ผมได้มีโอกาสไปชิมอาหาร ที่ร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า อาเธอร์ เรสเตอรองท์ มาครับ ไปกับผู้บริหาร 2 ท่าน ซึ่งท่านหนึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส อีกท่านหนึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย ร้านนี้ตกแต่งสวยงาม หรูหราแบบฝรั่งเศสโบราณ มีความเก๋อยู่ในตัว วันที่ไปนั้นฝนตกหนัก ผมมาถึงก่อนใครจึงนั่งดื่มรอ ระหว่างนั้นทางร้านมี ขนมขบเคี้ยว ที่ทำด้วยแป้งพัฟฟ์ โรยหน้าด้วยเนยแข็งพาเมซานชีส ที่เขาเอาไว้ใช้สำหรับโรยหน้าพิซซ่าแล้วนำไปอบ ทำให้ฟูพองกรอบมาให้กิน รสชาติอร่อยดีครับ ผมนั่งกินแกล้มกับเครื่องดื่มมาตินี่
เมื่อมากันครบก็เริ่มสั่งอาหารมากินกัน เนื่องจากเป็นร้านอาหารฝรั่งเศส ผมเลยได้รับความช่วยเหลือในการสั่งอาหารจากผู้บริหารที่เป็นชาวฝรั่งเศส ในการให้คำแนะนำและอธิบายลักษณะอาหารให้ผมฟัง

เมื่อมากันครบก็เริ่มสั่งอาหารมากินกัน เนื่องจากเป็นร้านอาหารฝรั่งเศส ผมเลยได้รับความช่วยเหลือในการสั่งอาหารจากผู้บริหารที่เป็นชาวฝรั่งเศส ในการให้คำแนะนำและอธิบายลักษณะอาหารให้ผมฟัง











ผมขอบอกว่าร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อ ซึ่งมีวิธีการทำและรสชาติที่อร่อยมาก เพราะฉะนั้นผมจึงต้องสั่งสเต๊กเนื้อมากิน และผมเองก็อยากสั่งอาหารอย่างอื่นมารับประทานด้วย แต่ก่อนที่เราจะสั่งอะไรมากินกัน เขามี อาหารเรียกน้ำย่อย มาให้กินก่อน โดยเขาจะเอาไข่มาตัดเปลือกด้านบนออกแล้วใส่อาหารทะเลและวิปปิ้งครีมลงไป รสชาติดีใช้ได้ครับ
ส่วนอาหารนั้น ผมสั่ง หอยนางรมจากฝรั่งเศส มากิน ตัวไม่ใหญ่นักไม่เหมือนกับหอยที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ที่นี่รสชาติเค็ม โดยกินแบบเย็น ๆ กับซอสที่เปรี้ยวหรือซอสที่มีน้ำส้มสายชูที่ทำจากไวน์ แล้วใส่หอมแดงสับเข้าไป อร่อยได้กลิ่นอายของทะเลเวลาเราเคี้ยวเลยครับ
จากนั้นผมสั่ง ขากบทอดอบกระเทียมแบบฝรั่งเศส มาเพิ่มอีกหนึ่งจานอร่อยมากเลยครับ ส่วนเพื่อนผมสั่ง ตับห่านเย็น มากินแบบเย็น ๆ ส่วนหลานชายของผมสั่ง ตับห่านทอด อาหารประเภทตับห่านถ้ากินแบบเย็น ๆ จะต้องกินกับขนมปังปิ้งแผ่นบาง ๆ ซึ่งที่นี่เอาผ้าเช็ดมือที่พับมาอย่างสวยงามห่อมาให้ เพื่อที่จะทำให้ขนมปังยังมีความร้อนอยู่ จะได้กินอย่างอร่อย มี หอยทากในซอสเนยกระเทียม ด้วยนะครับ จานนี้เขาทำได้รสชาติเข้มข้นดีครับ กลิ่นเนยและกระเทียมหอมมาก
หลังจากนั้นเราก็สั่งสเต๊กเนื้อมากินเพียง 2 ชิ้น เพราะชิ้นใหญ่ครับ เป็น สเต๊กเนื้อสันในกับซอส ส่วนอีกชิ้นซึ่งเป็นส่วนที่ติดกระดูกมาด้วย ทั้ง 2 จาน สามารถกินกันได้ประมาณ 3–4 คน สำหรับสเต๊กเนื้อสันในกับซอส เป็นเนื้อสันในที่เอาไปหมัก ห่อด้วยกระดาษ แล้วจึงนำเข้าเตาอบ พอนำออกมาจะได้เนื้อที่สียังแดง ๆ อยู่ เขาก็จะมาหั่นสเต๊กให้เราข้าง ๆ โต๊ะเลยครับ แล้วเสิร์ฟด้วยซอสต่าง ๆ ทั้งซอสพริกและซอสมะเขือเทศ ผมรู้สึกว่าเนื้อสเต๊กนุ่ม หอม อร่อยมาก อาหารจานนี้กินกับหน่อไม้ฝรั่งจากประเทศฝรั่งเศส เป็นหน่อไม้ฝรั่งสีขาวราดมากับซอสฮอแลนเดซที่ทำจากไข่แดงกับเนย จะเข้ากันดีครับ
ที่นี่มี มันบด ด้วยครับ เขาไม่เรียกว่ามันบดเฉย ๆ แต่จะเรียกว่า วิปโปเตโต้ เพราะลักษณะรูปร่างจะเละกว่ามันบดธรรมดา ใส่ครีม เนย เกลือ พริกไทย เข้าไป รสชาติดีครับ
ผมและเพื่อน ๆ สั่งขนมมากินเพิ่ม ความจริงแล้วร้านอาหารฝรั่งเศส เขาจะต้องมีของหวานที่เป็นฝรั่งเศส เรียกว่า ทาร์ตตาแต็ง คล้าย ๆ ทาร์ตแอปเปิล แต่ที่นี่เขาไม่มี แต่เขาให้เราสั่ง ขนมนูการ์เย็นกับผลไม้เสิร์ฟกับซอสคาราเมล มาแทนทาร์ตตาแต็ง อร่อยดีครับ
มีขนมอีกชนิดหนึ่งเขาเรียกว่า ขนมอบแอปเปิลในแป้งฟิโล กินกับไอศกรีมวานิลลาที่ทางร้านทำเอง ขนมทั้ง 2 เมนูนี้อร่อยครับ โดยเฉพาะขนมนูการ์เย็นของเขาทำได้ดี เป็นอันว่าอาหารมื้อนี้สำหรับผมสุดยอดของความอร่อยครับ.
ตับห่านเย็น - ชิมให้เป็น
สำหรับเมนู ตับห่าน โดยมากแล้วจะชอบกินตับห่านที่สดแล้วเอามาทอด เสร็จแล้วต้องมีซอสที่เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เข้มข้น เพื่อจะตัดความเลี่ยน แต่ความจริงแล้วตับห่านเอาไปทำเป็นเทอร์รีนหรือเอาไปตุ๋นแล้วทำให้เย็น จากนั้นหั่นออกมาเป็นชิ้นกลม ๆ ก็ได้นะครับ ซึ่งถ้าคนที่กินเป็นจริง ๆ และชอบตับห่าน และถ้าเขาทำอาหารเป็นอีกด้วย จะเลือกกินตับห่านเย็นที่เป็นเทอร์รีน เพราะจะได้รสชาติที่หอม อร่อยยิ่งขึ้นครับ
ลักษณะของอาหารจานนี้จะเหมือนกินเนยผสมตับห่าน เพราะว่ามีไขมันอยู่ในตับห่านแต่ไม่มีเนยอยู่เลย ใส่แค่เกลือ พริกไทย แล้วก็เครื่องเทศแห้ง ๆ ของฝรั่งเข้าไป เพียงเท่านี้ก็อร่อยแล้วครับ
ส่วนวิธีการทำให้เป็นท่อนกลม ๆ เป็นการทำที่ต้องมีความพิถีพิถันมาก และถ้าเขาทำเป็นแล้วจะออกมาสีสวยและไม่มีน้ำมันที่เคลือบอยู่ในนั้นเลย ตับห่านจะกลายเป็นเนื้อครีมคล้ายเนยที่เอาไปปั่นตับบด โดยมีการปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย แล้วก็เครื่องเทศเท่านั้น อาหารจานนี้กินกับขนมปังปิ้ง โดยจะกินแบบแห้ง ๆ เพราะว่าตัวตับห่านเย็นนั้นจะมีความมัน ความหอม ความอร่อยอยู่แล้ว ที่ผมเลือกกินตับห่านเย็น เพราะว่าเป็นอาหารที่ทำยาก ถ้าคนทำเป็นก็จะทำได้ดี ถ้าคนทำไม่เป็นก็จะทำไม่อร่อยเลยครับ
ฟิโลกล้วยบวชชี - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงกล้วยบวชชี
-หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
-น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง
-เกลือป่น 1 ช้อนชา
-กล้วยหอมปอกเปลือก 4 ลูกหั่นเป็นชิ้นหนา
-มะพร้าวทึนทึก 1 ถ้วยตวงขูดเป็นเส้นแล้ว
วิธีทำ
1. นำหม้อใส่หัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ นำขึ้นตั้งเตาต้มให้เดือด แล้วหรี่ไฟลงเคี่ยวน้ำกะทิให้ข้นขึ้น ปิดไฟ พักไว้
2. นำกล้วยหอม มะพร้าวทึนทึก ลูกเกด ลงคลุกเบา ๆ ในน้ำกะทิกล้วยบวชชี ให้เข้ากันพักไว้ เป็นไส้ฟิโล
เครื่องปรุงฟิโลกล้วยบวชชี
-แผ่นแป้งฟิโล 1 กล่อง
-เนยสดจืดละลายแล้ว ถ้วยตวง
-กล้วยบวชชี ตามต้องการ
-ไข่แดง 1 ลูก
-น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-ซอสราสเบอรี่ สำหรับเสิร์ฟ
-วิปปิ้งครีม สำหรับเสิร์ฟ
-สะระแหน่เด็ดใบ สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 220 องศาพักไว้
2. นำแผ่นแป้งฟิโลมาตัดเป็นเส้นยาว ความกว้าง 4 ซม. พักไว้
3. นำแผ่นแป้งมาทาด้วยเนยละลายให้ทั่วแล้วนำมาซ้อนทับกัน 2 แผ่น
4. นำกล้วยบวชชีที่เตรียมไว้วางลงแผ่นแป้ง ตามแนวขวาง แล้วพับแผ่นแป้งห่อกล้วยเป็นมุมสามเหลี่ยมพับแป้งเป็นมุมสามเหลี่ยมทับไปทับ มาจนสุดแผ่นแป้ง
5. ทาแผ่นแป้งด้วยไข่แดงผสมกับน้ำเพื่อให้แป้งติดกัน นำไปวางลงบนถาดอบ ทาหน้าฟิโล
ด้วยเนยสดละลายให้ทั่วและไข่แดง
6. นำฟิโลเข้าอบ จนกระทั่งสุกใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที นำออกจากเตาอบ
7. นำฟิโลกล้วยบวชชี จัดวางลงในจานเสิร์ฟ เสิร์ฟพร้อมซอสราสเบอรี่ วิปปิ้งครีม แต่งหน้าด้วยสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
ส่วนอาหารนั้น ผมสั่ง หอยนางรมจากฝรั่งเศส มากิน ตัวไม่ใหญ่นักไม่เหมือนกับหอยที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ที่นี่รสชาติเค็ม โดยกินแบบเย็น ๆ กับซอสที่เปรี้ยวหรือซอสที่มีน้ำส้มสายชูที่ทำจากไวน์ แล้วใส่หอมแดงสับเข้าไป อร่อยได้กลิ่นอายของทะเลเวลาเราเคี้ยวเลยครับ
จากนั้นผมสั่ง ขากบทอดอบกระเทียมแบบฝรั่งเศส มาเพิ่มอีกหนึ่งจานอร่อยมากเลยครับ ส่วนเพื่อนผมสั่ง ตับห่านเย็น มากินแบบเย็น ๆ ส่วนหลานชายของผมสั่ง ตับห่านทอด อาหารประเภทตับห่านถ้ากินแบบเย็น ๆ จะต้องกินกับขนมปังปิ้งแผ่นบาง ๆ ซึ่งที่นี่เอาผ้าเช็ดมือที่พับมาอย่างสวยงามห่อมาให้ เพื่อที่จะทำให้ขนมปังยังมีความร้อนอยู่ จะได้กินอย่างอร่อย มี หอยทากในซอสเนยกระเทียม ด้วยนะครับ จานนี้เขาทำได้รสชาติเข้มข้นดีครับ กลิ่นเนยและกระเทียมหอมมาก
หลังจากนั้นเราก็สั่งสเต๊กเนื้อมากินเพียง 2 ชิ้น เพราะชิ้นใหญ่ครับ เป็น สเต๊กเนื้อสันในกับซอส ส่วนอีกชิ้นซึ่งเป็นส่วนที่ติดกระดูกมาด้วย ทั้ง 2 จาน สามารถกินกันได้ประมาณ 3–4 คน สำหรับสเต๊กเนื้อสันในกับซอส เป็นเนื้อสันในที่เอาไปหมัก ห่อด้วยกระดาษ แล้วจึงนำเข้าเตาอบ พอนำออกมาจะได้เนื้อที่สียังแดง ๆ อยู่ เขาก็จะมาหั่นสเต๊กให้เราข้าง ๆ โต๊ะเลยครับ แล้วเสิร์ฟด้วยซอสต่าง ๆ ทั้งซอสพริกและซอสมะเขือเทศ ผมรู้สึกว่าเนื้อสเต๊กนุ่ม หอม อร่อยมาก อาหารจานนี้กินกับหน่อไม้ฝรั่งจากประเทศฝรั่งเศส เป็นหน่อไม้ฝรั่งสีขาวราดมากับซอสฮอแลนเดซที่ทำจากไข่แดงกับเนย จะเข้ากันดีครับ
ที่นี่มี มันบด ด้วยครับ เขาไม่เรียกว่ามันบดเฉย ๆ แต่จะเรียกว่า วิปโปเตโต้ เพราะลักษณะรูปร่างจะเละกว่ามันบดธรรมดา ใส่ครีม เนย เกลือ พริกไทย เข้าไป รสชาติดีครับ
ผมและเพื่อน ๆ สั่งขนมมากินเพิ่ม ความจริงแล้วร้านอาหารฝรั่งเศส เขาจะต้องมีของหวานที่เป็นฝรั่งเศส เรียกว่า ทาร์ตตาแต็ง คล้าย ๆ ทาร์ตแอปเปิล แต่ที่นี่เขาไม่มี แต่เขาให้เราสั่ง ขนมนูการ์เย็นกับผลไม้เสิร์ฟกับซอสคาราเมล มาแทนทาร์ตตาแต็ง อร่อยดีครับ
มีขนมอีกชนิดหนึ่งเขาเรียกว่า ขนมอบแอปเปิลในแป้งฟิโล กินกับไอศกรีมวานิลลาที่ทางร้านทำเอง ขนมทั้ง 2 เมนูนี้อร่อยครับ โดยเฉพาะขนมนูการ์เย็นของเขาทำได้ดี เป็นอันว่าอาหารมื้อนี้สำหรับผมสุดยอดของความอร่อยครับ.
ตับห่านเย็น - ชิมให้เป็น
สำหรับเมนู ตับห่าน โดยมากแล้วจะชอบกินตับห่านที่สดแล้วเอามาทอด เสร็จแล้วต้องมีซอสที่เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เข้มข้น เพื่อจะตัดความเลี่ยน แต่ความจริงแล้วตับห่านเอาไปทำเป็นเทอร์รีนหรือเอาไปตุ๋นแล้วทำให้เย็น จากนั้นหั่นออกมาเป็นชิ้นกลม ๆ ก็ได้นะครับ ซึ่งถ้าคนที่กินเป็นจริง ๆ และชอบตับห่าน และถ้าเขาทำอาหารเป็นอีกด้วย จะเลือกกินตับห่านเย็นที่เป็นเทอร์รีน เพราะจะได้รสชาติที่หอม อร่อยยิ่งขึ้นครับ
ลักษณะของอาหารจานนี้จะเหมือนกินเนยผสมตับห่าน เพราะว่ามีไขมันอยู่ในตับห่านแต่ไม่มีเนยอยู่เลย ใส่แค่เกลือ พริกไทย แล้วก็เครื่องเทศแห้ง ๆ ของฝรั่งเข้าไป เพียงเท่านี้ก็อร่อยแล้วครับ
ส่วนวิธีการทำให้เป็นท่อนกลม ๆ เป็นการทำที่ต้องมีความพิถีพิถันมาก และถ้าเขาทำเป็นแล้วจะออกมาสีสวยและไม่มีน้ำมันที่เคลือบอยู่ในนั้นเลย ตับห่านจะกลายเป็นเนื้อครีมคล้ายเนยที่เอาไปปั่นตับบด โดยมีการปรุงรสด้วย เกลือ พริกไทย แล้วก็เครื่องเทศเท่านั้น อาหารจานนี้กินกับขนมปังปิ้ง โดยจะกินแบบแห้ง ๆ เพราะว่าตัวตับห่านเย็นนั้นจะมีความมัน ความหอม ความอร่อยอยู่แล้ว ที่ผมเลือกกินตับห่านเย็น เพราะว่าเป็นอาหารที่ทำยาก ถ้าคนทำเป็นก็จะทำได้ดี ถ้าคนทำไม่เป็นก็จะทำไม่อร่อยเลยครับ
ฟิโลกล้วยบวชชี - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงกล้วยบวชชี
-หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
-น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง
-เกลือป่น 1 ช้อนชา
-กล้วยหอมปอกเปลือก 4 ลูกหั่นเป็นชิ้นหนา
-มะพร้าวทึนทึก 1 ถ้วยตวงขูดเป็นเส้นแล้ว
วิธีทำ
1. นำหม้อใส่หัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือ นำขึ้นตั้งเตาต้มให้เดือด แล้วหรี่ไฟลงเคี่ยวน้ำกะทิให้ข้นขึ้น ปิดไฟ พักไว้
2. นำกล้วยหอม มะพร้าวทึนทึก ลูกเกด ลงคลุกเบา ๆ ในน้ำกะทิกล้วยบวชชี ให้เข้ากันพักไว้ เป็นไส้ฟิโล
เครื่องปรุงฟิโลกล้วยบวชชี
-แผ่นแป้งฟิโล 1 กล่อง
-เนยสดจืดละลายแล้ว ถ้วยตวง
-กล้วยบวชชี ตามต้องการ
-ไข่แดง 1 ลูก
-น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
-ซอสราสเบอรี่ สำหรับเสิร์ฟ
-วิปปิ้งครีม สำหรับเสิร์ฟ
-สะระแหน่เด็ดใบ สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 220 องศาพักไว้
2. นำแผ่นแป้งฟิโลมาตัดเป็นเส้นยาว ความกว้าง 4 ซม. พักไว้
3. นำแผ่นแป้งมาทาด้วยเนยละลายให้ทั่วแล้วนำมาซ้อนทับกัน 2 แผ่น
4. นำกล้วยบวชชีที่เตรียมไว้วางลงแผ่นแป้ง ตามแนวขวาง แล้วพับแผ่นแป้งห่อกล้วยเป็นมุมสามเหลี่ยมพับแป้งเป็นมุมสามเหลี่ยมทับไปทับ มาจนสุดแผ่นแป้ง
5. ทาแผ่นแป้งด้วยไข่แดงผสมกับน้ำเพื่อให้แป้งติดกัน นำไปวางลงบนถาดอบ ทาหน้าฟิโล
ด้วยเนยสดละลายให้ทั่วและไข่แดง
6. นำฟิโลเข้าอบ จนกระทั่งสุกใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที นำออกจากเตาอบ
7. นำฟิโลกล้วยบวชชี จัดวางลงในจานเสิร์ฟ เสิร์ฟพร้อมซอสราสเบอรี่ วิปปิ้งครีม แต่งหน้าด้วยสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ
หมึกแดง
www.mcdangguide.com

ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001