ผู้คนในยุคปัจจุบันนี้หันมาให้ความสำคัญในเรื่องของอาหารการกินในเชิงสุขภาพ กันมากขึ้น หลายคนจะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ สะอาดปลอดภัย ปลอดสารพิษ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการนำมาประกอบอาชีพขายอาหาร อย่างเมนู “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวกใบตำลึง” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” นำมาเล่าสู่...
ศิษฐา คุณาลัย เป็นเจ้าของร้านก๋วย เตี๋ยวเพลินพุง เจ้า ตัวเล่าว่าที่มาเปิดร้านก๋วย เตี๋ยวก็เพราะว่าเป็นคนที่ชอบทานก๋วยเตี๋ยว มักจะตระเวนทานก๋วยเตี๋ยวตามร้านต่าง ๆ จึงมีความคิดที่จะเปิดร้านเอง และหลังจากเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวก็คิดสูตรก๋วยเตี๋ยวของตัวเองขึ้นมา จนได้เป็นสูตร “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวกใบตำลึง” รวมทั้งมีแม่ครัวที่มีฝีมือในการทำอาหารเวียดนาม จึงตัดสินใจขายอาหารเวียดนามควบคู่ไปด้วย
“อาหารของร้านจะมีรส ชาติที่เน้นเป็นแบบของเราเอง และที่สำคัญร้านเราสร้างจุดเด่นด้วยการเน้นใช้ผักปลอดสารพิษเป็นวัตถุดิบ ตำลึงที่ใช้นั้นเราจะปลูกเองเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผักที่ปลอดสารพิษจริง ๆ และตอนนี้เราก็กำลังดำเนินการสร้างแปลงผักปลอดสารพิษ ผักไฮโดรโปนิกส์ จะปลูกเองใช้เอง ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดต้นทุนได้แล้ว ยังมั่นใจได้ว่าผักนั้นปลอดสารพิษจริง ๆ” ศิษฐากล่าว
สำหรับสูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวกใบตำลึงนั้น ทางเจ้าของร้าน บอกว่า การ ทำก็เริ่มจากนำเส้นก๋วยเตี๋ยวไปทำการลวกกับใบตำลึง และลวกหมูชิ้น จากนั้นก็ใส่ชามพักรอไว้ แล้วมาทำน้ำต้มยำโดยนำน้ำซุปใส่ชาม ใส่หมูสับคลุกเคล้าให้หมูสุก จากนั้นใส่น้ำพริกเผา ถั่วลิสงคั่วทุบพอหยาบ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว คลุกให้เข้ากัน เทใส่ลงในชามที่ทำเส้นเตรียมไว้ ใส่กากหมู และใส่ไข่ลวกลงไป เท่านี้ก็เรียบร้อย
“เส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าเป็นเส้นเล็กจะใช้เส้นจันท์ เพราะ เวลาลวกออกมาแล้วจะได้เส้นที่เหนียวนุ่มกว่าเส้นสด ไข่ลวกนั้นจะต้องลวกให้เป็นแบบยางมะตูม ส่วนรสชาติของก๋วยเตี๋ยวนั้นจะต้องกลมกล่อม ออก 3 รส คือ เปรี้ยว เค็ม หวาน ซึ่งที่สำคัญคือก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยนั้นอยู่ที่น้ำซุป”
นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ทางร้าน ยังเผยสูตร “สลัดเวียดนาม” ซึ่งการทำก็เริ่มจากทำน้ำสลัด โดยวัตถุดิบที่ใช้ก็มี ไข่ต้ม ใช้เฉพาะไข่แดง 5 ฟอง, มายอง เนส 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันพืชเล็กน้อย วัตถุดิบตามสัดส่วนนี้สามารถทำน้ำสลัดได้ประมาณ 1 ลิตร ซึ่งน้ำสลัดนั้นไม่ควรทำไว้เยอะ ๆ ข้ามคืน ควรทำใช้แบบวันต่อวัน ใกล้หมดก็ทำเพิ่มใหม่
วิธีทำน้ำสลัด นำไข่แดงใส่ลงไปในหม้อหรือกะละมังที่ใช้ผสมทำน้ำสลัด ทำการยีไข่แดงให้ละเอียดก่อน นำส่วนผสมทั้งหมดคือ มายอง เนส, น้ำตาลทราย, น้ำส้มสายชู, น้ำปลา และน้ำมันพืช ใส่ลงไป จากนั้นก็ทำการตีด้วยแรงมือให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จนได้น้ำสลัดที่ออกเป็นสีเหลือง เท่านี้ก็ใช้ได้
การขายเป็นสลัดเวียดนาม ขั้นตอนก็เริ่มที่การเตรียมผัก ได้แก่ ผักสลัด ผักกาดหอม มะเขือเทศหั่น หอมใหญ่หั่น ใส่ลงบนจานที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำหมูยอหั่น ไข่ต้มหั่นเป็นแว่น ๆ ใส่ลงบนผักอีกที โรยด้วยหอมเจียวและขึ้นฉ่ายหั่น ราดด้วยน้ำสลัดที่ทำเตรียมไว้ เท่านี้ก็เรียบร้อย
ทั้งนี้ สำหรับที่ร้านนี้ เมนู “เส้นหมี่หมูย่าง” ก็เป็นอีกเมนูที่ลูกค้าชื่นชอบ ซึ่งทางร้านเผยสูตรว่า เริ่มจากการนำเส้นหมี่ขาวไปทำการลวกให้สุก แล้วนำมาคลุกกับกระเทียมเจียวเล็กน้อยให้เส้นหมี่หอม จากนั้นใส่ลงในชามที่เตรียมไว้ แล้วก็นำผักต่าง ๆ ได้แก่ ถั่วงอก, ใบโหระพา, แตงกวาหั่นชิ้นเล็ก, ผักกาดหอมหั่นชิ้นเล็ก, ผักชีฝรั่งหั่นชิ้นเล็ก, แครอทและ ไช้เท้าหั่นชิ้นเล็ก ใส่ลงไปบริเวณขอบชามเส้นหมี่ แล้วจึงนำหมูย่างที่หั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ทับลงบนเส้นหมี่ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเปาะเปี๊ยะ เท่านี้ก็ได้อีกหนึ่งเมนู
ราคา ขายอาหารของร้านนี้ สำหรับ “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวกใบตำลึง” รวมถึง “สลัดเวียดนาม” และ “เส้นหมี่หมูย่าง” ราคาคือ 45 บาท ซึ่งนอกเหนือจากนี้ที่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม เปาะเปี๊ยะสด-ทอด เปาะเปี๊ยะแฮมชีส เป็นต้น โดยทั้งหมดนั้น “จุดขายคือเพื่อสุขภาพ”
ร้านอาหารเมนู สุขภาพ ร้านเพลินพุงของศิษฐา ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) เข้าไปเกือบสุดซอยที่จะไปทะลุถนนศรีนครินทร์ ร้านจะอยู่ขวามือ ถ้าเข้าทางถนนศรีนครินทร์ เข้าซอยประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ขวามือ ร้านเปิดตั้งแต่ 09.00-20.30 น. เบอร์โทรศัพท์คือ 08-8323-0404 ซึ่งร้านนี้ก็เป็นอีกกรณีตัวอย่าง “ช่องทางทำกิน” ขายอาหาร ที่ “ชูเมนูสุขภาพ” ดึงลูกค้าได้อย่างน่าสนใจ.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ รายงาน
สุพัตรา เมตะศิ
Credit : http://www.dailynews.co.th/
ศิษฐา คุณาลัย เป็นเจ้าของร้านก๋วย เตี๋ยวเพลินพุง เจ้า ตัวเล่าว่าที่มาเปิดร้านก๋วย เตี๋ยวก็เพราะว่าเป็นคนที่ชอบทานก๋วยเตี๋ยว มักจะตระเวนทานก๋วยเตี๋ยวตามร้านต่าง ๆ จึงมีความคิดที่จะเปิดร้านเอง และหลังจากเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวก็คิดสูตรก๋วยเตี๋ยวของตัวเองขึ้นมา จนได้เป็นสูตร “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวกใบตำลึง” รวมทั้งมีแม่ครัวที่มีฝีมือในการทำอาหารเวียดนาม จึงตัดสินใจขายอาหารเวียดนามควบคู่ไปด้วย
“อาหารของร้านจะมีรส ชาติที่เน้นเป็นแบบของเราเอง และที่สำคัญร้านเราสร้างจุดเด่นด้วยการเน้นใช้ผักปลอดสารพิษเป็นวัตถุดิบ ตำลึงที่ใช้นั้นเราจะปลูกเองเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผักที่ปลอดสารพิษจริง ๆ และตอนนี้เราก็กำลังดำเนินการสร้างแปลงผักปลอดสารพิษ ผักไฮโดรโปนิกส์ จะปลูกเองใช้เอง ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดต้นทุนได้แล้ว ยังมั่นใจได้ว่าผักนั้นปลอดสารพิษจริง ๆ” ศิษฐากล่าว
สำหรับสูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวกใบตำลึงนั้น ทางเจ้าของร้าน บอกว่า การ ทำก็เริ่มจากนำเส้นก๋วยเตี๋ยวไปทำการลวกกับใบตำลึง และลวกหมูชิ้น จากนั้นก็ใส่ชามพักรอไว้ แล้วมาทำน้ำต้มยำโดยนำน้ำซุปใส่ชาม ใส่หมูสับคลุกเคล้าให้หมูสุก จากนั้นใส่น้ำพริกเผา ถั่วลิสงคั่วทุบพอหยาบ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว คลุกให้เข้ากัน เทใส่ลงในชามที่ทำเส้นเตรียมไว้ ใส่กากหมู และใส่ไข่ลวกลงไป เท่านี้ก็เรียบร้อย
“เส้นก๋วยเตี๋ยว ถ้าเป็นเส้นเล็กจะใช้เส้นจันท์ เพราะ เวลาลวกออกมาแล้วจะได้เส้นที่เหนียวนุ่มกว่าเส้นสด ไข่ลวกนั้นจะต้องลวกให้เป็นแบบยางมะตูม ส่วนรสชาติของก๋วยเตี๋ยวนั้นจะต้องกลมกล่อม ออก 3 รส คือ เปรี้ยว เค็ม หวาน ซึ่งที่สำคัญคือก๋วยเตี๋ยวจะอร่อยนั้นอยู่ที่น้ำซุป”
นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ทางร้าน ยังเผยสูตร “สลัดเวียดนาม” ซึ่งการทำก็เริ่มจากทำน้ำสลัด โดยวัตถุดิบที่ใช้ก็มี ไข่ต้ม ใช้เฉพาะไข่แดง 5 ฟอง, มายอง เนส 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 5 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันพืชเล็กน้อย วัตถุดิบตามสัดส่วนนี้สามารถทำน้ำสลัดได้ประมาณ 1 ลิตร ซึ่งน้ำสลัดนั้นไม่ควรทำไว้เยอะ ๆ ข้ามคืน ควรทำใช้แบบวันต่อวัน ใกล้หมดก็ทำเพิ่มใหม่
วิธีทำน้ำสลัด นำไข่แดงใส่ลงไปในหม้อหรือกะละมังที่ใช้ผสมทำน้ำสลัด ทำการยีไข่แดงให้ละเอียดก่อน นำส่วนผสมทั้งหมดคือ มายอง เนส, น้ำตาลทราย, น้ำส้มสายชู, น้ำปลา และน้ำมันพืช ใส่ลงไป จากนั้นก็ทำการตีด้วยแรงมือให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จนได้น้ำสลัดที่ออกเป็นสีเหลือง เท่านี้ก็ใช้ได้
การขายเป็นสลัดเวียดนาม ขั้นตอนก็เริ่มที่การเตรียมผัก ได้แก่ ผักสลัด ผักกาดหอม มะเขือเทศหั่น หอมใหญ่หั่น ใส่ลงบนจานที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำหมูยอหั่น ไข่ต้มหั่นเป็นแว่น ๆ ใส่ลงบนผักอีกที โรยด้วยหอมเจียวและขึ้นฉ่ายหั่น ราดด้วยน้ำสลัดที่ทำเตรียมไว้ เท่านี้ก็เรียบร้อย
ทั้งนี้ สำหรับที่ร้านนี้ เมนู “เส้นหมี่หมูย่าง” ก็เป็นอีกเมนูที่ลูกค้าชื่นชอบ ซึ่งทางร้านเผยสูตรว่า เริ่มจากการนำเส้นหมี่ขาวไปทำการลวกให้สุก แล้วนำมาคลุกกับกระเทียมเจียวเล็กน้อยให้เส้นหมี่หอม จากนั้นใส่ลงในชามที่เตรียมไว้ แล้วก็นำผักต่าง ๆ ได้แก่ ถั่วงอก, ใบโหระพา, แตงกวาหั่นชิ้นเล็ก, ผักกาดหอมหั่นชิ้นเล็ก, ผักชีฝรั่งหั่นชิ้นเล็ก, แครอทและ ไช้เท้าหั่นชิ้นเล็ก ใส่ลงไปบริเวณขอบชามเส้นหมี่ แล้วจึงนำหมูย่างที่หั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ทับลงบนเส้นหมี่ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเปาะเปี๊ยะ เท่านี้ก็ได้อีกหนึ่งเมนู
ราคา ขายอาหารของร้านนี้ สำหรับ “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ลวกใบตำลึง” รวมถึง “สลัดเวียดนาม” และ “เส้นหมี่หมูย่าง” ราคาคือ 45 บาท ซึ่งนอกเหนือจากนี้ที่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม เปาะเปี๊ยะสด-ทอด เปาะเปี๊ยะแฮมชีส เป็นต้น โดยทั้งหมดนั้น “จุดขายคือเพื่อสุขภาพ”
ร้านอาหารเมนู สุขภาพ ร้านเพลินพุงของศิษฐา ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 107 (ซอยแบริ่ง) เข้าไปเกือบสุดซอยที่จะไปทะลุถนนศรีนครินทร์ ร้านจะอยู่ขวามือ ถ้าเข้าทางถนนศรีนครินทร์ เข้าซอยประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ขวามือ ร้านเปิดตั้งแต่ 09.00-20.30 น. เบอร์โทรศัพท์คือ 08-8323-0404 ซึ่งร้านนี้ก็เป็นอีกกรณีตัวอย่าง “ช่องทางทำกิน” ขายอาหาร ที่ “ชูเมนูสุขภาพ” ดึงลูกค้าได้อย่างน่าสนใจ.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ รายงาน
สุพัตรา เมตะศิ
Credit : http://www.dailynews.co.th/
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001