สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ปอเปี๊ยะสด : fresh spring roll

ปอเปี๊ยะสด เนี่ยเป็นอาหารสุดโปรดของเราเลยจ้ะ เชื่อว่ากินทุกวันก็ไม่เบื่อเลยแหละ นี่่ก็กิน 4 วันติดกันแล้วนะเนี่ย

ส่วนผสมปอเปี๊ยะสด ปริมาณกะเอาเองตามชอบนะคะ
1. ปูอัด
2. กุ้งสด
3. อกไก่
4. ผักสลัด
5. แตงกวา
6. แครอท
7. แผ่นปอเปี๊ยะเวียดนาม

หมายเหตุ สำหรับไส้ปอเปี๊ยะเนี่ย จริงๆ แล้วก็ใช้อะไรก็ได้ตามใจคนกินนะคะ ไม่จำเป็นต้องเหมือนที่เราบอกไว้ข้างบนเป๊ะๆ ถ้าใครชอบพวกกุนเชียง ไส้กรอก เต้าหู้ สะระแหน่ โหระพา ถั่วงอก ไข่เจียว เนื้อปู เส้นขนมจีนฯลฯ ก็ดัดแปลงได้ตามชอบเลยค่ะ

วิธีทำ
- ปูอัดผ่าครึ่งตามยาว
- ผักสลัดเด็ดใบแล้วล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้
- แตงกวาเอาไ่ส้ออกแล้วหั่นเป็นเส้นตามยาว
- แครอทปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นเส้นตามยาว
- กุ้งแกะเปลือกออกให้หมดแล้วนำไปลวกให้สุก หั่นเป็นชิ้นพอคำ
- อกไก่ล้างให้สะอาด หั่นเป็นเส้นๆ ไม่หนามาก แล้วนำไปลวกให้สุก

นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ ใส่เกลือ 1/2 ชช. น้ำตาลทราย 1 ชช. น้ำส้มสายชู 1 ชช. ลงไป ต้มจนเดือดใส่แครอทลงไปลวกประมาณ 1 นาที ใส่แตงกวาแล้วปิดไฟ ตักแตงกวาและแครอทขึ้นสะเด็ดน้ำทันที

เมื่อถึงเวลาห่อปอเปี๊ยะสด นำน้ำร้อนใส่ชามอ่างใบใหญ่เตรียมไว้ นำแผ่นปอเปี๊ยะเวียดนามลงผ่านน้ำร้อนประมาณ 5-10 วินาที หรือจนกว่า แผ่นปอเปี๊ยะจะนิ่ม ยกขึ้นจากอ่างน้ำร้อน สะบัดน้ำออก แล้ววางแผ่นปอเปี๊ยะบนเขียง วางผักสลัด / สะระแหน่ / ใบโหระพา ลงบนแผ่นปอเปี๊ยะ ตามด้วยแตงกวา แครอท ปูอัด กุ้ง เนื้อไก่ แล้วม้วนแผ่นปอเปี๊ยะทับไส้ 1 รอบ ตลบด้านข้างซ้าย-ขวาเข้าหากัน แล้วม้วนขึ้นไปด้านบนจนสุดแผ่นแป้งค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน โดยประมาณนะคะ
1. น้ำตาลทรายแดง 4 ชต.
2. น้ำตาลปี๊บ 4 ชต.
3. น้ำมะขามเปียก 4 ชต.
4. ซีอิ้วดำ 1 ชต.
5. ซีอิ้วขาว 1 ชต.
6. น้ำปลา 1 ชต.
7. น้ำส้มสายชู 1/2 ชต.
8. เกลือ 1/4 ชช.
9. ผงพะโล้ 1/4 ชช.
10. แป้งมัน 1 ชต.
11. น้ำสะอาด 1 ชต.

ส่วนผสมข้อ 1-9 ใส่หม้อตั้งไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นเหนียว ละลายแป้งมันกับน้ำแล้วใส่ในหม้อน้ำจิ้ม คนให้เข้ากันดี เคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 1 นาทีแล้วยกลงค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มเผ็ด
1. พริกขึ้หนู
2. กระเทียม
3. น้ำมะนาว
4. น้ำตาลทราย
5. น้ำปลา


นำ ส่วนผสมทุกอย่างปั่นรวมกันจนละเอียด ชิมรสเปี้ยว เค็ม เผ็ด หวานกลมกล่อมค่ะ หรือถ้าใครไม่มีเครื่องปั่นก็โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูให้ ละเอียดแล้วเติมน้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงไปปรุงรสตามชอบค่ะ

 
รูปบนราดน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน ส่วนรูปล่างราดน้ำจิ้มเผ็ดค่ะ เราชอบทั้งสองแบบเลย บางครั้งราดผสมกันทั้งสองอย่างก็อร่อยแปลกดีค่ะ



Read More...


แกงส้มผักรวม : sour soup with prawns and omelette

เมื่อ วันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อนเลิฟทำแกงเลียงใส่ผักตู้มๆ มาให้ อร่อยสุดๆ เลยแหละ งานนี้คุณปู้จายได้มีเอี่ยวนิดหน่อยเพราะเธอคุ้ยหาแต่ฟักทองกับเห็ดนางฟ้า เท่านั้น ผักอย่างอื่น เช่น ผักหวานเอย ซูคีนี่เอย เธอเมินฮ่ะ แกงเลียงของคุณเพื่อนเลยเสร็จโจรอุ้ย อร่อยสมกับที่กำลังอยากกินอยู่พอดี ถามว่าก็อยากกินขนาดนั้นแล้วทำไมเธอไม่ทำกินเองล่ะยะ คำตอบก็คือฮาโลวีนมันผ่านไปแล้ว หาฟักทองไม่ได้เลยเจ้าค่ะ
อ้อ.. แล้วแกงเลียงมันเกี่ยวอะไรกับแกงส้มที่ทำวันนี้ล่ะ จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวหรอกฮ่ะ เพียงแต่มันใส่ผักแยะเหมือนกัน แล้วก็ซดมันซดเพลินเหมือนกันด้วยไง เมื่อเย็นวานทำไปรอบนึงแล้วนะเนี่ย ติดใจมากมาย คุณซาลามี่ก็อร่อยด้วย แย่งเรากินอ่ะ วันนี้เลยทำเป็นมื้อเที่ยงสนองความอยากของตัวเองคนเดียวหมดเรื่องหมดราว แซ่บหลายๆ เลยค่า

เครื่องปรุงน้ำพริกแกงส้ม สำหรับรับประทาน 2 คน
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำให้นิ่ม 3 ชต.
  • เกลือป่น 1 ชช.
  • หอมแดงปอกเปลือกหั่นเต๋าเล็ก 2 ชต.
  • กระเทียมปอกเปลือกหั่นเต๋าเล็ก 1 ชช.
  • กระชายซอยบางๆ 1 1/2 ชต.
  • กะปิดี 1 ชช.
  • เนื้อปลาต้มหรือนึ่งสุก 1-2 ขีด (เนื้อปลาเนี่ยชอบข้นมากใส่มาก ชอบใสๆ ก็ใส่น้อยๆ นะคะ)
เมื่อเตรียมเครื่องแกงพร้อมแล้วก็จัดการโขลกพริกแห้งกับเกลือรวมกันให้ละเอียด แล้วจึงใส่หอมแดง กระเทียม และกระชาย ลงไปโขลกต่อจนพริกแกงมีเนื้อละเอียดดี จากนั้นจึงใส่กะปิและเนื้อปลาลงไปโขลกรวมกับเครื่องแกงให้เข้ากันค่ะ (เราใช้วิธีบดแทนค่ะ เร็วดี แง่มๆ) ได้พริกแกงส้มแล้วเนอะ
เครื่องปรุงอื่นๆ
  • น้ำสะอาด 400 มล.
  • น้ำปลา 3 ชต.
  • น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 4-5 ชต. (แล้วแต่ความเปรี้ยวของมะขามค่ะ)
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ชต.
  • กุ้งสดแกะเปลือก ผ่าหลัง ไว้หาง 4-5 ตัว
  • ผักสด เช่น ดอกกะหล่ำ บล็อกโคลี่ หัวไชท้าว แครอท ผักกะเฉด ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว เป็นต้น
  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 1 ฟอง (ถ้าชอบชะอมก็หั่นใส่ไปด้วยค่ะ คนที่บ้านเราไม่ชอบเลยซอยใบโหระพาใส่แทน)
วิธีทำ
วิธี คั้นน้ำมะขามเปียกของเราก็อย่างที่เห็นค่ะ นำมะขามเปียกใส่ถ้วย เติมน้ำอุ่นประมาณ 1/3 ถ้วยลงไป คั้นจนได้น้ำมะขามเปียกข้นๆ แบบนี้ค่ะ
จัดการ ล้างและหั่นผักสดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย จากนั้นก็หันไปตีไข่กับน้ำปลาประมาณ 1 ชช. และใบโหระพาจนฟู นำหม้อหรือกระทะใบเล็กสุดตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปประมาณ 2 ชต. พอน้ำมันร้อนก็ใส่ไข่ลงไปเจียวจนผิวด้านล่างเริ่มเกรียมกรอบ กลับด้านเจียวอีกด้านให้กรอบเหมือนกัน ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน แล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยม

จาก นั้นก็นำน้ำสะอาดใส่หม้อตั้งไฟ เมื่อน้ำเดือดพล่านก็ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไป รอให้น้ำเดือดอีกรอบจึงคนเครื่องแกงให้ละลายค่ะ เสร็จแล้วก็ใส่ผักที่แข็งๆ เช่น ดอกกะหล่ำ หัวไชเท้า แครอทลงไปก่อน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสเปรี้ยว เค็ม หวานกลมกล่อมค่ะ สุดท้ายใส่กุ้ง ผักที่เหลือ และไข่เจียวลงไป กดให้จมในน้ำแกง พอใกล้เดือดอีกรอบก็ปิดไฟ ตักเสิร์ฟร้อนๆ ค่ะ

ใครสนใจตักข้าวสวยร้อนมาแจมได้นะคะ พอดีข้าวบ้านนี้หมดคลังค่ะ ยังไม่ได้ซื้อเลย เด็กแบกกระสอบข้าวสารแถวๆ นี้ผลัดวันประกันพรุ่งมากๆ

  
 

Read More...


คั่วกลิ้งหมู : Pork with yellow curry paste


ส่วนผสมเครื่องแกงโดยประมาณ
  • พริกแห้ง 1/2 ถ้วย
  • หอมแดงหั่นหยาบ 2 หัว
  • กระเทียมหั่นหยาบ 2 กลีบใหญ่
  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น
  • ข่าหั่นหยาบ 3 แว่น
  • ขมิ้นยาวประมาณซอยละเอียด 3 ซม.
  • ผิวมะกรูดซอยละเอียด 1 ชต.
  • ใบมะกรูดหั่นละเอียด 5 ใบ
  • พริกไทยเม็ด 2 ชต.
  • เกลือป่น 1 ชช.
  • กะปิ 1 ชต.

วิธีทำเครื่องแกง


โขลกหรือบดพริกแห้งให้ละเอียดแล้วใส่ส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นกะปิลงไปโขลกรวม กันจนละเอียด สุดท้ายใส่กะปิลงไปโขลกรวมให้เข้ากัน เรียบร้อยค่ะ  (เราไม่มีครกหินใบโตๆ เลยใช้วิธีบดจนละเอียดแทนค่ะ)

เครื่องปรุงคั่วกลิ้ง
  • หมูสับ (หรือหั่นชิ้นตามชอบค่ะ) 250 กรัม
  • พริกแกงคั่วกลิ้ง 2 1/2 ชต.
  • น้ำปลา 1 - 1 1/2 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1/2 ชช.
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ใบ
  • พริกกะเหรี่ยงหั่นเฉียง 1 เม็ด
 วิธีทำ


นำกระทะตั้งไฟ พอกระทะเริ่มร้อนใส่เนื้อหมูลงไปรวนจนสุกและเริ่มมีน้ำซึมออกมา ใส่พริกแกงลงไปผัดให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ผัดให้เข้ากันจนเครื่องปรุงเข้าเนื้อ ผัดแห้งดีแล้วใส่ใบมะกรูดหั่นซอยและพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงคนให้เข้ากัน ปิดไฟ ทานคู่กับผักเคียงต่างๆ พร้อมไข่ดาวด้วย อร่อยซ๊า


Read More...


ขนมจีนน้ำยาไก่



วันนี้ ทำขนมจีนน้ำยาไก่กินเป็นมื้อเที่ยงค่ะ ขนมจีนนี้ไม่ได้ทำกินมานานพอสมควร เมื่อวันก่อนเพื่อนสาวทำขนมจีนน้ำยาไก่มาเผื่อด้วย อร่อยมาก วันนี้เลยเกิดอยากกินขึ้นมาอีกรอบ ลงมือทำจนได้ ฟาดไปซะ 2 จาน สะใจมาก กินเสร็จก็นั่งปวดท้องเพราะจุก ไม่เคยจำซะทีสิน่าว่าถ้าท้องมันบอกว่าอิ่มก็ควรจะหยุด แต่ปากกับใจมันค้านไงคะ เลยกินต่อ สุดท้ายก็ปวดท้องตามเคย 55

เครื่องปรุง  (โดยประมาณนะคะ ไม่ได้ตวง)
  • ไก่ เราใช้สะโพกติดน่อง 2 ชิ้นใหญ่ (หนักประมาณ 450 กรัมค่ะ) 
  • พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด
  • หอมแดง 4 หัว
  • ข่า 5-7 แว่น
  • กระชาย 4 แง่ง
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูด 6-7 ใบ 
  • น้ำสะอาด 800 มล.  
  • เกลือป่น 1 ชช. 
  • กะทิ 200 มล. 
  • พริกแกงเผ็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1 ชช.
  • เส้นขนมจีน 
  • ไข่ต้ม ผักตามชอบ เช่น ผักกาดดอง, ถั่วฝักยาว, ถั่วงอก, กะหล่ำปลี, โหระพา, สะระแหน่, แครอท, หัวปลี ฯลฯ
วิธีทำ
 

พริก ขี้หนูแห้งเด็ดขั้วออก หอมแดงปอกเปลือกออก กระชายและตะไคร้หั่นท่อนแล้วทุบให้แตก ใบมะกรูดล้างให้สะอาด ส่วนไก่ก็ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำ พักไว้ก่อนค่ะ



นำน้ำสะอาดใส่หม้อใบใหญ่นิดนึงขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือป่น ตามด้วยไก่ พริกแห้ง หอมแดง ข่า กระชาย ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไป ปิดฝาหม้อต้มไปเรื่อยๆ จนไก่สุกเปื่อยดีใช้เวลาต้มประมาณ 30 นาทีค่ะ

เมื่อไก่สุกดีแล้วก็ปิดไฟ ตักพริกแห้ง หอมแดง ข่า กระชาย ตะไคร้ และใบมะกรูดออกจากหม้อ สะเด็ดน้ำพักไว้ (เก็บน้ำที่ต้มไก่ไว้ด้วยนะคะ) ส่วนชิ้นไก่ก็ตักออกมาแล้วแกะเอาแต่เนื้อ หนังและกระดูกก็ทิ้งไปค่ะ โขลกพริกแห้ง หอมแดง ข่า และกระชายรวมกัน ไม่ต้องละเอียดนะคะ เอาแค่หยาบๆ ก็พอค่ะ จากนั้นก็ใส่เนื้อไก่ที่แกะไว้ลงไปคลุกๆ ให้เข้ากันค่ะ

ใส่ กะทิประมาณ 1/4 ถ้วย ลงในหม้ออีกใบ นำขึ้นตั้งไฟ เมื่อกะทิเดือดก็ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนเริ่มแห้งและแตกมัน ค่อยๆ รินกะทิที่เหลือทั้งหมดใส่ลงไปช้าๆ  เมื่อกะทิเดือดอีกครั้งก็ใส่เครื่องที่โขลกลงไปผัดรวมกันจนส่งกลิ่นหอม แล้วจึงเติมน้ำซุปที่เก็บไว้ลงไปประมาณ 500-600 มล. ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปคนให้เข้ากัน ต้มต่อไปจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบแล้วปิดไฟ เสร็จเรียบร้อยค่ะ


วันนี้ เรากินกับไข่ต้ม แตงกวา ถั่วงอก ผักกาดดอง ถั่วแขก กะหล่ำปลี โหระพา และสะระแหน่ค่ะ ผักท่วมจาน อร่อยๆ ตอนกำลังกินอยู่เราหันไปถามคนที่บ้านว่าอร่อยมั้ย เค้าบอกอร่อยมาก กินอย่างเมามันจนน้ำยากระเด็นเข้าตา จากนั้นก็งานกร่อยเลยค่ะ  นั่งกินต่อแบบฝืนๆ สงสัยจะหมดอร่อยแล้วแต่กลัวโดนเหวี่ยงเลยไม่กล้าหยุดกิน 55


 
credit : ภาพและสูตรอาหารและขนม © http://varithorn.blogspot.com

Read More...


แบร์ลีนเนอร์ สูตร 2 : Berliner


แป้ง สูตรนี้อร่อยเหลือร้ายจริงๆ ค่ะ นุ่มม๊ากมาก ทำก็ไม่ยากด้วย เราเอาพุงป่องๆ ของเราการันตีความอร่อยเลยอ่ะจ้า แค่เนื้อโดนัทอย่างเดียวไม่ต้องพึ่งน้ำตาลไม่ต้องพึ่งไอซิ่ง เมินแยม หรือช็อคโกแล็ตก็อร่อยแล้วจ้า

ส่วนผสมโดนัท สำหรับโดนัทประมาณ 15 ชิ้น
1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 400 กรัม
2. ยีสต์แห้ง 8 กรัม
3. นมอุ่น 150 มล.
4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
5. เนยนุ่มๆ 50 กรัม
6. น้ำตาลทราย 40 กรัม
7. น้ำตาลวานิลา 1 ซอง (หรือกลิ่นวานิลา 1 ชช.)
8. ผิวมะนาวขูด 1 ลูก
9. กลิ่นรัม 2-3 หยด
10. กลิ่นอัลมอนด์ 2 หยด
11. เกลือ 1/2 ชช.
12. Shortening สำหรับทอด
13. แยมสตรอว์เบอรี่ แยมเชอรี่ แยมแอพริคอท นูเทล่า พุดดิ้ง น้ำตาลไอซิ่ง

หมายเหตุ สำหรับไข่ไก่
* ขนาดเล็ก น้ำหนักชั่งรวมเปลือกประมาณ 50-55 กรัม ใช้ไข่ทั้งฟอง
* ขนาดกลาง น้ำหนักชั่งรวมเปลือกประมาณ 60-65 กรัม ไข่แดง 1 ฟอง+ไข่ทั้งฟอง
* ขนาดใหญ่ น้ำหนักชั่งรวมเปลือกประมาณ 70> กรัม ใช้แค่ไข่แดงค่ะ

วิธีทำ ถ้าใครนวดมือก็ทำตามนี้นะคะ
  • หมัก ยีสต์โดยแบ่งนมอุ่นมา 3 ชต. เทยีสต์ลงไปคนให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทราย 1/4 ชช. แล้วพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 10 นาที หรือ จนกว่ายีสต์จะ ขึ้นฟูดีค่ะ จากนั้นเทครึ่งหนึ่งของแป้งใส่อ่างผสม ทำบ่อตรงกลาง เทนมอุ่นส่วนที่เหลือลงไป ใส่น้ำตาลทราย ไข่ น้ำตาลวานิลา รัม กลิ่นอัลมอนด์ ผิวมะนาว และยีสต์ที่หมักจนขึ้นฟูแล้ว ใช้เครื่องตีมือถือหัวเกลียวตีส่วนผสมให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำ 2 นาที (หรือจะใช้พายไม้คนๆ ส่วนผสมให้ เข้ากันแทนก็ได้ค่ะ) แล้วคลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นประมาณ 15 นาที ให้ยีสต์ทำงานค่ะ 
  • ใส่เนยและเกลือลงไปใน อ่างแป้ง นวดจนแป้งเนียนมือดี และแป้งหลุดจากขอบอ่างได้ง่าย แล้วทำเป็นก้อนกลม คลุมผ้าพักไว้ในที่อุ่นอีก ประมาณ 30 นาทีจนแป้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตรงนี้ขึ้นอยู่กับอากาศด้วยค่ะ ถ้าหน้าหนาวยังไงก็เอาอ่างแป้งไปวางไว้บนฮีตเตอร์ หรือหาชามอ่างที่มีขนาดเล็ก กว่าอ่างแป้งหน่อย ใส่น้ำอุ่นเกือบร้อนลงไป แล้วนำอ่างแป้งวางบนอ่างน้ำอุ่น ทำแบบนี้แป้งจะได้ขึ้นเร็วๆ ได้กินเร็วๆ ไม่ต้องรอ

ขั้น ตอนพวกนี้สำหรับเพื่อนๆ ที่นวดแป้งด้วยมือนะคะ หากใครใช้เครื่องนวดให้เหมือนเราก็ไม่ต้องยุ่งยากทำขั้นตอนพวกนี้เลยค่ะ แค่ใส่ทุกอย่างใน เครื่องแล้วก็ใช้โปรแกรมนวดตามปกตินะคะ ปกติเวลาที่ทำขนมปังทั่วไปเครื่องจะใช้เวลานวดรวมถึงพักแป้งรอบแรก 20 นาทีค่ะ แต่ถ้าทำโดนัท เนี่ยเราไม่จำเป็นต้องนวดนานขนาดนั้นค่ะ แค่ไม่เกิน 15 นาที พอแป้งเนียนดีก็ใช้ได้แล้วค่ะ


พอ แป้งเนียนดีแล้วเราก็ดึงเอาขาที่นวดออก แล้วทำแป้งเป็นก้อนกลม (จริงๆ แล้วไม่ต้องก็ได้ค่ะ แต่เราทำแบบนี้เพราะตอนแป้งขึ้นแล้วมันจะติด ขานวดเลอะเทอะเกรอะกรังน่ะค่ะ) พักไว้ในเครื่องอีกประมาณ 30 นาทีจนแป้งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด


เนี่ยค่ะ รูปนี้แหละ แป้งมันพองๆ ขึ้นมาแบบนี้ก็ใช้ได้แล้วจ้า

จาก นั้นก็จัดการโรยแป้งนวลบางๆ ที่โต๊ะก่อนนำแป้งมาคลึง ถ้าใครมีที่ตัดโดนัทก็สบายไป แต่หากใครไม่มีก็ใช้อาวุธแบบที่เราใช้ก็ได้ค่ะ ปกติจะ ใช้แก้วตัด แต่วันนี้อยากได้ขนาดใหญ่เต็มปากเต็มคำ เลยใช้กระป๋องตัดฝาออกให้เรียบแทนแก้วค่ะ กระป๋องนี้เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 9-10 ซม. ได้โดนัทมา 13 ชิ้นค่ะ ถ้าใครอยากได้ขนาดมาตรฐานก็ใช้แก้วหรือกระป๋องเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ซม. ตัดนะคะ แล้วจะได้โดนัทมาประมาณ 15 ชิ้นค่ะ


เตรียม ของเสร็จแล้วก็นำแป้งมาคลึงให้หนาประมาณ 1 ซม. ค่ะ เราแบ่งแป้งเป็น 2 ก้อน ก้อนแรกนำมาคลึง อีกก้อนก็พักไว้ในเครื่องก่อนค่ะ คลึง เสร็จแล้วก็ใช้กระป๋องตัดค่ะ อันนี้เป็นแบบกลมๆ มีไส้แต่ไม่มีรู


ส่วนนี่เป็นแบบมีรูไม่มีไส้ ก็ใช้ฝาขวดตัดแป้งตรงกลางอีกทีจ้า

ตัด เสร็จแล้วก็นำไปวางบนผ้าสะอาดที่โรยแป้งบาง ๆ ไว้จนทั่ว แล้วคลุมพลาสติกใสกันลมและใช้ผ้าอีกผืนปูทับไว้ด้วยค่ะ พักแป้งหลังจากตัดแต่ละชิ้นไม่เกิน 30 นาทีนะคะ ไม่ต้องพักจนขึ้นสองเท่าเหมือนขนมปัง

เนี่ยค่ะ แป้งขึ้นได้ที่แล้วจะมีลักษณะฟูขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย ผิวของแป้งจะเรียบตึงอ่อนใสเหมือนใช้ลังโคม ปานนั้นเลยค่ะ หากพักแป้งนานเกินไปพอนำไปทอดโดนัท จะฟูมากๆ จริงๆ แต่ข้างในจะโปร่งมาก กินได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก ไม่ค่อยอร่อยเท่าที่ควรค่ะ 55 เมื่อแป้งพร้อมแล้วคราวนี้เราก็จัดการนำเนยขาวมาละลายเตรียมตัวลุ้นระทึกกับการทอดได้แล้วค่ะ


พอ เนยละลายหมดแล้วก็เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อนนะคะ รอจนน้ำมันร้อนได้ที่ก็นำเจ้าลูกเล็กๆ เศษของแป้งส่วนที่เหลือนำไปทอดทดสอบน้ำมันดูค่ะ ถ้านำแป้งลงทอดแล้วน้ำมันฟู่รอบๆ แป้ง ผิวโดนัทไม่เข้มเร็วจนเกินไปแสดงว่าใช้ได้ค่ะ เวลาที่ใช้ทอดโดนัทในแต่ละด้านประมาณ 1 นาที นะคะ ถ้าใช้ไฟอ่อนเกินไปโดนัทก็จะอมน้ำมัน ถ้าไฟแรงเกินข้างนอกจะไหม้แต่ข้างในจะไม่สุกค่ะ


ทอด เจ้าตัวเล็กเสร็จแล้วลองบิดูเนื้อโดนัทด้วยนะคะว่าสุกทั่วถึงดีหรือเปล่า ถ้าข้างในยังไม่สุกก็แสดงว่าไฟแรงเกินไปค่ะ แต่ถ้าได้ออกมาแบบนี้ก็แสดงว่าความร้อนได้ที่ดีแล้วจ้า
หมด เวลาซ้อมใหญ่แล้วก็ได้เวลาลงสนามจริงค่ะ หยิบโดนัทมาแล้วนำด้านบนลงทอดก่อนนะคะ ตอนนำโดนัทลงทอด 5 วินาทีแรกก็ใช้ตะเกียบวนๆ รูตรงกลางโดนัทเพื่อไม่เป็นวงกลมสวยและกันไม่ให้แป้งขึ้นฟูติดกันค่ะ


ขณะ ที่ทอดโดนัทด้านแรกก็ปิดฝาหม้อไว้ด้วยค่ะ ทำอย่างนี้เพื่อให้แป้งขึ้นฟูจะได้เกิดวงสีแหวนสีขาวๆ รอบๆ โดนัท ขนมของเราจะได้ออกมาสวยงามน่ากินเหมือนที่ควรจะเป็นค่ะ


ทอด ด้านแรกไปเกือบๆ หนึ่งนาทีก็เปิดฝาสังเกตการณ์หน่อยนะคะ เมื่อเห็นว่าแป้งด้านล่างมีสีน้ำตาลอ่อนแล้วก็จัดการใช้ส้อมสองคัน ช่วยในการกลับโดนัทค่ะ ถึงตอนนี้เราก็เปิดฝาทอดนะคะ ทอดไปอีกประมาณ 1 นาที เช่นกันกับด้านบนค่ะ



เมื่อ ทอดเสร็จแล้วก็วางโดนัทบนตะแกรง เตรียมตัวปะแป้งแต่งหน้ากันค่ะ ไหน ๆ ก็ใช้แป้งแบร์ลีนเนอร์ทำแล้วก็ต้องแต่งหน้าแบบต้นตำหรับนิดนึงค่ะ ทอดเสร็จปุ๊บคลุกน้ำตาลทรายปั๊บ บีบไส้โช๊ะตามชอบเข้าไป แล้วโรยไอซิ่งทับซะหน่อย อร่อยซ้า


ส่วนนี่ใส่ไส้วานิลาพุดดิ้ง แล้วโรยไอซิ่งนิดหน่อยเพื่อความสวยงาม ไส้นี้เป็นของโปรดของหลายๆ คนแถวนี้รวมทั้งเราด้วยค่ะ

สูตรไส้วานิลาพุดดิ้ง
1. ไข่แดงขนาดใหญ่ 2 ฟอง
2. น้ำตาล 40 กรัม
3. แป้งข้าวโพด 2 ชต.
4. นมผง 15 กรัม
5. นมสด 125 มล.
6. เนยสด 20 กรัม
7. วานิลาเอกซ์แทร็ค 1/2 ชช.

ตี ไข่กับน้ำตาลรวมกันแล้วจึงใส่แป้งข้าวโพดและนมผงคนให้ละลาย ค่อยๆ เทนมจืดลงไปคนให้เข้ากัน กรอง 1 ครั้ง แล้วนำไปตุ๋นไฟอ่อนคนตลอดเวลาจนสุกข้นเนียนดีค่ะ จากนั้นยกลงจากเตา ใส่เนยลงไปคนจนเนยและวานิลาลงไปคนจนเนยละลายหมด ใช้พลาสติกใสคลุมหน้าไว้แล้วพักให้เย็นรอใส่ไส้ค่ะ


ลูก นี้เป็นแบร์ลีนเนอร์แบบกลายพันธุ์ค่ะ นอกจากจะราดไอซิ่ง ช็อคโกแล็ตและแต่งด้วยเชอรี่เชื่อมแล้ว ยังหยอดไส้แยมเชอรี่เข้าไปอีกดอก อร่อย ไม่มีวันหยุดเด้อค่า



หรือใครจะแค่คลุกน้ำตาล โรยไอซิ่ง เคลือบช็อคโกแล็ต เคลือบไอซิ่งละลาย หรือตกแต่งหน้าโดนัทยังไงก็สุดแต่ใจชอบนะคะ

ทำเสร็จแล้วก็ได้เวลาเพิ่มห่วงยางให้กับรอบเอว กัดโช๊ะเข้าให้ อือม์... หลับตาพริ้ม...ไม่อยากจะเซดดดดด (เพราะปากไม่ว่าง 55) หากใครลองทำก็ ขอให้ออกมาสวย ๆ อร่อย ๆ ถูกอกถูกใจกันทุกคนค่ะ 

Read More...


ชิฟฟอน 3 รส : chiffon cake



วันนี้ทำขนมเพื่อระลึกถึงยายค่ะ ยายเราชอบกินชิฟฟอนมาก ๆ เมื่อก่อนสมัยที่เราอยู่เมืองไทยยังทำขนมอะไรไม่เป็นสักอย่าง เวลาไปเยี่ยมยายเมื่อไรเป็นต้องซื้อชิฟฟอนไปฝากเยอะๆ ตอนนี้ยายไม่อยู่ซะแล้ว หากเราอยู่เมืองไทยคงอบชิฟฟอนแล้วเอาไปใส่บาตรให้ยาย แต่ตอนนี้อยู่ไกลวัดก็เลยไม่มีโอกาสได้ทำอย่างที่หวังค่ะ

ส่วนผสมบัตเตอร์ครีม
  • เนยสด 130 กรัม
  • เนยขาว 100 กรัม
  • น้ำตาลทราย 80 กรัม
  • เกลือ 1/4 ชช.
  • นมสด 40 มล.
  • วานิลาเอ๊กซ์แทรค 1/2 ชช.
วิธีทำ


ใส่น้ำตาลทราย เกลือ และนมในหม้อใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟอ่อน คนจนน้ำตาลละลายหมด ปล่อยให้เดือดประมาณ 1 นาที จนกลายเป็นน้ำเชื่อมเหนียวดี ปิดไฟพักไว้ให้เย็นค่ะ ระหว่างนั้นก็จัดการตีเนยขาว ด้วยความเร็วปานกลางพอเนียน ใส่เนยสดลงไปตีรวมกันจนมีสีขาวนวล อย่าลืมปาดขอบอ่างด้วยนะคะ จากนั้นก็ค่อยๆ เทน้ำเชื่อมใส่ลงไปที่ละน้อย ตีต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำเชื่อมหมด ครีมมีลักษณะฟูเบาเนื้อเนียนมากๆ สุดท้ายใส่วานิลาตีด้วยความเร็วต่ำพอเข้ากันก็ได้บัตเตอร์ครีมแล้วค่ะ

 ชิฟฟอนใบเตย สำหรับถาดอบขนาด 7"x10"
ส่วนไข่แดง
  • แป้งเค้ก 60 กรัม
  • นมผง 1 ชต.
  • ผงฟู 1 ชช.
  • น้ำตาลทราย(1) 45 กรัม
  • เกลือ 1/4 ชช.
  • ไข่แดง 2 ฟอง
  • น้ำใบเตย 40 กรัม
  • นมสด 20 กรัม
  • น้ำมันพืช 40 กรัม
ส่วนไข่ขาว
  • ไข่ขาว 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย(2) 20 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 ชช.
อุปกรณ์อื่นๆ
  • กระดาษไขสำหรับปูถาดอบ
  • กระดาษสำหรับห่อเค้ก
วิธีทำ  ถาดที่่ใช้อบปูกระดาษไขรองไว้ เสร็จแล้วก็อุ่นเตาอบไว้ที่ 190C ด้วยนะคะ 


ร่อน แป้ง นมผง และผงฟูรวมกัน 2 ครั้งใส่อ่างผสม เทน้ำตาลทราย(1) และเกลือลงไปคนให้เข้ากัน ทำบ่อตรงกลาง แป้งไว้ด้วยค่ะ จากนั้นหันไปตีไข่ขาวกับน้ำมะนาวด้วยความเร็วต่ำให้ฟู แล้วเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุด ค่อยๆ ใส่น้ำตาล(2) ทีละน้อย ตีจนน้ำตาลหมด ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนเกือบแข็งและไข่มีฟองที่ละเอียดมาก เราตีแค่ประมาณ 1 นาทีก็ได้ที่แล้วค่ะ

ใส่ ไข่แดง น้ำใบเตย นมสด และน้ำมันพืชลงในบ่อแป้ง ใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ ให้แป้งเข้ากับส่วนผสมอื่นๆ (คนแค่แป๊บเดียวนะคะ ถ้าคนนานแป้งจะเหนียวและเกาะกันเป็นปื้นค่ะ) เแล้วนำไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอดแล้วมาผสมกับส่วนไข่แดง โดยแบ่งใส่สองครั้ง ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ เสร็จแล้วเทใส่ถาดอบ เกลี่ยให้เรียบเสมอกันแล้วเคาะถาดเบาๆ 2 ครั้ง เพื่อไล่อากาศค่ะ


นำเข้าเตาอบโดยวางไว้ชั้นที่ สองจากล่าง อบไฟบน-ล่างประมาณ 10 นาทีค่ะ ทดสอบเค้กโดยใช้นิ้วแตะผิวเค้กเบาๆ ถ้าเค้กสปริงตัวไม่ทิ้งรอยไว้ก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ หรือใครจะใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มตรงกลางเค้ก หากไม่มีแป้งติดมาก็โอเคค่ะ


เมื่อเค้กสุกนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นตัวลงประมาณ 5 นาที แล้วปูพลาสติกใสที่โต๊ะ คว่ำเค้กบนพลาสติกแล้วแกะกระดาษไขทิ้งไป รอให้เค้กเย็นอุณหภูมิห้องจึงใช้มีดคมๆ ตัดขอบรอบๆ เพื่อให้เค้กเรียบสวยเสมอกัน แล้วตัดแบ่งครึ่ง ปาดบัตเตอร์ครีมบนเค้กหนึ่งแผ่นแล้วนำแผ่นที่เหลือมาประกบ ตัดแบ่งเค้กเป็นชิ้นๆ 3 เหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมตามต้องการ สุดท้ายก็ใช้พลาสติกหรือกระดาษสำหรับห่อชิฟฟอนห่อเค้กให้รอบค่ะ




ชิฟฟอนวานิลา สำหรับถาดอบขนาด 7"x10"
ส่วนไข่แดง
  • แป้งเค้ก 60 กรัม
  • นมผง 1 ชต.
  • ผงฟู 1 ชช.
  • น้ำตาลทราย(1) 40 กรัม
  • เกลือ 1/4 ชช.
  • ไข่แดงขนาดใหญ่ 2 ฟอง
  • นมสด 45 กรัม
  • น้ำมันพืช 35 กรัม
  • วานิลาเอ็กซ์แทรค 1/2 ชช.
ส่วนไข่ขาว
  • ไข่ขาวขนาดใหญ่ 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย(2) 20 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 ชช.
อุปกรณ์อื่นๆ
  • กระดาษไขสำหรับปูถาดอบ
  • กระดาษสำหรับห่อเค้ก
วิธีทำ ถาดที่่ใช้อบปูกระดาษไขรองไว้ เสร็จแล้วก็อุ่นเตาอบไว้ที่ 190C ด้วยนะคะ 

ร่อนแป้ง นมผง และผงฟูรวมกัน 2 ครั้งใส่อ่างผสม เทน้ำตาลทราย(1) และเกลือลงไปคนให้เข้ากัน ทำบ่อตรงกลาง แป้ง จากนั้นหันตีไข่ขาวกับน้ำมะนาวด้วยความเร็วต่ำให้ฟู แล้วเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุด ค่อยๆ ใส่น้ำตาล(1) ทีละน้อย ตีจนน้ำตาลหมด ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนเกือบแข็งและไข่มีฟองที่ละเอียดมาก เราตีแค่ประมาณ 1 นาทีก็ได้ที่แล้วค่ะ

ใส่ ไข่แดง นมสด น้ำมันพืชและวานิลาลงในบ่อแป้ง ใช้ตะกร้อมือคนเร็วๆ ให้แป้งเข้ากับส่วนผสมอื่นๆ แล้วพักไว้ (คนแค่แป๊บเดียวนะคะ ถ้าคนนานแป้งจะเหนียวและเกาะกันเป็นปื้นค่ะ) เสร็จแล้วนำไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอดแล้วมาผสมกับส่วนไข่แดง โดยแบ่งใส่สองครั้ง ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ เสร็จแล้วเทใส่ถาดอบ เกลี่ยให้เรียบเสมอกันแล้วเคาะถาดเบาๆ 2 ครั้ง เพื่อไล่อากาศ 

นำเข้าเตาอบโดยวางไว้ชั้นที่ สองจากล่าง อบไฟบน-ล่างประมาณ 10 นาทีค่ะ ทดสอบเค้กโดยใช้นิ้วแตะผิวเค้กเบาๆ ถ้าเค้กสปริงตัวไม่ทิ้งรอยไว้ก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ หรือใครจะใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มตรงกลางเค้ก หากไม่มีแป้งติดมาก็โอเคค่ะ

เมื่อ เค้กสุกนำออกจากเตา พักไว้ให้อุ่นประมาณ 5 นาที แล้วปูพลาสติกใสที่โต๊ะ คว่ำเค้กบนพลาสติกแล้วแกะกระดาษไขทิ้งไป รอให้เค้กเย็นอุณหภูมิห้องจึงใช้มีดคมๆ ตัดแบ่งครึ่ง ปาดบัตเตอร์ครีมบนเค้กหนึ่งแผ่นแล้วนำแผ่นที่เหลือมาประกบ ตัดแบ่งเค้กเป็นชิ้นๆ 3 เหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมตามต้องการค่ะ สุดท้ายก็ใช้กระดาษหรือพลาสติกมาห่อเค้กให้รอบค่ะ


ชิฟฟอนมอคค่า สำหรับถาดอบขนาด 7"x10"
ส่วนไข่แดง
  • แป้งเค้ก 60 กรัม
  • ผงโกโก้ 2 ชช.
  • นมผง 1 ชต.
  • ผงฟู 1 ชช.
  • น้ำตาลทราย(1) 45 กรัม
  • เกลือ 1/4 ชช.
  • นมสด 45 กรัม
  • ผงกาแฟสำเร็จรูป 1 ชต.
  • ไข่แดงขนาดใหญ่ 2 ฟอง
  • น้ำมันพืช 35 กรัม
ส่วนไข่ขาว
  • ไข่ขาวขนาดใหญ่ 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย(2) 20 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 ชช.
อุปกรณ์อื่นๆ
  • กระดาษไขสำหรับปูถาดอบ
  • กระดาษสำหรับห่อเค้ก
วิธีทำ ถาดที่่ใช้อบปูกระดาษไขรองไว้ เสร็จแล้วก็อุ่นเตาอบไว้ที่ 190C ด้วยนะคะ 

ร่อนแป้ง ผงโกโก้ นมผง และผงฟูรวมกัน 2 ครั้งใส่อ่างผสม เทน้ำตาลทราย (1) และเกลือลงไปคนให้เข้ากัน ทำบ่อตรงกลาง หัน ตีไข่ขาวกับน้ำมะนาวด้วยความเร็วต่ำให้ฟู แล้วเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุด ค่อยๆ ใส่น้ำตาล(2)ทีละน้อย ตีจนน้ำตาลหมด ไข่ขาวตั้งยอดอ่อนเกือบแข็งและไข่มีฟองที่ละเอียดมาก เราตีแค่ประมาณ 1 นาทีก็ได้ที่แล้วค่ะ

ละลายผงกาแฟในนมสดแล้วเทใส่บ่อแป้ง ตามด้วยไข่ แดง และน้ำมันพืช ใช้ตะกร้อมือคนเร็ว ๆ ให้แป้งเข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ แล้วพักไว้ (คนแค่แป๊บเดียวนะคะ ไม่เกิน 5 วินาที ถ้าคนนานเค้กจะเหนียวเกาะกันเป็นปื้นค่ะ) นำ ไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอดแล้วมาผสมกับส่วนไข่แดง โดยแบ่งใส่สองครั้ง ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างเบามือ เสร็จแล้วเทใส่ถาดอบ เกลี่ยให้เรียบเสมอกันแล้วเคาะถาดเบาๆ 2 ครั้งเพื่อไล่อากาศ 

นำเข้าเตาอบโดยวางไว้ชั้นที่ สองจากล่าง อบไฟบน-ล่างประมาณ 10 นาทีค่ะ ทดสอบเค้กโดยใช้นิ้วแตะผิวเค้กเบาๆ ถ้าเค้กสปริงตัวไม่ทิ้งรอยไว้ก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ หรือใครจะใช้ไม้จิ้มฟันทิ่มตรงกลางเค้ก หากไม่มีแป้งติดมาก็โอเคค่ะ

เมื่อ เค้กสุกนำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นตัวลงประมาณ 5 นาที แล้วปูพลาสติกใสที่โต๊ะ คว่ำเค้กบนพลาสติกแล้วแกะกระดาษไขทิ้งไป รอให้เค้กเย็นอุณหภูมิห้องจึงใช้มีดคมๆ ตัดแบ่งครึ่ง ปาดบัตเตอร์ครีมบนเค้กหนึ่งแผ่นแล้วนำแผ่นที่เหลือมาประกบ ตัดแบ่งเค้กเป็นชิ้นๆ 3 เหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยมตามต้องการ สุดท้ายก็ใช้กระดาษห่อเค้กให้รอบค่ะ

ส่วนผสมบัตเตอร์ครีมกาแฟ
  • เนยสดเค็ม 80 กรัม
  • น้ำตาลทราย 30 กรัม
  • นมสด 20 กรัม
  • ผงกาแฟสำเร็จรูป 2 ชช.
วิธีทำ

ใส่ น้ำตาลทราย นมสด และกาแฟในหม้อใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟกลาง คนจนน้ำตาลละลายหมด ปล่อยให้เดือดประมาณ 1 นาทีจนน้ำเชื่อมเหนียวดี ปิดไฟพักไว้ให้เย็นค่ะ ระหว่างนั้นก็จัดการตีเนยสดด้วยความเร็วปานกลางจนเนยฟูและมีสีขาวนวล อย่าลืมปาดขอบอ่างด้วยนะคะ จากนั้นก็ค่อยๆ เทน้ำเชื่อมกาแฟใส่ลงไปที่ละน้อย ตีต่อไปเรื่อยๆ จนน้ำเชื่อมหมด ครีมมีลักษณะฟูเบาเนื้อเนียนมากๆ ได้บัตเตอร์ครีมกาแฟแบบง่ายๆ แล้วค่ะ

credit : ภาพและสูตรอาหารและขนม © http://varithorn.blogspot.com

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.