โดยลักษณะไม่เหมือนร้านอาหารไทย บรรยากาศสบาย ๆ เหมือนร้านที่อยู่ต่างประเทศกึ่งค็อฟฟี่ช็อป กึ่งร้านอาหาร มีที่แวะซื้อของฝากได้ด้วยก่อนที่จะขับรถกลับกรุงเทพฯ
เมื่อไปถึงที่ร้านหาที่นั่งกันเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ได้ชิมเป็น สลัดเนื้อเทนเดอลอยด์ ซึ่งมีลักษณะคล้าย ๆ กับยำเนื้อ โดยเอาเนื้อเทนเดอร์ลอยด์มาหมักแล้วเอามาทอดหรือเอามาย่างให้สุกพอดี ไม่ให้สุกเกินไปนักแล้วเอามาวางบนผักสลัด ราดด้วยน้ำยำ อร่อยมาก รสชาติดี เนื้อไม่เหนียว ราคาของเขาก็ไม่แพง ผมติดใจเลยครับสำหรับอาหารจานนี้ ไม่หนักจนเกินไป กินคู่กับผักเพื่อสุขภาพด้วยครับ
ต่อจากนั้นเป็น สปาเกตตีไส้อั่ว โดยไส้อั่วนั้นเขาซื้อมาจากทางเหนือแล้วเอามาหั่นก่อนที่จะนำไปย่าง จากนั้นถึงจะเอามาผัดกับเส้นสปาเกตตี โดยจะผัดคล้ายผัดขี้เมาแต่ใส่ไส้อั่ว รสชาติดี กลิ่นหอม อร่อย เพราะไส้อั่วของบ้านเราจะมีรสชาติและกลิ่นที่พิเศษอยู่แล้ว เนื่องจากเขาใส่ขมิ้นชันในเครื่องของไส้อั่วด้วย
ความจริงแล้วเมนูนี้ผมว่าควรเอาไส้อั่วสับให้ละเอียดสักหน่อยแล้วมาผัดกับเส้นสปาเกตตีน่าจะได้กลิ่นและได้รสชาติที่อร่อยกว่านี้ แต่แบบที่เขาทำก็อร่อย เสียไปนิด คือ เส้นสปาเกตตีของเขานิ่มเกินไป หรือเขาอาจจะต้มเส้นนานเกินไป ควรจะต้มให้เส้นยังกรุบ ๆ อยู่นิด ๆ แล้วรีบตักขึ้นมาแช่น้ำเย็นที่มีน้ำแข็งทันทีก่อนที่จะตักขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำแล้วเอามาคลุกน้ำมันไว้ เมื่อถึงเวลาผัดถึงเอาลงกระทะ เมื่อปรุงรสเส้นก็จะไม่เละ ยังนุ่มและเหนียวพอดีครับ ซึ่งผมก็ได้แนะนำทางร้านไว้แล้ว
ต่อมาเป็น แซ่บซ่าสลัดทูน่า เป็นยำปลาทูน่าแบบไทยจริง ๆ ครับ มีเครื่องยำแบบไทยครบครัน ทั้งตะไคร้ น้ำตาล น้ำปลา มะนาว โดยจะเอายำมาวางไว้บนผักสลัด แถวนั้นคงมีผักสลัดสดเป็นไฮโดรโปนิกส์มาก ซึ่งฝรั่งจะชอบสลัดที่ร้านนี้มาก ราดน้ำยำแล้วเสิร์ฟ อร่อยดี ผักสด กรอบ กินคู่กับยำเข้ากันได้ดี
ยังมี ผัดหมี่สิงคโปร์ เป็นเส้นหมี่ผัดแบบสิงคโปร์ซึ่งจะต้องใส่ผงกะหรี่เล็กน้อย แล้วใส่ซีอิ๊ว และใส่ผักต่าง ๆ เมนูนี้ของเขาใช้ได้ครับ แต่สำหรับผมรสชาติจืดไปนิด ควรเติมเครื่องปรุงให้มากกว่านี้ แต่คนสิงคโปร์เขาจะกินรสชาติจืด ๆ กันเสียส่วนใหญ่
ตามมาด้วย ปลากะพงทอดสมุนไพร เขาเอาปลากะพงทั้งตัวมาแล่เนื้อปลาเป็นชิ้น ๆ และเอาไปทอดให้กรอบ รวมทั้งหัวปลากับก้างปลาก็เอาไปทอดให้กรอบด้วย จากนั้น เอาสมุนไพรต่าง ๆ ลงไปทอดแล้วนำมาโรยบนปลา ซึ่งปลาของเขาหมักได้ดี หอมมาก และทอดปลาได้สุกพอดีด้วย โดยเนื้อปลายังมีความชุ่มชื่นอยู่ไม่แห้งจนเกินไป
แต่ถ้าเนื้อปลาของเขาหมักสมุนไพรนานกว่านี้ เนื้อปลาก็จะมีความหอมกว่านี้และมีรสชาติมากกว่านี้ ส่วนสมุนไพรก็เช่นกันถ้าทอดกรอบจะให้กลิ่น ให้รสชาติ และเพิ่มเสน่ห์ให้กับอาหารจานนี้ได้เป็นอย่างดี โดยที่ร้านก็ทำได้ดี หอม กรอบ อร่อย และผมชอบที่เขาเอาเนื้อปลาแล่และหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วเอาไปทอด จะได้ไม่ต้องมาเลาะเนื้อปลาเวลาจะกิน เป็นการทำที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสะดวกสบายในการกิน
นอกจากนี้ยังมี แกงเผ็ดเป็ดย่างกับโรตี สมัยนี้เขามีโรตีที่ทำสำเร็จรูปขาย เราสามารถเอามาทอดเองได้ ไม่ต้องซื้อแบบทอดที่เขาแช่แข็งมาทำเพราะมันจะไม่พองและไม่อร่อย ส่วนตัวแกงเผ็ดของเขาใช้ได้แต่ควรเอาเป็ดย่างจากร้านอาหารจีนที่เขาทำไว้แล้วจะได้ไม่ต้องทำเป็ดเอง เราแค่ไปซื้อที่ร้านที่คนจีนเขาทำเป็ดย่างที่อร่อยอยู่แล้ว จากนั้นเอามาปรุงเพิ่ม ที่ร้านทำได้รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานเกินไป มีความเปรี้ยวอยู่เล็กน้อย อร่อยดีครับ
ที่ผมชอบ คือ หมูคุโรบุตะจิ้มแจ่ว โดยหมูคุโรบุตะ ก็คือ หมูดำ ซึ่งสมัยก่อนจะราคาแพงมาก ที่ร้านเขาหมักได้ดีมาก รสชาติดี รวมทั้งย่างได้พอดีไม่แห้งจนเกินไป โดยจะเสิร์ฟกับเฟรนช์ฟรายส์ ถ้าเป็นผมจะเสิร์ฟกับข้าวผัด หรือส้มตำ เพราะหมูเขารสชาติดี แต่กินคู่กับเฟรนช์ฟรายส์ก็อร่อยเช่นกัน
ที่ร้านมีเมนู เบนนี่ซุปเปอร์ ผมเห็นชื่อแปลกดีเลยสั่งมาลองกินดู เป็นซี่โครงหมูนำมาทำเป็นบาร์บีคิว รสชาติใช้ได้ แต่สำหรับผมหวานไป ควรจะใส่น้ำแอปเปิ้ล ใส่น้ำส้มสายชูลงไปอีกเล็กน้อยจะได้ช่วยตัดความเลี่ยน แต่รสชาติบาร์บีคิวซอสเขาใช้ได้เลยครับ ส่วนซี่โครงหมูก็นุ่ม ไม่เหนียว ไม่แข็ง สู้ฟันเล็กน้อย ใช้ได้ครับอาหารจานนี้
ตบท้ายที่ ส้มตำเบคอน เขาเอาส้มตำไทยเรานี่ล่ะครับแล้วทอดเบคอนแต่ไม่ให้กรอบจนเกินไป จากนั้นเอาเบคอนมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ลวกในน้ำร้อนให้สุกนิดหน่อย และเวลาตำก็ใส่เบคอนลงไปตำด้วยซึ่งจะได้ความหอมของเบคอนอยู่ในส้มตำ และได้ความเค็มด้วย แต่ผมว่าเผ็ดน้อยไปนิด แต่โดยรวมรสชาติดี
ร้านนี้น่านั่งมากครับ มีกาแฟสดด้วย กาแฟอร่อยเช่นกัน ใครมีโอกาสไปแถวนั้นลองแวะไปชิมกันดูนะครับ.
..................................................................................................
ผัดหมี่สิงคโปร์ - ชิมให้เป็น
ผมขอพูดถึงอาหาร ผัดหมี่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นเมนูที่ขั้นตอนการทำไม่มีอะไรมากคล้ายผัดหมี่ ใส่ไข่ ใส่หอม ใส่มะเขือเทศ ใส่กระเทียม แต่ผัดหมี่สิงคโปร์จะต้องใส่ผงกะหรี่สักนิดเท่านั้นเอง ความจริงแล้ว การทำจะต้องลวกเส้นให้เป็น แช่น้ำให้พอดี โดยจะต้องผัดเครื่องเสียก่อนแล้วใส่ไข่ก่อนถึงจะค่อยเอาเส้นลงไปผัด โดยจะต้องใช้น้ำมันมากพอสมควร ไม่เช่นนั้นเส้นจะหักถ้าเราอยากได้เส้นยาว ๆ และปรุงรสด้วยซีอิ๊ว พริกไทยขาว และใส่ผงกะหรี่อีกเล็กน้อย โดยผัดหมี่สิงคโปร์นั้นรสชาติที่แท้จริงจะต้องออกรสชาติเค็ม มัน และตัดความเลี่ยนด้วยมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่ การผัดจะต้องผัดเป็น ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะเละ ไม่น่ากิน และต้องมีรสชาติที่เข้มข้น ถึงจะเป็นผัดหมี่สิงคโปร์
..................................................................................................
ยำปลาช่อนน้ำพริกเผา - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงปลาช่อน
น้ำมันพืช 1 ลิตร
ปลาช่อนแดดเดียว 500 กรัม
วิธีทำ
1.นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพืชลงไปให้ร้อน
2.หั่นปลาช่อนแดดเดียวเป็นชิ้น ๆ พอคำ
3.นำปลาที่หั่นแล้วลงไปทอดให้สุกเหลือง กรอบนอกนุ่มใน ตักออกพักไว้
เครื่องปรุงน้ำยำ
พริกขี้หนูบุบ 10 เม็ด
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ผสมเครื่องปรุงทุกอย่างในชามผสม คนให้เข้ากันชิมรสชาติให้ เปรี้ยว เค็ม และหวานตาม พักไว้เป็นน้ำยำ
เครื่องปรุงยำปลาช่อนน้ำพริกเผา
ปลาช่อนทอดแล้ว 500 กรัม
ตะไคร้ซอย 1 ต้นใหญ่
ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 2 ต้น
มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง 6 ลูก
น้ำยำสำเร็จแล้ว 4 ช้อนโต๊ะ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 50 กรัม
วิธีทำ
1.ในชามผสมใส่ปลาช่อนที่ทอดแล้วลงไป
2.ใส่ตะไคร้ ขึ้นฉ่าย มะเขือเทศ ลงไป แล้วตักน้ำยำลงไปราดให้ทั่ว
3.ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลงไป แล้วคลุกให้น้ำยำเคลือบส่วนผสมทั้งหมด
4.ตักใส่จาน เสิร์ฟทันที
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/276122/กรอบอร่อย+‘ปลากะพงทอดสมุนไพร’จัดจ้านถึงใจ+‘สปาเกตตีไส้อั่ว’
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001