สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

แกงส้มปลาตะเพียน (สาน)

ถ้าถามบรรดาคอเพลงสากลรุ่นเก่าๆ คงไม่มีใครไม่รู้จัก สุดา ชื่นบาน นักร้องคุณภาพอีกคนหนึ่งของเมืองไทย ด้วยความสามารถเฉพาะตัวจึงยังอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงมาจนทุกวันนี้ และใช่ว่าคุณเม้า–สุดา จะมีความสามารถในการเป็นนักร้องนักแสดงอาชีพจนเป็นที่ปรากฏเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงของเธอได้ชื่อว่าเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่น่าเอาเป็นเยี่ยง อย่าง ทั้งประหยัด มีระเบียบ และช่างประดิดประดอย

คุณ เม้าบอกเลยว่า ถ้าคุณไม่ได้นามสกุลเดียวกับมหาเศรษฐีทั้งหลาย ก็กรุณาประหยัดกันหน่อย อย่ามีนิสัยกินทิ้งกินขว้างกันนักเลย จะได้ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” สำหรับตัวเธอที่ต้องทำมาหาเลี้ยงตัวเองมาตลอด จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียของ โดยเฉพาะเรื่องกับข้าวกับปลา อย่างเช่น ผัดผักต่างๆที่ทานเหลือจากมื้อหนึ่ง จะเก็บไว้มาทำเป็นไข่ยัดไส้สำหรับมื้อต่อไป รวมถึงมะละกอที่มาทำแกงส้มขึ้นสำรับวันนี้ คุณเม้าซื้อมาเพียงลูกเดียว แต่สามารถทำได้ถึง 3 เมนู คือแกงส้มมะละกอ ผัดไทยมะละกอ และส้มตำ

Pic_343560






กับ ข้าวกับปลาจากฝีมือคุณเม้า จะต้องประดิดประดอยจนเป็นที่เลื่องลือ โดยคุณเม้าบอกว่า เพราะเธอเป็นคนประเภท “ประดิดประดอยแดก” อาหารจึงต้องรูปสวยชวนกินไว้ก่อน อย่างเช่นแกงส้มมะละกอสานเป็นปลาตะเพียน (ยังดีที่ไม่ได้ยัดเนื้อปลาไว้ในตัวปลาที่สานอีกด้วย) และแกงจืดดอกอัญชันหรือดอกโสนยัดไส้หมูสับ เป็นต้น ซึ่งใครที่ได้มาเห็นจะหาว่าเธอเสียสติก็ตาม แต่คุณเม้าบอกว่า ทำแล้วได้อารมณ์ แถมยังได้สมาธิและมีสติที่ตั้งมั่นอีกด้วย คุณเม้ายังเป็นผู้หญิงที่มีระเบียบในชีวิตมาก จะจัดวางข้าวของอย่างเป็นระเบียบทั้งของกินของใช้ ซึ่งเธอสารภาพว่าได้รับมรดกมาจากแม่ ซึ่งเป็นคนที่จัดระเบียบชีวิตเป็นอย่างดี ทำให้ชีวิตในวัย 68 ปีของเธอขณะนี้ ที่ยังต้องทำเองหมดทุกอย่าง เวลาจะหาอะไรก็ง่าย ทำให้ชีวิตไม่วุ่นวาย และเธอจะมีการเตรียมการชีวิตไว้ล่วงหน้าตลอดด้วย อย่างเรื่องอาหารการกิน ทำไว้ครั้งเดียว แล้วใช้วิธีเก็บถนอมรักษาไว้ในตู้เย็น เมื่อจะทานในวันต่อๆไปก็นำมาอุ่นรับประทานได้เลยโดยไม่ยุ่งยาก ซึ่งคุณเม้าบอกว่า เป็นวิธีเอาตัวรอดของคน มาลองดูวิธีปรุงแกงส้มสูตรคุณเม้าบ้าง


เครื่อง ปรุงพริกแกง : พริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดขนาดกลางประมาณ 7เม็ด/กระเทียม 6–7 กลีบ/หอมแดงประมาณ 3–4 หัว/ กะปินิดหน่อย...วิธีทำ เอาพริกแห้งแช่น้ำให้นิ่มก่อน แล้วบีบน้ำออกให้หมด ก่อนนำไปโขลกกับเกลือเล็กน้อยจนพริกละเอียด จากนั้นค่อยใส่กระเทียม หอมแดง และกะปิ ลงไปโขลกด้วยจนละเอียดเข้ากัน พริกแกงส้มนี้สามารถโขลกเก็บไว้ได้ โดยแช่ตู้เย็นเขียนฉลากติดไว้ว่าเป็นน้ำพริกอะไร ทำไว้เมื่อไร


เครื่อง ปรุงแกงส้มปลาตะเพียน (สาน) : พริกแกง/มะละกอไสเป็นแผ่นบางๆแล้วมาสานเป็นรูปปลา พอสานเสร็จก็แช่น้ำไว้มันจะพองขึ้นมา/ กุ้งสด/น้ำมะขามเปียก/น้ำตาลปี๊บ/น้ำปลา...วิธีทำ 1) ตั้งน้ำให้เดือด ใส่พริกแกงลงไปละลายในน้ำ 2) ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ชิมให้ได้รสตามชอบ สำหรับน้ำแกงส้มนี้สามารถทำเก็บไว้ได้ โดยแช่แข็งไว้ เมื่อจะทานค่อยนำออกมาทีละแพ็ก แล้วมาใส่เครื่องปรุงอย่างกุ้งสดทีหลัง ซึ่งจะหั่นชิ้นเล็กๆไว้ ไม่ใส่เป็นตัวๆจะไปฆ่าปลาตะเพียนให้ไม่เด่น และแกงส้มสูตรนี้จะเป็นแบบน้ำใส จึงไม่ใส่กุ้งโขลกไปกับน้ำพริก ส่วนมะละกอสานเป็นปลาตะเพียน ก็ใส่ไปต้มกับน้ำแกง พอสุกก็ช้อนขึ้น เก็บเข้าตู้เย็นแช่แข็งไว้ได้ โดยราดน้ำแกงส้มลงไปให้มะละกอสานเป็นปลาชุ่มน้ำบ้าง จำไว้อย่างของสดถ้าแช่แข็งจะไม่ค่อยสวย จะต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยแช่แข็ง แต่อย่าต้มจนเปื่อย แค่พอสุกเท่านั้น

Credit by.. http://www.thairath.co.th/content/life/343560

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


'สปาเกตตี vs. น้ำพริกมะขาม' คู่ต่างอย่างลงตัว

น้ำพริกมะขามกับสปาเกตตี ความต่างของสัญชาติวัตถุดิบอาหารที่สามารถนำมาเข้าคู่กันได้อย่างลงตัว แถมยังเป็นเมนูห่วงใยสุขภาพ เหมาะสำหรับคนรับประทานทุกเพศทุกวัย

 ที่ จริงแล้วน้ำพริกมะขามนำมาพัฒนาเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น นำมาผัดกับข้าว  สเปรดสำหรับแซนด์วิช หรือซอสสำหรับราดบนปลาทอด แต่วันนี้ขอลองนำมาเป็นซอส เพสโต้ผัดกับสปาเกตตี้ ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นเล็กยาว ซอสจะเคลือบอยู่บนเส้นได้ทั่วถึง ทำให้เวลารับประทานได้รสชาติจัดจ้านในทุกคำ เติมความหรูหราทันสมัยให้จานนี้ด้วยสเต๊กกุ้งตัวโตราดด้วยซอสคาราเมล เพิ่มลูกเล่นอีกนิดด้วยไข่กุ้งรสเค็มนิดๆ ได้เนื้อสัมผัสกรุบกรุบเวลารับประทาน เพียงเท่านี้ก็อร่อยครบรสทั้งยังดีต่อสุขภาพด้วยสรรพคุณทางยาจากมะขามอ่อนใน น้ำพริก ซึ่งมะขามมีสรรพคุณทางยาช่วยระบาย แก้ท้องผูก ช่วยขับลม และแก้ไอ ขับเสมหะได้อีกด้วย


Pic_344506



สปาเกตตีน้ำพริกมะขามกับสเต๊กกุ้งคาราเมล

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)


เส้นสปาเกตตีลวกสุก        200    กรัม
กุ้งแม่น้ำหรือกุ้งทะเลตัวใหญ่        4    ตัว



ไข่กุ้ง                1    ช้อนโต๊ะ
ผักสลัดรวม            1    ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับย่างกุ้ง
ส่วนผสมน้ำพริกมะขาม
กุ้งขาวขนาดกลางปอกเปลือกสับหยาบ    6    ตัว
มะขามอ่อนล้างสะอาด ปอกเปลือกและซอยหยาบ    ½    ถ้วย
พริกจินดา            4    เม็ด
หอมเล็ก                3    หัว
น้ำตาลปี๊บ            2    ช้อนโต๊ะ
เกลือ                ½    ช้อนชา
กะปิ                1    ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                1    ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด        2    ช้อนโต๊ะ



ส่วนผสมซอสคาราเมล
น้ำตาลปี๊บ            ½    ถ้วย
เกลือป่น                ½    ช้อนชา
น้ำเปล่า                2    ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1.  ทำน้ำพริกมะขามโดยโขลกมะขามอ่อน  พริกจินดา หอมเล็ก และเกลือจนละเอียดปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมดผสมให้ เข้ากันชิมให้ได้รสเปรี้ยวนำ เค็มและหวานตาม  จากนั้นตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันพืช เติมกุ้งสับ ตามด้วยน้ำพริกที่โขลกไว้ ผัดจนน้ำพริกสุกหอม พักไว้



2.  ทำซอสคาราเมลโดยใส่ส่วนผสมทั้งหมดตั้งไฟ เคี่ยวจนซอสข้นขึ้น พักไว้ จากนั้นนำกุ้งมาผ่าครึ่ง ย่างบนกระทะด้วยน้ำมัน เล็กน้อยจนสุกได้ที่ 
3. ตั้งไฟกลาง ใส่น้ำพริกมะขามลงในกระทะพอมีกลิ่นหอม เติมเส้นสปาเกตตีลวกสุกผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ โรยไข่กุ้งลงไป เคล้าให้เข้ากัน
4. จัดเสิร์ฟเส้นสปาเกตตีที่ผัดไว้ วางกุ้งย่างราดด้วยซอสคาราเมล เคียงด้วยผักสลัดรวมพร้อมเสิร์ฟ

Tip


สามารถใช้เส้นพาสต้าชนิดอื่นแทนได้ เช่น เฟตตูชินี ลิงกวินี และฟูซิลี เป็นต้น



ภาพ/ข้อมูล : นิตยสาร Health & Cuisine


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ดูด เจาะ ไข่

ดูด เจาะ ไข่
Innovation Ice Cream


เมืองร้อนอย่างบ้านเรา อาหารที่ถูกปากคนไทยคงจะหนีไม่พ้นไอศครีม ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด อากาศที่แสนอบอ้าวเช่นนี้ ก็ไม่เคยเปลี่ยนให้เย็นขึ้น ผลิตภัณฑ์ไอศครีมจึงเป็นธุรกิจของหวานที่ตอบโจทย์คนไทยได้ดีที่สุด
คุณมรุต ชโลธร เจ้าของกิจการ บริษัท อินโนเวชั่น ฟู้ด แพคเกจจิ้ง จำกัด พูดถึงนวัตกรรมไอศครีมที่เกิดขึ้นใหม่ในเมืองไทยอย่างไอศกรีมแบรนด์ i-maru ที่เขาได้ทำหน้าที่ดูแลทุกกระบวนการผลิต รวมถึงวางแผนการทำมาร์เก็ตติ้ง จึงทำให้ลูกค้าจากที่เคยเป็นผู้บริโภคให้ความสนใจจนกลายเป็น ‘franchisee' ถึง 50 ราย ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
"ก่อนที่เราจะผลิตโปรดักส์ใหม่ๆ แต่ละตัวออกไป เราได้ทำการรีเสิร์ชเบสจากสาขาจตุจักร เพื่อเป็นจุดทดลองเพราะที่ตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นสถานที่ที่มีคนหลากหลายไล ฟ์สไตล์ ทำให้เราได้ข้อมูลอย่างทั่วถึง โดยตัวรสชาติผมค่อนข้างมั่นใจ ถ้าไม่อย่างนั้นยอดขายคงไม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องถ้าเราจะพึ่งแค่ความแปลกใหม่ เพียงอย่างเดียว"
i-maru สามารถดึงดูดความสนใจโดยใช้ ‘กับดักทางความคิด' ให้เกิดความสงสัยด้วยลูกเล่นจากวิธีการทานที่แปลกใหม่ ซึ่งแตกต่างจากการทานไอศครีมแบบเดิม ที่จะมีเพียงแค่ โคน, ถ้วย, ไม้, ให้กลับกลายเป็นแฟชั่นและความสนุก ด้วยรูปลักษณ์ชวนสงสัยในแบบ ‘ไข่แช่แข็ง' ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว คนยุคเก่าจะรู้จัก ‘ไอศครีมลูกโป่ง' โดยเอาน้ำหวานบรรจุ แต่ด้วยตัวลูกโป่งไม่ได้ทำมาเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์อาหาร จึงทำให้ค่อยๆ จางหายไป ส่วนยุคต่อมาคือยุค ‘ไอศกรีมโลนลี่ป๊อป' ใช้วิธีการทานด้วยการหักแล้วดูด แต่เนื่องจากพลาสติกมีสารปนเปื้อนก็ทำให้หมดไป ในที่สุดนวัตกรรมการทานไอศครีมจึงเหลือเพียงไม่กี่รูปแบบเท่านั้น
"ความตั้งใจของผมมีพื้นฐานมาจาก 4 ปีที่แล้ว สินค้าเกษตรล้นตลาด จึงตั้งใจพัฒนาทุเรียนให้อยู่ในรูปแบบแช่แข็ง ผมต้องการทำไอศครีมผลไม้ 100% ที่เป็นรูปไข่ เราก็เลือกบรรจุภัณฑ์ว่ามันสามารถเป็นแบบไหนได้บ้าง หลังจากทดลองมากว่า 2 ปี สรุปแล้วยางคือคำตอบที่ดีที่สุด มีคุณสมบัติการยืดหยุ่น สามารถสร้างลูกเล่นได้หลากหลาย และเราใช้ยางชนิดเดียวกับจุกขวดนมเด็กทารก สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ อาจจะช้ากว่ากระดาษแต่ก็เร็วกว่าพลาสติก"
ไอศครีม i-maru มี 2 โปรดักส์ให้เลือก ชนิดแรกคือ mi-lu-ku จุด เด่นใช้วัตถุดิบนมฮอกไกโด จากประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความกลมกล่อมของนมวัว และวิธีการทานที่แตกต่างด้วยการดูด ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ว่า ‘นมพุ่งปรี๊ด' ในรูปแบบดูดจากเต้านมวัว ชนิดที่สองคือ tamago เป็นไอศกรีมผลไม้ 100% มีทั้งหมด 2 รสชาติ ทุเรียนหมอนทอง และ มะม่วงน้ำดอกไม้ วิธีการรับประทานคือการใช้ไม้เจาะ ผลิตภัณฑ์ที่ห่อหุ้มก็จะหลุดออกเหมือน ‘ไข่แตกโพละ'
"นอกจากโปรดักส์ที่มีอยู่ในตอนนี้แล้ว อนาคตผมยังอยากเพิ่มความแปลกใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งด้านรสชาติใหม่และรสชาติเก่า กลยุทธ์แรกเรามีการปรับหมุนเวียนรสชาติ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากจำเจ ส่วนกลยุทธ์ที่ทำซ้อนเข้าไปคือ ในแต่ละจังหวัดเอกลักษณ์ที่ชัดเจนในแต่ละที่ เราจะทำรสชาติเพื่อรองรับสถานที่แห่งนั้น เช่น หัวหิน เราจะทำรสชาติ ‘เบียร์สับปะรด' ซึ่งจะมีเฉพาะหัวหิน หรืออย่างที่ mansion seven เป็นที่แฮงเอาต์ของคนกรุงเทพฯในระดับหนึ่ง เราก็จะมีรสชาติ ‘วอสก้ามะนาว' เป็นกลยุทธ์เรื่องรสชาติที่สอดคล้องความเป็นยูนีคของแต่ละสถานที่ไว้ด้วย"
ด้วยสูตรที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเองจากวิธีการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าคุณมรุตจะจบวิศวะ แต่เขาถือว่าคือข้อดี จากที่ผู้ใหญ่เคยบอกเสมอควรทำในสิ่งที่ตนเองรู้ แต่ถ้าเราหัดคิดนอกกรอบและคิดอยู่เสมอว่าถ้าเราไม่รู้ เราก็จะรู้มากขึ้น แต่ถ้าเรารู้แล้วไม่ขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม สินค้าทั่วโลกก็จะไม่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน

"การที่ผมไม่ได้อยู่ในวงการ ไอศกรีม ผมจึงไม่ได้ถูกตีกรอบว่าส่วนผสมทั้งหมดต้องใช้กี่เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เราสามารถคิดได้อย่าง 360 องศา และคิดนอกกรอบได้เสมอ"




BE Smart
เรื่อง : รัตติกาล พูลสวัสดิ์ / ภาพ : สุตสาย สังหาร



credit by : http://women.sanook.com/936019/


Read More...


ลูกชิ้น อีกหนึ่งช่องทางสำหรับคนสู้ชีวิต

ลูกชิ้นหมู
ลูกชิ้น หมู ไก่ เนื้อ ปัจจุบันมีขายอยู่เป็นจำนวนมากในทุกๆพื้นที่ก็ว่าได้ แต่จะหาลูกชิ้นอร่อยๆโดยปราศจากการผสมแป้งในอัตราเยอะๆนั้นหายาก เพราะพ่อค้า แม่ขาย มักจะหวังผลกำไรอยู่ วันนี้มีสูตรทำลูกชิ้นหมูมาฝาก ใครจะดัดแปลงเป็นลูกชิ้นไก่ หรือลูกชิ้นเนื้อก็ได้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ส่วนผสม
1.เนื้อหมู1กก.
2. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือ 2 ช้อนชา
4. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
6. แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ
7. ผงฟู 1 ช้อนชา
8. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
9. พริกไทยบดหยาบๆ 1-2 ช้อนชา

วิธีทำ
นำเนื้อหมูสดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อที่จะสามารถนำใส่เครื่องบดได้ง่ายๆ จากนั้นก็นำมาบดให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น(ถ้าบดยากก็เติมน้ำปลาลงไป2ช้อน โต้ะ) ใส่แป้งข้าวโพด และผงฟู บดปั่นให้เข้ากันอีกรอบ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย พริกไทย น้ำมันพืช เกลือ บดปั่นให้เข้ากันหลายๆรอบเพื่อเครื่องปรุงจะได้เข้าไปในเนื้อลูกชิ้น เพื่อเวลาปั้นลูกชิ้นจะเด้ง หลังจากบดได้ที่แล้วก็นำใส่ในชามแล้วแช่ช่องฟรีชให้เนื้อที่บดได้รับความ เย็นจนทั่วประมาณ1ชั่วโมงครึ่ง
หลังจากนั้นก็นำหม้อมาต้มน้ำให้เดือด แล้วหรี่ไฟอ่อนๆ นำเนื้อที่แช่ไว้ในช่องฟรีชออกมา ใช้ช้อนตักเนื้อใส่มือแล้วบีบให้เนื้อบดออกมาระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วโป้งของ เรา ใส่ลงในหม้อต้มน้ำร้อนที่เตรียมไว้ จากนั้นเตรียมน้ำแข็งแช่น้ำให้เย็นใส่ภาชนะไว้1ถ้วย เมื่อลูกชิ้นลอยขึ้นมาจากหม้อต้มน้ำแสดงว่าลูกชิ้นนั้นสุกแล้ว เราตักไปแช่ในน้ำเย็นทันทีเพื่อให้ลูกชิ้นกรอบและเด้ง เป็นอันเสร็จเรานำลูกชิ้นใส่ถุงเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อนำไปใช้ได้ในการประกอบ อาหารได้เลย



ทำลูกชิ้นหมู ไม่ยากอย่างที่คิด ไว้รับประทานเอง หรือ เป็นช่องทางในการสร้างรายได้


Credit by..
แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


‘เปิดร้านกาแฟ’ ต้องอย่างไร?..ถึง‘ยั่งยืน’

 ช่องทางทำกิน” วันนี้ยังคงเก็บตกกิจกรรมครั้งที่ 6 ตามโครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” ฟรี!! ซึ่งคณะผู้บริหารเดลินิวส์จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนทางด้านอาชีพ โดยกิจกรรมครั้งที่ 6 นี้ทางเดลินิวส์จัดฝึกอบรมการทำ “ธุรกิจร้านกาแฟ” โดยร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด อีกครั้ง...
                             
การฝึกอบรมครั้งนี้ ดร.พิสิฐ เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์เดลินิวส์, คุณนนท์ รุจิรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดหนังสือพิมพ์เดลินิวส์, คุณบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ซีพี ออลล์, คุณนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี รีเทลลิงค์ และทีมงานของทุกฝ่าย คอยให้การต้อนรับดูแลผู้เข้าอบรม 50 คนอย่างใกล้ชิด โดยคุณนริศซึ่งสันทัดกรณีธุรกิจกาแฟให้เกียรติเป็นวิทยากรให้ความรู้ผู้เข้า อบรมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ

“ทำร้านกาแฟอย่างไรให้ยั่งยืน?” นี่เป็นประเด็นสำคัญ โดยคุณนริศระบุว่า ธุรกิจกาแฟขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน ด้วยตลาดที่ใหญ่ก็ทำให้คนหันมาสนใจธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยากเปิดร้านกาแฟเพราะมองว่ากำไรดี, คิดว่ามีอิสระ เปิด-ปิดเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจ, อยากเป็นเจ้าของกิจการ, มีสถานที่อยู่แล้ว หรือเปิดเพราะอยากมีที่รับรองเพื่อนก็ยังมี

“อยากให้ข้อมูลว่าจากการสำรวจพบว่าร้านกาแฟท้องถิ่นมีอัตรารอด 20% มักพบปัญหาการลาออกบ่อยของพนักงาน หลายคนเริ่มต้นโดยขาดความรู้ ไม่มีระบบ ทำให้ตกอยู่ในสภาพรอดก็ไม่ได้-ตายก็ลำบาก” นี่เป็นคำเตือนจากกูรูผู้เชี่ยวชาญธุรกิจร้านกาแฟ ทว่า...การจะสร้างตัวจากธุรกิจร้านกาแฟนั้นก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

การทำธุรกิจร้านกาแฟสดนั้น หลัก ๆ ที่จะต้องคำนึงถึง ประกอบด้วย... การตลาด ผู้เปิดร้านกาแฟต้องวิเคราะห์ว่า ตลาดอยู่ไหน ใครคือลูกค้า มีขนาดเท่าไร นอกจากนี้ต้องทราบ พฤติกรรมลูกค้า อุปนิสัย ความชื่นชอบ วิถีชีวิต เพื่อจะทราบว่าสินค้าและบริการแบบใดตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย และต้องพิจารณา ราคาที่คุ้มค่าและความเหมาะสม ด้วยว่าสำหรับลูกค้าแล้ว ควรอยู่ที่อัตราเท่าไร และรู้ว่า ทำอย่างไรลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่ ช่องทางที่สะดวกในการเข้าถึงสินค้าและบริการ ก็ต้องคิดว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องใช้กลยุทธ์และยุทธวิธีอะไรบ้าง??

“การเลือกทำเลก็สำคัญมาก ขณะที่กลยุทธ์เรื่องการโฆษณาและส่งเสริมการขาย ก็ควรใช้ให้พอดี เหมาะสม ไม่พร่ำเพรื่อ ทำเท่าที่จำเป็น และต้องมีเหตุผลสนับสนุนทุกครั้งที่จะทำ” เป็นสิ่งที่วิทยากรเน้นย้ำ

สำหรับเกณฑ์การพิจารณาเลือกทำเล มีดังนี้... ทำเลที่เลือกต้องสอดคล้องกับแนวคิดธุรกิจ, เลือกพื้นที่ค้าขายดี, เลือกจุดที่ต้องการ, รวบรวมข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และตัดสินใจเลือกทำเลร้านให้เหมาะกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน

อาจฟังดูยาก แต่ย่อยให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ... ต้องเป็นทำเลที่คนเห็นร้านได้ง่าย, ภาพลักษณ์ร้านดึงดูดน่าสนใจ, เป็นย่านที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหนาแน่นเพียงพอ, ที่ตั้งร้านอยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางกิจกรรมต่าง ๆ, ลักษณะกายภาพร้านและทำเลต้องส่งเสริมกันทางบวก เช่น มีที่จอดรถ สะดวกในการเข้าร้าน เป็นต้น





ในส่วนของตัวสินค้า คือ “กาแฟ” การสร้างสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มีข้อพิจารณาคือ... รสชาติและความสม่ำเสมอของรสชาติ มีการรับประกันคุณภาพ เช่น ความสดของเมล็ดกาแฟและวัตถุดิบอื่น ๆ โดยร้านที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีสินค้าขายดี และรวมถึงมีความหลากหลายด้วย
เรื่อง การบริการ ที่ก็สำคัญ มีข้อพิจารณาคือ... บริการที่ลูกค้าคาดหวัง เช่น วิธีรับออร์เดอร์, เวลาในการเตรียมสินค้า, เวลารอคอยสินค้า, ลักษณะการเสิร์ฟ, น้ำดื่มและน้ำแข็งสะอาด ตลอดจนองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น เวลาทำการ, เมนูแนะนำ, ป้ายแสดงราคา, ห้องน้ำ, บริการเสริมต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ไวไฟอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ขณะที่ การจัดร้าน บรรยากาศภายในและภายนอกร้าน ก็เป็นสิ่งที่ผู้ทำธุรกิจร้านกาแฟจะต้องให้ความสำคัญเช่นกัน

วัสดุอุปกรณ์ ประกอบการขายสำหรับร้านกาแฟ โดยทั่วไปก็จะประกอบด้วย เครื่องชงกาแฟ, เครื่องบด, อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ, ตู้แช่, เมล็ดกาแฟ, แก้ว, ช้อน, ถุง, น้ำตาล, ไซรัป, ผงช็อกโกแลต, นม, หัวเชื้อ ฯลฯ และลงลึกอีกนิดกับอุปกรณ์ร้านกาแฟ ที่จำเป็นก็เช่น แก้วชอท, แก้วตวง 8 ออนซ์, ช้อนตักฟองนม, ช้อนคนส่วนผสม, เทอร์โมมิเตอร์, นาฬิกาจับเวลา, แก้ว 16 ออนซ์, แก้วร้อนคาปูชิโน, กระบะเคาะกาก, เหยือกตีฟองนม, แปรงปัดผงกาแฟขนาดเล็กและขนาดใหญ่, ขวดโรยผงโกโก้, แทมเปอร์ส, ขวดบีบซอส, หลอดกาแฟ

ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจกาแฟใหม่ ๆ หากเป็นร้านขนาดที่คาดว่าจะมีอัตราการชงกาแฟต่อวัน 50-150 แก้ว อาจใช้เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบดขนาด 1 หัวชงก็ได้ แต่ถ้าหากเป็นร้านขนาดใหญ่ที่มีอัตราการชงกาแฟต่อวันประมาณ 250-500 แก้ว ควรจะเลือกใช้เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบดขนาด 2 หัวชง จึงจะมีความเหมาะสม ขณะที่ในส่วนของสูตรกาแฟ ณ ที่นี้ก็มีมาบอกกันบางส่วน แต่กับสูตรกาแฟ-การชงกาแฟนั้น ควรต้องหาแหล่งเรียนรู้ ต้องฝึกฝน จึงจะชงกาแฟได้รสชาติดี

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจร้านกาแฟนั้น ยังสามารถสร้างรายได้จากสินค้าเสริมต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น ชา นม น้ำผลไม้ เบเกอรี่ สแนค ของหวาน บัตรเติมเงินมือถือ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดในการเปิดร้านคือ ใบอนุญาต ข้อกำหนดข้อปฏิบัติของภาครัฐและชุมชนที่ตั้งร้าน เช่น การกำจัดขยะ และของเสียต่าง ๆ เป็นต้น

…ก็เป็นโดยสรุป โดยสังเขป เกี่ยวกับการทำ “ธุรกิจร้านกาแฟ” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” เก็บตกจากกิจกรรม “Coffee Rich รวยรินกลิ่นกาแฟ รับทรัพย์แน่ แค่อบรม” กิจกรรมครั้งที่ 6 ของโครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” มานำเสนอ

ผู้ที่สนใจธุรกิจนี้ก็ลองพิจารณากันดู.
ทีมช่องทางทำกิน : รายงาน
สันติ มฤธนนท์-ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

...........................................................................................
ส่วนผสมกาแฟ "6 สูตร"
กาแฟ “แมคเคียโต้เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์ กาแฟ “ลาเต้เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์, นมสดเย็นสำหรับราด 1 ออนซ์
กาแฟ “ลาเต้ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์, นมสดร้อน 4 ออนซ์ และฟองนมสด
กาแฟ “คาปูชิโน่เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์ และฟองนม กับผงโกโก้
กาแฟ “คาปูชิโน่ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์, นมสดร้อน 2 ออนซ์, ฟองนมสดร้อน 2 ออนซ์
กาแฟ “เอสเปรสโซ่ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์.



แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


เต้าหู้..เมนูที่ไม่ควรพลาด!

เมื่อพูดถึงเต้าหู้ อาหารที่แสนจะคุ้นเคย เพราะราคาไม่แพงและหาทานง่าย แล้วคุณผู้อ่านทราบกันไหมค่ะว่า เต้าหู้ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าและประโยชน์คับตัวเลยล่ะค่ะ
สำหรับเต้าหู้นั้น ทำมาจากถั่วเหลือง การทานเต้าหู้จะทำให้ได้โปรตีนที่มากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึงสองเท่าใน ปริมาณที่เท่ากัน แถมมีสารเลซิติน ซึ่งมีผลในการลดไขมัน ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ ป้องกันเกล็ดเลือดแข็งตัว และฮอร์โมนจากพืช คือ ไฟโตเอสโทรเจน ที่มีการวิจัยพบว่า ช่วยป้องกันมะเร็งและดีต่อผู้หญิงวัยทอ ช่วยชะลอภาวะหมดประจำเดือน และลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

หากดูข้อมูลด้านโภชนาการจะพบว่า เต้าหู้ประกอบด้วยโปรตีนร้อยละ 7.4 ไขมันร้อยละ 3.1 น้ำตาลร้อยละ 2.7 โดยเต้าหู้ทุก 100 กรัม จะมีแคลเซียม 277 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 57 มิลลิกรัม เหล็ก 2.1 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีวิตามิน บี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 และเลซิติน อยู่เป็นจำนวนมาก

แต่ที่น่าสนใจคือ โปรตีนในเต้าหู้ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น 8 ชนิด ซึ่งร่ายกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ต้องได้รับจากอาหารภายนอก และเนื่องจากสารอาหารต่างๆ ในเต้าหู้ ร่างกายสามารถย่อยสลายได้สูงถึงร้อยละ 92-96 เต้าหู้จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันและระบบการย่อยไม่ดี รวมทั้งเด็กเล็กที่ฟันยังงอกไม่สมบูรณ์

นอกจากนี้ เต้าหู้ ที่มีน้ำตาลต่ำ จึงถือเป็นอาหารที่ดีอย่าง หนึ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ส่วนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแข็งตัว และโรคโลหิตจางจากสาเหตุขาดธาตุเหล็กก็จะได้ประโยชน์อย่างมาก เพราะ เต้าหู้ มีแร่ธาตุต่างๆ มากมาย อาทิ เหล็ก แมกนีเซียม โมลิบเดนนัม แมงกานีส ทองแดง สังกะสี และธาตุซิลีเนียม เป็นต้น โดยเฉพาะธาตุเหล็ก พบว่าในถั่วเหลือง 500 กรัม จะมีสูงถึง 30 มิลลิกรัม และร่างกายสามารถดูดรับได้ง่ายด้วย จึงเป็นผลดีในการใช้บำบัดรักษาโรคโลหิตจางชนิดขาดธาตุเหล็ก อย่างไรก็ตาม แร่ธาตุต่างๆ เหล่านี้ยังช่วยเร่งสารเอนไซม์ การขับหลั่งฮอร์โมนในระบบร่างกายให้ทำงานอย่างสมดุล รวมทั้งยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันกลับสู่ภาวะปกติได้
 


โดยมีรายงานการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีปัญหาโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กจะเจ็บป่วยบ่อย เป็นหวัดได้ง่าย เมื่อให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเสริม นอกจากระดับสภาวะเหล็กในเลือดจะดีขึ้นแล้ว ยังพบว่า การทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดเซลล์ที (T-lymphocyteหรือ T-cell) มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ได้ทราบคุณประโยชน์มากมายของเต้าหู้แล้ว เชื่อว่าผู้อ่านคงอยากทำเมนูอาหารที่มีเต้าหู้เป็นส่วนผสม ดังนั้น ต้องรู้วิธีการเลือกซื้อ สำหรับ แบบที่ทำขายทั่วไปในตลาดสด เช่น เต้าหู้อ่อน เต้าหู้แข็ง เต้าหู้เหลือง ที่เป็นแผ่นห่อด้วยใบตองกับที่บรรจุภาชนะอย่างดี ควรเลือกซื้อที่ทำมาใหม่ๆ สีขาวนวลเป็นปกติ มีกลิ่นหอม ไม่มีเมือก ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว และภาชนะที่บรรจุต้องสะอาด ส่วนเต้าหู้แบบบรรจุภาชนะที่มักขายทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต ควรดูวันที่ผลิตและวันหมดอายุ มีสีสันรูปร่างเป็นปกติ

เต้าหู้เป็นอาหารที่บูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเต้าหู้นั้นไม่ใส่สารกันบูด จะสังเกตเห็นว่า บางครั้งที่เราซื้อเต้าหู้มาเก็บไว้ในตู้เย็นเพียงแค่วันสองวัน เต้าหู้ก็จะเริ่มเป็นเมือก มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ยกเว้นเต้าหู้หลอดที่บรรจุในถุงพลาสติกสุญญากาศอย่างมิดชิด จะเก็บไว้ได้หลายวันมากกว่า
เคล็ดลับในการเก็บเต้าหู้ให้ได้นานยิ่งขึ้น มีกูรูด้านอาหารแนะนำให้ใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้วใส่ชาม นำเต้าหู้ลงแช่ โดยนำจะต้องท่วมเต้าหู้ด้วย จากนั้นเอาเข้าตู้เย็น จะยืดอายุการเก็บได้นาน 7-15 วัน แล้วแต่ชนิดของเต้าหู้ ถ้าเป็นเต้าหู้อ่อน จะเก็บได้ไม่นานเท่าเต้าหู้แข็ง ในกรณีเต้าหู้หลอด ให้เก็บในตู้เย็นช่องแช่เย็นธรรมดา ก็เก็บได้นานหลายวัน อย่านำไปแช่ช่องแข็ง เพราะลักษณะของเนื้อเต้าหู้จะเปลี่ยนไปไม่คงรูปเหมือนเดิม ส่วนเต้าหู้ทอด แม้จะเก็บในตู้เย็น หากไม่ใช้ช่องแช่แข็ง ไม่นานก็จะขึ้นรา ดังนั้น การทำอาหารจากเต้าหู้ จึงไม่ควรซื้อเต้าหู้มาในปริมาณมาก เพราะกลิ่นรสของเต้าหู้จะเปลี่ยนไปเมื่อเก็บไว้เป็นเวลาหลายวัน ได้ทราบสาระดีๆ จากอาหารเพื่อสุขภาพอย่างเต้าหู้กันเช่นนี้ อยากรับประทานเต้าหู้กันเลยใช่ไหมค่ะ.

"PrincessFangy"
twitter.com/PrincessFangy

Credit by.. http://www.dailynews.co.th/article/822/201721
แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


แคบหมูงานพลิกชีวิต “หน่อย”



ถ้าพูดถึงคำพังเพยที่ว่า ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นกันไป คงจะใช้ได้ดีกับ อารีวัฒน์ กล่อมบาง หรือ “หน่อย” อดีตสาวโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ช่วงชีวิตที่ผ่านมาจากเดิมที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่วันนี้โชคชะตาได้สอนให้รู้ว่าการมีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการตัวเองนั้นยิ่ง ใหญ่เพียงใด เพราะถ้าวันนั้นเธอไม่เลือกเดินออกอาชีพสาวโรงงาน วันนี้ก็คงไม่ได้มาเป็นนายของตัวเอง

หน่อย เล่าว่าก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นพนักงานประจำโรงงานผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แต่เกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554 ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และได้ย้ายพนักงานทั้งหมดไปทำงานประจำที่สาขาจังหวัดชลบุรี

ช่วงเวลานั้นเองทำให้เธอต้องตัดสินใจเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับครอบครัว ที่สุดแล้วคำตอบอยู่ที่ครอบครัวต้องมาก่อน จึงได้ตัด สินใจลาออกพร้อมรับเงินค่าชดเชยจากบริษัท หลังจากที่ต้องกลายเป็นคนว่างงานไม่มีรายได้ ได้กลายเป็นแรงผลักดันให้เธอมองหาอาชีพอิสระทำแคบหมูสูตรเฉพาะตัว เนื่องจากแถวบ้านย่านอำเภอคลองหลวง มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือเยอะ และสิ่งที่จะขายควบคู่กับก๋วยเตี๋ยวเรือ คือ แคบหมู

“โชคดีที่หน่อยมีเพื่อนเป็นสาวเหนือ เลยขอให้ช่วยสอนวิธีการทำแคบหมูให้ ประกอบกับได้รับความช่วยเหลือจากคุณเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ แรงงานจังหวัดปทุมธานี นำโครงการดี ๆ วิธีการทำแคบหมูไร้มันเข้ามาสอนถึงพื้นที่ ทำให้มีการรวบรวมกลุ่มชาวบ้าน ประมาณ 20 คน เพื่อฝึกอบรมการทำแคบหมู โดยสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการทำเป็นแคบหมูสมุน ไพรเพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่าง ดีใจที่วันนี้ญาติพี่น้องในหมู่บ้าน รวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มแคบหมูไร้มันสมุนไพร สร้างรายได้จุนเจือครอบครัวอย่างมั่นคงค่ะ”

ก่อนจบท้ายนี้ “หน่อย” ยังได้แนะนำวิธีการทำแคบหมูสมุนไพร เพื่อให้หลายท่านที่สนใจได้ลองทำทานเองคร่าว ๆ ประมาณนี้ เริ่มจากการเตรียมวัสดุ ได้แก่ หนังสันล้วน รสดี เกลือ ซีอิ๊วดำ ใบมะกรูด

จากนั้นเป็นขั้นตอนการทำแคบหมู ลำดับแรกให้นำหนังหมู (สันล้วน) ล้างทำความสะอาด โดยแล่ส่วนที่เป็นไขมันออกให้หมด ด้านหลังของหนังต้องขูดขนหมูออกให้เกลี้ยง หลังจากนั้น นำมาหมักกับเครื่องปรุงตามอัตราส่วน หมู 22 กิโลกรัม เกลือ 4 ถุง รสดี 15 ช้อนแกงเคล้าให้ทั่วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นนำหนังหมูไปตากแดด 5-6 ชั่วโมง แล้วนำมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสร็จแล้วนำไปทอดรอบแรก เพื่อให้หนังหมูสุกพอประมาณ ต่อจากนั้นจะทอดรอบสองอีกครั้งเมื่อมีใบสั่งซื้อเข้ามา เพื่อให้แคบหมูคงความกรอบมากขึ้น โดยใส่ใบมะกรูดเพิ่มความหอม ทั้งนี้การทอดแคบหมูต้องพยายามใช้ตะหลิวกดหนังหมู เพื่อให้น้ำมันเข้าถึง หนังหมูจะพองสวยงาม กรอบอร่อย แล้วจึงจัดแพ็กใส่ถุงพร้อมขายได้ทันที

ท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ ตามที่อยู่นี้ หมู่ 8 บ้านคลองหก ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี หรือสำนักงานแรงงานจังหวัดปทุมธานี โทร.08-9200-3177.
จ๊อบแมน
job_man28@yahoo.co.th


Read More...


แกงปูใบชะพลู

Pic_336634

นานๆจะมีอาหารไทยมาขึ้นสำรับสักที โดยเฉพาะเมนูวันนี้ จัดเป็นอาหารไทยที่ได้รับการประดิดประดอยจนดูเลิศหรูน่ารับประทาน ตามสไตล์ของการปรุงอาหารแนวใหม่ ที่ต้องมีการพรีเซนต์เข้าช่วยด้วย และเมนูนี้ถึงจะเป็นอาหารไทยพื้นบ้าน แต่ คุณอ๋อย–พรสวรรค์ พานิชชีวะ ผู้ช่วยอธิการบดีคนสวยของมหาวิทยาลัยสยาม และยังพ่วงตำแหน่งรองประธานบริหารของมหาวิทยาลัยด้วย ได้รังสรรค์จนทำให้เมนูธรรมดาๆนี้ดูดีจนผิดรูปเดิมไปเลย


คุณ อ๋อยเล่าว่า ถึงแม้เธอจะมีงานด้านบริหารที่ต้องรับผิดชอบอยู่เต็มมือก็ตาม แต่ด้วยหน้าที่ของภริยาแล้ว เธอจะไม่ยอมให้บกพร่องเด็ดขาด และยิ่งคุณสามี-นที พานิชชีวะ ติดอาหารไทยเอามากๆ เพราะได้รับการเลี้ยงดูจากคุณแม่ที่ทำอาหารไทยเก่งมาก เธอจึงได้อาศัยคุณแม่สามี เป็นครูสอนเทคนิคแปลกๆ ที่เป็นเคล็ดลับการปรุงอาหารให้อร่อย แต่เมนูแกงปูใบชะพลูนี้ คุณอ๋อยไปได้เทคนิคมาจากเชียงใหม่ ไปทานแกงคั่วเห็ดถ่อบ เขาใส่เบคอนด้วย ทำให้กลิ่นหอมมาก เธอเลยลองมาใช้กับแกงปูใบชะพลูบ้าง โดยเอาเบคอนมาพันใบชะพลูที่ห่อเนื้อปูอีกทีหนึ่ง


และ โชคดีที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวรสนิยมเดียวกัน คือชอบทานและชอบทำอาหาร พอวันว่างที่ทุกคนอยู่บ้านพร้อมหน้า ก็มักจะมีกิจกรรมทำอาหารร่วมกันในครอบครัวอย่างมีความสุข ยิ่งเด็กสมัยนี้มักจะมองว่าการทำอาหารไทย เป็นเรื่องยุ่งยาก จึงหันไปหาอาหารจั๊งก์ฟู้ดกันหมด พ่อแม่จึงควรช่วยกันหัดให้ลูกรู้จักทานอาหารไทยให้มากขึ้น เพราะถึงอย่างไรแล้ว อาหารไทยก็มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเป็นไหนๆ โดยเฉพาะเครื่องปรุงอาหารไทย ถือเป็นภูมิปัญญาของคนไทยอย่างแท้จริงเลย ที่ให้คุณค่าทางอาหารอย่างสมดุลกันจริงๆ

ส่วนผสมเครื่องแกงคั่ว : พริกชี้ฟ้าแห้ง/ข่า/ตะไคร้/ผิวมะกรูด/กระชายหัว/กระเทียม/หอมแดง/กะปิ


เครื่อง ปรุงแกงปูใบชะพลู : เนื้อปู (ใช้ส่วนเนื้อของกรรเชียงปู)/เครื่องแกงคั่ว 80 กรัม/กะทิ 120 กรัม/เบคอน 20 กรัม/ใบชะพลู/น้ำตาลปี๊บ 10 กรัม/ น้ำปลา 10 กรัม...วิธีทำ 1) นำใบชะพลูมาห่อเนื้อปู แล้วพันด้วยเบคอน 2) นำไปทอดเพื่อให้มีกลิ่นหอมของเบคอน จนเบคอนเหลือง จึงนำขึ้นแล้วพักไว้ 3) ผัดเครื่องแกงกับกะทิ โดยแยกหัวกะทิไว้ต่างหาก จนส่งกลิ่นหอม และกะทิใกล้แตกมัน จึงใส่เบคอนพันใบชะพลูที่ทอดลงไป พอเดือดจึงเติมหัวกะทิ 4) ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาให้ได้รสกลมกล่อม และรอจนเดือด จึงค่อยปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟได้เลย.

Credit by..


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


'คุกกี้ข้าวหมาก' ขนมหวานฟิวชั่นรักสุขภาพ

Pic_308966

จะเกิดอะไรขึ้นหากนำ 'คุกกี้' ขนมสัญชาติฝรั่งและ 'ข้าวหมาก' ขนมไทยแลนด์ทำเอง จับทั้งคู่รสชาติ 2 ขั้วมาผสมผสานผนวกเป็นเมนูของหวานแสนอร่อย!!

ก่อนอื่นขอแนะนำ ข้าวหมากกันก่อนว่าคืออะไร เด็กสมัยนี้อาจจะไม่รู้จัก หรือรู้จักแต่ไม่เคยรับประทาน  ข้าวหมากเป็นอาหารหมักพื้นบ้านของไทย ทำจากข้าวเหนียว โดยการทำข้าวหมากถือเป็นการถนอมอาหารวิธีหนึ่งเนื่องจากยีสต์จะทำหน้าที่ เปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับจุลินทรีย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในอาหาร ทำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถเพิ่มจำนวน จึงช่วยชะลอการเน่าเสียของอาหาร


อย่า เพิ่งตกใจหากรู้ว่าข้าวหมากเกิดจากการหมักของข้าวแล้วจะเป็นผลเสียต่อร่าง กาย เพราะแท้จริงแล้ว ข้าวหมากมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างเชื้อธรรมชาติในกระเพาะและลำไส้ที่ ช่วยให้การย่อยดีขึ้น สร้างวิตามินเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นตัวต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต่างๆ แก่ร่างกาย ทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งอีกด้วย เมื่อนำมาผนึกกำลังกับคุกกี้สูตรใหม่นี้ จึงดีต่อสุขภาพ เนื่องจากข้าวหมากมีรสชาติหวานในตัว ช่วยให้ไม่ต้องใส่น้ำตาลลงในขนม แถมยังไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์นมอีกด้วย

คุกกี้ข้าวหมาก


ส่วนผสม (สำหรับ 20 ชิ้น)
เตรียม 5 นาที ปรุง 10 นาที (ไม่รวมเวลาอบและพักแป้ง)



แป้งสาลีอเนกประสงค์                80       กรัม
ผงอัลมอนด์                              20       กรัม
เบกกิ้งพาวเดอร์                   2/3       ช้อนชา
น้ำมันมะพร้าว                             2        ช้อนโต๊ะ
ข้าวหมากปั่นละเอียด                 2        ช้อนโต๊ะ
ผลไม้แห้งหรืออัลมอนด์สำหรับตกแต่งตามชอบ

วิธีทำ

1. ร่อนแป้ง ผงอัลมอนด์ และเบกกิ้งพาวเดอร์
2. ใส่น้ำมันมะพร้าวและข้าวหมากลงผสมให้เข้ากันโดยใช้มือนวดเบาๆ
3. นำส่วนผสมที่ได้ใส่ถุงซิปล็อก พักไว้ประมาณ 10 นาที
4.  เมื่อครบเวลานำแป้งออกมาคลึงบนกระดาษไข ความหนาตามชอบ จากนั้นจะปั้นหรือ ใช้คุกกี้คัตเตอร์กดเป็นรูปต่างๆ แล้วตกแต่งด้วยผลไม้แห้งหรืออัลมอนด์


5. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสประมาณ 27 นาที เมื่อครบเวลาปิดเตาอบแล้วทิ้งคุกกี้ไว้ในเตาจนขนมเย็นสนิท
6. เสิร์ฟคุกกี้พร้อมน้ำนมถั่วเหลืองหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ตามชอบ


Tips
•    หากต้องการคุกกี้รสช็อกโกแลต ให้เติมผงโกโก้ 1 ช้อนชาลงในขั้นตอนที่ 1
•    สามารถแบ่งส่วนผสมอย่างละครึ่งเพื่อทำแป้งแบบธรรมดาและแป้งผสมโกโก้ในครั้งเดียวกันได้โดยใช้ผงโกโก้ ½ ช้อนชา

ใครบอกว่าขนมหวานกินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ ลองคุกกี้ข้าวหมากดูก่อน แล้วจะรู้ว่าขนมที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ...มีอยู่จริงๆ


ภาพ/ข้อมูล : Health & Cuisine

Credit by.. http://www.thairath.co.th/content/life/308966

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


แกงแคไก่บ้าน

Pic_342171

อาหารขึ้นสำรับวันนี้เป็นอาหารเหนือยอดนิยม จากตำรับเจ้าผู้ครองนครแพร่ ที่ได้มาจากคุณนายผู้ว่าฯเมืองแพร่ คุณเก–รชตภร โตดิลกเวชช์ ซึ่งสูตรของเมืองแพร่จะต่างจากของเชียงใหม่ ตรงที่ใส่ปลาร้าแทนกะปิ กลิ่นเลยหอมเย้ายวนดีนักแล “ของกิ๋นลำ อยู่ตี้คนมัก” (อาหารจะกินอร่อย อยู่ที่ความชอบของคนด้วย)


เมือง แพร่มีผู้ว่าราชการมาหลายยุคหลายสมัย เพิ่งจะได้คนเมืองแพร่โดยกำเนิดมาเป็นพ่อเมือง ก็ยุคนายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ นี่เอง คุณเก–รชตภร เป็นสะใภ้เมืองแพร่แต้ๆ แต่โดยส่วนตัวเธอเป็นลูกอีสาน คุณเก เล่าว่า ตอนเด็กๆต้องช่วยแม่ทำกับข้าวเป็นประจำ ก็เลยพอจะทำเป็นบ้าง แต่สำหรับอาหารเมืองเหนือนั้น ถึงคุณเกจะรู้จักไม่แพ้อาหารอีสานก็ตาม แต่คงจะสู้เจ้าถิ่นโดยตรงไม่ได้ คุณเกก็เลยขอแรงผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นแพร่ 2 ท่านมาช่วยกันนำเสนอของดีเมืองแพร่ด้วยกันเลย คือ คุณแม่ประไพ กันทาธรรม นายกสมาคมวัฒนธรรมหญิง จ.แพร่ ที่มีหน้าที่อนุรักษ์วัฒนธรรม และสืบสานศิลป์ถิ่นแพร่ล้านนา กับ คุณแม่วรรณี วงศ์บุรี เจ้าของบ้านวงศ์บุรี ที่ได้ชื่อว่างดงามทางสถาปัตยกรรม จนได้รับเลือกเป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมดีเด่นของสมาคมสถาปนิกสยามมาแล้ว และบรรดาแฟนละครทีวีคงจะคุ้นๆกับบ้านนี้กันดี เพราะถูกใช้เป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำละครเรื่องรอยไหมนั่นเอง

จะเห็น ได้ว่าเครื่องปรุงอาหารเหนือส่วนใหญ่หนักสมุนไพรและผักพื้นบ้าน อย่างแกงแคไก่บ้านนี้ ก็จะมีแต่ผักพื้นบ้านนานาชนิด เพราะวิถีชีวิตของคนชนบทแทบทุกบ้านจะมีแปลงปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อไว้ปรุงอาหารรับประทาน เช่นเดียวกับที่จวนผู้ว่าฯแพร่ คุณเกบอกว่า เราจะปลูกผักพื้นบ้านนานาชนิดซึ่งปลอดสารไว้ ตามนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งช่วยประหยัดและปลอดภัยด้วยค่ะ บ้านไหนขาดอะไรก็สามารถมาเด็ดไปปรุงอาหารได้เลย


เครื่อง ปรุง : ไก่บ้านสับเป็นชิ้นๆพอคำ / น้ำพริกแกง (พริกชี้ฟ้าแห้ง-กระเทียม-ข่า-ตะไคร้-หอมแดง-ปลาร้าสับ-มะแข่น หรือมะแขว่น สมุนไพรพื้นบ้านมีเฉพาะภาคเหนือ ปลูกที่ จ.น่านจะคุณภาพดี มีกลิ่นหอม และรสชาติเผ็ดซ่า) นำทั้งหมดมาโขลกรวมกันให้ละเอียด / ผักพื้นบ้านหลายๆชนิดที่มีอยู่ตามท้องถิ่นหรือตามฤดูกาล (ผักเผ็ดหรือผักคราด-ใบอ่อนพริกขี้หนูหรือพริกชี้ฟ้า-ยอดตำลึง-ผักชะอม-ถั่ว ฝักยาว-ใบชะพลู-ผักชีฝรั่ง (ผักชีหนามหรือหอมน้อยกูลัว)-หอมแย้-หน่อข่า-มะเขืออ่อน-มะเขือพวง-ก้านตูน (ก้านบอน)-เห็ดลมหรือเห็ดฟาง ฯลฯ)


วิธี ทำ 1) ตีกระเทียมสับกับน้ำมันที่ตั้งไฟจนร้อน แล้วใส่น้ำพริกแกงที่โขลกละเอียดลงไปคั่วด้วยจนหอม 2) ใส่ไก่ตามลงไปคั่วกับน้ำพริกจนเข้ากัน 3) เติมน้ำ หรือน้ำสต๊อกไก่พอสมควร รอจนน้ำแกงเดือด 4) ใส่มะเขืออ่อน มะเขือพวง และผักที่สุกช้าก่อน เคี่ยวไปสักพักจึงค่อยใส่ผักที่สุกง่ายที่เหลืออยู่ตามลงไป 5) ปรุงได้รสชาติตามชอบแล้ว จึงใส่ผักหอมแย้สุดท้าย คนให้เข้ากัน และยกลงจากเตาทันที.


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.