สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

‘เปลือกแตงโมหยี’ แปรรูปเพิ่มมูลค่าผลไม้



“การแปรรูปผลไม้” มีให้เห็นมากมายหลายแบบ และทำได้กับผลไม้แทบทุกชนิด ในทุก ๆ ส่วนของผลไม้ รวมไปถึงส่วนของ เปลือกผลไม้ ที่มักจะถูกโยนทิ้งแบบไร้ค่า ก็สามารถนำมาแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลไม้ชนิดนั้น ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” วันนี้ขอนำเสนอการทำ “เปลือกแตงโมปรุงรส” หรือ “เปลือกแตงโมหยี” ...

ข้อมูลที่จะนำเสนอเป็นผลงานของ อ.เชาวลิต อุปฐาก, อ.วไลภรณ์ สุทธา และ ผศ. ปานทิพย์ ผดุงศิลป์ จากสาขาวิชาอาหาร และโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) พระนคร

อ.เชาวลิต บอกว่า เปลือกแตงโม เป็นส่วนที่คนไม่นิยมนำมาบริโภค ทั้ง ๆ ที่มีสรรพคุณทางยามากมาย หรือสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารคาว อย่างแกงส้มเปลือกแตงโมได้ ในเมื่อไม่มีคนนิยมรับประทาน ทำให้เปลือกแตงโมกลายเป็นของเหลือทิ้งอย่างไร้ค่า ดังนั้น จึงได้คิดทำ “เปลือกแตงโมปรุงรส” หรือ “เปลือกแตงโมหยี” ขึ้นมา เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเปลือกแตงโม ให้เกิดเป็นประโยชน์ในทางพาณิชย์ และเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคอีกทางหนึ่งด้วย

อุปกรณ์ในการทำเปลือกแตงโมหยี หลัก ๆ ก็มี เตาแก๊ส, กระทะทองเหลือง, เขียง-มีด, ไม้พาย, ครก-สาก และอุปกรณ์ประเภทถาด และถ้วย-ชาม ทั่ว ๆ ไป ซึ่งหาได้ในครัวเรือน

ส่วนผสมที่ใช้ ตามสูตรก็มี เปลือกแตงโม 2,000 กรัม, เนื้อแตงโม 600 กรัม, น้ำตาลทราย 200 กรัม, แบะแซ 100 กรัม, เกลือเล็กน้อย, น้ำมะนาวพอประมาณ

วิธีทำ ปอกเปลือกแตงโม แล้วล้างน้ำให้สะอาด หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเตรียมไว้ ส่วนเนื้อแตงโมนั้น นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นกัน

นำเปลือกแตงโม และเนื้อแตงโมใส่ลงในกระทะทองเหลือง พร้อมตั้งไฟร้อนปานกลาง ใช้ไม้พาย กวน ให้เปลือก และเนื้อแตงโมเข้ากัน กวนไปเรื่อย ๆ ในช่วงแรก ๆ ของการกวนนั้น น้ำจากเปลือกและเนื้อแตงโมจะออกมาส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ระหว่างนี้คอยหมั่นกวนไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ส่วนของเปลือกและเนื้อเข้ากัน กวนไปสักพัก น้ำในกระทะจะเริ่มงวด ให้กวนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งส่วนผสมทั้งสองเริ่มแห้ง ซึ่งการกวนในช่วงแรกนี้จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที

จากนั้น ใส่น้ำตาลทราย, แบะแซ, น้ำมะนาว และเกลือลงไป ใช้ไฟร้อนในระดับคงเดิม แล้วค่อย ๆ กวนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน จนส่วนผสมเหนียว ซึ่งขั้นตอนการกวนนี้ ใช้เวลาอีกประมาณ 25 นาที เป็นอันใช้ได้  เสร็จแล้วนำออกมาพักไว้ให้เย็น 

ขั้นตอนต่อมาเป็นขั้นตอนการ คลุกกับน้ำตาล พริก และเกลือ โดยส่วนผสมการคลุก ตามสูตรมี น้ำตาลทราย 400 กรัม เกลือป่น 15 กรัม และพริกขี้หนูแห้งคั่ว 10 เม็ด
วิธีทำ โขลกพริกขี้หนูกับเกลือให้ละเอียด จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปโขลกให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้ 3 รส เผ็ด เค็ม หวาน แบบพอดี ๆ

นำส่วนผสมของแตงโมที่กวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มาปั้นลูกกลม ๆ เล็ก ๆ แล้วนำลงคลุกในส่วนผสมพริก เกลือ น้ำตาล ที่โขลกไว้ คลุกให้ทั่ว ซึ่งก็จะได้เป็นเปลือกแตงโมปรุงรส หรือเปลือกแตงโมหยี ที่มีรสชาติหวาน เค็ม เผ็ด ครบ 3 รส

นำเปลือกแตงโมหยีบรรจุลงในขวดแก้ว ในปริมาณขวดละ 180 กรัม ขายในราคาขวดละ 35-45 บาท ตามแต่สถานที่หรือทำเลที่ขาย
   
“เปลือกแตงโมปรุงรส” หรือ “เปลือกแตงโมหยี” นี่ก็อาจจะใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีได้ ซึ่งใครต้องการติดต่อ อ.เชาวลิต อุปฐาก อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหาร และโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.พระนคร ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-3015-4598.

คู่มือลงทุน...เปลือกแตงโมหยี
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาท
ทุนวัสดุ 15-20 บาท/180 กรัม
รายได้ 35-45 บาท/180 กรัม
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านชุมชน, งานออกร้าน
จุดน่าสนใจ เป็นการแปรรูปเพิ่มมูลค่า
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : เรื่อง/พิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์ : ภาพ

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/228221/'เปลือกแตงโมหยี’+แปรรูปเพิ่มมูลค่าผลไม้

Read More...


สารพัน'ขนมไทย'ใส่ไอเดีย



 "ขนมไทย” เป็นเมนูที่หากินได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะแทบทุกหัวระแหงจะมีพ่อค้าแม่ค้านำขนมนานาชนิดมาวางขายเป็นจำนวนมาก แต่สำหรับยี่ห้อ "ร้อยคำหวาน บ้านริสกี” ซึ่งกำลังถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้างในสังคมโชเซียลเน็ตเวิร์ก ที่สร้างความแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ ด้วยไอเดียล้วนๆ ของ “รัตติมา บิลหยา” หรือ “พี่แอ๊ด” อดีตสถาปนิกสาววัยกลางคนที่หันมาประกอบธุรกิจขนมไทยเมื่อไม่นานนี้ แต่มีฐานลูกค้าไม่น้อยไปกว่าผู้ประกอบการอื่นๆ ในท้องตลาด

  “รัตติมา” เจ้าของแบรนด์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้วประกอบอาชีพสถาปนิกให้บริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.ภูเก็ต โดยได้รับค่าตอบแทนสูงในแต่ละเดือนกระทั่งมีครอบครัวจึงวางมือจากอาชีพดัง กล่าวพร้อมตัดสินใจกลับ อ.หาดใหญ่ บ้านเกิด ด้วยมุ่งหวังจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว บวกกับมารดาซึ่งเป็นแม่ค้าขนมไทยจึงได้รับองค์ความรู้การทำขนมหวานพร้อม เริ่มหารายได้ด้วยเป็นลูกมือช่วยแม่ก่อนขยับทำอย่างจริงจังและขยายตลาดหา ลูกค้ากลุ่มใหม่ จึงขอแยกกิจการมาเปิดโดยตั้งชื่อร้าน "ร้อยคำหวาน บ้านริสกี" ซึ่งเกิดจากการนำจุดเด่นของขนมไทยที่มีรสชาติหวานมาเป็นชื่อ "ร้อยคำหวาน" รวมกับชื่อบุตรชายคือ "ริสกี" จึงได้ชื่อแบรนด์สินค้าที่สร้างจุดเด่นและการจดจำได้ดั่งใจ

  ขณะเดียวกันได้มีการประยุกต์และดีไซน์รูปแบบขนมไทยใหม่ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น แต่คงรสชาติและเคล็ดลับสูตรขนมไทยโบราณที่สืบทอดต่อจากมารดาไว้อย่างครบครัน เพียงแค่เติมแต่งไอเดียด้วยคอนเซ็ปต์และสีสันน่ารับประทานกว่าเดิมเพื่อ สร้างความแตกต่างของเมนูขนมไทยที่มีในท้องตลาด และที่สำคัญคือไม่ต้องการแย่งฐานลูกค้าเดิมของมารดา

 “รัตติมา” บอกอีกว่าระยะแรกๆ ที่เริ่มทำได้ส่งให้เพื่อนลองรับประทาน และโพสต์ผ่านโซเชลเน็ตเวิร์กเพื่อขอคำติชมจากเพื่อนฝูงในโลกออนไลน์ หวังเพียงแค่แชร์ความคิดเห็นร่วมกันเท่านั้น แต่กลายเป็นว่าขนมไทยและขนมหวานที่ใส่ไอเดีย เช่น ขนมชั้นใบเตย รวมถึงขนมไทยที่ประยุกต์ใช้วัตถุดิบจากฟักทอง อัญชัน สตรอเบอร์รี่ ข้าวเหนียวแก้วโรยอัลมอน ได้รับกระแสตอบกลับอย่างล้นหลาม และมีการสั่งสินค้าผ่านเฟซบุ๊กไปโดยปริยาย
                        
  “ขนมที่ทำจะเน้นการประยุกต์วัตถุดิบประเภทผัก ผลไม้ที่มีในชุมชนเป็นหลัก เพื่อให้ได้คุณภาพและคุณค่าทางอาหาร แต่จะเพิ่มของตกแต่งที่เป็นสากลมาเติมแต่งให้มีหลากรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นชอกโกแล็ต อัลมอน วิฟปิ้งครีม เป็นต้น เพื่อให้มีรสชาติที่ร่วมสมัย โดยเฉพาะขนมชั้นที่มีการแบ่งสี หรือเลเยอร์ชั้นออกเป็น 3 รสชาติในหนึ่งคำหวาน” รัตติมา กล่าว
                        
  รัตติมา กล่าวอีกว่า จากเสียงตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงตัดสินใจดำเนินธุรกิจออนไลน์เต็มตัว ด้วยรับทำตามออเดอร์ขนมไทยประยุกต์ที่มีให้เลือกกว่า 20 ชนิด ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือแจ้งรายละเอียดทางโทรศัพท์ ไฮไลท์คือแต่ละชิ้นจะมีส่วนผสมของผัก ผลไม้ที่ปราศจากสีผสมอาหารทุกชนิด
                        
  กระทั่งวันนี้ธุรกิจขายขนมไทยออนไลน์ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ อีกทั้ง ยังรับทำชุดขนมว่างในงานประชุมต่างๆ สนใจเข้าชมได้ทางเฟซบุ๊กชื่อ "ร้อยคำหวาน บ้านริสกี" หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-4080-0592
-------------------------
(ทำมาหากิน : สารพัน 'ขนมไทย' ใส่ไอเดีย เมนูอร่อย-ขายโลกออนไลน์ : โดย...สุพิชฌาย์ รัตนะ)

credit by :  http://www.komchadluek.net/detail/20140129/177743.html

Read More...


‘ซังขนุนน้ำหมี่กรอบ’ สร้างเงินจากผลไม้เหลือทิ้ง


 “ขนุน” ผลไม้ไทยที่มีออกมาให้ทานกันทั้งปี หลังจากที่แกะเนื้อออกมาทานกันแล้ว ก็จะเห็น “ซัง” ที่ถูกทิ้งกันกลาดเกลื่อนตามริมทางเต็มไปหมด ซึ่งนอกจากจะกลายเป็น “ขยะ” แล้ว ยังเป็นแหล่งชุมนุมของแมลงวันที่เป็นพาหะนำเชื้อโรคอีกด้วย

แท้จริงแล้ว “ซังขนุน” มีประโยชน์มากมายไม่น้อยไปกว่าเนื้อขนุนเลย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีรสชาติหวานสามารถรับประทานได้ ในซังขนุนเองมีใยอาหารที่ช่วยในกระบวนการขับถ่าย และช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ รวมทั้งมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
โดยคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” วันนี้ขอนำเสนอการแปรรูปซังขนุน มาเป็น “ซังขนุนน้ำหมี่กรอบ”  
     
ข้อมูลที่จะนำเสนอเป็นผลงานของ ขวัญชัย ปาระมี และ ณัฐชัย สำเนียงล้ำ นักศึกษาสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) พระนคร   
ขวัญชัย และ ณัฐชัย เล่าว่า มีแนวคิดที่จะนำ ซังขนุน ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาทำการศึกษาเพื่อให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมา และเห็นว่ารสชาติของ “น้ำหมี่กรอบ” น่าจะเข้ากับตัวซังขนุนได้ดี และอีกอย่าง น้ำหมี่กรอบ นั้น เป็นรสชาติที่คนไทยคุ้นเคยอยู่แล้ว จึงน่าจะทดลองทำดู

อุปกรณ์ในการทำซังขนุนรสน้ำหมี่กรอบ หลักๆ มี เตาอบ, เครื่องปั่น, เตาแก๊ส, กระทะ, ตะแกรง, ตะหลิว, กะละมังขนาดใหญ่, ทัพพีไม้, ผ้าขาวบาง, ถาดสเตนเลส และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่หยิบฉวยได้จากในครัว

ส่วนผสมนั้น มี 2 ส่วน คือ ในส่วนของตัว “ซังขนุน” และ “เครื่องปรุงน้ำหมี่กรอบ” 
ในส่วนของ ซังขนุน นั้น เริ่มที่นำซังขนุนสดมาฉีกเป็นเส้นบาง ๆ แล้วล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปแช่ในน้ำปูนใสนาน 20 นาที เพื่อให้ซังขนุนมีความกรอบ

หลังจากแช่น้ำปูนใสแล้ว นำไปพักให้สะเด็ดน้ำ แล้วใส่ถาดอะลูมิเนียม นำเข้าเตาอบ อบด้วยความร้อน 100 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง เมื่อได้ ซังขนุนอบแห้ง แล้ว ก่อนจะนำมาใช้ ต้องนำไป ทอดกรอบ เสียก่อน จึงจะใช้คลุกกับน้ำหมี่กรอบได้

วิธีทำ คือ ตั้งกระทะ ใช้น้ำมันร้อนปานกลาง เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่แล้ว ค่อย ๆ ใส่ซังขนุนอบกรอบลงไปทอด พอทอดอย่างรวดเร็ว ดูว่าซังขนุนมีสีออกเหลืองทอง ให้รีบตักขึ้น แล้วพักให้สะเด็ดน้ำมันทันที อย่าปล่อยไว้นาน เพราะซังขนุนจะไหม้ ใช้ไม่ได้
 
ส่วนผสมน้ำหมี่กรอบ  มี น้ำตาลทราย 300 กรัม, น้ำมะนาว 30 กรัม, น้ำมะขามเปียก 80 กรัม, น้ำปลา 30 กรัม, ซอสมะเขือเทศ 80 กรัม, เต้าเจี้ยว 30 กรัม และหอมแดง 100 กรัม

วิธีทำน้ำหมี่กรอบ เริ่มที่นำหอมแดง ใส่ลงไปในโถปั่น ตามด้วยน้ำมะนาว, น้ำมะขามเปียก และเต้าเจี้ยว แล้วปั่นให้ละเอียดด้วยความเร็วสูง ใช้เวลาประมาณ 15-20 วินาที นำออกมาพักไว้

ตั้งกระทะ ใช้ไฟร้อนปานกลาง เทน้ำปรุงรสที่ปั่นไว้แล้วลงไปในกระทะตามด้วยน้ำตาลทราย, น้ำปลา และซอสมะเขือเทศ เคี่ยวด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 140 องศา เป็นเวลา 20 นาที เสร็จแล้วพักไว้ 
 
จากนั้น นำน้ำปรุงรสหมี่กรอบที่เคี่ยวไว้แล้วจำนวน 200 กรัม ใส่ลงไปในกระทะเหล็ก ตั้งไฟให้ได้อุณหภูมิ 100 องศา แล้วนำซังขนุนที่ทอดกรอบไว้แล้ว ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำปรุงรสที่เตรียมไว้ ในช่วงของการคลุกเคล้าต้องใช้ความรวดเร็ว คลุกไปเรื่อย ๆ จนกว่าซังขนุน และน้ำหมี่กรอบจะเข้ากันดี และต้องคลุกตอนที่ยังร้อนอยู่  เพราะถ้าเย็น หรือคลุกไม่เร็ว ซังขนุนจะจับตัวเป็นก้อนทันที  
เมื่อคลุกเคล้าเข้ากันแล้ว ให้ใส่ผลส้มซ่าลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีก เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย  
เสร็จแล้วนำบรรจุในกล่อง กล่องละ 50 กรัม ขายในราคา 20-25 บาท

“ซังขนุนน้ำหมี่กรอบ” นี้ก็อาจจะเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีได้ ซึ่งใครสนใจ ติดต่อ ขวัญชัย ปาระมี และ ณัฐชัย สำเนียงล้ำ นักศึกษาสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) พระนคร ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-3645-2715 และ 08-8953-5170 และ อ.เชาวลิต อุปฐาก อาจารย์ที่ปรึกษา หมายเลขโทรศัพท์  08-3015-4598.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : เรื่อง/พิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์ : ภาพ
คู่มือลงทุน...ซังขนุนน้ำหมี่กรอบ
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาท
ทุนวัตถุดิบ 10-15 บาทต่อ1 กล่อง (50 กรัม)
รายได้ 20-25 บาทต่อ1 กล่อง (50 กรัม)
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านชุมชน, งานออกร้าน, ร้านขายฝาก
จุดน่าสนใจ นำของเหลือทิ้งมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/231445/‘ซังขนุนน้ำหมี่กรอบ’+สร้างเงินจากผลไม้เหลือทิ้ง

Read More...


ผัดหมูสามสหาย สูตรคุณยาย



แฟชั่นนิสต้าที่ได้ติดตามอินสตาแกรม pumcocue และไลน์ pum_cocue  คงคุ้นเคยและรู้จักกับไลฟ์สไตล์ของ “ปุ้ม-ดาลิน ศิริสุขกุล” เจ้าของร้านเสื้อผ้าสไตล์มิกซ์แอนด์แมตช์ ย่านสยามสแควร์ ซอย 1 ในชื่อ โคคิว เบสิก (Cocue Basics) และเจ้าของเพจออนไลน์ยอดนิยมเป็นอย่างดี เพราะนอกจากได้อัพเทรนด์แฟชั่น สั่งซื้อเครื่องแต่งกายแล้ว มักเห็นเจ้าของร้านบุคลิกเก๋ชอบโพสต์รูปอาหารหน้าตาน่ากินควบคู่ลงไปด้วย ทำให้ทราบว่าคุณปุ้มไม่ได้นิยมความสวยมีสไตล์ลำพังเพียงภายนอก แต่ยังซุกซ่อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวผ่านอาหารการกิน

“เห็นในอินสตาแกรมโพสต์เรื่องอาหารควบคู่กับเสื้อผ้า เพราะวางแผนไว้ว่าปลายปีนี้จะเปลี่ยนคอนเซปต์ของสาขาสองย่านเอกมัยให้เป็น คาเฟ่ ตั้งชื่อไว้ว่า “ชูสเลส” แนวคิดของร้านคือทุกสิ่งทุกอย่างเราเป็นคนเลือกหมด ไม่ว่าจะเป็นเมนู ไอเท็มต่าง ๆ แม้แต่เสื้อผ้าที่จะเข้ามาผสมผสานอยู่ภายในคาเฟ่นี้ อย่างอาหารต้องเป็นเมนูประจำวันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ อาจชวนเพื่อนที่เป็นเชฟทำอาหารมาปรุงอาหารขาย สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนแต่ละอาทิตย์ เราเลือกมาหมดทุกอย่าง เชื่อว่าดีสำหรับลูกค้าแน่นอน” คุณปุ้มเล่าแผนการในอนาคต ที่จะแบ่งพื้นที่แต่คงความเป็นร้านเสื้อผ้าไว้ส่วนหนึ่ง เพราะผูกพันกับกิจการดังกล่าวมากว่า 18 ปี ยอมรับว่าทำมานานก็เริ่มอิ่มตัว แต่เลิกไม่ได้ อยู่ในสายเลือดไปแล้ว

จุดเริ่มต้นทำอาหารคล่องแคล่วอย่างปัจจุบัน เจ้าของเพจที่มียอดคนตามหลักหมื่นเล่าประวัติให้ฟังว่า “ตั้งแต่เด็กๆ เห็นคุณแม่และคุณยายทำอาหารจริงจัง ที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ต้องกินอาหารสดวันละ 3 มื้อ เช้า-กลางวัน-เย็น ค่อนข้างเลื่องชื่อแถวบ้านเราว่า บ้านนี้ทำอาหารกินจริงจัง นอกจากนี้ยังตักแบ่งแจกจ่ายเพื่อนบ้านให้ชิมกันทุกบ้าน ถูกปากจนกลายเป็นเรื่องเป็นราว เวลาบ้านใครมีงานบุญหรือจัดงานใหญ่ ๆ มักจ้างที่บ้านทำกับข้าว ซึ่งตัวเองมิวายโดนบังคับให้มาเป็นลูกมือ ตอนนั้นเราไม่ซึมซับอะไรเลย ช่วยอย่างเดียว กลายเป็นว่าพอเราโตทำได้โดยอัตโนมัติอย่างแกงโบราณหากินยาก ก็ทำได้ทุกชนิด”
ที่มาของเมนู “ผัดหมูสามสหาย สูตรคุณยาย” จุดเริ่มต้นอยู่ที่เพื่อนบ้านคนจีนทำมาตอบแทนไมตรีที่คุณยายเคยแบ่งอาหารให้ ชิม ปรากฏว่าทั้งรูปร่างหน้าตาและรสชาติถูกปากหลานสาวตัวน้อยมาก “คุณยายบอกว่าทำง่ายมาก แค่ใช้ของเหลือในตู้เย็นมาทำ เมื่อเห็นหลานสาวชอบหลังจากนั้นคุณยายจึงทำให้กินเอง ผัดจนอร่อยและถูกปากมากกว่าต้นตำรับเสียอีก” คุณปุ้มเล่า

ส่วนผสมมีง่าย ๆ ประกอบด้วย หมูยอ 1 แท่ง, หมูสับ 2 ขีด, ไข่ 2 ฟอง, พริกป่น 2 ช้อนชา, มะนาว 1 ผล, เบคอนทอดกรอบสำหรับโรยใส่ได้ตามชอบ, รากผักชี 2 ต้น, กระเทียมซอยละเอียด 3 เม็ด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย, น้ำมันหอย, ซีอิ๊วขาว และซอสแม็กกี้

วิธีทำ ทอดหมูยอในน้ำมันร้อน ๆ พร้อมกับใบเตย เพื่อช่วยให้มีกลิ่นหอม พอเหลืองสุกยกตักใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นตั้งกระทะสับรากผักชีกับกระเทียมซอยละเอียดลงผัดกับหมูสับจนสุก เทหมูยอตามลงไปผัดให้ทั่ว ตอกไข่ไก่ 2 ฟองลงไป ระหว่างนั้นให้ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย, ซีอิ๊วขาว, ซอสแม็กกี้ และน้ำตาลทราย ชิมให้รสเค็มนำแล้วผัดต่อไปเรื่อย ๆ จนงวดดี ผสมพริกป่น มะนาว และน้ำปลาเข้าด้วยกัน เมื่อเป็นน้ำจิ้มแจ่วแล้วเทลงไปผสมผัดให้เข้ากันจนทั่ว จากนั้นโรยเบคอนทอดกรอบตามชอบ สูตรความอร่อยนี้ต้องยกให้น้ำจิ้มแจ่ว เพราะความแซ่บจี๊ดจ๊าดจะตัดรสเค็มของหมูยอได้อย่างลงตัว เพียงเท่านี้ก็ตักข้าวสวยร้อน ๆ ไว้รอท่าได้เลย.
‘ช้องมาศ’ 



Read More...


กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต


ขนมอาโป๊ง ร้านโก้เนี้ยว เหลือง กรอบ หอม หวานนิดๆ ชวนรับประทาน
       “อาโป๊ง” หรือ บางคนจะออกเสียง "อาโป้ง" เป็น ขนมพื้นเมืองที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของภูเก็ต นิยมรับประทานเป็นอาหารว่างคู่กับชา กาแฟ ในภูเก็ตมีร้านขายขนมอาโป๊งที่อร่อยๆ อยู่หลายร้านด้วยกัน ซึ่งแต่ละร้านมีเคล็ดลับความอร่อยเฉพาะตัว แต่ที่คอลัมน์ “เมนูเด็ดแดนใต้” จะขอแนะนำนั้น เป็นร้านที่ผู้เขียนได้ชิม และแวะไปอุดหนุนหลายครั้งหลายคราแล้วติดอกติดใจในความกรอบ หอมกะทิ และหวานนิดๆ ของขนมอาโป๊งร้านนี้ เป็นอีกร้านที่เก่าแก่เปิดขายมานาน และเป็นที่รู้จักของชาวภูเก็ตเป็นอย่างดี
 
กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
ร้านขนมโก้เนี้ยวอาโป๊ง ตั้งอยู่บริเวณบ้านสามกอง จ.ภูเก็ต
       นั่นก็คือ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” ซึ่งเปิดขายเป็นร้านเล็กๆ อยู่ด้านหน้าอาคารพาณิชย์ บนถนนเยาวราช เขตเทศบาลนครภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตรงข้ามกับโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต หรือคนภูเก็ตเรียกว่าแถวสามกอง

กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
โก้เนี้ยว หรือ ไกรสร พรหมชัย เจ้าของร้าน กำลังสาระวนอยู่กับการทำขนมอาโป๊ง 


กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
ขนมอาโป๊งที่ตั้งอยู่บนเตาถ่านไฟอ่อน
       เมื่อเราแวะไปถึงที่ร้านจะเห็นว่า “โก้เนี้ยว” หรือ ไกรสร พรหมชัย เจ้าของร้าน สาละวนอยู่กับการทำ และขายขนม เพราะโก้เนี้ยวทั้งทำ และขายอยู่คนเดียว ที่มีอยู่ 10 เตา จะต้องเปิดดูขนมในกระทะตลอดว่าสุกเหลืองกรอบพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าแล้วหรือ ยัง และมีลูกค้ามายืนรอซื้อไม่ขาดสาย จากที่ติดอกติดใจความอร่อยของขนมอาโป๊งร้านนี้ ที่ทั้งกรอบ หอม และหวานนิดๆ เหมาะสำหรับคนไม่ชอบกินหวาน
กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต 
อาโป๊งต้องรอให้เหลืองกรอบ ถึงจะเอาลงจากเตา
 กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
ขนมอาโป๊ง เหลือง กรอบ หอม พร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้า
       โก้เนี้ยว เล่าให้ฟังว่า เปิดขายขนมอาโป๊งที่ร้านนี้มากว่า 12 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ไม่ได้เปิดขายเป็นร้าน แต่จะทำแล้วส่งขายให้แก่ร้านค้าต่างๆ ที่ขายขนมสด เมื่อมาเปิดขายเป็นร้านก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าแวะเวียนมาซื้อไปรับ ประทานไม่ขาดสาย โดยจะขายในราคา 7 ชิ้น 20 บาท วันหนึ่งๆ ก็ใช้แป้งประมาณ 5-6 กิโลกรัม หรือบางวันก็มีคนเหมาให้ไปทำตามงาน และกิจกรรมต่างๆ ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนแป้งที่ใช้ แต่ไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทต่อครั้ง

 กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต 
แป้งขนมอาโป๊งที่ใส่ส่วนผสมทุกอย่างแล้ว 

กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
เอาออกจากกระทะมาม้วนเป็นชิ้นๆ
       เรามารู้จักวิธีการทำขนมอาโป๊งกัน ซึ่งวิธีทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก เริ่มจากส่วนผสมที่ประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า ไข่ไก่ (ใช้เฉพาะไข่แดง) น้ำกะทิ น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และยีสต์ โดยนำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกันแล้วทิ้งไว้ 1 คืน เมื่อถึงเวลาทำขนมอาโป๊งจะนำแป้งที่ผสมไว้พร้อมแล้วมาเทราดลงบนกระทะหลุมใบ เล็กๆ กลิ้งแป้งให้เป็นแผ่นวงกลมบางๆ ที่ขอบด้านนอก และหนานุ่มตรงกลาง ปิดฝาไว้ประมาณ 1 นาที ให้แป้งเหลืองกรอบ จากนั้นก็เอาขนมออกจากกระทะแล้วนำมาม้วน ก็จะได้ขนมอาโป๊งที่แสนอร่อยกรอบบางตรงขอบนอก ส่วนตรงกลางหนานุ่ม รสชาติ หวาน หอม กรอบ อร่อย โดยเฉพาะทานเวลาร้อนๆ


กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
พร้อมใส่ถุงขายให้ลูกค้า
       โก้เนี้ยว บอกว่า เคล็ดรับความอร่อยของขนมอาโป๊งอยู่ที่ขั้นตอนการผสมแป้ง ที่ต้องให้ส่วนผสมที่เข้มข้น โดยเฉพาะกะทินั้นจะใช้ทั้งหัวกะทิ และหางกะทิ เพื่อให้ขนมที่สุกหอมกลิ่นกะทิ และขั้นตอนการใส่แป้งลงในกระทะจะต้องกลิ้งแป้งให้บางๆ ตรงขอบนอก และหนานุ่มตรงส่วนกลางกระทะ ตั้งไฟอ่อนๆ ประมาณสัก 1 นาที ก็จะได้ขนมอาโป้งสุกเหลือง กรอบ หอม ชวนรับประทาน

 กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต 
ใส่ถุงพร้อมรอลูกค้า 

กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
โกเนี้ยวขยันเปิดดูขนมว่าสุก เหลือง กรอบ หรือยัง
       ร้านอาโป๊ง โก้เนี้ยว เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. ขายในราคา 7 ชิ้น 20 บาท หรือจะเหมาไปออกงานต่างๆ โก้เนี้ยวก็รับในราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท สามารถติดต่อได้ที่ 08-1979-9068  

กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
ลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย

กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
กรอบ หอม หวาน ทานได้ไม่เบื่อ “อาโป๊ง โก้เนี้ยว” แถวสามกอง ภูเก็ต
ขนมอาโป๊ง เหลือง กรอบ หอม พร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้า
       ถ้าจะแวะมาชิมขนมอาโป๊งของ โก้เนี้ยวก็มาไม่ยาก ร้านตั้งอยู่หน้าอาคารพาณิชย์ ถ.เยาวราช (บริเวณสามกอง) ตรงข้ามทางเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต หรืออยู่ใกล้ๆ ธนาคารกสิกรไทย สาขาสามกอง จ.ภูเก็ต ลองแวะมาชิมดูรับรองว่าอร่อยไม่แพ้ขนมอาโป๊งร้านอื่นๆ อย่างแน่นอน 

credit by :  http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000101938

Read More...


“ขนมหวัก” ของกินพื้นบ้านปักษ์ใต้ อร่อยเด็ดจนต้องจองคิวข้ามวัน!


       “ขนมหวัก” ของกินพื้นบ้านปักษ์ใต้ ซึ่งกลายเป็นขนมหายาก และเหลือเพียง 3 เจ้าใน จ.สงขลา ด้วยสีเหลืองทองน่ารับประทาน สอดไส้กุ้งและถั่วงอก กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ อร่อยเด็ดอย่าบอกใคร จนลูกค้าต้องโทร.จองคิวข้ามวันเลยทีเดียว



       “ขนมหวัก” เป็นขนมไทยพื้นบ้านของภาคใต้ ซึ่งขณะนี้แทบไม่มีให้เห็น และเป็นสินค้าหายากในท้องตลาด คนรุ่นใหม่หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่นางวัลภา วรรณกูล อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดสงขลา ยังคงสืบทอดการทำ “ขนมหวัก” มาจากครอบครัว และขายในเขตเทศบาลนครสงขลามากว่า 10 ปี จนเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของลูกค้า และถือเป็นแม่ค้า 1 ใน 3 รายของ จ.สงขลา ที่ยังคงอนุรักษ์สูตรการทำขนมหวักแบบโบราณดั้งเดิมเอาไว้



       นางวัลภา แม่ค้าขนมหวัก บอกว่า ในแต่ละวันจะทำขนมหวักขายเพียงวันละ 120 หวักเท่านั้น โดยลูกค้าจะสั่งจองคิวทางโทรศัพท์ เมื่อถึงคิวก็จะมารับโดยไม่ต้องมายืนรอ เพราะหมดแล้วหมดเลย และราคาไม่แพงขายลูกละ 10 บาทเท่านั้น โดยได้สูตรขนมหวักแสนอร่อยนี้มาจากแม่

       “ส่วนผสมของขนมหวัก ได้แก่ แป้งถั่วเหลือง กุ้งสด ถั่วงอก และน้ำจิ้ม แต่ตอนนี้ที่ทำอยู่เพื่อต้องการอนุรักษ์ขนมพื้นบ้านโบราณไว้เท่านั้น ไม่ได้ทำเป็นอาชีพหลัก โดยจะทำเฉพาะในช่วงงานสำคัญ หรือกิจกรรมการท่องเที่ยว” นางวัลภา กล่าว


       สูตรการทำขนมหวักนั้น จะนำถั่วเหลืองมาบดเป็นแป้งใส่ในหวัก หรือทัพพี ทรงครึ่งวงกลม โดยใส่ไส้ที่ทำจากถั่วงอกและกุ้งสด แล้วทับด้วยแป้งถั่วเหลืองอีกครั้ง จากนั้นนำไปทอดน้ำมันร้อนๆ ในกระทะทั้งจวัก จนแป้งสุกได้ที่เป็นสีเหลืองทองอร่าม แล้วยกมาแกะออก ซึ่งเมื่อสุกแล้วรูปร่างของขนมหวักจะคล้ายซาลาเปาทอด โดยรับประทานกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ

       และสำหรับที่มาของชื่อ “ขนมหวัก” นั้น ก็เรียกตามอุปกรณ์ที่ใช้ทำ คือ ทัพพี ซึ่งภาษาปักษ์ใต้เรียกว่า “หวัก” (จวัก) นั่นเอง


credit by :
http://www.manager.co.th/south/viewnews.aspx?NewsID=9560000079707

Read More...


"ทับทิมกรอบ" เป็นขนมหวานไทย ๆ



"ทับทิมกรอบ" เป็นขนมหวานไทย ๆ ทำให้ถูกใจใคร ๆ หลายคน นิยมรับประทานกันมากในช่วงหน้าร้อน เพราะมีความหอมหวานเย็นอร่อยชื่นใจคลายร้อนได้ดี ประกอบด้วยเม็ดทับทิมกรอบสีแดงสดใส เมื่อเคี้ยวแล้วกรอบมันด้วยรสชาดของแห้ว มีน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทราย ลอยด้วยดอกมะลิ มีกะทิสดจากการคั้นมะพร้าว น้ำแข็งบดละเอียดหรือน้ำแข็งทุบให้เป็นเม็ดเล็กๆ หอมชื่นใจเพราะเป็นขนมหวานที่ทำไม่ยาก สามารถทำขายหารายได้เข้ากระเป๋าได้ดีไม่แพ้อาชีพอื่น ทีมงาน“ช่องทางทำกิน”มีจึงได้นำข้อมูลทับทิมกรอบสูตรดั้งเดิมของแท้หาทานยาก มาบอกคนที่สนใจ

พรภัส ระจิตดำรงค์ หรือ”เจ๊ชุ้น” อายุ 33ปี เจ้าของสูตรทับทิมกรอบธนวัน จ.ชลบุรี เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของอาชีพขายทับทิมกรอบว่า จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เริ่มจากการเป็นแม่ค้าขายขนมหวานมาตั้งแต่ต้น หลังจากเรียนจบก็ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่ช่วงหนึ่ง รู้สึกเบื่อในระบบงานจึงลาออกจากงาน นำเงินเก็บที่มีอยู่มาลงทุนค้าขายอะไรหลาย จนมาถึงผลไม้ที่นี้ก็ประสบปัญหาตรงที่บางช่วงหมดหน้าผลไม้ ก็ไม่รู้จะขายอะไร ด้วยความที่ชอบค้าขายพยายามมองหาธุรกิจหรืออาชีพการขายที่ตนสามารถกำหนดได้ โดยเอาของใกล้ตัวและความชอบเป็นหลัก แล้วก็มาจบลงที่ทับทิมกรอบขาย

“พี่ ไม่มีความรู้พื้นฐานในการทำขนมเลย ช่วงว่างจึงไปสมัครเรียนการทำทับทิมกรอบที่มหาชัย แล้วลองทำก็มาลองทำขายโดยขอให้ลูกค้าช่วยกันติช่วยกันชิม ได้ว่า ตัวทับทิมแป้งหนาไป กะทิเค็มไป น้ำเชื่อมเหลวไปไม่เข้มข้น จนถอดใจจะเลิกขายไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ฮึดสู้ต่อ ลองผิดลองถูกอยู่นานเรียกว่าต้องทำทิ้งไปเยอะมาก ๆ กว่าจะมาลงตัวเป็นสูตรที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง ทำขายมาปัจจุบันก็ 12 ปีแล้ว จุดเด่นของทับทิมกรอบที่ร้านคือจะทำใหม่ ๆ ไม่ทำไว้ค้างคืน มีความเหนียวหนึบของแป้งและความกรอบอร่อย รสชาติจะไม่หวานมากและหอมกะทิ ”

อุปกรณ์ ที่ใช้ก็เป็นอุปกรณ์พื้นๆ ที่มีอยู่ในครัว ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊ส ตะแกรง กะละมัง หม้อ มีด เขียง ทัพพี ฯลฯ

ส่วน ผสม แห้วสด(ผลใหญ่และแก่จัด),น้ำหวานสีแดง,แป้งมัน,น้ำลอยดอกมะลิ,หัวกะทิสด ,น้ำตาลทราย ,เกลือป่น,ใบเตยหอม,เทียนอบ และดอกมะลิ สำหรับเครื่องเคียงที่ใส่มี มะพร้าวกะทิหั่น ,ลูกตาลสดหั่น ,เนื้อขนุนสด และซ่าหริ่ม

ขั้นตอนการทำ “ทับทิมกรอบ”
เริ่ม จากนำแห้วมาปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ใส่ไว้ในภาชนะ เอาน้ำหวานสีแดงราดใส่ลงไปในบนแห้ว เอามือคลุกเคล้ากันให้ทั่วๆ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าจะติดสีแดง เมื่อสีแดงของน้ำหวานติดเข้าไปในเนื้อแห้วดีแล้ว สงขึ้นใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ

เอาแป้งมันที่เตรียม ไว้ใส่ในกาละมังพอประมาณ แห้วที่ติดสีดีแล้วเทใส่ลงไปในแป้งมัน ใช้มือคุลกเคล้าให้ทั่วๆ กะดูว่าแป้งเกาะติดเนื้อแห้วจนทั่วดีแล้ว ก็นำไปร่อนแป้งส่วนเกินออกทิ้ง แล้วทำซ้ำอีก1ครั้ง พักทิ้งไว้ 10 นาที

ขั้น ตอนต่อไป เอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด นำแห้วที่คลุกแป้งเตรียมไว้ใส่ลงไปต้ม ใช้กระชอนคนเม็ดแห้วเล็กน้อยเพื่อไม่ให้แป้งติดกัน สังเกตุง่ายๆ คือแป้งที่เคลือบแห้วนั้นใสและแห้วจะลอยขึ้นมา (ใช้เวลา 2-3 นาที) จากนั้นตักแห้วที่สุกแล้วมาแช่ในน้ำเย็นค่ะที่มีน้ำแข็งสักพักเพื่อให้แป้ง อยู่ตัว ( ไม่ควรต้มแห้วนานเกินไป จะทำให้แป้งที่เคลือบแห้วไว้หลุดทำให้ไม่สวยงาม )

การ ทำน้ำเชื่อม นำน้ำลอยดอกมะลิกับใบเตยหอม 4-5ใบมัดใส่หม้อตั้งไฟ ต้มจนน้ำมีกลิ่นหอมจึงใส่น้ำตาลทรายลงไป ต้มจนน้ำเชื่อมเข้มข้น ยกลงมาแล้วกรองเอาเศษผงและใบเตยออก ตั้งพักไว้ให้เย็น
ของ อีกอย่างที่ช่วยเพิ่มความหอมและมัน คือ กะทินั่นเอง นำน้ำกะทิเคี่ยวบนไฟ เพิ่มความหอมโดยการใส่ใบเตยลงไปต้มด้วย ค่อย ๆ ใช้ทัพพีคนเป็นระยะ ๆ เติมเกลือลงไปเล็กน้อย พอกะทิเดือดดีแล้วรีบยกลงแช่ในอ่างน้ำเพื่อลดอุณภูมิทันที คนให้เย็นโดยเร็วใส่ดอกมะลิสดลงไปประมาณ 15-20 ดอก แล้วอบควันเทียนทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง

เมื่อ ทุกอย่างพร้อมก็ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ...ตักทับทิมกรอบ มะพร้าวกะทิหั่นเป็นชิ้นพอคำ,ลูกตาลสดหั่นเป็นพอคำ,ขนุน ,ซ่าหริ่ม,น้ำเชื่อม ราดน้ำกะทิ ใส่น้ำแข็งลงไปเท่านี้ก็เย็นชื่นใจแล้วค่ะ

เคล็ด ลับความอร่อย พี่ชุ้น บอกว่าเน้นคุณภาพเป็นพิเศษ นอกจากตัวทับทิมแล้วก็อยู่ที่น้ำกะทิ ต้องเป็นมะพร้าวขูดขาว ต้องขูดเองคั้นเองจะได้หัวกะทิที่หอมกลิ่นมะพร้าว ถ้าใช้มะพร้าวซื้อจากตลาดจะมีกลิ่นบูดติดอยู่ด้วยทำให้ความน่ากินลดลง

ราคาขายชุดละ 25 บาท ถ้าเพิ่มเครื่องพิเศษขายถ้วยละ 30 บาท !!!

ร้าน“ทับทิม กรอบธนวัน”ขายอยู่ที่ตลาดจตุจักร จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 16.00น.- 22.00น ทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ และขายที่อ.พนัสนิคม (ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทย) ทุกวันจันทร์-วันอังคาร ใกล้ที่ไหนก็แวะเวียนกันได้ตามสะดวก นอกจากขายทั่วไปแล้วยังรับออกงานจัดเลี้ยงต่าง ๆ นอกสถานที่ ใครสนใจต้องการติดต่อ พี่ชุ้น-พรภัส ได้ที่ โทร.08-7007-1053

นี้ก็เป็นเป็นอีกหนึ่งช่องทางอาชีพที่น่าสนใจ !!!!
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง
*********************
คู่มือลงทุน…ทับทิมกรอบ
ทุนเบื้องต้น ประมาณ5,000บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคาขาย
รายได้ ราคา25 บาท/ ชุด
แรงงาน 1คนขึ้นไป
ตลาด ย่านอาหาร,ตลาดนัด,ชุมชน
จุดน่าสนใจ ลงทุนต่ำทำไม่ยากรายได้ดี

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/236489/_ทับทิมกรอบ_+ทำเงิน..ชื่นใจคลายร้อน

Read More...


ราดหน้าแม่หวิน ชามเดียวจอด

ถ้าชอบแบบใส่ไข่ ให้เอาตะหลิวผลักเครื่องทั้งหมดไปไว้ข้างหนึ่งของกระทะ แล้วตอกไข่โปะลงไปในส่วนที่เป็นน้ำซุปล้วนๆ คนเร็วๆ ให้ไข่แตกหมด นับ หนึ่ง สอง สาม ปิดไฟ ตักใส่ชามที่มีเส้นทอดได้เลยค่ะ แบบนี้จะได้ออกมาเป็นราดหน้าไข่ข้น 


     สวัสดีค่า วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศทำอาหารจานเดียวแบบง่ายๆ แต่อร่อยกันดีมั้ยคะ?
     เวลาที่จำเป็นต้องไปทานอาหารตามฟู้ดคอร์ตข้างนอก อาหารจานที่จะเลือกสั่งเป็นประจำก็คือ ราดหน้าหมูค่ะ เพราะส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ทำร้อนๆ ไม่ได้ทำทิ้งไว้ (ถึงแม้เขาจะทำตัวน้ำราดหน้าแยกไว้ แต่ก็จะทำทิ้งไว้นานไม่ได้ และต้องตั้งอุ่นอยู่เสมอค่ะ ไม่งั้นแป้งมันจะคืนตัว) เพื่อความปลอดภัยของกระเพาะของเรา ทานอาหารทำใหม่ ร้อนๆ จะดีกว่าสั่งอาหารที่ทำทิ้งไว้นะคะ
     ส่วนใหญ่เวลาที่ทำราดหน้าจะมีคนบ่นว่าไม่รู้ว่าจะหมักหมูยังไงให้นุ่ม หอม อร่อย วันนี้มีเคล็ดลับการหมักหมูมาฝากค่ะ สูตรนี้มาจากแม่หวิน (แม่ครัวมือโปรของที่บ้าน) ทำทานที่บ้านจนเป็นอาหารขึ้นชื่อของบ้านไปแล้วค่ะ ส่วนชามเดียวจอดก็มาจากที่ทำชามหนึ่ง อิ่มจอดจุกแอ้กอ่ะค่ะ ฮี่ ฮี่

     
วิธีทำ
     1. ผัดกระเทียมกับน้ำมันพืชเล็กน้อยพอหอม (อย่าให้เกรียมนะคะ) ตักหมูที่หมักไว้ผัดให้สุกแค่ครึ่งเดียว ยังมีส่วนที่เป็นเนื้อสีชมพูๆ อยู่ (ถ้าผัดสุกหมด เนื้อหมูจะแข็งไปค่ะ)

     
     
     

     2. รีบตักน้ำซุปที่เตรียมไว้ลงในกระทะ คนนิดหนึ่ง รอให้น้ำซุปเดือดอีกที (ซึ่งถ้าทำทีละชาม น้ำซุปควรจะเดือดทันทีเลยค่ะเพราะเราตั้งน้ำซุปไว้ร้อนๆ อีกเตาหนึ่งอยู่แล้ว) หยิบผักคะน้าลวกแล้ว 1 ขยุ้ม มากน้อยตามชอบลงผัดกับน้ำซุป เตรียมคนน้ำแป้งให้เข้ากันแล้วโรยลงไปเลยค่ะ ระหว่างโรยให้คนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้แป้งเป็นลูก
     3. ถ้าชอบแบบใส่ไข่ ให้เอาตะหลิวผลักเครื่องทั้งหมดไปไว้ข้างหนึ่งของกระทะ แล้วตอกไข่โปะลงไปในส่วนที่เป็นน้ำซุปล้วนๆ คนเร็วๆ ให้ไข่แตกหมด นับ หนึ่ง สอง สาม ปิดไฟ ตักใส่ชามที่มีเส้นทอดได้เลยค่ะ แบบนี้จะได้ออกมาเป็นราดหน้าไข่ข้น

     

     4. หรือถ้าชอบแบบเป็นไข่ดาว ก็ทำเหมือนข้างบน แต่ตอกไข่ลงไปทั้งฟองแล้วไม่ต้องตีให้แตก ก็จะได้ออกมาเป็นราดหน้าไข่ดาวค่ะ
     5. หรือถ้าชอบแบบราดหน้าไข่ขาวล้วน (แบบของร้านแกรนด์แสนยอด) ก็ใช้แต่ไข่ขาว ทำเหมือนราดหน้าไข่ข้นได้เลยค่ะ น้ำราดหน้าจะออกมามีเส้นไข่ขาวๆ ปนอยู่
     เรียบร้อยแล้วค่า เห็นมะคะ ว่าทำง่าย หมูหมักออกมานุ่มเพราะหมักด้วยนมสด หอมขิงหน่อยๆ ถ้าท่านผู้อ่านลองทำดู แล้วอยากจะปรับรสชาติของหมูหมักก็ได้นะคะ จะใส่เต้าเจี้ยวเพิ่มขึ้น (เพราะเค็มน้อยไป หรือเต้าเจี้ยวแต่ละยี่ห้อก็มีความเค็มไม่เท่ากัน) ก็ได้นะคะ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ทำให้ถูกปากคนทานเป็นดีที่สุดค่ะ ฮ่า : D
     ลองทำดูนะคะ อร่อยไม่อร่อยยังไง บอกมาก็ได้ค่ะ เราจะได้ช่วยกันปรับสูตร แนะนำสูตรกันนะคะ  ขอตัวไปหม่ำราดหน้าไข่ข้นก่อนนะคะ ของโปรดดดดดดดดดดดดดดดดด


Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.