Home » All posts

กู๊ด มอร์นิ่ง! ชวนคุณมาเจาะไข่แดงมื้อเช้า!

เช้าๆ แบบนี้ หลายคนคงกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวไปโรงเรียน ไปทำงาน ไหนจะต้องมาพะวงกับการหาเช้าทานอีก เดี๋ยวจะไม่ทันการ กลับมาพบกับ Trend can do ไทยรัฐออนไลน์ทุกวันศุกร์แบบนี้เช่นเคย สัปดาห์นี้เราจะทำอาหารเช้าที่แสนง่ายดายมีเพียงไม่กี่ขั้นตอน คุณก็จะได้อิ่มอร่อยกันแล้ว...

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ขนมปังบาเกต (Baguette เป็นขนมปังฝรั่งเศส มีลักษณะรูปทรงเป็นแท่งยาวขนาดใหญ่ เปลือกนอกแข็งกรอบ เนื้อในนุ่มเหนียว)
2. ไข่ไก่
3. เบคอน
4. เกลือและพริกไทย
5. น้ำมันปรุงอาหาร

ขั้นตอนการทำ
1. นำขนมปังบาเกตมาหั่นเป็นชิ้น หนาประมาณ 2 นิ้ว และทำให้ขนมปังเป็นรูโพรงตรงกลาง โดยการใช้มือ หรือช้อนหยิกขนมปังข้างในออก

2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใช้ความร้อนปานกลาง ใส่เบคอนที่หั่นประมาณเท่าลูกเต๋าลงไปแล้วปรุงรสตามใจชอบ และนำมาใส่จานให้สะเด็ดน้ำมัน
3. เช็ดน้ำมันในกระทะจากการทอดเบคอนออกให้หมด ลดความร้อนให้ต่ำลง และวางขนมปังบนกระทะ
4. หลังจากนั้น ตอกไข่ใส่รูขนมปังระวังอย่าให้ไข่แตก ปรุงรสด้วยการโรยเกลือและพริกไทยลงไป เมื่อไข่ด้านนึงสุก ก็พลิกอีกด้านรอให้สุก

5. เมื่อสุกแล้ว โรยเบคอนชิ้นเล็กๆ ด้านบน

credit by http://www.thairath.co.th/content/468584

“ก๋วยจั๊บยะลา” ยกทัพบุกกรุง สูตรเด็ดซุปรสเข้ม จัดเต็มเส้นสด

สูตรทำอาหาร

ก๋วยจั๊บยะลา@วัชรพล

ของดีในท้องถิ่น หากนำมาจับแต่งตัวโดยยังคงเอกลักษณ์แบบพื้นบ้านไว้ได้ ถือเป็นเทรนด์ที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ เช่นเดียวกับ 'ร้านก๋วยจั๊บยะลา@วัชรพล' ยกทัพบุกกรุงด้วยน้ำซุปเข้มข้นจากเครื่องเทศจัดเต็ม พริกน้ำส้มเข้มข้น ตามสูตรยะลาขนานแท้ ถูกใจบรรดาคอกวยจั๊บไม่น้อย

ร้านก๋วยจั๊บยะลา@วัชรพล ชูคอนเซ็ปต์ ยกกวยจั๊บสูตรยะลา มาเปิดในกรุงเทพฯ ด้วยแนวคิดที่ว่า กวยจั๊บอร่อย ใช่ว่ามีแต่ที่เยาวราชเท่านั้น ยังมีกวยจั๊บยะลา ที่เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนที่ชอบรับประทานกวยจั๊บ เพราะมีสูตรและอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่พอสัมผัสลิ้นแล้ว เนี่ยล่ะใช่เลย...กวยจั๊บแห่งเมืองยะลา ด้วยคอนเซ็ปต์ร้าน สูตรน้ำซุปเฉพาะ เส้นสด เครื่องใน และเครื่องเคียงด้วยพริกน้ำส้มเข้มข้น พริกสดแท้ๆ ที่เป็นจุดต่างสำคัญที่ร้านอื่นไม่มี หรือเรียกได้ว่าเป็นอัตลักษณ์กวยจั๊บของเมืองยะลานั่นเอง

“ก๋วยจั๊บยะลา” ยกทัพบุกกรุง สูตรเด็ดซุปรสเข้ม จัดเต็มเส้นสด

นายจินตวัฒน์ เหล่าพงศ์หาญ

กว่า 3 ปีเต็มฉายากวยจั๊บสุดแดนใต้แห่งเมืองยะลามาเปิดย่านวัชรพล โดย “นายจินตวัฒน์ เหล่าพงศ์หาญ” เจ้าของร้าน ได้ย้อนถึงที่มา ว่า ครอบครัวขายกวยจั๊บอยู่ที่เมืองยะลามาร่วม 20 ปี ได้รับสูตรเฉพาะที่สืบทอดต่อกันมา เริ่มตั้งแต่การเคี่ยวน้ำซุป การปรุงด้วยรสชาติกลมกล่อมด้วยสูตรเฉพาะที่มีวิธี การทอดหมูกรอบ กรอบนอก นุ่มใน ที่คงความกรอบได้ยาวนาน รวมถึงที่ขาดไม่ได้ หรือเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกวยจั๊บยะลาเลย คือ พริกน้ำส้มเข้มข้น พริกสด ที่ให้ความหอม เผ็ดร้อน และอร่อย ซึ่งนี่คือจุดแตกต่างที่ร้านอื่นไม่มีอย่างแน่นอน

ด้วยจุดต่างดังกล่าว เขาจึงมีแนวคิดการสร้างแบรนด์ให้แก่ร้าน “ก๋วยจั๊บยะลา@วัชรพล” ในการใช้อัตลักษณ์ของเมืองยะลามาเป็นกลยุทธ์หลัก โดยเริ่มตั้งแต่สูตรกวยจั๊บ ที่น้ำซุปกลมกล่อม หอมละมุนลิ้น เส้นที่ทำมาจากเส้นสด และเครื่องเคียงด้วยหมูกรอบนุ่มกรอบนาน มาพร้อมพริกน้ำส้ม พริกสดที่ใช้แทนพริกป่น ที่ให้ความหอมและเผ็ดแบบทางภาคใต้แท้ๆ พร้อมด้วยของหวาน กล้วยหินบวชชี และกล้วยหินเชื่อม ด้วยพันธุ์กล้วยทางภาคใต้จากยะลาที่ไม่มีขายที่ไหน

หมูกรอบด้วยการทอดแบบเฉพาะ

โดยทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการคัดเลือกเครื่องในต่างๆ ทั้งลิ้นหมู กระเพาะ หัวใจ ไข่ กรรมวิธีการต้มน้ำซุป กรรมวิธีการทำหมูกรอบ หรือการใช้พริกสดมาเป็นเครื่องปรุงรสให้มีรสชาติที่เข้มข้นมากขึ้น และที่สำคัญร้านต้องสะอาด ของที่นำมาทำต้องใหม่ สด ไม่ให้เสียชื่อ

สำหรับร้านก๋วยจั๊บยะลา ตั้งอยู่ที่ถนนวัชรพล ก่อนถึงซอยวัชรพล 5 หรือตรงข้ามหมู่บ้านลัดดารมย์ โดยวิ่งจากห้าแยกวัชรพล มุ่งหน้า ถ.เพิ่มสิน จะเห็นร้านอยู่ด้านซ้ายมือ ตึกแถวคูหาเดียว เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-19.00 น. หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1540-8148 โดยสนนราคาอยู่ที่ชามละ 40 บาทสำหรับธรรมดา และพิเศษ 50 บาท ขณะที่เกาเหลาอยู่ที่ราคา 60 บาท

บรรยากาศภายในร้าน

“เป็นที่น่าดีใจที่นอกเหนือจากลูกค้าย่านวัชรพล รามอินอินทรา แล้ว ยังมีลูกค้าไกลๆ ตามมารับประทานถึงที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นแถวพัฒนาการ พระราม 7 นนทบุรี ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่ายิ่งต้องพัฒนาและทำให้ของของเราดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อลูกค้าจะได้มารับประทานแล้วเกิดความประทับใจ และอนาคตอันใกล้นี้เตรียมจะทำกวยจั๊บสูตรต้นฉบับเมืองยะลา อีกเมนูหนึ่ง คือ การใส่ขาไก่ ข้อไก่ และปีกไก่ที่ต้มจนเปื่อยด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน มาเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าอีกด้วย”

ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตเขาเตรียมขยายสาขาอีก 2 แห่ง โดยเล็งทำเลไว้ใกล้ย่านวัชรพล และใจกลางกรุงเทพฯ แบบ Stand Alone ยังไม่คิดเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ส่วนการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ อยู่ในช่วงศึกษาขั้นตอนและแผนการบริหารจัดการคุณภาพให้ได้มาตรฐานเหมือนกัน ทุกสาขาก่อน ซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาสอบถามและต้องการขอซื้อแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง

credit by : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000136994

Read More...

เบเกอรี่เจ Healthy Cup สุขภาพซื้อได้ ดีไซน์โดยเภสัชกร

สูตรทำขนม

คัพเค้กเจ ชวนลิ้มลอง

        ใกล้ถึงเทศกาลกินเจรอบสอง แม้หลายกระแสจะฟันธงว่าจะไม่คึกคักเท่าที่ควร แต่เชื่อแน่ว่าคนกินเจก็ต้องเสาะแสวงหาอาหาร และขนมเจอยู่ดี ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของเบเกอรี่เจได้แจ้งเกิด การันตีคุณภาพโดยเภสัชกร เพราะไม่เพียงแต่จะหารับประทานได้ช่วงเจเท่านั้น แต่ยังเอาใจคนรักสุขภาพด้วยวัตถุดิบที่มีประโยชน์ไม่ก่อให้เกิดส่วนเกินใน ร่างกาย กับแบรนด์ 'Healthy Cup'

       เภสัชกรหญิงอุทัยวรรณ โตดิลกเวชช์ เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่เจ Healthy Cup เคยสร้างชื่อเสียงด้านเบเกอรี่เพื่อสุนัขมาแล้ว หวังให้น้องหมามีสุขภาพดี มาคราวนี้ในฐานะที่เรียนจนมาทางด้านเภสัชกร ขอทำเบเกอรี่เพื่อเพื่อนมนุษย์บ้าง โดยแรงบันดาลใจเกิดจากเมื่อครั้งรับประทานคุกกี้รู้สึกถึงส่วนผสมที่ไม่ก่อ ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย อย่าง มาการีน จึงคิดว่าหากผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีคอลเลสเตอรอลเกินกำหนดจะไม่สามารถรับประทานได้ กรอปกับกระแสคนรักสุขภาพเพิ่มมากขึ้น จึงเกิดไอเดียทำเบเกอรี่เจเพื่อสุขภาพ ไร้ไข่ เนย นม โซเดียมต่ำ เลือกใช้น้ำผึ้ง และน้ำตาลไม่ฟอกสี เติมความหวานกลมกล่อม

เบเกอรี่เจ Healthy Cup สุขภาพซื้อได้ ดีไซน์โดยเภสัชกร

เภสัชกรหญิงอุทัยวรรณ โตดิลกเวชช์ เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่เจ Healthy Cup

เภสัชกรหญิงอุทัยวรรณ โตดิลกเวชช์ เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่เจ Healthy Cup เคยสร้างชื่อเสียงด้านเบเกอรี่เพื่อสุนัขมาแล้ว หวังให้น้องหมามีสุขภาพดี มาคราวนี้ในฐานะที่เรียนจนมาทางด้านเภสัชกร ขอทำเบเกอรี่เพื่อเพื่อนมนุษย์บ้าง โดยแรงบันดาลใจเกิดจากเมื่อครั้งรับประทานคุกกี้รู้สึกถึงส่วนผสมที่ไม่ก่อ ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย อย่าง มาการีน จึงคิดว่าหากผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน หรือมีคอลเลสเตอรอลเกินกำหนดจะไม่สามารถรับประทานได้ กรอปกับกระแสคนรักสุขภาพเพิ่มมากขึ้น จึงเกิดไอเดียทำเบเกอรี่เจเพื่อสุขภาพ ไร้ไข่ เนย นม โซเดียมต่ำ เลือกใช้น้ำผึ้ง และน้ำตาลไม่ฟอกสี เติมความหวานกลมกล่อม

เธอใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่นานพอสมควร ศึกษาจากตำราทำเบเกอรี่ของต่างประเทศว่า หากไม่ใช้มาการีน จะเลือกใช้วัตถุดิบใดแทนได้ หรือเลือกใช้แป้งอะไรแทนแป้งสาลี โดยเลือกปรับให้เข้ากับวัตถุดิบที่มีในประเทศไทยให้มากที่สุด เช่น ใช้แป้งไรซ์เบอรี่ แทนแป้งสาลี ลดอาการท้องผูกเพราะมีไฟเบอร์สูง นำงาดำ งาขาว มาเป็นส่วนผสม ลดเกลือและน้ำตาลลงทั้งหมด ปราศจากสีและกลิ่นใดๆ ทั้งสิ้น

สุดท้ายเกิดเป็นเบเกอรี่เจหารับประทานได้ทั้งปี ไม่เฉพาะช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้น โดยเธอเลือกบุกตลาดตามโรงพยาบาลเป็นแห่งแรก ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจเธอจึงเพิ่มช่องทางจำหน่ายแบบออนไลน์ทั้งทางเฟซบุก (Facebook) และไลน์ (Line) หวังขยายตลาดให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ

เค้กกล้วยหอมสารพันหน้า

ส่วนผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ Healthy Cup แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ เค้กปอนด์เจ มีให้เลือกหลายรสชาติทั้ง เค้กกล้วยหอม เค้กช็อกโกแลต และคัพเค้กชิ้นเล็กๆ เช่น กล้วยหอม วนิลา ช็อคโกแลต และกาแฟ โดยหน้าครีมไม่มีส่วนผสมของนม รวมถึงเลือกใช้ช็อคโกแลตนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนเนื้อเค้กไม่ใช้แป้งสาลี

เค้กวันเกิดแบบฉบับคนรักสุขภาพ

ขณะที่คุกกี้จะทำเป็น 'คุกกี้ไร้แป้ง' เลือกใช้ผักผลไม้ 7 อย่างมาเป็นส่วนผสมหลัก โดยเป็นผลไม้สดทั้งหมดไม่มีน้ำตาลใช้ลูกเกดแทนความหวาน ล่าสุดผลิตซีเรียล บาร์ รับประทานง่ายไม่มีแป้ง นม เนย ใช้น้ำผึ้งแทนความหวาน เหมะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก และสามารถรับประทานหลังออกกำลังกายได้ โดยราคาเค้กปอนด์เริ่มต้นที่ 450 บาท/ปอนด์ คัพเค้กชิ้นละ 50 บาท คุกกี้ 60 บาท/กระปุก

บราวนี้สุขภาพหงานน้อย

ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ และทางร้านจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ ได้แก่ คุกกี้ บราวนี่ เค้กกล้วยหอม เพราะเบเกอรี่เหล่านี้สามารถอยู่นอกตู้เย็นได้ 3 วัน และเก็บในตู้เย็นได้เกิน 1 สัปดาห์ ส่วนเค้กปอนด์ ต้องสั่งทำและมารับเอง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนทำงานออฟฟิศ ที่ต้องการรับประทานเบเกอรี่แปลกใหม่คู่กับกาแฟยามเช้า พร้อมการดูแลสุขภาพควบคู่กันไป โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจเค้กกล้วยหอมจะขายดีที่สุด เพราะส่งให้ทาง EMS เหมาะกับการซื้อไปรับประทานเองและเป็นของฝาก ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึงเพราะหากไม่บอกว่าเป็นเค้กกล้วยหอมเจ ก็ไม่รู้ว่าไม่มีส่วนผสมของวัตถุดิบที่ทำลายร่างกายเลย สรุปรสชาติไม่ต่างจากเบเกอรี่ที่คนทั่วไปคุ้นเคย

เค้กผลไม้สด

***สนใจติดต่อ 08-1486-9293 ,02-5212247, line ID : ByPharmacist, Facebook : HealthyCup007***

credit by : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000121230

Read More...

‘หมูกรอบผัดพริกขิง’ ขายออนไลน์..ก็ได้เงิน

สูตรทำอาหาร

การค้าออนไลน์ในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมมาก เพราะสะดวก และประหยัดต้นทุนในการทำธุรกิจได้มาก จึงมีสินค้าหลายประเภทพากันไปค้าขายในโลกไซเบอร์กันมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว เครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ขนมหวาน เบเกอรี่ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งเมนูอาหารไทย ๆ อย่าง “หมูกรอบผัดพริกขิง” ก็มีการค้าขายในโลกออนไลน์เช่นกัน ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...

สุกัญญา สันตินิเวศน์ หรือ เก๋ เจ้าของหมูกรอบผัดพริกขิง “แม่พรโภชนา” เล่าว่า หมูกรอบผัดพริกขิงนี้เป็นอาหารที่ทานประจำ และในช่วงที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศเป็นเวลานาน ๆ มักจะแพ็กใส่ถุงหิ้วไปทาน และฝากเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ จนกลายเป็นของโปรด และได้รับการร้องขอจากเพื่อน ๆ ประจำ จนกระทั่งได้กลับมาทำงานที่เมืองไทย จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้เพื่อน ๆ ได้ทานอาหารนี้เหมือนเดิม และเห็นว่าปัจจุบันการค้าออนไลน์กำลังได้รับความนิยม จึงได้ทดลองทำดู ปรากฏว่าได้รับการตอบรับมาก จึงได้เปิดรับออร์เดอร์เรื่อยมา และตอนนี้ได้เพิ่มอาหารประเภทอื่น ๆ เสริมขึ้นมา อย่างปลาทูผัดสมุนไพร และไข่เค็มรสต่าง ๆ

อุปกรณ์ในการทำหมูกรอบผัดพริกขิง หลัก ๆ มี เตาแก๊ส-กระทะ, หม้อสเตนเลส, มีด-เขียง, ตะแกรง และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ในครัว

วัตถุดิบในการทำหมูกรอบผัดพริกขิง หลัก ๆ มี หมูสามชั้น 1 กก., กากหมูทอดกรอบ 100 กรัม, พริกแกงแดง 200 กรัม, กระเทียมไทยตำละเอียด 100 กรัม และใบมะกรูดหั่นฝอยพอประมาณ

วิธีทำ เริ่มที่หั่นหมูสามชั้นให้แต่ละชิ้นมีขนาดยาว 12 ซม., กว้าง 2 ซม. และหนา 1.5 ซม. เตรียมไว้ โดยหมูสามชั้น 1 กก. จะหั่นได้หมูตามขนาดดังกล่าวประมาณ 10 ชิ้น

ก่อนที่จะทอดหมูกรอบนั้น สุกัญญาแนะว่าควรจะต้มหมูสามชั้นก่อน โดยจะต้มประมาณ 15 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องต้มให้สุกมาก เพราะจะต้องนำไปทอดให้กรอบอีกรอบหนึ่ง

จากนั้น นำหมูสามชั้นที่ต้มแล้วไปคลุกกับเกลือป่นพอประมาณอีกครั้งหนึ่ง แล้วตั้งทิ้งไว้ให้เย็น

วิธีการทอดหมูกรอบ

ตั้งกระทะ เทน้ำมันท่วม รอจนกระทั่งน้ำมันร้อน ค่อย ๆ เรียงหมูสามชั้นที่ต้มแล้วลงไปในกระทะตามแนวตั้งของหมู เสร็จแล้วปิดฝา เร่งใฟให้ร้อนปานกลาง ทอดไปประมาณ 10 นาที ดูว่าหมูนั้นออกสีเหลืองทอง แล้วให้พลิกหมูอีกด้านขึ้นมา ปิดฝา รอไปอีกประมาณ 5-7 นาที ก่อนที่หมูกรอบจะสุกใช้ได้ ให้เร่งไฟให้แรงขึ้นอีกเล็กน้อย โดยหมูกรอบที่สุกใช้ได้จะมีสีเหลืองทอง แห้ง และกรอบ

เมื่อทอดหมูกรอบสุกได้ที่แล้ว ให้ตักขึ้นมาพักสะเด็ดน้ำมัน ตั้งทิ้งให้เย็น แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ เตรียมไว้ วิธีการผัดหมูกรอบผัดพริกขิง เริ่มที่ตั้งกระทะ เทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย เมื่อน้ำมันร้อนใช้ได้แล้วใส่กระเทียมตำลงไปผัดให้เหลืองกรอบ จากนั้นใส่พริกแกงแดงลงไปผัดกับกระเทียมให้เข้ากัน ใส่หมูกรอบ ตามด้วยกากหมูทอด ปรุงรสด้วยผงปรุงรส, ซอสปรุงรส และน้ำตาลทราย ผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ระหว่างผัดคอยหมั่นดูไฟด้วย อย่าให้ร้อนจนเกินไป เพราะจะทำให้น้ำตาลไหม้ได้ เมื่อผัดใกล้เสร็จ ให้ใส่ใบมะกรูดหั่นเป็นฝอยลงไป แล้วผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ชิมรสให้ตามที่ต้องการ โดยรสชาติหมูกรอบผัดพริกขิงที่ดีจะต้องมีรสหวานนำ เผ็ดเล็กน้อย เสร็จแล้วปิดแก๊ส

พักหมูกรอบผัดพริกขิงให้เย็น แล้วบรรจุใส่ถุงถุงละ 150 กรัม ขายในราคาถุงละ 100 บาท

หมูกรอบผัดพริกขิงนี้ หากเก็บไว้อุณหภูมิที่พอเหมาะจะเก็บได้นานเกิน 1 สัปดาห์

เมนูอีกอย่างที่ได้รับความนิยมไม่แพ้หมูกรอบผัดพริกขิง คือ ปลาทูคั่วสมุนไพร

วิธีทำ ปลาทูคั่วสมุนไพร เริ่มที่ เตรียมเนื้อปลาทูนึ่ง 500 กรัม

นำใบกะเพรา 100-150 กรัมไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วทอดในน้ำมันที่ร้อนปานกลางให้กรอบ นำขึ้นพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน

เตรียมกระเทียมไทยตำละเอียด 100 กรัม, รากผักชีตำละเอียด 7-10 ราก, พริกขี้หนูสวนตำละเอียดพอประมาณ และใบมะกรูดหั่นชิ้นเล็ก ๆ พอประมาณเช่นกัน

วิธีผัดปลาทูคั่วสมุนไพร ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชพอประมาณ พอน้ำมันร้อนได้ที่ ใส่กระเทียมบดลงไปผัดให้เหลือง จากนั้นใส่รากผักชี และพริกขี้หนูตำลงไปคั่วให้ส่วนผสมในกระทะเข้ากันดี จากนั้นใส่เนื้อปลาทูนึ่งลงไปคั่วให้เข้ากัน หมั่นดูไฟอย่าให้แรงเกินไป เพราะเนื้อปลาทูจะไหม้

ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส, ผงปรุงรส, น้ำตาลปี๊บ, ลูกผักชียี่หร่าคั่วและบดละเอียด แล้วโรยหน้าด้วยใบมะกรูดหั่น และใบกะเพราทอดกรอบ เสร็จแล้วคั่วไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเท่านี้ก็ใช้ได้

โดยปลาทูคั่วสมุนไพรที่ใช้ได้จะมีสีเหลืองเข้ม มีรสเค็มนำ เผ็ดเล็กน้อย ที่สำคัญต้องแห้งกรอบ ซึ่งหากเก็บไว้ในตู้เย็นจะเก็บได้นานถึง 3 เดือน

บรรจุใส่กระปุกกระปุกละ 50 กรัม ก่อนจะปิดฝาให้โรยหน้าด้วยใบมะกรูดหั่นอีกครั้งหนึ่ง จำหน่ายเป็นชุด ๆ ราคาชุดละ 100 บาท (1ชุด มี 3 กระปุก)

ใครสนใจ “หมูกรอบผัดพริกขิง” และ “ปลาทูคั่วสมุนไพร” ต้องการติดต่อ สุกัญญา เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-6557-1809 หรือที่ www.facebook.com/แม่พรโภชนา.

คู่มือลงทุน…หมูกรอบผัดพริกขิง

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคาขาย
รายได้ ราคา 100 บาท/150 กรัม
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ขายทางออนไลน์
จุดที่น่าสนใจ ออนไลน์เป็นช่องทางการขายที่ดี

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล/สุรางค์รัตน์ เจนการ : รายงาน
ภาณุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/287178/‘หมูกรอบผัดพริกขิง’+ขายออนไลน์..ก็ได้เงิน

Read More...

‘คูมินแรพไส้ไก่’ อร่อยม้วนเดียวจบ

สูตรทำอาหาร

ตู้เย็นเปรียบดั่งเสบียงคลังประจำบ้าน จะอัดแน่นด้วยอาหารผลไม้หรือขนูกขนม ตามแต่เจ้าของบ้านจะกักตุนของโปรดไว้ วันนี้ลองเลียบเคียงเปิดตู้เย็นของ พอล-พรพจน์ แก่นเพ็ชร์ โบรกเกอร์หนุ่มทายาทคนเดียวของนักแสดงอาวุโส พอเจตต์ แก่นเพ็ชร์ เจ้าพ่อร้านอาหารสุดฮิปอย่าง “ออล ซิกซ์ ทู ทเวลฟ์” ซึ่งมีถึง 2 สาขาคือ หลังสวนและสุขุมวิท 39 รวมถึงความอร่อยน้องใหม่อย่าง “ร้านอมอเธ เพลย์ รูม แอนด์ บราซีรี่” ยึดหัวหาดต้นถนนสาทร พบว่ามีชีส แฮม แยม ซอส และผัก เป็นวัตถุดิบประกอบแซนด์วิชคอยเสริมทัพให้อิ่มท้อง

สอดรับการกินสไตล์อินเตอร์ “ที่บ้านผมค่อนข้างเหมือนฝรั่งสักหน่อย ชอบทำแซนด์วิช กินกันได้ทุกเวลา มื้อเช้า มื้อสาย และมื้อเย็น ดังนั้นวัตถุดิบหลัก ๆ ต้องมีชีสขั้นต่ำ 5 ชนิด ชีสนุ่ม ชีสแข็ง ชีสบด มีหมด นอกจากนี้ยังมีแฮมอย่างน้อย 3 ชนิด ซอสมาเต็มทั้งซอสมะเขือเทศ ซอสพริก มัสตาร์ด น้ำผึ้ง แยม และผักชนิดต่าง ๆ เยอะมาก เรียกว่า ตู้เย็นไม่เคยโล่งเลยแค่ผมเปิดตู้เย็นหยิบส่วนผสมเหล่านี้มิกซ์แอนด์แมตช์ได้ตลอด” คุณพอลเล่าถึงเสบียงคลัง

ในส่วนของฝีมือการทำอาหาร เจ้าของร้านอาหารดังเผยความลับว่า สัมผัสมาตั้งแต่เด็ก อาศัยดูมากกว่าลงมือจริง ช่วยคุณย่าและคุณแม่ปรุงบ้างเป็นครั้งคราว ผมเป็นลูกชายคนเดียวหากไม่มีใครอยู่บ้านก็ไม่เดือดร้อนเพราะทำอาหารกินเองได้ บางครั้งเบื่อฝีมือแม่บ้าน ผมจะดัดแปลงนิดหน่อยให้ถูกปาก อย่างไรก็ตามหลังจากแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ยอมรับว่าเข้าครัวน้อยลงเนื่องจากบริหารเวลาไม่พอ ทำประปรายบางครั้งถ้าเดินทางไปตรวจกิจการไร่ผักที่เขาใหญ่ เพราะไม่อยากเบียดฝูงชนฝ่ารถติด จะหยิบอาหารไปทำกินเองอย่างง่าย ๆ”

เมนูวันนี้อยากนำเสนอ “คูมินแรพ” อาหารผสมกลิ่นอายแขก คล้ายอาหารชาวเลบานอน ซึ่งเจ้าของสูตรได้แก่คุณแม่ ท่านนำแป้งตอร์ตีญ่ามาห่อชีส เตอร์กีแฮม ผัก มะเขือเทศ ซึ่งวิธีการทำง่ายมาก ใช้เวลาเบ็ดเสร็จ 5 นาที สามารถกินได้แล้ว ถ้าพูดให้เห็นภาพแป้งตอร์ตีญ่าเป็นแป้งแผ่นรูปวงกลม ทำมาจากแป้งข้าวโพดหรือข้าวสาลีนั่นเอง ดังนั้นจึงบอกให้เชฟประจำร้านลองทำโดยดัดแปลงให้เป็นสไตล์เรา สูตรใหม่แต่ธีมเดียวกัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกินของหนักท้อง เร่งรีบเพื่อที่จะไปทำภารกิจต่อ เพราะใช้เวลากินไม่เกินครึ่งชั่วโมง หรือจะหยิบติดมือกินระหว่างทางได้ “สูตรนี้ผมจะเน้นผักสลัดและผักกาดแก้วค่อนข้างเยอะ ส่วนหนึ่งเพราะผมชอบกินผัก ส่วนไส้ใส่ได้ 3 แบบทั้งไก่ เนื้อ และหมู แต่วันนี้แนะนำเป็นไก่” คุณพอลเล่า

วัตถุดิบและส่วนผสม ประกอบด้วย “คูมิน” หรือ ผงยี่หร่าคั่วหอมนั่นเอง ใช้ชนิดบดละเอียด 1 ช้อนชา, โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ, อกไก่ 50 กรัม, มอสซาเรลล่าชีส 2 ชิ้น 50 กรัม, น้ำเกรวี่ 1/2 ถ้วย, ผักกาดแก้วตามชอบ, มะเขือเทศสับ 1 ช้อนโต๊ะ, หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ, มายองเนส 1 ช้อนโต๊ะ, แป้งตอร์ตีญ่า 2-3 แผ่น ส่วนพาสลีย์ ผักชีไทย เกลือ และพริกไทย ตามชอบ

วิธีทำ ผสมไก่กับคูมิน พริกไทย เกลือ โยเกิร์ต คลุกเคล้าจนแทรกซึมเข้าเนื้อไก่ ตั้งกระทะจนร้อนแล้วนำไก่ที่ผสมไว้ลงไปผัด คอยเติมน้ำเกรวี่ผัดจนกระทั่งงวด โรยเกลือพริกไทยเพิ่มอรรถรส เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปหยิบแป้งตอร์ตีญ่ามาวางบนพื้นราบ บีบมายองเนสเป็นทางยาว โรยแผ่นชีส ตามด้วยผักกาดแก้ว ผักสลัด คีบชิ้นไก่วางชั้นบนสุด โรยมะเขือเทศและหัวหอมตาม จัดแจงม้วนให้เรียบร้อย นำไปย่างบนเตาไฟฟ้าประมาณ 5 นาที นำกระดาษมาห่อเพื่อให้หยิบกินง่าย เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมผักเคียงและน้ำสลัด ง่ายแต่อร่อยแทบไม่น่าเชื่อ จากที่เลือกสั่งเพราะไม่อยากกินของหนักท้อง อาจต้องสั่งเพิ่ม 2-3 ชิ้นโดยไม่รู้ตัว.

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/286985/‘คูมินแรพไส้ไก่’+อร่อยม้วนเดียวจบ

Read More...

4อาชีพเสริมเด็ด หน้าร้อนนี้ห้ามพลาด!!

สูตรทำขนม

ช่วงนี้ใครหลายคนต้องบอกคำเดียว ว่าอากาศร้อนมากๆ ถ้าไปถามใครหลายคนต้องบอกว่าเมืองไทยมีแค่ 2 ฤดูเท่านั้น คือ ร้อนมาก และ ร้อนที่สุด แต่ใครจะรู้อากาศร้อนแบบนี้ เราสามารถหาอาชีพเสริม พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ซึ่งทางทีม"งาน!สนุกมันนี่" ได้ลองหาอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ ในช่วงอากาศร้อนจัดมาแนะนำให้ สำหรับผู้ที่อยากมีรายได้เสริมในช่วงหน้าร้อนกันครับ

ขายเฉาก๋วย
ร้อนนี้ ขายเฉาก๋วย รับรองดีแน่นอน เพราะว่าในหน้าร้อนแบบนี้ ของทุกๆปีอาชีพที่ขายดีในตลาดนัด ในช่วงตอนกลางวันได้แก่ ไอศครีมเย็น น้ำเย็นๆ รวมถึงเฉาก๋วย ด้วย มักขายได้ดีแถมไม่ต้องตะโกนขายให้เหนื่อยลำบาก แต่ว่าถ้าถามว่าทำไมต้องขายเฉาก๋วย เพราะเฉาก๋วยนั้นอร่อยเนื้อนุ่มเหนียว เคี้ยวหนึบๆ ยิ่งถ้าทำขายเองจะได้กำไรเยอะ แต่ถ้าเพื่อนๆขี้เกียจทำ ก็ลดขั้นตอนการทำไปแล้วรับมาขายจะช่วยให้ไม่เหนื่อยมาก แถมกำไรก็ต่างกันไม่มาก

อาชีพขายน้ำปั่นผลไม้
แน่นอนอาชีพขายน้ำปั่นผลไม้ เป็นอีกอาชีพเสริมหนึ่งที่ขายดีมากๆ ในช่วงฤดูร้อน พ่อค้า แม่ค้าที่มีอาชีพนี้อยู่แล้ว กำลังเตรียมตัวรับทรัพย์กันทั่วหน้า แล้วเพื่อนๆละ อยากจะมีรายได้ตรงนี้กันบ้างไหม การทำน้ำผลไม้ปั่น ไม่มีอะไรซับซ้อนหรือยากเย็นอะไร เครื่องมืออุปกรณ์ ต้นทุ่นก็ต่ำ แค่ไม่กี่พันก็สามารถเริ่มอาชีพนี้ได้ง่ายๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขาย เราก็ขายน้ำเปล่า น้ำโค๊ก-เป๊ปซี่ ไปด้วยก็จะได้ลูกค้าหลากหลายประเภทอีกด้วย

ขายไอศครีม
ร้อนนี้สิ่งที่ทุกคนนึกถึงคงเป็น ไอศครีมเย็นๆ หลากหลายรสชาติ ที่สามารถรับมาขาย หรือ จะทำขายเองได้ ก็น่าจะเป็นไอศครีมมะพร้าวกะทิสด ขายเองก็เข้าท่า เพราะโดยส่วนตัวนั้น คนส่วนใหญ่มักชอบทานไอศครีมกะทิสด มากกว่า ไอศครีมแบรนด์ต่างๆ แต่นอนไม่ว่าจะเป็นไอศครีมแบบไหน ก็ขายดี แบบเทน้ำเทท่ากันเลยทีเดียว

ขายวุ้นมะพร้าว
ขายวุ้นมะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมในหน้าร้อนที่ดี เพราะรสชาติที่หอมหวาน ความมันของมะพร้าว ทำให้ใครหลายคนที่เดินผ่านไปมาต้องซื้อรับประทาน ต้องขายดีแน่นอน แต่ถ้าหากเพื่อนๆทำเองได้ก็ทำมาขายหลายๆอย่าง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าได้ลิ้มลองในรสชาติอื่น เช่น วุ้นรสเผือก รสข้าวโพด เชื่อเลยว่างานนี้กระเป๋าตุงแน่นอน

เชื่อ ว่าอาชีพเสริมที่แนะนำมาทั้งหมด นั้น สามารถนำไปขายได้แบบไม่ไม่ต้องลงทุนมาก และรับรองว่าน่าร้อนนี้หากเพื่อน ที่มองหารายได้เสริมนำคำแนะไปลองทำเชื่อเลยหน้าร้อนนี้ มีเงินเหลือใช้ไปอีกนาน โชคดีและเฮงๆในหน้าร้อนนี้ครับ.

credit by : http://money.sanook.com/4อาชีพเสริมเด็ด-หน้าร้อนนี้ห้ามพลาด/

Read More...

‘คุกกี้ออนไลน์’ สร้างธุรกิจตลาดไฮเทค

สูตรทำขนม

ปัจจุบัน อินเทอร์เน็ต เข้ามามีบทบาทอย่างมากกับวิถีชีวิตของคนทั่วโลก ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการสื่อสารรูปแบบเดิม ๆ นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ได้เลือกซื้อสินค้าที่ต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา ใช้เงินลงทุนต่ำ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สามารถเปิดร้านได้ 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องมีคนเฝ้าร้าน ถือเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่สะดวกและประหยัด คนรุ่นใหม่หันมาสนใจทำกันอย่างแพร่หลาย ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” นำข้อมูลมาแนะนำ...

คนที่จะมาให้ข้อมูลเป็นผู้ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจออนไลน์ “เจณศิลป์ อดทน” หรือ “คุณโฮป” เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่ “Hopeby Hobby” เล่าให้ฟังว่า ก่อนนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านเสริมสวยมาก่อน พอดีคุณแม่ที่ป่วยมาจากไป ทำให้คุณพ่อเครียดจนต้องล้มป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ เธอเป็นลูกคนเดียว จึงตัดสินใจทิ้งธุรกิจที่สร้างรายได้หลักเพื่อมาดูแลคุณพ่อ เพราะคิดถึงสมัยยังเป็นเด็ก ท่านทั้งสองคอยดูให้ความรักและเอาใจใส่เป็นอย่างดี จึงถือโอกาสนี้ตอบแทนบุญคุณ

“โฮปคิดว่าทำอย่างไรถึงจะหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน พร้อมกับได้ดูแลคุณพ่อไปด้วย ด้วยเป็นคนชอบกิน และมีทักษะความรู้ในการทำเบเกอรี่ เพราะเคยทำขนมขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงตัดสินใจทำขนมขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต เริ่มจากจำนวนไม่มาก ทำตามออร์เดอร์จนเป็นที่รู้จัก หัวใจสำคัญที่จะช่วยมัดใจลูกค้าให้เลือกซื้อกับเราอีกในครั้งต่อไปคือรสชาติและคุณภาพ ที่ต้องให้ได้มาตรฐาน”

“โฮป” บอกว่าหน้าร้านของเธอมีเพียงแห่งเดียว คือ บนโลกออนไลน์ ผ่าน Facebook และ IG สินค้าเด่นของร้านเธอ ก็คือ คุกกี้ เพราะเป็นเบเกอรี่ ที่สามารถส่งของได้สะดวก และสามารถเก็บไว้ได้นาน

อุปกรณ์ที่ใช้ทำหลัก ๆ ก็มี...เตาอบไฟฟ้า, อ่างผสมขนาด 2 ลิตร, ที่ร่อนแป้ง, พายยาง, มีดฟันเลื่อย, ถ้วยตวงของแห้ง, ที่ตักไอศกรีม ช้อนตวง, ตาชั่ง, กระดาษไข, ถ้วยตวง, ถาดอบคุกกี้ และเครื่องตีแป้ง

วัตถุดิบที่ใช้ทำคุกกี้รวมรส ตามสูตรมีดังนี้...เนยสด 150 กรัม, น้ำตาลไอซิ่ง 135 กรัม, แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม, ไข่ไก่ 2 ฟอง, ผงฟู 4 กรัม, โซดาผง 2.5 กรัม, เกลือ 2.5 กรัม, ลูกเกดสับหยาบ 87.5 กรัม, เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 125 กรัม, คอนเฟล็กซ์ 200 กรัม, และช็อกโกแลตชิพ (แท้) 150 กรัม

ขั้นตอนการทำ “คุกกี้รวมรส”

เริ่มจากเปิดเตาอบ เปิดไฟบน-ไฟล่าง ให้อยู่ที่อุณหภูมิ 150 องศา เพื่อเป็นการวอร์มเตาให้ร้อนพร้อมใช้งาน ระหว่างนั้นก็มาเตรียมวัตถุดิบ เริ่มจากการนำแป้งอเนกประสงค์, ผงฟู, โซดาผง และเกลือ ผสมรวมกันเทใส่ลงบนที่ร่อนแป้ง แล้วร่อนส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในกะละมัง พักไว้ก่อน

นำเนยสดใส่ลงอ่างผสม ตีด้วยเครื่องความเร็วปานกลางจนเนยนุ่ม ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปทีละน้อยจนหมด ปาดส่วนผสมที่อยู่ตามขอบด้านในให้อยู่ตรงกลาง แล้วเปิดเครื่องตีต่อ 5 นาที ปิดเครื่องพักไว้ก่อน

ตอกไข่ใส่ภาชนะเตรียมไว้ ค่อย ๆ เปิดเครื่องไล่ความเร็วจากเบอร์ 1 ไปจนถึงเบอร์ 3 ตีไปประมาณ 1 นาที แล้วจึงใส่ไข่ฟองแรกผสมลงไป ตีต่อไปอีก 1 นาที จึงใส่ไข่ฟองที่สอง ตีต่ออีก 1 นาที แล้วก็ปิดเครื่อง

จากนั้นนำส่วนผสมแป้งที่ร่อนเตรียมไว้ มาใส่รวมกัน เปิดเครื่องตีต่อ 5 นาที ปิดเครื่อง ปาดส่วนผสมให้มาอยู่ตรงกลาง ลดความเร็วเครื่องลง นำลูกเกด เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ คอนเฟล็กซ์ และช็อกโกแลตชิพ ตีพอเข้ากัน จึงปิดเครื่อง

เมื่อส่วนผสมเข้ากันเป็นอย่างดีแล้วจะมีความเหนียวไม่ติดมือ ใช้ที่ตักไอศกรีมตักส่วนผสม วางลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษไขเป็นก้อน ใช้ช้อนส้อมกดให้สวยงาม แต่งหน้าด้วยช็อกโกแลตชิพ นำเข้าเตาอบ 15-20 นาที หรือจนกว่าจะเหลืองทอง แล้วนำออกมาวางพักไว้ให้เย็น แพ็กใส่พลาสติกอย่างดีเป็นชิ้น ๆ กันอากาศเข้า คุกกี้กรุบกรอบอร่อย และสะดวกในการรับประทาน

โฮป บอกว่าการขายผ่านออนไลน์ อาจจะแตกต่างจากการขายทั่วไป ลูกค้าก็ต้องทำใจที่ต้องสั่งล่วงหน้า แต่มีข้อดีทำให้สามารถวางแผนการทำขนมในแต่ละวันได้ และลูกค้าจะได้คุกกี้ที่เราทำสดใหม่ทุกวันถ้าไม่มีออร์เดอร์ก็จะไม่ทำทิ้งไว้ การส่ง ถ้าไม่ไกลมากจัดส่งให้ โดยคิดค่าส่งตามจริง หรือจะมารับเองก็ได้

ราคาขายคุกกี้รวมรส จะขายเป็น กก. ๆ ละ 400 บาท ถ้าลูกค้าต้อง การแพ็กเกจจิ้ง บวกค่าแพ็กเกจจิ้งเพิ่มตามราคา

ใครสนใจคุกกี้รวมรส-ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ “Hopeby Hobby” ติดต่อโฮป เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-4154-3933, www.facebook.com/hopeby hobby

ทั้งนี้ การทำธุรกิจเบเกอรี่-คุกกี้ของเจ้านี้ ก็เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ.

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / จักรพงศ์ ก้องกาญจน์ภาศ : ภาพ

คู่มือลงทุน...คุกกี้ออนไลน์

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 70% ของราคาขาย
รายได้ 400 บาท / 1 กก.
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ชุมชน, ร้านเบเกอรี่, ฝากขาย
จุดน่าสนใจ ขายเบเกอรี่ผ่านออนไลน์

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/285727/‘คุกกี้ออนไลน์’+สร้างธุรกิจตลาดไฮเทค

Read More...

เข้าคอร์สสุขภาพดีกับ ‘ปลาหิมะนึ่งมะนาว’

สูตรทำอาหาร

โรคกลัวความอ้วนกำเริบเมื่อย่างสู่วัยสาว ตามประสาวัยรุ่นกังวลว่าจะสวมใส่เสื้อผ้าไม่สวย ปฏิบัติการรักษาหุ่นจึงเริ่มต้นนับแต่บัดนั้น ทว่าสาวดีกรีสูงถึงว่าที่ “ดอกเตอร์” วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พิมพ์-พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล กลับไม่ได้อดลดน้ำหนักอย่างบ้าคลั่ง แต่ขอก้าวข้าม “จุดผอม” ไร้คุณภาพ ด้วยวิธีการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ลดละเลิกสิ่งไม่มีประโยชน์ หันมาบริโภคอาหารคลีนฟู้ดงดปรุงแต่งซับซ้อน ซึ่งผลลัพธ์กลับดีเกินคาด นอกจากหุ่นดีสมใจแล้ว ยังปรับทัศนคติแง่ดีเกี่ยวกับน้ำหนักให้สาว ๆ พึงเอาอย่างว่า “อยากกลัวความอ้วนแต่ควรห่วงสุขภาพดีกว่า”

ทายาทคนเก่งของ นพ.ประจักษ์-วราภรณ์ บุญจิตต์พิมล เจ้าของบริษัทกลุ่มในเครือโรงพยาบาลนวมินทร์ ซึ่งเข้ามาสานต่องานบริการคนไข้ชาวต่างชาติ เล่าว่า “ตอนแรกอยากผอมสุดท้ายพอโตขึ้น พิมพ์ไม่ได้รู้สึกอยากออกกำลังกายเพื่อความผอมอีกต่อไป แต่กลายเป็นความชอบ รู้สึกเอร็ดอร่อยกับรสชาติของปลาแซลมอน ปลาหิมะ กินได้ไม่รู้เบื่อ” โดยหันหลังให้กับเนื้อวัวย่อยยาก เว้นแต่จำพวกซีฟู้ดอุดมคอเลสเตอรอลอย่างหอยชนิดต่าง ๆ ที่ขอลดปริมาณลงหากอายุเพิ่มขึ้นสัก 4-5 ปี

นอกเหนือจากเข้าคอร์ส “ฟังก์ชั่นนอล เทรนนิ่ง” เรียกเหงื่อกับเทรนเนอร์ และวิ่งวันละ 30 นาที ฟิตหัวใจให้แข็งแรงไม่เหนื่อยง่าย หากเวลาลงตัวคุณพิมพ์ยังหันมาทำอาหารด้วยตัวเอง “พิมพ์สนใจอาหารไทย เคยลงคอร์สเรียนสั้น ๆ กับ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ฝึกกับคุณแม่และคุณน้าบ้าง ทั้งหมดนี้เหมือนเป็นสนามซ้อม ได้ลงเป็นตัวจริงในสนามใหญ่เมื่อต้องอยู่คนเดียวขณะไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ แน่นอนว่าคนไกลบ้านย่อมคิดถึงอาหารไทยเป็นธรรมดา ประกอบกับอากาศหนาวขี้เกียจออกนอกที่พัก บางครั้งจึงลงมือทำกินเอง ยอมรับว่าทำไม่เก่งแต่ถนัดจานโปรดทำจากปลาเป็นหลัก เช่น ปลานึ่งหรือปลาย่าง เป็นต้น”

ปลาหิมะเนื้อขาว ๆ จึงได้ตั้งโต๊ะ พร้อมประกอบเป็นเมนู “ปลาหิมะนึ่งมะนาว” รสจัดจ้านถึงใจ เพราะนอกจากเนื้อปลาน้ำหนัก 500 กรัมแล้ว ยังมีส่วนผสมของน้ำยำรสเด็ดสะระตี่ ได้แก่ กระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ, พริก 1 ช้อนโต๊ะ, ผักสดและมะเขือเทศลูกเล็ก ตามชอบ สำหรับการเลือกใช้ปลานั้น คุณพิมพ์บอกต้องคำนึงถึงความสดเป็นหลัก เพื่อที่เวลาประกอบอาหารแล้วจะได้ไม่เหม็นคาว ซึ่งปลาน้ำจืดจะมีกลิ่นคาวมากกว่าปลาน้ำเค็ม จึงควรดับกลิ่นด้วยการล้างน้ำผสมเกลือ

วิธีทำ หลังล้างปลาสะอาดแล้ว นำมานึ่งให้สุกใช้เวลา 8 นาที ระหว่างนั้นไม่ควรเปิดฝาก็จะได้เนื้อปลาสัมผัสนุ่มไม่แข็งกระด้าง เสร็จแล้วนำออกมาจัดใส่จาน รองด้วยผักสดและมะเขือเทศ หยิบถ้วยมาจัดการปรุงน้ำยำต่อทันทีเพื่อไม่ให้ปลาหายร้อน ผสม น้ำปลา, น้ำตาล, น้ำมะนาว, กระเทียมสับและพริก คลุกเคล้าเข้ากันแล้วค่อย ๆ ราดลงบนตัวปลาเป็นอันเสร็จพิธี เมนูนี้จะวางลงเป็นมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ตามสะดวก แต่เทคนิคการกินเพื่อสุขภาพที่ดีไม่ควรอดอาหารแม้แต่มื้อเดียว สำหรับสูตรนี้การชั่งตวงวัตถุดิบไม่มีกฎตายตัว คุณพิมพ์กล่าวเสริมว่า จริง ๆ แล้วใส่ได้ตามความชอบ พิมพ์ชอบกินกระเทียมสดช่วยย่อยอาหารจะใส่มากสักหน่อย บางคนชอบเผ็ด บางคนชอบเปรี้ยว ก็สามารถดัดแปลงได้ตามรสปาก

ทิ้งท้ายด้วยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ สาวรักสวยรักงานคนนี้แนะนำว่า ควรเดินทางสายกลางไม่หย่อนและไม่ตึงเกินไป อาหารมีความสำคัญต่อร่างกายร้อยละ 70-80 จึงต้องใส่ใจเลือกกิน นอกจากนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าออกกำลังกายหักโหม และประคองจิตใจให้ผ่องใส เพราะความเครียดส่งผลกระทบต่อผิวใบหน้าหมองคล้ำได้ หากมีเวลาหาโอกาสเปลี่ยนสถานที่รับอากาศบริสุทธิ์บ้าง เท่านี้ก็จะรูปร่างดีอย่างมีคุณภาพเหมือนกับคุณพิมพ์ที่ป่วยนับครั้งได้.

‘ช้องมาศ’

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/285694/เข้าคอร์สสุขภาพดีกับ+‘ปลาหิมะนึ่งมะนาว’

Read More...

สยามชีสเค้กแบบอบ (วิธีทำ)

สูตรทำขนม

1.อุ่นเตาอบด้วยไฟบน - ล่างไว้ที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ทาพิมพ์ด้วยเนยขาวให้ทั่ว

2.ผสมครองแครงกับเนยให้เข้ากัน นำมากรุลงในพิมพ์ให้แน่น แช่เย็นให้แข็งตัว นำออกมาห่อพิมพ์ด้านนอกด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ ประมาณ 2 - 3 ชั้นเพื่อกันไม่ให้น้ำเข้าพิมพ์

3.ตีครีมชีสกับน้ำตาลด้วยความเร็วปานกลางให้ส่วนผสมเข้ากันจนเนียน ลดความเร็วต่ำ ค่อยๆ เติมนมลงไปทีละน้อย ตามด้วยซาวร์ครีมและไข่ทีละฟองจนหมด ตีพอเข้ากัน ปิดเครื่อง

4.ใส่วานิลลาและแป้งลงไป ใช้พายยางคนส่วนผสมเข้ากัน เทใส่พิมพ์ วางลงในถาดอบ เทน้ำใส่ถาดให้สูงประมาณครึ่งพิมพ์ นำไปอบประมาณ 1 ชั่วโมง

5.พอครบเวลาให้ปิดเตาแล้วพักขนมไว้ในเตาอีก 2 ชั่วโมง แล้วนำออกมาพักไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

6.แกะฟอยล์ออก ใช้มีดแซะเค้กที่ติดขอบพิมพ์ ถอดเค้กออกจากพิมพ์ ตัดชิ้น แต่งหน้าด้วยครองแครงและผักชีก่อนเสิร์ฟ

Tip
- อบเค้กโดยการหล่อน้ำไว้จะช่วยให้เค้กไม่แตกและแห้งเกินไป
- พักเค้กไว้ในเจาอบจะช่วยให้อุณหภูมิที่ตัวเค้กค่อยๆ ลดลง ไม่ทำให้เค้กหดตัวเร็วจนแตกหรือหน้ายุบตัวเหมือนการอบเสร็จแล้วนำออกมาเลย
- พักเค้กไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมง จะทำให้เค้กเซตตัวแน่นขึ้น ไม่เละและตัดเป็นชิ้นง่ายๆ"

credit by : http://www.megazy.com/#BID1-58967

Read More...