สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

การทำ กระทงทอง โดยคุณ satineesh

กระทงทองเป็นอาหารว่าง ที่มีคุณค่าทางอาหารครบทั้ง5หมู่ แป้ง ผัก นมเนย ถั่ว เนื้อสัตว์ มีรสอร่อยทำทานเองเป็นของว่างดูแปลกตาสำหรับ ชาวต่างชาติ ถือเป็นขนมไทยๆ ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึง เสมอๆ เมนูนี้เป็นของว่าง 1 ใน3 ที่ดาวจ๋า ทำเพื่อส่งเข้าประกวด ตอนที่ทำขนมส่งประกวดนั้นไม่มีเครื่องตีไข่ เลยต้องหาขนมที่หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์นั้นๆ ได้ออกมาเป็นเมนู กระทงทอง นี้ค่ะ
ส่วนประกอบ (ตัวกระทง)
1. แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ .+ 1 ชต.
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ .+ 1 ชต.
3. ไข่แดง 1 ฟอง
4. น้ำปูนใส 1 ถ
5. หัวกะทิ 4 ชต.
6. เกลือ 1/2 ชช.

ก่อนอื่นต้องมีน้ำปูนใส  วิธีทำ น้ำปูนใส  นำปูนแดงที่ทานกับหมากพลู 1 ชต. ใส่โหลแก้ว แล้วเติมน้ำเปล่าลงไปประมาณ 4 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ทั้งคืนหรือนานกว่านั้น ปล่อยให้ปูนตกตะกอน เราใช้แต่น้ำใสๆขาวๆค่ะ

แล้วก็ต้องมีอาวุธที่ใช้ทอดกระทงทองค่ะ  ดาวจ๋าซื้อมาแบบที่มีพิมพ์เดียว เพราะกลัวจะทอดไม่ทัน ใครที่มีคนช่วย จะซื้อแบบ 2 พิมพ์ หรือ 4 พิมพ์ก็ได้ค่ะ ..(ทอดเสร็จเร็วดีค่ะ  คริคริ)

รูปวัตถุดิบ ส่วนผสมตัวแป้ง

นำแป้งทั้งสองอย่างมาผสมกันแล้วร่อนเติมเกลือ

ใส่ไข่แดงลงไป

คนให้เข้ากันแล้วเทน้ำกะทิลงไป

จากนั้นเมน้ำปูนใส่ตามลงไปอีก

คนจะแป้งละลายจนหมด  ส่วนผสมเป็นแบบนี้

กรองอีกครั้ง

มาทอดกระทงกันแล้วว  ตอนทอด ให้ใส่น้ำมันลงไปในหม้อ ใช้หม้อก้นลึกค่ะ

ก่อนทอดให้ใส่พิมพ์ลงไปแช่ในน้ำมันให้ร้อนจัด ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อนในการทอด (ถ้าไฟแรงไปจะไหม้และผิวกระทงทองจะขรุขระมากค่ะ)

เมื่อพิมพ์ร้อนได้ที่แล้ว ให้ยกพิมพ์ออกมาซับกับกระดาษ  และค่อยจุ่มแป้งให้พอดีกับขอบๆพิมพ์เท่านั้น

จุ่มพิมพ์ที่มีแป้ง ลงในน้ำมันที่ร้อน  อย่าจุ่มให้มิดในตอนแรกนะคะ เพราะก้นกระทงทองจะทะลุ ต้องค่อยๆจุ่มลงไประดับขอบพิมพ์ก่อน และ นับไปห้าวินาที

เมื่อแป้งเป็นตัวแล้ว  ค่อยๆจุ่มพิมพ์ทั้งหมดลงไปถึงก้นหม้อ เพื่อให้ก้นกระทงทองเรียบ เวลาตั้งกระทงใส่ใส้ จะได้ไม่ล้มค่ะ กดลงไปถึงก้นหม้อแล้ว จะได้ลักษณะนี้ค่ะ

**สูตรนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้ช่วยแซะนะ  เพียงเขย่าๆพิมพ์เล็กน้อย กระทงทองก็จะหลุดออกจากพิมพ์** ทอดต่อให้ออกเป็นสีเหลืองทองสักนิดค่ะ

ตัวกระทงที่เสร็จแล้ว

ส่วนผสมไส้ (ไก่ไวท์ซอส)
1. เนื้อไก่หั่นชิ้นเล็กๆสัก  2 ถ้วย
2. หอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
3. เมล็ดถั่วลันเตาลวกสุก 1 ถ้วย
4. แครอทหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าลวกสุก 1 ถ้วย
5. เนยสด 5 ชต.
6. แป้งสาลี 4-5 ชต.
7. นมสด 1 + 1/4 ถ.
8. เกลือป่น 1 ชช.
9. พริกไทยป่น 1 ชช.
10. น้ำตาลทราย 1 ชต.
11. ซอสแม้กกี้ 1 ชต.

น้ำแครอทที่หั่นแล้วไปลวกในน้ำเกลือก่อน สุกแล้วแช่น้ำเย็นพักไว้ สีจะสวย

เตรียมซอสขาวกันต่อ การทำซอสขาวแบบง่ายๆกันค่ะ  >>  นำแป้งสาลีไปละลายกับนมสด

เนยละลายในกะทะร้อน

ผัดหอมใหญ่ จนใสมีกลิ่นหอม

ใส่ไก่ลงไป

ปรุงรส ด้วยซ๊อสปรุงรส น้ำตาล เกลือ พริกไทยตามชอบ จากนั้นเท แป้งที่ผัดกับนม ลงไป

เติมส่วนผสมทั้งหมด แล้วผัดให้เข้ากัน ชิมครั้งสุดท้ายแล้วปรุงตามชอบ เสร็จ

จัดใส่กระทงตามชอบ แล้วโรยด้วยพริกชี้ฟ้าหั่นยาว และผักชี แบบในภาพ พร้อมเสริฟ

มาทานกระทงทองกันค่ะ ..  เมนูนี้ไม่ยากเกินความสามารถของเพื่อนๆแน่นอน มีความสุขกับวันดีดี ทุกๆท่านค่ะ

ขอบคุณ บทความและภาพจาก คุณ satineesh ที่
http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D9351694/D9351694.html
แวะชมปล๊อคของเธอได้ที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nudao
credit : http://9leang.com/?p=5728

Read More...


ปาท่องโก๋ทำเองได้ง่ายๆ โดย ซูชิ




ปาท่องโก๋ ทำเอง
ปาท่องโก๋ ใครไม่รู้ว่าจะทำเองได้ ง่ายๆค่ะ แถมหาทำชำนาญแล้ว ทำให้เรามีรายได้งาม อย่างน่าสนใจ ที่เดียว เอาูสูตรไปทำกันดู ทำมาแล้วหลายสูตร สูตรนี้อร่อยมากค่ะ ใช้ได้เลย


สูตร การทำปาท่องโก๋คู่ กรอบ,นุ่ม
ส่วนผสมที่ต้องใช้
1.แป้งสาลี อเนกประสงค์(ตราฮกแดง) 1/2 ก.ก.
2.น้ำสะอาด (3+1/2 ขีด) หรือ 350 กรัม
3.เกลือป่น 1 ช.ต.
4.น้ำตาลทราย 1 ช.ต.
5.แอมโมเนียไบคาร์บอเนทล์ 2 ช.ช.
6.โซดา ไบคาร์บอเนทล์(โซดาเย็น) 1/4 ช.ช.
7.ผงฟู (สูตรดับเบิ้ลฯ) 1 ช.ช.
8.ยีสต์แห้งฯ 1/4 ช.ช.
9.น้ำมันพืชฯ 1 ช.ต.
(สูตรหมักแป้ง 2-3 ชั่วโมง จึงนำมาทอดได้ครับ )
วิธีการทำ
1.เตรียม แป้งสาลี 1/2 ก.ก. + ผสมเข้ากันกับ( โซดา,+ผงฟู,+ยีสต์แห้ง) เข้าด้วยกัน พักใว้
2. ส่วนน้ำ,ใส่ส่วนผสม+เกลื่อป่น+แอมโมเนียฯ+น้ำตาลทราย+น้ำมันพืช ผสมให้เข้ากันคนจนละลาย
3.(ให้นำส่วนของแป้ง,และ ส่วนของน้ำที่เตรียมใว้ นำมาผสมให้เข้ากัน )โดยการคลุกเดล้า หรือการนวดเบาๆ
(ห้ามนวดแป้งแรงเกินไป หรือการขยำแป้งจนออกตามร่องมือ )
ให้ ใช้การผสมแค่พอแป้งกับน้ำเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อแป้งยิ่งหยาบ ยิ่งดีครับ แล้วหมักแป้งทิ้งใว้ 2-3 ชั่วโมง
(นำมาทอดได้ตามขั้นตอน…ให้เราเรียนแบบทำตามที่เราได้เห็นตามร้านขาย ปาท่องโก๋ทั่วๆไป ทำขายกันอยู่
(ทำง่ายๆครับ) หรือ เราจะทอดเป็น รูปร่างอะไรก็ได้ครับ
(ส่วนน้ำมัน ที่เราใช้ทอด ให้ใช้เป็นน้ำมันปามล์ทั่วไป เพราะจะทนความร้อนได้ดีกว่า )
แต่ถ้าจะให้ปาท่องโก๋ออกมาเหลืองสวยโดยทั่วไป ให้เรานำเอาน้ำมันที่ใช้แล้ว มาผสมลงไปด้วย จะทำให้
ปาท่องโก๋เหลืองสวยมากยิ่งขึ้น
สูตร การทำปาท่องโก๋คู่ กรอบ,นุ่ม
ส่วนผสมที่ต้องใช้1.แป้งสาลี อเนกประสงค์(ตราฮกแดง) 1/2 ก.ก.2.น้ำสะอาด (3+1/2 ขีด) หรือ 350 กรัม3.เกลือป่น 1 ช.ต.4.น้ำตาลทราย 1 ช.ต.5.แอมโมเนียไบคาร์บอเนทล์ 2 ช.ช.6.โซดา ไบคาร์บอเนทล์(โซดาเย็น) 1/4 ช.ช.7.ผงฟู (สูตรดับเบิ้ลฯ) 1 ช.ช.8.ยีสต์แห้งฯ 1/4 ช.ช.9.น้ำมันพืชฯ 1 ช.ต.(สูตรหมักแป้ง 2-3 ชั่วโมง จึงนำมาทอดได้ครับ )
วิธีการทำ1.เตรียม แป้งสาลี 1/2 ก.ก. + ผสมเข้ากันกับ( โซดา,+ผงฟู,+ยีสต์แห้ง) เข้าด้วยกัน พักใว้2. ส่วนน้ำ,ใส่ส่วนผสม+เกลื่อป่น+แอมโมเนียฯ+น้ำตาลทราย+น้ำมันพืช ผสมให้เข้ากันคนจนละลาย3.(ให้นำส่วนของแป้ง,และ ส่วนของน้ำที่เตรียมใว้ นำมาผสมให้เข้ากัน )โดยการคลุกเดล้า หรือการนวดเบาๆ(ห้ามนวดแป้งแรงเกินไป หรือการขยำแป้งจนออกตามร่องมือ )ให้ ใช้การผสมแค่พอแป้งกับน้ำเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อแป้งยิ่งหยาบ ยิ่งดีครับ แล้วหมักแป้งทิ้งใว้ 2-3 ชั่วโมง(นำมาทอดได้ตามขั้นตอน…ให้เราเรียนแบบทำตามที่เราได้เห็นตามร้านขาย ปาท่องโก๋ทั่วๆไป ทำขายกันอยู่(ทำง่ายๆครับ) หรือ เราจะทอดเป็น รูปร่างอะไรก็ได้ครับ(ส่วนน้ำมัน ที่เราใช้ทอด ให้ใช้เป็นน้ำมันปามล์ทั่วไป เพราะจะทนความร้อนได้ดีกว่า )แต่ถ้าจะให้ปาท่องโก๋ออกมาเหลืองสวยโดยทั่วไป ให้เรานำเอาน้ำมันที่ใช้แล้ว มาผสมลงไปด้วย จะทำให้ปาท่องโก๋เหลืองสวยมากยิ่งขึ้น



ละลายผงฟู แอมโมเนีย น้ำตาล เกลือ ในน้ำตามสูตร คนให้ละลาย แล้วเทลงในแป้งที่ชั่งเตรียมไว้ใช้พายคนแป้งให้เข้ากัน อย่าคนนานจะเหนียวไม่อร่อย พักไว้อย่างน้อย4ชมนะคะ  ลองทำแค่ 250กรัม แต่ได้ปาท่องโก๋เยอะเชียวค่ะ(แบ่งเก็บใส่กล่องปิดฝาแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาวัน รุ่งขึ้น มาทอดก็ยังอร่อยค่ะ)

ใช้แป้งนวลโรยเยอะหน่อยกันติด ตัดแบ่งตามชอบค่ะ เคล็ดลับ  อย่าตัดแป้ง ให้หนาไป หรือ บางเกินไป แป้งจะไม่ขึ้นฟู

การทอด ต้องทอดในน้ำมันท่วม โดยใช้น้ำมันปาล์ม ความร้อนปานกลาง

เทคนิคและวิธีทำ
1. การนวดแป้ง จะไม่นวดนานเกินไป เพียงแค่นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอ
2. ควรละลาย น้ำตาล แอมโมเนีย และเกลือในส่วนผสมที่เป็นน้ำก่อน แล้วคนให้ละลายจนหมด
จึงนำไปผสมในส่วนผสมที่เป็นของแห้ง จะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้เร็ว
3. อัตราส่วนระหว่างแป้งกับน้ำในแต่ละสูตร อาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของแป้ง
ถ้าเป็นแป้งเก่าอาจจะต้องเพิ่มน้ำบ้างเล็กน้อย
4. ควรมีการพักแป้งอย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมง ก่อนทอด ถ้าทอดเร็วเกินไป ปาท่องโก๋จะเนื้อแน่น
วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ สังเกตจากแป้งจะมีฟองอากาศมาก ก็สามารถนำมาทดลองทอดได้
5. ควรใช้น้ำมันปาล์มในการทอด และน้ำมันที่เหลือแต่ละครั้งควรนำมากรอง ด้วยผ้าขาวบางทุกครั้งก่อนที่จะนำมาทอดใหม่
และควรเปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ทอดบ่อย ๆ ถ้าน้ำมันเก่ามากจะเกิดสารพิษในน้ำมัน ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
6. ความร้อนที่ใช้ทอดควรใช้ความร้อนปานกลาง ถ้าใช้ไฟแรงเกินไป
จะทำให้ผิวของปาท่องโก๋ไม่สวย มีสีไม่สม่ำเสมอ และผิวนอกนิ่มไม่กรอบ
7. การตัดแป้ง ควรแผ่นแป้งให้หนาประมาณ 1 /2 เซนติเมตร หากแป้งหนามากเกินไปจะทำให้แป้งเนื้อแน่น
เวลาแตะน้ำติดตรงกลาง ประกบติดกัน ไม่ต้องบีบแป้งแน่น เพราถ้าบีบแป้งแน่นเกินไป จะทำให้ตัวขนมไม่กาง
ออกมาเวลาทอด
8. เวลาทอด เมื่อหย่อนแป้งลงในน้ำมัน พอแป้งลอยขึ้นมา ควรใช้ตะเกียบพลิกกลับไปกลับมา จะทำให้แป้งแห้งฟู
และ พองตัวดี ที่สำคัญอย่าใส่ปาท่องโก๋มากเกินไป ในการทอดแต่ละครั้ง
9. เราสามารถตัดยีสต์ที่อยู่ในสูตรออกได้ ถ้าต้องการให้ขนมขึ้นช้าหรือกลัวทอดไม่ทันขาย แต่ต้องใช้เวลาในการ
หมักให้นานขึ้น
และถ้าอยากให้ปาท่องโก๋มีรสชาติดีขึ้น ให้ให้เติมผงชูรสลงไปในสูตร 2 – 3 ช้อนชา
**ขอบคุณอาจารย์นวรัตน์ เอี่ยมพิทักษ์กิจ เอื้อเฟื้อสูตรและเทคนิคการทำปาท่องโก๋

ดูเนื้อในกันหน่อยค่ะ ว่าฟูจริงๆ แถมกรอบนอกนุ่มในอีก  (ขนาดไม่ได้ใส่ผงฟูนะ)
อร่อยมากค่ะ ไม่เหม็นกลิ่นยีสต์หรือแอมโมเนียเลย
ยิ่งนำมาจิ้มนมข้นหวานแล้วเพิ่มความอร่อยจนหยุดไม่ได้ค่ะ
หากมี สังขยาใบเตย หรือนมข้นหวาน อร่อยๆ มาจิ้มปาท่องโก๋ รับรองอร่อย อีกเป็นกองค่ะ

ติดตามชม ปาท่องโก๋ 4 สูตร ของ อาจารย์นวรัตน์  ต่อได้อีกครับ

credit : http://9leang.com/?p=286

Read More...


ไก่ต้มน้ำปลา สามสูตร โดย นายเหลือง คุณDuang ,คุณSubu

จำได้ว่าไก่ต้มน้ำปลาเป็นของขึ้นชื่อประจำจังหวัดกาญจนบุรี ที่นอกจากจะดังเรื่องปลาคังลวกจิ้ม แล้ว ยังดังเรื่องเห็ดโคน ที่แปรรูปมาได้หลากหลาบแบบครับ สำหรับใครที่ไปเมืองกาญ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาจะพบว่า ระหว่างทางไป จะไม่ร้าน ริมทางแบบแผง ขายไก่ต้มน้ำปลาเป็นระยะ ทั้งไปและกลับ ไก่ต้มน้ำปลามีสองแบบนะครับ คือแบบน้ำใสกับน้ำดำคล้ายพะโล้ แต่สีอ่อนกว่า ส่วนตัวผมชอบแบบ น้ำสีใสๆมากกว่า เพราะเป็นแบบต้นตำหรับ ที่เคยทานจากร้านประจำ หอมกลิ่นน้ำปลาแต่แบบสีข้มๆจะกลายเป็นกลิ่น ซีิ้อิ้วมากว่าครับ 5555.. อันนี้แล้วแต่ชอบ สูตรที่จะเอามาเ่านี้มีสองสูตรครับ ลองเลือกกันดู ^^


สูตรที่ 1
โดย  นายเหลือง
ไก่ต้มน้ำปลา  ของ นายเหลือง สูตรแรก ได้รับการบอกเล่าจากร้านดัง ประจำจังหวัดกาญจนบุรี “โรงแรม ไทยเสรี ” ร้านนี้เป็นร้านแรกๆที่ขาย ไก่ต้มน้ำปลาดัง ปลาคังเด่น ผักหวานป่า ยอดอร่อย ร้อยเห็ดโคน ยำแซบหลายครับ  นายเหลือง ไปเมืองกาญที่ไร จะต้องไปทานที่ร้านนี้ เป็นประจำ ในรูปข้างบนเป็นไก่ ต้มน้ำ น้ำใสๆสีไม่ข้มนัก  น้ำหวานน้ำต้มไก่หอมกลิ่นน้ำปลาและเครื่องเทศอ่อน ใครมาที่ร้านนี้จะต้องสั่งเมนูนี้ครับ ถือเป็นเมนูเด่นของร้าน เขาดังก่อนหลายปีนะ กว่าที่จะมีคนไปทำเลียนแบบกันเยอะแยะไปหมด แถมน้ำจะสีออกข้มกว่าของเขาครับ เดี๋ยวนี้ไปเมืองกาญหาซื้อไก่ต้มน้ำปลากัน ง่ายๆขนาดมีขายกันริมถนน ทางไป และกลับเมืองกาญ สองข้างทาง เกือบ 50เจ้าเลย ที่ดียว เอาเป็นว่า อร่อยมากกก ก็แล้วกันครับ สูตรนี้    เล่าวิธีทำเลยดีกว่า

ส่วนประกอบ

1.  ขิ่งข่าตะไคร้บมะกรูด ครบเครื่องต้มยำเตรียมไว้1ชุด
2. ไก่บ้าน สาวๆ2ตัว (ขนาดราวตัละ4-6ขีด)
3.  น้ำต้มโครงไก่และกระดูกหมู  1หม้อ  น้ำซุป
4.  น้ำมันพืช
5. กระเทียมสด  4 หัว
6. น้ำปลา อย่างดี
7. เกลือ  1 ถุง
8. ผงปรุงรส ดี  4 ชต.
วิธีทำ
นำไก่สดมาสับเป็นชิ้นพอคำ  กะทะตั้งไฟร้อน ลงน้ำมัน ใส่ไก่ลงผัดให้สุกพอหนังตึงๆ ใส่น้ำปลา ผงปรุงรส เกลือ สุกท้าย เครื่อง ต้มยำ ผัดให้หอม จากนั้นเติมน้ำซุปโครงไก่ลง ต้มพร้อมเติมกระเทียมสดบุบพอแตก  ลงไป4หัว แล้วต้ม หมั่นช้อนฟองทิ้ง น้ำจะหอมไม่คาวและทำให้น้ำซุปไก่มีสีใสน่ากิน ต้มต่อไป อีกราว 40-60นาที่ แล้วแต่ความนุ่มของไก่ ถ้าใช้ไก่เนื้อระวังเนื้อเละ ต้องใช้เวลาน้อยลง ถ้าให้อร่อยใช้ไก่บ้านจะดีกว่ามาก เนื้อเหนียวนุ่มหนังกรอบเด้ง หลังจากนั้น เอาหม้อต้มไก่ ลงรอให้เย็น แล้วเอาเข้า้ตู้เย็น ทิ้งไว้ 1 คืน วันรุ่งขึ้น เอาหม้อ ออกมาช้อน มันที่ลอยหน้าทิ้ง (ความอร่อยจะลดลง แต่สุขภาพจะดีขึ้น แล้วแต่ความชอบครับ) ที่นี้เวลาทาน เราจะ ตักไก่และน้ำซุปไก่ เท่าที่เราจะทาน มาต้มให้เดือด แล้วทานได้ รสชาติไก่จะเข้าเนื้อ  กลมกล่อม หอมเครื่อเทศ นิดหน่อย น้ำไก่ไม่คาว ไม่ต้องใส่อะไรเพิ่ม ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากๆครับ
*********************************************
สูตรที่ 2 โดยคุณ Doung
สวัสดีค่ะทุกท่านวันนี้ทำไก่ต้มน้ำปลาสูตรเก่า ของเราเองอร่อยค่ะ
ส่วนประกอบ
1. ไก่ปลดระวาง (ไก่ไข่ที่ ไม่ไข่แล้ว) 2 ตัว สับชิ้นพอคำ
2. น้ำปลาดี 1 ขวด
3. เกลือ 1 ถุง
4. ตะไคร้ใบมะกรูด
5. น้ำสะอาด
6. ซีอิ้วดำหวาน 3 ทัพพี
วิธีทำ
ลองดูนะค่ะบังเอิญครั้งนี้ต้ม 2ตัวใครต้มตัวเดียว ลดเกลือกัปน้ำปลาลงหน่อยเวลาน้ำเดือด แล้วชิมดูถ้ารสอ่อนเติมน้ำปลาให้รสพอดีไม่เค็มพอเวลาต้มน้ำงวด ลงกลับด้านตัวไก่พอได้ที่รสชาดจะพอดี อ้อใช้แม่ไก่ไข่ปลดระวางหรือไก่บ้าน หนังจะกรุปๆอร่อยถ้าใครใช้ไก่พันธุ์เนื้ออย่าต้มนานเปื่อยเกินไม่อร่อย แม่ไก่ไข่ 2 ตัว อาบน้ำให้สะอาดเฉือนมันทิ้ง ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำปลาเกือบครึ่งขวด เกลือ 1 ชต. ซีอิ้วดำหวาน 3 ทับพี เติมน้ำพอท่วมไก่ ตั้งไฟพอเดือด ลดไฟอ่อน ต้มต่อประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง เสร็จก็รัปทานกับน้ำจิ้มรสแซ่บตามใจคุณค่ะ

สูตรที่3 โดย คุณSubu
ผมทำไก่ต้มน้ำปลา ตามสูตรนี้ ของพี่หมึกแดง เค้าใช้น้ำปลาล้วนๆ เอามาต้มไก่ทั้งตัว น้ำปลาเป็นขวด  ทำเเล้วปรากฎว่าไก่เค็มเกินไป ผมเลยเปลี่ยนเป็นผสม น้ำ+น้ำปลา = 1 ต่อ 1….ครับ ความเค็มลดลงได้พอดิบพอดี เข้าเค้า สูตรนี้เขา เน้นทานกับน้ำจิ้มครับ จึงจะอร่อยเด็ด คนอยู่ ต่างประเทศอย่างผม ทำแล้ว ถือว่าใช้ได้
เครื่องปรุง
- น้ำปลา
- ไก่ทั้งตัว
น้ำจิ้ม
- พริกชี้ฟ้าเหลือง
- กระเทียม
- เกลือ
- น้ำตาลทราย
- น้ำปลา
- น้ำส้มสายชู
*โขลกให้ละเอียดสำหรับเป็นน้ำจิ้มไก่น้ำปลา
วิธีทำ
1. นำหม้อตั้งไฟ เทน้ำปลาลงไปต้มพอเดือด ใส่ไก่ที่ล้างทำความสะอาดแล้วลง ไปเคี่ยวไฟอ่อนประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่น้ำปลาต้องท่วมตัวไก่
2. พอไก่เคี่ยวได้ที่แล้วตักขึ้นสับเป็นชิ้น ๆ จิ้มกับพริกน้ำส้มที่โขลกละเอียดแล้ว
ในถาพ ตักไปไม่ใส่น้ำ ทานกับข้าวสวยเป็นอีกแบบหนึ่ง ไก่มีรสเค็มๆ ทานกับน้ำจิ้ม รสแซป กินแล้วอร่อยดี เข้าท่า ทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก


ภาพจาก http://www.mcdang.com/McDangPlangros/ps40_1.html

Read More...


ลูกชิ้น koettbulla โดย แม่บ้านสวิส

ซื้อเนื้อ บด สามอย่าง มาหนึ่งถุง เกือบ 400 g จะทำแฮมเบอร์เกอร์ เบื่อกินแล้ว แต่อยากทำอะไรที่ ไม่ยุ่งยาก รวดเร็ว แล้วอร่อย ที่แน่ๆ กินไม่หมด เอาเก็บไว้กินมื้อต่อไปได้อีก ทำลูกชิ้น แบบเพื่อนดีกว่า
.
ส่วนประกอบ
1. เนื้อสับที่ซื้อมา เขาใช้ หมู วัว และลูกวัว ผสมกัน
2. ขนมปังป่น 50 g
3. นม 1.5 dl
4. หอมหัวใหญ่ ขนาดไม่ต้องใหญ่มาก 1 หัว หั่นชิ้นเล็กๆ
5. มันฝรั่งต้มสุกแล้วไส 1 หัว
6. เกลือ 1 ช้อนชา
7. ไข่ลูกเล็ก 1 ลูก
8. พริกไทยป่น
9. พริกพาพริก้า
10. น้ำมัน สำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ
11. ซอสสำหรับทำน้ำเกววี ครึ่งก้อน
12. ครีม 2 ช้อนโต๊ะ
13. แยมผลไม้ พวกเบอรี่ 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วแต่ชอบ

วิธีทำ

เริ่มแรก ต้มมัน ให้ สุก แล้วไสเป็นเส้นๆ เอาขนมปังป่น ใส่อ่าง แล้วเทนม ใส่ลงไป จะใช้ ขนมปังเก่า หรือ แบบเป็นแ่ผ่น ก็ได้ เช่นกัน แช่ให้ ขนมปังนิ่ม ประมาณ สี่ห้านาที จากนั้น ต่อยไข่ใส่ถ้วยแล้ว ตีด้วยส้อม นิดหน่อย เทลงไปในอ่าง ใส่เนื้อ หอมสับ มันต้ม เกลือ พริกไทย พริกพาพริก้า ให้ สีเข้ม นวดทุกอย่างให้ เข้ากันด้วยมือ แล้วปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แบบลูกชิ้น

เอากะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมัน สองช้อนโต๊ะ พอน้ำมันเริ่มร้อน เอาลูกชิ้น ลงทอดไฟอ่อน พอผิวเป็นสีเหลือง เนื้อไม่ติดกะทะ พลิกทอดอีกด้าน ทอด ประมาณ สิบห้านาที ถึง ยี่สิบนาที ขึ้นอยู่ว่า ปั้น ลูกใหญ่แค่ไหน ถ้าทอดไฟแรง ลูกชิ้นจะสีเข้ม ผิวนอกไหม้ เนื้อแข็ง และ ข้างในไม่สุก

พอทอดทั่วทุกด้าน ตักออก ใส่จาน เทน้ำลงในกะทะ แล้วใส่ซอสสำเร็จครึ่งก้อน พอเดื่อด ใส่ครีม และ แยม ลงไป ซอสเดือดอีกครั้ง ใช้ได้แล้ว ถ้าไม่มีซอสสำเร็จ ต้องทำเอง พอเอาเนื้อออกจากกะทะ ตัก แป้งสาลี ใส่ลงไป หนึ่งช้อนโต๊ะ ผัดกับน้ำมันจนเป็นสีน้ำตาล แล้วเติมน้ำซุป ลงไป ปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย อโรมาท แล้วใส่ครีม และ แยม หรือจะทานกับซอสพริก ซอสมะเขือเทศ แล้วแต่ ชอบ วันนี้ ต้มมันฝรั่ง ใส่เกลือเฉย ๆ พร้อม เด็ดผักจากข้างบ้านมาทำสลัด นิดหน่อย

Read More...


การทำลูกชิ้น โดย คุณณัฐภัทร

อธิบายไว้ค่อนข้างละเอียดนะ เริ่มจากการทำลูกชิ้นเนื้อวัวก่อน ส่วนท่านใดจะนำไปแปลงไปเป็นลูกชิ้นเนื้อ ปลา เนื้อหมูขั้นตอนไม่ต่างกันมากนัก ลองมาดูนะครับ
วิธีทำลูกชิ้นเนื้อวัว
ส่วนผสม
1.เนื้อวัว 2 ปอนด์
2.นำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
3.เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มได้ถ้ารสชาติไม่เข้มข้น ยังไงต้องชิมอีกทีค่ะ)
(ถ้าใช้ Kosher Salt ก็ตามสูตรนี้ แต่ถ้าใช้ Table Salt ลดปริมาณลงครึ่งนึง)
4.น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
6.แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ
7.ผงฟู 2.5 ช้อนชา
8.น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
9.พริกไทยบดหยาบ ๆ 1-2 ช้อนชา
เนื้อวัวค่ะ ก่อนนำไปบด พยายามตัดมันออกให้เหลือน้อยที่สุดนะคะ (ในรูปนี่พยายามแล้ว)นัทซื้อเนื้อที่เซลล์มาทำแล้วมาตัดมันเอง ถูกดี จะซื้อแบบไม่มีมันก็ไม่ไหวแพงเหลือเกิน

เอามาเข้าเครื่องปั่นให้ละเอียดยิบ ถ้าปั่นยาก คอยหยอดน้ำทีละช้อนก็ได้ค่ะ แบ่งปั่นสองรอบ รอบละปอนด์ เนื้อจะได้ละเอียดเท่ากัน ในภาพเป็นตอนที่กำลังปั่น

ออกมาให้ละเอียดประมาณนี้

ทีนี้มาทำน้ำปรุงรส–นำส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด(ยกเว้นพริกไทย) ผสมให้เข้า กัน ไอ้น้ำขาว ๆ ที่เห็นนั่นแหละค่ะ เทน้ำปรุงรสลงไปบน เนื้อบดที่เตรียมไว้ แล้วลงมือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตายแล้วชามเราซกมกจัง

นวดเนื้อไปเรื่อย ๆ เนื้อจะดูดซึมน้ำปรุงรสทั้งหมด
ตอนนี้เนื้อจะเหนียวนุ่มทีเดียว ออกมาประมาณนี้

ถึงตอนนี้จะลองชิมรสดูสักหน่อยก็ได้ค่ะ ลองปั้นเป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วเข้าไมโครเวฟก็ได้
ขาดเค็มก็เติมเกลือเลย เข้าที่แล้วนำเนื้อนี้เข้าฟรีซเซอร์ประมาณครึ่งชั่วโมง เอาเข้า
ทั้งชามผสมเลย ถึงเวลาเอาออกจากฟรีซเซอร์ ใส่พริกไทยบดลงไปมากน้อยตามชอบ
นัทชอบเผ็ด ๆ เวลาเคี้ยวแล้วโดนเม็ดพริกไทย อร่อยจริง ๆ อ้อ…ก่อนได้เวลาเอาเนื้อออก
เตรียมต้มน้ำในหม้อใหญ่ ๆ ไว้เลยนะคะ

พอน้ำเดือดนี่ปิดเตาเลยนะคะ ทีนี้ก็ได้เวลาปั้น–หยิบเนื้อขี้น
มา บีบให้เนื้อออกมาระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง อธิบายยากจัง อย่าง
ในรูปน่ะแหละค่ะ แล้วก็เอาช้อนปาด ช้อนจุ่มน้ำก่อนก็ดีนะคะ ลูกชิ้น
จะได้ไม่มีหาง เจ้าของสูตรว่า ตอนบีบเนื้อออกมาพยายามบีบให้
แน่นที่สุด เนื้อจะเด้งดี

จะบอกว่านัทลงทุนซื้อเครื่องปั่นอันนี้ก็เพราะอยากทำลูกชิ้นนี่แหละค่ะ
ตัดใจครั้งยิ่งใหญ่ ขนาดงก ๆ นะเนี่ยหยอดลูกชิ้นลงหม้อได้พอสมควร
แล้ว ก็เปิดไฟต่อได้ แต่คอยดูห้ามให้น้ำเดือดปุด ๆ นะคะ เดี๋ยวลูกชิ้นไม่เด้ง
ลืมบอกไปว่ารอบนึงนี่ไม่ควรใส่ลูกชิ้นมากเกินไป จะสุกไม่ทั่วค่ะ นัทแบ่งปั้น
สองรอบ ระหว่างรอก็เอาเนื้อที่เหลือกลับเข้าฟรีซเซอร์ค่ะ พอเริ่มสุก ลูกชิ้น
จะลอยขึ้นมา พอมันลอยนี่ไม่ได้หมายความว่าสุกนะคะ เอากระชอนคน ๆ
ตลอดเวลา จะดูว่าสุกหรือยัง นัทให้ชิมค่ะ ทีละลูก ๆ ถ้าไม่มีสีชมพูตรง
กลางก็ใช้ได้เลย — จริง ๆ แล้วตะกละ
ขั้นต่อไปก็ เตรียมกะละมังหรือชามใหญ่ ๆ ..
ใส่น้ำเย็น ตักลูกชิ้นที่สุกแล้วแช่น้ำเย็นสักพัก…ปิดเตาหม้อต้มน้ำ แล้ว
เตรียมปั้นรอบสองต่อได้เลยค่ะ อันนี้คือรูปลูกชิ้นที่สุกนอนอยู่ในบ่อ
น้ำเย็น ถึงตอนนี้นัทก็ล่อทีละลูกสองลูก แฮ่ ๆ

ลูกชิ้นเสร็จละ จากนั้นเอามาทำเป็นก๋วยเตี๋ยวละ
ชามแรกเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งละครับ
(ภาพของคุณหมูแดง)

อีกชามหนึ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำเนื้อตุ๋น
ของคุณหมูแดงอีกละ น่ากินมากกกก…

เพิ่มเติม…
คุณ ทิดสึกใหม่ ลองเอาวิธีไปดัดแปลงทำลูกชิ้น
ปลาดูนะครับ หลักตอนนวดเนื้อปลาบดตอนที่จะ
ให้เป็นลูกชิ้นจะต้องนวดตอนเนื้อนั้นเย็นจัดนะครับ
สมัยก่อนเขานวดไปโรยน้ำแข็งเกล็ดไป เดี๋ยวนี้เขา
เอาไปแช่ให้เย็นจัด(เกือบแข็ง)แล้วจึงนวด ลูกชิ้นจะเด็ง
ก็ตรงนี้ละเพราะหากนวดอุหภูมิปรกติ เนื้อจะร้อนขึ้น
ระหว่างนวด เซลูโลสจะแตกตัวไม่จับกัน แต่จะไม่มี
ผลหากอุหภูมิเย็นๆ หวังว่าคงได้ประโยชน์นะครับ…

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.