สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

พายบลูเบอร์รี่' หวานเปรี้ยวโดนใจ สเต็ปง่ายๆ ทำเองได้ไม่กี่นาที …!


กลับมาพบกับ Trend can do  ทุกวันศุกร์แบบนี้เช่นเคย สัปดาห์นี้เรายังคงเอาใจคนชอบทานของหวานกันโดยเฉพาะใครที่ชอบทานพายเป็น ชีวิตจิตใจ  เรามีไอเดียการทำพายบลูเบอร์รี่แสนง่ายมาฝากกัน รับรองว่าคุณไม่ต้องเสียเวลาทำให้ยุ่งยากซับซ้อนและเลือกใช้อุปกรณ์ล้นมือจน เหนื่อยใจ  คุณอาจทำไว้ทานเล่นอยู่บ้าน ทำฝากเพื่อนหรือทำเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์หวานๆ ให้คนพิเศษก็ไม่เลวนะ พร้อมแล้วออกสตาร์ตกันเลย ...
วัตถุดิบ
1. ขอบเปลือกขนมปังกรอบแบบหยาบๆ
2. บลูเบอร์รี่พาย 20 ออนซ์ หรืออาจเตรียมรสเบอร์รี่พายที่ชอบอื่นๆ ก็ได้
3. ครีมชีส 8 ออนซ์
4. น้ำตาล 1/2 ถ้วย
5. ไข่ 2 ฟอง
6. วิปครีมเย็น 8 ออนซ์ (ไว้เป็นออปชั่นเสริม)
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. ชามขนาดกลาง 1 ใบ
2. ช้อน 1 คัน
3. ตู้อบพาย
4. แผ่นกระดาษอบขนาดกลาง 1 แผ่น (แผ่นที่ใช้อบขนมปัง)
วิธีทำ
1. นำครีมชีสและน้ำตาลตีผสมให้เข้ากัน ให้เป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
2. เทไข่ไก่ลงไป 2 ฟอง แล้วตีให้เข้ากันอีกครั้ง เนื้อที่ได้จะดูเนียนนุ่มน่ารับประทาน

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
3. เทลงในเปลือกขนมปังกรอบให้ทั่ว เกลี่ยให้เท่ากัน

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
4. วางพายลงบนแผ่นกระดาษอบ

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
5. จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 325 Degrees F ทิ้งไว้ประมาณ 25-30 นาที

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
6. นำออกมาจากเตาอบ แล้วจะเห็นพายที่สวย เนียน สมบูรณ์แบบสุดๆ

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
7. เทบลูเบอร์รี่ราดบนหน้าพายแล้วเกลี่ยให้ทั่ว อาจปรุงแต่งด้วยวิปครีมเย็นได้ ถ้าคุณต้องการ

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
8. คุณสามารถทานได้เลย หรือจะปล่อยชิลทิ้งไว้ตลอดทั้งคืนในตู้เย็นก็ยังสามารถนำมาทานได้

ขั้นตอนการทำง่ายๆ
ใครที่อยากทานพายบลูเบอร์รี่อยู่ตอนนี้ ไม่ต้องลงทุนซื้อให้เปลืองตังค์ แค่ลงมือทำก็อร่อยฟินเองได้ง่ายๆ …
ขอบคุณ : www.wikihow.com 

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/444775

Read More...


‘สาลี่มะพร้าวอ่อน’ กลิ่นหอมๆ..รับเงินงาม


ขนมอบแบบไทย ๆ ที่ขึ้นชื่อก็จะมี ขนมไข่ ที่ปัจจุบันมีรูปแบบหลากหลายแล้วแต่ผู้ขาย-ผู้ผลิตจะสร้างสรรค์ขึ้นมา แต่ก็มีขนมอบแบบฝรั่งอีกแบบหนึ่งที่มีผู้ขายผลิตขึ้นมาให้กลายเป็นขนมอบแบบไทย ๆ อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับความนิยม และเป็นที่ต้องการของผู้ทานอย่างมากมาย อย่าง “ขนมสาลี่มะพร้าวอ่อน” ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...

เกศินี สาขำ หรือ ป้าเปี๊ยก เจ้าของร้าน “บ้านขนมพลอยลดา” ซึ่งมีขนมอบขายมากมายหลากหลาย ในตลาดน้ำคลองลัดมะยม เล่าว่า ขายขนมอบอย่าง “สาลี่มะพร้าวอ่อน” มานานกว่า 30 ปี เดิมทำทั้งขายส่ง และขายเองในตลาดน้ำวัดไทรมาก่อน แต่ปัจจุบันตลาดน้ำวัดไทรขายไม่ค่อยดี ดังนั้น เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จึงเปลี่ยนที่มาขายที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม จนกระทั่งปัจจุบัน

“สูตรการทำสาลี่มะพร้าวอ่อนนั้น เป็นสูตรดั้งเดิมของครอบครัว ทำมาตั้งแต่รุ่นแม่ ได้ซึมซับมาตลอด และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน” เกศินี กล่าว

อุปกรณ์ในการทำสาลี่มะพร้าวอ่อน หลัก ๆ ก็มี เครื่องตีแป้ง, เตาอบ, ถ้วยพิมพ์, ที่ร่อนแป้ง, ที่ตีไข่, ถาด, กะละมัง, ชุดช้อนชา, ชุดถ้วยตวง และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ

ส่วนผสมในการทำสาลี่มะพร้าวอ่อน มี แป้งพัดโบก 600 กรัม, ไข่ไก่ 10 ฟอง, น้ำตาลทราย 800 กรัม และมะพร้าวขูดขาว 800 กรัม

วิธีทำ ให้วอร์มเตาอบ ไฟล่างประมาณ 350 ฟาเรนไฮต์เตรียมไว้ก่อน แล้วค่อย ๆ ร่อนแป้งพัดโบกให้ละเอียดเตรียมไว้ จากนั้น ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายให้เข้ากันโดยใช้ความเร็วสูง โดยการตีนี้จะต้องตีให้ไข่ไก่และน้ำตาลทรายเข้าเป็นเนื้อเดียวกันจนฟูขาว และมีลักษณะเป็นครีมข้น ๆ

เสร็จแล้ว ปิดเครื่องตีแป้ง แล้วค่อย ๆ ใส่แป้งลงไปทีละนิด อย่างเบา ๆ เพราะหากใส่แรงมาก ครีมจะยุบตัวลง ใส่แป้งแล้วค่อย ๆ ใส่มะพร้าวขูดขาวตามลงไปอย่างเบา ๆ มือเช่นกัน แล้วใช้ไม้พายพลาสติกค่อย ๆ ตะล่อมให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน

ค่อย ๆ ตักขนมใส่พิมพ์อะลูมิเนียมขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด 3.5X3.5X1.5 นิ้ว ซึ่งรองด้วยกระดาษไข โรยหน้าขนมด้วยมะพร้าวอ่อนเล็กน้อย แล้วใส่เข้าเตาอบ อบไปประมาณ 10 นาที จนขนมด้านล่างสุก หรือสังเกตว่าขนมมีสีเหลืองพอใช้แล้ว จากนั้น ค่อยหรี่ไฟล่างลงเล็กน้อย แล้วปรับไฟบนขึ้นไป 350 ฟาเรนไฮต์ อบไปอีกประมาณ 10-15 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่ขนมสุกพอดี แล้วเอาออกจากเตาอบ ขั้นตอนการอบขนมนี้ต้องใช้ประสบการณ์มากพอสมควร เพราะจะต้องสังเกตขนมให้ดีว่าใช้ได้หรือยัง จากนั้นทิ้งไว้สักพักให้ขนมเย็น แล้วบรรจุใส่ถุงพลาสติกให้เรียบร้อย ขายถุงละ 35 บาท ต่อ1ชิ้น หรือ 3 ชิ้น 100 บาท

นอกจาก “ขนมสาลี่มะพร้าวอ่อน” แล้ว เกศินียังมี “ขนมฝรั่งกุฎีจีน” ขายควบคู่ไปด้วย ซึ่งเกศินี เล่าว่า รูปร่างหน้าตาของ ขนมฝรั่งกุฎีจีน ภายนอกดูไปจะคล้ายกับขนมไข่ แต่ในส่วนของรสชาตินั้นแตกต่าง และอร่อยไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน โดยตัวเนื้อขนมจะสีเหลืองนวล มีความกรอบนอก แต่นุ่มใน มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน โดยหน้าของขนมนั้นจะวางเรียงด้วยลูกเกด, ฟักเชื่อม, พลับอบแห้ง และปิดท้ายด้วยการโรยน้ำตาลทรายเพื่อเป็นการแต่งหน้า-เพิ่มความสวยงาม ซึ่งเป็นการเพิ่มรสชาติให้กับขนมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เกศินี กล่าวว่า สูตรการทำ ขนมฝรั่งกุฎีจีน นี้ ตนได้มาจากการอ่านหนังสือการทำขนม และประยุกต์-ปรับปรุงจนเป็นสูตรของตนเอง ซึ่ง ส่วนผสมของขนมฝรั่งกุฎีจีน หลัก ๆ มี แป้งสาลี 1.4 กก., ไข่เป็ด 27 ฟอง, น้ำตาลทราย 1.3 กก., ผงฟูพอประมาณ, น้ำเปล่าเล็กน้อย และเนยขาวสำหรับทาพิมพ์

วิธีทำขนมฝรั่งกุฎีจีน เริ่มที่ร่อนแป้งสาลี และผงฟูให้เข้าด้วยกันเตรียมไว้ ตีไข่ และน้ำตาลทรายให้เข้ากันจนเป็นครีมสีขาวขึ้นฟู จากนั้นค่อย ๆ ใส่แป้ง แล้วน้ำเปล่าสลับลงไปตีให้เข้ากัน

ตักเนื้อขนมใส่ลงในพิมพ์ขนมทรงกลม ขนาด 3x1 นิ้ว โรยหน้าด้วยลูกเกด หรือฟักเชื่อม หรือพลับอบแห้ง หรือน้ำตาลทราย แล้วนำเข้าเตาอบ ซึ่ง วิธีอบขนม นี้ จะคล้ายกับการอบขนมสาลี่มะพร้าวอ่อนซึ่งได้อธิบายไว้ก่อนหน้าอย่างละเอียดแล้ว โดยเกศินีย้ำว่าการอบขนมต้องใช้ประสบการณ์พอสมควร เพราะต้องหมั่นคอยสังเกตขนมว่าสุกใช้ได้หรือไม่ เมื่อขนมสุกแล้ว นำออกจากเตาอบ ทิ้งไว้สักพักให้ขนมเย็นตัว แล้วบรรจุใส่ถุงพลาสติกถุงละ 4 ชิ้น ขายราคาถุงละ 35 บาท หรือ 3 ถุง 100 บาท

ใครสนใจ “สาลี่มะพร้าวอ่อน-ขนมฝรั่งกุฎีจีน” ต้องการติดต่อ เกศินี สาขำ เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ติดต่อได้ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม โซน 4 (ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 10.00-

17.00 น. หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2413-3419 และ 08-6985-1455.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน

วรัญญู เหมือนเดช : ภาพ

....................................................................................

คู่มือลงทุน...สาลี่มะพร้าวอ่อน

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคาขาย

รายได้ ราคา 35 บาท/ 1 ชิ้น

แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด ชุมชน, งานออกร้าน, ตลาดนัด

จุดน่าสนใจ เป็นขนมอบที่ได้รับความนิยม

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/261538/‘สาลี่มะพร้าวอ่อน’+กลิ่นหอมๆ..รับเงินงาม

Read More...


‘อัญชัน’ แขกรับเชิญ ขนมปังหน้าหมูรูปดอกไม้

 



หลงรักและหลงใหล “ดอกไม้ไทย” เป็นพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจที่ แจน-เจนนิสา คูวินิชกุล ลงแรงปลุกปั้นผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพีชั้นสูงสำหรับดูแลผิวกายและเครื่องหอมภายในบ้าน ขับขานกลิ่นหอมอ่อนโยนของดอกไม้ไทยนานาพรรณ ภายใต้ชื่อ “ปริมมาลัย” ซึ่งแปลว่า “ดอกไม้ผู้เป็นเลิศยิ่ง” นอกเหนือจากช่วยสานต่อธุรกิจครอบครัว ด้านการผลิตและส่งออกอะลูมิเนียมค่ายยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย

มากกว่าความหลงใหลยามได้ดมกลิ่น วันนี้ดอกไม้ไทยสีสวยกลายเป็นของว่างกินได้ คุณแจนนำ “ขนมปังหน้าหมู” เมนูโปรดที่มารดานิยมทำให้กินสมัยเด็กมาประยุกต์ โดยมี “ดอกอัญชัน” มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในเมนู ขนมปังหน้าหมูรูปดอกไม้สูตรดอกอัญชัน อย่างไรก็ตาม ดอกไม้ทุกชนิดไม่ได้เข้ากับอาหารทุกประเภท เช่น แกงกะทิ ซึ่งหน้าตาอาจดูพิลึกพิลั่นสำหรับมือใหม่หัดกิน ดังนั้นคุณแจนจึงเลือกดอกอัญชันมาเป็นอันดับแรก

ก่อนลงมือทำคุณแจนบรรยายสรรพคุณคร่าว ๆ ว่า ดอกอัญชันมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีหน้าที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ดียิ่งขึ้น เช่น เลี้ยงบริเวณรากผมช่วยทำให้ผมดกดำ เงางาม, เลี้ยงบริเวณดวงตาจึงช่วยบำรุงสายตา หรือไปเลี้ยงบริเวณปลายนิ้วมือช่วยแก้อาการเหน็บชา ที่สำคัญสารดังกล่าวยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดอุดตัน การกินดอกอัญชันทุกวัน วันละหนึ่งดอกช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบได้

สำหรับส่วนผสมที่ต้องเตรียมมีขนมปังไร้ขอบละเอียด 1 แถว, หมูสับ 1 ถ้วย, กุ้งกุลาดำสับ  ถ้วย, แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ, แป้งโกกิ 2 ช้อนโต๊ะ, ไข่ไก่ 1 ฟอง, รากผักชี พริกไทย กระเทียม โขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ, นํ้าตาลทราย 2 ช้อนชา, ซอสภูเขาทอง 2 ช้อนชา, ซีอิ๊วขาว  ช้อนชา, กลีบดอกอัญชันสดล้างสะอาด ผึ่งให้แห้ง และนํ้ามันดอกทานตะวันใช้ทอด

วิธีทำ ใช้แม่พิมพ์กดขนมปัง  ให้เป็นรูปดอกไม้ เสร็จแล้วนำอบในเตาอบ 2 นาที ใช้อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เทคนิคนี้เพื่อให้ขนมปัง

คายนํ้าออกและไม่อมนํ้ามันเวลาทอด ระหว่างนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาปั่นจนเข้าเนื้อ ค่อยป้ายลงบนขนมปังโดยระวังไม่ให้หนาหนัก วางกลีบดอกอัญชันบนหน้าส่วนผสม กดกลีบให้จมเล็กน้อยป้องกันหลุดลอยเวลาทอด จากนั้นตั้งนํ้ามันให้ร้อน นำขนมปังหน้าหมูลงทอด โดยทอดหน้าที่มีเนื้อหมูให้สุกก่อน ค่อยพลิกเพื่อให้อีกด้านสุกเหลืองสวยงามทั่วกัน นำขึ้นพักไว้บนกระดาษซับนํ้ามัน ส่วนผสมของแป้งมันช่วยให้รสสัมผัสนุ่ม ขณะที่แป้งโกกิช่วยให้หนึบกรอบ

ป้องกันความเลี่ยนคุณแจนแนะนำให้เสริมทัพ “อาจาด” ทำง่าย ๆ ผสมนํ้าและนํ้าตาลทรายอย่างละ  ถ้วย อบเตาไมโครเวฟความร้อน 900 วัตต์ นาน 1 นาที พอนํ้าตาลละลายดีแล้ว พักให้คลายร้อนค่อย ๆ เทเกลือ 1/8 ช้อนชา และนํ้าส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะลงไปผสม ใส่แตงกวา, หอมแดง, พริกชี้ฟ้า และกลีบอัญชันสดที่หั่นแล้วลงไปคลุกรวมกัน ตั้งเสิร์ฟเป็นของว่างระหว่างวัน.

“ช้องมาศ”
 

Read More...


‘ปาท่องโก๋สอดไส้หมูสับ’อร่อยจนวางไม่ลง


ถอดพิมพ์ความสามารถด้านงานครัวจากคุณแม่มาไม่ผิดแบบ เพราะซึมซับหยิบจับตะหลิวกระทะตั้งแต่จำความได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “ปรางค์-อภินรา ศรีกาญจนา” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกิจการองค์กร บริษัท เอเชีย ประกันภัย 1950 จำกัด (มหาชน) ทำอาหารท่าทางทะมัดทะแมงคล่องแคล่ว และต้องบอกว่าจริงจังถึงกับจับเป็นอีกหนึ่งในอาชีพ ต่อยอดร้านอาหารสไตล์แฮงค์เอาต์ของตัวเอง ภายใต้ชื่อ “อภินารา” โดยคงคอนเซปต์ความเป็นไทยเหมือนร้านอาหารนารา ที่ตั้งอยู่ชั้นล่างตึกเอราวัณและศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งบุกเบิกความอร่อยโดยฝีมือคุณแม่

“ทุกอย่างคุณแม่เป็นคนสอน ปรางค์คิดว่าเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง เห็นผู้หญิงยืนอยู่หน้าเตาทุกวัน ๆ ก็ซึมซับทักษะ เทคนิค ท่วงท่า ปรางค์เห็นมาตลอด คุณแม่สอนแม้กระทั่งเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรละเลย เช่น การเลือกเกลือให้เหมาะกับอาหารแต่ละประเภท ซีอิ๊วขาวใช้แบบไหน ไม่ควรใช้น้ำปลากับอาหารจีนเพราะทำให้เสียรส สมัยไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นปรางค์ลองทำอาหารกินเอง ซื้อเนื้อวัวมาหมัก ได้แต่สงสัยว่าทำไมไม่นุ่มเหมือนของคุณแม่ ต้องโทรฯ ข้ามประเทศมาถาม เคล็ดลับคือต้องหมักด้วยเบกิ้งโซดาและไข่ขาว ส่วนปลาต้องโรยเกลือ แช่ในตู้เย็นสัก 15 นาที ค่อยนำมาปรุงช่วยลดกลิ่นคาวคลุ้งได้ดี” เจ้าของสูตรเด็ดวันนี้เผยเคล็ดลับ

สำหรับเมนูวันนี้ “ปาท่องโก๋สอดไส้หมูสับ” เป็นเมนูแห่งความทรงจำ ปัจจุบันหากินยากไม่ค่อยมีคนทำ นอกจากคุณแม่ซึ่งทำให้กินตั้งแต่เด็กและทำอร่อยมาก “ปรางค์ไม่ชอบกินของคาวกับอาหารหวาน ถ้านำปาท่องโก๋ไปจุ่มนมข้นไม่ชอบ ผิดกับน้องสาวคนรองที่ดูเอ็นจอยกับเมนูดังกล่าวมากกว่า ดังนั้นเวลาจัดกล่องข้าวกินระหว่างทางบนรถ คุณแม่เอาใจลูกทั้งสองคน ในกล่องข้าวของน้องพิมพ์-พิมพ์พยัพ มักเป็นปาท่องโก๋นมข้นกับโจ๊ก ส่วนของปรางค์จะเป็นเมนูนี้”

ส่วนผสมประกอบด้วย หมูบะฉ่อ 200 กรัม, ไข่ขาว 1 ฟอง, ต้นหอม 10 กรัม, พริกไทยดำ 1 ช้อนชา, ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนชา, ปาท่องโก๋ตามชอบ และน้ำมันสำหรับทอด เริ่มลงมือทำด้วยการหมักหมูบะฉ่อผสมกับพริกไทยดำและซีอิ๊วขาว ระหว่างรอส่วนผสมเข้าเนื้อให้ผ่าปาท่องโก๋เตรียมไว้ จากนั้นค่อย ๆ ยัดไส้ แล้วนำไปทอดใช้ไฟแรง พอหมูสุกปาท่องโก๋กรอบได้ที่ ตักขึ้นวางบนกระดาษทิซชู ซึ่งจะช่วยซับความมันออก จัดวางบนจานให้เรียบร้อย เวลากินจิ้มกับซอสพริกที่ผสมกับน้ำจิ้มไก่

เมนูนี้สามารถเป็นอาหารหลอกเด็กได้ เพราะกินง่าย แต่สำหรับคนที่อายุ 25 ปีเหมือนตัวเอง หรือคนที่ดูแลสุขภาพ แนะนำให้กินเป็นมื้อเช้า หรือกินเป็นกับแกล้มอย่างมี “สติ” เพราะอาจอร่อยจนวางไม่ลง.

“ช้องมาศ”

credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/233839/‘ปาท่องโก๋สอดไส้หมูสับ’อร่อยจนวางไม่ลง

Read More...


สลัดอกเป็ดผสมตับห่าน เรียกน้ำย่อยสไตล์ฝรั่งเศส




หลงใหลเสน่ห์เมืองนํ้าหอม ปิ๋ม-พริดา ลิมปานนท์ มักเผลอตัวปล่อยใจไปกับสถาปัตยกรรมและชื่นชมงานศิลปะเสมอหากมีโอกาสไปเยือน และที่ไม่ยอมพลาดเด็ดขาดคือนั่งละเลียดลิ้มลองอาหารฝรั่งเศส ซึ่งขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความอร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ด้วยหน้าที่ต้องดูแลกิจการร้าน “พรรณิภา แฮร์ เนลส์ บิวตี้ เวลเนส” ทั้ง 8 สาขาให้สมกับที่มารดา พรรณิภา ปวนะฤทธิ์ ช่างผมชื่อดังของเมืองไทยไว้วางใจให้เป็นมือขวา

ทายาทสาวคนเก่งจึงมีภาระหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้นเป็นเงาตามตัว โอกาสจะไปกินอาหารฝรั่งเศสอย่างที่โปรดปรานจึงมีไม่บ่อยเท่าเดิม อย่างไรก็ตาม ยังโชคดีที่เมืองไทยยังมีร้านอาหารฝรั่งเศส “ฟิลิปป์ เรสเตอรองค์” ให้ฝากท้องและกลายเป็นขาประจำ มาบ่อยคุ้นเคยเสมือนเป็นญาติสนิท “เมนูวันนี้ปิ๋มขอสูตรมาจากร้านประจำ ซึ่งสนิมสนมกันเป็นพิเศษเพราะเป็นร้านโปรดของครอบครัว ตอนนี้งานค่อนข้างรัดตัวมีเวลาน้อย อาหารจึงเน้นเมนูที่ค่อนข้างสะดวก เช่น สลัดหรือเมนูที่ใช้วัตถุดิบจากปลาเป็นหลัก ทำงานหนักแล้วต้องถนอมร่างกายด้วยอาหารเพื่อสุขภาพ”

สอดคล้องกับจานโปรดที่คุณปิ๋มปรุงด้วยตัวเอง “ปิ๋มได้วิชาทำอาหารหลายช่องทาง อาหารไทยได้สูตรมาจากตระกูลของคุณแม่ ค่อนไปทางโบราณเพราะตกทอดมาตั้งแต่สมัยคุณยายทวด ส่วนอาหารฝรั่งเศสใช้หลักครูพักลักจำจากเชฟที่คุ้นเคยบ้าง ส่วนใหญ่ปิ๋มเน้นทำเมนูง่าย ๆ ชิมลางก่อนจะกินมังสวิรัติอย่างถาวรในอนาคต สำหรับเมนู “สลัดอกเป็ดรมควันมิกซ์ตับห่าน” เป็นอาหารที่มีชื่อของบริเวณเมืองเปริกอร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส สูตรนี้ได้มาจากร้านอาหารฝรั่งเศสฟิลิปป์ เรสเตอรองต์ นอกจากอิ่มอร่อยและดีต่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถปรุงเป็นจานเรียกนํ้าย่อยก่อนเสิร์ฟเมนคอร์สได้

ส่วนผสมที่ต้องเตรียมประกอบด้วย ผัดเรดโอ๊ค, ผักกรีนโอ๊ค, ผักวิทโลฟ ใช้จำนวนตามความชอบหรือเปลี่ยนเป็นผักชนิดที่ชื่นชอบล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดนํ้า ตามด้วยอกเป็ดรมควัน 1 ชิ้น แล่เป็นชิ้นบางพอดีคำ 6 ชิ้น, ตับห่านสด 1 ชิ้น แล่เป็นชิ้นบางวางบนผักสลัด หันมาผสมนํ้าสลัด โรยไพน์นัท 1/3 ถ้วยตวง, ต้นหอมสับ 1/3 ถ้วยตวง, มะเขือเทศสับ 1-3 ถ้วยตวง เพื่อเพิ่มรสสัมผัสระหว่างเคี้ยว พักไว้หันมาลงมือทำนํ้าสลัด โดยคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันได้แก่ มัสตาร์ด 1 ช้อนโต๊ะ, วินิการ์ 2 ช้อนโต๊ะ, นํ้ามันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้วราดลงบนสลัดอกเป็ดรมควันมิกซ์ตับห่านให้ชุ่มมากน้อยตามใจชอบ แนะนำเป็นเมนูง่าย ๆ เหมาะสำหรับสาวรักสวยรักงาม.

credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/235453/สลัดอกเป็ดผสมตับห่าน+เรียกน้ำย่อยสไตล์ฝรั่งเศส

Read More...


แก้ร้อนในยกให้เมนูหวานอมขม



คำสอนโบราณกล่าวว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ยังคงใช้ได้ดีในยุคดิจิตอลนี้ เพราะของหวานหากเผอเรอกินปริมาณมาก อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกว่าอาหารรสขม ที่มีสรรพคุณทางยารักษาโรค ในฤดูร้อนแสนอบอ้าวนี้ “หมอแอร์-พญ.นวลนภา สันติไชยกุล” ผู้บริหารและแพทย์ประจำคลินิกความงามยามาซี่ ชวนทำเมนูหวานอมขมแก้ร้อนในกระหายน้ำ จากวัตถุดิบหลักสองชนิดที่อยากนำเสนอ ได้แก่ “ใบบัวบก” และ “อัลมอนด์” เป็นจานเรียกน้ำย่อยหรืออาหารกินเล่นภายใต้ชื่อ “ ยำใบบัวบกผสมอัลมอนด์และกุ้งเสียบ”

แม้ปรุงไว้กินเล่นแต่สรรพคุณที่ซุกซ่อนกลับมีมากมิใช่เล่น หมอแอร์เผยความลับว่า “ตอนนี้อัลมอนด์กำลังมาแรง เป็นหนึ่งในสิบอาหารต่อต้านริ้วรอยโดยธรรมชาติชั้นเลิศ ช่วยทั้งเรื่องของผิวพรรณผุดผ่อง ชะลอวัย นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนวัยผู้ใหญ่ เพราะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ป้องกันไขมันเกาะหลอดเลือดหัวใจ ลดอุบัติการณ์หัวใจวายได้ อย่างใบบัวบกเป็นที่ทราบกันดีว่า แม้รสขมสักนิดหนึ่งแต่มีสรรพคุณช่วยแก้ร้อนใน ลดการอักเสบสมานบาดแผลได้ดี นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอสูงช่วยบำรุงสายตา”

มีภูมิความรู้ทฤษฎีเชิงลึก แต่คุณหมอคนสวยสารภาพว่า ความสามารถด้านปฏิบัติเกรดยังไม่ค่อยดี เพราะช่วงหลังวิ่งวุ่นกับงานที่ต้องดูแลกิจการความงามทั้ง 4 สาขาที่เซ็นทรัลเวิลด์, เมเจอร์เอกมัย, ฟอร์จูนทาวน์ และเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ยังวิ่งรอกเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาผิวหนังสอนแพทย์ที่อยากมีความรู้ด้านผิวหนัง ผิวพรรณ ความงาม ที่สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ม.แม่ฟ้าหลวง และยังทำหน้าที่เป็นกรรมการผู้ประเมินคุณภาพการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยของ สกอ. จึงไม่มีเวลาปรุงอาหารด้วยตัวเองบ่อยนัก ประกอบกับมือแพ้น้ำเคยโดนน้ำกัดจนมือแตกมาแล้ว เช่น กุ้งสดหากปอกเปลือกโดนน้ำจากกุ้งอาจแพ้เกิดผื่นคันได้ เมนูวันนี้จึงเลือกใช้กุ้งเสียบมาประยุกต์ให้อร่อย

ส่วนผสมอื่น ๆ ประกอบด้วย ใบบัวบก 15-20 ใบ, อัลมอนด์ตามชอบ, ใบมะกรูดหั่นซอย 1 ถ้วย, หัวหอมแดงซอย 1 ช้อนชา, ใบสะระแหน่ตามชอบ, มะพร้าวคั่ว 4 ช้อนโต๊ะ, น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ, มะนาว 3/4 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, พริกกะเหรี่ยงสด 3-4 เม็ดหรือตามความชอบ และน้ำตาล 1 ช้อนชา

ขั้นตอนการทำ ลงมือทำน้ำยำก่อนด้วยการผสมน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาวและน้ำตาล ชิมให้รสหวานปะแล่ม ๆ เพื่อให้ตัดทอนรสขมจากใบบัวบก ล้างใบบัวบกให้สะอาดเด็ดเอาเฉพาะใบ พอสะเด็ดน้ำแล้วนำใส่ชาม ตามด้วยใบสะระแหน่ ใบมะกรูด หัวหอมแดงและมะพร้าวคั่ว ราดด้วยน้ำยำครึ่งหนึ่งคลุกเคล้าพอผักสลด เทกุ้งเสียบและน้ำยำที่เหลือบุพริกกะเหรี่ยงสดใส่ลงในชามคลุกเคล้าอีกครั้งให้เข้ากัน สำหรับกุ้งเสียบสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด กรณีที่กุ้งไม่กรอบให้นำมาทอดใหม่ เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟกินกับไข่ต้มสุก...อร่อยลิ้นจริง ๆ.

“ช้องมาศ”

credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/237107/แก้ร้อนในยกให้เมนูหวานอมขม


Read More...


ดับร้อนด้วยพุดดิ้งรสฟินเว่อร์




แสดงฝีมือให้คนรักขนมหวานได้พิสูจน์ความอร่อยนานกว่า 2 ปี ในฤดูร้อนนี้ “ฟิน-สุภรดี ศิวพรพิทักษ์” เจ้าของร้านเบเกอรี่ “รดี” (RADI) ปัจจุบันมี 3 สาขา คือ ทองหล่อซอย 11, ศูนย์การค้าพารากอน และศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม ช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ขันอาสาดับร้อนกับสูตรขนมหวานทำรับประทานเองง่าย ๆ ที่บ้าน แบบสไตล์ญี่ปุ่นเรียกว่า “สตรอเบอรี่ มิลค์ พุดดิ้ง”

สำหรับสูตรเด็ดจานนี้ คุณฟินเล่าว่า ใช้ประสบการณ์ด้านการทำอาหารมาประยุกต์เป็นสูตรเฉพาะตัว โดยไม่ได้ร่ำเรียนจากแห่งใด เพราะทำจากใจรักล้วน ๆ “ฟินทำขนมเป็นงานอดิเรก หลังจากเรียนจบนิติศาสตร์ ที่จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย ก็ทำงานตรงสายกับที่เรียนเกือบ 2 ปี จนหาคำตอบให้ตัวเองได้ว่า อยากหาเลี้ยงชีพจากงานที่เรารัก ซึ่งก็ คือการทำอาหาร จึงลาออกและเบนเข็มเรียนต่อด้านบริหารธุรกิจ ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำมาใช้ในงานธุรกิจของตัวเอง”

ร้านเบเกอรี่รดีจึงถือกำเนิดขึ้นในช่วงที่เดินตามความฝัน ก่อนขยายธุรกิจออกครอบคลุมธุรกิจอาหารและเคเธอริ่ง เสิร์ฟความอร่อยแบบพอดีคำตามงานอีเวนต์ต่าง ๆ โดยสามารถสั่งได้ทางหมายเลข 09-0971-5666 ปัจจุบันยังผันตัวเองสู่หน้าจอโทรทัศน์ ในฐานะพิธีกรร่วมในรายการ “ครัวอินดี้” สำหรับเสน่ห์ปลายจวักที่อยู่ในสายเลือด คุณฟินยกความดีความชอบให้คุณพ่อและคุณแม่เพราะเห็นท่านทั้งคู่ขยันเข้าครัวตั้งแต่จำความได้ ทำให้ซึมซับเสน่ห์จุดนี้มาโดยไม่รู้ตัวโดยเฉพาะขนมหวาน

สำหรับวัตถุดิบที่ต้องเตรียมในการทำสตรอเบอรี่ มิลค์ พุดดิ้ง ดับร้อนถ้วยนี้ ประกอบด้วย นมสด 2 ถ้วยตวง, เจลาติน 2 ช้อนชา, นํ้าตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ, กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา นมข้นหวานใช้ราดเล็กน้อย, สตรอเบอรี่หรือผลไม้ตามฤดูกาล และใบมิ้นต์ใช้ตกแต่งหน้า เริ่มลงมือสร้างสรรค์ความอร่อยด้วยการต้มนมครึ่งหนึ่งผสมเจลาตินและนํ้าตาลทราย ตั้งบนไฟปานกลางค่อย ๆ ใช้พายคนจนนม ร้อนและส่วนผสมละลาย ขั้นตอนนี้เป็นเทคนิคสำคัญจึงต้องระมัดระวังไม่ให้นมเดือดปุด ๆ

จากนั้นเทผสมกับนมส่วนที่เหลือ โดยใช้ผ้ากรองจะช่วยให้นมร้อน ๆ กลับมาอุ่นและช่วยให้เนื้อพุดดิ้งเนียนละเมียดละไม เทกลิ่นวานิลลาแล้วคน จัดการเทใส่ถ้วยและนำไปแช่ตู้เย็นรอจนเซตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง หากต้องการให้เนื้อพุดดิ้งเนื้อแน่นรสเข้มข้นเหมือนพาราคอตต้า คุณฟินแนะนำให้ใช้วิปปิ้งครีมแทนนมสด เมื่อสำเร็จออกมาเป็นรูปเป็นร่างเรียบร้อยแล้ว นำพุดดิ้งออกจากถ้วย โดยหล่อด้วยนํ้าร้อนเพื่อคงรูปเมื่อใช้มีดปลายแหลมแซะออกจากถ้วย หั่นสตรอเบอรี่เป็นชิ้นพอดีคำ หรือจะใช้ผลไม้ตามฤดูกาลเช่น ส้ม กล้วย หรือมะม่วง ก็ได้ จัดวางบนพุดดิ้ง ราดด้วยนมข้นหวานเล็กน้อยประดับด้วยใบมิ้นต์เพิ่มกลิ่นสดชื่น.

credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/238826/ดับร้อนด้วยพุดดิ้งรสฟินเว่อร์

Read More...


กุ้งแตร์มิดอร์’ เมนูมัดใจ คู่ครัวอินเตอร์


ยอมรับว่าเป็นสาวไฮเปอร์ไม่ถนัดอยู่เฉย พอลูกชายคนเล็กโตพอช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว “โบว์-กรกฏ เอกฐานุตต์” จึงเดินหน้าสมัครงานสกัดความเบื่อ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น ผอ.ฝ่ายการตลาด เอ็กซ์พีเดีย ไทยแลนด์ จัดแคมเปญการท่องเที่ยวสุดคุ้มเอาใจนักเดินทาง แม้ใจจริงออกสนุกกับงานนอกบ้าน แต่ใจหนึ่งคงหนักแน่นไม่ปล่อยปละละเลยคือ ทำหน้าที่เป็น “แม่” และ “ภรรยา” ที่ดี จึงรวบตึงบทบาทเวิร์กกิ้งวูแมนและคุ้กกิ้งวูแมนในคราวเดียวกัน

“สำหรับโบว์งานครัวเป็นเรื่องไม่ยาก แก่กล้าวิชาพอสมควร เนื่องจากสมัยเรียนต่อที่เดนมาร์ก เคยเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทยเมืองโคเปนเฮเกน โดยมีเพื่อน ๆ คอยแนะเคล็ดลับด้านอาหารไทย เมนูพื้นฐานที่ทำได้จำพวกต้มข่า ต้มยำ ส่วนเมนูอินเตอร์ชอบทำตามรายการสอนทำอาหารในโทรทัศน์ ซึ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเรื่อย ๆ”

จุดเริ่มต้นทำจริงจังต้องขอบคุณ “มาร์ติน โอลเซ่น” สามีต่างชาติเชื้อสายเดนมาร์ก คุณโบว์ เล่าถึงเหตุการณ์ประทับใจที่ไม่เคยลืมว่า “จำได้เลยว่าหลังแต่งงานสามีอาสาเข้าครัวทำสปาเกตตีไส้กรอกให้กิน แต่กรรมวิธีการทำสปาเกตตีสูตรของคุณมาร์ตินออกพิลึกพิลั่นสักหน่อยคือ นำเส้นสปาเกตตีไปลวก ประกบด้วยไส้กรอกและราดซอสข้าง ๆ ไม่มีการผัดหรือปรุงใด ๆ หลังจากนั้นไม่ยอมให้สามีทำอาหารอีกเลย คิดว่าไม่ได้แล้วควรเข้าครัวเองดีกว่า เขาเลยไม่ค่อยทำให้เรากิน”

ในทางกลับกันคุณมาร์ตินหลงเสน่ห์ปลายจวักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะเมนู “กุ้งแตร์มิดอร์” ไม่เฉพาะคุณมาร์ตินโปรดปรานเท่านั้น แต่ลูกชายหน้าลูกครึ่งแต่พูดภาษาไทยชัดแจ๋วทั้งสองคนก็ชื่นชอบเช่นเดียวกัน สำหรับเมนูวันนี้เป็นเมนูที่คุณโบว์ครูพักลักจำมาจากร้านอาหาร อาศัยความช่างสังเกตมองหาส่วนผสมที่ซุกซ่อนอยู่ แล้วลองหัดทำด้วยตัวเองที่บ้าน จนกลายเป็นเมนูอาหารฝรั่งเศสที่อยู่คู่ครัวมานาน วัตถุดิบและส่วนผสมของกุ้งแตร์มิดอร์ ประกอบด้วย กุ้งทะเล 10 ตัว, ชีสมอสซาเรลล่า 150 กรัม, เห็ดหอมสดตามชอบ,หัวหอมหั่นซอยตามชอบ, คุ้กกิ้งครีม 100 มิลลิกรัม, พริกไทย เพิ่มรสชาติเล็กน้อย และมะนาว 1 ชิ้น

ก่อนลงมือทำคุณโบว์ให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกซื้อกุ้งต้องสด เมื่อได้กุ้งแล้วนำมาล้างน้ำให้สะอาด ผ่ากลางลำตัวดึงเส้นดำออก เสร็จแล้วพักไว้หันมาตั้งเตาไฟ ผัดหัวหอมกับเห็ดหอมจนสุก เติมคุ้กกิ้งครีม ใส่เครื่องปรุงทั้งเกลือและพริกไทยเพื่อให้รสลึกล้ำแล้วบีบมะนาว ซึ่งมะนาวช่วยดับกลิ่นคาวและเบรกรสเลี่ยนจากชีสและครีม ผัดไปเรื่อย ๆ พอเดือดแล้วยกลงจากเตา

จากนั้นเรียงกุ้งในลักษณะเหยียดตัวตรง หยิบชีสมอสซาเรลล่าโรยบนตัวกุ้งแล้วนำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 20 นาที ทันทีที่นำออกจากเตากลิ่นกุ้งเคล้ากลิ่นชีสที่ยืดเยิ้มฉ่ำอยู่ในถาดลอยหอมมาเตะจมูก กระตุ้นต่อมน้ำย่อยให้อดใจไม่ไหว ต้องรีบคว้าจานและช้อนส้อมมาคอยท่า.

"ช้องมาศ"

credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/240603/กุ้งแตร์มิดอร์’+เมนูมัดใจ+คู่ครัวอินเตอร์

Read More...


“เดอะริงค์” วงแหวนแห่งความหวาน


ได้ยินกิตติศัพท์ความดังมาพอสมควร สำหรับขนมหวานชื่อแปลก “โครนัท” ขนมลูกครึ่งส่วนผสมระหว่างโดนัทและครัวซองส์ ซึ่งโด่งดังข้ามปีอยู่ที่ฝั่งอเมริกา เลื่องลือเรื่องรสชาติขนาดมีคนแห่มาจ่อคิวรอแน่นขนัดทุกวัน เกริ่นนำเช่นนี้แล้วหลายคนคงอยากเห็นว่าเจ้าโครนัทมีหน้าตาและรสชาติเป็นเช่นใด โอกาสดีมาถึงแบบไม่ต้องตีตั๋วไปถึงแดนไกล เพียงตีรถมาให้ทันนัดหมายกับ “จอม-วันวิสา ไรวา” เท่านั้น!! เพราะวันนี้เจ้าของร้านวานิลลา เบคชอป ในซอยเอกมัย 12 อาสาทำเมนูที่ใช้โครนัทเป็นส่วนประกอบ ชื่อว่า “เดอะริงค์เบคอนเมเปิ้ล” แถมยังใจดีเผยสูตรแบบหมดเปลือกให้คนชื่นชอบขนมหวานได้ลองทำด้วยตัวเอง เรียกว่า “เข้าอกเข้าใจตามประสาคนช่างชิมเหมือนกัน”

คุณจอมเล่าประวัติความเป็นมาของขนมชนิดนี้ว่า โครนัทเป็นขนมลูกผสมระหว่างวัฒนธรรมฝรั่งเศสกับอเมริกัน ถูกคิดค้นโดยเชฟขนมหวานแห่งกรุงนิวยอร์ก ชื่อว่า “โดมินิคธานเซล” เจ้าของร้านขนมโดมินิค ธานเซล

เบเกอรี่ เกิดจากการทดลองนำแป้งครัวซองต์มากดเป็นรูปวงกลมเหมือนโดนัท แล้วนำไปทอดจนสุกแทนการอบ ทั้งนี้คุณจอมได้นำขนมโครนัทมาประยุกต์ให้เลือกลิ้มลองที่ร้าน 3 รสชาติได้แก่ เดอะริงค์ ออริจินอล, เดอะริงค์ ซอลตี้ คาราเมล และเดอะริงค์เบคอนเมเปิ้ล

เปิดขายมาแล้วหนึ่งเดือน ช่วงเวลาเดียวกับก่อเตาตั้งเป็นร้านขนมอบแบบโฮมเมดคาเฟ่ ซึ่งรีโนเวทจากร้านติ่มซำเดิม ในบรรยากาศแบบอินตัลเทรียล ลุค แม้เป็นร้านน้องใหม่แต่ในแวดวงอาหารจอมกลับไม่ใช่หน้าใหม่เสียทีเดียว เพราะส่วนตัวคลุกคลีด้านนี้ในฐานะทายาทเอสแอนด์พีคนหนึ่ง มีหน้าที่รับผิดชอบงานด้านดีไซน์ทั้งใบปลิว แผ่นรองจาน โปสเตอร์ และแพ็กเกจจิง “ทำงานออกแบบ 5 ปีเต็ม รู้สึกเริ่มถึงจุดอิ่มตัว อยากออกแบบงานโดยลงรายละเอียดมาที่ตัวขนมบ้าง ตกแต่งบ้าง ร้านนี้จึงเป็นรูปเป็นร่างขึ้น” คุณจอมเล่าที่มาและออกตัวว่า “แม้ทำอาหารหรือขนมไม่บ่อยเท่ากับเป็นนักชิม แต่ก็มีทีมงานช่วยคิดค้นสูตรจนได้รสชาติที่ต้องการ ประโยชน์ของการชิมทำให้เราได้ทดลองอะไรใหม่ ๆ ทราบว่าตอนนี้คนฮิตหรือนิยมกินอะไรกัน ลองมาปรับเป็นเมนูต่าง ๆ เพื่อเอาใจผู้บริโภค”

ส่วนผสมของ “เดอะริงค์เบคอนเมเปิ้ล” แบ่งเป็น ส่วนผสม โครนัท มีแป้งพายเพสตี้สำเร็จรูป 1 กล่อง วิธีทำ นำแป้งพายเพสตี้มากดเป็นรูปโดนัท ตามขนาดที่ต้องการ นำไปทอดในนํ้ามันให้เป็นสีเหลืองทอง ส่วนผสม ซอส วานิลลา มีนมสด 100 กรัม, ไข่แดง 1 ฟอง, นํ้าตาลทราย 25 กรัม, กลิ่นวานิลลา 8 กรัม, เนยจืด 20 กรัม วิธีทำ ผสมไข่แดงและนมสดคนให้เข้ากัน จนเนียนเกิดฟองเล็กน้อยพักไว้ นำเนยไปละลายทิ้งไว้ให้เย็น แล้วผสมกับไข่แดงคนให้เข้ากัน ตั้งไฟต้มจนเดือด ค่อย ๆ ใส่นํ้าตาล คนให้ละลาย เวลาจัดเสิร์ฟ เทซอสวานิลลาลงในจาน วางโครนัทลงบริเวณกึ่ง กลางของถาด ตักไอศกรีมรสวานิลลาหนึ่งสกู๊ปวางบนหลุมของโครนัท ราดคาราเมลร้อน ที่ทำเองจากการนำนํ้าตาลทราย 18 กรัม ผสมกับนํ้าเปล่าใส่หม้อจนเดือด ค่อย ๆ เทราดบนไอศกรีมเย็นจัด โรยชีส เบคอนทอดกรอบด้านบนให้ทั่วเสิร์ฟได้ทันที ไม่ต้องรีรอ.
"ช้องมาศ"

credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/242255/“เดอะริงค์”+วงแหวนแห่งความหวาน

Read More...


‘ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู’ อาหารแห่งความอาทร





อิงกระแสวันแม่แห่งชาติปีนี้ คอลัมน์ “สูตรเด็ด...พร้อมเสิร์ฟ” คว้าตัวคุณแม่ยังสวยปิ๊ง “ญี่ปุ่น-พรพรรณ พงษ์ศักดิ์” หนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท ดรีม เฮ้าส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้าลิขสิทธิ์ เฮลโล คิตตี้ คาเฟ่ โดยใช้ชื่อว่า “ซานริโอ เฮลโล คิตตี้ เฮ้าส์ แบงค็อก” ซึ่งเป็นคาเฟ่แบบครบวงจรเปิดจำหน่ายทั้งอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น เค้ก กาแฟ รวมทั้งมีสปา คิตตี้ และสินค้าที่ระลึก มาเผยสูตร “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู” เมนูแสนธรรมดาแต่พิชิตใจ “นางฟ้าตัวน้อย” ประจำบ้าน ซึ่งกำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าชัง มีด้วยกันสามใบเถาได้แก่ คีตา-คีตกานท์, นาดา-นวินดา และ ณิชา-ณิชญา

ความรักและความผูกพันระหว่างแม่กับลูกนั้น คุณญี่ปุ่นเล่าด้วยความปลื้มปริ่มว่า บ้านเราแสดงออกความรักเป็นเรื่องปกติ ไม่มีเฉพาะเทศกาล ลูก ๆ กุ๊กกิ๊กกันสามคนพี่น้อง ชอบทำเซอร์ไพร้ส์ให้การ์ดบ้าง นำพวงมาลัยมาให้บ้าง บางวันกลับมาจากทำงานดึก ๆ ก็เขียนการ์ดบอก “หนูรักแม่” วางไว้บนเตียงนอน เห็นแล้วรู้สึกหายเหนื่อยคือ เขาให้ความสำคัญกับแม่มาก รู้เลยว่าลูกรักแม่มาก เดี๋ยวก็มากอด เดี๋ยวก็มาหอม ดุเท่าไรลูกไม่เคยโกรธยังบอกรักแม่เหมือนเดิม สำหรับหลักการเลี้ยงลูกนำข้อดีของคุณแม่ตัวเองมาสอนลูกอีกต่อหนึ่ง ทั้งลดความใจร้อน พูดจากับลูกดี ๆ เลี้ยงลูกเหมือนเป็นเพื่อน ไม่เลี้ยงให้กลัวจนไม่กล้าคุยกับแม่ ต้องให้ความไว้วางใจลูก อยู่ข้าง ๆ ยามมีปัญหา ยิ่งช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อเป็นจุดเปลี่ยนของเขา ถ้าดุเกินไปทำให้เขาไม่กล้าเข้าหา อยากเลี้ยงแบบให้โตไปด้วยกัน

การแสดงออกยังถ่ายทอดผ่านอาหารการกิน คุณแม่คนสวยเผยหลักโภชนาการสำคัญว่า “ลูกสาวทั้งสามคนเป็นเด็กกินง่าย เพราะฝึกให้ติดดิน เวลาหิวสามารถกินข้าวข้างทางหรือร้านอาหารธรรมดาได้ โดยไม่ต้องรอเข้าห้างสรรพสินค้า ต้องมีแอร์คอนดิชั่น หรือต้องกินอาหารขึ้นเหลาเสมอไป เพราะฉะนั้นช่วงแรกเกิดจนถึงอายุ 1 ขวบ คำนึงถึงหลักโภชนาการให้ลูกกินครบทั้ง 5 หมู่ แต่พอลูกเริ่มโตขึ้น รู้จักอาหารหลากหลายมากขึ้นให้ลูก ๆ ตัดสินใจเลือกกินเอง มีควบคุมอาหารจำพวกจั๊งฟู้ดและขนมขบเคี้ยวบ้าง แต่พบข้อเสียคือลูกอยากกินตามคนอื่น ระยะหลัง ๆ เริ่มปล่อยบ้างไม่เข้มงวดเกินไป เพื่อให้ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง”

ในความเหมือนยังแฝงความแตกต่าง แม้เป็นลูกสาวเหมือนกันแต่ชอบกินแตกต่างกัน อย่างคนโต น้องคีตาชอบกินซาลาเปา, น้องนาดา คนกลางชอบกินมะกะโรนี ส่วนคนเล็ก ณิชา-ณิชญา ชื่นชอบข้าวมันไก่มากกว่า แต่เมนูที่ลูกสาวทั้งสามคนชื่นชอบแบบเห็นพ้องต้องกัน โหวตให้เป็น “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู” ไม่เว้นแม้กระทั่ง “คงธวัช พงษ์ศักดิ์” สามีสุดที่รักยังยกให้เป็นเมนูโปรด “ที่มาของสูตรนั้นได้มาจากพี่เลี้ยงของเด็ก ๆ ญี่ปุ่นคอยสอบถามว่าต้องใส่อะไรบ้าง สัดส่วนเท่าใด โดยพยายามหาวิธีสอดแทรกใส่ผักลงไป เป็นกุศโลบายให้เด็กที่เกี่ยงงอน หันมากินผักโดยสมัครใจ ดังนั้นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูสูตรนี้ จึงใช้กะหล่ำปลีแทนถั่วงอก และเพิ่มแครอทลงไปต้มพร้อมกับน้ำซุปขับรสชาติให้หวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น” คุณแม่ลูกสามเล่า

ดังนั้นวันว่างเสาร์หรืออาทิตย์ แต่เช้าคุณญี่ปุ่นจะไปจ่ายตลาด ตระเตรียมเป็นมื้อกลางวัน โดยวัตถุดิบและส่วนผสมต่อก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม ประกอบด้วย เส้นหมี่ 1 หยิบมือ, ลูกชิ้นหมู ตามชอบ, หมูสับหมักปั้นเป็นก้อน 3-4 ชิ้น, กะหล่ำปลี 1 กำมือ,  ผักกวางตุ้ง 1 หยิบมือ, ซี่โครงหมู 7-8 ชิ้น, น้ำซุป 3 กระบวย พร้อมเครื่องปรุงจำพวก ผักชี, ต้นหอม, กระเทียมเจียว, พริกป่น, น้ำปลา และมะนาว

ขั้นตอนการทำ หมักหมูสับกับน้ำมันหอย น้ำตาล ซีอิ๊วขาวเล็กน้อย ทิ้งไว้ 1 คืน สูตรนี้ไม่ใส่พริกไทยเพราะทำให้เด็กกิน หลังจากนั้นนำน้ำเปล่าประมาณ 3 ลิตร ตั้งบนเตาใช้ไฟกลาง ใส่ซี่โครงหมูและแครอทลงไปต้ม ปรุงรสด้วยเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันหอย 5 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ, ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนโต๊ะ พอเดือดค่อย ๆ ช้อนฟองทิ้งช่วยทำให้น้ำซุปใสยิ่งขึ้น เมื่อได้ที่แล้วตักหมูหมักใส่เป็นคำ ๆ ตามด้วยลูกชิ้น ระหว่างรอให้สุกได้ที่ ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวพร้อมกับผักใส่ถ้วยรอไว้ แล้วจัดแจงราดน้ำซุปตาม เสิร์ฟขณะร้อน ๆ ปรุงรส

สูตรนี้คุณญี่ปุ่นแนะนำให้ใช้น้ำมะนาวสดบีบให้ความเปรี้ยวแทนน้ำส้มสายชู ทำให้อร่อยกลมกล่อมและไม่ทำร้ายสุขภาพ ชื่อ “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู” อาจธรรมดาแต่ถ้าเป็นฝีมือแม่แล้ว รสชาติย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน.

‘ช้องมาศ’
 

Read More...


‘ช็อกโกแลต ชีสเค้ก’ สูตรหวานทายาทเจ มาร์ท


ตื่นนอนตั้งแต่ไก่โห่ เพราะ ส้ม-จุฑามาศ สุขุมวิทยา ทายาทคนเล็กของ อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารรุ่นบุกเบิก ร้านขายปลีกโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของประเทศไทย  มีกิจวัตรประจำวันรออยู่ นั่นก็คือการทำขนมเบเกอรี่ หนึ่งในความชอบที่เจ้าตัวจริงจัง ปลุกปั้นจนกลายเป็นอาชีพ โดยชิมลางตลาดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ยอดฮิตอย่างอินสตาแกรม โดยสามารถกดไลค์และสั่งซื้อ ในชื่อ “Sweet

treats_bysom” ซึ่งมีเมนูเด็ด ๆ ที่ไม่อยากให้พลาดลิ้มลอง เช่น บราวนี่, สตรอเบอรี่ แครมเบิล, นูเทลล่าบาร์, คุกกี้ ช็อกฟรัดจ์, ช็อกโกแลตชิพ คุกกี้, คุกกี้ คอนเฟล็ก เป็นต้น

นับว่าเส้นทางอันหอมหวานไม่ต่างจากขนม เนื่องจากตลอดระยะเวลา  1 ปีที่ผ่านมา มีคนสั่งออร์เดอร์ไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งช่วงสาย ๆ ประมาณ  11 โมง สาวร่างกะทัดรัดจัดแจงแพ็กขนมยอดสั่งซื้อ ดำเนินการส่งโดยใช้ไปรษณีย์เป็นสื่อกลาง โดยช่วงบ่ายหิ้วขนมอีกส่วนนำไปฝากวางจำหน่ายยังร้านเสื้อผ้าของเพื่อนที่ศูนย์การค้าสยามสแควร์ วัน และล่าสุดได้วางตู้จำหน่ายขนมแบบเทคโฮม ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนเพิ่มอีกแห่ง สำหรับความฝันที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างนี้ คุณส้มเล่าด้วยรอยยิ้มว่า “มีความสุขกับงานตรงนี้มาก แม้ร้านยังไม่มีที่นั่งกินชิล ชิล เพราะอยากดูทิศทางก่อนหากรุ่งทำกำไรได้ดี ร้านเบเกอรี่สไตล์คอฟฟี่ ช็อป คงไม่ไกลเกินเอื้อม ที่ผ่านมาคุณพ่ออยากให้เปิดร้าน แต่ส้มคิดว่าอยากรอให้ชัวร์ก่อน”

ตอกย้ำแนวคิดที่ว่า “พรสวรรค์” บางครั้งก็พ่ายแพ้ “พรแสวง” เพราะตลอดมาคุณส้มร่ำเรียนวิธีการทำเบเกอรี่จากอินเทอร์เน็ต และฝึกปรือพัฒนาสูตรด้วยตัวเอง ผิดจากอาหารคาว “ส้มค่อย ๆ ซึมซับการทำอาหารมาจากคุณแม่ เพราะที่บ้านทำอาหารกินเองมากกว่าออกไปกินนอกบ้าน ยิ่งไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษจึงได้ใช้วิชาครูพักลักจำเต็มที่ หลังเลิกเรียนมีเวลาว่างไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อวัตถุดิบย่านไชน่า ทาวน์ ทำอาหารกิน หลังกลับมาอยู่เมืองไทยและทำงานด้านการตลาด 2 ปี ตัดสินใจลาออกมาเรียนด้านการทำอาหารที่โรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เป็นคอร์สอาหารไทย ระยะเวลา 3 เดือน เรียกว่า “โอพีทีซี” หลักสูตรนี้สอนเหมือนกับทำธุรกิจจริง ๆ  ทั้งการควบคุมราคา จัดจาน แกะสลัก ได้ความรู้เยอะมาก” สาวร่างกะทัดรัดกล่าว

สำหรับเมนูวันนี้ คุณส้มหยิบเอา “ช็อก โกแลต ชีสเค้ก” ซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Sweettreats_bysom มาโชว์ฝีมือเป็นตัวอย่าง เริ่มจากวัตถุดิบแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ ตัวเค้ก ประกอบด้วย แกรมแครกเกอร์ 150 กรัม, ถั่วเฮเซลนัท 150 กรัม, ช็อกโกแลตนูเทลล่า 3 ช้อนโต๊ะ, เนย 3 ช้อนโต๊ะ และ ชีสเค้ก ประกอบด้วย ครีมชีส  250 กรัม, มาสคาร์โปเน่ชีส 250 กรัม, ไข่ไก่ 2 ฟอง, ช็อกโกแลตนูเทลล่า 100 กรัม, วานิลลา 2 ช้อนโต๊ะ, แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ อบถั่วเฮเซลนัท 10 นาที เพื่อให้มีกลิ่นหอม ปอกเปลือกให้เรียบร้อย ปั่นถั่วเฮเซลนัทแล้วตามด้วยแครกเกอร์ที่ละเอียด ปั่นอีกครั้งเติมช็อกโกแลตนูเทลล่าและเนย แล้วปั่นจนเนื้อจับกันเป็นก้อน ฉีดสเปรย์เนยทั่วพิมพ์ จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดลงไป กดตามขอบให้แป้งสูงกว่าตรงกลาง ใช้ก้นแก้วกดให้ฐานแน่น นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที เมื่อใกล้เวลาสังเกตอย่าให้ไหม้ ดูให้มีสีเหลือง

จากนั้นนำส่วนผสมของชีสเค้กปั่นรวมกันให้เนื้อเข้ากัน โดยปั่นเฮเซลนัทพอหยาบ ๆ เทใส่พิมพ์ที่อบตัวเค้กไว้ เกลี่ยให้หน้าเรียบ ค่อย ๆ ใช้มือตบพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศ เสร็จแล้วเคลือบเค้กด้วย “กานาซ” โดยการนำวิปครีม 150 กรัม เข้าไมโครเวฟให้ร้อน ผสมกับช็อกโกแลตชิพ 100 กรัม และใส่เนย 1 ช้อนโต๊ะ ค่อย ๆ คน เทลงเคลือบหน้าเค้ก อบอีกครั้งด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เวลา 40 นาที เสร็จแล้วเอาแช่ตู้เย็นประมาณ 30 นาที โดยเอาฟอยด์พันพร้อมทั้งสอดถาดที่มีน้ำไว้ที่ฐานพิมพ์ คล้ายคลึงกับการนึ่ง เทคนิคนี้คุณส้มเผยว่า “ช่วยให้เนื้อเค้กไม่ด้านและหน้าเรียบเนียนสวย”.

‘ช้องมาศ’

credit by : http://dailynews.co.th/Content/Article/259839/‘ช็อกโกแลต+ชีสเค้ก’+สูตรหวานทายาทเจ+มาร์ท

Read More...


ชีวิตเนิบช้ากับ ‘เรด เวลเวค ชีสเค้ก บราวนี่’


ต้องการขายไลฟ์สไตล์มากกว่าเสื้อผ้า โบว์-มนต์ริสสา ลีนุตพงษ์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ “สกิน ออน สกิน บาย มนต์ริสสา” จึงสร้างอาณาจักรตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองหัวคิดทันสมัย ที่ต้องการปรับจังหวะชีวิตให้เนิบช้าลง ด้วยการเปิดร้าน “คาเฟ่ แอท อีซ” (Cafe

at esae ) กลางซอยเกษมสันต์ 2 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ ในบรรยากาศสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ให้คนมานั่งสั่งเครื่องดื่มและเบเกอรี่ คิดหาไอเดียการทำงานใหม่ ๆ และยังสามารถชอปปิงได้หากชื่นชอบเสื้อผ้าเนื้อเบาสบาย ตามประสาคนเสพติดรสนิยม ตั้งแต่เวลา 08.00-18.30 น.

“โบว์อยากสร้างความสุขให้คน ความสุขสงบไม่ฉาบฉวยหรือหรูหราเกินตัว อุปนิสัยคนเมืองยังติดภาพที่สวยหรูทำสิ่งใดต้องเท่มีเสน่ห์ร้านนี้มีครบ แต่บรรยากาศอิงจังหวะชีวิตเงียบสงบของแถบชานเมือง โบว์เอาข้อดีของทั้งสองสังคมที่ดูเหมือนไปด้วยกันไม่ได้มารวมกัน ร้านนี้เปิดโอกาสให้คนสัมผัสถึงตัวตนของโบว์และความปรารถนาดีที่อยากให้คนเข้าใจว่า ไลฟ์สไตล์แบบนี้น่าสนใจ” สาวผู้หลงรักศิลปะเผยถึงตัวตนของร้าน

แม้เรียนจบด้านการวิเคราะห์วิจัยสื่อวิจารณ์หนังจากประเทศอังกฤษ แต่หลักสูตรการทำอาหารกลับอยู่ในสายเลือด สามารถหยิบจับมาใช้ยามฉุกเฉินได้ ซึ่งสถาบันสอนอาหารดีที่สุดคือต่างประเทศนั่นเอง “การใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเหมือนเป็นภาคบังคับ ต้องทำอาหารกินเอง เวลาโบว์ทำอาหารให้เพื่อนกิน หลายคนชมว่ารสชาติอร่อยแทบไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับหน้าตาอาหาร ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะซึมซับมาจากคุณยาย ซึ่งทำอาหารละเอียดมาก ค่อนข้างจู้จี้ เช่น น้ำกะทิไม่ซื้อแบบกล่องสำเร็จ แต่ใช้มะพร้าวที่ขูดเองกับมือ

พอมาเปิดร้านต้องเรียนรู้มากขึ้น ลำพังอร่อยอย่างเดียวไม่พอ จำเป็นต้องวิจัยตลาด รู้ต้นทุนกำไร ดังนั้นการจ้างเชฟมองว่าไม่ครอบคลุมต้นทุนเท่าไร โบว์จึงตัดสินใจเปิดตำราทำขนมคิดสูตรซิกเนเจอร์ที่มีเฉพาะร้าน หนึ่งในนั้นคือ “เรด เวลเวค ชีสเค้ก บราวนี่” ขนมลูกผสมระหว่างชีสเค้กกับบราวนี่ หน้าตาเหมือนลายหินอ่อนสีแดงขาว รสชาติความเค็มหวานมันยังไปด้วยกันได้ดี “โบว์เกิดที่ประเทศเยอรมนี กินช็อกโกแลตแทนนมตั้งแต่เด็ก ๆ ลิ้นจึงติดรสชาติของช็อกโกแลต ทำให้แยกแยะได้ว่าใช้วัตถุดิบชนิดใดดีหรือไม่ดี ซึ่งจุดยืนของโบว์เน้นใช้ของดี ไม่ใช้วัตถุดิบอื่นมาแต่งโน่นนี่” สาวบุคลิกคล่องตัวเล่า

วัตถุดิบที่ต้องใช้ ส่วนของ บราวนี่ มีแป้งอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1 ถ้วย, เกลือ 1/4 ช้อนชา, ไข่ไก่ 2 ฟอง, แป้งสาลี 3/4 ถ้วย, ผงช็อกโกแลต 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา, วานิลลา 1 ช้อนชา ครีมชีส ใช้ครีมชีส 8 ออนซ์, ไข่ไก่ 1 ฟอง, น้ำตาล 3 1/2 ช้อนโต๊ะ และวานิลลา 1 ช้อนชา

ลงมือทำบราวนี่ด้วยการปั่นเนยและน้ำตาลจนเป็นปุยนุ่น แล้วตอกไข่ไก่ 2 ฟองปั่นให้เข้ากัน เหยาะวานิลลาน้ำ 2 ช้อนชา เสร็จแล้วใส่ตัวชูโรงอย่างน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ช้อนชาและเกลือ 1 ช้อนชา ตีให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วร่อนโกโก้ลงตามแล้วตีอีกครั้ง ใส่สีผสมอาหารสีแดงประมาณ 2-3 ช้อนชาก่อนใส่แป้งอเนกประสงค์ ห้ามลัดขั้นตอนนี้เด็ดขาด เพราะสังเกตความเข้มข้นของสียาก สังเกตให้สีแดงเข้มกว่าเฉดธรรมดานิดหน่อย เวลาอบออกมาจะกำลังพอดี จากนั้นร่อนแป้งอเนกประสงค์ตีรวมกันอีกครั้ง ตักส่วนผสมแยกไว้ 3 ช้อนเผื่อแต่งหน้า ส่วนที่เหลือเทใส่ถาดแก้วรองด้วยกระดาษไข เพื่อไม่ให้ติดเวลาอบ

ส่วนหน้าที่เป็นครีมชีส เมื่อครีมชีสมีความเย็นเท่าอุณหภูมิห้องแล้วใช้พายคนให้กระจายตัว  ปั่นเข้ากับน้ำตาลให้เป็นปุยนุ่น จากนั้นใส่ไข่แล้วปั่นพอเข้าเนื้อ ปาดลงเป็นหน้าบราวนี่ นำส่วนผสมที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ เหยาะลงประมาณ 6-7 ก้อน ใช้ตะเกียบปลายแหลมเกลี่ยให้เป็นริ้วคล้ายลายหินอ่อน นำเข้าเตาอบ 30 นาที ด้วยอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เสร็จแล้วตัดเสิร์ฟเป็นคำรับประทานร้อน ๆ กับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ.

‘ช้องมาศ’

credit by :  http://dailynews.co.th/Content/Article/261222/ชีวิตเนิบช้ากับ+‘เรด+เวลเวค+ชีสเค้ก+บราวนี่’


Read More...


ส้มตำกรอบแครอท


ส่วนผสมและวิธีทำ
แครอท
แป้งทอดกรอบ (ถ้าไม่มีใช้แป้งสาลีแทนได้ค่ะ)
มะเขือเทศ
ถั่วฝักยาว
กุ้งแห้ง
กุ้งสดลวกสุก
ถั่งลิสงคั่ว
พริกขี้หนูเม็ดเล็ก 10 เม็ด
กระเทียม 5 กลีบ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ


 
1.  แครอทปอกเปลือกขูดเป็นเส้นเตรียมไว้  เรานำไปผึ่งลมไว้สักครู่ค่ะ



2.  ในระหว่างนี้  เราก็มาปรุงน้ำส้มตำกันค่ะ
ใส่พริก กระเทียม บุบหยาบ ๆ  ใส่กุ้งแห้ง ถั่วฝักยาวลงบุบพอแตก  ใส่มะเขือเทศ
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก  คลุกเคล้าให้เข้ากัน
ชิมรสให้ถูกใจ  ใส่กุ้งลวกสุก  ตักใส่ถ้วย  โรยด้วยถั่วลิสงคั่ว



3.   กลับมาที่เส้นแครอทกันค่ะ    ใส่แครอทลงในอ่างผสม  ใส่แป้งทอดกรอบ
คลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว



4.  ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนไฟไม่ต้องแรง   ใส่แครอทคลุกแป้งลงทอดให้เหลืองกรอบ
เราทอดทีละน้อยค่ะ  จะได้กรอบชัวร์ เพราะใส่น้ำมันไม่เยอะ



5.  ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ



6.  ตักใส่จานเสิร์ฟเลยค่ะ  อร่อยมาก ๆ  confirm จ้า..




credit by : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nernnam&month=23-09-2013&group=55&gblog=33

Read More...


ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องซี่โครงหมู


ส่วนผสมและวิธีทำ
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่
ซี่โครงหมู
เต้าหู้หั่นชิ้นเล็ก
ปลาหมึกแห้งแช่น้ำตัดชิ้นเล็ก
เนื้อหมูหั่นเต๋า
หอมใหญ่หั่นเต๋า
รากผักชี
กระเทียมบ
พริกไทยเม็ด
อบเชย
โป๊ยกั๊ก
น้ำตาลปี๊บ
ซีอิ๊วขาว
ซีอิ๊วดำ
น้ำมันพืช
ซอสหอยนางรม
ถั่วงอก
ต้นหอมผักชี
กระเทียมเจียว

หมายเหตุ : สามารถเปลี่ยนซี่โครงหมูเป็นไก่หรือเนื้อก็ได้ค่ะ

1. ผัดหอมหัวใหญ่กับน้ำมันพืชจนกระทั่งสุก ลดไฟให้อ่อนใส่อบเชย โป๊ยกั๊ก กระเทียม รากผักชี
พริกไทยลงไปผัดให้ได้กลิ่นหอม

2. ล้างซี่โครงหมูให้สะอาด นำไปลวกน้ำร้อนก่อน 1 คร้้งเพื่อให้ลดกลิ่นคาว แล้วใส่ลงในหม้อ


3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสหอยนางรม น้ำตาลปี๊บ จากนั้นเติมน้ำสะอาดลงไปในหม้อ
จนท่วมซี่โครงหมู ตั้งไฟกลางจนเดือด ใส่ปลาหมึกแห้ง และหมูจากนั้นหรี่ไฟลงเคี่ยวต่อสักครู่  แล้วใส่เต้าหู้



4.  เคี่ยวต่อจนน้ำงวด ชิมรสให้ได้ตามต้องการ



5. หั่นเส้นก๋วยเตี๋ยวกว้างประมาณ 1 ซม. แยกเส้นออกจากกันนำไปนึ่งพร้อมกับถั่วงอกจนถั่วงอกสุก
และเส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นสีขาวใส



6. จัดเส้นก๋วยเตี๋ยวและถั่วงอกใส่จาน ตักกระดูกหมูและเต้าหู้ราดลงไปให้น้ำขลุกขลิก
โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี    พร้อมเสิร์ฟค่ะ





credit by : http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nernnam&month=26-03-2014&group=55&gblog=53

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.