น้ำ ซ่าหรือน้ำอัดลมโบราณ ได้ห่างหายจากสังคมมานานนับ 10 ปี อาจเรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่ตายไปจากตลาดแล้วก็ได้ เพราะปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ยังทำน้ำซ่าเหลืออยู่เพียง 5 รายเท่านั้น เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องเลิกกิจการไป เพราะเป็นสินค้าไม่ได้รับความนิยมเมื่อเทียบกับน้ำอัดลมจากต่างประเทศหรือใน ประเทศรายใหญ่ ราคาสินค้าต่ำมากขายได้เต็มที่ก็ 3-5 บาทต่อแก้วเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีทายาทเข้ามาสืบทอด | |||||
ความน่าสนใจอยู่ที่ว่าเพราะเหตุใด ที่นักธุรกิจที่ประสบวิกฤติเศรษฐกิจเป็น NPL และเกือบถูกฟ้องล้มละลาย กลับมาหยิบสินค้าที่กำลังตายไปจากตลาด ที่เขาบอกว่ามีโอกาสนั้นคืออะไร และทำอย่างไร ? สิ่งสำคัญเขาเชื่อมั่นในระบบแฟรนไชส์ที่จะช่วยสร้างเครือข่าย โดยนำจุดดีมาใช้ ปรับจุดอ่อนให้เหมาะกับสภาพการลงทุนในไทย และล่าสุด เตรียมรีโนเวทธุรกิจใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ภาพลักษณ์ แพคเกจจิ้ง ฯลฯ เพื่อนำน้ำอัดลมโบราณเจาะกลุ่มวัยรุ่นและโกอินเตอร์ *** ฟื้นโปรดักส์โบราณ ชูสุขภาพเจาะวัยโจ๋ *** เขา บอกกับว่า โอกาสที่เขาเห็นคือโปรดักส์ น้ำหวานรสซ่าอย่างไรก็ต้องคู่กับประเทศเมืองร้อนอย่างไทย และการรับรู้ก็มีแม้อาจจะน้อยนิดหรือรู้เฉพาะคนรุ่นเก่าเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสในการสร้างการรับรู้โดยเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ โจทย์ที่ท้าทายคือทำอย่างไรให้ “โดน” คนกลุ่มนี้ โดยชูเรื่องคุณภาพ สุขภาพ ให้เห็นจับต้องได้ อย่างแรกที่ทำคือ การพัฒนาวัตถุดิบใหม่ทั้งหมด มุ่งเน้นวัตถุดิบที่ได้คุณภาพ ผ่านการรับรององค์การอาหารและยา (อย.) อุปกรณ์ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งวัตถุดิบคุณภาพที่ใช้จะเห็นว่าสารให้ความหวานทั่วไปจะใช้น้ำตาลและขัน ฑตสกรณ์ แต่เขาใช้น้ำตาลฟรุตโตส หรือน้ำตาลจากผลไม้ ซึ่งประโยชน์คือร่างกายามารถดูดซับได้เร็วในกระแสเลือด ทำให้เกิดความสดชื่นหลังการดื่มได้ทันที อีกทั้งฟรุตโตสไม่สะสมคอเรสเตอรอล ไม่สะสมไขมัน เหมาะกับผู้ควบคุมน้ำหนักและผู้ป่วยเบาหวาน | |||||
จุดอ่อนเนื่องจากเป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาดจะต้องกระตุ้นตลาดอย่างไร ? โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ จุดแข็งสินค้าเหมาะกับประเทศเมืองร้อน นำเสนออย่างไรให้เกิดการยอมรับ ขณะที่คู่แข่งโดยตรงเหลือไม่มาก แต่คู่แข่งทางอ้อมอย่างน้ำอัดลมแบรนด์นอกหรือแบรนด์ไทยบางยี่ห้อ จะไม่ชูเรื่องสุขภาพเมื่อเทียบกับวาสนาน้ำโบราณที่ใช้น้ำตาลฟรุตโตส "น้ำอัดลมโบราณ ไม่ใช่ว่าตลาดไม่รู้จักแต่ที่ล้มหายไปก็เพราะเหตุข้างต้นที่กล่าวมาทำให้คน รุ่นหลังไม่สืบทอดกิจการ รู้สึกเป็นภาระมากกว่าจะทำกำไรหนีไปทำธุรกิจอื่นกันหมด แต่เรามองยังมีจุดขายเพียบแต่ต้องทำการบ้านอย่างหนักว่านำเสนออย่างไรถูกใจ ผู้บริโภค โดยมองความต้องการก่อนจะทำอะไร ต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนว่าเขาต้องการอะไร" ***รีโนเวตธุรกิจ นำจุดอ่อน-แข็งระบบนอกปรับใช้*** ทุกวันนี้จะเห็นวาสนาน้ำโบราณหรือไทยซ่า มากกว่า 100 สาขา ซุ้มรูปลักษณ์ไทยๆ ขยายตามทำเลแหล่งชุมชม และงานแฟร์ ออกร้านต่างๆ ซึ่งวิธาน เชื่อว่า การสร้างการรับรู้ในวงกว้าง การขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ทำอย่างไรที่จะนำระบบแฟรนไชส์จากต่างประเทศโดยเฉพาะจากอเมริกานั้นนำมา ปรับใช้ให้เหมาะกับสังคมการลงทุนในไทย "ผมศึกษารูปแบบการลงทุนแบบแฟรนไชส์มานานตั้งแต่เริ่มธุรกิจ แต่พอจะนำมาใช้จริงเราพบจุดอ่อนที่ไม่เหมาะกับการลงทุนในไทยอยู่มาก เพราะส่วนใหญ่ไม่เข้าใจค่าฟี มาร์เก็ตติ้งฟี รอยัลตี้ฟี เราจึงนำมาปรับใช้ด้วยด้วยนำจุดเด่น และจุดอ่อนมาปรับให้เหมาะ" วิธาน บอกว่า จุดแข็งที่ระบบแฟรนไชส์ต่างประเทศเข้มแข็งนั้นคือเรื่องระบบและแบรนด์ ระบบนั้นต้องทำตามที่แฟรนไชซอร์วางไว้ ทั้งการปฏิบัติงาน การแต่งกาย ขั้นตอนการทำ การควบคุมคุณภาพสินค้ามาตรฐานเดียวกันทุกแก้ว ฯลฯ ส่วนแบรนด์ นั้น เขาให้นิยามว่า คือประสบการณ์ของผู้บริโภคในการเรียนรู้โปรดักส์ ทั้งวิธีการบริโภค รสชาติ หาดื่มได้ที่ไหน เพราะหากผู้บริโภครู้มากเท่าไหร่นั้นแสดงถึงความเข้มแข็งของแบรนด์ ซึ่งจุดแข็งนี้ วิธานมุ่งมั่น แต่ยอมรับว่าความล้มเหลวก็มีเกิดขึ้นเช่นกันซึ่งมีตัวเลขสูงถึง 30% ทำให้ขณะนี้เขาได้ชะลอการขายแฟรนไชส์รายใหม่คงที่ 100 กว่าสาขาเท่าเดิม หากมีรายใหม่เกิดขึ้นเขาจะพิจารณาสูงมากให้ความสำคัญกับความตั้งใจและมุ่ง มั่นของผู้เข้ามาลงทุนมีการทดสอบมากมาย เขายอมรับว่ากับเม็ดเงินการลงทุนกับวาสนาน้ำโบราณเพียง 39,000 บาท ย่อมเป็นตัวเลขที่ดึงคนทุกกลุ่มเข้ามาลงทุนได้ง่าย และมีอุปกรณ์ให้ยืมไม่ต้องจ่ายค่ารอยัลตี้ฟี มาร์เก็ตติ้งฟี ยิ่งทำให้การสกรีนผู้ลงทุนต้องเข้มงวดยิ่งขึ้น วิธาน เล่าต่อไปอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรีโนเวทวาสนาน้ำโบราณใหม่ทั้งหมด โดยวางคอนเซ็ปต์เป็นร้านเครื่องดื่มสำหรับวัยรุ่น ที่จะตั้งตามทำเลที่มีวัยรุ่นและชุมชนใหญ่ ทั้งการตกแต่งร้าน แพกเกจจิ้ง การน้ำเสนอจากที่ผ่านมาเครื่องอัดออกซิเจน ที่ทำให้เกิดความซ่ารูปทรงจรวด ก็เปลี่ยนมีหน้าตาที่ทันสมัย น้ำหวานจากโถแก้วทรงโบราณ ก็อยู่ในหลอดรูปทรงทันสมัย "ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา คาดจะสามารถเปิดตัวได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งได้มีการวางคอนเซ็ปต์ไปแล้วนั้น โปรดักส์ก็ต้องมีความหลากหลายขึ้น โดยวัตถุดิบนั้นได้มีการคิดค้นสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้น สามารถนำไปใช้กับเครื่องดื่มหลากหลายประเภท หรือใช้ประกอบอาหารของว่างต่างๆ เช่น ลักษณะราดลงหน้าอาหารของว่างจานนั้นๆ" | |||||
***ผนึก 3 องค์กร สร้างนวัตกรรมใหม่*** วิธาน บอกว่า การที่จะสร้างธุรกิจให้ยั่งยืนต้องไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งขณะนี้เขาได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ทำการวิจัยโปรดักส์ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่จะนำไปใช้กับโปรดักส์ในหลายตัวไม่ว่า จะเป็นเครื่องดื่มรสซ่า สมูทตี้ หรือใช้ราดกับอาหารว่างจานนั้นๆ ทั้งนี้นวัตกรรมโปรดักส์ดังกล่าวจะเป็นการต่อยอดโปรดักส์เดิมที่มี อยู่ให้เกิดความหลากหลาย และเกิดโปรดักส์ใหม่ๆ ด้วยวัตถุดิบที่คิดค้นขึ้น ขณะเดียวกันการส่งเสริมของหน่วยงานดังกล่าว ยังนำกลุ่มผู้ประกอบการไปดูงานยังต่างๆ ประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งวิธาน บอกว่าเป็นการให้ประสบการณ์อย่างมากในการนำมาใช้กับการทำธุรกิจในประเทศ จะเห็นได้ว่าในงานที่เกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม ของต่างประเทศโยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านนั้นวัตถุดิบสำคัญคือผลไม้ ซึ่งถ้าหากผู้ประกอบการไทยนำมาปรับใช้จะได้ประโยชน์และได้เปรียบอย่างมาก ด้วยความหลากหลายชนิดของผลไม้ และปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ มากขึ้น วิธาน กล่าวว่า สำหรับวาสนาน้ำโบราณหรือไทยซ่านั้น เมื่อมีการรีโนเวทใหม่จะมีการนำนวัตกรรมวัตถุดิบนี้นำไปใช้กับโปรดักส์ใน ร้านด้วย ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงจะสามารถเป็นแฟรนไชส์ที่เต็มรูปแบบทั้งระบบ แบรนด์ ความหลากหลายของโปรดักส์ และมองถึงอนาคตภายภาคหน้าที่จะ น้ำอัดลมโบราณก้าวไกลถึงต่างประเทศ เพราะเชื่อมั่นกลยุทธ์ Blue Ocean หรือการสร้างความแตกต่างในตลาดจะสามารถใช้ได้ดีกับโปรดักส์นี้ และไม่แน่ว่าจะเห็น Thai Drink The Best ภายใน 5 ปีนี้ก็เป็นได้ ! |
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001