สำหรับประวัติของเมนู “คาเฟ เดอ ปารีส์” มาจากร้านอาหารเก่าแก่ตั้งแต่ปี 2483 ตั้งอยู่ในเมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ใช่ที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตามชื่อซอส ซึ่งสูตรการทำซอสนี้ว่ากันว่าเป็นความลับของทางร้าน
วันเสาร์ 28 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 04:00 น.
สิ่งใดเป็น “ความลับ” สิ่งนั้นผู้คนยิ่งอยากรู้ และสูตรลับทางอาหารก็ไม่ได้รับการยกเว้น แม้ตัวเองจะไม่เก่งกาจงานครัวเท่ากับเรื่องเรียนและการทำงาน แต่หลังจาก เดียร์-พญ.ลัญจพร ยุคล ณ อยุธยา เจ้าของลัญจพรคลินิก ย่านปทุมธานีคลอง 4 ออกเหย้าเฝ้าเรือนกับ ม.ร.ว.ทักขิญ ยุคล แล้ว ก็พยายามฝึกปรือเสน่ห์ปลายจวักเอาไว้มัดใจสามี โดยมีกูรูคนเก่งคอยแนะนำทั้งเรื่องเมนูและรสชาติอาหารที่ถูกปาก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นมารดาของสามี หม่อมนิติมา ยุคล ณ อยุธยา นั่นเอง
หมอเดียร์ผู้มีนัยน์ตากลมโตไม่ต่างจากกวางนัก เล่าว่า “สามีเป็นนักบินมีตารางบินต่างประเทศเสมอ กลับบ้านบางครั้งเวลาดึกดื่น ร้านรวงต่าง ๆ พากันปิดแล้ว จำเป็นต้องเปิดครัวปรุงอาหารสุกใหม่ตามคำร้องขอของสามี ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูง่าย ๆ หยิบจับวัตถุดิบในตู้เย็นมาทำ เช่น สปาเกตตีแซลมอนรมควัน เป็นต้น” แต่ที่ถูกปากจริง ๆ ขนาดสามีดั้นด้นไปกินถึงต่างแดน แล้วก็ยังเทียบฝีมือของหม่อมนิติมาไม่ได้ก็คือ “คาเฟ เดอ ปารีส์” สเต๊กจานอร่อยที่เป็นมรดกตกทอดจากราชสกุลยุคล เมนูหากินยากในเมืองไทย
“เดียร์มีโอกาสชิมครั้งแรกสมัยคบหาเป็นคนรู้ใจกับชายปืน เมื่อได้ลิ้มลองรู้สึกว่า โอ้โห...อร่อยจัง รู้สึกติดใจมาก อีกทั้งชายปืนก็ชื่นชมฝีมือของคุณแม่ว่าอร่อยที่สุด หลังจากแต่งงานจึงขออนุญาตไปเรียนกับคุณแม่ ซึ่งท่านไม่ขัดข้องสอนวิชาให้หมดเปลือก” หมอเดียร์เล่า
เสมือนเคาะสนิมรื้อฟื้นฝีมือ หลังจากหัดทำด้วยตัวเองครั้งแรกที่ต่างแดน “จำได้ว่าแรก ๆ หุงข้าวยังกะน้ำไม่เป็น แข็งไปบ้างแฉะไปบ้าง แต่เราก็ต้องกินเพราะที่นั่นข้าวหอมมะลิราคาสูงลิ่ว ความยากของการทำอาหารไทยที่โน่นอย่างหนึ่งคือขาดวัตถุดิบ ครั้งหนึ่งเดียร์อยากกินอาหารประเภทแกง แล้วแวะซื้อมะเขือที่ซูเปอร์มาร์เกต หยิบแพ็กเกจมาดูถึงกับตกใจ มีแค่ 6 ลูกแต่ราคากว่า 10 ปอนด์ ทำใจซื้อไม่ลงจริง ๆ แต่ได้อาศัยศึกษาจากเว็บไซต์ครัวไกลบ้าน สอนทำอาหารแบบประยุกต์ตามที่มีวัตถุดิบ นับว่าคุ้มและหายคิดถึงอาหารไทยบ้าง” หมอเดียร์เล่า
สำหรับประวัติของเมนู “คาเฟ เดอ ปารีส์” มาจากร้านอาหารเก่าแก่ตั้งแต่ปี 2483 ตั้งอยู่ในเมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ใช่ที่เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตามชื่อซอส ซึ่งสูตรการทำซอสนี้ว่ากันว่าเป็นความลับของทางร้าน และกว่าจะตกทอดเคล็ดลับมาถึงมือนั้น ต้องผ่านหลายขั้นตอน
“คุณแม่ของสามีเป็นอดีตนักเรียนเก่าสวิส ได้รับการถ่ายทอดมาจากท่านหญิงภุมรีภิรมย์ เชลล์ และท่านหญิงจันทรจรัสศรี ไพบูลย์เลิศ มาตามลำดับ ซึ่งสมัยก่อนเรียนรู้แบบครูพักลักจำ เน้นกะมากกว่าชั่งตวงปริมาณตายตัว ถือว่าต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์พอสมควร อย่าง ไรก็ตามสเต๊กสูตรนี้นิยมใช้เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบหลัก ทว่าสามารถใช้เนื้อหมูแทนกันได้”
วัตถุดิบและส่วนผสม ประกอบด้วย หอมแดง 200 กรัม, กระเทียม 100 กรัม, เนื้อสันใน 200 กรัม, เนยจืด 454 กรัม, ใบพาสลี่ย์ตามชอบ, แองโชวี่ 1 กระป๋อง, มะนาว 2 ลูก, มัสตาร์ด 1 ช้อนโต๊ะ และทารากอน ส่วนผสมและปรุงรสสำหรับอาหารสไตล์ฝรั่งเศส
วิธีทำ สับหอมกับกระเทียมให้ละเอียด แล้วค่อย ๆ ทยอยใส่เนยจืดปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดละเอียดเพื่อทำซอส ระหว่างปั่นหมอเดียร์ใช้ตะเกียบค่อย ๆ เกลี่ยส่วนผสมลงไปก้นเครื่องปั่น จากนั้นใส่แองโชวี่ น้ำมะนาว มัสตาร์ด ใบพาสลี่ย์และทารากอน ซึ่งส่วนผสมสองอย่างหลังนี้จะช่วยเรื่องสีสันและให้กลิ่นหอมเย้ายวน ขั้นตอนนี้ถือว่าปราบเซียนและเปลืองเวลาที่สุด เพราะส่วนผสมของซอสค่อนข้างแห้งทำให้ปั่นยาก ดังนั้นหมอเดียร์จึงแนะนำทำเก็บไว้คราวละมาก ๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วหากต้องการทำใหม่ เพียงใส่ขวดปิดให้มิดชิดแล้วเก็บในตู้เย็น
พอได้ซอสแล้วใช้ไม้เหล็กทุบเนื้อคลายความเหนียว ตั้งกระทะให้ร้อนนำเนื้อลงไปกริลล์พอสุก แล้วยกออกเทซอสลงในกระทะรอจนร้อนค่อยใส่เนื้อลงไปผัด คลุกเคล้าจนเข้ากัน จัดเสิร์ฟใส่จานรับประทานกับเฟรนช์ฟรายส์และผักสลัด ตัวซอสคาเฟ เดอ ปารีส์ ที่เข้มข้นหอมกลิ่นเนยจะค่อย ๆ แทรกซึมในชิ้นเนื้อทำให้นุ่มลิ้นและอร่อยขึ้น.
‘ช้องมาศ’
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/304149/‘คาเฟ+เดอ+ปารีส์’+มรดกรสรื่นจากราชสกุลยุคล
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001