‘ซาลาเปา” เป็นของกินที่มีการทำขายอยู่ทั่วไป มีไส้ต่างๆ ให้ลูกค้าเลือกตามความพอใจ ราคาไม่สูง
แต่สำหรับการทำขายก็ถือว่ามีการแข่งขันกันสูงพอสมควร
ดังนั้น คนทำซาลาเปาขายจึงต้องมีการสร้างจุดขายเพื่อดึงให้ลูกค้าสนใจ
และวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอข้อมูล “ซาลาเปารสขิง” ซึ่งก็น่าสนใจ...
อ้อ-สันศนีย์ จันทร์จันทร์ นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เป็นเจ้าของไอเดีย “ซาลาเปารสขิง”
โดยมี ผศ.สุชาดา งามประภาวัฒน์ เป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำ
เจ้าของไอเดียเล่าว่า ซาลาเปารสขิงถือว่าเป็น “อาหารเพื่อสุขภาพ” อีกชนิดหนึ่ง
อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องทานอาหารระหว่างเดินทาง
โดยสรรพคุณของขิงช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการเมารถเมาเรือได้ มีสรรพคุณดีกว่ายาแก้เมาเสียอีก
สรรพคุณของขิงที่มีรสหวาน เผ็ดร้อน ช่วยขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน แก้หอบไอ
ขับเสมหะ แก้บิด โดยขิงสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบทั้งของคาว ของหวาน
หรือทานสดๆ เป็นเครื่องเคียง รวมถึงแปรรูปเป็นขิงผง ขิงดอง และน้ำขิงได้อีกด้วย
ส่วนซาลาเปาเป็นอาหารที่นิยมรับประทานรองท้องไม่ให้หิว
นอกจากนี้ ยังเป็นอาหารว่าง ที่กระตุ้นให้อยากรับประทานอาหารประเภทอื่นได้อีกด้วย
ซึ่งซาลาเปาก็มีทั้งไส้หวาน ไส้เค็ม มีทั้งไส้หมูสับ ไส้หมูแดง ไส้ครีม ไส้ถั่วดำ และก็ทำให้มีรสขิงได้ด้วย
การทำซาลาเปา
อุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้ อาทิ หม้อนึ่งซาลาเปาหรือซึ้งนึ่ง, เครื่องนวดแป้ง, เตาแก๊ส,
ถาดอะลูมิเนียม, ไม้นวดแป้ง และเครื่องครัวเบ็ดเตล็ด
สำหรับวัตถุดิบ-ส่วนผสมสำหรับทำ “ซาลาเปารสขิง” แยกเป็น...
ส่วนผสมที่ 1 ประกอบด้วย
แป้งสาลีตราบัว 120 กรัม,
ยีสต์ 1½ ช้อนชา,
น้ำเปล่า 3½ ช้อนโต๊ะ
และส่วนผสมที่ 2 ประกอบด้วย
แป้งสาลี 75 กรัม,
ผงฟู 1 ช้อนชา,
น้ำตาลทราย 35 กรัม,
เนยขาว 20 กรัม,
เกลือ ¼ ช้อนชา
และ น้ำขิง 2 ช้อนโต๊ะ
ขั้นตอนการทำ “ซาลาเปารสขิง”
เริ่มจากทำส่วนผสมที่ 1 นำแป้งสาลีผสมกับยีสต์ในกะละมัง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนจะใส่น้ำสะอาดตามลงไป
ทำการนวดพอเข้ากัน ตั้งพักไว้ให้แป้งขึ้นเป็นเท่าตัว
ต่อไปเป็นการเตรียมส่วนผสมที่ 2 นำแป้งสาลีเทใส่ลงในกะละมัง ตามด้วยผงฟู น้ำขิง และน้ำสะอาด
คลุกเคล้าพอเข้ากัน จากนั้นก็นำแป้งส่วนผสมที่ 1 ที่ทำไว้ มาผสมเข้ากับส่วนผสมที่ 2 นวดพอเข้ากัน
แล้วจึงใส่เนยขาวเป็นขั้นตอนสุดท้าย จากนั้นก็นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนแป้งเนียน
แล้วพักไว้ 10 นาทีให้แป้งได้ที่
ระหว่างนี้ก็ทำ ไส้ไก่ผัดขิง โดยส่วนผสมก็มี...
เนื้อไก่ 100 กรัม,
ขิงอ่อน 25 กรัม,
เห็ดหูหนู 50 กรัม,
หอมหัวใหญ่ 50 กรัม,
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ,
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ,
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
และน้ำมันพืช
สำหรับขั้นตอนการทำไส้ไก่ผัดขิง เริ่มจากทำการล้างเนื้อไก่ ขิงอ่อน เห็ดหูหนู และหอมหัวใหญ่ ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
แล้วทำการหั่นส่วนผสมทั้งหมดเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ
จากนั้นนำกระทะตั้งไฟ พอร้อนใส่น้ำมันพืชลงไปเพียงเล็กน้อย ใส่หอมหัวใหญ่และขิงอ่อนลงไปผัดให้หอม
แล้วจึงใส่เนื้อไก่ตามลงไปผัดให้สุก ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและน้ำตาลทราย
จากนั้นจึงใส่เห็ดหูหนูตามลงผัด 4-5 ที พอแห้ง ชิมรสให้กลมกล่อม
รสได้ที่แล้วก็ยกลงจากเตา ตั้งพักไว้ให้เย็นเตรียมไว้
ขั้นต่อไปนำแป้งที่เตรียมไว้มาตัดแบ่งเป็นก้อนๆ ปั้นเป็นก้อนกลม ก้อนละ 20 กรัม
(ส่วนผสมตามที่แนะนำทำซาลาเปาได้ประมาณ 18 ลูก) พักไว้ 10 นาที เพื่อให้แป้งขึ้น
ก่อนจะทำการห่อไส้ ด้วยการใช้ไม้คลึงมารีดแป้งกลับไปกลับมาให้เป็นแผ่นกลม ตักไส้ใส่ลงตรงกลางแป้ง
ค่อยๆ จีบเป็นกลีบก่อนจะหุ้มปิดเพื่อความสวยงาม นำผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้แห้งคลุมปิดไว้
ก่อนจะนำไปนึ่งในน้ำเดือดราว 10 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย
อ้อ-สันศนีย์ บอกด้วยว่า “ซาลาเปารสขิง” สามารถเก็บไว้ได้นานราว 2 เดือน ในช่องแช่แข็ง
เมื่อจะรับประทานก็นำออกมาเข้าไมโครเวฟ ซึ่งซาลาเปารสขิงนี้จะมีทั้งกลิ่นและรสของขิง เป็นรสชาติที่ลงตัว
“ซาลาเปารสขิง” เป็นผลงานของนักศึกษา
แต่ก็สามารถนำไปพลิกแพลงต่อยอดทางการค้า เป็น “ช่องทางทำกิน” ได้
โดยคำนวณตั้งราคาขายให้มีกำไรประมาณ 40% หลังหักทุนวัตถุดิบ
ซึ่งหากใครสนใจ ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ก็ลองติดต่อไปที่ ผศ.สุชาดา มทร.ธัญบุรี โทร. 08-9526-7598.
เชาวลี ชุมขำ : รายงาน
ข้อมูลโดย : http://www.dailynews.co.th
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001