สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

วิธีการห่อข้าวต้มมัด

มี วิธีการทำข้าวต้มมัด แล้ว ก็จะต้องมีวิธีห่อด้วยอ่ะนะคะ ... วันนี้พิมเลยจะมาสอนวิธีห่อข้าวต้มมัดอย่างละเอียด ชนิดที่ว่า ใครที่ไม่เคยทำ แต่ถ้าได้เห็นภาพ ต้องทำตามได้แน่ ๆ ... รับรองค่ะ
เริ่มต้นก็มาดูวัสดุอุปกรณ์กันก่อนนะคะ  ... ซึ่งก็จะมีแค่ 2 อย่างเองค่ะ ก็คือ
1. ใบตอง  
2. ตอก
3. กรรไกร หรือ มีดบางที่คมๆ
"ใบตอง" ... โดยทั่วไปเค้าจะนิยมใช้ใบตองกล้วยน้ำว้า หรือใบตองกล้วยตานีค่ะ  เพราะว่ามันเหนียว ไม่ขาดง่าย  แต่ปกติพิมจะใช้ใบตองกล้วยป่าค่ะ  เพราะว่าที่สวนจันฯ หาได้ง่ายมาก มีขึ้นเยอะเลย  แล้วก็เหนียวไม่แพ้ใบตองกล้วยตานีเลยค่ะ   (แม้มันจะหนาไปนิดนึง) ... ซึ่งพอเราได้ใบตองมาเนี่ย เราจะต้องเอาไปผึ่งแดดเพื่อให้มันเหี่ยว+นิ่ม ซะก่อนนะคะ จะได้ห่อง่าย ๆ
ป.ล. แต่ใบตองในภาพ เป็นใบตองกล้วยน้ำว้านะคะ  ซื้อมาจากตลาดไท โลละ 10 บาท
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-01.jpg
ซึ่งถ้าแดดจัด ๆ เราผึ่งแดดสักประมาณ 20 นาทีก็พอแล้วค่ะ   ..... แต่เมื่อวานที่พิมทำ แดดแทบไม่มี  ผึ่งอยู่เกือบ 5 ชม. แน่ะค่ะ - -"
ป.ล. ตอนผึ่งแดดระวังนิดนะคะ  ถ้าแดดแรงมาก ๆ ให้ระวังใบตอง อาจจะไหม้ได้ค่ะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-03.jpg
พอผึ่งแดด นิ่ม-เหี่ยวดีแล้ว  ... ก็นำใบตองมาฉีกเป็นแผ่นค่ะ
การห่อข้าวต้มมัดเนี่ย จะใช้ใบตอง 2 ชั้น เรียกว่า ชั้นนอก กับ ชั้นใน  ..... ซึ่งใบตองชั้นนอก จะใหญ่กว่าใบตองชั้นในหน่อยนึง  โดยปกติพิมก็กะเอาว่าให้ใหญ่กว่าชั้นในข้างละ 0.5-1 นิ้ว น่ะค่ะ ......  และใบตองชั้นใน ถ้าได้ใบตองอ่อน ๆ ที่นิ่มมากหน่อย จะดีมากเลยค่ะ เพราะว่าทำให้ห่อง่าย ขนมได้รูปสวย
เราจะฉีกใบตองชั้นนอก ให้กว้างประมาณ 7.5 นิ้ว * ยาว 9 นิ้ว  และใบตองชั้นในกว้าง 6 นิ้ว * ยาว 8 นิ้ว  ..... จำนวนก็เท่ากับ มัดข้าวต้มที่เราต้องการ  (พิมใช้ข้าวเหนียว 1.6 โล  ก็กะว่าจะมัดข้าวต้มได้มัดย่อม ๆ ประมาณ 50 มัดค่ะ)
ป.ล. ขนาดของใบตองแต่ละชั้น ควรฉีกให้เหมาะสมกับขนาดของกล้วย/ปริมาณข้าวเหนียวนะคะ  คือ ถ้ากล้วยที่เราใช้ ลูกใหญ่  ปริมาณข้าวเหนียวที่แปะบนล่างก็จะต้องใช้มากขึ้น ก็จะทำให้ห่อข้าวต้มมีขนาดใหญ่ขึ้น  ดังนั้นแล้วเราก็จะต้องฉีกใบตองให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมน่ะค่ะ  ... สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะฉีกใบตองกว้างยาวแค่ไหนดี  ก็ลองฉีกขนาดเท่าที่พิมแนะนำไว้ สักคู่นึงก่อนนะคะ  แล้วลองห่อดูว่าห่อได้ไหม  ใบตองแคบหรือสั้นไปหรือเปล่า  ... แล้วลองขยับขยายดูน่ะค่ะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-02.jpg
เมื่อฉีกใบตองเสร็จแล้ว ..... เพื่อให้การห่อง่ายขึ้น และสามารถห่อออกมาได้เรียบสวย  เราจะทำการเจียนมุมใบตองกันนิดหน่อยค่ะ   ... อุปกรณ์ที่ใช้เจียนก็จะเป็นมีดหรือกรรไกรก็ได้  (สมัยโบราณ เห็นยายใช้มีดค่ะ เจียนปรื๊ดดดดดดดดด ๆ เสร็จแล้ว  แต่พิมใช้มีดไม่ถนัด ขอใช้กรรไกรตัดเอาล่ะกัน)
พับทบใบตองเข้าหากัน ตามแนวยาว  (จำนวนแผ่นของใบตอง ก็ตามถนัด - ปกติพิมเจียนทีละ 5-6 แผ่น)
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-04.jpg
ใช้มีดเจียน หรือ กรรไกร ตัดปลายและมุมใบตองให้มีลักษณะคล้ายในภาพ  ... และเจียน/ตัด ทั้งสองด้าน
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-05.jpg
เมื่อคลี่ออกมา จะได้ลักษณะนี้ ...... แล้วก็นำไปเช็ดด้วยผ้าที่ไม่เป็นขน  ชุบน้ำบิดหมาด ๆ ทำความสะอาดทั้งด้านหน้า ด้านหลังใบตอง  (เช็ดสัก 2 รอบ)  .. ก็เป็นอันว่าเราจะได้แผ่นใบตองสำหรับห่อข้าวต้มมัดเรียบร้อยแล้วค่ะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-07.jpg
ต่อมาก็มาดูอุปกรณ์สำหรับมัดกันบ้าง ก็คือ ตอกค่ะ .... "ตอก" ... ทำจากไม้ไผ่ เอามาจักเป็นเส้น ๆ .... เมื่อก่อนโน้นตอนพิมยังเด็ก  ที่บ้านพิมจะมียาย นั่งจักตอกด้วยมือตัวเองทุกวันเลยค่ะ  แต่ตอนนี้ยายไม่อยู่แล้ว  แม่ไม่ค่อยว่างจะทำให้  พิมเองก็ทำไม่เป็น ก็ได้แต่ซื้อเค้าเอาค่ะ  มัดละ 10 บาท  ถึงจะมัดเบ้อเร่อ แต่บางเส้นก็ใช้ได้ บางเส้นก็ใช้ไม่ได้ (อ่อนไป)  ... เวลาจะใช้ ให้เอาไปแช่น้ำก่อนนะคะ  จะทำให้เวลามัด มัดง่ายขึ้น  นิ่มมือ และตอกมักไม่ค่อยจะขาดค่ะ  (ถ้าไม่แช่น้ำ มันจะกรอบ ขาดง่าย)
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-08.jpg


และเมื่อเตรียมวัสดุ อุปกรณ์เสร็จแล้ว .... ก็มาลงมือห่อกันค่ะ   (เพื่อน ๆ สามารถดูส่วนผสมและวัตถุดิบที่ใช้ในการทำข้าวต้มมัดได้จาก  >> ที่นี่ << เลยค่ะ)
เริ่มต้นก็ ... เอาแผ่นใบตองชั้นนอก ชั้นใน วางซ้อนกัน ... บนฝ่ามือข้างที่ไม่ถนัด ... โดยสลับหัวท้าย  แบบในภาพนะคะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-09.jpg
วางถั่วดำ แปะลงไป  กี่เม็ดก็ได้ตามชอบ .... ชอบเยอะใส่เยอะค่ะ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-10.jpg
ตามด้วยข้าวเหนียวที่เราผัดเอาไว้แล้ว  ... พิมใช้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ ค่ะ  ก็แผ่บาง ๆ กะว่าให้พอดีกับความยาวและความกว้างของกล้วยที่เราใช้ (แต่ถ้าใครชอบข้าวเหนียวเยอะ ๆ  จะใส่ข้าวเหนียวเยอะกว่านี้ก็ได้นะคะ)
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-11.jpg
แล้วก็วางกล้วยที่เราผ่าครึ่งไว้แล้ว  หรือจะเป็นไส้เผือกกวน ถั่วกวน ..... ตามไป
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-12.jpg
ตามด้วยข้าวเหนียว....แปะลงไป  อีกครั้งนึง
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-13.jpg
และสุดท้ายก็แปะถั่วดำอีกสักหน่อยค่ะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-14.jpg
เมื่อใส่เครื่องข้าวต้มมัดหมดแล้ว  จากนี้เราก็จะมาเริ่มห่อกัน ...... เริ่มต้นด้วยการพับทบใบตอง ตามแนวยาวนะคะ (สมมติเราวางใบตองที่มือซ้าย  เราก็ใช้มือขวาในการจับปลายใบตองมาทบกัน) ... กะเอาว่าให้เสมอกัน  แต่ไม่ต้องเสมอกันเปรี๊ยะะะะ ก็ได้นะคะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-15.jpg
แล้วก็พับชายใบตองลงมาทางด้านตัวเรา .. ประมาณครึ่งนึง ..... แล้วก็พับลงมาครึ่งนึง ... อีกครั้งค่ะ  ... (พับทบให้แน่น-กระชับ-พอดี นะคะ)
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-16.jpg
ก็จะได้ออกมาเป็นลักษณะแบบนี้
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-18.jpg
แล้วเราก็จะเริ่มพับ (จับจีบ) ตรงบริเวณด้านปลายใบตองบน-ล่าง  ทั้ง 2 ด้านค่ะ .... โดยเริ่มที่ด้านบนก่อน
ให้เราจับห่อใบตองที่มือในลักษณะเอียงตั้ง ขึ้น   แล้วก็ใช้นิ้วชี้มือขวากดพับ ..ไขว้ใบตองไปทางซ้าย (กดให้แนบกับข้าวเหนียว)  แล้วก็ใช้นิ้วมือซ้าย (มือที่จับห่อใบตองอยู่)  กดพับใบตองไขว้มาทางขวา   (ดูตามภาพ จะง่ายกว่านะคะ)
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-19.jpg
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-20.jpg
พอพับจีบ  (หรือที่บ้านพิมเรียกว่า "จับนม") ได้แล้ว ... ก็ทำการพับปลายลงมาด้านในค่ะ  .. โดยเก็บริมให้เรียบร้อย ... ก็เป็นอันว่าเราทำเสร็จไปข้างนึง
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-21.jpg
จากนั้นเราก็จับจีบและพับปลายใบตองอีกข้าง ในลักษณะเดียวกันค่ะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-22.jpg
ก็จะได้ออกมาในลักษณะแบบนี้  (ด้านใน)
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-23.jpg
ส่วนด้านบน (หรือด้านนอก)  ก็จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ... ซึ่งโบราณเค้าบอกไว้ว่า  จะดูว่าใครห่อข้าวต้มสวย ให้ดูนมค่ะ (ตรงมุมแหลม ๆ) แหละ ว่ามันตั้งหรือเปล่า ^^" ....  ถ้าตั้งก็แปลว่านมสวย .. อะไรทำนองนี้แหละค่ะ - -"
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-24.jpg
แล้วก็ทำเช่นเดียวกันนี้ ..... อีก 1 กลีบ  ... ก็จะเป็น 2 กลีบ (1 มัดข้าวต้ม มี 2 กลีบ) .... พยายามห่อให้แต่ละกลีบมีขนาดความกว้างยาวที่เท่า ๆ กันนะคะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-25.jpg
นำมาประกบกัน   โดยหันด้านในชนกัน
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-26.jpg
แล้วก็มัดด้วยตอก 2 เปลาะ
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-27.jpg
ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้  (อวบอ้วนเหมือนคนทำเลย -*-)  ....... แล้วเมื่อมัดได้หลาย ๆ มัดรวมกัน ...... ก็เอาไปนึ่งได้เลยค่ะ ^^
http://www.pim.in.th/images/tips-in-kitchen/wrap-by-banana-leaves/wrap-by-banana-vessel-28.jpg

credit : http://www.pim.in.th/

Read More...


เมนูไข่วิเศษ

เมื่อเราเห็นความน่าสนใจของ "ไข่..มหัศจรรย์" วันนี้ว่างๆลองเข้าครัว ลงมือปรุงเมนูอาหารจากวัตถุดิบชั้นเลิศกันเถอะ

 
 
สลัดไก่ชัทนีย์ผงกะหรี่
เครื่องปรุง
-ไก่ต้มหั่นเต๋า  100 กรัม
-แอปเปิ้ลเขียวหรือแดงหั่นเต๋า 1/2 ลูก
-เซเลอรี่สับ   1/4 ช้อนโต๊ะ
-หอมหัวใหญ่สับ  1/4 ถ้วยตวง
-ผงกะหรี่   1 ช้อนชา
-Chutney   2 ช้อนโต๊ะ
-ลูกเกดแช่น้ำให้นุ่ม  3 ช้อนโต๊ะ
-อัลมอนด์สไลน์ / คั่ว  1/4 ถ้วยตวง
-มายองเนส  1 ถ้วยตวง
-น้ำมะนาว   2 ช้อนชา
-พาสลี่ย์สับ  1 ช้อนโต๊ะ
-เกลือป่น   พอประมาณ
วิธีทำ
1.ในชามผสม ใส่ไก่ต้มหั่นเต๋า แอปเปิ้ลเขียวหรือแดงหั่นเต๋า เซเลอรี่สับ หอมหัวใหญ่สับ ผงกะหรี่ Chutney ลูกเกดแช่น้ำให้นุ่ม อัลมอนด์สไลน์ / คั่ว มายองเนส น้ำมะนาว และพาสลี่ย์สับลงไป ผสมให้เข้ากัน
2.ชิมรสชาติให้ออก หวานจาก Chutney ตามด้วยเปรี้ยวจากน้ำมะนาวและแอปเปิ้ล ถ้าไม่เค็มให้เติมเกลือป่นเพิ่มลงไป
3.ตักสลัดไก่ Chutney ไก่ใส่ภาชนะ ปิดฝาเข้าตู้เย็น พักไว้
เครื่องปรุงมายองเนส
-ไข่แดง (ใช้ไข่แดงของไข่ไก่เท่านั้น)  2 ฟอง
-มัสตาร์ด     2 ช้อนโต๊ะ
-เกลือป่น     1/2 ช้อนชา
-พริกไทย     1 หยิบมือ
-น้ำส้มสายชู    1/4 ถ้วยตวง
-น้ำมันถั่วเหลืองแท้ หรือน้ำมันมะกอก  1 1/2 - 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1.นำส่วนผสมทุกอย่าง นอกจากน้ำมัน มาตีให้เข้ากันด้วยไม้ตีไข่ ตีให้ผสมกันก่อน
2.ระหว่าง ที่ตี ค่อย ๆ รินน้ำมันลงไปทีละนิด เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี มายองเนสจะข้นขึ้นทีละนิด และมีสีขาวนวล ชิมรสชาติให้ออก เปรี้ยว หวานกลมกล่อม เติมเกลือป่น และพริกไทยป่น
3.ถ้าไม่หวานเติมน้ำตาล ถ้าไม่เปรี้ยวเติมน้ำส้มสายชู
*** สลัดไก่ Chutney ต้องเสิร์ฟแบบเย็นถึงจะอร่อย ***
คาราเมลคัสตาร์ดฟรุ๊ตสลัด
เครื่องปรุง
- น้ำตาลทราย (สำหรับทำน้ำตาลไหม้) 1/2 ถ้วยตวง
- นมสดจืด    2 ถ้วยตวง
- วานิลลา    1 ช้อนชา
- ไข่ไก่    2 ฟอง
- ไข่แดงของไข่ไก่   4 ฟอง
- น้ำตาลทราย   1/2 ถ้วยตวง
- เกลือป่น    1 หยิบมือ
- ฟรุ๊ตสลัด    ตามต้องการ
วิธีทำ
1.เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นำน้ำตาลทราย 1/2  ถ้วยตวง มาละลายในหม้อก้นหนา ๆ จนกระทั่งน้ำตาลทรายละลาย และไม่เป็นก้อน และมีสีน้ำตาลอ่อน (แล้วแต่ความต้องการว่าอยากได้ คัสตาร์ดรสชาติขมแค่ไหน)
2.เทน้ำตาลไหม้ลงไปเคลือบก้นถ้วยอบที่ทำด้วยเซรามิก หรือแก้วที่อบไว้
3.นำนมจืดและวานิลลามาต้มให้เดือด และพักไว้
4.ผสมไข่ไก่และน้ำตาลทรายในชามผสมให้เข้ากัน
5.ค่อย ๆ เทนมที่มีกลิ่นวานิลลาลงไปผสมกับไข่ไก่และน้ำตาลทราย เททีละนิดก่อน มิฉะนั้นไข่จะสุกและกลายเป็นไข่กวน
6.เติมเกลือป่น 1 หยิบมือ ใส่ลงไปในส่วนผสมนมและไข่
7.ค่อย ๆ เทส่วนผสมนี้ลงไปในถ้วยที่ได้เตรียมไว้แล้ว (ถ้วยที่มีน้ำตาลไหม้เคลือบอยู่)
8.นำถ้วยเหล่านี้มาวางในถาดที่มีขอบสูง และเทน้ำร้อนลงไปในถาด ให้ระดับน้ำสูงเท่ากับระดับส่วนผสมในถ้วย
9.นำถาดตั้งไฟให้ร้อน และเริ่มเดือด จึงนำถาดไปใส่ในเตา อบถ้วยขนมในถาดนาน 40 นาที หรือจนกระทั่งคัสตาร์ดสุก
10.นำถาดออกมาจากเตาอบ ยกถ้วยขนมในถาดออก พักให้เย็นสนิท และแช่ในตู้เย็นให้เย็น
11.เวลา เสิร์ฟ นำถ้วยขนมออกจากตู้เย็น กรีดขอบข้างในถ้วยด้วยมีด และนำจานมาคว่ำ และเคาะขนมออกจากพิมพ์ โดยหงายจานกลับขึ้น ชิ้นคัสตาร์ดก็จะหลุดจากพิมพ์ลงมาอยู่บนจาน และมีคาราเมลไหลเยิ้มลงมาจากด้านบน ดูสวยงามน่ารับประทาน หรือเสิร์ฟพร้อมฟรุ๊ตสลัด

credit : http://www.bangkokbiznews.com/





Read More...


ใบปอผัดทรงเครื่อง

ใบปอ 1/2 กิโล
หมูบะช่อติดมัน 400 กรัม
กุ้ง สับ 300 กรัม
กระเทียม 10 กลีบ
น้ำมันสำหรับผัด
พริกไทย

วิธีทำ
ใบ ปอ จะมีอยู่ 2 อย่าง คือใบปอสด กับใบปอที่เขาทำสำเร็จแล้ว หากเป็นใบปอสดให้เด็ดเอาเฉพาะใบ ตั้งกะทะ ใส่น้ำกะพอต้มใบปอที่คุณซื้อมา ใส่เกลือ ประมาณ 1 ถุงเล็ก ใส่น้ำปลาสัก 4 ช้อนโต๊ะ พอน้ำเดือด ให้ใส่ใบปอ ลงต้ม จนสุก ใบลีบหดตัว เทน้ำร้อนทิ้งโดย เอาตะแกรงลองใบปอเอาไว้ ร้อเย็นบีบน้ำทิ้ง สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นใช้ในคราวต่อไป หากใช้ไม่หมด นำในปอที่ที่บีบพักไว้ ล้างน้ำให้หมด รสเค็ม บีบน้ำออก คลี่ใบให้กระจาย พักไว้ สับหมู และกุ้งอย่าให้ละเอียดจนเกินไป ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมลงเจียว พอหอมใส่หมู และกุ้งลงผัดจนสุก หรี่ไฟ ลง ใส่ใบปอลงคลุกเคล้า โรยพริกไทย ผัดสักครู่มีกลิ่นหอม ตักขึ้นทานกับข้าวต้มหรือข้าวสวยก็ได้


ผัดใบปอดั้งเดิม(รูปจากเน็ต)



ผัดใบปอทรงเครื่อง(รูปจากเน็ต)
 
 




Read More...


โมโรเฮยะ ผักพระราชา เพื่อสุขภาพคนเดินดิน

       มี เรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า... ครั้งหนึ่งพระราชาแห่งอียิปต์ประชวรอย่างหนัก เสวยยาชนิดใดอาการก็ไม่ทรงทุเลา กระทั่งมีชายนิรนามท่านนายหนึ่งนำซุปที่ทำจากผักชนิดหนึ่งมาถวาย เมื่อพระราชาเสวยซุปผักชนิดนี้ อาการก็ดีขึ้น จึงเสวยซุบผักชนิดนี้เป็นประจำ ไม่นานก็ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์ขึ้น ต่อมาผักชนิดนี้จึงถูกขนานนามว่า “โมโรเฮยะ” แปลว่า ผักพระราชานั่นเอง
ดูกันชัดๆ เส้นบะหมี่ผักโมโรเฮยะ
       ผักโมโรเฮยะเป็นที่รู้จักทั่วไปในประเทศอียิปต์ตั้งแต่สมัยโบราณ แพร่กระจายไปพร้อมกับการตำนานเรื่องเล่าดังกล่าว ซึ่งชาวอียิปต์ต่างก็ศรัทธาและเชื่อกันว่าวิธีปรุงอาหารโมโรเฮยะได้ถูก บันทึกไว้บนผนังหลุมฝังพระศพของกษัตริย์ฟาโรห์ และยังเชื่อกันว่าพระนางคลีโอพัตรา ราชินิอียิปต์โบราณผู้เลอโฉมบำรุงความงามของพระองค์ด้วยผักโมโรเฮยะ
     
       ตำนานและความเชื่อดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่จริงแท้แน่นอนคือ ชาวอียิปต์โบราณตระหนักในคุณค่าของผักชนิดนี้อย่างยิ่ง มีความรักและศรัทธา กระทั่งเรียกขานกันว่าเป็นผักพระราชา
ก๋วยเตี๋ยวจากบะหมี่ผักโมเฮยะ เมนุอาหารสุขภาพ




       โมโรเฮยะเป็นผักที่มีพลังชีวิตทรหดแม้ในสภาพที่โหดร้าย อย่างพายุแรงๆหรือแสงแดดแผดร้อน แต่เดิมโมโรเฮยะเป็นพืชป่า ถูกจัดอยู่ในพืชใบแฝด กลุ่มเดียวกับปอ มีลักษณะคล้ายปอกระเจา เจริญเติบโตได้เร็วมาก ไม่ถึงครึ่งปี ก็สูงประมาณ 2 เมตร เพาะปลูกได้ง่าย
     
       ส่วนที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารคือใบ ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูง ในอดีตนำมาใช้เป็นเครื่องเทศและยาถอนพิษ ปัจจุบันใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆ ที่เกิดตามบริเวณผิวหนัง ในช่วงฤดูร้อนนิยมเด็ดใบสดมาประกอบอาหารในครัวเรือน ส่วนในช่วงฤดูหนาวนิยมเอาใบที่ร่วงมาตากแห้งและเก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป
     
       สำหรับใบของโมโรเฮยะที่สับจนละเอียดนั้น ชาวอียิปต์นิยมนำมาทำซุปข้นทานกันในครอบครัว ผักโมโรเฮยะถือเป็นผักที่มีแพร่หลายแถบชายฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์ เรเนียน เป็นผักที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ที่ประเทศไทย ผักโมโรเฮยะกำลังเป็นที่รู้จัก
“โช โอกะ” ผู้นำเข้าผักโมโรเฮยะจากญี่ปุ่นมาปลูกที่เมืองไทย
       ...ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีไร่ปลูกผักโมโรเฮยะ ซึ่งทำการปลูกด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ปลอดภัยจากสารเคมี ไร่ธรรมชาตินี้ดำเนินการมากว่า 5 ปีแล้ว โดย “โช โอกะ” ชาวญี่ปุ่น ประธานบริษัท ฮาร์โมนี ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้นำเข้ามาปลูกจากประเทศญี่ปุ่น
     
       โช โอกะ เปิดเผยว่า อยู่ที่ประเทศไทยกว่า 10 ปีแล้ว ครั้งแรก หลังเรียนจบการประมงจากญี่ปุ่น ทางบริษัทส่งเข้ามาทำงานที่ประเทศไทย โดยความชอบส่วนตัว โช โอกะ สนใจเรื่องธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับเรื่องพืชผักปลอดสาร เขาบอกว่า “ชอบเมืองไทย รักอัธยาศัยของคนไทย” ด้วยเหตุที่มีความสนใจเรื่องธรรมชาติและเกษตรปลอดสารเป็นทุนเดิม จึงอยากให้คนไทยได้ทานอาหารที่มีคุณค่า
     
       “ที่ญี่ปุ่น ผักโมโรเฮยะได้รับความนิยมมาก เป็นที่ต้องการของคนที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งเพิ่งจะเป็นที่รู้จักเมื่อประมาณ 10 กว่าปีมานี่เอง เดิมนั้น อาจารย์มหาวิทยาลัยทาคุโชกุชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งเคยไปอยู่ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์มา 7 ปี เขารู้ว่าผักโมโรเฮยะมีคุณค่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมาก เมื่อกลับมาที่ญี่ปุ่นจึงได้เอาผักโมโรเฮยะเข้ามา และร่วมมือกับเพื่อนอาจารย์วิจัยคุณค่าทางอาหาร และหาวิธีแพร่พันธุ์ที่เหมาะสม จนโมโรเฮยะแพร่หลาย ผมอยากให้คนไทยรู้จักกับโมโรเฮยะ และได้รับประโยชน์จากผักนี้จึงนำเข้ามาปลูกที่ไร่ปลอดสาร”
ผลิตภัณฑ์จากผักโมโรเฮยะ
       ผักโมโรเฮยะจากไร่แห่งนี้จะผ่านกรรมวิธีเพื่อผลิตเป็นอาหารเพื่อ สุขภาพหลากหลายประเภท อาทิ บะหมี่ผักโมโรเฮยะที่ได้รับความนิยมในร้านสุกี้ยี่ห้อดัง คุกกี้ผักโมโรเฮยะ ผงโมโรเฮยะสำหรับทำอาหารและเครื่องดื่ม หรือจะใช้ใบโมโรเฮยะปรุงเป็นอาหารชนิดต่างๆก็ได้ เช่น โมโรเฮยะสลัดผักรวม แกงจืดหมูสับโมโรเฮยะ ผัดผักโมโรเฮยะ เป็นต้น
     
       โช โอกะ อธิบายกรรมวิธีการทำบะหมี่ผักว่า ใช้การผลิตที่สะอาด ถูกหลักอนามัย มีส่วนประกอบของผงผักโมโรเฮยะ และบะหมี่ผักโมโรเฮยะจะใช้การอบ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าการทอดเหมือนบะหมี่ทั่วไปในท้องตลาด จึงปราศจากน้ำมัน สารกันบูด ผงชูรส และสีสังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของไข่จึงทานเป็นอาหารเจได้
     
       โมโรเฮยะเป็นผักที่มีคุณค่าทาง โภชนาการสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีเบต้า-แคโรทีนและเส้นใยอาหารสูง จึงช่วยในเรื่องการป้องกันมะเร็งและโรคในผู้สูงอายุได้ดี ทั้งยังมีแคลเซียมมากไม่แพ้ผักชนิดอื่น และยังอุดมไปด้วยวิตามินชนิดต่างๆ
     
       ดังนั้น ผักโมโรเฮยะถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ แม้ได้ชื่อว่าเป็นผักพระราชา แต่ก็เป็นผักเพื่อคนเดินดินกินข้าวแกง อย่างเราๆท่านๆที่ใส่ใจกับสุขภาพได้ดีมีประโยชน์
     
       ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผักโมโรเฮยะมีวางขายตามท้องตลาดทั่วไป และหากท่านใดสนใจอยากเข้าเยี่ยมชมไร่ปลอดสารที่ปากช่อง โช โอกะ เชิญชวนทุกท่านเข้าเยี่ยมชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเขาต้องการให้มีการศึกษาเรื่องนี้ให้มาก โดยเฉพาะกับเยาวชนในเมืองที่อยากให้ไปสัมผัสธรรมชาติ ลองใช้ชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ บริโภคอาหารที่ไม่ต้องดัดแปลง ปรุงแต่ง และใส่สารเคมีที่มีพิษต่อร่างกายมากเกินไป
     
       ทั้งนี้ สามารถติดต่อได้ที่ Harmony Life Organic Farm เลขที่ 35 ม.9 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร.044-322219 สามารถเข้าเยี่ยมชมกรรมวิธีการปลูกเกษตรอินทรีย์ได้ตลอดทั้งปี
ผักโมโรเฮยะ
       สำหรับท่านที่สนใจจะมาชิมผักโมโรเฮยะ สดๆ ก็มาได้ที่อุทยานรักษ์สุขภาพครั้งที่ 10 โครงการผู้จัดการสุขภาพ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 เม.ย.นี้ เวลา 8.30-18.00 ที่บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ (บางลำพู) หรือจะทดลองผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น บะหมี่ผัก ได้ที่งานนี้ ซึ่งจะมีการสาธิตการปรุงอาหารด้วยบะหมี่ผักโมโรเฮยะ ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โครงการผู้จัดการสุขภาพ โทร.02-629-2211 ต่อ 1152
credit : โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์



Read More...


โมโรเฮยะ ผักผงมหัศจรรย์

รู้จัก "บะหมี่ผัก" ก็เพราะสุกี้ เลยสงสัยว่า มันทำจากผักชนิดใด กินแล้วดีจริงไหม หรือแค่อยากขโมยซีนบะหมี่ไข่ บะหมี่หยก



หารู้ไม่... แท้จริงแล้ว บะหมี่ผักที่ว่านั้นทำมาจาก "ผักโมโรเฮยะ" แค่ชื่อก็บ่งบอกที่มาแล้วว่าต้องบินไกลมาจากญี่ปุ่น แต่ครั้นได้เจาะข้อมูลลึกลงไปก็พบว่า มันมีต้นกำเนิดจากประเทศอียิปต์ต่างหาก สืบค้นต่อไปก็รู้ความหมายว่า "ผักพระราชา"

 มีเรื่องเล่ากันว่า พระราชาอียิปต์ทรงประชวร เสวยโอสถชนิดใดก็ไม่หาย จนกระทั่งได้เสวยซุปผักโมโรเฮยะเป็นประจำ นอกจากจะหายประชวรแล้ว ยังทรงมีพระพลานามัยดีขึ้นทันตา


 แถมอีกเรื่อง  ถ้าพูดถึงอียิปต์แล้ว ไม่กล่าวอ้างพระนางคลีโอพัตรา ก็จะว่ามาไม่ถึงดินแดนทะเลทรายอันอุดมสมบูรณ์ ว่ากันว่า ผักโมโรเฮยะ เป็นเคล็ดลับของหญิงผู้มีความงามเป็นอมตะ พระนางจะรับประทานเป็นประจำ เพื่อทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง


 แต่ก่อนที่มันจะข้ามน้ำข้ามทะเลมาสยามประเทศนั้น เจ้าผักพระราชาได้รับความนิยมแพร่หลายแถบชายฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์ เรเนียน และส่งต่อให้กับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพในดินแดนซากุระ
 โดยมีเจ้าลัทธิผู้เผยแพร่ อย่างอาจารย์ชาวญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยทาคุโชกุ ซึ่งเขาเคยอยู่ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์มากว่า 7 ปี และซึมซับคุณงามความดีของผักชนิดนี้จากคนที่นั่น จึงร่วมมือกับเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน วิจัยคุณค่าทางอาหาร และหาวิธีแพร่พันธุ์ที่เหมาะสม จนเป็นที่แพร่หลายที่ญี่ปุ่นในเวลาต่อมา






 ฉะนั้น ไม่ว่าเรื่องเล่าขานเป็นตำนานนั้นจริงเท็จอย่างไร แต่หากอ้างอิงข้อมูลวิทยาศาสตร์แล้วละก็ ผักโมโรเฮยะเป็น ผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะสารเบต้าแคโรทีน และเส้นใยอาหารที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และโรคในผู้สูงอายุได้ดี ชะลอความชรา ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี1 บี2 รวมถึงแร่ธาตุอาหารหลายชนิด เช่น แคลเซียม  ธาตุเหล็ก โปรแทสเซียม


 โช โอกะ ประธานบริษัท ฮาร์โมนี ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าผักชนิดนี้มาในไทย เล่าถึงเส้นทางชีวิตของเจ้าผักมหัศจรรย์ มันเป็นผักที่มีชีวิตทรหด อดทน เติบโตได้ในสภาพที่โหดร้าย อย่างพายุแรงๆ หรือแสงแดดแผดเผา


 มันเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพียง 6 เดือนก็สูงได้กว่า 2 เมตรแล้ว และนำมาเพาะปลูกได้ง่าย บ้างใช้กรรมวิธีปลูกปลอดสารเคมี (Organic) แต่ถิ่นฐานเดิมของมันอาศัยอยู่ในป่า และถูกจัดอยู่ในพืชใบแฝดกลุ่มเดียวกับปอ มีลักษณะคล้ายปอกระเจา


 และในอดีต เจ้าผักตัวนี้มักใช้เป็นเครื่องเทศ และยาถอนพิษ แต่ปัจจุบันถูกใช้ในทางการแพทย์ เพื่อเป็นยารักษาโรคต่างๆ ที่เกิดตามผิวหนังด้วยเช่นกัน


 ปัจจุบัน ผู้คนยังคงนิยมนำส่วนใบมาใช้ประกอบอาหาร ซึ่งในฤดูร้อน  นิยมเด็ดใบสดมาปรุงอาหาร  แต่ในฤดูหนาว นิยมเอาใบที่ร่วงมาตากแห้ง และเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคตอันใกล้


 ต่อมาก็เป็นหน้าที่ของเชฟใหญ่ในครัว ที่จะสับส่วนใบโมโรเฮยะจนละเอียด เพื่อทำเป็นซุปข้น หรือใช้ใบปรุงเป็นอาหารหลากชนิด อาทิ โมโรเฮยะสลัดผักรวม แกงจืด ผัดผัก และดัดแปลงเป็นบะหมี่ผักโมโรเฮยะ คุกกี้ ผงสำหรับโรยอาหารและเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ เป็นต้น


 โช บอกว่า เมนูบะหมี่ได้รับความสนใจสูงสุด  มันคือส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตกับวิตามินอย่างลงตัว เนื่องจากคนไทยยังคงโปรดปรานกับการบริโภคแป้ง แต่ก็ยังใส่ใจในสุขภาพด้วย


 ส่งผลต่อกรรมวิธีผลิตบะหมี่นั้นต้องใช้การอบแห้งและบดผง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าการทอด เหมือนที่ใช้กับบะหมี่ทั่วไปในตลาด บะหมี่ผักโมโรเฮยะจึง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมัน ตัวการของโรคอ้วน หรือแม้กระทั่งสารกันบูด ผงชูรสและสีสังเคราะห์ ศัตรูตัวร้ายของร่างกาย และจะไม่ใส่ไข่ จึงเหมาะกับกลุ่มคนรับประทานเจและมังสวิรัติ


 บะหมี่อบแห้ง สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด และพัฒนาเป็นเมนูเด็ดได้ด้วยตนเอง เช่น บะหมี่เย็น ราดหน้า ผัดไท โซบะญี่ปุ่น หรือรับประทานร่วมกับสุกี้ เป็นต้น


 ถึงจะ "ยี้" ผัก ขนาดไหน แต่ถ้าสับละเอียดปนกับแป้งมาให้กิน เส้นทางสุขภาพดีคงใกล้แค่เอื้อม
 

เมนู บะหมี่ผักโฮโรเฮยะต้มยำ
ส่วนผสม
บะหมี่ผักโมโรเฮยะ   1 ซอง
ไข่ไก่    1 ฟอง
กุ้งแชบ๊วยแกะเปลือก ผ่าหลัง  4-5 ตัว
ปลาหมึกกล้วยบั้ง   100 กรัม
ใบมะกรูดฉีก         3 ใบ
พริกขี้หนูสวนทุบ    3 เม็ด
ต้นหอมและผักชีซอย   1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย        2 ช้อนชา
ตะไคร้หั่นเฉียง     2 ต้น
เห็ดฟางผ่า          2 ดอก
ใบมะกรูดทอดกรอบสำหรับตกแต่ง ตามชอบ
น้ำพริกเผา          2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา              2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว           2 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา
ถั่วงอก              1/2 ถ้วย
น้ำซุปหมู           1 /4 ถ้วย 


ส่วนผสมน้ำซุปกระดุกหมู
กระดูกหมูคาตัง   400 กรัม
น้ำ                   6 ถ้วย


วิธีทำ
1.ก่อนอื่นต้องมาทำน้ำซุปกันก่อน โดยล้างกระดูกหมูให้สะอาด ทุบพอแตกใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง พอเดือด หมั่นช้อนฟองทิ้งจนน้ำซุปใส เปิดไฟเคี่ยวไปเรื่อยๆให้น้ำซุป หวาน พอน้ำซุปได้ที่ ตักกรองเอาแต่น้ำซุป

2. ต้มน้ำซุปหมูในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่ตะไคร้และใบมะกรูด ต้มจนมีกลิ่นหอม ใส่กุ้ง ปลาหมึก เห็ดฟาง พอสุก ใส่ น้ำปลา นามะนาว น้ำพริกเผา น้ำตาล ชิมรสให้เปรี้ยว เค็ม หวาน
3. ค่อยๆตอกไข่ไก่ ใส่ลงไปแล้วปิดไฟทันที ใส่พริกขี้หนู ลงไป
4. ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว กับถั่วงอก พร้อมกันในหม้อน้ำ เดือด พอสุกตักขึ้นให้ ไส่ลงในชาม ตักต้มยำใส่ โรยต้นหอมและผักชี แต่งหน้าด้วย ใบมะกรูดทอดกรอบ ต้นหอม ผักชีซอย พร้อมเสิร์ฟทันที
หมายเหตุ : ดัดแปลงสูตรจากบลอกเกอร์ komoใน noodle-thai.blogspot.com
credit :  http://www.bangkokbiznews.com/






Read More...


“Nasi Lemak” รสเข้มข้นแบบมาเลเซีย

       จู่ๆ “กุ๊กเล็ก” ก็รู้สึกอยากจะลองทำอาหารต่างชาติที่ไม่คุ้นเคยลิ้นกินเองที่บ้าน แล้วก็บังเอิญเพิ่งได้สูตรเด็ดมาจากร้าน “Cili Padi” ร้านอาหารสัญชาติมาเลเซียที่ตั้งอยู่แถวบางรัก เมนูเด็ดที่ว่านี้ก็ถือเป็นอาหารประจำชาติมาเลเซีย ซึ่งมีชื่อว่า “Nasi Lemak”





    
       “Nasi Lemak” แปลว่า ข้าวมัน ซึ่งเรียกตามการหุงข้าวที่ใส่กะทิลงไปด้วย เป็นอาหารที่นิยมกินกันในมื้อเช้า แต่มื้ออื่นๆ ก็สามารถหากินได้ทั่วไปเช่นกัน
   
       ส่วนผสมมีดังนี้
       ส่วนผสมข้าวมัน
       ข้าวสาร 2 ถ้วย (ซาวและล้างให้สะอาด)
       ใบเตย 3 ใบ
       น้ำกะทิ 2 ถ้วย
       เกลือ 1/8 ช้อนชา
       น้ำเปล่า 2 ถ้วย
   
       ส่วนผสม Sambal Ikan Bilis (เครื่องเคียงที่ทำจากพริก คล้ายๆ น้ำพริกเผาของไทย)
       หอมแดงหัวเล็ก 4 หัว ซอยบางๆ
       Ikan Bilis (ปลาฉิ้งฉ้างทอด) 1 ถ้วย
       กระเทียม 1 หัว ซอยบางๆ
       หอมหัวใหญ่สีม่วง 1/2 หัว ซอยบางๆ
       พริกแห้ง 10 เม็ด
       กะปิ 1 ช้อนชา
       เกลือ ¼ ช้อนชา
       น้ำตาล 1 ช้อนชา
       น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
       น้ำมันพืช 1 ½ ช้อนโต๊ะ
   
       เครื่องเคียง
       ไข่ต้ม 1 ลูก ผ่าครึ่ง
       ปลาฉิ้งฉ้างทอด
       ถั่วลิสงคั่ว
       แตงกวา
   
       วิธีทำ เริ่มจานำข้าวสารที่ซาวแล้วใส่หม้อ ใส่น้ำกะทิ น้ำเปล่า เกลือ และใบเตยลงไป หุงจนสุกแล้วพักไว้ ส่วนพริกเครื่องเคียง เริ่มจากนำพริกแห้งมาโขลกจนละเอียด ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง และหอมใหญ่สีม่วงที่ซอยแล้วลงไปผัดให้เหลืองหอม ใส่ปลาฉิ้งฉ้างทอดผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำมะขามเปียก เกลือ และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน แล้วเคี่ยวไฟอ่อนต่อไปอีกเล็กน้อย ถ้าแห้งเกินไปให้ใส่น้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย จากนั้นก็ปิดไฟยกลงจากเตา
   
       เวลาเสิร์ฟ ให้ตักข้าวที่หุงกับกะทิใส่จาน ตักน้ำพริกเครื่องเคียงวางไว้ด้านข้าง แล้วกินคู่กับไข่ต้ม ปลาฉิ้งฉ้างทอด ถั่วสิสง และแตงกวา เท่านี้ก็ได้อิ่มอร่อยกับรสชาติของอาหารมาเลเซียกันแล้ว


credit : โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
 





Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.