนม คนไทยโบราณเชื่อว่า แม่ลูกอ่อนกินแกงเลียงใส่ผักกุยช่าย จะช่วยบำรุงน้ำนมได้ดี
- แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และแก้ท้องผูก โดยใช้ใบสดตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำดื่ม
- แก้อาการฟกช้ำ ใบสดตำให้ละเอียด แล้วพอกบริเวณที่มีอาการ เพื่อบรรเทาปวดและแก้อาการห้อเลือดได้ด้วย
- แก้โรคหูน้ำหนวก ใช้น้ำจากใบกุยช่าย หยอดในรูหู
-รับประทานเป็นผัก เพราะกุยช่าย มีใยอาหารมาก จึงช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวได้ดี ช่วยระบบขับถ่าย

ประโยชน์มากมายอย่างนี้ ควรหันมารับประทานผักกุยช่ายกันดีกว่า.

ขนมกุยช่ายเป็น ขนมที่มีขายอยู่ทั่ว ๆ รสชาติอร่อยจิ้มกับน้ำจิ้มรสชาติเข้มข้น เราก็มักเรียกวา ขนมกุยช่าย ติดปากอยู่เสมอ กินเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ไม่น้อย

ส่วนผสม
แป้งข้าวจ้าว 200 กรัม
แป้งมัน 100 กรัม
กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยิัน เทน้ำร้อนใส่ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน พอแป้งอุ่นนวดให้เนื้อเนียน

2. เอามือแตะแป้งนวล (แป้งมัน) เล็กน้อยนวดจนเหนียวนุ่มคลึงแป้งเป็นก้อนยาว ใช้มีดตัดให้เท่าๆ กัน นำไปคลุกแป้งนวลปั้นเป็นก้อนกลม แผ่ให้บางเป็นรูปเบ้าหรือถ้วย

3. ตักไส้ใส่ จีบริมแป้งให้สวยงาม อดกอนแป้งให้แบนเล็กน้อยวางบนลังถึงซึ่งปูด้วยใบตองฉีกหยาบๆ ทาน้ำมันเล็กน้อย วางให้ห่างกันพอควร

4. นึ่งด้วยไฟแรง พรมน้ำบนตัวขนมเล็กน้อยหนึ่งประมาณ 15 นาที ยอลง แล้วพรมด้วยกระเทียมเจียว


ส่วนผสมไส้กุยช่าย
ใบกุยช่ายหั่น 3 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1ช้อนชา
กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำไส้

*.นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าหมักไว้ 5 นาที ใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ ผัดพอสุก ใส่ภาชนะเก็บไว้

ส่วนผสมน้ำจิ้ม
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วดำ 1/2 ถ้วย
น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าแดง 4-5 เม็ด
ซีอิ๊วหวาน 1/2 ถ้วย

วิธีทำน้ำจิ้ม

*.นำส่วนผสมทั้งหมด *ยกเว้นพริกชี้ฟ้าแดง ผสมคนๆให้เข้ากัน จากนั้นจึงใส่พริกชี้ฟ้าแดงแกะเม็ดโขลกละเอียดใส่ตามไปทีหลัง


เงินลงทุน

- การลงทุนเบื้องต้น : ไม่เกิน 5,000 บาทรวมอุปกรณ์เตาแก็ส
- ทุนหมุนเวียน : ประมาณ 300 บาท/วัน
- ราคาขาย : ประมาณ 5 บาท
- กำไร : รายได้ที่เป็นกำไร 40% ของยอดขาย 

 

เขียนโดย kasor ที่ 8/26/2010

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

เปิดร้านน้ำแข็งใส

 

เปิดร้านน้ำแข็งใส
เมือง ไทยเป็นเมืองร้อน อากาศอบอ้าวเกือบทั้งปี ธุรกิจที่ช่วยแก้ดับกระหาย จึงเป็น ธุรกิจที่ทำเงินได้ดี นั้นเหมาะกับขนมหวานแบบเย็นๆ เช่น การเปิดร้านน้ำแข็งใสเกล็ดหิมะ ยิ่งเป็นน้ำแข็งใส แนวใหม่ สไตล์เกาหลีที่ มีท็อปปิ้งหลากหลายเมนูให้ลูกค้าเลือก เพื่อดึงดุดความสนใจของลูกค้า ธุรกิจร้านน้ำแข็งใส ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมของผู้บริโภคมากขึ้น มึควรพลาดโอกาสสร้างเงินกับกระแสนี้

ขั้นตอนการเปิดร้านนะคะ ควรตั้งงบประมาณการลงทุนไว้ประมาณ 300,000 บาท โดยไปติดต่อ
ต้อง เน้นตกแต่งร้านให้แบบครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบด้านที่ดูโล่งกว้าง โทนสีของร้าน ตามความรู้สึกของลูกค้าที่อยากจะเดินเข้าร้าน และเหมาะกับขนมหวานแบบเย็นๆ
ตัวเคาน์เตอร์วางท็อปปิ้ง ต้องวางท็อปปิ้งได้หลาย ชนิด

การเลือกน้ำแข็ง
การเลือกน้ำแข็งสำหรับนำมาใช้ ทำน้ำแข็งไสเกลดหิมะต้องติดต่อไปยังโรงงานน้ำ
แข็งโดยตรง เพื่อสั่งน้ำแข็งชนิดพิเศษ คือ น้ำแข็งที่เอาไว้สำหรับไสมือ ก้อนขนาด ประมาณ 4 x 5 นิ้ว เวลานำเอามาใส่เครื่องปั่นน้ำแข็ง
ไสเกล็ดหิมะจะได้น้ำแข็งละเอียดแบบปุยนุ่น โดยน้ำแข็ง 1 กระสอบสามารถทำน้ำแข็งใสได้ประมาณ 50 - 60 ถ้วย

การคัดเลือกวัตถุดิบ
วัตถุ ดิบสดต้องเน้น ใหม่ สะอาด ต้องซื้อวัตถุดิบที่จะใช้ทำท็อปิ้งวันต่อวันหรือสต๊อกวัตถุดิบไว้ไม่เกิน 3 วัน การเลือกซื้อวัตถุดิบประเภท ผลไม้ไทยๆ เช่น มัน เผือก ลูกชิด ก็สามารถหาซื้อได้ที่ตลาด ย่านตลาดสี่มุมเมือง ผลไม้ต่างประเทศ เช่น กีวี แคนเบอรี่ ส้มแมนดาริน ราสเบอี่ร จะสั่งตรงมาจากบริษัทผู้ผลิต ราคาต้นทุนจะถูกกว่าขายปลีกทั่วไป ส่วนสตรอเบอรี่ อาจจะสั่งซื้อจากโครงการหลวงดอยคำ เมื่อซื้อวัตถุดิบแล้ว บางชนิดต้องนำมาถนอมอาหารโดยการเชื่อม เพื่อให้เก็บไว้ใช้ได้

ประมาณ 3 วัน เมนูท็อปปิ้งต้องมีให้ลูกค้าเลือกหลายๆชนิด เช่น สตรอเบอรี่ ราสเบอรี่ แคนเบอรี่ บลูเบอรี่ ส้มแมนดาริน พีช กีวี เมลอน กล้วยหอม ช็อกโกแลต ถั่วแดงญี่ปุ่น ลูกชิด ลูกเกด มันเชื่อม และผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะม่วง ลูกลาน เงาะ ลำไย ฯลฯ

การคัดพนักงานประจำร้าน
กรณีที่สนใจอยากจะเปิดร้านน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลร้านน้ำแข็งใส อยากจะจ้าง
พนักงาน ที่ไว้ใจได้ดูแลร้าน ควรจะเป็นคนที่มีกิริยามารยาทดี ใบหน้ายิ้มแจ่มใส มีชีวิตชีวา รู้จักต้อนรับลูกค้า มีมนุษยสัมพันธที่ดี ต้องเทรนด์พนักงานในด้านการเตรียมวัตถุดิบการเปิดร้านให้ตรงเวลา เช็ดทำความสะอาด และเตรียมวัตถุดิบ เช็คสต๊อกของ จากนั้นก็ขายตามปกติ

การตั้งราคาขาย
การหารายได้เสริมโดยการเปิดร้านน้ำแข็งไสเกล็ด
การ กำหนดราคาต้องตั้งราคาที่พอเหมาะ คือ เริ่มต้นที่ 45 - 65 บาท ซึ่งเราอาจจะต้องวางเมนูไว้ หลายรูปแบบเพื่อกำหนดราคาเป็นช่วงให้ลูกค้าเลือก ยกตัวอย่าง เช่น

รูปแบบ เมนูที่ lราคาถ้วยละ 45 บาท ลูกค้าเลือกน้ำหวานจากน้ำแดง น้ำเขียว น้ำเขื่อม นมสด ได้ 1 ชนิด เลือกท็อปปิ้งได้ 5 อย่าง

เมนู ที่ 2 ราคา 60 บาท จะเน้นเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะใส่ถั่วแดง โยเกิร์ต ชาเขียว เลือกท็อปปิ้งได้ 5 อย่าง เน้นลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ

ทำเลการเปิดร้าน

เปิดร้านน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ ต้องดูทำเลว่าเป็นที่ไหน ค่าเช่าเท่าไหร
ต้อง มองดูทำเลและกลุ่มลูกค้าเอาไว้ด้วย เพื่อต่อยอดผลกำไรในอนาคต กลยุทธ์ทางการตลาดของการเปิดร้านน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะนั้นอยู่ที่ วัตถุดิบต้องมีความสด ใหม่ สะอาดบวกกับการต่อยอดไอเดียเมนูสร้างสรรค์เอาไว้ประจำร้าน

แหล่งจำหน่ายเครื่องทำน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ

1.บริษัท แม๊กช์ แอนด์ ไมค์ตี้ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน
ชน) บริษัทผู้นำเข้าเครื่องทำน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะจากประเทศเกาหลี
โทร 0 2685 3939

2. Apache จำหน่ายเครื่องไสน้ำแข็งเกล็ดหิมะ เครื่องทำนำ
แข็งไสเกล็ดหิมะ โทร 08 5136 0548, 08 6345 6138 เว็บไซต์
www. apache .co.th

3. Thai Wasino Electric จำหน่ายเครื่องทำน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ
ขนาดใหญ่ โทร 0 2399 1600, 0 2749 8787, 0 2749 8788
หรือที่เว็บไชต์ www.thaiwasinoelectric.com

แหล่งซื้อวัตถุดิบ

1. ตลาดสดทั่วไป เฉพาะด้านที่มีขายสินค้าประเภทวัตถุดิบขนมหวานจะมีการจำหนายผลไม้เชื่อม อาทิ มันเชื่อม เผือกเชื่อมพุทราเชื่อม ลูกชิดเชื่อม ลูกตาลเชื่อม

2. ย่านบางลำพู แหล่งขายขนมไทยประเภทเชื่อมต่างๆ อาทิสาเกเชื่อม ฟักทองเชื่อม มันสำปะหลังเชึ่อม เผือกเชื่อม

3. ร้านคุณอุ๊ แหล่งขายส่งของเชื่อม อาทิ แปะก๊วยเชื่อม
พุทราเชื่อม รากบัวเชื่อม โทร 080586 9659, 08 5949 6773

แหล่งจำหน่ายน้ำหวาน

1. บริษัท เฮลช์เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตน้ำหวาน แบรนด์ “เฮลล์บลูบอย”
หลากรสชาติ คาทิ ซาสี่ กุหลาบ สับปะรด สละ มะลิ สตรอเบอรี่ ครีมโซดา องุ่น แคนตาลูป บรรจุ 12ขวด/ลัง ราคา 35 บาท/ขวด

ติดต่อ 40 ถ รามอินทรา ต. อนุสาวรีย์ อ. บางเขน กรุงเทพฯ 10220 โทร 0 2971 7160 - 65

2. โรงงานแสงฟ้า โรงงานผู้ผลิตและจำหนายน้ำหวานเข้มข้นแบรนด์ “จีนนี่”รสหวานหอมอร่อย
สีสันสวยงามหลายรสชาติ อาทิ โกโก้ ชา กาแฟ สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ มะลิ ส้ม ครีมโซดา สละไซเดอร์ ฯลฯ บรรจุ 12 ขวด/ลัง ราคา 25 บาท/ขวด

ติดต่อ โทร 0 2931 6า40 - 5

แฟรนไชส์น้ำแข็งใส เกล็กหิมะ

สำหรับคนที่ชอบธุรกิจสำเร็จรูป
1 แฟรนไชสั Bingsoo โทร 0 2685 3939
2 แฟรนไชส์หวาน - ไส ไฮโซ โทร. 08 6304 28981 ,0 2926 7718
3 แฟรนไชส์ Natty's ice โทร 08 6303 84561 ,08 4752 5284
4 แฟรนไชส์ lce Monster โทร 0 2961 7760-3
5 แฟรนไชส์ู Ezkiice snow ice โทร 08 9988 99061 ,08 1307 91 19

ขอขอบคณข้อมูล เปิดร้านให้รวยเป็นล้าน

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ขายโรตีตัดกรอบ

โรตี เป็นอาหารที่ทุกคนชอบรับประทานกัน โรตีมีขายอยู่มากมาย สามารถหากินได้ไม่ยาก การจะขายโรตีต้องคิดที่มันแปลกแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ เพื่อให้สารถแข่งขันได้และมีจุดขายเป้นของตัวเอง โรตีตัดกรอบนั้น เป็นอาหารที่ไม่สามารถหาทานกันได้ทั่วๆไป ด้วยความแปลก ที่ไม่ได้ม้วนในกระดาษ แต่ใช้วิธีทอดจนกรอบแล้วตัดเป็นชิ้นๆราดด้วยนม หรือหน้าต่างๆแล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง

โรตีตัดกรอบมี ความแตกต่างทั้งรูปร่างและรสชาติ ที่ต่างจากโรตีที่เป็นโรตีนิ่ม ๆ รูปแบบกลม ๆ และงม้วนกระดาษอย่างที่เห็นทั่วๆไป โรตีตัดกรอบจึงเป็นอาชีพเสริมที่มีความน่าสนใจไม่ใช่น้อย
วันนี้เราลองมาดูวิธีการเริ่มต้นทำโรตีตัดกรอบสำหรับคนที่สนใจอยากจะขายโรตี เพื่อหารายได้เสริมให้กับตัวเองกันดูบ้างดีกว่า


ส่วนผสมแป้งโรตี (ทำแป้ง1กก.)
แป้งสาลี 1 กก.
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
เนยหรือมาการีน 1 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เกลือป่น 1 ช้อนชา
นมสด 1 ถ้วยตวง.
น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช

**** ถ้าทำแป้งโรตีมากขึ้น ก็เพิ่มปริมาณตามสัดส่วน

เครื่องราดหน้าโรตีตัดกรอบ
นมข้นหวาน น้ำตาลทราย แยมรสต่าง ๆ เช่น สตรอเบอร์รี่.
ราสเบอร์รี่, สับปะรด ,ช็อกโกแลด,โอวัลติน ,ลูกเกด. ,ลูกชิด
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ,ฝอยทอง,สับปะรดแห้ง ฯลฯ

อาจจะดัดแปลงเพิ่มเติมหน้าได้อีกหลายแบบ

การเตรียมแป้งโรตีแป้งและทอด
1. นำสาลีแป้งมาร่อน 2 ครั้ง แล้วพักไว้ก่อน

2. นำส่วนผสมต่างๆได้แก่ น้ำสะอาด น้ำตาลทราย นมสด ไขไก่ เกลือป่น ใส่ลงในภาชนะที่ใช้ตีไข่ จากนั้นให้คนส่วนผสมให้เข้ากัน พักเตรียมไว้

3. นำแป้งสาลีที่ร่อนเสร็จแล้วใส่อ่างผสม โดยทำเป็นแอ่งตรงกลาง แล้วค่อย ๆ ทยอยใส่ส่วนผสมของเหลวที่เตรียมไว้ลงไปทีละนิด นวดแป้ง
กับส่วนผสมจนเข้ากันดี ถ้าแป้งแห้งไปให้เติมน้ำสะอาดได้นิดหน่อย แล้วนวดต่อเรื่อย ๆ จนแป้งนุ่ม

4. ใส่มาร์การีนลงไป แล้วนวดกับแป้งให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แป้งที่ดีควรมีลักษณะเหนียวแน่น หนืด ยืด ๆ เนื้อแป้งจะนิ่มและเนียนมือตั้งแป้งพักไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง

5. พอแป้งได้ที่ ให้นำแป้งมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดพอเหมาะต่อการทอดโรตี 1 แผ่น แล้วนำไปแช่ในน้ำมันพืชอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เสร็จขั้นตอนการทำแป้งโรตีตัดกรอบ

วิธีการทอดโรตีตัดกรอบ
1.การ ทอดโรตีตัดกรอบนั้นต้องใช้น้ำมันมาก เอามือกดบนตัวแป้งให้แบนเรียบ ใช้มือทั้งสองจับมุมแป้งฟาดกลับไป-กลับมา เพื่อให้แป้งยืดและขยายตัว จนมีลักษณะบางเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
2.วางแผ่นแป้งลงในกระทะ พับทั้งสี่ด้าน ใช้ตะหลิวตัดโรตีระหว่างการทอดให้เป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ พลิกโรตีเพื่อทำให้โรดีสุกกรอบเสมอกันทั้งแผ่น เมื่อทอดเสร็จก็ตักใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
3.จัดเรียงวางบน กระดาษซับน้ำมัน หน้าตาโรตีตัดกรอบจะดูคล้าย ๆ เกี๊ยวทอดกรอบ โรยหน้าด้วยนม น้ำตาล และเครื่องโรยหน้าต่างๆ ตามที่ลูกค้าเลือก

**ในกรณีที่ทำขายไม่ทัน ก็ใช้วิธทอดแป้งโรตีใส่กระติกเตรียมไว้ก่อน เพื่อให้รวดเร็วในการขายและจะเก็บรักษาความกรอบได้นาน

เมนูโรตีตัดกรอบแบบต่างๆ
โรตีใส่ไข่ ,โรตีไข่ทรงเครื่อง (ใส่แยม หรือใส่เครื่อง 1 ไส้)
โรตีทรงเครื่องรวมมิตร
โรตีตัดกรอบนม-น้ำตาล
โรตีไข่กล้วยหอม
โรตี-ตัดกรอบ ทุกรส สามารถเลือกหน้าต่างๆได้ เช่น ราดด้วยแยม ช็อกโกแลต กล้วยหอม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลูกชิด ฝอยทอง ลูกเกด ฯลฯ

อุปกรณ์ในการทำโรตีตัดกรอบ
เตาแก๊ส
กระทะสำหรับทอดโรตี
ตะหล๋ว
กะละมัง ที่ตีไข่ ตาชั่งสำหรับชั่งแป้ง
ช้อนตวง
ไม้คีบ
กระชอนสำหรับกรองเศษแป้งโรตีออกจากน้ำมัน
กระติกน้ำ
หม้อสแตนเลส
มีด เขียง. ช้อน.
กระบวยเล็กมีหูจับ ตะแกรง
กระดาษซับน้ำมัน
กล่องใฟม หรือกล่องพลาสติก


การลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 25,000 บาท
กำไร ประมาณ 30% ของราคาขาย
ตั้งราคา 15-20 บาท/ชุด

เลือก ทำเลขาย สถานที่เหมาะสมคนเดินผ่านไปมามากขึ้นเท่าใด ยอดขายก็ยิ่งเพิ่มขึ้น พยายามหาทำเลที่ผู้ซื้อจะสังเกตุเห็นได้ง่าย เพื่อเป็นอาจจูงใจให้ลูกค้ามาซื้อสินค้า หาสถานที่ใกล้แหล่งชุมชน ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบอาชีพสุจริตทุกๆท่านครับ

เขียนโดย kasor ที่ 9/07/2010 

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ทำวุ้นมะพร้าวขาย

วุ้น มะพร้าวเป็นขนมไทยที่คนนิยมรับทานกัน เพราะมีรสชาติที่หอมหวานอร่อย ทานแล้วสดชื่น เหมาจะจะซื้อไปฝาก ญาติสนิท หรือคนที่รู้จัก อาชีพทำวุ้นมะพร้าวขายจึงน่าสนใจ น่าลองทำขาย เพราะซื้อง่าย ขายคล่อง ทำไม่ยาก วัตถุดิบก็ไม่ได้มากมายอะไร

วัตถุดิบในการทำวุ้นมะพร้าวได้แก่

ลูกมะพร้าวอ่อน
ผงวุ้น
น้ำตาล
เกลือ
มะพร้าวแก่

วิธีการทำวุ้นมะพร้าว

1.คัดมะพร้าว ใช้มะพร้าวอ่อนที่มีขนาดกำลังพอดี ไม่แก่และไม่อ่อนเกินไป สามารถใช้ช้อนตักเนื้อมะพร้าวออกมาจากกะลาได้ แล้วใช้ช้อนขูดเนื้อมะพร้าวอออมาเตรียมไว้ ต้องระวังอย่าขูดให้ถึงผึวกะลา เพราะจะทำให้เนื้อมะพร้าวมีสีไม่สวย

2.นำมะพร้าวแก่มาคั้นแยกหัว และแยกหางกะทิ เมื่อได้น้ำกะทิแล้ว

3.นำผงวุ้น น้ำตาล เกลือเล็กน้อย ผสมลงไปกับหางกะทิ แล้วตั้งไฟเคี่ยวจนเดือด

4.ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทหัวกะทิลงไปในตอนสุดท้าย เคี่ยวส่วนผสมทุกอย่างต่อจนเดือดอีกครั้ง

5.ยกลงมาแช่น้ำเย็น แล้ว ให้ตักใส่บรรจุภัณฑ์ทิ้งไว้ให้เย็น เนี้อวุ้นจะแข็งตัว

6.นำแผ่นพลาสติกใสที่ใช้ห่ออาหารมาคลุมให้มิดชิดป้องกันสิ่งสกปรก นำมะพร้าวไปแช่เก็บในตู้ หรือถังแช่ รอขายต่อไป

การลงทุนเบื้องต้น : ประมาณ 3,500 บาท (รวมเตาเตาแก๊ส)

ต้นทุน : ต้นทุนลูกละ 7 บาท
รายได้ : ถ้าขายส่งราคาลูกละ 12-15 บาท
กำไร : จะอยู่ที่ประมาณ 40 %


มะพร้าวเลือกมะพร้าวน้ำหอม โดยซี้อจากสวนตกลูกละ 3-4 บาท

สามารถ ขายได้ดีในย่านชุมชน และแหล่งที่คนพลุกพล่าน เช่น ตลาดนัด ตลาดสด สถาศึกษา โรงงาน หน่วยงานราชการ หรือ ฝากขายกับร้านขนมไทยใกล้บ้าน

ถ้ามีฝีมือสามารถจัดส่งโรงแรม หรือร้านอาหารได้ ทำส่งขายตามห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต หรือแหล่งชุมชน ต่างๆ ก็ได้

คุณค่าทางโภชนาการของมะพร้าว
เนื้อ มะพร้าวสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด หรือนำมาคั้นเอาน้ำกะทิ ประกอบอาหารคาวหวานได้หลากหลายชนิด เนื้อมะพร้าว ประกอบไปด้วยน้ำมันถึง 60-65 % ในน้ำมันมีกรดไขมันหลายชนิด เนื้อมะพร้าวหั่นฝอยใส่น้ำเคี่ยวหรีอตากแห้ง แล้วเคี่ยวจะได้น้ำมันมะพร้าว

ส่วน น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มทีมีคุณค่าทางอาหารสูง รสหวาน หอม ชื่นใจในน้ำมะพร้าว ยังมีน้ำตาล ใปรตีน โซเดียม แคลเซียม โปแตสเซียมแต่สำหรับผู้ที่มปัญหาเป็นโรคหัวใจหรือโรคไตก็ไม่ควรดื่นน้ำมะพร้าว

เทคนิคเพิ่มเติม

1. อาจจะดัดแปลงเติมธัญญพืชลงในวุ้นเช่น ถั่วแดง ถั่วทอง ลูกเดือย แห้ว เม็ดบัว เผือก พุทราจีน แปะก๊วย สับปะรด แอปเปิ้ล สาลี่ หรือลูกชิด ฯลฯ เพื่อให้ผู้ที่ชอบซื้อวุ้นมะพร้าวอ่อนน้ำหอมกินเป็นประจำ จะได้ไม่รู้สึกเลี่ยนกับรสชาติเพียงรสชาติเดียว

2. การทำวุ้นมะพร้าวให้มีรสชาติอร่อยนั้น จะขึ้นอยู่กับปริมาณส่วนผสมด่างๆ ต้องเน้นเรื่องความสะอาด และการเก้บรักษาให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม จะทำให้วุ้นมะพร้าวอยู่ได้นาน ไม่เสียเร็ว

น้ำมะพร้าวที่นำมาทำวุ้น ควรเป็นน้ำจากลูกมะพร้าวที่แก่เต็มที่แต่ไม่แก่จนมีขาวหรือต้นอ่อนสิ่งสำคัญ ในการทำวุ้นน้ำมะพร้าวคือการรักษาความสะอาดโดยเฉพาะการล้างภาชนะ เมื่อล้างถาดแล้วต้องนำไปผื่งแดดให้แห้งสนิททุกครั้ง 

 

ขอให้คนที่ตั้งใจประกอบอาชีพสุจริต รุ่งเรืองในกิจการ

 

เขียนโดย kasor ที่ 9/24/2010

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

อาชีพขายข้าวแกง

ข้าวแกงเป็นอาหารจานเด็ดของคนไทยมานาน และยังเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

เพียงพอ ต่อความต้องการของร่างกาย ที่สำคัญยังซื้อง่าย-ขายคล่อง มาทุกยุคทุกสมัย
ไม่ว่าจะยุคข้าวยากหมากแพง...น้ำมันพุ่งสักแค่ไหน คนไทยก็ต้องกินข้างแกง อาชีพขายข้าวแกง จึงเป็น อาชีพเสริมที่ดี การเปิดร้านขายข้าวแกง จึงเป็นอาชีพที่ไม่มีวันตาย และยังคงไปได้เรื่อยๆข้าวแกงมี
ผู้ นิยมรับประทานกันเสมอมา ถ้าหากแกงอร่อยถูกปาก-ถูกใจคนรับประทาน หากใส่ใจปรับปรุงรสชาติและความสะอาดอย่างต่อเนื่องรับรองได้เลยว่า ไม่มีวันที่เงินจะขาดมืออย่างแน่นอน



หลักการเลือกซื้อวัตถุุดิบมาปรุงข้างแกง
เนื้อหมู ควรเลือกหมูที่สด สะอาด ต้องมีสีชมพู เนี้ออิ่มเป็นมัน หนังเกลี้ยง
เนื้อวัว ต้องมีสีแดงสด เนื้อละเอียดแน่น
เนื้อไก่ ต้องมีหนังสดบาง สีไม่ซีด
กุ้ง ต้องมีเนื้อแน่น ตัวเขียวปนน้ำเงินสดใส คอไม่หัก
เนื้อปลา ต้องดุที่เหงือกแดง ตานูนสดใส เนื้อแข็งแน่น
หมึก ต้องเลือกที่เยื่อหุ้มตามตัวยังไม่ลอก
ผักสด ต้องเลือกที่ใบติดแน่น สีเขียวสด ไม่ช้ำ เลือกใบที่มีตำหนิจากแมลงบ้างก็ดีเพราะปลอดภัยจากสารพิษ
กะทิ ควรเลือกใช้กะทิ ที่คั้นสดใหม่ ซื้อจากร้านที่ใช้มะพร้าวใหม่สดทุกวัน

แหล่งจำหน่ายวัตถุดิบในการทำข้าวแกง
ตลาดบางกะปิ
ตลาดคลองเตย
ปากคลองตลาด
ตลาดบางกอก-น้อย
ตลาดพรานนก
ตลาดที่มุมเมือง
ตลาดยิ่งเจริญ หรือตลาดสดทั่วไปที่อยู่ใกล้ บ้าน


การลงทุนขายข้าวแกง : ประมาณ 12,000 บาท (รวมรถเข็น และเตาแก๊ส ) + เงินทุนหมุนเวียน ประมาณ 800 บาท/วัน
การเลือกเวลาขาย
เน้นขายเฉพาะช่วงเย็นเพราะคนนิยมซื้อกลับข้างถุงไปกินที่บ้าน
ตั้ง ราคาขายถุงละ 15-20 บาท
กำไร 50 0/0 ของยอดขาย
ถ้า ขายแบบรถเข็น คารมีอาหาร5-8 อย่าง ได้แก่ แกงอะทิ เเกงส้ม ผัดเผ็ด ผัดผัก ต้มจืด ต้มยำ น้ำพรีก-ปลาทูผักจิ้ม ไข่พะโล้ กุนเชียง ปลาสลิดทอด หมูทอด ไข่ดาว ฯลฯ

ทำเลในการขาย
สามารถขายได้ดีในย่านชุมชน และแหล่งที่คนพลุกพล่าน เช่น
โรงเรียน ป้ายรถประจำทาง ตลาด ปากซอย หน่วยงานใด หรือมีโรงงาน เป็นต้น

เทคนิคการขาย
 

1.การ ขายแต่ละวัน อาจที่มีของเหลีอ ดังนั้น เรื่องการเก็บรักษาของเหลือที่สามารถเก็บได้ไม่ทำให้เสียรสชาติ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งต้องรู้วิธีการเก็บอาหารแต่ละอย่างได้ถูกต้อง การจะคงคุณภาพของที่เหลือให้ดีได้นั้น ที่นิยมกันมากก็คือ เก็บใส่ในตู้เย็น
2. สำหรับวันแรกที่เปิดกิจการ ควรทดลองดูก่อน อย่าทำอาหารมากเกินไป ควรจะมีแกงต่าง ๆ ในปริมาณพอสมควร เพื่อทดลองตลาดดูก่อน
3. อาหารที่ควรมีประจำร้าน เช่น น้ำพริก-ผักสด ผัดผัก แกงจืด ผัดคะน้าหมูกรอบ ผัดหน่อไม้ใส่ไข่ ผัดถั่วงอกกับเต้าหู้ ผัดมะเขือยาวหมูสับ. แกงจืดผักกาดขาวกับหมูสับ แกงจืดผักตำลึง หรือต้มจับฉ่าย ไข่พะโล้ ที่ใส่หมูและเข้าหู้ และควรมีเครื่องเคียงอื่นๆ อีกด้วย เช่น กุนเชียง ปลาสลิดทอด เนื้อเค็ม หมูทอด ไข่ดาว ผักสด ผักลวก และน้ำพริกต่างๆ เป็นต้น

คุณสมบัติของพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวแกง
1. มีใจรัก ชอบทำอาหาร ทำกับข้าว
 

2. มีความขยันหมั่นเพียร อดทน เพราะงานทำกับข้าวจะเป็นงานที่เหนื่อยมาก หากต้องทำงานประจำด้วยแล้วต้องมีคนช่วยสัก 1-2 คน
 

3. มีอัธยาศัยดี หน้าตายิ้มแย้ม พูดจาน่าฟังกับลูกค้าเสมอ ตั้งใจบริการ
 

4. มีความคิดสร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนเมนูไม่ให้จำเจ หมั่นพัฒนารสชาติอย่างต่อเนื่อง ฝึกสังเกตลูกค้าว่าชอบแบบไหน กินยังไง 

 

เขียนโดย kasor ที่ 10/09/2010 

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

รวมอาชีพเสริม

เพ้นท์เล็บ

ธุรกิจ เพ้นท์เล็บ ธุรกิจความงามที่อยู่คู่กับผู้หญิง สาวๆทั้งหลายต่างหลงใหล เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มสุภาพสตรีที่รักสวยรักงาม เมื่อก่อนใครที่จะทำอาชีพนี้ได้ต้องมีฝีมือทางด้านศิลปะ และต้องมีความอดทน รวมทั้งตั้งมีไอเดีย สร้างสรรค์ ปัจจุบันนี้ได้ก้าวข้ามไปอีกระดับแล้ว โดยใช้เครื่องเพ้นท์เล็บระบบคอมพิวเตอร์ ท่านที่สนใจอยากทำธุรกิจนี้สามารถเริ่มต้นได้ง่ายโดยไม่ต้องมีความรู้ ระบบอัตโนมัติของเครื่องเพ้นท์เล็บ ไม่ต้องตีกรอบใส่รูปบนเล็บ ไม่ต้องใช้สติ๊กเกอร์ติดนิ้วเพียงนิ้วในเครื่องก็จะมีระบบตรวจภาพเล็บ และนำภาพไปใส่เฉพาะพื้นที่เล็บ มีลวดลายให้เลือกมากมาย และยังสามารถเพิ่มลายตามความต้องการของลูกค้าได้ สามารถบริการลูกค้าได้ 6-10/ชั่วโมง

สำหรับท่านใดสนใจลองติดต่อสอบถามไปได้ที่

1. หจก. เนลอาร์ท บาย เนลสกาย 7/100 นวมินทร์ 96 (ซอยโรงพยาบาลสินแพทย์) คันนายาว กรุงเทพฯ 10230 โทร. 084-636-0722, 02-944-9331 ,02-510-0443 ,089-792-9251 หรือ www.nailsky.com ลงทุน 30,000

2. pornnatda intertrade 1146/8 ถ.สาถุประดิษฐ์ 58 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทร.02-294-7616 ,02-294-1330,081-637-3786 ,089-200-6644 หรือ www.nailartprint.com หรือ สาขาเจเจมอลล์ ชั้น 1 ห้อง F295 ถ.กำแพงเพชร จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ลงทุน 27,000/เครื่อง 2 เครื่อง 50,000

หรือถ้าอยากเรียนเพ้นท์เล็บด้วยมือ

ติดต่อ คุณ ยุคลฉัตร จันทคร เจ้าของร้านโมเดิร์นเนล สตูดิโอ หลักสูตร การเพ้นท์เล็บ 1. การเพ้นท์เล็บ ต่อเล็บอคลีลิก ต่อเล็บเจล ใช้เวลาเรียน 7-10 วัน 8,000 (รวมอุปกรณ์การสอน) 2. สอนต่อขนตา พร้อมอุปกรณ์ชุดใหญ่ 1 ชุด 5,000 3. สอนต่อผม พร้อมอุปกรณ์ชุดใหญ่ 1 ชุด 5,000

สูตรสังขยาใบเตย

วันนี้เอาสูตรการทำสังขยาใบเตยง่ายๆมาให้ครับ เผื่อใครจะทำขาย เป็นอาหารว่างกินสบายท้องรสอร่อย

สังขยาใบเตย

1. ไข่ไก่(เฉพาะไข่แดง 2-3 ฟอง )
2. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย หรือจะใช้น้ำตาลปึกก็หอมหวานดี
3. นมสด หรือ น้ำกระทิ 1 3/4 ถ้วย
4. น้ำใบเตยกรอง 1/4 ถ้วย
5. สีเขียวผสมอาหาร
6. แป้งข้าวโพด หรือแป้งสาลี 1/4 ถ้วย



วิธีทำ
1. ไข่แดง
2. ใส่น้ำตาลลงไป ค่อยๆเทลงไป ให้เข้ากัน ดีๆ
3. น้ำกระทิ ใส่ประมาณ ครึ่งถ้วยตวง แล้วใส่น้ำใบเตย ผสมลงไปให้เต็ม 1 ถ้วยตวง ถ้าใช้ นมสด 1 3/4 เติมกระทิอีกเกือบครึ่งถ้วย แล้วเทน้ำใบเตย ให้เต็ม 3/4 ถ้วย
4. น้ำใบเตย 1/4 ถ้วยตวง ใส่ลง คนให้เข้ากัน
5. ใส่สีเขียวไปประมาณ 3 หยด
6. คนๆให้เข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วยลงไป คนเรื่อยๆอย่าให้เกาะตัวกัน
7. ตั้งไฟ อ่อนๆคนไปเรื่อยๆ
9. จนเนื้อเนียนข้นเสร็จ

กินกับขนมปังนึ่งนุ่มๆ หรือขนมปังทามาการีนย่างเหลืองกรอบ

ธุรกิจ ขนมอบ ฮอทดอก วัฟเฟิล

ธุรกิจ ขนมอบ ฮอทดอก วัฟเฟิล
ธุรกิจ นี้ก็น่าสนใจลงทุนไม่น้อย ทำง่าย ขายง่ายไม่ต้องเตรียมอะไรยุ่งยาก ลงทุนน้อย หาทำเลดีๆรับรองขายได้ดีแน่นอน หรือเปิดร้านอยู่แล้วนำธุรกิจนี้ไปเพิ่มยอดได้อีกทางหนึ่ง ยิ่งทำเลอยู่ใกล้โรงเรียนยิ่งดี เด็กชอบกินกัน หรืออยากหัดให้ลูกหลานทำธุรกิจตั้งแต่เด็ก อันนี้ก็น่าสนใจเพราะทำได้ไม่ยาก หลังเลิกเรียนเด็กๆสามารถมาช่วยทำได้ หรือนำไปขายตามตลาดนัดเปิดท้ายหลังเวลาเลิกงานก็ช่วยเพิ่มรายได้ไม่เลวที เดียว ใครสนใจก็ลองติดต่อสอบถามได้

1. แฟรนไชส์ ฮอทดอก&วอฟเฟิล สูตรสุพรรณ

คุณสุรีย์พร ภรณ์พิริยะนิยม 312 หมู่ 4 ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โทร. 08-1570-3870 ราค่าแฟนไชส์ 19,000 ขายได้ทันที

2. แฟรนไชส์ ฟิชเชอร์พลัส

เลข ที่ 40/1279 ซ. 22 หมู่บ้านพฤษาบี ถ.รังสิต-นครนายก หมู่ 4 ต.คลอง 3 อ. คลองหลวง จ. ปทุมธานี โทร. 086-377-9733 ,086-660-3718 หรือ ที่ www.fisherpluz.com ค่าแฟรนไชส์ 19,000

เป็นกำลังใจให้ครับ idooidea.blogspot.com

ซูชิ ธุรกิจที่น่าจับตา คุณก็น่าลอง

ซู ชิ หรือข้าวปั้นเป็นอาหารยอดนิยมอีกอย่าง ที่ปัจจุบันหากินได้ทั่วๆไป และราคาไม่แพง ต่างจากเมื่อก่อนที่ ต้องไปกินที่ภัตตาคาร หรือร้าน อาหารญี่ปุ่น และมีราคาสูง วันนี้เลยอยากนำเสนอช่องทางอาชีพอีกอย่าง เพื่อให้ลองตัดสินใจ
ซูชิ หรือข้าวปั้น มีหลายหน้าให้เลือกกิน รสชาติถูกปากคนไทยและกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น ข้าวปั้นเป็นอาหารญี่ปุ่นที่มีข้าวเป็นส่วนประกอบผสมกับน้ำส้มหมัก กินคู่กับปลาและเนื้อ หรือของคาวอื่นๆหน้าหลักๆของซูชิที่พบเห็นได้ทั่วไปคือ หน้ากุ้ง ปูอัด ปลาแซลมอน ไข่กุ้งส้ม ยำสลัดปูอัด ยำสาหร่ายเขียว ไข่หวาน สลัดไข่กุ้งส้ม
อาหารญี่ปุ่นจะเน้นขายความสวยงามควบคู่ไปกับศิลปะ และคุณภาพ คือวัตถุดิบต้องสด สะอาด
ธุรกิจ ประเภทนี้ก็ น่าสนใจ ทดลองขายกันดูนะครับ เอาเวลาหลังเลิกงาน 2-3ชั่วโมง หาตลาดเปิดท้ายหรือมีทำเลดีๆนักเรียน นักศึกษาผ่าน หรือคนทั่วๆไปก็นิยมกินกัน รับรองไปได้สวย
แนะนำแหล่ง หาวัตถุดิบ เอ.ดี.ฟู้ด เป็นแหล่งจัดจำหน่ายด้านวัตถุดิบพร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำด้าน อาหารญี่ปุ่น สนใจก็ลองสอบถามกันดูนะครับ

1.บริษัท เอ.ดี.ฟู้ด จำกัด เลขที่5 ซ.จุฬา3 ถ.บรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรงเทพฯ 10330 โทร 02-215-1595 ,089-212-3491, 086-319-0529 แฟกซ์ 02-214-0049 email: a.d.food@hotmail.com จัดจำหน่ายด้านวัตถุดิบพร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำด้าน อาหารญี่ปุ่น

2.โมกุนซูชิ (ตุ๊ก) 63/2585 หมู่บ้านเคหะธานี 4 ถ.รามคำแหง ซ.มีสทีน สนง.ใหญ่ แขวง/เขต สะพานสูง กรุงเทพฯ 10240 โทร 086-034-1012, 085-151-0514 www.mokunsushi.com สอนทำข้าวปั้น พร้อมทั้งจำหน่ายหน้าซูชิชนิดต่างๆ ส่งทั่วประเทศ

3. ร้านโฮชิฟู้ดส์ (อาคารวังทองหลางพลาซ่า ติดกับเซียร์รังสิต) โทร. 086-311-9302 ,086-300-9457 ,02-531-9127 แฟกซ์ 02-531-9128 www.hoshifoods.com E-mail: hoshisushi@hotmail.com เปิดจันทร์-เสาร์ 10.00-20.00น. วันอาทิตย์ 10.00-15.00น. ขายปลีก ขายส่งวัตถุดิบ ให้คำปรึกษาการทำซูชิและอาหารญี่ปุ่น

ทดลองสอบถามกันดูนะครับ เผื่อเจอแนวทาง เพิ่มรายได้อีกทางกับยุค เศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนต้องดิ้นรนครับ เป็นกำลังใจให้ ครับ

kasor idooidea.blogspot.co

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

อาชีพเสริมด้วย เกี๊ยวกรอบ หมูสะเต๊ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้ นำสูตรอาหารว่าง อาหารทำง่าย รับประทานอร่อย ทำขายก็ได้ราคาดีเชียวล่ะ ในส่วนของตัวเกี๊ยวนั้น มี 2 แบบที่สามารถเลือกได้ตามสไตล์ของแต่ละคน คือ ซื้อสำเร็จรูป หรือทำเอง ถ้าจะทำเอง ดูส่วนผสมและวิธีการด้านล่างได้เลย

เกี๊ยวกรอบส่วนผสมเกี๊ยว

1. แป้งสาลีร่อนแล้ว 3 ถ้วย

2. แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย

3. กะทิ 1/2-3/4 ถ้วย

4. ไข่เป็ด 1 ฟอง

5. น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ

6. เกลือ 1/4 ช้อนชา

ส่วนผสมไส้

1. เนื้อหมูสับละเอียด 1 ถ้วย

2. พริกไทย 1/4 ช้อนชา

3. กระเทียม 2 ช้อนชา

4. รากผักชี 2 ช้อนชาตำละเอียด

5. น้ำตาล 1 ช้อนชา

6. น้ำปลา 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน นำไปนวดน้ำปูนใสต่อยไข่นวดต่อไป ใส่เกลือกะทินวดให้เข้ากันจนแป้งนิ่ม คลึงแป้งแผ่นบางที่สุด ตัดแป้งเป็นสี่เหลี่ยมขนาด 11/2 นิ้ว ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้แห้งปิดไว้

2. หมูที่ผสมกับเครื่องที่โขลกไว้ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลให้เข้ากัน

3. หยิบแป้งวางไส้ใส่ตรงกลาง พับครึ่งให้เป็นลูกสามเหลี่ยม แล้วจับชายสองข้างประกบ ให้แน่น

4. นำไปทอดไฟอ่อน น้ำมันร้อนจัดพอเป็นสีนวลรับประทานกับน้ำจิ้ม

ส่วนผสมน้ำจิ้ม

1. แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 1/2 ถ้วย

2. บ๊วยแกะเอาแต่เนื้อ 2 ลูก

3. พริกแดงผ่าเอาแต่เม็ดออก 2 เม็ด

4. กระเทียม 2 ช้อนชา

5. น้ำส้ม 1/2 ถ้วย

6. น้ำตาล 1/2 ถ้วย

7. เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

โขลก พริกกระเทียมให้ละเอียด ผสมน้ำส้ม น้ำตาลทราย เกลือป่น พริกที่โขลกแล้ว บ๊วย นำไปตั้งไฟให้เดือด ชิมรส เมื่อรสดีแล้ว ใส่แป้งมันละลายน้ำข้นๆ พอเดือดยกลง

อาหารอีกอย่างที่สามารถนำมาทำขายเป็นรายได้เสริม และมีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากคือ หมูสะเต๊ะ

สูตรการทำหมูสะเต๊ะ 

 

ส่วนผสมเนื้อหมูสันนอก 1/2 ก.ก.

เครื่องปรุงสำหรับหมักหมู

1. ลูกผักชีคั่ว 1/2 ช้อนชา

2. ยี่หร่าคั่ว 1/2 ช้อนชา

3. ตระไคร้หั่น 1 ช้อนโต๊ะ

4. ข่าหั่น 1 ช้อนชา

5. ผิวมะกรูด 1/4 ช้อนชา

6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

7. นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ

8. ผงขมิ้น 1 ช้อนชา

9. น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ

10. เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ

11. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

ล้าง เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นยาวขนาด 1X4 นิ้ว โขลก เครื่องเทศ ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด เกลือ ผสมลงในเนื้อหมู ใส่นมข้น ผงขมิ้น น้ำมัน เนย เคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ 1-2 ชม.

น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ

1. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 3 เม็ด

2. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

3. ข่าหั่น 1/2 ช้อนชา

4. ตะไคร้หั่น 2 ช้อนชา

5. ผิวมะกรูด 1/4 ช้อนชา

6. รากผักชี 2 ช้อนชา

7. หอมแดง 11/2 ช้อนโต๊ะ

8. กระเทียม 1/2 ช้อนโต๊ะ

9. กะปิ 1 ช้อนชา

10. มะพร้าว 300 กรัม

11. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ

12. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะน้ำ

13. มะขามคั้นข้นๆ 3 ช้อนโต๊ะ

14. น้ำมันพริก 1/4 ถ้วย(ใช้พริกสี 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมัน 1/4 ถ้วย ตั้งน้ำมันให้ร้อน ยกกระทะขึ้น เทพริกใส่ รินใช้แต่ส่วนที่ใส)

15. ถั่วลิสงคั่วป่น 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1. โขลกน้ำพริกให้ละเอียด

2. คั้นมะพร้าวใส่น้ำ 11/4 ถ้วย คั้นให้ได้กะทิ 2 ถ้วย

3. ผัดน้ำพรักด้วยน้ำมันให้หอม ถ้าแห้งให้เติมกะทิ และใส่กะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล และน้ำมะขามและถั่งลิสง ยกลง

4.ใส่น้ำมันพริกลอยหน้า

วิธีปิ้ง

ใช้ไม้เสียบหมูที่หมักไว้ ปิ้งไฟแรง พรมหัวกะทิ
อาจาด น้ำส้ม 1/2 ถ้วยน้ำ 1/2 ถ้วยเกลือ 1 ช้อนชาน้ำตาล 1/3 ถ้วยหอมแดงหั่น 4 หัวแตงกวาหั่น 4 ลูกผสม น้ำ น้ำส้ม เกลือ น้ำตาล ทิ้งให้เย็น ใสในหอมแดง และแตงกวา

หรือถ้าต้องการแฟรนไชส์หมูสะเต๊ะ

ก็ ติดต่อได้ที่ ราชาหมูสะเต๊ะเยาวราช ราคา 19,900.00 บาทรายละเอียด: เปิดร้านของตนเองได้ง่ายเพียงเงินลงทุนหลักหมื่น เหมาะกับผู้ที่ต้องการหาธุรกิจเป็นของตนเอง จัดการง่ายสูตรหมูสะเต๊ะของเราเป็นสูตรดั้งเดิมของเยาวราช โดยมีอากู๋ซึ่งเป็น Chef ฝีมือดีที่ภูเก็ตเป็นผู้ถ่ายทอดให้ ดังนั้นเรื่องของรสชาติของหมูสะเต๊ะที่มีเนื้อนุ่ม กลมกล่อม หอมกลิ่นสมุนไพร น้ำจิ้มถั่วรสเข้มหอมมัน อาจาดรสเข้มข้น แตงกวากรอบหวาน เครื่องปรุงที่นำมาเป็นส่วนผสม ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นดี มีรสชาติเป็นสูตรดั้งเดิม จึงเป็นสูตรที่เรากล้าที่จะนำเสนอผู้ซื้อ เรามีการดำเนินการควบคุมการผลิตทุกขั้นตอนโดยผู้ชำนาญ ทั้งในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐาน รวมถึงเรื่องรสชาติและความสะอาด ทุกอย่างต้องเพียบพร้อม
โดยรูปแบบการลงทุนทางเราใคร่ขอนำเสนอเพื่อเหมาะแก่ผู้ประกอบการ โดยมีรายละเอียดดังนี้เงื่อนไขและสิทธิพิเศษ

· ผู้ซื้อแฟรนไชส์จ่ายเพียงครั้งแรกครั้งเดียว โดยไม่มีการเก็บเพิ่มเป็นรายเดือนหรือรายปี
· ไม่หักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย
· มีการฝึกอบรมจากทางบริษัทฯ จนมีความชำนาญ
· ผู้ซื้อต้องซื้อวัตถุดิบจากบริษัทเท่านั้น (เนื้อหมูสะเต๊ะและ ขนมปัง) รอบการสั่งสินค้า สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือมากกว่าขึ้นอยู่กับการสั่งสินค้าของลูกค้าระยะเวลาการคืนทุน 1 – 2 เดือน

เหมาะ กับผู้ที่ต้องการเริ่มธุรกิจใหม่ ต้องการมีร้านค้าเป็นของตนเอง เริ่มลงทุนเพียงลงทุนเพียง 19,900 บาท ก็มีร้านหมูสะเต๊ะพร้อมขายเป็นของตัวเองได้แล้ว

ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.thaisatakfranchise.com/

หาทำเลดีๆ ใกล้ย่านชุมชน หรือตลาด โรงเรียน รับรองย่างกันแทบไม่ทันแน่ๆ

เขียนโดย kasor ที่ 4/01/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

อาชีพเสริม ธุรกิจเครื่องดื่ม ชา กาแฟ

 

 

อาชีพเสริม ธุรกิจเครื่องดื่ม ชา กาแฟ

ธุรกิจ ยอดฮิตที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ขายเครื่องดื่ม ชา , กาแฟ เย็น , ร้อน เป็นเครื่องดื่มที่ใครๆก็นิยมดื่ม เพราะทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ยิ่งเข้าหน้าร้อน อากาศร้อนๆอย่างนี้ ขายดีเป็นพิเศษวันนี้จึงอยากจะแนะนำแหล่งอาชีพให้หลายๆท่านที่สนใจอยากทดลอง ทำเป็นอาชีพเสริม ลองหันมามองธุรกิจนี้ดูกันบ้างน่าจะดี

1. ชาอินเดีย (The Indian Tea ) 

 

เป็น เครื่องดื่มที่หาดื่มกันไม่ได้ง่ายๆแปลกใหม่ ใช้ใบชาที่ส่งตรงมาจากประเทศอินเดีย รัฐอัสสัม เน้นความเป็นต้นตำหรับชาแห่งอินเดีย ผสมผสานกับสมุนไพรไทย เช่น อบเชย กานพลู ใบเบย์ ขิง พริกไทยดำ เครื่องเทศและเครื่องหอมอื่นผสมผสานจนลงตัว มีคุณค่าต่อร่างกาย ชาอินเดียได้รับการคิดค้นและปรับปรุงจนได้รสชาติที่ถูกปากคนไทย

 

มีทั้งหมด 5 รสได้แก่

1.มาซาลา (Masala)

2.คาร์ดามอน( Cardamon)

3.ชานมผสมน้ำผึ้ง( Honey Milk Tea)

4.ชาน้ำผึ้งผสมเลมอน( Honey Lemon Tea)

5.ชาดำ(Black Tea )

ประมาณการรายได้

จำนวนแก้วที่ขายได้/วัน 50 แก้ว แก้วละ 25 บาท ต้นทุนแก้วละ 6 บาท รายรับ 1,250 บาท กำไร = 950/วัน หรือ 28,500 บาท/เดือน

รายละเอียดการลงทุนแบ่งเป็น 2 ประเภท

1. ราคา 23,000 บาท ป้ายและโลโก้

2. ราคา 36,000 บาท คีออสไม่เกิน 1.5 เมตร เฉพาะด้านหน้าร้าน

3. ราคา 50,000 บาท คีออสไม่เกิน 1.5 เมตร เฉพาะด้านหน้าร้านและด้านหลังของร้าน

อุปกรณ์ที่จะได้รับ

พร้อมขายได้ทันทีตู้เย็น 5.2 Q

เตาไฟฟ้า 1000 w

ใบชาและผงผสมชา Masala กับ Cardamon ฯลฯ

อบรมเรื่องสูตรและการทำชาอินเดีย 5 รส พร้อมคู่มือประกอบอุปกรณ์อื่นๆรวม 23 รายการ

ติอต่อสอบถามได้ที่

บริษัท เฟอร์เฟค เดสตินี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด 927/116 ลาดพร้าว 87 ถ.ลาดพร้าว คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ 10240 โทร. 086-777-4973

2. เชียงรายคอฟฟี่

ร้าน กาแฟในฝัน จุดเด่นของกาแฟเชียงรายคือ ลงทุนต่ำ ในราคา 39,000 บาท โดยมีคีออส เครื่องชง และอุปกรณ์ อื่นครบครัน 32 รายการพร้อมขายได้ทันที ให้บริการครบวงจร one stop service เกี่ยวกับกาแฟสด สามารถกำหนด ราคาขายได้ตามความเหมาะสมและเลือกทำเลที่ตั้งร้านได้เอง หากขายได้ 50/วัน 2-3 เดือนก็คืนทุนก่อนเปิดร้านมีการฝึกอบรม โดยไม่กำหนดเวลา จนมั่นใจว่าเปิดร้านได้ ยินดีให้คำปรึกษาตลอด ในการทำธุรกิจ

รายละเอียดการลงทุน

39,000ระยะเวลาคืนทุน 2-3 เดือน

เงื่อนไขการลงทุน

ไม่เก็บค่าแฟรนไชส์ รายเดือน รายปี

ไม่เก็บส่วนแบ่งจากยอดขาย

สามารถนำสินค้าอื่นๆมาขายร่วมได้

ส่งเสริมการขายและสื่อโฆษณาต่างให้

สนใจติดต่อที่

คุณ ทศพล แพ่งเกษร บริษัท เชียงรายคอฟฟี่ จำกัด 465/21 ซ.ราชเทวี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร.086-639-3575,02-246-3069

3. ไทยชงบอรก

เป็น ธุรกิจที่แตกไลน์ มาจาก บ้านไร่กาแฟ เรื่องคุณภาพจึงไม่ต้องพูดถึง เป็นธุรกิจรถเข็นไทยชงบอรก ที่ให้คนไทยได้มีธุรกิจร้านกาแฟเป็นของตัวเองได้ง่ายๆ โดยจำหน่ายกาแฟตามแบบฉบับของบ้านไร่กาแฟ ทั้งกาแฟ ชาอัสสัมโบราณ ชาเขียวใบหม่อน ชาแดงกระเจี๊ยบ คงไว้ด้วยกาชงแบบโบราณคือใช้ถุงชง ปรุงด้วยนม น้ำตาล มีทั้งแบบ ร้อน และเย็น ปรุงได้มาตรฐานทุกสาขามีรสชาติเหมือนกัน ไทยชงบอรก รับวัตถุดิบจาดเกษตรกรไทย จึงเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ยึดหลักเกื้อกูลกัน

รายละเอียดการลงทุน

ราคา 55,000 บาท

ดาวน์ 36,000 บาท

ยอดเงินกู้ 18,000 บาท ดอกเบี้ย 1.5 %

ผ่อน 3 งวด

งวดละ 6,445 บาท

ราคาขาย

ปรุงน้ำตาล 12 บาท

ปรุงนม 15 บาท

ประมาณการรายรับ 100 แก้ว/วัน คนขายได้ 300 บาท/วัน เจ้าของ(ผู้ซื้อสิทธิ์) ได้/333 บาท
สนใจติดต่อได้ที่ ส่วนธุรการ บริษัท ออกแบบไร่นา(ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-902-9419 , 02-902-8639

หากสนใจ หาอาชีพเสริม ธุรกิจเครื่องดื่ม ทดลองติดต่อสอบถามกันไปได้ตามรายละเอียด
***** ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ *****

เขียนโดย kasor ที่ 4/05/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

อาชีพเสริมที่น่าสนใจ หน้าร้อน

อาชีพ เสริมที่น่าสนใจ หน้าร้อนอากาศร้อนเดือนเมษา ไม่มีอะไรจะมาแรงเท่าธุรกิจกลุ่ม เครื่องดื่ม หรือไอศครีมเย็นๆชื่นใจ ดับกระหายได้ดี ช่วงนี้อุณภูมินับวันยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจในกลุ่มน้ำ ไอศครีมหรือ เครื่องดื่มจะขายดีเป็นพิเศษ อย่าพลาดโอกาสทำเงินในช่วงนี้โดยเด็ดขาด วันนี้อยากเสนอ อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ในหน้าร้อน


1.น้ำแข็งไส
น้ำ แข็งไส เป็นธุรกิจที่มีมานานแล้ว หน้าร้อนอย่างนี้ขายดีเป็นพิเศษ เด็กๆชอบกินกันมาก โดยใส่หน้าต่างๆ มีทั้งถั่วแดง ลูกเดือย ลูกชิด ขนมปัง แปะก๊วย ฯลฯ ราดหน้าด้วยนมข้นหวานและน้ำหวานสีต่างๆหรือเราอาจจะคิดสูตรดัดแปลง เพิ่มหน้าผลไม้ต่างๆเข้าไป เช่นแตงไทย ขนุน หรือ อาจจะเป็นเฉาก๊วย ลอดช่อง เต้าทึง ทับทิมกรอบ ตั้งราคาขายอยู่ระหว่าง 10-20 บาทแล้วแต่เครื่องที่ใส่ เป็นอาชีพที่น่าสสนใจทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากหาทำเลใกล้ชุมชน ,โรงเรียนหรือตลาดนัด รับรองขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่ๆ


2. น้ำปั่น,ผลไม้ปั่น
หรือ ที่ใครเรียก สมูธตี้(Smoothies) เป็นที่นิยมของคนกลุ่มรักสุขภาพ จัดเรียงโต๊ะตั้งโชว์ให้สวยงาม นำผลไม้สดๆใส่เรียงในแก้วให้น่ากิน ตั้งแก้วเรียงกันเป็นชั้นๆ ทำให้ดูน่ากินมีผลไม้หลากหลายชนิด ให้ลูกค้าได้เลือกตามความสนใจ สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้ หรือให้ลูกค้าเลือกส่วนผสมเองตามความต้องการ หรืออาจนำผลไม้มาปั่นผสมโยเกิร์ต ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยและกลมกล่อม สามารถตั้งราคาขายได้สูงขึ้นไปอีก เป็น 30-40 บาท โยเกิร์ตสามารถหาซื้อได้ง่ายหรือจะทำโยเกิร์ต ไว้ใช้เอง ก็ง่ายๆมีสูตรการทำโยเกิร์ตดังนี้

สูตรการทำโยเกิร์ต

• นำนมสดหรือนมสดยูเอชที จะเป็นรสหวาน หรือรสจืดก็ได้ ขนาด 1 ลิตร
• ต้มด้วยไฟปานกลาง จนเดือด แล้วยกลงจากเตา วางทิ้งไว้จนนมลดอุณหภูมิลงเหลือ 40 องศาเซนเซียส
• เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ โยเกิร์ตธรรมดาหาซื้อได้ตามมินิมาร์ททั่วๆไป แล้วคนให้เข้ากันจากนั้นเทแบ่งใส่ภาชนะที่มีฝาปิด
• วาง ทิ้งไว้นอกตู้เย็น 6-8 ชั่วโมง แล้วลองชิมดูหากยังไม่เปรี้ยวถูกใจ ก็อาจวางทิ้งไว้อีกสักพักประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ได้ สังเกตุดูนมจะมีลักษณะข้นๆ แล้วจึงค่อยนำเข้าแช่ตู้เย็น โยเกิร์ตที่ทำนี้เก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน สามารถเก็บเอาไว้เป็นหัวเชื้อในครั้งต่อไปได้ และเมื่อทำใหม่ โยเกิร์ตที่ได้ก็ทำเป็นหัวเชื้อได้ต่อไปเรื่อยๆ ช่วยให้เราลดต้นทุนไปได้มาก แต่ต้องเน้นเรื่องความสะอาดถูกสุขอนามัย ห่วงใยผู้บริโภค

3. น้ำอ้อยสด
น้ำ อ้อยสด แช่เย็นๆชื่นใจ ดับกระหายได้ดีมาก อากาศร้อนๆสามารถเลือก ดื่มแบบใส่น้ำแข็ง หรือแบบดื่มสดๆ ราคาจะอยู่ที่ 10-20 บาท เป็นธุรกิจทำเงินได้ดีมาก ในช่วงหน้าร้อนอย่างนี้ อุปกรณ์ก็ไม่ยุ่งยาก เครื่องบดอ้อย 1 เครื่อง ลงทุนที่ประมาณ14,000-15,000 บาท แหล่งซื้ออ้อย พันธุ์ที่ใช้คั้นน้ำจะอยู่ที่ ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขวดพลาสติกใส ราคาอยู่ที่ ไม่เกิน 2 บาท มีรถกระบะหนึ่งคัน วิ่งไปจอดทำเล ดีๆใกล้ ตลาด หรือแหล่งชุมชน รับรองขายดีแน่ๆ


4. ไอศครีม
หน้า ร้อนนี้ไม่พูดถึงไอศรีมไม่ได้ เป็นพระเอกชูโรงมาเลย ขายดีมากๆ ปกติคนก็นิยมกินกันอยู่แล้วแต่เข้าหน้าร้อนนี้ ขายดีกว่าปกติมาก ไอศครีมมีหลายสูตรหลายราคา ที่ขาดไม่ได้คือ ไอครีมกะทิ หรือไอศครีมมะพร้าวรสชาติหอมหวานมัน


สูตรการทำไอศครีมกะทิ
1.หัวกะทิคั้นสดๆ 3 ถ้วยตวง
2.แป้งข้าวโพด 1.5 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
4.ใบเตย 4-5 ใบ
5.น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย


วิธีการทำ
1.ละลาย แป้งด้วยน้ำเย็น เสร็จแล้วต้มน้ำ 1/2 ถ้วยให้เดือดแล้วนำมาผสมกับแป้งโดยกวนเร็วๆอย่าให้แป้งเป็นก้อน กวนจนได้แป้งในลักษณะเป็นเจลใสๆ
2.อุ่นน้ำกะทิด้วยไฟอ่อนๆพร้อมกับใส่ใบเตยลงไป
3.ละลายน้ำตาลด้วยน้ำกะทิ พร้อมกับเติมน้ำแป้งเจลใสลงไป ต้มจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแต่ระวังอย่าให้น้ำกะทิแตกมัน
4.ยก ลง เอาใบเตยออก แล้วทำให้ส่วนผสมเย็นลงอย่างรวดเร็ว อาจใช้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดๆหล่อเย็น5.นำส่วนผสมเข้าตู้เย็นหรือตู้แช่ อุณหภูมิ 0-4 องศาฯ นาน 4-5ชั่วโมง6.นำส่วนผสมออกมาปั่นด้วยเครื่องปั่น
ไอศครีม

หรือถ้าไม่สะดวกทำก็สามารถหาแหล่งติดต่อรับไอศครีมมาขายต่อได้ ประหยัดเวลาเราไปด้วย ราคาเหมาถังจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,000 บาท

เขียนโดย kasor ที่ 4/21/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

Coffee Car ขายกาแฟบนรถ

Coffee Car ขายกาแฟบนรถ

 

อาชีพขายกาแฟ เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมมานานนับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนไทยวัยทำงานนิยมดื่มกาแฟกันมากขึ้นเรื่อยๆ การจะหาทำเลค้าขายที่เป็นหลักแหล่งนั้นหายากมากในปัจจุบัน เพราะทำเลก็เป็นหัวใจหลักอีกอย่างที่จะทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นส่วนสำคัญ หากใครมีทำเลดีๆก็เท่ากับว่าประสบความสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่งแหล่งค้าขาย สำคัญๆส่วนใหญ่มักจะถูกจับจองกันไปแล้วทำให้ผู้ที่ต้องการทำธุรกิจหน้าใหม่ ขาดโอกาสไป วันนี้อยากยกตัวอย่างการสร้างโอกาสจากวิกฤติเหล่านี้ มาเป็นเคสตัวอย่าง นั่นคือ การนำรถมาดัดแปลงเป็นร้านกาแฟนั่นเอง นอกจากจะเป็นจุดขายแล้วยังสามรถเคลื่อนที่ได้ง่ายไม่ว่าจะ ย้ายร้านหรือปรับเปลี่ยนทำเลใหม่ได้ตลอดเวลา สามารถทำธุรกิจในเชิงรุก เข้าหาลูกค้าได้ถึงที่ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงมาก ทำให้ลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก โดยการดัดแปลงรถเก่าที่ใช้งานอยู่แล้ว หรือมองหารถเก่าใช้แล้ว เป็นรถคลาสสิกอย่างรถโฟล์ก รถตู้ หรือรถบรรทุก 4 ล้อเล็กซึ่งสามารถดัดแปลงตกแต่งให้สวยงามได้ 

 

ขอยก ตัวอย่างคนที่ทำธุรกิจแนวนี้อยู่ คุณ ชัยวัฒน์ ดีเจริญ อดีตก็ทำงานประจำ แต่ได้ลาออกมาประกอบอาชีพส่วนตัว ตอนแรกก็มีปัญหาเรื่องการหาพื้นที่ ในการขายแต่ก็ได้ไอเดีย จึงดัดแปลงรถที่มีอยู่แล้วให้สามารถทำเป็นร้านได้โดยดัดแปลงให้สวยงามและ เปิดทั้ง 4 ด้านเพื่อประโยชน์ใช้สอยได้สะดวก โดยสามารถวางอุปกรณ์จำเป็น ได้มากมายทั้งอุปกรณ์กาแฟและ ถังน้ำแข็ง และพื้นที่ทำงานให้สามารถทำงานได้สะดวกโดยคุณ ชัยวัฒน์ใช้รถกระบะบรรทุก 4 ล้อเล็ก(รถกระป้อ) กว้างประมาณ 1.5 X 2 เมตร โดยใช้งบในการตกแต่ง 30,000 บาท เสร็จแล้วก็ออกตระเวนหาพื้นที่ทำเล จนสามารถได้ทำเลค้าขายที่ดีมากๆในปัจจุบันนี้ ที่ซอยรางน้ำย่อยอนุเสาวรีย์ชัยฯ

การเลือกทำเลนั้นก็ต้องดูว่าไม่มีเจ้า ที่อยู่ก่อนหน้าแล้ว และสามารถจอดชิดขอบฟุตบาท ไม่กีดขวางการจราจร ตอนนี้คุณ ชัยวัฒน์ ก็คิดๆว่าอยากจะทำแฟรนไชส์ เผื่อใครสนใจอยากลองทำธุรกิจขายกาแฟบนรถก็ลองติดต่อสอบถามข้อมูล ได้ที่Coffee Car คุณ ชัยวัฒน์ คุณ อชิรญาณ์ ดีเจริญ 086-097-9696,081-845-7086

เขียนโดย kasor ที่ 4/30/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ศูนย์ฝึกอบรมและสอนการทำกาแฟ

ศูนย์ฝึกอบรมและสอนการทำกาแฟ

ธุรกิจ กาแฟนั้นสามารถทำได้ทั้งแบบ เป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม สำหรับท่านที่สนใจอยากจะทำเป็นอาชีพหลักนั้นต้องมีความรู้เรื่องกาแฟเป็น อย่างดี หรือทำเป็นอาชีพเสริมแต่อยากต่อยอดพัฒนาธุรกิจที่มีอยู่แล้วให้มีคุณภาพ ยิ่งๆขึ้นไป ก็สามารถเข้าอบรมหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงและต่อยอดธุรกิจให้ดีขึ้นกว่าเดิม ศูนย์ฝึกอบรมด้านกาแฟเป็นให้ความรู้ด้านการประกอบธุรกิจกาแฟโดยเฉพาะ ทั้งเทคนิคด้านการปรุงกาแฟ และการบริหารจัดการร้านซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ วันนี้จึงนำแหล่งฝึกอบรมเพื่อพัฒนาธุรกิจกาแฟมานำเสนอ สำหรับท่านที่สนใจ

1.Aroma Coffee Academy (ACD)

เป็น แหล่งอบรมที่สั่งสมประสบการณ์มากว่า 6 ปีเพื่อฝึกและอบรมผู้มีใจรักการประกอบธุรกิจร้านกาแฟ ภายใต้การดูแลของบริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรตโปรดักส์ จำกัด ในเครือ อโรมา กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจกาแฟครบวงจรมานานกว่า 50 ปี ทั้งยังเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ 94 ํ Coffee ซึ่งมีมากถึง 40 สาขาทั่วประเทศปัจจุบัน Aroma Coffee Academy ได้ผลิตผู้ประกอบการร้านกาแฟถึง 60 รุ่น ผู้ฝึกอบรมทุกรุ่นเมื่อจบไปแล้วสามารถนำความรู้ไปประกอบธุรกิจร้านกาแฟ ของตัวเองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเปิดให้อบรมฟรีแก่ร้านกาแฟในระบบแฟรนไชส็ 94 ํ Coffee

โดยหลักสูตรที่เปิดอบรมมีดังนี้

 

1. หลักสูตนเทคนิคการปรุงกาแฟอย่างมีคุณภาพ ระยะเวลาเรียน 1 วัน ค่าอบรม 3,000 บาท เป็นหลักสูตรสำหรับผู้ที่หลงใหลในกลิ่นและรสชาติของกาแฟ

 

2.หลัก สูตรกาแฟและยุทธศาสตร์การเปิกร้านกาแฟ ระยะเวลาเรียน 2 วัน ค่าอบรม 5,000 บาท เหมาะสำหรับท่านที่มีความสนใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ

 

3.หลัก สูตร Latte Art (ศิลปะโฟมนมในถ้วยกาแฟ) ระยะเวลา 2 วัน ค่าอบรม 8,000 บาท เป็นหลักสูตรใหม่สำหรับนักชงมืออาชีพที่ต้องการเพิ่มสีสันให้กับร้านกาแฟ ด้วยการวาดลวดลายบนโฟมนมที่อยู่ในถ้วยกาแฟ
ทั้ง 3 หลักสูตรจะเริ่มการเรียนการสอนจากขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่การแนะนำการเลือกเมล็ดกาแฟ วัตถุดิบ เครื่องชงและเทคนิคต่างๆในการลง ฯลฯ

สนใจลองติดต่อสอบถามได้ที่ Aroma Coffee Academy

193/13,139/16-18 ชั้น2 ซอยโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310คุณ พีรวุฒิ กระพันแก้ว และคุณ พรลภัช ปัญญาเจริญสุข โทร 02-933-4191-5,081-286-5840,085-351-8020 หรือที่ http://www.94coffee.com/

 

2. ค่าเฟ่ เดอ ไอยรา

จัด ตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาธุรกิจกาแฟสด โดยมุ่งหวังให้เป็นศูนย์ส่งเสริมกิจการขนาดเล็ก ด้วยคุณภาพสูงด้วยเงินลงทุนต่ำ คืนกำไรเร็ว นอกจากนี้ คาเฟ่ เดอ ไอยรา ยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดกาแฟสด บริการคั่วกาแฟสด ด้วยทีมงานประสบการณ์กว่า 15 ปี

สามารถอบรมได้ 3 หลักสูตร

1. คอร์สเริ่มต้น (beginner course) หลักสูตรพื้นฐานการทำธุรกิจกาแฟ สอนการชงกาแฟตามแบบมาตรฐานทั่วไป เช่น กาแฟร้อน กาแฟเย็น การวิเคราะห์ต้นทุนกาแฟ จุดคุ้มทุน มีระยะเวลาการฝึกอบรม 1 วัน 1,999 บาท

2. คอร์สแฟรนไชส์ คาเฟ่ เดอ ไอยรา (Franchisee Cafe' de iyara course) หลักสูตรสำหรับแฟรนไชส์ซี ในกลุ่มผู้ลงทุนแบบ บรอนซ์ ( Bronze)และซิลเวอร์(Silver)โดยจะเพิ่มเนื้อหาน้ำผลไม้ และสมูตตี้ส์ บางส่วนเพิ่มเข้าไปด้วย ระยะเวลาการฝึกอบรม 1 วัน แฟรนไชส์ซีอบรมฟรี

3. คอร์สระดับสูง (Advance course) คือกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มแฟรนไชส์ซ๊ โกล์ด (Gold) แพลทตินั่ม (Platinum) จะเพิ่มเนื้อหาการวิเคราะห์แบบ ละเอียด เช่นการลงทุน จุดคุ้มทุน ความคุ้มค่าในการลงทุน ระยะเวลาคืนทุน และอบรมเพิ่มหลักสูตรน้ำผลไม้และสมูตตี้ส์ รวม กว่า 20 รายการ บุคคลทั่วไป ราคา 15,000 บาท อบรม 2 วัน

การอบรมของ คาเฟ่ เดอ ไอยรา มีครบทั้ง การบริหาร จัดการ ธุรกิจกาแฟที่ไม่ซ้ำแบบใครครบเครื่องทั้งเรื่อง โลโก้ แบรนด์ ประสบการณ์การตลาด การพัฒนาเทคโนโลยี การบริหารองค์กร นอกจากนี้ยังแนะนำการตั้งร้าน เพื่อทำธุรกิจกาแฟอีกด้วย

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่

 

หจก.สยาม คอฟฟี่ อินเตอร์เนชั่นแนล 23/380 หมู่ 13 ถ.นวมินทร์ 68 แขวงบึงกุ่ม เขต บึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10240 โทร 02-944-8599,086-335-6424 หรือ ที่ http://www.iyaracoffee.com http://www.cafedeiyara.com/

สำหรับ ท่านที่มีความมุ่งมั่นอยากประกอบธุรกิจร้านกาแฟ หรือ พัฒนาความรู้เพื่อต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ก็ต้องขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม ไม่หยุดนิ่งเพื่อหนีคู่แข่ง และเพิ่มความรู้ใหม่ให้กับตัวเอง

 

เขียนโดย kasor ที่ 5/14/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

ธุรกิจ เปิดร้านเบเกอรี่

ธุรกิจ ร้านเบเกอรี่การที่มีร้านเบเกอรี่เล็กๆแล้วได้ทำงานที่บ้านอยู่กับครอบครัว เปิดร้านเป็นของตัวเองไม่ต้องตื่นเช้า เข้างานตามเวลา คงเป็นฝันของใครหลายๆคน แต่การเปิดร้านเบเกอรี่ไม่ใช่ใครๆก็สามารถเปิดได้ทันทีทันใด ต้องผ่านการเรียนรู้ และมีประสบการณ์ หรือสามารถคิดค้นสูตรขนมที่อร่อย จนมีลูกค้าติดใจวนเวียนมาเป็นลูกค้าประจำได้ วันนี้จึงนำแหล่งเรียนรู้มาให้คนที่อยากเปิดร้านเบเกอรี่ได้ลองศึกษากัน เมืองไทยนั้นมี สถาบัสอนทำเบเกอรี่อยู่มากมาย แล้วแต่จะเลือกเรียนกัน 

 

แต่สถาบันที่สอนทำเบเกอรี่สไตล์ใดสไตล์หนึ่งโดยเฉพาะนั้นคงมีไม่กี่ที่

สถาบันแวนเดอแจนเนด

 

เป็น สถาบันที่เน้นการสอนทำเบเกอรี่สไตล์ยุโรป โดยสถานที่เรียนตกแต่งสไตล์ยุโรปและ วัตถุดิบต่างๆนำเข้าจากยุโรป รวมทั้งเชฟมีฝีมือที่มีประสบการณ์จากโรงแรมชั้นนำ เช่น เชฟชื่อดังชาวอังกฤษเชฟปีเตอร์เว็บเบอร์( chef.peter webber) ผู้มีประสบการณ์จาก โรงแรม โอเรียลเต็ลกว่า 10 ปี รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาคอร์สการเรียนหลายสถาบัน และเป็นผู้คิดค้นสูตรเบเกอรี่สูตรใหม่ ต่างๆให้กับทางสถาบันเพื่อให้เข้าสไตล์ของคนไทยการเรียนการสอนมีเปิดอบรม ตั้งแต่หลักสูตรพื้นฐาน ให้กับผู้ที่ไม่มีประการณ์มาก่อนเลยโดยแบ่งออกเป็น

1. Basic class A สอนขนม 12 ชนิดเป็นขนมพื้นฐานจากทางยุโรประดับ 1 ราคาสมาชิก 9,000 บาท

2. Basic class B สอนขนม 12 ชนิดเป็นขนมพื้นฐานจากทางยุโรประดับ 2 ราคาสมาชิก 9,000 บาท

โดย สูตรแต่ละตัวไม่ต้องดัดแปลงสามารถทำขายได้เลย โดยแต่ละคอร์สจะเปิดเรียน 4 วัน แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ 09.00-13.00 น. และ 13.00-17.00 น. ให้สามารถเลือกเรียนได้ตามความสะดวกโดยแต่ละคอร์สทางสถาบันจะจำกัด ไม่เกิน 4 คน เพื่อให้เรียนและเข้าถึงตัวต่อตัว โดยผู้เรียนจะสามารถลงมือปฏิบัติได้จริง นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถกำหนดหลักสูตรที่อยากเรียนให้กับทางสถาบันได้ เมื่อเรียนจบแล้วสามารถ ลงเรียนคอร์สต่อไปในระดับสูงได้เพื่อจะทำให้เกิดการดีไซน์ ขนมให้มีความทันสมัย โก้เก๋น่ากิน

รายละเอียดการเรียน ทำเบเกอรี่จากสถาบันแวนเดอแจนเนด

หลักสูตร ระยะเวลาเรียนและรายละเอียด

1.คอร์สเบื้องต้นเหมาะกับเปิดร้านกาแฟ

- ระยะเวลาเรียน 6 วัน

- รายละเอียด หลักสูตรพื้นฐานเค้กต่างๆ ขนมต่างๆ และมูสสไตล์ยุโรปทั้งหมด เรียนคอร์สละ 3 คน ต่อเชฟ 1 คน เลือกเรียนวันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ วันละ 6 ชั่งโมง

-หลักสูตรละ 9,900 บาท

2.คอร์สเบื้องต้นเต็มหลักสูตร 30 เมนูจบแล้วสามารถเปิดร้านได้

- ระยะเวลาเรียน 8 วัน

- รายละเอียด หลักสูตรพื้นฐานเค้ก ขนมยุโรปต่างๆ มูสสไตล์ยุโรปทั้งหมด และเพิ่มเมนูขนมอบ เช่น พัฟ พาย ครัวซองค์ เดนนิส ทาร์ต เรียนคอร์สละ 3 คนต่อเชฟ 1 คน เลือกเรียนวันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ วันละ 6 ชั่งโมง

-หลักสูตรละ 15,000 บาท

3.คอร์สเปิดร้านกว่า 100 สูตร สำหรับร้านขนมเต็มรูปแบบ

- ระยะเวลาเรียน 2 เดือน

- รายละเอียด เลือกเรียนขนมอบ เบเกอรี่ ชอคโกแลต ไอศครีม หรือเลือก เลือกเรียนทั้งหมด ตามสไตล์ร้านที่จะเปิด
-หลักสูตรละ 80,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีคอร์สระยะสั้นสำหรับทำกินเองที่บ้าน

1.Mango Cheese Cake,Blueberry Cheese Cake,Cold Cake
-เรียนทำเค้กต่างๆทั้งแบบอบและไม่อบ
-หลักสูตรละ 3,500 บาท
2. Lemon meringue Fruit-tart,Coffee-tart

-เรียน รู้ชนิดแป้งและ ทาร์ต ลงมือทำด้วยตัวเองเรียนรู้การทำไส้ ทาร์ต หลายหลากรสชาติ เรียนการทำ italian-meringue และดัดแปลงนำไปใช้กับเค้กต่างๆ
-หลักสูตรละ 3,500 บาท

3. Swiss mountain

-เรียนรู้สไตล์การทำเค้กสไตล์บัตเตอร์เค้ก ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ เรียนทำช็อตโกแล็ต ในการตกแต่งเค้กและเรียนรู้การตกแต่งขนมเค้ก
-หลักสูตรละ 3,400 บาท

นอก จากนี้สถาบันแวนเดอแจนเนดยังเป็นสถาบันครบวงจรในเรื่องเบเกอรี่ จำหน่าย อุปกรณ์และวัตถุดิบเบเกอรี่สไตล์ยุโรป ทุกชนิด รับออกแบบเซตอัพร้านเบเกอรี่ สำหรับผู้ที่จะเปิดร้านหรือทำธุรกิจแฟรนไชส์ รับสั่งทำเค้กตามเทศกาลทุกออเดอร์

รายละเอียดข้อมูลสนใจติดต่อ

สถาบันแวนเดอแจนเนด

-สอน ทำเบเกอรี่สไตล์ยุโรปสถานที่ติดต่อ 1761/8 หมุ่บ้านโนเบิลทารา เอกมัย-พระราม 9 ซ.ราดพร้าว 94 (ปัญจมิตร) แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

โทร. 081-849-5447,081-753-8853

ท่านใดสนใจอยากเรียนเพื่อนำความรู้มาใช้ประกอบวิชาชีพหรืออยากเปิดร้านเบเกอรี่ ก็ลองตัดติดสอบถามดูได้นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ 

 

เขียนโดย kasor ที่ 5/07/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

อาชีพเสริมสร้างรายได้กับการขายข้าวมันไก่

ข้าว มันไก่เป็นอาหารง่ายๆที่หากินได้ทั่วๆไปอร่อยและราคาไม่แพงกินแล้วอิ่มนาน คนนิยมกินกันกินกับน้ำซุปร้อนๆซดคล่องคอ ข้าวเหนียวนุ่มหอมกลิ่นขิงปนกับกระเทียมที่ปนมากับน้ำจิ้ม พูดแล้วอยากกินสัก 2 จานวันนี้มาพูดถึงเรื่องขายมันไก่กันดีกว่า ทำกินเองก็ได้ทำขายก็รวย มีตังค์ใช้สบายกระเป๋า

ข้าวมันไก่ที่อร่อยนั้น ตัวข้าวมันต้องนุ่มนวล ข้าวเป็นเมล็ดไม่บานเหมือนข้าวสวยปกติ แต่ไม่แข็งกระด้าง ความมันของข้าวพอดี ไม่ถึงขนาดเลี่ยน ที่สำคัญต้องมีกลิ่นหอมของ มันไก่ กระเทียม ขิง ผสมกัน ไก่ต้องต้มในเวลาที่พอเหมาะ หนังไก่ตึง เนื้อไก่มีสีขาวและไม่ยุ่ย ที่สำคัญที่สุดก็คือน้ำจิ้ม รสต้องเด็ดขาด เค็ม เปรี้ยว หวาน พอเหมาะ ขิงต้องใช้ขิงแก่จึงจะหอมและเผ็ด สรุปได้ว่าต้องอร่อยสัมพันธ์กันทั้ง ข้าวมัน เนื้อไก่ น้ำจิ้ม แต่ถ้าหาซื้อขิงแก่ไม่ได้ ก็ใช้ขิงอ่อนแทนได้ครับเครื่องปรุง

• ไก่สด 1 ตัว (( ถ้าได้ไก่ตอนยิ่งอร่อย )
• ตับไก่ 2-3 พวง
• เลือดไก่ 1 ก้อน
• ข้าวหอมมะลิเก่า –ข้าวเหนียว 3 1/2 ถ้วย
• น้ำมันไก่ หรือ น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
• แตงกวา 1-2 ลูกผักชี นิดหน่อย

วิธีทำ
1). ล้างไก่ทั้งข้างนอกและข้างในตัวไก่ ให้สะอาด นำตัวไก่มาวางในกะละมัง โดยให้ส่วนหัวของไก่ตั้งขึ้น น้ำในช่องท้องจะได้ไหลออกมา ทิ้งไว้สักพัก พอน้ำที่หนังไก่เริ่มแห้ง หรือจะใช้ผ้าช่วยซับให้แห้งก็ได้ ใช้เกลือป่นทาบาง ๆ ให้ทั่วตัวไก่ ล้วงเข้าไปในตัวไก่เอาเกลือทาด้วยใช้ใบเตยยัดใส่ในไก่ 3-4 ใบ ส่วนตับไก่ ล้างสะอาด แล้วเคล้าเกลือพักไว้
 

2). ตั้งน้ำ (กะปริมาณของน้ำที่คาดว่าจะท่วมตัวไก่) ในหม้อขนาดที่ใส่ตัวไก่ลงได้ทั้งตัว พอน้ำเดือด ก็ใส่ตัวไก่ลงไป พอน้ำเริ่มเดือดปุด ๆ ใหม่อีกครั้ง ให้ใส่น้ำแข็งก้อนลงไปในหม้อต้มไก่ 4-5 ก้อน ((ให้ใส่ทุกครั้งที่น้ำเริ่มเดือด จนกว่าไก่จะสุกได้ที่ )) ใช้ไฟกลาง และต้มประมาณ 45 นาที คอยช้อนฟองทิ้งด้วย เพื่อให้น้ำซุปใส พอไก่สุกก็กลับอีกด้านหนึ่งลงไปต้มด้วย ถ้าชอบตับไก่ ก็ใส่ลงไปต้มพร้อมกับไก่ได้เลย ส่วนเลือดไก่ที่ทำเป็นก้อนและสุกมาแล้วนั้น ใส่ตอนหลังสุด2.1 เลือดไก่ต้องต้มในน้ำเดือดใส่เกลือลงไปพร้อมขิงแก่เพื่อไม่ให้มีกลิ่นสาบถ้า ไม่มีขิงแก่ก็ใช้ผักคึ่นไฉ่ใส่ไม่ให้มีกลิ่นสาบเลือด(ระหว่างที่ต้มไก่ ก็คอยเอาน้ำแข็งเติมลงไป ทุกครั้งที่น้ำเริ่มเดือด การใส่น้ำแข็งลงไปนั้น ทำให้ต้มได้เปื่อยเร็วขึ้น และหนังไก่มีสีขาว ไม่แตกเวลาที่ต้ม)

3). พอไก่สุกได้ที่เอาลงใส่น้ำเย็นที่มีน้ำแข็งอีกครั้งเพื่อปรับระดับให้ อุณหภูมิของเนื้อไก่คงที่.... ตักออกมาจากหม้อใส่ภาชนะ ทาหนังไก่ด้วยน้ำมันไก่ หรือน้ำมันพืช เพื่อไม่ให้หนังไก่แห้ง

4). น้ำซุปในหม้อแบ่งออกมาพอหุงข้าว ตามสัดส่วนของข้าว + เพิ่มน้ำซุปอีก 1/4 ถ้วย ( เช่น ข้าว 1 ถ้วย ก็ใส่น้ำซุป 1 .1/4 ถ้วย ) แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ซาวข้าวหอมมะลิเก่ากับข้าวเหนียว 2-3 ครั้ง เทใส่กระชอนทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ (จะช่วยเขย่ากระชอนให้น้ำสะเด็ดเร็ว ๆ ด้วยก็ได้) ตั้งกระทะใส่มันไก่ ลงไปเจียวจนน้ำมันออกมา หรือจะใช้น้ำมันพืชก็ได้ พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมที่ทุบพอแตกลงไปผัดพอหอม แต่ไม่ต้องให้เหลือง เทข้าวสาร-ข้าวเหนียวที่สะเด็ดน้ำแล้วลงไปผัดกับน้ำมันและกระเทียม ใส่รากผักชี โรยพริกไทยนิดหน่อย ผัดเคล้าให้ข้าวสารเข้ากันจนทั่วสักพัก เทข้าวสารที่ผัดเสร็จแล้วลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ใส่น้ำซุปที่แบ่งไว้และเย็นแล้วลงไป คนแล้วชิมรส ให้ออกเค็มนิดหน่อย (ถ้าไม่เค็มเติมเกลือลงไปนิดหน่อยได้) ปอกขิงแก่ 1 แว่น ล้างสะอาด ทุบให้แตกหย่อนลงไปในหม้อหุงข้าวด้วย เปิดสวิทช์หุงข้าวตามปกติ(เคล็ดลับของผมจะเติมนมสดลงไป2กระป๋องกับน้ำซุปจะ ทำให้ข้าวนุ่มหอม...ไม่เคยบอกใครน๊ะเนี่ยะนอกจากleksound.net)

5). พอข้าวสุก ให้ใช้ทัพพีคุ้ยข้าวให้ร่วนซุย กลับข้าวจากด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วปล่อยอุ่นทิ้งไว้ในหม้อ เวลาเสิร์ฟ ก็ตักข้าวใส่จานให้พูน หรือจะตักใส่ถ้วยขนาดพอเหมาะ กดพอแน่น คว่ำถ้วยลงบนจาน เคาะก้นถ้วยให้ข้าวหลุดออกมา เลาะเนื้อไก่วางบนเขียง แล้วใช้มีดตบให้แบน หั่นชิ้นพอทานวางบนข้าวมัน หั่นตับ และเลือดไก่ เป็นชิ้นบาง ๆ วางเรียงที่ข้างจาน ซอยแตงกวาแฉลบขวางลูก โรยผักชี ด้านบนเนื้อไก่ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม + น้ำซุป หรือจะเสิร์ฟแบบแยกข้าวมัน 1 จาน เนื้อไก่ 1 จานก็ได้

เครื่องปรุงน้ำจิ้ม

• เต้าเจี้ยว 1/2 ถ้วย
• กระเทียมดอง 1 ถ้วยตวง
• ซีอิ้วขาว 3/4 ถ้วย
• น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย
• พริกขี้หนู 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
• กระเทียมปอกเปลือก 1/2 ถ้วย
• ขิงแก่หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ 1/2 ถ้วย
• รากผักชี 2-3 ราก
• น้ำต้มไก่ 1 ลิตร

วิธีทำน้ำจิ้ม

นำ ส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นเต้าเจี้ยว ใส่ลงในโถปั่น เปิดสวิตช์ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียดเข้ากัน ปิดเครื่อง ใส่เต้าเจี้ยวลงไป เปิดสวิตช์เครื่องอีกครั้ง ปั่นสักประมาณ 5 วินาที ชิมรสตามชอบ ให้ออกเค็ม เปรี้ยว หวาน ทำเสร็จแล้วเก็บเข้าตู้เย็นทานได้เป็นเดือน สำหรับคนที่ชอบรสจัด เวลาเสิร์ฟก็เติม กระเทียม + ขิง สับละเอียด พริกขี้หนูซอยละเอียด

วิธีทำน้ำซุป

น้ำ ซุปส่วนที่เหลือ แบ่งออกมาแล้วจากการต้มไก่ ให้เติมรากผักชี ทุบพอแตก 2-3 ราก , กระเทียมที่แกะเปลือกนอกออก ล้างสะอาด 3-4 กลีบใหญ่, พริกไทยเม็ด 10 เม็ด , พอน้ำเดือด ก็ใส่ฟักหรือแฟงที่ปอกเปลือก ควักไส้ออก + ล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ขนาดประมาณ 5 ซม. ลงไปในหม้อ ต้มจนฟักสุก ใส่ตังฉ่ายสักหยิบมือ ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ตอนเสิร์ฟก็โรยหน้าด้วยผักชีหั่นหยาบ ๆ
แหล่งที่มา www.ubmthai.com

หรือ ถ้าคิดว่ายุ่งยากก็ใช้วิธีซื้อแฟรนไชส์มาเลยบริหารงานง่ายไม่ต้องทดลองทำเอง ผ่านการคิดค้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วรับรองว่าต้องอร่อย

โกซันข้าวมันไก่
มี หลากหลายเมนู ทั้งข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ทอด ข้าวหมกไก่ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ,น้ำใส ,ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น เนื้อไก่ส่งตรงจากโรงงาน สด สะอาด ปลอกภัย ได้มาตรฐาน GMP,HACCP ,ISO 9001:2000 จึงมั่นใจในคุณภาพได้

รายละเอียดการลงทุน

• ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 5,000 บาท
• ค่าอุปกรณ์ข้าวมันไก่ 31,000 บาท (สามารถเลือกอุปกรณ์ได้)
• ค่าอุปกรณ์ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น 28,000 บาท(สามารถเลือกอุปกรณ์ได้)
• ค่าอุปกรณ์ข้าว + ก๋วยเตี๋ยว 36,000 บาท (สามารถเลือกอุปกรณ์ได้)

สนใจติดต่อ
บริษัท โกซันโอเค จำกัด คุณนันทาศิริที่อยู่ : 7/88 ซ.พหลโยธิน 40 ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.โทร 089-787-0909,02-561-5425,02-561-1455 ต่อ 208

*** ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง 

 

เขียนโดย kasor ที่ 5/17/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

สร้างอาชีพเสริมด้วยวุ้น

 

ธุรกิจ อาหาร ได้รับความนิยมมากตลอด แม้ว่า เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ก็ตาม คนยังคงต้องกินอาหารทุกวัน ทำให้ธุรกิจอาหารยังคงเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับธุรกิจวุ้นแฟนซี “วุ้นคุณณีย์” ขนมวุ้นหลากหลายสีสันสดใส รสชาติอร่อย สดใหม่ทุกวัน จึงทำให้ได้รับการต้อนรับอย่างดี และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คุณเสาวณีย์ ชัยศิริ เจ้าของผู้คิดค้นสูตร “วุ้นคุณณีย์” เป็นผู้ที่รักในการทำขนมไทยๆ ทดลองทำและคิดค้นการทำใหม่ๆ จนมาลงตัวที่ขนมวุ้นแฟนซี ทั้งรูปแบบ สีสัน และรสชาติที่ใครๆ ได้ลองชิม ต้องติดใจ

วุ้นคุณณีย์ มีความเป็นเอกลักษณ์โดยไม่ใช้สารกันบูด หอม อร่อย สด สะอาด สีสันที่ได้จากสีผสมอาหารที่มีคุณภาพดี ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หลังจากทดลองการตลาดมานานกว่า 17 ปี ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ในคุณภาพตลอดมา และได้รับการตอบรับที่นับวันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณเสาวนีย์ จึงได้คิดเปิดคอร์ส สอนการทำวุ้น เพื่อให้ผู้ที่มีใจรักในการทำขนมไทยได้มีอาชีพเสริม สามารถเพิ่มรายได้ให้กับตนเองได้ โดยได้เปิดสอนมาตั้งแต่ปี 2546-ปัจจุบัน มีผู้สนใจเข้ามาเรียนจากทั่วประเทศและมาจากต่างประเทศมากกว่า 60 คนแล้ว โดยมีความตั้งใจว่า อยากจะเปิดให้มีผู้เรียนครบทุกจังหวัด เพราะถือว่า เป็นความภูมิใจของตนที่จะช่วยให้ผู้อื่นมีโอกาสนำความรู้ไปประกอบอาชีพของ ตัวเองได้ วุ้นคุณณีย์ ปัจจุบันนี้ มีการพัฒนารสชาติมาให้มีความหลากหลายมากกว่า 40 รสชาติ และมีรูปแบบมากกว่า 100 แบบ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค

หลักสูตรการเรียนการสอน

 

1. การเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบ

2. การทำความรู้จักกับวุ้นแต่ละรูปแบบ

3. เรียนรู้วิธีการทำวุ้นพร้อมเทคนิคพิเศษและเคล็ดลับความอร่อย

4. เรียนรู้ขั้นตอนการแต่งหน้าวุ้นแฟนซีให้สวยงามกว่า 100 รูปแบบ

5. แนะนำวิธีการใช้แม่พิมพ์แบบต่างๆ ให้เหมาะสม

6. แนะนำขั้นตอนการลงทุน การจัดจำหน่ายทั้งการขายปลีกและส่ง

7. พร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาและจัดหาช่องทางการตลาด

สิ่งที่จะได้รับหลังจากการฝึกอบรม

1. อุปกรณ์การทำวุ้น 1 ชุด

2. แบบแม่พิมพ์

3. สูตรการทำวุ้น 1 เล่ม (ลิขสิทธิ์เฉพาะวุ้นคุณณีย์)

4. จัดลงประชาสัมพันธ์สถานที่จำหน่ายในสื่อชั้นนำ

หมาย เหตุ : หากคุณมีความรู้เรื่องการทำวุ้นอยู่แล้ว จะเรียนเฉพาะบางสูตรก็ได้ หากเรียนแล้วไม่เข้าใจสามารถกลับมาเรียนใหม่ หรือโทรสอบถามได้โดยไม่คิดค่าเรียนเพิ่ม

สำหรับผู้ที่ต้องการ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกอบรม สามารถติดต่อได้ที่ “ร้านวุ้นคุณณีย์” 22/22 ซ.วัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ ถ.ประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2585-6323, 0-2912-3173,08-1510-4154 หรือ www.vunkhunnee.com และสำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มลองความอร่อย ขอบอกได้ว่า “ไม่ชิมไม่ได้แล้ว” สามารถติดต่อได้ที่ ร้านคุณณีย์ หรือบูธประจำที่ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ชั้น G ฝั่งโรบินสัน ใกล้ TOPS ซุปเปอร์มาเก็ต หรือที่สวนอาหารตลิ่งชัน

 

เขียนโดย kasor ที่ 5/20/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล

สร้างอาชีพเสริมด้วยแซนวิช

อาหาร เช้าเป็นสิ่งสำคัญ ใครหลายๆ คนมักจะเร่งรีบเพื่อเข้าทำงานให้ทัน จนไม่มีเวลารับประทานอาหารเช้า แซนวิชเป็นอาหารที่ง่ายๆ มีประโยชน์ต่อร่างกาย แซนวิช 1 ชิ้น กับนม 1 กล่อง และผลไม้สัก 2-3 ชิ้น ก็เพียงพอสำหรับอาหารเช้า 1 มื้อ ธุรกิจอาหารเช้าที่โดดเด่นน่าสนใจ คือ ขายแซนวิช ให้สำหรับคนที่ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้า วันนี้จึงนำแหล่งสร้างอาชีพเสริมที่น่าสนใจเกี่ยวกับการขายแซนวิชมานำเสนอ.

N-joy (เอ็นจอย) แซนวิชร้อน

แซ นวิชเพื่อสุขภาพ สูตรใหม่ใครชิมแล้วต้องติดใจ ขายง่าย กำไรดี จุดเด่นของเอ็นจอยแซนวิช คือ- ไม่มีค่าแฟรนไชส์- สอนสูตรให้แบบไม่มีกั๊ก- ลงทุนน้อย กำไรงาม- รสชาติหลากหลาย โดนใจทุกเพศทุกวัย- สามารถบริหารกิจการของคุณเองได้โดยอิสระราคาเริ่มต้นที่ 25,000 บาท

อุปกรณ์ที่จะได้รับ ดังนี้

ชุด A ราคา 25,000 บาท

- คีออส ขนาดใหญ่ 1.10 เมตร

- เตาสแตนเลส 1 ใบ

- ป้ายโลโก้+เมนู 1 ชุด

- ชุดอุปกรณ์ 1 ชุด

- ชุดวัตถุดิบ 1 ชุด

- ขนมปัง 200 ชิ้น

- ชุดถุง + สติ๊กเกอร์ 1 ชุด

ชุด B ราคา 29,000 บาท

- คีออส ขนาดใหญ่ 1.20 เมตร

- เตาสแตนเลส 1 ใบ

- ป้ายโลโก้+เมนู 1 ชุด

- ชุดอุปกรณ์(เพิ่ม) 1 ชุด

- ชุดวัตถุดิบ(เพิ่ม) 1 ชุด

- ขนมปัง 400 ชิ้น

- ชุดถุง + สติ๊กเกอร์ 1 ชุด

- ถังแก๊ส 1 ชุด

- กล่องใส่เงิน 1 ใบ

สนใจติดต่อเอ็น จอย แซนวิชย่างร้อนเพื่อสุขภาพ เลขที่ 167 ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม 73000โทร. 08-1743-7474 , 08-9604-7217 

เขียนโดย kasor ที่ 5/23/2009

Read More...

เลือกดู สูตรทำขนมอาชีพเสริม สูตรทำอาหารอาชีพเสริม ร้านค้าเคลื่อนที่ไม่ง้อทำเล