“ปลาร้า” อาหารประจำถิ่นชาวอีสานนั้น นับวันยิ่งไม่ธรรมดา
อาหารที่มีทั้งโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ ชนิดนี้ ผู้ที่ไม่ใช่คนอีสานก็ทานเป็นกันมากขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อประกอบกับมีคนอีสานกระจายอยู่ทุกทิศทั่วไทย อาชีพผลิตและจำหน่ายปลาร้าจึงยิ่งทำได้แพร่หลาย
ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลมานำเสนอ...
จากการร่วมคณะของ สสส.ไปดูศูนย์เรียนรู้ชุมชนเกษตรรักษาสิ่งแวดล้อม
ตามแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.) ที่ฉะเชิงเทรา ช่วงที่ว่างจากโปรแกรมหลัก
ทางทีม “ช่องทางทำกิน” ก็ลองสำรวจตรวจสอบในพื้นที่
ก็ไปพบผู้มีอาชีพทำปลาร้าขายรายหนึ่งที่น่าสนใจ คือ “ลัดดา รังประเสริฐ” ซึ่งทำ “ปลาร้าข้าวคั่ว”
ขายเป็นธุรกิจย่อยๆ สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย
ลัดดาเล่าว่า ปลาร้าข้าวคั่วสูตรที่ทำขายนี้เป็นแบบฉบับของต้นตระกูล จะไม่ค่อยเหมือนที่ไหน
และการทำขายก็จะเน้นขายเป็นตัวแห้งๆ ไม่ได้เป็นน้ำๆ
โดยเจ้าของสูตรปลาร้าข้าวคั่วสูตรนี้ทำขายมานานกว่า 15 ปีแล้ว
ซึ่งเดิมทีเดียว ก็ยังไม่ได้ยึดอาชีพทำปลาร้าข้าวคั่วขายอย่างจริงจัง ในตอนแรกนั้นเป็นแม่ค้าขายปลาสด
ทั้งจับมาขายและรับมาขาย ขายในตลาดสด ซึ่งช่วงนั้นก็ถือว่าพอขายได้ พอมีรายได้เลี้ยงครอบครัว
หลังจากยึดอาชีพขายปลาสดอยู่หลายปี ภายหลังก็เริ่มมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายปลาสดกันมากขึ้น
ทำให้มีคู่แข่งทางการตลาดมากขึ้น รายได้เริ่มน้อยลง จนตนเองเริ่มมีปัญหาทางด้านการเงินในครอบครัว
จึงเริ่มที่จะมองหาช่องทางทำกินใหม่ๆ มองหาสินค้าใหม่ๆ มาขายแทนปลาสด
“ก็เริ่มมองหาสินค้าที่จะมาขายเสริม ก็คิดได้ว่าเรามีสูตรการทำปลาร้าข้าวคั่วจากรุ่นปู่รุ่นย่า
ก็เลยลองทำออกไปวางขาย ปรากฏว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี
จึงตัดสินใจยึดการทำปลาร้าข้าวคั่วขาย เป็นอาชีพหลักแทนการขายปลาสด ซึ่งก็ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
จนปัจจุบันครอบครัวอยู่กันได้สบายๆ เพราะปลาร้า”
ลัดดายังบอกอีกว่า “ปลาร้านั้น ทำได้ไม่ยากเกินความสามารถ เริ่มทำใหม่ๆ ก็ลองทำเป็นธุรกิจแบบเล็กๆ ไปก่อน
พอเริ่มมีลูกค้ามากขึ้น มีเงินทุนเพิ่ม ค่อยเริ่มขยายกิจการ”
สำหรับอุปกรณ์หลักๆ ที่ใช้ทำปลาร้าข้าวคั่ว ก็มี โอ่งดินเผา, ไม้ไผ่, ผ้ายาง, มีด เป็นต้น
ส่วนวัตถุดิบที่จำเป็นๆ ก็คือ เกลือเม็ด, ข้าวคั่ว ขณะที่ปลาชนิดที่ลัดดาใช้ทำปลาร้านั้น จะใช้ปลายี่สก
เป็น “ปลายี่สก” เพราะปลาชนิดนี้เป็นปลาที่มีเนื้อเยื่อ ก้างนิ่มและก้างน้อย เหมาะที่จะใช้ทำ
ขั้นตอนและวิธีทำปลาร้าข้าวคั่วสูตรนี้ เริ่มจากนำปลายี่สกมาทำการล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
จากนั้นก็ทำการขอดเกล็ด ตัดครีบหลังและครีบหางออก ทำการผ่าท้องเอาไส้และขี้ปลาออก
แล้วก็แล่ปลาแผ่ออก จากนั้นจึงนำไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาดอีกครั้ง หลังจากทำความสะอาดปลาแล้ว
ก็นำปลามาคลุกกับเกลือเม็ดให้ทั่วถึงทุกตัวในอัตราส่วนปลา 1 ตัน ต่อเกลือเม็ด 300 กิโลกรัม
และจึงนำไปใส่ในโอ่งดินเผาให้เต็มโอ่ง ใช้ผ้ายางปิดให้มิดชิด หมักทิ้งไว้ราว 7 วัน
โอ่งที่ใช้หมักนั้น อย่าลืมว่าต้องล้างทำความสะอาดก่อน หมักเกลือได้ระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้ว
ตามสูตรนี้ก็จะนำปลาขึ้นมาทำการคลุกเคล้ากับข้าวคั่วในอัตราส่วนปลา 1 ตัน ต่อข้าวคั่ว 200 กิโลกรัม
เมื่อคลุกเคล้าข้าวคั่วจนทั่วทุกตัวแล้ว ก็นำลงไปใส่ในโอ่งดินเผา ใช้ผ้ายางคลุมปิดให้มิดชิด
ใช้ไม้ไผ่ขัดด้านบนอีกขั้น เพื่อให้ฝาปิดแน่นขึ้น เพื่อเป็นการกันแมลงวันเข้าไปตอมและวางไข่
หมักทิ้งไว้อีกประมาณ 1 เดือน ก็สามารถนำขึ้นมาบรรจุใส่ถุงขายได้
ที่สำคัญหลังจากหมักปลาลงในโอ่งแล้วจะต้องฉีดน้ำสะอาดบนโอ่งวันละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันแมลงวันมาวางไข่
เพราะเวลาหมักปลาลงในโอ่ง น้ำหมักในโอ่งจะล้นขึ้นมาตามขอบโอ่ง เป็นตัวล่อแมลงวัน
“ปลาร้าสูตรนี้จะไม่หมักปลากับข้าวคั่วเลย จะหมักกับเกลือก่อน แล้วถึงหมักกับข้าวคั่วอีกครั้ง
สูตรนี้จะไม่ทำให้เนื้อปลาเละ ที่สำคัญในการผสมเกลือต้องให้ได้ความเค็มมากพอ
แล้วจะทำให้ได้ปลาร้าที่รสชาติดีและปลาไม่เน่า” เจ้าของสูตรบอก
การทำปลาร้าข้าวคั่วของลัดดานั้น จะทำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยทำครั้งละประมาณ 2.5 ตัน ต้นทุน
ในการทำนั้นอยู่ที่ตันละประมาณ 24,000 บาท โดยจะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 60 บาท
ใครสนใจ “ปลาร้ายี่สกข้าวคั่ว” สูตรของลัดดา อยากลองซื้อไป รับประทานหรือจะสั่งไปจำหน่ายต่อ
ติดต่อได้ที่ หมู่ 17 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา โทร. 0-3858-5134, 08-6883-6170
ส่วนใครอยู่ในพื้นที่อื่นๆ ที่มีปลามาก อยากจะลองทำปลาร้ายขายดูบ้าง ก็ลองไปฝึกฝนฝีมือกันดู !!.
--จบ--
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
ข้อมูลโดย : เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 10 ม.ค. 2552--
ที่มา :
http://www.dailynews.co.th
http://www.udclick.com
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001