at esae ) กลางซอยเกษมสันต์ 2 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ ในบรรยากาศสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ให้คนมานั่งสั่งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ คิดหาไอเดียการทำงานใหม่ ๆ และยังสามารถชอปปิงได้หากชื่นชอบเสื้อผ้าเนื้อเบาสบาย ตามประสาคนเสพติดรสนิยม ตั้งแต่เวลา 08.00-18.30 น.
“โบว์อยากสร้างความสุขให้คน ความสุขสงบไม่ฉาบฉวยหรือหรูหราเกินตัว อุปนิสัยคนเมืองยังติดภาพที่สวยหรูทำสิ่งใดต้องเท่มีเสน่ห์ร้านนี้มีครบ แต่บรรยากาศอิงจังหวะชีวิตเงียบสงบของแถบชานเมือง โบว์เอาข้อดีของทั้งสองสังคมที่ดูเหมือนไปด้วยกันไม่ได้มารวมกัน ร้านนี้เปิดโอกาสให้คนสัมผัสถึงตัวตนของโบว์และความปรารถนาดีที่อยากให้คนเข้าใจว่า ไลฟ์สไตล์แบบนี้น่าสนใจ” สาวผู้หลงรักศิลปะเผยถึงตัวตนของร้าน
แม้เรียนจบด้านการวิเคราะห์วิจัยสื่อวิจารณ์หนังจากประเทศอังกฤษ แต่หลักสูตรการทำอาหารกลับอยู่ในสายเลือด สามารถหยิบจับมาใช้ยามฉุกเฉินได้ ซึ่งสถาบันสอนอาหารดีที่สุดคือต่างประเทศนั่นเอง “การใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเหมือนเป็นภาคบังคับ ต้องทำอาหารกินเอง เวลาโบว์ทำอาหารให้เพื่อนกิน หลายคนชมว่ารสชาติอร่อยแทบไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับหน้าตาอาหาร ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะซึมซับมาจากคุณยาย ซึ่งทำอาหารละเอียดมาก ค่อนข้างจู้จี้ เช่น น้ำกะทิไม่ซื้อแบบกล่องสำเร็จ แต่ใช้มะพร้าวที่ขูดเองกับมือ
พอมาเปิดร้านต้องเรียนรู้มากขึ้น ลำพังอร่อยอย่างเดียวไม่พอ จำเป็นต้องวิจัยตลาด รู้ต้นทุนกำไร ดังนั้นการจ้างเชฟมองว่าไม่ครอบคลุมต้นทุนเท่าไร โบว์จึงตัดสินใจเปิดตำราทำขนมคิดสูตรซิกเนเจอร์ที่มีเฉพาะร้าน หนึ่งในนั้นคือ “เรด เวลเวค ชีสเค้ก บราวนี่” ขนมลูกผสมระหว่างชีสเค้กกับบราวนี่ หน้าตาเหมือนลายหินอ่อนสีแดงขาว รสชาติความเค็มหวานมันยังไปด้วยกันได้ดี “โบว์เกิดที่ประเทศเยอรมนี กินช็อกโกแลตแทนนมตั้งแต่เด็ก ๆ ลิ้นจึงติดรสชาติของช็อกโกแลต ทำให้แยกแยะได้ว่าใช้วัตถุดิบชนิดใดดีหรือไม่ดี ซึ่งจุดยืนของโบว์เน้นใช้ของดี ไม่ใช้วัตถุดิบอื่นมาแต่งโน่นนี่” สาวบุคลิกคล่องตัวเล่า
วัตถุดิบที่ต้องใช้ ส่วนของ บราวนี่ มีแป้งอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1 ถ้วย, เกลือ 1/4 ช้อนชา, ไข่ไก่ 2 ฟอง, แป้งสาลี 3/4 ถ้วย, ผงช็อกโกแลต 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา, วานิลลา 1 ช้อนชา ครีมชีส ใช้ครีมชีส 8 ออนซ์, ไข่ไก่ 1 ฟอง, น้ำตาล 3 1/2 ช้อนโต๊ะ และวานิลลา 1 ช้อนชา
ลงมือทำบราวนี่ด้วยการปั่นเนยและน้ำตาลจนเป็นปุยนุ่น แล้วตอกไข่ไก่ 2 ฟองปั่นให้เข้ากัน เหยาะวานิลลาน้ำ 2 ช้อนชา เสร็จแล้วใส่ตัวชูโรงอย่างน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนชาและเกลือ 1 ช้อนชา ตีให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วร่อนโกโก้ลงตามแล้วตีอีกครั้ง ใส่สีผสมอาหารสีแดงประมาณ 2-3 ช้อนชาก่อนใส่แป้งอเนกประสงค์ ห้ามลัดขั้นตอนนี้เด็ดขาด เพราะสังเกตความเข้มข้นของสียาก สังเกตให้สีแดงเข้มกว่าเฉดธรรมดานิดหน่อย เวลาอบออกมาจะกำลังพอดี จากนั้นร่อนแป้งอเนกประสงค์ตีรวมกันอีกครั้ง ตักส่วนผสมแยกไว้ 3 ช้อนเผื่อแต่งหน้า ส่วนที่เหลือเทใส่ถาดแก้วรองด้วยกระดาษไข เพื่อไม่ให้ติดเวลาอบ
ส่วนหน้าที่เป็นครีมชีส เมื่อครีมชีสมีความเย็นเท่าอุณหภูมิห้องแล้วใช้พายคนให้กระจายตัว ปั่นเข้ากับน้ำตาลให้เป็นปุยนุ่น จากนั้นใส่ไข่แล้วปั่นพอเข้าเนื้อ ปาดลงเป็นหน้าบราวนี่ นำส่วนผสมที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ เหยาะลงประมาณ 6-7 ก้อน ใช้ตะเกียบปลายแหลมเกลี่ยให้เป็นริ้วคล้ายลายหินอ่อน นำเข้าเตาอบ 30 นาที ด้วยอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เสร็จแล้วตัดเสิร์ฟเป็นคำรับประทานร้อน ๆ กับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ.
‘ช้องมาศ’
credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/261222/ชีวิตเนิบช้ากับ+‘เรด+เวลเวค+ชีสเค้ก+บราวนี่’
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001