เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด นอกจากจะชอบซื้อของพื้นเมืองต่างๆ จากตามตลาด อีกอย่างนึงที่ต้องหอบติดไม้ติดมือมาบ้าน ก็คือกล้วยน้ำว้าค่ะ ไปเที่ยวตลาดอัมพวามาหลายหน ทุกหนที่ไปเป็นต้องได้หิ้วมาแปดเก้าหวี ที่ซื้อเยอะก็เพราะที่บ้านเนี่ย … นกกินบ้าง … คนกินบ้างค่ะ ซื้อกล้วยน้ำว้าตามต่างจังหวัดเนี่ย ราคาไม่แพงเลยนะคะ เห็นตามซุปเปอร์หวีละยี่สิบสามสิบบาท ตามตลาดทั่วไปก็หวีละสิบห้าบาทขึ้นไปทั้งนั้น ไม่มีทางเลือกก็ต้องซื้อกินนะคะ ก็อย่างว่า … กว่าเค้าจะขนส่งมาจนถึงเรา มันก็เสียค่าใช่จ่ายไปเยอะ ก็ต้องให้กำไรเค้าบ้างหล่ะค่ะ แต่เมื่อไปถึงแหล่งแล้ว ก็ขอหอบกลับบ้านมาหลายๆหวีหน่อยค่ะ ด้วยความงก ไปอัมพวามา พอเห็นร้านขายกล้วยที่ตรงริมน้ำ เขียนไว้ว่า 3 หวี 20 ก็เลยแวะเค้าไปเลือกซะหน่อย มองดูแล้วก็หวีสวยดีค่ะ เลือกลูกที่มันกลมๆหน่อย เพราะทุกหนที่ซื้อกล้วยลูกกลมๆเนี่ย จะออกมาไส้เหลืองแล้วก็หวานทุกครั้งเลยค่ะ พอซื้อเสร็จจ่ายเงินเรียบร้อย หันไปเห็นกล้วยหักมุกแขวนอยู่ข้างๆ 2 หวี มีปากกาเขียนไว้บนลูกกล้วยว่า 20 บาท ก็เลยถามเจ้าของร้านว่าเท่าไหร่ พี่เค้าคงเห็นว่าซื้อกล้วยน้ำว้าไปเยอะแล้วมั๊งค่ะ แกก็เลยบอกว่าหวีละ 15 บาท เอาไปสองหวีเลยนะ … เวลาซื้อของแล้วเลือดขึ้นหน้าค่ะ สองหวี … ก็สองหวีจ้า ได้มาสองหวี ขนาดไม่เท่ากัน ก็เลยบังคับแหม่ม Mamchan ว่า … แหม่มๆ เอาไปหนึ่งหวี พี่ให้ … เอาหวีใหญ่ไปนะ เพราะบ้านพี่อยู่กันสามคนเอง จริงๆ ไม่ค่อยคุ้นเคยกับกล้วยหักมุกเลยนะคะ ไม่เคยทำขนมด้วยกล้วยหักมุกมาก่อน แต่เป็นคนชอบกินกล้วยหักมุกย่างค่ะ ชอบกินแบบลูกนิ่มๆ สุกจัดๆหน่อย เพราะว่ามันหอมหวานดีด้วย สมัยโบราณอาหารรสที่เห็นว่าไม่แสลง คนป่วยกินได้ ก็คือ กล้วยหักมุกย่างนั่นเองเคยอ่านหนังสือเล่มนึงนานมาแล้ว เค้าเล่าว่า สมัยตอนที่ฝรั่งเศสเอาเรือรบมาปิดปากแม่น้ำของเราตอนปี ร.ศ. ๑๑๒ ประเทศไทบจำต้องยินยอมเสียสละกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้นทั่วไปในดินแดนทางฝั่งซ้าย ฟากตะวันออกของแม่น้ำโขง รวมถึงบรรดาเกาะทั้งหลายในแม่น้ำนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ห้าเสียพระราชหฤทัยเป็นอันมาก ทรงล้มเจ็บประชวรจนไม่ยอมเสวยพระโอสถ ไม่ยอมเสวยอะไรทั้งสิ้น ในขณะประชวรเวลาที่ฟื้นพระองค์เป็นคราวๆ ตอนนั้นท่านได้ทรงพระราชนิพนธ์โคลงสี่สุภาพเอาไว้ค่ะ ช่วงที่ท่องได้ขึ้นใจเป็นช่วงท้ายของโคลงอันนี้
” กล้วยเผาเหลืองแก่ก้ำ เกินพระ ลักษณ์นา
แรกก็ออกอร่อยจะ ใคร่กล้ำ
นานวันยิ่งเครอะคระ กลืนยาก
ทนจ่อซ่อมจิ้มจ้ำ แดกสิ้นสุดใบ”
หวีใหญ่ยังเขียวๆอยู่ ยกภาระให้แหม่มไปค่ะ ของพี่ก้อยหวีเล็กกว่า เริ่มเหลืองๆแล้ว
ตอนดึกๆหิวค่ะ ลงไปกินข้าวต้มมัดที่ซื้อมาจากอัมพวาไปมัดนึง เห็นกล้วยหักมุกที่ซื้อมาเริ่มเหลืองๆ จับดูข้างในนิ่มๆแล้วค่ะ ก็เลยลองปลิดมากินไปลูกนึง เป็นหนแรกที่พี่ก้อยกินกล้วยหักมุกสุกแบบสดๆนะคะ อร่อยดีค่ะ เนื้อเค้าจะฟูๆ แต่เหนียวหนึบ หอมแล้วก็หวานอ่อนๆ พอวันจันทร์กล้วยเริ่มสุกไปครึ่งหวีแล้ว … หาทางทำอะไร เล่นๆ ดีกว่า เพราะถ้าปล่อยไว้ สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นกล้วยหักมุกย่างเหมือนเคยค่ะ พี่ก้อยตั้งใจทำกล้วยอบดีกว่าค่ะ Baked Banana เป็นเมนูของหวานที่ทำบ่อยๆ เวลาไปต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ เพราะเครื่องเคราไม่มากมาย แถมใช้ไมโครเวฟทำได้ด้วยค่ะ ปรกติจะใช้กล้วยหอมทำ แต่หนนี้ลองกล้วยหักมุกดูซิ จะออกมาเป็นยังไง ส่วนน้ำตาลปรกติเนี่ยจะใช้ brown sugar ค่ะ แต่หนนี้
ขอลองใช้น้ำตาลมะพร้าวสุดหอมอันที่เพิ่งซื้อมานี้ก็แล้วกันค่ะ
จัดการหาชามทนไฟนะคะ … ตัดเนยเป็นชิ้นเล็กๆ เกลี่ยให้ทั่วก้นชาม … โรยด้วยน้ำตาลมะพร้าว
มาเริ่มทำกันเลย ก่อนที่แดดจะหมดไปอดถ่ายรูปค่ะ … ลูกแรก … ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ
ลอกเส้นด้านข้างลูกออกให้เกลี้ยงนะคะ จะทำให้น่าทานขึ้น
สามลูกวางลงไปบนชาม อบ
มะนาวปอกผิวออกซักครึ่งลูก แล้วซอยให้เป็นชิ้นเล็ก ใครจะใช้ที่ขูดผิวมะนาวก็ได้นะคะเหมือนกัน แต่พอดีขี้เกียจล้างค่ะ เลือกมะนาวลูกสีเขียวเพราะผิวเค้าจะหอมค่ะ มะนาวเก่าๆ ลูกเหลืองๆ ไม่มีกลิ่นแล้วนะคะ แล้วก็โรยผิวมะนาวให้ทั่วๆ กล้วย
โรยเกลือลงไปบางๆ ค่ะ … เกลือจะช่วยให้รสจัดขึ้น ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว
บีบมะนาวลงไปบนกล้วยทั้งสามลูก … น้ำมะนาวไหลไปที่ก้นชามอบ
ตัดเนยวางลงบนกล้วยแต่ละใบ … แล้วก็เอาเข้าไมโครเวฟไฟแรงสุดเลยนะคะ
แอบเอาออกมาดูหน่อย … เนยเริ่มละลายเยิ้มมมมมมมมม
เอาเข้าอบต่อค่ะ … ซักพักเอาออกมา เพื่อจะตักน้ำที่ได้จากเนยละลาย แล้วก็น้ำมะนาว ราดกล้วย เบ็ดเสร็จอบกล้วยด้านแรก ใช้เวลาทั้งหมด 5 นาที ค่ะ
พลิกกล้วยค่ะ เอาด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วก็ตักน้ำราดอีก … ทีนี้เอาอบต่ออีก 5 นาที ได้เลยค่ะ ไม่ต้องเอาออกมาราดน้ำ เพราะกล้วยด้านล่างที่ขึ้นมาอยู่ด้านบน มันชุ่มฉ่ำอยู่แล้ว จะเห็นว่ากล้วยเป็นสีเข้มขึ้นสวยเชียวค่ะ
เอากล้วยขึ้นมาใส่จานไว้ก่อน น้ำที่เหลืออยู่ในชามอบจะออกใสๆ นะคะ เพราะในนั้นมีแค่น้ำมะนาวกับเนย เราใส่น้ำตาลมะพร้าวตอนอบไปนิดเดียว ก็เลยเอาน้ำตาลมะพร้าวใส่เพิ่มลงไปประมาณเกือบๆ ช้อนโต๊ะ …. เอาไปคนๆ ให้ละลายเข้ากับน้ำในชามอบ ละลายค่ะ เพราะมันร้อน ออกมาได้ความหนืดขนาดนี้ … ไม่หวานมาก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jekyll-and-hyde
” กล้วยเผาเหลืองแก่ก้ำ เกินพระ ลักษณ์นา
แรกก็ออกอร่อยจะ ใคร่กล้ำ
นานวันยิ่งเครอะคระ กลืนยาก
ทนจ่อซ่อมจิ้มจ้ำ แดกสิ้นสุดใบ”
หวีใหญ่ยังเขียวๆอยู่ ยกภาระให้แหม่มไปค่ะ ของพี่ก้อยหวีเล็กกว่า เริ่มเหลืองๆแล้ว
ตอนดึกๆหิวค่ะ ลงไปกินข้าวต้มมัดที่ซื้อมาจากอัมพวาไปมัดนึง เห็นกล้วยหักมุกที่ซื้อมาเริ่มเหลืองๆ จับดูข้างในนิ่มๆแล้วค่ะ ก็เลยลองปลิดมากินไปลูกนึง เป็นหนแรกที่พี่ก้อยกินกล้วยหักมุกสุกแบบสดๆนะคะ อร่อยดีค่ะ เนื้อเค้าจะฟูๆ แต่เหนียวหนึบ หอมแล้วก็หวานอ่อนๆ พอวันจันทร์กล้วยเริ่มสุกไปครึ่งหวีแล้ว … หาทางทำอะไร เล่นๆ ดีกว่า เพราะถ้าปล่อยไว้ สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้นกล้วยหักมุกย่างเหมือนเคยค่ะ พี่ก้อยตั้งใจทำกล้วยอบดีกว่าค่ะ Baked Banana เป็นเมนูของหวานที่ทำบ่อยๆ เวลาไปต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ เพราะเครื่องเคราไม่มากมาย แถมใช้ไมโครเวฟทำได้ด้วยค่ะ ปรกติจะใช้กล้วยหอมทำ แต่หนนี้ลองกล้วยหักมุกดูซิ จะออกมาเป็นยังไง ส่วนน้ำตาลปรกติเนี่ยจะใช้ brown sugar ค่ะ แต่หนนี้
ขอลองใช้น้ำตาลมะพร้าวสุดหอมอันที่เพิ่งซื้อมานี้ก็แล้วกันค่ะ
จัดการหาชามทนไฟนะคะ … ตัดเนยเป็นชิ้นเล็กๆ เกลี่ยให้ทั่วก้นชาม … โรยด้วยน้ำตาลมะพร้าว
มาเริ่มทำกันเลย ก่อนที่แดดจะหมดไปอดถ่ายรูปค่ะ … ลูกแรก … ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากจริงๆ
ลอกเส้นด้านข้างลูกออกให้เกลี้ยงนะคะ จะทำให้น่าทานขึ้น
สามลูกวางลงไปบนชาม อบ
มะนาวปอกผิวออกซักครึ่งลูก แล้วซอยให้เป็นชิ้นเล็ก ใครจะใช้ที่ขูดผิวมะนาวก็ได้นะคะเหมือนกัน แต่พอดีขี้เกียจล้างค่ะ เลือกมะนาวลูกสีเขียวเพราะผิวเค้าจะหอมค่ะ มะนาวเก่าๆ ลูกเหลืองๆ ไม่มีกลิ่นแล้วนะคะ แล้วก็โรยผิวมะนาวให้ทั่วๆ กล้วย
โรยเกลือลงไปบางๆ ค่ะ … เกลือจะช่วยให้รสจัดขึ้น ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว
บีบมะนาวลงไปบนกล้วยทั้งสามลูก … น้ำมะนาวไหลไปที่ก้นชามอบ
ตัดเนยวางลงบนกล้วยแต่ละใบ … แล้วก็เอาเข้าไมโครเวฟไฟแรงสุดเลยนะคะ
แอบเอาออกมาดูหน่อย … เนยเริ่มละลายเยิ้มมมมมมมมม
เอาเข้าอบต่อค่ะ … ซักพักเอาออกมา เพื่อจะตักน้ำที่ได้จากเนยละลาย แล้วก็น้ำมะนาว ราดกล้วย เบ็ดเสร็จอบกล้วยด้านแรก ใช้เวลาทั้งหมด 5 นาที ค่ะ
พลิกกล้วยค่ะ เอาด้านล่างขึ้นด้านบน แล้วก็ตักน้ำราดอีก … ทีนี้เอาอบต่ออีก 5 นาที ได้เลยค่ะ ไม่ต้องเอาออกมาราดน้ำ เพราะกล้วยด้านล่างที่ขึ้นมาอยู่ด้านบน มันชุ่มฉ่ำอยู่แล้ว จะเห็นว่ากล้วยเป็นสีเข้มขึ้นสวยเชียวค่ะ
เอากล้วยขึ้นมาใส่จานไว้ก่อน น้ำที่เหลืออยู่ในชามอบจะออกใสๆ นะคะ เพราะในนั้นมีแค่น้ำมะนาวกับเนย เราใส่น้ำตาลมะพร้าวตอนอบไปนิดเดียว ก็เลยเอาน้ำตาลมะพร้าวใส่เพิ่มลงไปประมาณเกือบๆ ช้อนโต๊ะ …. เอาไปคนๆ ให้ละลายเข้ากับน้ำในชามอบ ละลายค่ะ เพราะมันร้อน ออกมาได้ความหนืดขนาดนี้ … ไม่หวานมาก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=jekyll-and-hyde
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001