สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ฝอยทอง (สำหรับทำเค้กฝอยทอง)

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-03.JPG

บอกกับเพื่อนๆ ไว้ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วว่าจะเอาวิธีทำฝอยทองมาโพสต์ในเร็ววัน ^^  แต่เอาเข้าจริงกว่าจะได้โพสต์ วันเวลาก็ผ่านไปเกือบ 2 อาทิตย์ ต้องขอโทษเพื่อน ๆ ทุกคนที่รอฝอยทองด้วยนะคะ พิมงานยุ่งจริง ๆ จ้า แต่วันนี้มาโพสต์แหละค่ะ 

........ ฝอยทอง เป็นขนมไทยอย่างนึงที่พิมคุ้นเคยมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเลยล่ะค่ะ  เหตุเพราะในสมัยก่อนเนี่ย (สัก 20-25 ปีที่แล้ว)  เวลาบ้านใครมีงานบุญกันทีไร เค้าก็จะมีการทำขนมพวกนี้ (ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน) ทั้งเพื่อทำบุญ ถวายพระ และแจกคนมาช่วยงาน กันคราวละมากๆ อยู่เสมอ  (ไข่เป็ดประมาณ 1000 ใบ)   ซึ่งคนที่ทำเนี่ยก็ไม่ใช่ใครอื่น  หากไม่ใช่ยายของพิมก็จะเป็นผู้ใหญ่  ๆ ที่พิมรู้จักอ่ะค่ะ  ดังนั้นแล้วเวลาที่เค้าลงมือทำกัน พิมก็เลยมักจะมีโอกาสได้ไปเล่นซนแถวบริเวณที่เค้าทำอยู่เป็นประจำ  บางทีก็ไปช่วยยกกาละมังสำหรับใส่ไข่ที่ตอกแล้ว  บางทีก็ช่วยยกกาละมังไข่ที่จะเอามาตอก (แต่อันนี้เค้าไม่ค่อยให้พิมยกกัน เพราะว่าชื่อเสียงพิมดังในทางซุ่มซ่าม เค้ากลัวพิมจะทำกาละมังไข่ตกแตก ^^")   บางทีก็ยกม้านั่งบ้าง  ยกกาละมังใส่เปลือกไข่บ้าง ... ทำนองนี้อ่ะค่ะ  (แต่เพิ่งมาได้ลงมือทำเองก็ตอนโตนี่แหละค่ะ)

ซึ่งในสมัยก่อนฝอยทองจะนิยมทำจากไข่แดงของ ไข่เป็ดล้วนๆ ค่ะ   แต่ปัจจุบันมีการผสมไข่แดงของไข่ไก่ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความนุ่มนวลของเส้นฝอยทองและลดกลิ่นคาวไข่อ่ะค่ะ ...  และในโอกาสช่วงนี้ที่ในห้องก้นครัวเค้ากำลังฮิตๆ ทำเค้กฝอยทองกัน  พิมก็เลยขอฉกฉวยโอกาสนี้ทำฝอยทองมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน  เผื่อว่าใครสนใจอยากจะลองทำกินเล่นๆ  หรือทำแล้วเอาไปทำเป็นเค้กฝอยทองต่อ  ... อ่ะค่ะ
ก่อนอื่น ...... ก็มาดูหน้าตาฝอยทองกันก่อนนะคะ  นี่ค่ะ... ฝอยทองฝีมือพิม หน้าตาอย่างนี้เลย

ป.ล. ฝอยทองนี่ พิมขออนุโลมให้เป็นขนมไทยแล้วกันนะคะ   เพราะมีในเมืองไทยมานานแล้ว  แม้ต้นฉบับจะมาจากโประตุเกสก็ตาม

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-01.JPG
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-04.JPG

ดูหน้าตาผลงานไปแล้ว ก็มาดูวัตถุดิบและก็วิธีทำกันนะคะ ..... ซึ่งพิมไม่มีภาพวัตถุดิบแบบรวม ๆ ให้ดู  แต่เดี๋ยวยังไงไปดูเอาอีกทีในส่วนของวิธีทำล่ะกันนะคะ
::  ส่วนผสม ::
- น้ำตาลทรายขาว 1000 กรัม
- น้ำลอยดอกมะลิ  1000 กรัม ................ ถ้าไม่มี ก็ใช้น้ำสะอาด หยดกลิ่นมะลิลงไปสัก 2-3 หยดนะคะ
- ใบเตยสีเขียวเข้ม 4 ใบ
- ไข่เป็ด  6 ฟอง
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
:: อุปกรณ์ ::
- กรวยใบตองหรือ กรวยโลหะ
- ไม้แหลม  ยาวประมาณ 1 ฟุต
- ตะแกรง
- ถาดรองน้ำเชื่อม
::  วิธีทำ ::
อันดับแรกเราจะต้องมาเตรียมทำน้ำเชื่อมกันไว้ก่อนนะคะ

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-13.JPG

ด้วยการผสมน้ำตาลทรายกับน้ำลอยดอกมะลิเข้าด้วยกันในหม้อสักใบ  และก็ใส่ใบเตย (ที่ล้างสะอาดแล้ว) สัก 4-5 ใบ มัด ๆ รวมกันตามลงไป

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-14.jpg

จากนั้นเอาไปตั้งไฟจนน้ำตาลละลาย  เคี่ยวไปสัก 5 นาที (ไฟกลางค่อนมาทางอ่อน)  ก็ยกลงมากรองด้วยกระชอนตาถี่ๆ  หรือผ้าขาวบาง (ชั้นเดียว) ซะ 1 ครั้ง ก่อนจะเอาไปเทใส่ในกระทะทอง และทำการเคี่ยวไฟอ่อนๆ ต่อไปอีกสักพักเพื่อให้มีความเหนียวข้นได้ที่

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-15.jpg

ระหว่างเคี่ยวน้ำเชื่อม  เราก็จะมาจัดการกับไข่กันค่ะ ... อย่างที่พิมบอกในตอนแรกว่าสูตรของพิม ใช้ทั้งไข่ไก่และไข่เป็ดนะคะ (จริงๆ  สูตรอื่นเค้าก็ใช้กันค่ะ ไม่ใช่สูตรของพิมอย่างเดียวอ่ะ ^^) .... ก็นำไข่ทั้งสองอย่างมาล้างทำความสะอาด และเช็ดด้วยผ้าแห้งไว้นะคะ  (ในภาพยังไม่ได้ล้างจ้า)

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-31.JPG

จากนั้นก็ตอกไข่ใส่ถ้วย  ... โดยตอกทีละใบนะคะ  แล้วก็ทำการแยกไข่ขาวไข่แดงออกจากกัน

ป.ล. พิมลืมบอกไปตอนแรกว่าไข่ที่ใช้เนี่ย จะต้องเป็นไข่ที่สดนะคะ โดยไข่ที่สดจริง จะยังมีไข่ขาวที่ดูเหมือนวุ้น ๆ  จับตัวล้อมรอบไข่แดงอยู่  อีกทั้งไข่แดงมีลักษณะกลม  เวลาเอาปลายนิ้วจิ้มลงไปเบา ๆ จะรู้สึกได้ว่ามันยังยืดหยุ่นดีมากอ่ะค่ะ

ป.ล. เปลือกไข่อย่าเพิ่งทิ้งไปนะคะ เราจะต้องทำการรีดเอาไข่น้ำค้างออกมาจากก้นเปลือกไข่ด้วยอ่ะค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-16.jpg

และรีดเยื่อไข่ที่หุ้มไข่แดงอยู่ออกให้หมด  ก็จะได้มาเป็นแบบนี้ค่ะ .....

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-17.JPG

แล้วก็ทำแบบเดียวกันนี้กับไข่ทั้งหมดที่ เหลือ ... ก็จะได้ไข่ขาว ไข่แดงที่แยกจากกันแล้วแบบนี้นะคะ  .... ซึ่งในวันนี้เนี่ย เราจะใช้แต่ไข่แดงเท่านั้น   ส่วนไข่ขาวเก็บใส่ถุงแช่ตู้เย็นเอาไว้ก่อนนะคะ  แล้วคราวหลังเราจะค่อยเอามาทำฝอยเงินกันอ่ะค่ะ (หรือใครจะเอาไปทำสังขยาไข่ขาวก็ได้จ้า) 

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-18.JPG

ต่อมาเราก็จะต้องมาทำการรีดไข่น้ำค้างกัน ต่อนะคะ  (ทำฝอยทอง จะขาดไข่น้ำค้างไม่ได้เลยน๊าาาา)  ด้วยการใช้ปลายนิ้วหัวแม่โป้งมือของเรานี่แหละ วางลงไปด้านในเปลือกไข่บริเวณไข่น้ำค้าง  (ที่มันเหมือนเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ)  แล้วก็ทำการรีดไข่น้ำค้างออกมา   ... (ใครไม่ถนัดใช้มือ จะใช้ช้อนขูดเบาๆ เอาก็ได้นะคะ แต่พิมว่ามือนี่แหละ ดีสุดแล้ว)
ป.ล. ไข่น้ำค้างมีคุณสมบัติช่วยทำให้เส้นฝองทองเหนียวนุ่ม และไม่ขาดง่ายอ่ะค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-19.JPG

นี่ค่ะ .... รีดจนไม่ให้เหลือเลยแบบนี้

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-20.JPG

จากนั้นก็เอาไข่น้ำค้างทั้งหมด (จากไข่ทุกใบ) เทใส่ลงไปในถ้วยไข่แดง  แล้วก็ใช้ส้อมคนไข่แดงกับไข่น้ำค้างให้เป้นเนื้อเดียวกัน  .... (คนให้เข้ากันดีนะคะ แต่ไม่ต้องตีให้ขึ้นฟู)

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-21.jpg

แล้วก็นำไปกรองผ่านผ้าขาวบางทบ 2 ชั้น  สัก 3 ครั้ง เพื่อให้ไข่แดงมีเนื้อที่ละเอียดมากขึ้น  และเพื่อรีดเอาเยื่อไข่แดงที่เราเอาออกไม่หมดในคราวแรกให้หมดไป

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-22.jpg

จากนั้นก็ทดลองตักไข่แดงขึ้นมาเทดูว่ามี ลักษณะเป็นยังไง .... ถ้าเป็นสายต่อเนื่องกันแบบในภาพ ก็แสดงว่าใช้ได้  แต่ถ้าเทแล้วมีขาดจากกันเป็นช่วง ๆ ก็ให้ทำการกรองด้วยผ้าขาวบางอีกสัก 2 รอบ ค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-23.JPG

ต่อมาเมื่อเราเตรียมไข่แดงเรียบร้อยแล้ว และน้ำเชื่อมของเราก็ได้ที่แล้ว  ก็ให้เราทำการตักไข่แดงใส่ในกรวย   (อย่าลืมเอาปลายนิ้วชี้อุดรูที่ปลายกรวยไว้ด้วยนะคะ)   โดยจะต้องตักให้มีปริมาณเยอะหน่อยนะคะ  ไม่งั้นแล้วมันจะไม่มีแรงกดที่จะทำให้ไข่แดงไหลผ่านรูของกรวยได้อย่างต่อ เนื่องอ่ะค่ะ
ป.ล. น้้ำเชื่อมที่ได้ที่แล้ว จะมีลักษณะของฟองเป็นฟองละเอียดค่ะ
ป.ล. กรวยที่ใช้ อาจจะเป็นกรวยใบตอง หรือกรวยแสตนเลส หรือกรวยที่ทำจากอลูมิเนียมก็ได้นะคะ ตามสะดวกเลย

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-28.JPG
แล้วก็ทำการทดสอบดูอีกครั้งว่าไข่แดงมีการ ไหลอย่างต่อเนื่องไหม  ด้วยการเอานิ้วชี้ที่ปิดรูกรวยไว้ออก ... หากไข่ไหลไม่ต่อเนื่อง แสดงว่ารูกรวยของเราอาจจะเล็กไป  (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดกับกรวยใบตอง เพราะกรวยที่เป็นโลหะเค้าเจาะรูมาดีแล้ว)  ก็ให้เราเอาไม้ปลายแหลม เช่นไม้จิ้มลูกชิ้น  ทำการแหย่ผ่านจากด้านบนลงไปที่รูกรวย  แล้วก็ขยับ/หมุนไม้ปลายแหลมซ้ายขวาสัก 3-4 ครั้ง  รูกรวยก็จะขยายกว้างขึ้น  ไข่แดงก็จะไหลผ่านรูกรวยใบตองได้สะดวกขึ้นอ่ะค่ะ .... ^^
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-29.JPG

เมื่อไข่แดงไหลผ่านรูกรวยได้สะดวก ไหลเป็นสายได้ต่อเนื่อง ไม่ขาดจากกันแล้ว .... ถึงตอนนี้ก็ให้เราเริ่มมาทำการโรยเส้นฝอยทองลงบนน้ำเชื่อมได้แล้วค่ะ
โดยวิธีการโรยไข่นั้นก็ทำไม่ยากค่ะ   เริ่มต้นจากการหรี่ไฟเตาให้ลดลงเหลือไฟปานกลาง   ..... ถือกรวยที่ใส่ไข่แดงไว้เหนือน้ำเชื่อมประมาณ 15 ซม.   แล้วก็โรยไข่แดงให้มีลักษณะเป็นวงกลมประมาณ  25 วงต่อเนื่องกัน (รอบ) นะคะ    แล้วพอโรยไข่เสร็จ ก็ให้เราเอาไม้ปลายแหลม ทำการกดเส้นฝอยทองให้จมลงไปในน้ำเชื่อมสักแป๊บ (ประมาณ 5-10 วิ)   เพื่อให้ไข่สุก และซึมซับเอาน้ำเชื่อมเข้าไป   ก่อนที่จะทำการสอยฝอยทองด้วยการใช้ไม้ปลายแหลม พับครึ่งเส้นฝอยทอง  แล้วก็พับครึ่งอีกครั้งแบบในภาพด้านล่าง  และเอามาพักไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำเชื่อมน่ะค่ะ
ป.ล. หากเราต้องการฝอยทองเส้นเล็ก ให้เราถือกรวยให้สูงจากน้ำเชื่อมเยอะหน่อย  แต่ถ้าต้องการฝอยทองเส้นใหญ่ ก็ให้ถือกรวยต่ำ ๆ นะคะ  (แต่ถ้าเส้นใหญ่ เนื้อฝอยทองมันก็จะหยาบไปด้วย ซึ่งเวลากินแล้วจะไม่ค่อยอร่อยอ่ะค่ะ)

ป.ล. พิมไม่มีภาพตอนโรยฝองทอง + พักฝอยทองบนตะแกรงน้ำเชื่อม + ฝอยทองตอนเสร็จแล้วแบบเป็นแพ ๆ  มาให้ดูนะคะ เนื่องจากมีปัญหาอิหลุกขลุกขลักนิดหน่อย  ประมาณว่ากำลังตั้งเตาโรยฝอยทองอยู่กลางแจ้งช่วงเย็นๆ  แล้วฝนตกมาพอดี  แถมตกหนักซะด้วย  เลยรีบวิ่งเก็บข้าวของซะเกือบไม่ทัน หลังจากนั้นฟ้าก็มืดมิด ถ่ายภาพอะไรออกมาใช้ไม่ได้เลยน่ะค่ะ  ดำทะมึนไปหมด  (บ้านพิมถ้าจะทำกับข้าว + ถ่ายรูป ต้องทำตอนกลางวันที่มีแดดออกเท่านั้นอ่ะค่ะ)  ...... ไว้คราวหน้าทำอีก จะค่อยถ่ายภาพมาแก้ตัวนะคะ

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-09.JPG
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-30.JPG

สุดท้ายแล้ว ...  เมื่อฝอยทองที่เราพักไว้จนสะเด็ดน้ำเชื่อมดี และเราเอามาคลี่ให้กระจายตัวเป็นเส้น ๆ แบบนี้แล้ว  เราก็จะได้ฝอยทองสำหรับทำเค้กฝอยทองออกมาหน้าตาประมาณนี้อ่ะค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-05.JPG

ซึ่งจริงๆ  แล้วเนี่ย ฝอยทองอันนี้ไม่จำเป็นว่าจะต้องเอามาทำเค้กฝอยทองอย่างเดียวหรอกค่ะ  เอามากินเล่นๆ ชิว ๆ ก็โอเคนะคะ หวานกำลังดีเลย

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-06.JPG

สำหรับเพื่อนๆ ที่ถามพิมมาวันก่อนว่าฝอยทองที่ดีมีลักษณะเป็นยังไง  พิมก็ขอยกยอดมาตอบในเมนูนี้เลยนะคะว่าฝอยทองที่ดีจะต้องมีลักษณะเส้นเรียว ยาว เหนียวนุ่ม ใส ดูเงาเป็นประกาย ไม่ขาดง่าย  มีความหวานกำลังพอีด และไม่มีกลิ่นคาวไข่นะคะ ^^   ซึ่งฝอยทองของพิมเนี่ย ... ถ้าถามว่าเข้าข่ายลักษณะฝอยทองที่ดีไหม ก็อยากจะบอกว่า เกือบๆ จะเข้าข่ายค่ะ   คือมีครบเกือบทุกลักษณะที่บอกมา  เสียแต่เส้นยังมันยังไม่ค่อยเรียบ ยังมีหยัก ๆ บ้าง  ซึ่งแม้จะออกมารสชาติดี และภาพรวมดูสวยงาม แต่ก็ยังต้องปรับปรุงน่ะค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-12.JPG

ยังไงก็...หวังว่าคงเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ  ที่อยากจะลองหัดทำฝอยทองได้นะคะ  ส่วนถ้าคราวไหนพิมทำอีก  (กะว่าจะทำฝอยเงินจากไข่ขาวที่เหลือด้วย)  ก็จะถ่ายรูปมาให้ชมอีกค่ะ ^^ ... ส่วนคราวนี้บ๊ายบายไปก่อนล่ะจ้า

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-04.JPG
:: อุปกรณ์สำหรับการทำฝอยทอง ::
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/gold-egg/gold-%20egg-yolks-thread-27.jpg 

credit : http://www.pim.in.th/

Read More...


มันเทศต้มน้ำขิง

http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-02.JPG
สมัยยังละอ่อน ตอนยังเรียนอยู่ ป.ตรี ทุกช่วงหน้าหนาว ต.ค.-พ.ย. ของทุกปี พิมกับเพื่อนรุ่นพี่มักจะชอบรวมแก๊งค์ไปเที่ยวภูกระดึงกันคราวละ  7-8 วันค่ะ แล้วแทบทุกครั้งที่ไปภูกระดึงในหน้าหนาว พวกเราจะต้องพกมันเทศกับขิงไปต้มกินบนภูอยู่เสมอๆ เลยค่ะ
แล้วพอวันก่อนพิมไปเดินจ่ายกับข้าวที่ตลาดบางกะปิ  เห็นแม่ค้าเจ้าที่พิมซื้อกระเทียมไทย เค้ามีมันเทศหัวสวย ๆ มาขาย  พิมเลยอดที่จะซื้อ มาทำขนมหวาน  "มันเทศต้มน้ำขิง" ระลึกถึงความหลัง ครั้งยังละอ่อน .... ไม่ได้ค่ะ ^^"
ป.ล. พูดถึงภูกระดึง ... พิมกับรุ่นพี่ผู้ชาย เคยพกขาหมูเผา ขึ้นไปทำต้มยำกินกันบนภูในช่วงเดือน พ.ค. ด้วยนะคะ (ประมาณปี 38) ^^"  ยังจำรสชาติและความเหนียวสุด ๆ ของมันได้ อยู่เลยค่ะ  ... แบบว่าเหนียวมากๆๆๆๆๆๆๆ เนื่องจากว่าพอต้มเสร็จ กะว่าสุก ก็เอามาปรุงรสกินเลย ไม่มีการเคี่ยวให้เปื่อย เพราะว่าเปลืองแก๊สค่ะ -*-
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-01.JPG
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
1. มันเทศ 900 กรัม   (ปอกเปลือกแล้วเหลือประมาณ 800 กรัม)
2. ขิงแก่ 90 กรัม
3. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
4. น้ำสะอาด 5 + 1/3 ถ้วย
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-06.JPG
:: เตรียมของ และลงมือทำ ::
เริ่มแรก .. เราก็มาจัดการ "มันเทศ" กันก่อนนะคะ
เอามันเทศ (ที่หัวดี ๆ ไม่เน่า ไม่หนอน ไม่ค่อยมีรู)  มาปอกเปลือกให้หมด  แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ (กะว่าชิ้นละคำ) ... โดยจะหั่นสี่เหลี่ยม เหลาเป็นกลม ๆ  หรือจะหั่นตามพิม แบบในรูปก็ได้ค่ะ
หั่นเสร็จ ก็เอาไปล้างน้ำสัก 2 รอบ เพื่อให้ยางออกให้หมด  ... แล้วก็ใส่ตะกร้าไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-07.jpg
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-08.jpg
ต่อมา .. .ก็มาดูที่ "ขิง" .. ขิงที่ใช้ทำมันเทศต้มน้ำขิงเนี่ย ให้ใช้ขิงแก่ค่ะ   (ขิงแก่ จะมีเสี้ยนที่เป็นเส้น ๆ ค่อนข้างเยอะ)
เอาขิงมาปอกเปลือกค่ะ  ตัดส่วนที่ไม่ใช้ทิ้งไป  แล้วก็ฝานเป็นแว่นแบบนี้ (ไม่ต้องให้บางมาก)
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-09.JPG
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-10.jpg
จากนั้นก็ล้างน้ำสักครั้งนึง แล้วเอาไปใส่รวมไว้กับมันเทศค่ะ
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-11.JPG
หันมาต้มน้ำเชื่อมกัน ... โดยใส่น้ำประมาณ 5 ถ้วยกว่า ๆ ลงในหม้อสะอาด  เติมน้ำตาลลงไปราว ๆ 2 ถ้วย  (สำหรับคนชอบหวานน้อย ให้ใส่สัก 1 1/2 ถ้วย ก็พอค่ะ)  ... แล้วก็นำไปตั้งเตาไฟ
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-12.jpg
คนด้วยทัพพีหรือกระบวยเป็นระยะๆ ... จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-13.JPG
ก็เทมันเทศ + ขิง ทั้งหมด ... ใส่ลงไป
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-14.jpg
แล้วก็ปิดฝา .... เป็นระยะเวลาประมาณสัก 15-25 นาที   (ขึ้นกับว่าใช้ไฟแรงแค่ไหน และต้องการให้มันเทศ สุกมากน้อยขนาดไหน)
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-15.JPG
แล้วพอผ่านไปสัก 18-20 นาที ... เปิดฝาหม้อขึ้นมา มันเทศในหม้อก็จะสุกประมาณนี้  ......  ซึ่่งสำหรับพิมชอบให้สุกขนาดนี้แหละค่ะ ... รู้สึกว่ามันกำลังดี (ไม่ชอบเละ ๆ และไม่ชอบแข็งๆ)
และพอสุกได้ที่ ... ก็จัดการปิดไฟเตา ....... เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-16.jpg
ตักขึ้นใส่ชาม ... แบ่ง ๆ กันไปคนละชามสองชาม  .... และชามนี้สำหรับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาชมเมนูนี้ค่ะ ^__^
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-05.JPG
หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ ก็ลองเอาไปทำดูนะคะ .... ไม่ต้องทำกินตอนหน้าหนาวก็ได้ค่ะ  หน้าร้อน หน้าฝนอย่างนี้ ... ทำกินสักถ้วย สักหม้อ  ก็อร่อยดีเหมือนกันนะคะ  แต่ว่า "มันเทศต้มน้ำขิง" แบบนี้เนี่ย ต้องกินตอนกำลังอุ่น ๆ หน่อย จึงจะอร่อยที่สุดเลยค่ะ

credit  : http://www.pim.in.th/

Read More...


ไข่กระทะทำขาย

ภาพ:EggPan01.jpg

        ไข่กระทะสูตรนี้จะไม่ใช้หมูยอ แต่จะนำชีส เสริมโปรตีน

เครื่องปรุง

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง / 1 เสริฟ
2. เนย สำหรับทอดไข่
3. กุนเชียงหั่นแฉลบ 5-6 ชิ้น
4. หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ และกระเทียมสับ 2 กลีบ รวนให้สุก ปรุงรสด้วยพริกไทยและซอสปรุงรสตามชอบ
5. ชีสหั่นเป็นก้อนเล็กๆ
6. ต้นหอมซอย
7. พริกไทยป่นสำหรับโรยหน้า

ภาพ:EggPan02.jpg
ภาพ:EggPan03.jpg
ภาพ:EggPan04.jpg
ภาพ:EggPan05.jpg

วิธีทำ
ภาพ:EggPan06.jpg

1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ผัดหมูสับกับกระเทียมให้สุก ปรุงรสด้วยพริกไทย และซอสตามชอบ ได้ที่แล้วตักพักไว้

ภาพ:EggPan07.jpg

2. นำกระทะขนาดเล็กตั้งไฟกลาง ละลายเนย 1/2 ช้อนโต๊ะ เมื่อเนยละลาย ตอกไข่ใส่กระทะ และนำชีสก้อนเล็กๆ ใส่ให้ทั่ว กดให้จมเนื้อไข่เล็กน้อย

ภาพ:EggPan08.jpg

3. เรียงกุนเชียงให้ทั่ว โรยด้วยหมูสับ แล้วปิดฝาเพื่อให้ไข่สุกทั่วถึงค่ะ ถ้าชอบไข่ดึ๋งๆก็ไม่ต้องปิด

ภาพ:EggPan09.jpg

4. พอไข่สุกตามต้องการก็โรยหน้าด้วยต้นหอม และพริกไทย เท่านี้ก็พร้อมเสริฟ

ภาพ:EggPan10.jpg

        รับประทานคู่กับขนมปังฝรั่งเศส หรือ จิ้มกับแม็กกี้ แล้วก็ซอสพริก ตัดเลี่ยนกำลังดีเลย ซดกาแฟตามสักหน่อย เมนูนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะไหนจะเนยไหนจะไข่ แถมใส่ชีสเข้าไปอีก คอเรสตอรอลสูงมาก แต่ว่านานๆทานทีก็ดีนะ ลองหากระทะเล็กๆ แบบนี้ แล้วชวนเด็กๆที่บ้านทำกินกันดูซิค่ะ ครอบครัวอบอุ่นๆๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วิธีทำไข่กะทะกับขนมปังฝรั่งเศษ





ส่วนผสมวิธีทำไข่กะทะกับขนมปังฝรั่งเศษ 
Thai Food:How to make Egg pan with French bread.

1.กุนเชียง Sausage.
2.หมูยอ Thai Hot dog.
3.น้ำมัน Oil
4.หมูสับ Minced pork.
5.พริกขี้หนูสับ Thai Chilli chopped.
6.ใบกระเพราสับ Basil leaves chopped.
7.ซอสถั่วเหลือง Soy sauce.
8.เนย Butter.
9.ไข่ไก่ Egg.
10.เชดด้าชีส Chet Dar cheese.
11.ต้นหอมสับ Onion chopped.
12.พริกไทย Pepper.
13.ขนมปัง Bread.


ขั้นแรกนำกุนเชียงและหมูยอมาหั่นเป็นชิ้น แล้วนำไปทอดให้สุก เสร็จแล้วใส่จานพักไว้ ขั้นตอนต่อไปตั้งกะทะใส่น้ำมันรอให้ร้อนใส่หมูสับและพริกขี้หนูสับลงไปผัด ให้สุก แล้วปรุงรสชาติด้วยซอสถั่วเหลืองผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วใส่ใบกระเพราสับลงไปผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จานพักไว้ ขั้นตอนต่อไปตั้งกะทะและทาด้วยเนยแข็งรอให้กะทะร้อน ใช้ไฟอ่อน ระหว่างก็ให้ตอกไข่ใส่ถ้วยรอไว้ เมื่อกะทะร้อนแล้วเทไข่ใส่ลงไปแล้วปิดฝา ระหว่างนี้นำเชดด้าชีสมาหั่นเป็นชิ้น ไข่ใกล้สุกก็ตกแต่งด้วยกุนเชียงและหมูยอ โรยด้วยหมูผัดกระเพรา วางเชดด้าชีสลงไป ปิดฝารอให้เชดด้าชีสละลาย และให้ไข่สุก ระหว่างนี้นำขนมปังทาด้วยเนย ใส่หมูยอและกุนเชียงแล้วนำไปอบ ถ้าไม่มีเตาอบก็ให้ใช้กะทะแทน วางขนมปังลงในกะทะแล้วปิดฝา พลิกขนมปังให้ทั่วทั้งชิ้นจะได้ขนมปังที่กรอบนอกนุ่มใน นำต้นหอมสับไปโรยบนไข่กะทะเสร็จแล้วยกลงจากเตาพร้อมเสริฟ

หมายเหตุ การใส่เครื่องปรุงก็แล้วแต่คนชอบนะครับชอบทานรสชาติแบบไหนก็ใส่ไปเลยครับไม่มีกำหนด

Read More...


ต้มกระดูกหมูผักกาดดอง : Pickled lettuce soup with spare rips

วันนี้ แอบมาโพสต์สูตรต้มกระดูกหมูผักกาดดองก่อนจะหลบหน้าหลบตาไป 3-4 วัน หนีไปเที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่บ้านมากค่ะ เมืองที่จะไปเที่ยวชื่อเมือง Cochem เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำ โรแมนติกมากๆ อยากไปมาตั้งนานแล้วแต่ก็ขับรถข้ามไปข้ามมา ไม่ได้แวะซะที ครั้งนี้เห็นว่าอากาศกำลังดีเลยต้องไปเยือนซะหน่อย และก่อนจะหายไปก็ขออัพบล็อกส่งท้ายนิดนึง วันนี้มีอาหารง่ายๆ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดีมาฝากค่ะ

ต้มกระดูกหมูผักกาดดองเนี่ยสมัยอยู่ เมืองไทยยังทำกับข้าวกินเองไม่เป็น พี่สาวกับเพื่อนสาวจะเป็นคนทำให้กินบ่อยๆ ค่ะ ชอบมากกกกกก กินเล่นคนเดียวได้เป็นหม้อ (เล็กๆ) เลย คุณปู้จายเคยกินที่ร้านอาหารที่เมืองไทยครั้งนึงแล้วเธอไม่ชอบ แต่วันนี้เราอยากกินเลยไม่สนใจล่ะ ไม่ชอบก็จะทำ 55 จริงๆ แล้วก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าทำยังไง ต้องใส่อะไรบ้าง ก็ทำไปตามสัญชาิตญาณอันน้อยนิดค่ะ รสชาติที่ออกมาก็ไม่ได้ต่างจากที่พี่และเพื่อนทำให้กินเท่าไรนัก พอทำเสร็จคิดว่าท่านที่บ้านจะไม่กินแต่ที่ไหนได้ เธอบอกว่าอร่อย ซดน้ำเพลินเลย อ๊ะ.. อย่างนี้มีหวังไฟเขียวให้ทำได้บ่อยๆ แน่

ส่วนผสมโดยประมาณ สำหรับ 2-3 คน
  1. กระดูกหมู 300 กรัม
  2. ผักกาดกระป๋อง 200 กรัม
  3. แครอท 1 หัว
  4. กระเทียม 1 กลีบใหญ่
  5. พริกไทยเม็ด 1/2 ชช.
  6. รากผักชี 1 ราก
  7. น้ำมันพืช 1 ชต.
  8. น้ำมันหอย 1/2 ชต.
  9. ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
  10. น้ำปลา 1 ชต.
  11. น้ำตาลทราย 1/4 ชช.
  12. น้ำ 500 มล.
วิธีทำ
ผัก กาดดองสะเด็ดน้ำพักไว้ แครอทปอกเปลือกแล้วหั่นตามชอบ กระเทียมปอกเปลือกนอกแล้วหั่นหยาบๆ รากผักชีซอยหยาบๆ โขลกกระเทียม พริกไทย และรากผักชีรวมกันให้ละเีอียด

ใส่ น้ำมันพืชในหม้อ ตั้งไฟจนร้อน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนส่งกลิ่นหอม ไม่ต้องผัดให้ถึงกับเครื่องมีสีเหลืองนะคะ จากนั้นใส่กระดูกลงไปผัดจนหมูตึงและเริ่มเปลี่ยนสีค่ะ

ใส่ แครอท น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำปลา และน้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน เติมน้ำให้ท่วมแล้วปิดฝาหม้อรอให้เดือด หมั่นช้อนฟองทิ้งด้วยก็ดีค่ะ น้ำซุปจะได้ใสๆ น่ากิน เมื่อน้ำเดือดแล้วก็ใส่ผักกาดดองลงไป คนพอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ แล้วปิดฝาหม้อตุ๋นไฟอ่อนสุดประมาณ 45-60 นาที หรือจนกระดูกหมูเปื่อยดีค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะ ง่ายดีเนาะ

 

Read More...


ปอเปี๊ยะทอด : spring rolls

ได้ ฤกษ์หากินกับเมนูเก่าๆ อีกแล้วค่ะ พอดีเพื่อนบ้านของแม่สั่งปอเปี๊ยะทอด 50 ชิ้น เราเลยแปลงร่างเป็นแม่ค้าปอเปี๊ยะทอด แล้วเห็นว่าไหนๆ ก็ลงมือทำแล้ว ถ่ายรูปวิธีทำมาเพิ่มในบล็อกเก่าที่ลงไว้ดีกว่า เพราะตอนนั้นลงแต่รูปสำเร็จและสูตร ไม่ได้ลงรูปวิธีทำไว้ด้วยน่ะค่ะ

ส่วนผสม สำหรับปอเปี๊ยะ 12 ชิ้น
  1. แป้งปอเปี๊ยะ 12 แผ่น
  2. หมูสับ 200 กรัม
  3. กะหล่ำปลี 50 กรัม
  4. เห็ดหอม 50 กรัม
  5. ถั่วงอก 50 กรัม
  6. วุ้นเส้น 50 กรัม
  7. แครอทหัวใหญ่ 1 หัว
  8. รสดีรสหมู 1 ก้อน
  9. น้ำมันหอย 2 ชต.
  10. น้ำมันงา 1 ชช.
  11. เกลือ พริกไทย
  12. น้ำมันหรือเนยขาวสำหรับทอด
วิธีทำ
แผ่น ปอเปี๊ยะถ้าแช่แข็งไว้ก็นำออกมาวางไว้นอกตู้เย็นทิ้งไว้ให้นิ่มก่อนค่ะ ส่วนกะหล่ำปลีก็ล้างแล้วซอยเป็นเส้นบางๆ เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม แล้วหั่นบางๆ ถั่วงอกล้างให้สะอาด วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่ม ตัดเป็นท่อนสั้นๆ แครอทปอกเปลือกและขูดเป็นเส้นฝอยๆ เหมือนขูดมะละกอเพื่อ ทำส้มตำน่ะค่ะ รสดีก้อนก็บดละเอียดไว้ค่ะ
ใส่ ส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นเกลือและพริกไทย ในอ่างผสม นวดให้เข้ากันดี (เมื่อถึงขั้นตอนนี้ หากใครทำน้อยๆ คิดว่าทอดแล้วจะทานเลยก็จัดการนำแผ่นปอเปี๊ยะมาห่อแล้วทอดเลยได้ค่ะ เราว่ามันจะอร่อยกว่าไส้ที่ผ่านการผัด แต่ถ้าทำเยอะๆ สำหรับฟรีซหรือทำไปงานเลี้ยง อันนี้ต้องผัดไส้ก่อนเพื่อให้ไส้แห้ง ทอดแล้วแป้งจะได้กรอบนานๆ ค่ะ) นำกระทะตั้งไฟแล้วใส่ส่วนผสมที่นวดไว้ลงไปผัดจนหมูสุก ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็นก่อน เพราะถ้าห่อร้อนๆ เลยจะทำใ้ห้แผ่นปอเปี๊ยะ ขาดง่ายนะคะ
เมื่อ ได้เวลาห่อก็นำแผ่นปอเปี๊ยะวางเฉียงให้ด้านที่มีปลายแหลมอยู่ข้างบน ตักไส้ใส่ลงไป แล้วตลบปลายแป้ง ม้วนทับไส้ 1 รอบ ก่อนพับด้านข้างเข้าหากัน ม้วนต่อไปจนเกือบสุดปลายแป้งด้านบน แล้วทาน้ำเย็นตรงปลายบางๆ ก่อนม้วนเพื่อให้แป้งติดกันดีค่ะ
นำ เนยขาวหรือน้ำมันพืชใส่หม้อตั้งไฟ ใช้น้ำมันเยอะหน่อยนะคะ แล้วก็ทอดด้วยไฟกลางค่ะ พอน้ำมันร้อนจัดก็นำปอเปี๊ยะลงทอดจนแป้ง มีสีเหลืองทอง ตักขึ้นวางบนกระดาษเพื่อซับน้ำมันค่ะ
หากใครไม่อยากทำบ่อยๆ ก็ทำไว้ครั้งเดียวเยอะๆ เลยก็ได้ค่ะ หลังจากห่อแล้วก็จัดเรียงใส่กล่องปิดฝามิดชิดหรือถุงซิปล็อก นำไปแช่ช่องฟรีซไว้ หิวเมื่อไหร่ก็แค่นำมาทอดได้เลย สะดวกดีค่ะ เมื่อทอดเสร็จแล้วก็จัดใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ คู่กับน้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ทานเพลินเลยค่ะ


Read More...


ปลาเทราส์นึ่งซีอิ๊ว : Steamed Trout in Soja Sauce


วันนี้ทำปลาเทราส์นึ่งซีอิ๊วของโปรดของคุณพ่อบ้านค่ะ (คุณแม่บ้านด้วย 55) ดูเหมือนชาติก่อนคนบ้านนี้จะเคยเกิดเป็นแมว ชาตินี้ถึงได้ชอบกินปลาเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นปลาทอด ปลาย่าง ปลานึ่ง ปลาผัด กินได้ไม่รู้เบื่อ ส่วนปลาเทราส์ตัวนี้ซื้อมาจากตลาด ตัวโตมากๆ เป็นปลาเทราส์-แซลมอน คือปกติปลาเทราส์จะมีเนื้อสีขาวใช่ป่ะคะ แต่พันธุ์นี้มีเนื้อสีส้มเหมือนปลาแซลมอน เวลากินก็เลาะก้างออกง่ายดี ติดใจเนื้อมันอร่อยมากๆ เมี๊ยวๆ

เครื่องปรุง
  1. ปลาเทราส์ตัวโตๆ 1 ตัว ของเราหนักประมาณ 8 ขีดค่ะ
  2. กระเทียมกลีบใหญ่ 4 กลีบ
  3. มะนาว 2 แว่น
  4. ขิงแก่ 1 แง่ง
  5. ต้นหอมอวบๆ 2 ต้น
  6. คื่นช่าย 2 ต้น (วันนี้ไม่มีเลยไม่ได้ใส่ค่ะ)
  7. พาร์สลีย์ 2-3 ต้น
  8. พริกชี้ฟ้า 4 เม็ด
  9. ซีอิ๊วขาว 2-3 ชต.
  10. น้ำมันหอย 1 ชต.
  11. น้ำตาลทราย 1 ชช.
  12. น้ำมันงา 1 ชช.
  13. พริกไทยดำป่น 1/2 ชช
  14. น้ำซุป 1/3 ถ้วย
วิธีทำ

  • ขอดเกล็ดแล้วผ่าท้องปลาเทราส์ เอาพุงออกให้หมด บั้งแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นใช้กระดาษซับน้ำให้แห้ง แล้ววางบนภาชนะสำหรับนึ่งค่ะ เราวางบนจานที่ใช้เสิร์ฟเลย ปลาตัวยาวไปหน่อยเลยต้องตัดครึ่งค่ะ
  • ต่อไปก็จัดการปอกเปลือกกระเทียม หั่นชิ้นโตๆ ปอกเปลือกขิงแล้วหั่นแว่น ต้นหอมลอกเปลือกนอกออกแล้วหั่นท่อน คื่นช่ายหั่นท่อน ส่วนพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงค่ะ แบ่งกระเทียมและขิงอย่างละนิดพร้อมด้วยมะนาวทั้งสองแว่นไปยัดท้องปลาไว้ค่ะ
  • จากนั้นผสมพริกชี้ฟ้า ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาล น้ำมันงา พริกไทยป่น และน้ำซุปรวมกัน คนให้เข้ากันแล้วชิมรสตามชอบค่ะ เสร็จแล้วก็วางกระเทียมและขิงที่เหลือจากยัดท้องวางกระจายบนตัวปลา ราดด้วยน้ำซอสครึ่งหนึ่งค่ะ
  • ต่อไปก็วางผักที่หั่นไว้บนตัวปลาแล้วราดน้ำซอสส่วนที่เหลือ นำรังถึงใส่น้ำตั้งไฟแรง ต้มจนน้ำเดือดก็นำปลาไปนึ่งประมาณ 10 นาทีก็สุกแล้วค่ะ ถึงตอนเสิร์ฟก็วางจานเสิร์ฟบนหม้อไฟ น้ำซุปจะได้อุ่นตลอดเวลาค่ะ แค่นี้เองค่ะ ง่ายดีจริงๆ


Read More...


กุ้งอบวุ้นเส้น : Prawns cooked in glass noodles

วันนี้ มีกุ้งอบวุ้นเส้นมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ เมนูนี้ทำกินบ่อยมากตามประสาคนบร้ากุ้ง เมื่อก่อนสมัยอยู่เมืองไทยเวลาไปร้านอาหารแล้วเพื่อนๆ ชอบสั่งกุ้งอบวุ้นเส้นมาด้วย เราไม่ค่อยชอบเลยนะ กินได้คำสองคำก็ขอบาย แต่หลังแต่งงานแล้วกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย แล้วคุณปู้จายก็ได้ติดอกติดใจกุ้งอบวุ้นเส้นเข้าให้ พอกลับมาที่นี่แล้วเธอเกิดอยากกินก็ลำบากแจ๋วสิ

แต่ๆๆ พอลองทำกุ้งอบวุ้นเส้นกินเองครั้งแรกแจ๋วก็ติดใจเลยค่ะ ทำไมมันอร่อยเนี่ย เมื่อก่อนกินยังไงก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันอร่อย ทำกินเองปุ๊บอร่อยขึ้นมาเชียว พวกหลงตัวเอง 55 หลังจากนั้นเมนูนี้ก็เป็นหนึ่งในเมนูที่ทำบ่อยมากจนคุณปู้จายเริ่มเบื่อแล้ว ฮ่ะ

ส่วนผสม สำหรับรับประทาน 2 คน

วุ้นเส้น 80 กรัม
ซีอิ๊วดำ 1 ชต.
กุ้งสดตัวโตๆ 6-8 ตัว
หมูสามชั้นหั่นเส้นบางๆ 50 กรัม
ต้นหอมอวบๆ 2 ต้น
รากผักชี 2 ราก
ขิงหั่นแว่น 3-4 แผ่น
กระเทียมกลีบใหญ่ 2 กลีบ
น้ำซุปไก่ 1/4 ถ.
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำมันหอย 1 1/2 ชต.
น้ำตาลทราย 1/2 ชต.
เหล้าจีน 1/2 ชต.
น้ำมันงา 1 ชช.
พริกไทยป่น 1 ชช. โปร่งๆ
น้ำมันพืช 1 ชต.
คื่นช่าย 2 ต้น (หรือตามชอบ)

วิธีทำ :

นำ วุ้นเส้นไปลวกในน้ำร้อนแค่พอนิ่มแล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง เทใส่ชามอ่างตามด้วยซีอิ๊วดำ คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วพักไว้ก่อน จากนั้นหันไปผสมน้ำซุป ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เหล้าจีน น้ำมันงา และพริกไทยป่นรวมกันแล้วคนให้เข้ากันดีค่ะ

ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ส่วนหมูสามชั้นก็หั่นเป็นชิ้นกว้างประมาณ 2-3 ซม. ปอกเปลือกกระเทียมแล้วผ่าครึ่งหรือผ่าสี่ ลอกต้นหอมแล้วล้างให้สะอาดก่อนหั่นท่อน รากผักชีล้างแล้วทุบให้แตกค่ะ

นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่ขิง กระเทียม และต้นหอมลงไปผัดพอส่งกลิ่นหอมก็ปิดไฟ ยกลงจากเตาค่ะ จากนั้นวางหมูสามชั้นที่หั่นไว้เรียงในก้นหม้อให้ทั่ว แล้วแบ่งผักที่ผัดไว้ครึ่งหนึ่งวางบนหมูสามชั้นค่ะ
นำ กุ้งไปคลุกน้ำปรุงรสที่เราผสมไว้ ก่อนแบ่งกุ้งครึ่งหนึ่งวางเรียงบนผัก แบ่งวุ้นเส้นครึ่งหนึ่งกลบกุ้งให้ทั่วแล้วราดน้ำปรุงรสครึ่งหนึ่งบนวุ้นเส้น จากนั้นวางผักส่วนที่เหลือ ตามด้วยกุ้งและวุ้นเส้นส่วนที่เหลือ ราดน้ำปรุงรสที่เหลือทั้งหมดให้ทั่ววุ้นเส้นค่ะ

ปิด ฝาหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อนสุด อบประมาณ 15 นาที แล้วจึงใส่คื่นช่ายหั่นท่อน ปิดฝาอบต่ออีก 5 นาที หรือจนกว่าเปลือกกุ้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงซึ่งแสดงว่าสุกแล้วค่ะ ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วรับประทานร้อนๆค่ะ

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.