ข้าวหมาก อาหารพื้นเมือง ที่นับวันจะเลือนหายไปจากความทรงจำของคนไทย
เช่นเดียวกับอาหารโบราณของคนไทยอีกหลายชนิดซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าไม่ได้มีการอนุรักษ์การทำอาหารพื้นเมือง เหล่านี้ไว้เพราะส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง
นางกุลิสรา ติณวัฒนานนท์ (หนึ่ง) เจ้าของสูตร
สำหรับผู้ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวตลาดน้ำ คงจะได้มีโอกาสได้ลองลิ้มชิมรสชาติของอาหารโบราณ
ที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก รวมถึงข้าวหมาก และสำหรับผู้ที่อยู่ในย่านกรุงเทพฯ ปริมณฑล
และต้องการชิมรสชาติของข้าวหมาก วันนี้ มีตลาดน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เปิดให้บริการกันในย่านชานเมืองหลายแห่งรวมถึงตลาดน้ำคลองลัดมะยม ย่านพุทธมณฑลสาย 1 ตลิ่งชันซึ่งที่นี่ มีข้าวหมากสูตรโบราณที่ขึ้นชื่อ และรู้จักกันในชื่อ “ใบกล้วยข้าวหมาก หนึ่ง&ม่วย”
ข้าวหมากในห่อใบตอง
นางกุลิสรา ติณวัฒนานนท์ ( หนึ่ง) เจ้าของสูตรข้าวหมากใบกล้วย เล่าว่า ได้เริ่มทำข้าวหมากขายมาได้ประมาณ 3 ปีจุดประสงค์ที่ทำข้าวหมากขาย ก็มาจากความต้องการที่จะอนุรักษ์อาหารไทยโบราณให้ยังคงอยู่คู่คนไทยและประเทศไทย ซึ่งนอกจากข้าวหมาก ก็ยังมีอาหารโบราณอื่นๆ ที่เริ่มหาทานได้ยากเช่น ทอดมันสมุนไพร หน่อกะลา และขนมโบราณ อย่างข้าวเหนียวตัด เป็นต้น
ผลพ่วงจากการเราตั้งใจอนุรักษ์อาหารไทยโบราณ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรอนุรักษ์มรดกไทย
เห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ จึงได้คัดเลือกให้เราได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกไทยในหมวดอาหาร
โดยได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีนอกจากนี้ ในส่วนของข้าวหมาก เราก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดโอทอป 3 ดาว ระดับประเทศด้วย
ข้าวหมากขายอยู่บนเรือ
สำหรับสูตรข้าวหมากเป็นสูตรโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากป้า ซึ่งทำขายอยู่กับบ้านมานานหลายสิบปีและต่อมาเลิกทำไป เพราะลูกค้าเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักและกินไม่เป็นในส่วนของตนเองเริ่มทำในช่วงที่มีการโปรโมทการทำตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็เลยตัดสินใจนำข้าวหมาก ทอดมันหน่อกะลาใส่เรือพายมาขายเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของตลาดน้ำ คือการอนุรักษ์ของใช้และอาหารโบราณ
“ส่วนชื่อข้าวหมาก หนึ่ง&ม่วย มาจากชื่อของตนเองและพี่สาว เพราะทำขายกัน 2 ร้าน แต่เป็นสูตรเดียวกันลูกค้าสามารถซื้อร้านไหนก็ได้รสชาติเดียวกัน และราคาเหมือนกันและในส่วนของชื่อใบกล้วย มาจากอาหารของเราทุกชนิดจะใส่ภาชนะทำจากใบกล้วย หรือใบตองเพราะการใส่ใบตองเป็นการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติ และลดการใช้ถุงพลาสติกที่สำคัญอาหารใส่ใบตองดูสดใหม่ และน่ากินมากขึ้น”
นอกจากการขายที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม บางส่วนมีขายส่งให้กับคนทั่วไปที่มารับไปจำหน่ายอีกทอดหนึ่งโดย ลูกค้าจะมีทั้งที่มารับไปเองและให้เราจัดส่งให้ ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ส่งใกล้ หรือไกลซึ่งราคาขายส่งจะอยู่ที่ห่อละ 3.50 บาท ไปจนถึง 4 บาท ส่วนราคาขายปลีกห่อละ 5 บาท และ 6 บาทแล้วแต่สถานที่ขายแต่ละแห่ง แต่ในส่วนของคุณหนึ่งและม่วย ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะขายห่อละ 5 บาท
นางกุลิสรา เล่าว่า ทั้งนี้จากการที่เราได้เข้าไปขายในมหาวิทยาลัยมหิดลทำให้รู้ว่า ปัจจุบันลูกค้าในกลุ่มนักศึกษาวัยรุ่น มีความรู้ในเรื่องของคุณประโยชน์ของข้าวหมากมากขึ้นซึ่งประโยชน์ของข้าวหมากช่วยบำรุงผิว บำรุงเลือด และสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายและเมื่อความรู้ตรงนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เราได้ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นที่รักและใส่ใจสุขภาพหันมากินข้าวหมากกันมากขึ้น
สำหรับรายได้ขายปลีกที่ตลาดน้ำอยู่ที่วันละขั้นต่ำ 300 ห่อขึ้นไปขายเฉพาะวันเสาร์- อาทิตย์ และวันศุกร์จะเข้าไปขายอยู่ในมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งขายวันละ 300ห่อ เช่นกันส่วนขายส่งนั้นทำส่งขายทุกวัน วันละ 1,000 ห่อไปจนถึง 3,000 ห่อ ลูกค้ามาจากการบอกกันแบบปากต่อปากจากการที่ลูกค้าได้มาซื้อกินที่ตลาดน้ำและชื่นชอบ ก็มาเป็นลูกค้าประจำกันเช่นเดียวกับการขายส่งก็มาจากจุดเริ่มต้นที่ตลาดน้ำนี้เช่นกัน
ข้าวเหนียวตัดสูตรโบราณหวานตามธรรมชาติ
ส่วนข้าวหมากที่จะให้คุณประโยชน์ตรงนี้ได้ดี ต้องเป็นข้าวหมากที่อยู่ในช่วงที่เรียกว่าข้าวหมากสุก
หรือปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่มากอยู่ที่ประมาณ 0.05 % ซึ่งข้าวหมากจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
คือ ข้าวหมากดิบ ยังนำมาทานไม่ได้ ช่วงที่สอง ข้าวหมากสุก กำลังทาน
และช่วงที่สาม เป็นข้าวหมากงอม คือ ทิ้งไว้นานปริมาณแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้นกินไปมากก็ทำให้เมาได้
ซึ่งอายุการเก็บรักษาข้าวหมากให้อยู่ในช่วงข้าวหมากสุกอยู่ระหว่าง 2-7 วัน หลังจากนั้นเป็นข้าวหมากงอม
“สาเหตุที่เราได้ลูกค้าประจำค่อนข้างมาก เพราะรสชาติที่เป็นแบบโบราณ
ซึ่งเป็นจุดเด่นของเราที่ต่างจากคนทำข้าวหมากในปัจจุบัน
เคล็ดลับของการทำข้าวหมากสูตรโบราณ คือ ต้องไม่ใส่น้ำตาล
แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะเติมน้ำตาล ทำให้ไม่ได้รสชาติความหวานแบบธรรมชาติ
และเราเลือกใช้ลูกแป้งหมักอย่างดี ซึ่งซื้อลูกแป้งมาจากจังหวัดเชียงใหม่
และบวกกับเคล็ดลับและเทคนิคการทำข้าวหมากที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้รสชาติออกมาดี”
โทร. 08-5551-2935
จาก อาชีพแก้จน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
8 มิถุนายน 2552
ที่มา : http://www.manager.co.th
เช่นเดียวกับอาหารโบราณของคนไทยอีกหลายชนิดซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าไม่ได้มีการอนุรักษ์การทำอาหารพื้นเมือง เหล่านี้ไว้เพราะส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง
นางกุลิสรา ติณวัฒนานนท์ (หนึ่ง) เจ้าของสูตร
สำหรับผู้ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวตลาดน้ำ คงจะได้มีโอกาสได้ลองลิ้มชิมรสชาติของอาหารโบราณ
ที่ไม่ได้พบเห็นกันบ่อยนัก รวมถึงข้าวหมาก และสำหรับผู้ที่อยู่ในย่านกรุงเทพฯ ปริมณฑล
และต้องการชิมรสชาติของข้าวหมาก วันนี้ มีตลาดน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เปิดให้บริการกันในย่านชานเมืองหลายแห่งรวมถึงตลาดน้ำคลองลัดมะยม ย่านพุทธมณฑลสาย 1 ตลิ่งชันซึ่งที่นี่ มีข้าวหมากสูตรโบราณที่ขึ้นชื่อ และรู้จักกันในชื่อ “ใบกล้วยข้าวหมาก หนึ่ง&ม่วย”
ข้าวหมากในห่อใบตอง
นางกุลิสรา ติณวัฒนานนท์ ( หนึ่ง) เจ้าของสูตรข้าวหมากใบกล้วย เล่าว่า ได้เริ่มทำข้าวหมากขายมาได้ประมาณ 3 ปีจุดประสงค์ที่ทำข้าวหมากขาย ก็มาจากความต้องการที่จะอนุรักษ์อาหารไทยโบราณให้ยังคงอยู่คู่คนไทยและประเทศไทย ซึ่งนอกจากข้าวหมาก ก็ยังมีอาหารโบราณอื่นๆ ที่เริ่มหาทานได้ยากเช่น ทอดมันสมุนไพร หน่อกะลา และขนมโบราณ อย่างข้าวเหนียวตัด เป็นต้น
ผลพ่วงจากการเราตั้งใจอนุรักษ์อาหารไทยโบราณ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรอนุรักษ์มรดกไทย
เห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ จึงได้คัดเลือกให้เราได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกไทยในหมวดอาหาร
โดยได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีนอกจากนี้ ในส่วนของข้าวหมาก เราก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสุดยอดโอทอป 3 ดาว ระดับประเทศด้วย
ข้าวหมากขายอยู่บนเรือ
สำหรับสูตรข้าวหมากเป็นสูตรโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากป้า ซึ่งทำขายอยู่กับบ้านมานานหลายสิบปีและต่อมาเลิกทำไป เพราะลูกค้าเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักและกินไม่เป็นในส่วนของตนเองเริ่มทำในช่วงที่มีการโปรโมทการทำตลาดน้ำคลองลัดมะยมก็เลยตัดสินใจนำข้าวหมาก ทอดมันหน่อกะลาใส่เรือพายมาขายเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของตลาดน้ำ คือการอนุรักษ์ของใช้และอาหารโบราณ
“ส่วนชื่อข้าวหมาก หนึ่ง&ม่วย มาจากชื่อของตนเองและพี่สาว เพราะทำขายกัน 2 ร้าน แต่เป็นสูตรเดียวกันลูกค้าสามารถซื้อร้านไหนก็ได้รสชาติเดียวกัน และราคาเหมือนกันและในส่วนของชื่อใบกล้วย มาจากอาหารของเราทุกชนิดจะใส่ภาชนะทำจากใบกล้วย หรือใบตองเพราะการใส่ใบตองเป็นการช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติ และลดการใช้ถุงพลาสติกที่สำคัญอาหารใส่ใบตองดูสดใหม่ และน่ากินมากขึ้น”
นอกจากการขายที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม บางส่วนมีขายส่งให้กับคนทั่วไปที่มารับไปจำหน่ายอีกทอดหนึ่งโดย ลูกค้าจะมีทั้งที่มารับไปเองและให้เราจัดส่งให้ ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ส่งใกล้ หรือไกลซึ่งราคาขายส่งจะอยู่ที่ห่อละ 3.50 บาท ไปจนถึง 4 บาท ส่วนราคาขายปลีกห่อละ 5 บาท และ 6 บาทแล้วแต่สถานที่ขายแต่ละแห่ง แต่ในส่วนของคุณหนึ่งและม่วย ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมจะขายห่อละ 5 บาท
นางกุลิสรา เล่าว่า ทั้งนี้จากการที่เราได้เข้าไปขายในมหาวิทยาลัยมหิดลทำให้รู้ว่า ปัจจุบันลูกค้าในกลุ่มนักศึกษาวัยรุ่น มีความรู้ในเรื่องของคุณประโยชน์ของข้าวหมากมากขึ้นซึ่งประโยชน์ของข้าวหมากช่วยบำรุงผิว บำรุงเลือด และสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายและเมื่อความรู้ตรงนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เราได้ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นที่รักและใส่ใจสุขภาพหันมากินข้าวหมากกันมากขึ้น
สำหรับรายได้ขายปลีกที่ตลาดน้ำอยู่ที่วันละขั้นต่ำ 300 ห่อขึ้นไปขายเฉพาะวันเสาร์- อาทิตย์ และวันศุกร์จะเข้าไปขายอยู่ในมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งขายวันละ 300ห่อ เช่นกันส่วนขายส่งนั้นทำส่งขายทุกวัน วันละ 1,000 ห่อไปจนถึง 3,000 ห่อ ลูกค้ามาจากการบอกกันแบบปากต่อปากจากการที่ลูกค้าได้มาซื้อกินที่ตลาดน้ำและชื่นชอบ ก็มาเป็นลูกค้าประจำกันเช่นเดียวกับการขายส่งก็มาจากจุดเริ่มต้นที่ตลาดน้ำนี้เช่นกัน
ข้าวเหนียวตัดสูตรโบราณหวานตามธรรมชาติ
ส่วนข้าวหมากที่จะให้คุณประโยชน์ตรงนี้ได้ดี ต้องเป็นข้าวหมากที่อยู่ในช่วงที่เรียกว่าข้าวหมากสุก
หรือปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่มากอยู่ที่ประมาณ 0.05 % ซึ่งข้าวหมากจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
คือ ข้าวหมากดิบ ยังนำมาทานไม่ได้ ช่วงที่สอง ข้าวหมากสุก กำลังทาน
และช่วงที่สาม เป็นข้าวหมากงอม คือ ทิ้งไว้นานปริมาณแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้นกินไปมากก็ทำให้เมาได้
ซึ่งอายุการเก็บรักษาข้าวหมากให้อยู่ในช่วงข้าวหมากสุกอยู่ระหว่าง 2-7 วัน หลังจากนั้นเป็นข้าวหมากงอม
“สาเหตุที่เราได้ลูกค้าประจำค่อนข้างมาก เพราะรสชาติที่เป็นแบบโบราณ
ซึ่งเป็นจุดเด่นของเราที่ต่างจากคนทำข้าวหมากในปัจจุบัน
เคล็ดลับของการทำข้าวหมากสูตรโบราณ คือ ต้องไม่ใส่น้ำตาล
แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่มักจะเติมน้ำตาล ทำให้ไม่ได้รสชาติความหวานแบบธรรมชาติ
และเราเลือกใช้ลูกแป้งหมักอย่างดี ซึ่งซื้อลูกแป้งมาจากจังหวัดเชียงใหม่
และบวกกับเคล็ดลับและเทคนิคการทำข้าวหมากที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้รสชาติออกมาดี”
โทร. 08-5551-2935
จาก อาชีพแก้จน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
8 มิถุนายน 2552
ที่มา : http://www.manager.co.th
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001